อวิ๋นชางเข้าไปอุ้มอันชิงเหมยขึ้นมา ก่อนจะสั่งซ่งหลุนคนสนิท" จัดการให้เรียบร้อย"" พะย่ะค่ะองค์ชาย"ซ่งหลุนหันมามองทุกคนที่ตอนนี้ต่างพากันก้มหน้าหมอหลวงรักษาไปก็คอยเหลือบมองอวิ๋นชางไป เขาไม่เคยต้องเกร็งแบบนี้มาก่อนเหตุใดต้องนั่งจ้องมองกดดันกันขนาดนี้ด้วยเล่า" เอ่อ องค์ชายพะยะค่ะ คือว่านางมีบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลังแผลปริแตก ต้อง ต้องถอดผ้านางออกถึงจะใส่ยาทำแผลได้ "" ไปตามหมอหญิงมา "" เอ่อ องค์ชายในวังหลวงเราไม่มีหมอหญิงนะพะยะค่ะ"" เจ้าไปหานางกำนัลมาคนนึงมาเลือกดีๆหน่อย รีบไป"หลังม่าน ซิ่วอิงทำแผลตามที่หมอหลวงคอยบอกอยู่อีกฝั่ง หลังจากโรยยาลงบนบาดแผลแล้วก็ใช้ผ้าพันก่อนจะสวมเสื้อทับอีกที อวิ๋นชางจ้องมองไปที่ม่านที่กั้นเอาไว้ตลอดเวลา จนกระทั่งซิ่วอิงออกมา" เรียบร้อยแล้วเพคะ ข้าทำแผลใส่ยาและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้นางแล้ว"" อืม ต่อไปเจ้าย้ายมาประจำอยู่ตำหนักนี้หน้าที่ของเจ้าคือคอยดูแลนางจนกว่านางจะหายดี "" เพคะองค์ชาย"" เดี๋ยวเจ้าตามข้าไปเอายาด้วย"หมอหลวงบอกแล้วเดินนำออกไป สวนทางกับซ่งหลุนที่เข้ามา" องค์ชาย ข้าจัดการสืบสวนและลงโทษคนพวกนั้นตามรับสั่งแล้ว "" เรื่องเป็นยังไง"" นาง
" เจ้าก็รีบซักในส่วนของเจ้าให้เสร็จแล้วก็รีบเอาไปตาก จะได้ไปกินข้าว"เสิ่นหยงรีบซักที่เหลือให้เสร็จแล้วรีบวิ่งเอาผ้าไปตาก ก่อนจะเดินตามอันชิงเหมยกับคนอื่นๆไปรอรับอาหารกำลังกินอาหารอย่างอร่อยจางลี่ก็เดินเข้ามาบอกให้ทุกคนหยุดกิน อันชิงเหมยรีบยัดเต้าหู้เข้าปากก่อนจะลุกขึ้นไปเข้าแถวเหมือนทุกคน" ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่าต้องทำงานให้เสร็จถึงจะกินข้าวได้ แต่ผ้าที่กองอยู่ที่ริมแม่น้ำนั่นคืออะไร เป็นของใครบอกมา "จูจูหันไปมองอันชิงเหมยด้วยสายตาอาฆาตอันชิงเหมยลอยหน้าลอยตาไม่รู้ไม่ชี้ ฮัวน่า มู่อี่พากันสะกิดจูจูด้วยความกลัวจะถูกลงโทษ เพราะผ้าพวกนั้นที่ยังไม่ได้ซักเป็นของพวกนาง แต่เพราะเชื่อจูจูที่อยากแกล้งคนใหม่จึงยอมทำตามที่นางบอก" ข้าถามว่าผ้าพวกนั้นเป็นของใคร"จางลี่ตะคอกเสียงดัง" พวกเจ้ารู้ไหมว่าผ้าพวกนั้นเป็นของตำหนักองค์ชายอวิ๋นชาง ดี ในเมื่อไม่มีใครรับ พวกเจ้าก็ต้องถูกลงโทษด้วยกันทั้งหมด"ทุกคนพากันมองหน้าไม่อยากยอมรับ จูจูยกมือขึ้นพูด" ข้ารู้ เป็นของนาง"จูจูชี้ไปที่อันชิงเหมย จางลี่เดินไปหานาง" เจ้าเป็นทาสจากแคว้นเยี่ยนที่มาใหม่ใช่ไหม"" ใช่ "" ดี พึ่งมาใหม่ ไม่มีความรับผิดชอบในหน้าที่
