ลินดาไม่เคยปิดบังเรื่องราวเหลวไหลของตนในอดีต
วิชัยจึงรู้เรื่องทั้งหมดแต่ไม่เคยนึกรังเกียจ หลังจากแต่งงาน วิชัยจึงไม่ยอมให้ลินดาต้องทำงานเหน็ดเหนื่อยอีก ลินดาจึงกลายเป็นคุณนายอยู่บ้านสวยๆ ไปวันๆ
ทว่าเธอกลับไม่ยอมอยู่นิ่งๆ มักจะตื่นก่อนนอนทีหลังเสมอ
บ้านทุกซอกทุกมุมเป็นระเบียบเรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้ว อาหารทุกจานที่ลินดาเป็นคนลงมือทำด้วยตัวเองยังอร่อยทุกอย่าง
ไม่ใช่เพียงวิชัยที่เหมือนน้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้น นิรัชเองก็ดูเหมือนจะมีน้ำมีนวลขึ้นมาเช่นกัน เพียงแต่เขาตัวสูงจึงดูไม่ค่อยออก
เมื่อคุณนายเป็นแบบนี้ แม่บ้านสองคนที่พักอยู่เรือนเล็กด้านหลังจึงตื่นตั้งแต่ไก่โห่มาทำงานบ้านอย่างขยันขันแข็งมากยิ่งขึ้น เนื่องจากคิดมาก กลัวจะถูกไล่ออก
ลินดาจึงต้องคอยปลอบใจแม่บ้านบ่อย ๆ “ป้าแหวนพี่แววอย่าคิดมากเลย ดาแค่อยู่เฉยไม่เป็นเท่านั้นไม่ได้คิดแย่งงานเลยนะ”
แม่บ้านทั้งสองได้หัวเราะขัดเขินเก้อกระดากแต่ก็ยังรีบตื่นแต่เช้าทำงานให้หนักเข้าไว้เหมือนเดิม
ณภัทรนั่งกินข้าวอย่างอร่อยพลางมองแม่บ้านสองคนที่เป็นลูกมือก้นครัวให้แม่ เธอเห็นแม่บ้านทั้งสองแย่งกันหั่นต้นหอมผักชีเพื่อเอาหน้ากันยกใหญ่
หญิงสาวยิ้มขัน ในใจนึกภาคภูมิอย่างที่สุด
แม่ของเธอเป็นผู้หญิงที่สวยและเก่ง ที่สำคัญจิตใจดีมาก ๆ ผู้ชายคนนั้นที่เป็นพ่อบังเกิดเกล้าแต่ทิ้งไปตั้งแต่เธออยู่ในครรภ์จะรู้หรือเปล่าว่าได้ทำเพชรน้ำงามหลุดมือ
หญิงสาวหมกมุ่นกับความคิดพร้อมกับรับประทานอาหารที่มีเต็มจานอย่างตั้งใจ เมื่อข้าวหมดเธอยังยื่นจานให้มารดาตักเพิ่ม
เสียงเพียะดังขึ้น ณภัทรถูกลินดาตีมือเบาๆ หนึ่งที
“พอแล้ว เดี๋ยวอ้วน”
อืม...จริงด้วย
ณภัทรย่นคิ้วยกจานกลับแต่โดยดี
เธอลืมไปว่าตัวเองได้ทำตารางการควบคุมน้ำหนักที่เขียนขึ้นเองแล้วกำชับให้แม่คอยเตือน เพราะเมื่อก่อนเธอกินแบบตามใจตามปากมากไปหน่อย เธอก็เลยอ้วน
พอเริ่มเป็นสาวถึงได้ตระหนักและเป็นกังวลกับน้ำหนักตัว กลัวว่าต้องเสียเงินรักษาโรคอ้วนไม่จบไม่สิ้น
แน่นอนว่านิสัยเดิมที่มีนั้นต่อให้ได้พ่อเลี้ยงร่ำรวยก็ไม่เคยเปลี่ยนไป เธอกับแม่ยังคง ‘งก’ เหมือนเดิมไม่แปรผัน
วิชัยมองสองแม่ลูกด้วยรอยยิ้ม แววตาอบอุ่นอ่อนโยน
มีเพียงนิรัชที่มองนิ่งๆ ด้วยสายตาอ่านยาก
ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
หลังจากจบมื้อเช้า ณภัทรก็เดินมาที่รถพร้อมนิรัช
