“ลิชา…” คนตัวเล็กหันมองตามเสียงเรียก ก่อนจะเห็นว่าเป็นหัวหน้างานเดินเข้ามาหาด้วยท่าทางรีบร้อน
“พี่มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เฮียตามให้ไปพบด่วน”
“แต่ชาดูแลแขกตรงนี้อยู่ ยังไม่ว่างเลยค่ะ”
“เดี๋ยวพี่หาคนมาทำแทนเอง”
“…..” คิ้วเรียวขมวดปมเข้าหากันด้วยความสงสัย เกิดเป็นคำถามในใจว่าเธอทำอะไรผิด เจ้านายถึงได้เรียกพบด่วนขนาดนี้
“รีบไปเถอะน่า อยากโดนไล่ออกหรือไง” ไม่ใช่แค่ลิชาที่จะโดนไล่ออก แต่เธอเองก็คงโดนด้วยเหมือนกันถ้าเกิดว่าลิชาไม่ยอมไปตามคำสั่ง
“…..” ร่างเล็กส่ายหน้าปฏิเสธ ถ้าโดนไล่ออกจากงานกลางคันคงแบบนี้ต้องลำบากมากแน่ๆ ไหนจะค่าเทอม ค่าหอที่ต้องรับผิดชอบตัวเอง
หัวหน้าแผนกหันซ้ายมองขวา ก่อนจะโน้มใบหน้ากระซิบที่ข้างหู แล้วยัดบางสิ่งบางอย่างใส่มือของหญิงสาว “พกติดตัวไปด้วย เผื่อจำเป็นต้องใช้”
“เอ่อ…” ลิชาเบิกตากว้างมองเห็นถุงยางอนามัยที่เพิ่งได้มา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนตรงหน้าต้องการจะสื่ออะไร
“มัวยืนงงอยู่นั่นแหละ รีบไปหาเฮียสิ เดี๋ยวก็ได้ซวยกันหมดหรอก”
“ค่ะ…หนูจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
ตึกตัก…เสียงฝีเท้าดังกระทบกับพื้นกระเบื้องตามจังหวะก้าวเดิน ก่อนที่ร่างเล็กจะหยุดยืนที่หน้าห้องทำงานของเจ้านาย
แกร๊ก…บานประตูถูกเปิดออกพร้อมกลิ่นควันบุหรี่ที่ลอยกระทบเข้ากับใบหน้าอย่างจัง ลิชาหรี่สายตามองภาพตรงหน้า เห็นบุรินทร์ภัทรนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“เฮียให้คนไปตามชามาพบด่วน มีธุระสำคัญอะไรเหรอคะ?”
“แค่อยากเจอหน้าต้องมีธุระด้วยหรือไง” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มมุมปากไล่สายตามองสำรวจคนที่เพิ่งมาใหม่
เคยเห็นเรือนร่างของผู้หญิงคนอื่นมาตั้งมากมาย แต่กลับไม่รู้สึกตื่นเต้นเหมือนเห็นเธอคนนี้
“ขึ้นมาบนห้องนี้ รู้หรือเปล่าว่ากำลังจะโดนอะไร”
“เฮียหมายถึงอะไร”
“มานั่งตรงนี้ ขยับมาใกล้ๆ ฉัน” ใช้ฝ่ามือตบลงบนต้นขาของตัวเองเบาๆ
“หมายถึงให้หนูนั่งบนตักเฮียเหรอคะ”
“หรือจะให้ฉันขึ้นไปนั่งบนตัวเธอแทน
“…..” หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกจากอก ค่อยๆ ก้าวขาเดินเข้าไปหาเจ้านายตามคำสั่ง
ร่างเล็กหย่อนตัวนั่งลงบนตักแกร่ง ก่อนที่ชายหนุ่มจะโอบเอวบางไว้แน่นให้ขยับเข้ามาแนบชิด
