Home / วัยรุ่น / เมื่อไหร่จะเลิกร้าย / บทที่ 7 คนที่อยากเจอ

Share

บทที่ 7 คนที่อยากเจอ

last update Last Updated: 2025-06-04 11:56:52

-มหาวิทยาลัย-

“วันนี้อาจารย์ยกคลาส ไปโยนโบลิ่งกันมั้ย”

“เป็นความคิดที่ดี ฉันกำลังเบื่อๆ เซ็งๆ อยากหาอะไรทำ”

“ไก่ทอดร้านที่เราไปกินวันนั้นอร่อยมาก อยากกินอีกจัง”

“บราวนี่กับบิงซูโคตรอร่อย ราดนมข้นฉ่ำๆ แสงออกปาก!”

พอได้ยินเรื่องของกินถึงกับหูผึ่ง เดมี่กระพริบตาปริบๆ อย่างให้ความสนใจ นั่งเอียงคอฟังบทสนทนาของเพื่อนทั้งสองที่กำลังพูดคุยกัน

“แล้วแกล่ะมี่ จะไปด้วยกันไปมั้ย”

“…..” หญิงสาวตัวอ้วนแก้มป่องทำสีหน้าครุ่นคิดพลางหันมองซ้ายขวา วันนี้เธอเลิกเรียนเร็วกว่าปกติ จึงไม่มีคนของบุรินทร์คอยยืนเฝ้าเหมือนทุกวัน

“คงไม่เป็นอะไรหรอกน่า ไปแค่แป๊บเดียวเอง ตอนนี้ทางสะดวก” เทียนหอมออกความเห็น

“ปะ…ไปก็ได้”

“ขากลับเดี๋ยวฉันแวะไปส่งที่บ้านแกเอง พี่ชายแกคงไม่ว่าอะไร”

“…..”

-ห้างสรรพสินค้า-

“เป็นอะไรเดมี่ ทำอย่างกับไม่เคยเห็น” เชอรีนหันไปกอดแขนเพื่อนสาวไว้แน่น หลังจากเห็นท่าทางตื่นตาตื่นใจของเดมี่

ชีวิตในแต่ละวัน วนเวียนอยู่ที่บ้านกับมหาลัย ไม่เคยได้ไปเที่ยวเล่นที่ไหนเหมือนคนอื่น เสมือนเป็นนกน้อยในกรงทองที่บุรินทร์เลี้ยงไว้

“อันนั้นเขาเรียกว่าอะไร” เพราะได้กลิ่นหอมของมัน เลยทำให้เธอเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

“เขาเรียกว่าข้าวเหนียวกับหมูปิ้ง”

“…..” เดมี่มองด้วยตาเป็นประกาย ยกมือลูบพุงน้อยๆ อย่างหิวโหย

“เคยกินมั้ย”

“ไม่เคย”

“แล้วอยากกินไหม”

เดมี่พยักหน้าตอบรับ ก่อนจะหยิบบัตรเครดิตการ์ดยื่นให้เพื่อนสาว “อยากกินแต่ไม่มีเงินติดตัวเลย มี่มีแต่บัตรเครดิตของเฮียเฟยซื้อได้ไหม”

“แกเป็นบ้าหรือไง จะเอาบัตรเครดิตไปซื้อหมูปิ้งยี่สิบบาทเนี่ยนะ”

“…..” พอเดมี่ได้ยินแบบนั้นถึงกลับเหงาหงอย สีหน้าเศร้าลงจนเพื่อนอดสงสารไม่ได้

“งั้นยืนรอตรงนี้ เดี๋ยวฉันกับเชอลีนไปซื้อมาให้”

“เดี๋ยวมี่จะขอเงินเฮียมาใช้คืนให้นะ”

“แค่ไม่กี่บาท ไม่ต้องคืนหรอก”

“ขอบใจนะ”

“อยากกินอะไรอีกบอกมาได้เลย เดี๋ยวพวกฉันเลี้ยงเอง”

“อยากกินไก่ทอดกับพิซซ่าด้วย”

“กินหมดหรือไงยัยหมูตอน”