โรงรถอยู่ด้านข้างของตัวบ้านห่างออกมาเล็กน้อย มีหลังคาและเสาขนาดใหญ่ติดกับตัวบ้าน มีรถยุโรปสุดหรูจอดอยู่หลายคัน เป็นรถชนิดต่างกันแล้วแต่วัตถุประสงค์การใช้งาน
ลินดากับณภัทรขับรถไม่เป็นจึงได้แต่นั่งเป็นตุ๊กตาไม่เคยขับเอง วิชัยคะยั้นคะยอให้ลินดาไปเรียนขับรถได้สำเร็จแค่ไม่นาน ตอนนี้จึงกำลังอยู่ในช่วงหัดขับกับบริษัทสอนขับรถเท่านั้น
ส่วนณภัทรเพิ่งบรรลุนิติภาวะย่อมไม่รีบร้อน
เมื่อเดินมาถึงรถยุโรปคันสีขาวสองประตู ทั้งคู่ก็ต่างคนต่างขึ้นไปนั่งในรถโดยไม่พูดอะไร
ทว่าจังหวะที่ณภัทรนั่งลงแล้วปิดประตูก่อนจัดกระโปรงให้เรียบร้อย จู่ ๆ นิรัชก็โน้มตัวเข้ามาแล้วโอบเธอทั้งตัว กลิ่นกรุ่นไออุ่นจากกายเขาโอบล้อมไปทั่วร่างของเธอ
หญิงสาวตกใจจนตาโตหลบไม่ทัน ทำได้เพียงชักสีหน้าใส่
“พี่ทำอะไรน่ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่มาเห็นนะ”
ตอนนี้ยังเช้าอยู่มาก แสงสว่างสาดส่องไปทั่ว กระจกรถยังใสแจ๋วขนาดนี้
นิรัชยังคงมีสีหน้านิ่งเฉย เขาเอ่ยเสียงเรียบ “คาดเข็มขัด”
ณภัทรอึ้งเล็กน้อย ใบหน้าขึ้นสีอมชมพูเรื่อเพราะอายขึ้นมา
“ภัทรลืมไป” เธอนิ่วหน้า “คนไม่เคยมีรถก็แบบนี้แหละ”
นิรัชเลิกคิ้ว “ไม่เป็นไร พี่คอยดูแลคาดให้เธอได้ตลอด”
“หือ...”
นี่คือประโยคที่หลุดจากปากของผู้ชายหน้านิ่งซึ่งถูกฉาบด้วยปูนซีเมนต์ตลอดเวลางั้นหรือ?
ณภัทรยิ่งหน้าแดงเปล่งปลั่ง นึกขัดเขินไม่น้อย
แต่เมื่อเห็นอีกคนยังคงโน้มแผงอกลงมาจนใบหน้าหล่อๆ อยู่ใกล้เกินไป ลมหายใจยังผสานกันขนาดนี้ แนบชิดเสียจนใจสั่น ทั้งยังทำให้เธอตกอยู่ในวงแขนอบอุ่นของเขาไม่คลาย
เธอจึงย่นคิ้วนิ่วหน้า บ่นอุบอิบเสียงเบา
“พี่รัชคาดเข็มขัดนานเกินไปแล้วค่ะ”
นอกจากไม่ปล่อยมือจากเข็มขัดนิรภัย นิรัชยังมองเธอด้วยรอยยิ้มร้ายๆ ที่อาจทำให้หัวใจของเด็กสาวต้องละลายหรือไม่ก็อาจทำให้ผู้หญิงมีอายุหัวใจวายตายได้ เขายิ้มแบบนี้เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่?
สองตาของณภัทรเบิกโตคล้ายกำลังเจอสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดจากมิติเร้นลับ ผู้ชายหน้านิ่งตาดุเวลายิ้มทีคือมีพลังทำลายล้างที่รุนแรงมากเกินไปแล้วจริงๆ
จังหวะนั้นชายหนุ่มเปี่ยมเสน่ห์ผู้แผ่ออร่าสังหารยังก้มหน้าหล่อเหลาลงมาจูบเร็วๆ ที่เรียวปากเธอหนึ่งที ก่อนจะสตาร์จรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว ณภัทรได้แต่ตัวเกร็งแข็งทื่อไปทั้งร่าง
พ่อกับแม่ยังนั่งอยู่ในบ้านคงไม่เห็นหรอกนะ
หญิงสาวเกาะกระจกรถแน่น...
