Home / โรแมนติก / เรื่องราวของเราสองคน / ตอนที่ 8: กายวิภาคของความเงียบ

Share

ตอนที่ 8: กายวิภาคของความเงียบ

last update Last Updated: 2025-10-22 20:14:47

ความเงียบที่โรยตัวลงมาปกคลุมคอนโดมิเนียมหลังจากที่ฝนจากไปนั้น มันมีตัวตนและหนักอึ้งราวกับก้อนตะกั่ว มันกดทับทุกสิ่งทุกอย่างลงใต้เงาของความอ้างว้างและแตกสลาย สำหรับพลอยแล้ว ยี่สิบสี่ชั่วโมงแรกที่ปราศจากฝน คือการเดินทางผ่านพิพิธภัณฑ์แห่งความทรงจำที่ทุกตารางนิ้วเต็มไปด้วยร่องรอยของคนที่เพิ่งจากไป

 เธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นด้วยสัญชาตญาณ ไม่ใช่เพราะเสียงนาฬิกาปลุก แต่เพราะความเงียบที่ผิดปกติ เธอมักจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงกุกกักในครัวที่ฝนกำลังชงกาแฟเสมอ แต่วันนี้... ไม่มีเสียงใดๆ ทั้งสิ้น ห้องนอนของฝนที่ประตูแง้มอยู่เล็กน้อยนั้นมืดสนิทและว่างเปล่า ความจริงอันโหดร้ายถาโถมเข้าใส่เธออีกครั้ง... ฝนไม่อยู่ที่นี่แล้ว

 พลอยลุกขึ้นจากเตียงอย่างเชื่องช้า ร่างกายของเธอรู้สึกหนักอึ้งราวกับมีโซ่ตรวนที่มองไม่เห็นพันธนาการอยู่ เธอก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้วมองดูเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก ผู้หญิงในนั้นดูซีดเซียว ขอบตาคล้ำ และดวงตาบวมช้ำจากการร้องไห้มาทั้งคืน เธอแปรงฟันและล้างหน้าไปตามความเคยชิน แต่จิตใจกลับล่องลอยไปไกลแสนไกล

 ทุกย่างก้าวในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ แห่งนี้คือการตอกย้ำถึงการไม่มีอยู่ของฝน โซฟาตัวเก่าที่เคยเป็นที่นอนดูหนังและซบไหล่กันเงียบๆ บัดนี้กลับดูใหญ่โตและเยียบเย็น โต๊ะทำงานญี่ปุ่นที่พวกเธอเคยมาร่วมหัวจมท้ายกันคิดงานก็ดูว่างเปล่าจนน่าใจหาย แม้แต่แก้วกาแฟลายแมวที่ฝนชอบใช้เป็นประจำซึ่งวางคว่ำอยู่บนชั้น ก็ยังสามารถกระตุ้นต่อมน้ำตาของเธอให้ทำงานขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย

 ความเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธยังคงสดใหม่และแหลมคม คำว่า "ความผิดพลาด" ที่หลุดออกมาจากปากของฝนยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเธอราวกับแผ่นเสียงตกร่อง 'ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้น... สัมผัสที่อ่อนโยน... แววตาที่ลึกซึ้ง... มันคือความผิดพลาดอย่างนั้นเหรอ' ความคิดนั้นบีบคั้นหัวใจของเธอจนแทบหายใจไม่ออก

 ท่ามกลางความโศกเศร้านั้น เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะอย่างไม่รู้จักเวล่ำเวลา มันคือการแจ้งเตือนจากแอคเคาท์ "Secret Petals"

 พลอยหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน หน้าจอเต็มไปด้วยการแจ้งเตือน... ไลค์ คอมเมนต์ และยอดผู้ติดตามใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เธอเลื่อนอ่านคอมเมนต์ที่ชื่นชมผลงานของพวกเธอ

 "นี่คือศิลปะที่แท้จริง!"

 "เคมีระหว่างนางแบบกับช่างภาพมันน่าทึ่งมาก!"