เดมี่ถอนหายใจลากยาว ก้มมองไอศกรีมที่อยู่ในมือ เดือนนี้น้ำหนักขึ้นมาตั้งสามกิโล แต่ถ้าจะให้เลิกกินของอร่อยคงทำไม่ได้จริงๆ “เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยลดน้ำหนักแล้วกัน”

-หลังเลิกเรียน-

ตึก…ตัก…เสียงฝีเท้าของคนหมู่มากดังขึ้นอย่างรีบร้อน ดวงตานับสิบวาดสายตามองหาบางสิ่งบางอย่างไปจนทั่วบริเวณแต่กลับไร้วี่แวว

“หาทั่วหรือยัง” ครามหอบหายใจทางปากหนักๆ พลางก้มมองนาฬิกาข้อมือ ถ้าอีกยี่สิบนาทียังพาเดมี่กลับไม่ถึงบ้านได้เป็นเรื่องแน่

เดมี่ไม่มีโทรศัพท์หรือเครื่องติดต่อสื่อสารใดๆ เลยทำให้การตามหายากขึ้นไปอีก

“ไม่เจอเลยลูกพี่”

“มึงแน่ใจนะว่าหาจนทั่วหมดแล้ว”

“พวกผมหาทุกซอกทุกมุมแล้วแต่ไม่เจอ”

“หายไปไหนวะ”

“ซวยแล้วลูกพี่ คะ…คุณเดมี่ไปแล้ว” ลูกน้องอีกคนวิ่งเข้ามารายงานด้วยท่าทางเหนื่อยหอบไม่แพ้กัน

“พูดบ้าอะไรของมึง คุณเดมี่จะหายไปไหน”

“วันนี้อาจารย์ยกคลาส คุณเดมี่ไม่มีตารางเรียน”

“ฉิบหาย! นายน้อยเอาพวกเราตายแน่” เพียงแค่คิดก็ขนหัวลุก สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นกังวลจนเห็นได้ชัด

“เอาไงดีลูกพี่ ผมยังไม่อยากตายตอนนี้นะ”

“กูก็ไม่อยากตาย! มัวแต่ยืนโง่อยู่ทำไม รีบไปตามหาคุณเดมี่ให้เจอ ไม่งั้นมึงกับกูได้ตายจริงๆ แน่”

“…..”

เอี๊ยด…รถมินิคูเปอร์คันกระทัดรัดเคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ในช่วงเวลาสองทุ่มของวัน

“นั่นบ้านหรือวัง ทำไมมันใหญ่ขนาดนี้” เทียนหอมเกาะประตูรั้วบ้านพลางสอดส่องสายตามองเข้าไปยังด้านใน คฤหาสน์สไตล์โมเดิร์นหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่แทบชานเมือง อลังการงานสร้างเคยเห็นแต่ในทีวี เพิ่งจะได้มาเห็นของจริงก็วันนี้

“เข้าไปข้างในบ้านด้วยกันไหม เดี๋ยวมี่เอาน้ำกับขนมให้กิน” เดมี่บอกอย่างไม่ทุกข์ร้อนมากนัก เฮียเฟยใจดี คงไม่มีปัญหาอะไร

“วันนี้ดึกแล้วเกรงใจ เอาไว้วันหลังแล้วกันนะ”

“โอเค แล้วเจอกัน”

เดมี่หอบหิ้วของกินพะรุงพะรังเต็มสองมือ สีหน้าตอนนี้ดูมีความสุขมากหลังจากที่ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาตั้งแต่ย้ายกลับมาอยู่ไทย

“กลับมาแล้วค่ะ” หญิงสาวส่งเสียงเจื้อยแจ้ว แต่บรรยากาศภายในบ้านกลับดูเงียบกว่าทุกวัน “วันนี้มี่ไปเดินห้างมา ซื้อขนมมาฝากพี่ครามด้วย”

“คุณเดมี่” ครามเดินออกมาต้อนรับพร้อมใบหน้าสะบักสะบอม ตามเนื้อตัวมีแต่รอยฟกช้ำ ซ้ำที่มุมปากยังมีบาดแผลเลือดไหลซึม “ทีหลังห้ามทำแบบนี้อีกนะครับ”

ครามพูดเสียงแผ่ว เขาทำงานผิดพลาด ได้มีชีวิตรอดกลับมาไม่โดนบุรินทร์ยิงทิ้งเหมือนหมาก็ดีแค่ไหนแล้ว

“พี่ครามไปทำอะไรมา มันเกิดอะไรขึ้น!”