บนเวทีมงคล พิธีกรชายกำลังส่งคำถามแก่คู่บ่าวสาวด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม“ตามธรรมเนียม ทั้งสองต้องบอกมาตามตรงว่าพบรักกันได้ยังไง เล่ามาเลยครับ”ข้างล่างต่างรอฟังอย่างตื่นเต้นกันใหญ่ มีบางคนแอบสงสัยว่าพวกเขาคงแพ้ความใกล้ชิดแหละ ประมาณน้ำมันกับไฟเจอกันใครจะคิดอย่างไรไม่ใช่ว่านิรัชกับณภัทรจะรับรู้ไม่ได้ ทว่าต่อให้เป็นเพราะเหตุนั้นแล้วยังไงล่ะเจ้าบ่าวรับไมค์ไปกรอกเสียงตอบก่อน “ผมแอบชอบภัทรตั้งแต่ตอนเธออยู่มัธยมต้น เธอเป็นรักแรกพบของผม ตั้งแต่วันนั้น เจ้าสาวของผมคือเธอคนเดียวครับ”และคำตอบตรงไปตรงมาของคนพูดน้อยเรียกเสียงกรีดร้องจากสาวๆ ทั้งงานเลยทีเดียว หลายคนนับนิ้วกันใหญ่ หลายปีเชียว ผู้ชายในงานยังยกนิ้วโป้งส่งให้ นายแน่มาก...ตอนนี้ณภัทรหน้าแดงก่ำไปหมด เขินจนตอบไม่ถูกแล้วค่ะพิธีกรให้เวลาเธอได้สะเทิ้นอายพอประมาณแล้วเริ่มถาม “แล้วเจ้าสาวล่ะครับ เริ่มรักเจ้าบ่าวตอนไหนเอ่ย?”หญิงสาวค่อยๆ ตอบเสียงสั่น “รู้ตัวว่ารักหมดใจเมื่อไม่นานมานี่ล่ะค่ะ ก่อนหน้านั้นแค่มึนๆ ไม่ค่อยเข้าใจ”เสียงหัวเราะดังครืน คำตอบของเจ้าสาวยียวนใช้ได้เจ้าบ่าวแซวเธอ “เพราะแบบนี้ไงถึงต้องรีบแต่งงานเร็วๆ กลัวเจ้
งานหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายหรูหราที่บ้านปัญจรักษ์ในหนึ่งเดือนต่อมา มีเพียงญาติสนิทและมิตรสหายเท่านั้นที่ได้รับสิทธิ์ร่วมงานสำคัญครั้งนี้ ส่วนงานฉลองมงคลสมรสจะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรมในเครืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้าทว่าระหว่างนั้นณภัทรกลับเริ่มมีความผิดปกติของร่างกาย เธอรู้สึกผะอืดผะอมขมคอปั่นป่วนมวนท้องในตอนลืมตาตื่นตอนเช้า หญิงสาวคลื่นไส้อาเจียนและไวต่อกลิ่นกับอาหารการกินทุกอย่างเธอนึกขึ้นได้ว่าหยุดกินยาคุมกำเนิดตอนที่ห่างกับนิรัช แต่แล้วพลันถูกเขาจู่โจมอย่างร้อนแรงในเพ้นท์เฮ้าส์วันนั้น ถุงยางอนามัยก็ไม่ได้ใส่ กว่าจะรู้ตัวว่าลืมป้องกันก็ไม่ทันแล้วสุดท้ายความจริงจึงกระจ่าง เนื่องจากผลการตรวจครรภ์ของณภัทรขึ้นสองขีดเต็มๆทั้งนิรัชและณภัทรถูกลินดาเรียกไปต่อว่าเสียยกใหญ่เรียกได้ว่าบ้านแทบแตกพวกเขาได้แต่ก้มหน้าก้มตายอมรับผิดอย่างจำนนคนเป็นแม่โกรธจัดไม่ใช่เพราะอยากทำเหมือนที่บ้านเดิมหรืออะไร แค่รู้สึกผิดหวังที่ลูกสาวไม่ยอมบอกความจริงเท่านั้น“ภัทรไม่ควรโกหกแม่นะ ลูกคิดว่าแม่จะตัดหางปล่อยวัดเหมือนบ้านคุณตาคุณยายหรืออย่างไร? แม่ไม่สิ้นคิดทำร้ายลูกสาวสุดที่รักของแม่ขนา