 "ฉันสัมผัสได้ถึงความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งระหว่างพวกคุณ มันสวยงามจริงๆ"

 คำว่า "เคมี" และ "ความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้ง" ทำให้พลอยอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ ให้กับความย้อนแย้งของโชคชะตา ผลงานที่เกิดจากความรู้สึกที่แท้จริงของพวกเธอ... สิ่งที่คนภายนอกมองเห็นและชื่นชม... กลับกลายเป็นอาวุธที่ทำลายล้างความสัมพันธ์ของพวกเธอจนไม่เหลือชิ้นดี เธอรู้สึกโกรธ... โกรธแอคเคาท์บ้าๆ นี่ที่ล่อลวงให้พวกเธอต้องเดินทางมาถึงจุดนี้ โกรธโชคชะตาที่เล่นตลกกับพวกเธอได้อย่างเจ็บปวด และที่สำคัญที่สุด... โกรธฝน... ที่ขี้ขลาดและเลือกที่จะวิ่งหนีไป

 นิ้วโป้งของเธอเลื่อนไปจ่ออยู่ที่ปุ่ม "Delete Account" ความคิดที่จะลบทุกสิ่งทุกอย่างทิ้งไปให้หมดสิ้นมันช่างเย้ายวนใจเหลือเกิน แต่แล้วเธอก็หยุดชะงัก... การลบทิ้งมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา มันเป็นเพียงการวิ่งหนีปัญหา... เหมือนกับที่ฝนกำลังทำอยู่

 พลอยวางโทรศัพท์ลง เธอจะไม่ยอมเป็นคนขี้ขลาดเหมือนฝนเด็ดขาด

 ความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ภายในได้แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานบางอย่าง เธอต้องการที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อควบคุมความโกลาหลที่เกิดขึ้นในใจของเธอ และสิ่งเดียวที่เธอนึกออกในตอนนี้ก็คือ... การทำความสะอาด

 เธอเริ่มต้นจากการเก็บกวาดห้องนั่งเล่นอย่างบ้าคลั่ง เธอจัดเรียงหนังสือบนชั้นใหม่ ดูดฝุ่นทุกซอกทุกมุม และขัดพื้นจนขึ้นเงา การได้ออกแรงและการได้เห็นพื้นที่รอบตัวกลับมาเป็นระเบียบเรียบร้อยอีกครั้ง ช่วยทำให้จิตใจที่วุ่นวายของเธอสงบลงได้บ้าง

 จากนั้น เธอก็ก้าวเข้าไปในห้องนอนของฝน... พื้นที่ส่วนตัวที่เธอไม่เคยย่างกรายเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตมาก่อน กลิ่นอายของฝนยังคงอบอวลอยู่ที่นี่อย่างชัดเจน... กลิ่นของสเปรย์ฉีดผ้า กลิ่นกระดาษจางๆ และกลิ่นเฉพาะตัวของฝนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี เธอบรรจงจัดเตียงนอนที่ยับยู่ยี่ของฝนให้เรียบตึง พับผ้าห่มอย่างดี แล้วจัดเรียงหมอนให้เข้าที่

 ขณะที่กำลังจะเดินออกจากห้อง สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นสมุดสเก็ตช์ภาพเล่มหนึ่งที่ตกอยู่ข้างโต๊ะทำงาน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอจึงหยิบมันขึ้นมา... แล้วค่อยๆ เปิดมันออกดู

 การเดินทางจากคอนโดใจกลางเมืองกลับมายังบ้านชานเมืองที่เธอเติบโตมานั้น คือการเดินทางข้ามผ่านมิติเวลาสำหรับฝน บรรยากาศของบ้านที่เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่คุ้นตา กลิ่นกับข้าวฝีมือแม่ที่ลอยอบอวลไปทั่ว และคำถามที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของพ่อแม่... ทุกสิ่งทุกอย่างมันช่างแตกต่างจากโลกที่เธอเพิ่งจากมาโดยสิ้นเชิง

 "เป็นอะไรไปลูก ทำไมหน้าตาดูไม่สดชื่นเลย" แม่ของเธอทักขึ้นทันทีที่เห็นหน้า

 "เปล่าค่ะแม่ พอดีช่วงนี้งานยุ่งๆ น่ะค่ะ เลยอยากกลับมาพักผ่อนสักสองสามวัน" ฝนโกหกออกไป คำโกหกนั้นมันช่างหนักอึ้งและฝืดเฝื่อนอยู่ในลำคอ