“ไม่มีอะไรครับ”

“ใครทำอะไรพี่ บอกมี่มานะ” เดมี่ถามด้วยความตกใจ รีบยกมือขึ้นประคองใบหน้าของครามไว้แน่น เธอรักครามเสมือนพี่ชายอีกคน เพราะมีแค่ครามที่อยู่เคียงข้างและช่วยเหลือดูแล “หน้าเป็นแผลหมดแล้ว เดี๋ยวมี่ทำแผลให้นะ”

“อย่าดีกว่าครับ อย่าเข้ามาใกล้ผมขนาดนั้น ถ้านายมาเห็นเดี๋ยวจะเป็นเรื่องเอา”

“งั้นบอกมี่ได้ไหม ว่าใครทำให้พี่เป็นแบบนี้”

“…..”

“เฮียเฟยทำเหรอ ที่พี่เป็นแบบนี้เพราะมี่ใช่ไหม”

“ผมผิดเองที่ดูแลคุณมี่ไม่ดี”

“งั้นบอกหน่อยได้ไหมว่าเฮียเฟยอยู่ไหน มี่จะไปคุยกับเฮียเอง”

“…..”

“ฉันอยู่ตรงนี้ มีอะไรก็พูดมาสิ”

ร่างของหญิงสาวหยุดนิ่งชะงักราวกับถูกแช่แข็ง เมื่อหันกลับเผชิญหน้ากับชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ที่เพิ่งเดินเข้ามา

ผิวกายของเขาซีดเผือดจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนขึ้นตามท่อนแขนไปจนถึงลำคอ ดวงตาไร้ความรู้สึกราวกับหุ่นยนต์ไม่มีชีวิตหรือจิตใจ

เดมี่แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง มองคนตรงหน้าด้วยความสงสัย เฮียเฟยที่แสนใจดี มาตอนนี้กลับดูตรงกันข้ามไปหมดทุกอย่าง

“ฮะ…เฮียเฟยเหรอคะ” เดมี่ถามเสียงสั่น เนื้อตัวสั่นเทา ค่อยๆ ขยับถอยหลังหนีเมื่อผู้ชายคนนี้เดินเข้ามาใกล้

หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกจากอกหลังจากได้กลิ่นคาวเลือดที่ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ

“เจอกันสักทีสินะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 6 – จุดสุดท้ายของชีวิต2

    หลายเดือนผ่านไป“ปู่…” เด็กชายฟาเรนตะโกนร้องเรียกด้วยความดีใจเมื่อเห็นหน้าคนที่เฝ้ารอมานานแสนนาน ไม่ใช่แค่ปู่แฟรงก์ที่มาหาแต่ปู่ฟรินก็มาด้วยเหมือนกัน“แด๊ดดี้กับหม่ามี๊ของพวกเอ็งไปไหน”“แด๊ดดี้ไปทำงานที่ภูเก็ตกับหม่ามี๊” ฟรานตอบด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วพักหลังมานี้พ่อกับแม่ชอบทำตัวติดกันอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าพ่อจะไปไหนมักจะบังคับเอาแม่ติดสอยห้อยตามไปด้วยเสมอ“แล้วพวกเอ็งอยู่บ้านกับใคร ทำไมไม่โทรหาปู่”“พวกเราอยู่กับลุงครามและแนนนี่ค่ะ”ครามรีบก้มหน้าอย่างเจียมตัวเมื่อเห็นสายตาของนายใหญ่ที่ใช้มอง“หลบหน้าหลบตากูทำไม” แฟรงก์เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อลูกน้องตัวดี“เปล่าครับนาย”“อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึงกับลูกสาวกูทำอะไรกันมา” ถึงแม้จะเป็นความลับแต่เขารู้ว่าดาวศุกร์และครามมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง “กูไม่มีวันรับคนอย่างมึงมาเป็นลูกเขย จำใส่หัวสมองของมึงไว้เลย”“ผมรู้ตัวครับ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น”“ไปทำท่าไหนมาล่ะ ลูกกูถึงรักถึงหลงมึงจนหัวปักหัวปำ”“ลุงครามเป็นแฟนอานตี้นะ ฟรานจะฟ้องอานตี้ว่าปู่ดุลุงคราม” เด็กหญิงยืนเท้าเอวพูดเสียงแข็งตอบกลับ ลุงครามมีท่าทางซึมลงจนน่าสงสารพวกเด็ก