ความเป็นชายแข็งขืนอยู่ใต้ร่มผ้าเบียดเสียดไปตามสะโพกมน ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งเฮือกอยู่หลายครั้ง
ถึงแม้จะอยากลุกหนีไปให้พ้น แต่อีกใจกลับโหยหาอยากสัมผัสใกล้ชิดกับคนที่แอบชอบมานาน
“ทำไมกลิ่นเหล้าถึงได้หึ่งขนาดนี้”
“แขกให้ดื่มเป็นเพื่อนน่ะค่ะ”
“ต่อไปนี้ห้ามเธอดื่มกับแขกคนไหน ถ้าฉันไม่อนุญาต”
“แต่มันเป็นงานของหนู”
“แต่ฉันเป็นเจ้านาย มีสิทธิ์อะไรมาขัดคำสั่ง”
แฟรงก์เอื้อมมือไปถอดแว่นสายตาออกจากใบหน้าจิ้มลิ้ม ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะทำงาน “เฮียจะทำอะไร”
“แค่อยากเห็นหน้าเธอชัดๆ ตอนไม่ใส่แว่น” บีบท้ายทอยบอบบางให้ขยับเข้าใกล้ จูบลงบนริมฝีปากบางเบาๆ
คนตัวเล็กนั่งหลับตานิ่งราวกับโลกหยุดหมุน ยอมเปิดริมฝีปากให้ชายหนุ่มได้สอดเรียวลิ้นเข้ามาช่วงชิมดูดกลืนน้ำลายของเธอไปจนเหือดแห้ง
เหมือนทุกอย่างมันเป็นเพียงความฝัน แต่รสจูบเร่าร้อนและกลิ่นน้ำหอมของบุรินทร์ภัทรช่วยย้ำเตือนว่าทุกอย่างคือความจริง
เป็นอีกครั้งที่เขาจูบเธอ…
“เอาแว่นของหนูคืนมา ถ้าเฮียไม่มีธุระอะไร หนูขะ…ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” รีบหยัดตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะหยิบแว่นตาขึ้นมาสวมใส่ เหตุการณ์แบบนี้มันไม่สมควรเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ
“คิดจะเล่นตัวไปถึงเมื่อไหร่” คว้าข้อมือเล็กไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ในขณะที่เธอกำลังจะเดินหนี
“ชาไม่ได้เล่นตัว”
“แล้วทำไมถึงไม่ยอมให้ฉันเอา”
“…..” คำถามที่ตรงไปตรงมา ทำเอาลิชายืนก้มหน้านิ่ง
“เธอเองก็ชอบฉันมากไม่ใช่เหรอ มัวรออะไรอยู่ล่ะ”
“หนูกลัวค่ะ”
“ลองให้ฉันกระแทกสักสองสามที เผื่อบางทีฉันอาจจะสนใจเธอบ้างก็ได้”
“…..”
“หรือถ้าเธอไม่ยอม ฉันจะได้ไปเอาเพื่อนเธอแทน”
“ถ้าหนูยอม เฮียจะสนใจหนูจริงๆ ใช่มั้ย” เสียงหวานสั่นเครือ ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา
เธอรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งยามที่เห็นบุรินทร์ภัทรอยู่กับผู้หญิงคนอื่น แต่ก็เจียมตัวเองว่าเป็นได้แค่ไหน
“…..”
“หนูยอมก็ได้ ยอมทุกอย่างเลย”
“งั้นก็ถอดเสื้อผ้า แล้วมานั่งอ้าขาให้ฉันเอาตรงนี้” ปลายนิ้วเรียวเคาะลงบนโต๊ะทำงานอย่างใจเย็น ทั้งๆ ที่ภายในกายกลับรู้สึกร้อนรุ่มเหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“…..”