 "ทะเลาะกับน้องพลอยมารึเปล่าเรา" พ่อของเธอที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟาถามขึ้นมาอย่างรู้ทัน

 ฝนสะดุ้งเล็กน้อย "เปล่านะคะพ่อ!" เธอรีบปฏิเสธเสียงสูง "ก็บอกว่าเรื่องงานไงคะ"

 การต้องสวมหน้ากากและแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างปกติดีนั้นมันเหนื่อยยิ่งกว่าการทำงานหามรุ่งหามค่ำเสียอีก "พื้นที่" ที่เธอเคยคิดว่าต้องการ บัดนี้ได้กลายเป็นเหมือนกรงขังที่มองไม่เห็น เธอไม่สามารถระบายความรู้สึกที่แท้จริงออกมาให้ใครฟังได้เลย เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักโทษที่ถูกเนรเทศมายังดินแดนที่ห่างไกล

 ในตอนกลางคืน ขณะที่เธอนอนอยู่บนเตียงนอนเก่าๆ ในห้องนอนสมัยเด็ก ความเงียบที่นี่มันแตกต่างจากความเงียบที่คอนโดโดยสิ้นเชิง มันไม่ใช่ความเงียบที่ว่างเปล่า แต่เป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยเสียงสะท้อนในหัวใจของเธอ

 ภาพของพลอยที่กำลังร้องไห้ยังคงติดตาเธอไม่หาย คำพูดสุดท้ายที่พลอยขอร้องไม่ให้เธอไปยังคงดังก้องอยู่ในหู และคำว่า "ความผิดพลาด" ที่เธอเป็นคนพูดออกไปเองนั้น... ก็ได้ย้อนกลับมาทิ่มแทงหัวใจของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 ความรู้สึกผิดกัดกินจิตใจของเธอจนแทบจะเป็นบ้า เธอเกลียดตัวเองที่เป็นคนขี้ขลาด เกลียดตัวเองที่ทำลายพันธสัญญาว่าจะ "พูดคุยกันทุกเรื่อง" และเกลียดตัวเองที่ทำร้ายจิตใจของคนที่เธอรักที่สุดในชีวิตได้อย่างเลือดเย็น

 ความสันโดษที่เธอคิดว่าจะช่วยให้ใจเย็นลงได้นั้น มันไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขเลยแม้แต่น้อย... ในทางกลับกัน... มันกลับนำมาซึ่งความชัดเจน... ความชัดเจนที่ว่าเธอได้ทำในสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตลงไปแล้ว

 เธอเริ่มวิเคราะห์ความกลัวของตัวเองอย่างจริงจัง... เธอหวาดกลัวอะไรกันแน่? กลัวที่จะต้องสูญเสียมิตรภาพที่ดีที่สุดไปงั้นเหรอ? ใช่... แต่นั่นมันใช่ทั้งหมดจริงๆ หรือ? หรือว่าเธอหวาดกลัวที่จะต้องยอมรับในความรู้สึกของตัวเอง? หวาดกลัวที่จะต้องยอมรับว่าเธอรักผู้หญิงคนหนึ่ง... รักเพื่อนสนิทของตัวเอง... รักมากจนเกินกว่าที่จะควบคุมได้

 เธอเพิ่งจะตระหนักได้ในตอนนี้เองว่า... การวิ่งหนีออกจากปัญหาต่างหากที่เป็น "ความผิดพลาด" ที่แท้จริง... ช่วงเวลาที่แสนงดงามในห้องน้ำคืนนั้น... มันไม่ใช่ความผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย... แต่มันคือ "ความจริง"... ความจริงที่เธอหวาดกลัวเกินกว่าจะยอมรับมันได้

 เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เธอกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ที่โต๊ะกินข้าว พ่อของเธอก็เดินเข้ามานั่งข้างๆ พร้อมกับกาแฟสองแก้ว

 "ยังไม่ดีขึ้นอีกเหรอ" พ่อถามเรียบๆ

 ฝนส่ายหน้าช้าๆ

 พ่อของเธอจิบกาแฟไปอึกหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมาลอยๆ "พ่อไม่รู้หรอกนะว่าลูกกำลังเจอปัญหาอะไรอยู่ แต่พ่อรู้แค่ว่า... การวิ่งหนีออกจากปัญหาน่ะ มันไม่เคยทำให้ปัญหาเล็กลงได้เลยนะ... ในทางกลับกัน มันกลับยิ่งให้พื้นที่ปัญหานั้นได้เติบโตใหญ่ขึ้นในหัวของเราเสียอีก"

 คำพูดเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งของพ่อเปรียบเสมือนกุญแจที่ไขเข้าไปในหัวใจที่ปิดตายของฝน... มันคือสิ่งที่เธอต้องการจะได้ยินมาตลอด

 ใช่แล้ว... เธอไม่สามารถวิ่งหนีต่อไปได้อีกแล้ว เธอต้องกลับไปเผชิญหน้ากับมัน... กลับไปแก้ไขในสิ่งที่เธอเป็นคนทำพังลงมากับมือ

 ในขณะเดียวกันนั้น... พลอยที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นห้องนอนของฝน ก็ได้เปิดสมุดสเก็ตช์ภาพเล่มนั้นไปจนถึงหน้าสุดท้ายแล้ว

 น้ำตาของเธอไหลทะลักออกมาอีกครั้ง... แต่มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจอีกต่อไปแล้ว... แต่มันคือน้ำตาแห่งความตื้นตันใจ

 สมุดเล่มนั้นไม่ได้มีแค่ภาพร่างสำหรับงาน "Secret Petals" ของพวกเธอ... แต่มันเต็มไปด้วยภาพวาดของ "พลอย" ในอิริยาบถต่างๆ ที่ฝนแอบวาดเก็บไว้มาโดยตลอด... มีทั้งภาพของพลอยที่กำลังนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้นจนต้องขมวดคิ้ว... ภาพของพลอยที่กำลังหัวเราะอย่างสุดเสียงจนตาหยี... ภาพของพลอยที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟาโดยไม่รู้ตัว...

 ทุกเส้นสายที่ฝนร่างลงไปบนกระดาษนั้น มันไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพวาด... แต่มันคือบันทึกของความรัก... คือการสารภาพความรู้สึกที่ซื่อตรงและงดงามที่สุดเท่าที่พลอยเคยได้เห็นมา

 เธอเพิ่งจะเข้าใจในตอนนี้เอง... ฝนไม่ได้วิ่งหนีไปเพราะว่าเธอไม่รู้สึกอะไร... แต่เธอวิ่งหนีไป... เพราะว่าเธอรู้สึก "มากเกินไป" ต่างหาก

 พลอยยกสมุดเล่มนั้นขึ้นมาแนบกับอก เธอได้พบหลักฐานชิ้นสำคัญที่สุดแล้ว... หลักฐานที่ยืนยันว่าเธอไม่ได้คิดไปเองฝ่ายเดียว... หลักฐานที่บอกว่าความรักของพวกเธอมันเป็นเรื่องจริง

 ทางด้านฝน... หลังจากที่ได้คุยกับพ่อแล้ว เธอก็รีบวิ่งกลับขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองทันที เธอเก็บข้าวของที่เพิ่งจะเอาออกมาได้ไม่นานกลับเข้าไปในกระเป๋าเป้อีกครั้ง

 "จะรีบกลับแล้วเหรอลูก" แม่ของเธอที่เดินตามขึ้นมาถามด้วยความประหลาดใจ

 ฝนหันมายิ้มให้แม่เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่ผ่านมา... มันเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว

 "ค่ะแม่... หนูจะกลับบ้าน"

 เธอพูดคำว่า "บ้าน" ด้วยความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม... "บ้าน"... ที่ไม่ได้หมายถึงบ้านของพ่อแม่... แต่หมายถึงคอนโดมิเนียมเล็กๆ แห่งนั้น... "บ้าน"... ที่มีพลอยรออยู่

 บทสรุปของตอนนี้จึงเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน...

 พลอยที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นห้อง กอดสมุดสเก็ตช์ภาพที่เป็นเหมือนบทพิสูจน์แห่งความรักของฝนเอาไว้ในอ้อมแขน...