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 5 – จุดสุดท้ายของชีวิต

    โรงพยาบาล“น้องจิ๋วมาแล้ว”“ไหนๆ ขอดูบ้าง”“ทำไมน้องไม่ลืมตา”“ตัวนิ่มมากเลย ลองจับดูสิ”เสียงบทสนทนาของพวกเด็กน้อยกำลังพูดคุยกันอย่างไร้เดียงสา ยืนล้อมวงจ้องมองสมาชิกใหม่ที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่วัน“ตัวเป็นอะไร ทำไมไม่มาดูน้องคนใหม่” ฟรานเดินเข้าไปถามแฝดน้องที่เอาแต่นั่งกอดอกทำหน้าบึ้งตึงไม่ยอมพูดจา“เบื่อ! เค้าไม่อยากได้น้องผู้ชาย เค้าอยากมีน้องผู้หญิง” เด็กชายบ่นพึมพำพลางเบือนหน้าหันหนี“ผู้ชายก็ดีนะ ตัวจะได้ไม่เหงา จะได้มีเพื่อนเล่นไง”“เล่นแต่ฟุตบอลกับปั่นจักรยานจนเบื่อแล้ว อยากเล่นอย่างอื่นบ้าง”“แล้วอย่างอื่นที่แฝดว่ามันคืออะไร อยากเล่นขายของหรือเล่นตุ๊กตาเหรอ” ใบหน้าน้อยๆ ของฟรานเอียงคอมองน้องชายฝาแฝดอย่างไม่เข้าใจ “เพราะหม่ามี๊เลือกน้องให้เราไม่ได้”“แล้วทำไมแด๊ดดี้ถึงมีแต่ลูกผู้ชาย ทำไมถึงไม่มีลูกผู้หญิงบ้าง” เด็กชายตัดพ้อทำสีหน้าเศร้า ถ้ามีน้องผู้ชายเพิ่มขึ้นมาอีกคนคงได้ปวดหัวกว่าเดิม“เพราะแด๊ดดี้ทำผู้หญิงไม่เป็น ทำเป็นแต่ผู้ชายไง”“เค้าขอเปลี่ยนแด๊ดดี้ได้ไหม อยากได้แด๊ดดี้คนใหม่ เค้าอยากลองมีน้องผู้หญิงดูบ้าง”“เปลี่ยนไม่ได้หรอก พวกเราเกิดมาจากปิ๊กาจูของแด๊ดดี้นะ ต