" ข้ามองไม่ถนัด ข้ามัวแต่แอบอยู่"เห็นสายตาดุดันของทหารสองคนที่จ้องมองเขาราวจะกินเลือดกินเนื้อ เขาก็รีบตอบ" ข้า ข้านึกออกแล้ว เขา เขารูปร่างสูงใหญ่ประมาณนี้ หน้าตาหล่อเหลา ฝีมือก็เก่งกาจแต่น่าเสียดายที่ถูกทหารเหลียวรุมฆ่า"" เจ้าว่าอะไรนะ"" ต่อให้เก่งขนาดไหนแต่เขาคนเดียวจะสู้คนเป็นสิบได้ยังไงหล่ะ ใช่ไหม ข้าเห็นเขาถูกทหารนับสิบรุมฟันแทงแล้วก็ถูกรองแม่ทัพแคว้นเหลียวจ้วงแทงเอาแทงเอา จากนั้นก็ถูกถีบตกแม่น้ำ ป่านนี้ศพของเขาคงจะเน่าเปื่อยแล้วแหละ "หวังเหลียนกับเหอซานมองหน้ากัน เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีว่าชายคนนั้นจะเป็นเซี่ยจิ่งเทียน ตอนแรกพวกเขาอยากให้ชายคนนั้นเป็นเซี่ยจิ่งเทียนจริงๆ แต่พอได้ยินว่าเขาถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมก็ไม่อยากให้ชายคนนั้นเป็นเซี่ยจิ่งเทียน ได้แต่ภาวนาให้เป็นคนอื่นที่เก็บถุงเงินของเซี่ยจิ่งเทียนไป แต่แล้วคำขอของทั้งสองก็ไม่เป็นจริง เมื่อได้ฟังชายคนนั้นพูดประโยคต่อมา" พอชายคนนั้นตกแม่น้ำก็มีหญิงสาวคนหนึ่งร้องไห้โฮ ตะโกนเรียก พี่เซี่ย พี่เซี่ย ไม่นะพี่เซี่ย"ชายแก่ทำเสียงเล็กเสียงน้อยเลียนแบบเสียงหญิงสาว" เจ้าว่าหญิงคนนั้นพูดว่าอะไรนะ ลองพูดใหม่อีกทีสิ"หวังเหลียนถามเสีย
"ข้าไม่ได้หนี แต่ถูกบังคับให้ตามเข้าป่าไปไอ้รองแม่ทัพชั่วมันจะขืนใจข้า ข้าเลยใช้ปิ่นปักผมจิ้มลูกกะตามันจนบอดไปข้าง แล้วหนีเตลิดไปเจอกองทัพอีกกลุ่ม"" นี่เจ้าพูดจริงเหรอ"เสิ่นหยงตกใจกุมมืออันชิงเหมยไว้ อันชิงเหมยพยักหน้า" เจ้า เจ้านั่นแหละชื่ออะไร"เข่อเล่อเดินเข้ามาถาม เสิ่นหยงดึงตัวอันชิงเหมยไปไว้ข้างหลังแล้วตอบแทน" นางชื่ออันชิงเหมย ท่านอย่าทำอะไรนางเลยนะ"อันชิงเหมยเดินออกมายืนประชันหน้าอย่างไม่กลัวเกรง เข่อเล่อนิ่งชะงักครุ่นคิด อันชิงเหมย ทำไมชื่อนี้คุ้นหูนักเหมือนเคยได้ยินที่ไหน นึกออกแล้วอันชิงเหมยบุตรสาวแม่ทัพอันที่ชินอ๋องสวี่หานไปขอพระราชทานสมรสด้วยตัวเอง ที่แท้นางก็คือชายาของสวี่หานนี่เอง แต่ทำไมตอนนี้ถึงเป็นภรรยาของเซี่ยจิ่งเทียนได้ หรือว่าทั้งสองแอบคบชู้แล้วหนีตามกันมา ข่าวที่ว่าสวี่หานไม่อยู่ในกองทัพคงเพราะออกตามหาตัวนางสินะ หึหึ ไม่คิดว่าเซี่ยจิ่งเทียนที่เป็นสหายสนิทศิษย์ร่วมอาจารย์จะกล้าหักหลังสวี่หานได้ลงคอ" อันชิงเหมย ที่แท้ก็เจ้านี่เอง "อันชิงเหมยขมวดคิ้ว เข่อเล่อหมายความว่ายังไงหรือว่าเขารู้จักนาง นางรู้ว่าเขาเป็นสายลับที่ลอบเข้ามาในกองทัพ ตอนนั้นแหกคุกหนีไปได้แ