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีที่แล้ว ก่อนนิรัชเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกา เขาคุยกับวิชัยตามตรงที่สนามบินโดยไม่ปิดบัง‘ผมกับภัทรรักกันเกินพี่น้อง เราสองคนจะแต่งงานทันทีเมื่อเรียนจบ’นั่นจึงทำให้วิชัยถึงขั้นไม่พูดไม่จา ยามเดินกลับมาสมทบกับลินดาและณภัทรที่ร้านอาหาร สีหน้าเขาเย็นชา ท่าทางเคร่งขรึม ครู่ใหญ่จึงยอมปริปาก“ตารัชไปแล้ว...ใจหายเหมือนกันนะ”ลินดารีบจับมือสามีมากุมเอาไว้ “เด็กๆ ต้องโตขึ้นค่ะ ตารัชจะเติบใหญ่โดยสมบูรณ์แล้วกลับมาดูแลปัญจรักษ์อย่างดีนะคะ”ชายวัยกลางคนพยักหน้า ตบเบาๆ ที่หลังมือภรรยา “อืม...ลูกๆ ของเรา พวกเขาโตแล้วจริงๆ”พวกเขาไม่ใช่แค่เด็กชายเด็กหญิงไร้เดียงสาอีกแล้ว... หลังจากนั้น วิชัยจึงค่อยๆ มอบหมายงานถึงขั้นมอบกิจการให้ณภัทรดูแลแบบเต็มตัว เพื่อฝึกเป็นสะใภ้หนึ่งเดียวแห่งปัญจรักษ์เพราะนั่นคือสินสอดทองหมั้น คือของขวัญรอวันแต่งงานของลูกชายกับลูกสาวณภัทรได้ฟังความจริงจากปากของนิรัชก็ได้แต่อึ้งส่วนปัญหาเรื่องผู้หญิงที่ชื่อชัญญ่า และห้องหนึ่งซึ่งพวกเขาอยู่ด้วยกัน ล้วนเป็นการเข้าใจผิดในห้องนั้นคือโซนวีไอพีให้กลุ่มที่นัดทำโปรเจกต์ร่วมกัน เจ้าของห้องคือแฟนต่างชาติของชัญญ่าณภ
ในขณะที่ณภัทรเปล่าเปลือยทั้งตัว นิรัชยังเหลือเสื้อด้านบน เขาหยัดกายขึ้นถอดมันออกไม่ไยดี เผยกล้ามตึงแน่นเรียงตัวงดงามเขาก้มหน้าลง บดจูบเธออีกครั้งและอีกครั้ง ลงลิ้นชิมรสหวานฉ่ำอย่างโหยหามาแรมปี ท่าทางร้อนรนและเก็บกดเต็มที่ เนินอกอวบนิ่มบดเบียดกล้ามลอนแข็งแกร่งแนบแน่นการขยับเสียดสีก่อเกิดความวาบหวิวสยิวซ่านในอีกครา ความพลุ่งพล่านเกิดขึ้นอีกคำรบ พวกเขายังคงไร้ซึ่งคำพูดใดต่อกันกระนั้นร่างกายกลับรู้ดีไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ นิรัชอุ้มณภัทรไปวางลงบนโซฟา เปลี่ยนสถานที่ร่วมกระสัน ปรับเปลี่ยนท่วงท่า เพิ่มความตื่นเต้นในลีลาแห่งรักใคร่คราวนี้เป็นสาวน้อยบ้างขึ้นคร่อมข้างบน อีกคนนั่งเอนกายพิงแผ่นหลังกับพนัก ปล่อยเธอย่ำยีคุมเกมส์ตามอัธยาศัยเสียงหอบกระเส่าของเขาดังอยู่ริมหู อกแกร่งสะท้านขึ้นลงใต้ร่างเธอณภัทรก้มหน้ากัดสันกรามอย่างแรง ทั้งประชดและหมั่นไส้ นิรัชเงยหน้าขึ้น หอมแก้มแดงฟอดใหญ่แววตาคมดุเต็มเปี่ยมไปด้วยความนัย ทำเอาคนถูกจ้องต้องสะเทิ้นอาย ขัดเขินโดยที่เขาไม่ต้องเอ่ยอะไรสักคำสะโพกกลมงามโยกเบาๆ แต่หน่วงหนึบตอดรัด เรียกเสียงสูดปากจากชายใต้ร่างได้ไม่ยาก เขาซุกซบใบหน้าลงบนเนินอกสล้าง ดูดกลื