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 4 ไม่ได้เป็นตุ๊ด

    หลายเดือนผ่านไป“อาการของคุณฟาเรนดีขึ้นมากเลยค่ะ วันนี้ทำกายภาพได้หลายอย่างเลย”เดมี่ยิ้มกว้างพร้อมกับหัวใจที่พองโตหลังจากได้ยินข่าวดีจากพยาบาลที่ดูแลลูกชายตั้งแต่ได้รับตัวยาชนิดใหม่จากบุรินทร์ อาการของฟาเรนก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ จากกล้ามเนื้อที่เคยอ่อนแรงค่อยๆ ขยับได้มากขึ้น กลายเป็นช่วยเหลือตัวเองได้ดีและเดินเองได้ในที่สุด“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยดูแลฟาเรนให้เป็นอย่างดี”“คุณฟาเรนใจสู้มากค่ะ อีกไม่นานคงวิ่งเล่นกับพวกพี่ๆ ได้อย่างแน่นอน”“มี่รักแด๊ดดี้นะ รักที่สุดในโลก” หญิงสาวเดินเข้าไปกอดชายหนุ่มไว้แน่นแทนคำขอบคุณ ใบหน้าจิ้มลิ้มซบลงบนแผงอกแกร่งอย่างออดอ้อน“อะไรของเธอ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นมองการกระทำเหล่านั้น ถึงแม้จะดูเหมือนไม่ค่อยใส่ใจแต่หัวใจของเขายังคงเต้นแรงกับผู้หญิงคนนี้อยู่ตลอดต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมเสมอมา“เพราะมีแด๊ดดี้ ฟาเรนถึงมีอาการดีขึ้นในทุกวัน ถ้าไม่ได้แด๊ดดี้ช่วยดูแล ลูกคงแย่แน่เลยค่ะ”บุรินทร์อุทิศและทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดเพื่อคิดหาวิธีการรักษาลูกชาย จนในที่สุดเขาก็ทำมันได้สำเร็จ“ฟาเรนเป็นลูกฉันเหมือนกัน ยังไงก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด”“…..

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 3 หลานน้อยน่ารัก

    “ฟาเรน!” เด็กชายหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย ไปหน้าน้อยๆ เอียงคอมองด้วยความสงสัยเมื่อเห็นพี่สาววิ่งเข้ามากอด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าบอกว่าปู่จะพาไปเที่ยวต่างประเทศ“ไหนบอกว่าปู่จะพาไปเล่นสกีที่ญี่ปุ่นไง”“ไม่อยากไปแล้ว เอาไว้ให้ฟาเรนหายป่วย พวกเราค่อยไปด้วยกัน” ฟรานโผกอดน้องชายที่นั่งอยู่บนรถเข็นวิลแชร์ด้วยความคิดเด็กหญิงไม่ได้คิดเสียใจหรือเสียดายเลยสักนิด พวกเขาสามคนตกลงกันแล้วว่าจะไม่ขอไปเที่ยวถ้าเกิดไม่มีฟาเรนหรือถ้าจะไปก็ต้องไปพร้อมกัน“ไปวิ่งเล่นกัน แด๊ดดี้ทำสนามเด็กเล่นให้พวกเราอันใหม่ใหญ่เบ้อเริ่มเลย”“แต่แด๊ดดี้ไม่ให้ออกจากบ้านนะ เดี๋ยวไม่สบาย” ฟาเรนพูดเสียงเบา สีหน้าดูซึมลงอย่างน่าสงสาร เขารู้ตัวเองเสมอว่าไม่ใช่เด็กปกติเหมือนคนทั่วไป“ตอนนี้แด๊ดดี้ไม่อยู่ ทางสะดวกแล้วนะ อยากไปไหม”“ยะ…อยากไป” พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะวาดสายตาหันซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้“งั้นก็รีบขี่หลังพี่เลย”“จะไม่โดนแด๊ดดี้ตีใช่ไหม”“ถ้าแด๊ดดี้โมโห ให้ตีฟาโรห์แทนก็ได้”“เอ้าแฝด…คะ…เค้าไม่อยากโดนแด๊ดดี้ตีนะ” แค่นึกเห็นหน้าผู้เป็นพ่อก็รู้สึกกลัวจนฉี่แทบราด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยโดนตี แต่กลับรู้สึกก