นางกำแท่งหยกของเข่อเล่อที่ทั้งเล็กทั้งสั้นชักขึ้นลง เห็นเข่อเล่อเริ่มเคลิ้มนางก็บิดแท่งหยกอย่างแรงจนเข่อเล่อหน้าเขียว" โอ้ยนังบ้าเจ้าทำอะไรห๊า"เข่อเล่อกุมแท่งหยกใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด อันชิงเหมยอาศัยจังหวะวิ่งหนี ไม่คิดว่าเข่อเล่อจะวิ่งเปลือยเปล่าตามมา เขาตีลังกากระโดดมาขวางหน้ากระชากแขนนางจนตัวปลิวมากระแทกอก"ฤทธิ์เยอะนักนะ คิดว่าจะหนีข้าพ้นเหรอ"นางดีดดิ้นพยายามสลัดให้หลุด แต่ถูกเข่อเล่อผลักให้นอนลงแล้วขึ้นคร่อมสองมือบีบขยำเต้าอวบ" ฮ่าฮ่าฮ่า โอ้ใหญ่ นุ่มเด้ง สู้มือสุดๆ"อันชิงเหมยค่อยๆหยิบปิ่นปักผมออกมาอาศัยจังหวะที่เข่อเล่อมัวเมากับอกอวบใช้ปิ่นแทงเข้าไปที่ตาข้างซ้ายของเขาอย่างแรงอ๊ากกกกกทหารสองคนมองหน้ากัน" เจ้าได้ยินเสียงอะไรไหม "" คงเป็นเสียงหมีควายในป่าหล่ะมั้ง"" แต่ข้าว่าเสียงร้องเหมือนคนนะ"" คนกับหมีควายก็ร้องเสียงคล้ายๆกันนั่นแหละ"" แต่ว่าเจ้าลืมไปแล้วรึ ว่ารองแม่ทัพบอกว่าคืนนี้จะเผด็จศึกแม่นางคนนั้น"" แม่นางที่งดงามคนนั้น ที่รองแม่ทัพฆ่าสามีนางแล้วชิงตัวนางมาหน่ะเรอะ"" เจ้าไม่รู้อะไร สามีของนางเป็นรองแม่ทัพแดนใต้ของแคว้นเยี่ยน ที่รองแม่ทัพของเราเกลียดนักห
เฉาซื่อต่อว่าตงฟาง" เจ้าจะแหกปากร้องทำไม อยากให้พวกมันรู้รึไงว่ามีคนอยู่ทางนี้"" ข้าเดินสะดุดศพ น่า น่ากลัว เลือดเต็มไปหมด เลยตกใจเผลอร้องออกมา"" พวกมันไปทางอื่นแล้วรีบไปกันเถอะ"สวี่หานเอ่ยขึ้นแล้วเดินนำออกไปอันชิงเหมยรู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในกรงขัง มือก็ถูกเชือกมัด กำลังถูกม้าลากจูงไปที่ใดก็ไม่รู้ ข้างล่างมีหญิงสาวหลายคนร่วมชะตากรรมเดียวกัน ทุกคนถูกเชือกมัดมือผูกติดกันให้เดินเป็นแถว นางดีกว่าหน่อยตรงที่ไม่ต้องเดินแต่ถูกขังอยู่ในกรง" เจ้ารู้ไหมว่าพวกมันจะพาเราไปที่ใด"อันชิงเหมยเอ่ยถามหญิงที่เดินอยู่ใกล้ๆ" พวกมันจะพาเราไปเป็นทาสที่แคว้นเหลียว"นางพึ่งนึกออกว่าชายคนนั้นที่เป็นรองแม่ทัพก็เคยบอกนางแล้ว นึกถึงเซี่ยจิ่งเทียนขึ้นมาก็ร้องไห้โฮ ภาพที่เขาถูกแทงซ้ำๆอย่างโหดเหี้ยมจนกระอักเลือด ภาพที่เขาถูกถีบตกแม่น้ำยังวนเวียนอยู่ในหัวของนาง นางกำลังมีความสุข เพิ่งจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเขา เหตุใดสวรรค์จึงได้ใจร้ายพรากนางกับเขาให้จากกัน " เจ้าร้องไห้ทำไม เสียใจเหรอที่ต้องกลายเป็นทาส ดูจากเครื่องแต่งกายกับหน้าตาผิวพรรณ เจ้าคงเป็นลูกคุณหนูสินะ "อันชิงเหมยไม่ได้ตอบแต่ร้องเรียกทหารท