ลิชาเลื่อนมือสั่นเทาปลดกระดุมเสื้อผ้าของตัวเองออกทั้งน้ำตา จนร่างกายหลงเหลือเพียงชุดชั้นในที่สวมใส่ เธอรู้สึกรักผู้ชายคนนี้เหลือเกิน
“เลือกมาสักอัน อยากให้ฉันใส่แบบไหน”
“…..” ดวงตากลมโตไหวสั่น มองไปยังกล่องถุงยางอนามัยนับสิบยี่ห้อที่วางเรียงรายอยู่ในลิ้นชักใต้โต๊ะทำงาน
“หรือไม่อยากให้ฉันใส่…ถ้าเป็นเธอก็ได้นะ ฉันพร้อมสดไม่ติดอยู่แล้ว”
-หลายปีผ่านไป-เอส. บี . ดี เซอร์วิสบุรินทร์ภัทรยืนมองภาพถ่ายวันแต่งงานขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนฝาผนังในห้องทำงาน ก่อนจะยกมือปัดป่ายเช็ดถูขัดมันจนเงาวิบวับเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลาชีวิตคู่หลังจากแต่งงานมีความสุขดี ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นดังใจหวัง เขาได้ใช้ชีวิตกับคนที่รัก มีลูกชายที่เป็นดังแก้วตาดวงใจของทุกคนในครอบครัวธุรกิจการงานถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ต้องการไอ้แว่นมันได้ขยายกิจการไปต่างประเทศตามที่ตั้งใจ ส่วนงานของเขาก็อยู่ในความพึงพอใจไม่ได้มีอะไรหวือหวาตอนนี้ดาวศุกร์อายุสิบหกปี กำลังแตกเนื้อสาวสะพรั่ง กลายเป็นสาวฮ็อตประจำโรงเรียน ที่มีหนุ่มๆ คอยตามจีบให้เขาตามปวดหัวไม่เว้นแต่ละวันส่วนชารากับชารันเด็กแฝดถูกไอ้แว่นส่งตัวไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ นานทีปีหนถึงจะได้กลับมา แต่ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เพราะมีปู่กับย่าย้ายถิ่นฐานคอยตามไปดูแล จะกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยก็ต่อเมื่อเรียนจบชนินทร์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของบุรินทร์วัชร์เป็นคนเจ้าสำอางละเมียดละไม ส่วนเฟยน้องเล็กเป็นเด็กเก็บตัวเงียบชอบอ่านหนังสืออยู่คนเดียวไม่ค่อยสุงสิงกับใคร“ป๊า…”อลิชาที่เพิ่งไปรับลูกกลับจากโรงเรียน เปิดประตูเดินเข้า
“เจ๊…”ผู้เป็นแม่ละสายตาจากสิ่งที่ทำ หันกลับไปหันมองตามเสียงเรียก ก่อนจะเห็นว่าเป็นบุรินทร์ภัทรที่สวมชุดเจ้าบ่าวเดินเข้ามาหา“อะไรของแก”“วันนี้หนูจะแต่งงานแล้วนะ”“ฉันรู้อยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องมาบอก”“อวยพรให้หนูหน่อย” เดินเข้าไปกอดเจ๊ผู้เป็นที่รักไว้แน่น หอมแก้มแม่ซ้ำๆ เหมือนที่ชอบทำอยู่บ่อยๆวันนี้เจ๊ปาลินของเขาแต่งตัวทำผมสวยจัดเต็ม แถมสีหน้ายังดูอิ่มเอมที่ลูกชายคนโตกำลังจะได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา“อารมณ์ไหนของแก”“ตอนนี้จริงจังนะ ไม่ล้อเล่น” ชายหนุ่มย่อตัวนั่งลงบนส้นเท้า น้ำเสียงที่พูดก็ดูเปลี่ยนไป จนทำให้คนเป็นแม่ปรับอารมณ์ไม่ทัน“หนูอยากมาขอพรจากแม่” ชายหนุ่มพนมมือนอบน้อมก้มลงกราบเท้าของคนเป็นแม่ ไม่ใช่แค่ขอพรแต่ตั้งใจจะมาขอขมาและอโหสิกรรมกับสิ่งล่วงเกินที่เคยทำผิดพลาด“…..” ปราณปาลินมองคนตรงหน้าพร้อมแววตาไหวสั่น ยกมือลูบศีรษะของลูกชายเบาๆ ด้วยความอ่อนโยน “แม่ขออวยพรให้แฟรงก์มีความสุขในชีวิตนะ ไม่ว่าลูกจะทำอะไร ขอให้ประสบผลสำเร็จทุกอย่าง”“หนูอาจจะไม่ใช่ลูกที่ดีเหมือนที่แม่อยากให้เป็น หนูขอโทษนะ อโหสิกรรมให้ผมด้วย” หลายครั้งหลายหนที่ทำให้แม่ร้องไห้ ทำให้พวกท่านเสียใจกับลูกที่ไม่ไ