 และฝน... ที่กำลังนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ มุ่งหน้ากลับไปยังคอนโดมิเนียมแห่งนั้นด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจที่จะแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่างให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม... หรือ... ทำให้มันดีกว่าเดิม

 พวกเธอทั้งสองคนกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่จุดปะทะ... จุดที่จะนำไปสู่การเผชิญหน้าครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต... และมันก็ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนแห่งความคาดหวังครั้งใหญ่ให้กับเรื่องราวในตอนต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เรื่องราวของเราสองคน    ตอนที่ 25: การเปิดเผย

    กระบวนการสร้างสรรค์ครั้งสุดท้ายสำหรับโปรเจกต์ "กล้องที่ถูกทอดทิ้ง" ไม่ได้เกิดขึ้นในห้องมืดที่อบอวลไปด้วยกลิ่นสารเคมี... และก็ไม่ได้เกิดขึ้นภายใต้แสงแดดที่นุ่มนวลในสตูดิโอ... แต่กลับเกิดขึ้นบนหน้ากระดาษที่ว่างเปล่าของไฟล์เอกสาร... ในรูปแบบของ "บทสัมภาษณ์ถาม-ตอบ" สำหรับหนังสือภาพถ่ายของพวกเธอ มันคือการเดินทางย้อนกลับไปสำรวจร่องรอยของความทรงจำ... คือการกลั่นกรองความรู้สึกที่ซับซ้อนออกมาเป็นตัวอักษร... และที่สำคัญที่สุด... มันคือการที่พลอยจะได้ค้นพบ "เสียง" ของตัวเองเป็นครั้งแรก พวกเธอนั่งเคียงข้างกันที่โต๊ะทำงานไม้ตัวใหญ่... อ่านคำถามจากสำนักพิมพ์ซ้ำไปซ้ำมา... ทุกคำถามล้วนแต่แหลมคมและเฉือนลึกลงไปถึงแก่นของเรื่องราวทั้งหมด คำถาม: ถึงแรงบันดาลใจ: คุณรู้สึกอย่างไรที่ได้เห็นช่วงเวลาที่เป็นส่วนตัวที่สุดของคุณถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นผลงานศิลปะเพื่อสาธารณะ พลอยนิ่งไปนานกับคำถามนี้... เธอจะอธิบายความรู้สึกที่ทั้งเปราะบางและเปี่ยมไปด้วยพลังนั้นออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร... เธอเริ่มต้นเขียน... ลบ... แล้วก็เขียนใหม่อยู่หลายครั้ง... โดยมีฝนคอยนั่งให้กำลังใจอยู่ข้างๆ... จนในที่สุด... เธอก็ได้พบคำตอบท

  • เรื่องราวของเราสองคน    ตอนที่ 24: ห้องมืดและแสงสว่าง

    สตูดิโอแห่งใหม่ของพวกเธอได้กลายเป็นมากกว่าแค่สถานที่ทำงาน... มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต... เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ความรักและศิลปะของพวกเธอได้เติบโตและหายใจไปด้วยกันอย่างอิสระ และในบรรดาพื้นที่ทั้งหมดที่พวกเธอได้ร่วมกันสร้างขึ้นมานั้น... ก็ไม่มีที่ไหนที่จะมีความหมายและเป็นส่วนตัวสำหรับฝนได้มากเท่ากับ "ห้องมืด" อีกแล้ว มันคือความฝันที่เป็นจริง... คือโลกใบเล็กๆ ที่เธอสามารถควบคุมได้ทุกสิ่งทุกอย่าง... โลกที่ตัดขาดจากแสงสว่างและความวุ่นวายภายนอกโดยสิ้นเชิง บทแรกของการสร้างสรรค์ผลงานในบ้านหลังใหม่นี้ จึงเริ่มต้นขึ้นในความมืดมิดนั้น ฝนก้าวเข้าไปในห้องมืดที่เธอสร้างขึ้นมากับมือเป็นครั้งแรก... ความรู้สึกตื่นเต้นนั้นเปรียบเสมือนเด็กที่กำลังจะได้ของเล่นชิ้นใหม่ที่ใฝ่ฝันมาทั้งชีวิต เธอปิดประตูลง... และโลกทั้งใบก็จมดิ่งลงสู่ความมืดสนิท... มีเพียงแสงสีแดงจางๆ จากหลอดไฟนิรภัยเท่านั้นที่ส่องสว่างพอให้มองเห็นเค้าโครงของสิ่งต่างๆ... ถาดน้ำยาสามใบที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ... เครื่องอัดขยายภาพที่ตั้งตระหง่านอยู่มุมห้อง... และเสียงน้ำไหลที่ดังมาจากท่อ... ทุกอย่างคือองค์ประกอบของพิธีกรรมที่กำลังจะเร