นิรัชลงมือลงทัณฑ์รวดเร็ว ไม่ให้นักโทษสาวได้ตั้งตัวห้องครัวกลายเป็นสนามรักอันบ้าคลั่ง โต๊ะตัวยาวที่เดิมทีใช้กินอาหารยังกลายเป็นสถานที่เริงรักอันร้อนแรงตอนนี้ ณภัทรใจเต้นเร่าเหมือนจะตายให้ได้ ดวงตาหลับปี๋แน่นอนเธอตกใจ แต่ที่มากกว่านั้นคือกล้ามเนื้อในตัวเธอกำลังเต้นอย่างรุ่มร้อน ปวดตุบๆ ด้วยความถวิลหาผู้ชายตรงหน้าคือนิรัชไม่ผิดแน่ภายในกายเธอบีบรัด ทั้งเปียกทั้งพร้อมในเวลาอันรวดเร็ววูบแรกเธอรู้สึกน้อยใจจนเกือบจะท้อถอยถอดใจ ทว่าวูบต่อมาเธอกลับเอียงหน้าแนบเข้าหาสัมผัสของเขาตามสัญชาตญาณคนเราจะรู้สึกคิดถึงถวิลหาและรักใคร่หมดใจจนความผิดอะไรก็ลืมไปได้จนสิ้นในพริบตา แบบนี้เลยเหรอ?ท่ามกลางความรู้สึกสับสนมึนงงปนเป ณภัทรถูกนิรัชสั่นคลอนจิตใจโดยสมบูรณ์ ชายหนุ่มหญิงสาวคล้ายไฟเจอน้ำมัน เผาไหม้กลืนกินไม่ยั้ง ราวพายุหมุนพัดพาทุกสรรพสิ่งอย่างบ้าคลั่งนิรัชปลดเปลื้องกางเกงของตนอย่างรวดเร็ว หอบทุกความปรารถนาบรรจุลงบนความต้องการของร่างกายที่แข็งขึงตึงผงาดความเป็นชายสั่นระริกเพราะแข็งจัดเบียดเสียดแนบสนิทกับส่วนอ่อนไหวที่บัดนี้ฉ่ำเยิ้มพร้อมพรั่งกระทั่งสองร่างสอดผสานแนบแน่นถึงได้รู้ว่าพวกเขาตัวสั่น อ
แม้ปากจะบอกแบบนั้น แต่ทุกวันที่ผันผ่านก็ยังคงเลวร้ายในความรู้สึกอยู่มากโชคดีที่ณภัทรเป็นคนที่จัดการกับความรู้สึกตนเองได้เป็นอย่างดี หญิงสาวยิ่งรู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่เธอเลือกเร้นรัก กักเก็บความสัมพันธ์ฉันแฟนกับนิรัชโดยไม่คิดเปิดเผยออกมาเผื่อที่ว่าถึงวันหนึ่งเรื่องของเธอกับเขามันเป็นไปไม่ได้ อะไรๆ จะได้ไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้ผู้ชายน่ะ เวลาเปลี่ยนใจไปมีคนใหม่ พวกเขาจะสามารถมองหน้าผู้หญิงคนเก่าได้อย่างสบาย ทำทีเป็นไม่เคยมีอะไรต่อกันก็ยังได้ เพราะฉะนั้น เพื่อรักษาระดับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องให้ครอบครัวไร้ปัญหา เธอก็จะต้องทำได้เช่นกันแต่ว่า...นั่นเฉพาะต่อหน้าคนอื่นเท่านั้นนะเวลาอยู่คนเดียว ณภัทรจะแอบร้องไห้บ้างอะไรบ้าง ตามประสาคนอกหักรักคุด รักผิดชีวิตสะดุด หยุดอยู่กับที่ไม่กล้าเดินหน้าคบใครต่อไปหลังจากเรียนจบปีสุดท้าย โมรินกับศรุตก็จับมือบินลัดฟ้า พี่เอมี่ก็ไปเป็นนางแบบอินเตอร์โดยมีคุณเควินคอยซับพอร์ตณภัทรจึงเหลือตัวคนเดียวโดยสมบูรณ์โคตรเหงา...เนื่องจากเรียนจบแล้ว ระหว่างรอรับปริญญา หญิงสาวจึงเข้าออฟฟิศทำงานเต็มตัว เต็มที่กับโครงการร่วมทุนสร้างกับคู่ค้า ตอนนี้เธอยัง