-2F BAR-รถยนต์คันหรูมากมายไปจนถึงระดับไฮเปอร์คาร์จอดเรียงรายนับร้อยคันเต็มพื้นที่บริเวณลานจอดรถขนาดใหญ่ ล้นทะลักออกไปจนถึงด้านนอก“จัดแค่งานเล็กๆ เฮียเชิญเฉพาะแค่คนที่รู้จัก”อาจจะเป็นแค่งานเล็กสำหรับเขา แต่มันมโหฬารอลังการมากสำหรับเธอ แขกเหรื่อที่มาร่วมงานในวันนี้มองด้วยตาเปล่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่าสองพันคนบุรินทร์ภัทรเป็นคนมีอิทธิพลกว้างขวาง คนในวงการต่างนับหน้าถือตาไม่ใช่น้อยๆ จึงไม่แปลกที่จะมีแขกมาร่วมแสดงความยินดีมากมายในวันนี้เขาเลือกสถานที่จัดงานคือ ‘2F BAR’ ที่แห่งนี้คือจุดเริ่มต้นทำให้ได้เจออลิชาในวันนั้นจนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต เขาสร้างมันขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ความทรงจำดีๆ มากมายอยู่ในที่แห่งนี้“ไหนบอกแค่งานเล็กๆ ไงเฮีย” หมวยเฟย์สะกิดแขนพี่ชายที่ยืนตรวจความเรียบร้อยของงาน“เฮียเชิญแค่คนสนิท มีแต่คนกันเองทั้งนั้น”“นี่มันไม่ใช่เล่นๆ แล้วนะ” หมวยเฟย์วาดสายตามองไปบริเวณโดยรอบด้วยความตื่นตาตื่นใจ ซุ้มดอกไม้นำเข้าจากต่างประเทศยาวยิ่งใหญ่เป็นร้อยเมตร เวทีแสงสีเสียงเหมือนกับงานคอนเสิร์ตนักร้องชื่อดังตระการตาอลังการยิ่งกว่าเทศกาลงานประจำปี‘เสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้’ ไม่ต้อง
ฝ่ามือหนาบีบเข้าที่ปลายคางเพื่อให้คนตัวเล็กยอมเปิดริมฝีปาก จับแก่นกายอัดกระแทกเข้าออกจนสุดความยาวซ้ำไปซ้ำมา“อื้อออ…” เสียงหวานร้องครางขาดห้วงเมื่อความคับแน่นตีขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจตายแต่ร่างกายไม่รักดีกับตอบสนองสู้กลับคืนตามสัญชาตญาณ ปลายเรียวลิ้นลากไล้โลมเลียตั้งแต่ส่วนโคนมาจนถึงหัวแดงก่ำ“โคตรเสียว…” ก้มลงมองหญิงสาวด้วยดวงตาฉ่ำเยิ้ม อลิชาโคตรทำให้เขาเสียอาการจนแขนขาอ่อนแรงใช้มือควานหาที่จับเพื่อพยุงตัวริมฝีปากเล็กดูดเม้มจนแก้มตอบ ส่วนปลายเรียวลิ้นโลมเลียตวัดขึ้นลงราวกับเป็นไอศกรีมแท่งโปรด“แบบนั้นเลยเด็กดี” รวบเส้นผมยาวสลวยเป็นหางม้า กระตุกลงอย่างแรงเพื่อให้เธอเงยหน้าขึ้นรับสัมผัส “อื้ออ…เฮียแฟรงก์… ” คนตัวเล็กเบ้หน้าด้วยความจุกแน่นเมื่อถูกเอวสอบกระแทกสวนเข้ามาอย่างเนิบนาบแต่หนักหน่วงจนส่วนหัวเข้าลึกไปถึงลำคอ“ดูดแรงๆ เฮียจะแตก”มือเล็กเร่งจังหวะชักรูดท่อนเอ็นให้เร็วขึ้น จนคนตัวสูงเกร็งสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่านสองมือกดศีรษะของเธอไว้แน่นไม่ยอมให้ขยับหนี ก่อนจะปล่อยสายธารน้ำรักฉีดพวยพุ่งเข้าไปในโพรงปากเล็กทุกหยาดหยด“อื้อ…” เล็บสวยจิกลงบนท่อนขาแกร่งเพื่