  • เรื่องราวของเราสองคน    ตอนที่ 23: สถาปัตยกรรมของเรา

    สตูดิโอแห่งใหม่ที่พวกเธอได้ตัดสินใจเช่าในย่านตลาดน้อยนั้น... ในวันแรกที่ได้กุญแจมา... มันดูไม่ต่างอะไรกับซากปรักหักพังที่ถูกทอดทิ้ง สีบนผนังหลุดลอกร่อนออกมาเป็นแผ่นๆ พื้นไม้เก่าส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดทุกครั้งที่ก้าวเดิน และฝุ่นหนาก็ปกคลุมทุกตารางนิ้วราวกับหิมะสีเทา... แต่มันก็เป็นซากปรักหักพังที่เต็มไปด้วย "ศักยภาพ" หน้าต่างบานใหญ่ที่สูงจากพื้นจรดเพดานคือหัวใจของพื้นที่แห่งนี้ มันเปิดรับแสงแดดยามบ่ายของกรุงเทพฯ เข้ามาอย่างเต็มที่ และจากหน้าต่างบานนั้น... พวกเธอก็สามารถมองเห็นวิวของหลังคาบ้านเก่าๆ และชีวิตที่เคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าของผู้คนในย่านเมืองเก่าได้... มันคือผืนผ้าใบที่ว่างเปล่า... ที่กำลังรอคอยให้พวกเธอได้เข้าไปแต่งแต้มเรื่องราว แทนที่จะเริ่มต้นด้วยการลงมือทำความสะอาดหรือทาสี... พวกเธอกลับเลือกที่จะเริ่มต้นด้วยการ "ฝัน" พวกเธอนั่งลงบนพื้นห้องที่เต็มไปด้วยฝุ่น... โดยมีเพียงกระดาษแผ่นใหญ่กับดินสอสองสามแท่งคั่นกลางอยู่... แล้วเริ่มต้นสร้าง "กระดานแห่งความฝัน" (Dream Board) สำหรับพื้นที่แห่งนี้... มันคือการระดมสมองที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความคิดสร้างสรรค์... และมันก็ได้เปิดเผยถ

  • เรื่องราวของเราสองคน    ตอนที่ 22: ระลอกคลื่นแห่งการยอมรับ

    การยอมรับที่ไร้เงื่อนไขของมิ้นท์ในวันนั้น เปรียบเสมือนก้อนหินก้อนแรกที่ถูกโยนลงไปในทะเลสาบที่นิ่งสงบแห่งชีวิตของพวกเธอ และมันก็ได้สร้างระลอกคลื่นที่แผ่ขยายออกไปอย่างช้าๆ แต่ทรงพลัง... ระลอกคลื่นที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางอารมณ์และสังคมของพวกเธอไปอย่างสิ้นเชิง บรรยากาศในคอนโดมิเนียมที่เคยเป็นเหมือนป้อมปราการสำหรับหลบซ่อนตัวจากโลกภายนอก บัดนี้ได้กลายเป็นเหมือนบ้านที่เปิดประตูต้อนรับพันธมิตรคนสำคัญเข้ามา ความวิตกกังวลระดับต่ำที่คอยเกาะกินจิตใจของพวกเธออยู่ตลอดเวลาว่าเพื่อนสนิทจะคิดอย่างไร... บัดนี้ได้มลายหายไปจนหมดสิ้น ในช่วงหลายวันที่ตามมานั้น ชีวิตของพวกเธอได้ค้นพบจังหวะใหม่ที่ผ่อนคลายและเป็นอิสระมากยิ่งขึ้น การมาเยือนของมิ้นท์ที่คอนโดในเย็นวันศุกร์วันหนึ่ง ได้กลายเป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุดของการเปลี่ยนแปลงนั้น ภาพของคนสามคนที่นั่งล้อมวงกินส้มตำและไก่ย่างกันบนพื้นห้องนั่งเล่นนั้น มันช่างเป็นภาพที่แสนจะธรรมดา... แต่สำหรับพวกเธอแล้ว... มันคือความไม่ธรรมดาที่แสนจะงดงาม พลอยกับฝนสามารถที่จะเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องคอยระแวดระวังอีกต่อไปแล้ว สัมผัสเล็กๆ น้อยๆ ที่เ