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 2 สาเหตุของการป่วย

    “ทำอะไรอยู่ตัวเล็ก”“ก่อประสาททรายอยู่ครับ”ฟาเรนเด็กชายวัยห้าขวบหันไปตอบผู้เป็นพ่อ ก่อนจะหันกลับมาสนใจสิ่งตรงหน้าดังเดิม“เล่นคนเดียวเหงาไหม” บุรินทร์ยืนมองลูกน้อยที่นั่งเล่นอยู่ไม่ไกล ข้างกายของฟาเรนมีรถเข็นวิลแชร์ประตำแหน่งและพยาบาลพิเศษมากถึงสามคนคอยประคบประหงมอยู่ไม่ห่างถึงแม้ว่าฟาเรนจะมีอายุห้าขวบ แต่น้ำหนักและสัดส่วนค่อนข้างตกเกณฑ์ต่ำกว่าเด็กปกติทั่วไปทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นผลข้างเคียงมาจากการคลอดก่อนกำหนด“หนูอยากมีเพื่อน” เด็กชายบอกผ่านน้ำเสียงเศร้าสร้อยท่าทางซึมลงจนสังเกตได้ตั้งแต่จำความได้ เขาถูกเลี้ยงดูแตกต่างจากเด็กทั่วไป ในขณะที่พวกพี่ได้วิ่งเล่นแต่ฟาเรนทำได้แค่นั่งมองอยู่ในห้องพักปลอดเชื้อต้องให้ยาทุกสี่ชั่วโมง“อย่านั่งตากแดดนาน เดี๋ยวไม่สบาย”“คุณปู่ไม่รักฟาเรนเหรอครับแด๊ดดี้ ทำไมถึงไม่พาหนูไปเที่ยวด้วย”คำถามของลูกชายทำเอามาเฟียหนุ่มหยุดชะงักนิ่งไป หัวอกคนเป็นพ่อสั่นไหวค่อยๆ ย่อตัวนั่งลงข้างเด็กน้อย“เพราะฟาเรนไม่ค่อยสบาย”“แล้วเมื่อไหร่จะหาย หนูอยากไปเที่ยวเหมือนคนอื่นบ้าง”“เดี๋ยวก็หายแล้ว”“…..”“เอาไว้ถ้าหายดีเมื่อไหร่ แด๊ดดี้จะพาไปเที่ยวทุกที่ที่ลูก

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 1 – ยอมจำนน

    “แฟรงก์มา!”เด็กน้อยที่นั่งอยู่ต่างหันขวับกันอย่างพร้อมเพรียง ใบหน้าน้อยๆ ของหลานฉีกยิ้มกว้างเมื่อมองเห็นปู่ที่เดินเข้ามาหลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน“แฟรงก์…แฟรงก์!” เด็กหญิงตะโกนเรียกซ้ำๆ กระโดดโลดเต้นดีใจรีบวิ่งเข้าไปกอดด้วยความคิดถึงวันนี้ในมือปู่มีขนมแถมยังหิ้วของเล่นมาฝากหลานเยอะแยะ ตามใจกว่าแด๊ดดี้และหม่ามี๊ก็คงจะเป็นผู้ชายคนนี้“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกปู่ ข้าไม่ใช่เพื่อนเล่นของพวกเอ็งนะ” คนเป็นปู่ถอนหายใจมองหน้าไอ้พวกเด็กฝรั่งที่ไม่มีพ่อแม่คอยสั่งสอนแต่ได้พอสบสายตาอันไร้เดียงสาเหล่านั้น หัวใจแกร่งก็ยอมโอนอ่อนให้โดยดี“ปู่คืออะไร” ฟาโรห์ตัวป่วนเอียงคอถามอย่างสงสัย“คือพ่อของพ่อไง”“แล้วพ่อคือใคร” พอได้ยินแบบนั้นยิ่งทำให้งงไปกันใหญ่“พ่อก็คือแด๊ดดี้ไง ภาษาไทยเขาเรียกว่าพ่อ”“เข้าใจแล้ว”“เดี๋ยวนี้ลืมกันแล้วสิ ทำไมพวกเอ็งถึงไม่ไปหาปู่บ้างเลย” บุรินทร์ภัทรแสร้งทำท่าทางตัดพ้อน้อยใจ อยู่ที่บ้านก็เอาแต่ชะเง้อคอคอยมองทางหลานน้อยอยู่ทุกวัน“ไม่ได้ลืมสักหน่อย แต่แด๊ดดี้ไม่ให้ไป” เด็กหญิงพูดแทรกน้ำเสียงเจื้อยแจ้วแต่สีหน้ากลับดูซึมลงอย่างเห็นได้ชัด“อยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปเที่ยว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status