“แว่นน้องรัก” บุรินทร์วัชร์ละสายตาจากเด็กน้อยในอ้อมอก เงยหน้าขึ้นมองคนที่มาใหม่ แค่ได้เห็นหน้าพี่ชายตัวป่วนถึงกับถอนหายใจลากยาววีรกรรมแต่ละอย่างของมันใช่ย่อยที่ไหน ชอบสร้างแต่ปัญหาไม่จบไม่สิ้น“กูขอคุยด้วยหน่อย”“ว่ามาสิ”บุรินทร์ภัทรเดินเข้าไปหย่อนตัวนั่งลงข้างแฝดน้อง ก่อนจะส่งยิ้มกว้างมองด้วยสายตาหวานเยิ้ม“ไม่ต้องลีลา มึงจะเอาอะไรก็ว่ามา” แค่เห็นท่าทางมีพิรุธของมันก็รู้ได้ทันทีว่าต้องมีเรื่องมากวนใจเขาอีกแน่นอน“กูกำลังจะแต่งงาน”“อืม…” ก็พอรู้มาบ้างแล้ว เพราะไอ้แฟรงก์มันชอบพูดกรอกหูให้ฟังอยู่บ่อยๆ เลยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือแปลกใจอะไร“มึงช่วยแต่งงานเป็นเพื่อนกูหน่อยได้ไหม”“อะไรของมึง”“กูอยากให้เราใส่ชุดเจ้าบ่าวเหมือนกัน”“เมาน้ำมันเครื่องเหรอ กูแต่งงานแล้วจะให้แต่งอีกได้ยังไง”“แต่งแล้วก็แต่งอีกได้ แต่งเป็นเพื่อนกูไง”“เลิกคิดอะไรที่มันประหลาดได้แล้วแฟรงก์!” บอกปัดอย่างนึกรำคาญ ไอ้ประเภทที่มันบอกคนปกติเค้าคงไม่ทำกัน“นะแว่นน้องรัก ช่วยแต่งงานอีกรอบเป็นเพื่อนพี่ชายสุดหล่อคนนี้ที”“…..”“มึงเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของกูนะ ทุกช่วงเวลาที่มีความสุขก็อยากมีมึงอยู่ข้างกัน” เอนใบหน้
เอส.บี.ดี เซอร์วิสเอี๊ยดดดด~ ล้อยางรถบดเบียดไปกับพื้นคอนกรีตขัดมันจนเกิดเป็นรอยทางยาว ตามด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มจนทำให้คนที่อยู่แถวนั้นต่างหันมองด้วยความแตกตื่นปราณปาลินรีบวิ่งออกมาดูเหตุการณ์ ก่อนจะเห็นรถกระบะคันเก่าดริฟหักโค้งหลายตลบเข้ามาภายในร้าน ควันดำโขมงลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ“เด็กเวรที่ไหนมันมาเบิ้ลรถแถวนี้ ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน!” ยืนเท้าเอวตะโกนด่าจนเอ็นคอขึ้น ทำเอาลูกค้าของเธอตกอกตกใจกันไปหมด มันน่าจะบิดให้หูขาด “อย่าให้รู้นะเว้ย แม่จะตบให้สมองไหล”“จะเป็นใครได้ล่ะ ก็ลูกชายเจ๊นั่นแหละ”“…..” หลังจากได้ยินประโยคที่หมวยเฟย์บอกจึงรีบถอดแว่นกันแดดแบรนด์เนมออกจากใบหน้า หรี่สายตามองเพื่อให้แน่ใจไม่ผิดแน่ ไอ้เด็กเวรที่เธอเพิ่งด่าไปเมื่อกี้มันคือไอ้ลูกชายตัวดี!“ไอ้แฟรงก์!”แผดเสียงเล็กแหลมตะโกนเรียกดังลั่น บุรินทร์ภัทรเปิดประตูลงจากรถกระบะคันเก่า ยกมือเสยผมขึ้นโชว์ใบหน้าหล่อเหลาพร้อมส่งยิ้มหวาน สาวใดได้เห็นมีอันต้องหลงจนหัวปักหัวปำแต่โทษทีที่คนหล่อรวยสุดแสนจะเพอร์เฟคอย่างเขานั้นมีลูกมีเมียแล้ว! นอกจากอลิชาเมียเด็กสุดที่รัก ก็ไม่คิดจะมองใครอีก“เป็นไงเจ๊ เท่สะบัดไปเล