  • เรื่องราวของเราสองคน    ตอนที่ 21: บทสนทนาใต้แสงตะวัน

    ความตื่นเต้นที่เคยพลุ่งพล่านอยู่ในร่างกายของพวกเธอตลอดค่ำคืนแห่งการเปิดตัวนิทรรศการนั้น ได้ค่อยๆ จางหายไปในระหว่างการเดินทางกลับคอนโดด้วยรถแท็กซี่ ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกที่เหนือจริงและความสุขที่เงียบสงบซึ่งเข้ามาแทนที่ พวกเธอนั่งเคียงข้างกันในความมืด จ้องมองแสงไฟของเมืองกรุงที่เคลื่อนผ่านไปนอกหน้าต่าง แต่จิตใจกลับล่องลอยย้อนกลับไปในช่วงเวลาสำคัญที่เพิ่งจะผ่านมาสดๆ ร้อนๆ "ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลยฝน" พลอยเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมาก่อนด้วยเสียงกระซิบ "ตอนที่สายตาของมิ้นท์มองมาที่เราสองคน... ฉันนึกว่าหัวใจฉันจะหยุดเต้นไปแล้วเสียอีก" "ฉันก็เหมือนกัน" ฝนตอบกลับมาเสียงแผ่วเบา เธอยังจำความรู้สึกเย็นเฉียบที่แล่นไปทั่วร่างของตัวเองในตอนนั้นได้ดี "แต่... วิธีที่มิ้นท์พูดออกมา... 'มันเป็นเรื่องราวความรักที่สวยงาม'... เขาไม่ได้กำลังพูดกับคนอื่น... เขากำลังพูดกับเรา" "ใช่..." พลอยพยักหน้าช้าๆ "เขาไม่ได้เปิดโปงเรา... แต่เขากำลัง... ยอมรับในตัวเรา" พวกเธอเดินทางกลับมาถึงคอนโดที่เปรียบเสมือนรังอันปลอดภัยอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้... มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป มันยังคงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพว

  • เรื่องราวของเราสองคน    ตอนที่ 20: คืนเปิดม่าน

    ค่ำคืนแห่งการเปิดตัวนิทรรศการมาถึงพร้อมกับสายลมเย็นๆ ของต้นฤดูหนาวและก้อนเมฆสีเทาที่ลอยตัวอยู่อย่างเกียจคร้านบนท้องฟ้าของกรุงเทพฯ บรรยากาศในคอนโดมิเนียมของพลอยกับฝนในเย็นวันนั้น... มันช่างเงียบสงัดและตึงเครียดเสียยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ที่ผ่านมา มันไม่ใช่ความตึงเครียดที่เกิดจากความโกรธหรือความไม่เข้าใจ... แต่เป็นความตึงเครียดที่เกิดจากการรอคอย... การรอคอยที่จะต้องเผชิญหน้ากับบทพิพากษาสุดท้าย พวกเธอบรรจงแต่งตัวกันอย่างเงียบเชียบ... การเลือกเสื้อผ้าในวันนี้มีความหมายมากกว่าแค่เรื่องของความสวยงาม... มันคือการเลือกชุดเกราะ... คือการพรางตัวเพื่อที่จะแทรกซึมเข้าไปในฝูงชนโดยไม่มีใครจดจำได้ พลอยเลือกชุดเดรสยาวสีดำที่ดูเรียบหรูแต่ก็ไม่โดดเด่นจนเกินไป ส่วนฝน... เธอเลือกที่จะสวมเสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกงสแล็ค... เป็นชุดที่ทำให้เธอดูเหมือนเป็นเพียงเงาจางๆ ที่พร้อมจะกลืนหายไปกับความมืดได้ทุกเมื่อ ในหัวของฝนนั้นเต็มไปด้วยภาพฉายซ้ำของสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นได้... 'แล้วถ้ามิ้นท์จำรอยสักของพลอยได้ล่ะ' 'เราจะตอบคำถามของเพื่อนๆ ว่าอย่างไร' เธอกำลังจะก้าวเข้าไปในงานแสดงผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status