เข้าสู่ระบบChapter 5
เอี๊ยดดดด...
รันเวย์ตีไฟเลี้ยวเข้าข้างทางและจอดรถกะทันหัน มือแกร่งปรับเลื่อนเบาะถอยหลัง และใช้มือปลดเบลต์ทั้งเขาและเธอออก ชายหนุ่มกระชากร่างบางมานั่งคร่อมบนตัวเขา จนกระโปรงตัวสั้นร่นขึ้นไปกองไว้ที่เอวบาง ทำให้ตอนนี้ดูเหมือนว่าหญิงสาวใส่เพียงแพนตี้ตัวจิ๋วสีขาวนั่งคร่อมอยู่บนตักแกร่ง
“ว้ายยย...ปล่อยฉันนะพี่เวย์ ทำบ้าอะไรของพี่เนี่ย” หญิงสาวดีดดิ้นไปมาบนตักแกร่งที่ถูกพันธนาการไว้แน่นด้วยอ้อมกอดของเขา แพรดาวพยายามเอามือดึงกระโปรงตัวสั้นลง เพื่อปิดบังส่วนล่างที่แทบจะโป๊เปลือยต่อหน้าเขา
“จะดึงลงทำไมวะ เธอแต่งตัวแบบนี้ อยากให้คนอื่นเห็นอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?” รันเวย์จับมือบางไขว้หลังด้วยมือข้างเดียว
“ใช่! ฉันอยากให้คนอื่นเห็น แต่คนคนนั้นต้องไม่ใช่พี่ อื้อ!” แพรดาวยังพูดไม่ทันจบประโยค ปากหยักก็ฉกจูบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างหนักหน่วง
“อื้อ! เอ็บ!” ปากหยักขบเม้มกัดริมฝีปากอวบอิ่มอย่างแรง จนได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งภายในโพรงปาก
ชายหนุ่มใช้ปากหยักดูดซับเลือดที่ซึมไหลออกมา ก่อนจะผละปากออก
“อึก! เจ็บ~” แพรดาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ริมฝีปากบางสั่นระริกและจ้องมองใบหน้าคมคายด้วยน้ำตาคลอเบ้า
“เจ็บก็จำ! อย่ามาปากดีกับฉัน” สายตาคมกริบจ้องมองดวงตากลมโตด้วยแววตาดุดัน และใช้ปลายนิ้วลูบวนขอบแพนตี้ตัวจิ๋ว และลูบไล้เนินอวบอูมผ่านเนื้อผ้าตัวบาง
“อื้อ! พี่เวย์ อย่ามาทำทุเรศแบบนี้กับฉันนะ ปล่อย!” ร่างบางดีดดิ้นไปมาบนตักแกร่ง จนทำให้ความเป็นชายที่อยู่ภายใต้กางเกงแข็งขึงขึ้นจนปวดหนึบไปทั้งลำ ชายหนุ่มขบกรามไว้แน่น แต่มันก็ไม่สามารถเก็บเสียงครางความซ่านสยิวไว้ได้
“อืม~ อย่าดิ้น ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” รันเวย์เอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“พี่ก็ปล่อยฉันสิ พี่จะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ” แพรดาวเอ่ยบอกรันเวย์ด้วยน้ำเสียงอ่อนลง เพราะยิ่งถ้าเธอต่อต้านผู้ชายร้ายกาจอย่างเขามากเท่าไร เขาก็ยิ่งรุนแรงกับเธอมากเท่านั้น
“จะยอมเปลี่ยนกระโปรงตัวใหม่ดีๆไหม...ฮะ! เพราะถ้าขืนเธอยังยืนยันที่จะใส่กระโปรงตัวนี้ไปมหาลัยละก็...” มือสากบีบขยำเนินอวบอูมอย่างแรง จากนั้นเขาสอดนิ้วเรียวยาวเข้าไปใต้แพนตี้ตัวจิ๋ว แล้วลูบไล้สัมผัสเนื้อเนียนละเอียดอย่างอุกอาจ
“อ๊ะ! นะ...หนูยอมแล้วพี่เวย์ น้องแพรยอมแล้วค่ะ...” แพรดาวเอ่ยบอกรันเวย์ด้วยน้ำเสียงสั่น และขยับสะโพกถอยหนีนิ้วร้ายของเขา เมื่อรู้ว่าเขากำลังคิดจะทำอะไร
“หึ...” รันเวย์ยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ เมื่อหญิงสาวแทนตัวเองด้วยสรรพนามที่เปลี่ยนไปด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“เวลาขอร้องผู้ใหญ่ต้องทำยังไงก่อน” รันเวย์เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่เป็นคำพูดที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์
“อะไร?” หญิงสาวทำหน้างุนงง ไม่เข้าใจความหมายที่เขาต้องการสื่อออกมา
“หอมแก้มฉันดิ๊” รันเวย์เอ่ยบอกแพรดาวถึงความต้องการของเขา
“ทำไมฉัน เอ๊ย!...ทำไมแพรจะต้องหอมแก้มพี่เวย์ด้วย แพรไม่หอมหรอก ไม่มีทางซะหรอกที่แพรจะทำแบบนั้น” หญิงสาวเอ่ยปฏิเสธไม่ยอมทำตามสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการ
“ถ้าไม่ทำก็ไม่เป็นไรนะ งั้น...เธอก็นั่งอยู่บนตักของฉันแบบนี้นี่แหละ เปิดเทอมวันแรกก็ไม่ต้องไปมหาลัย” รันเวย์ใช้มือสากลูบไล้ขาเรียวแผ่วเบา
“จิ๊!...” หญิงสาวยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มสากหนึ่งฟอดด้วยความไม่เต็มใจนัก
ฟอด!
“อีกข้างด้วย”
“จิ๊!”
ฟอด!
“พูดอะไรให้ฟัง อย่าดื้อกับฉันให้มาก เพราะฉันไม่ได้ใจดีเหมือนไอ้เฟิลมันหรอกนะ” ในขณะที่รันเวย์พูดไปด้วย เขาก็อุ้มหญิงสาวไปนั่งบนเบาะฝั่งข้างคนขับตามเดิม
“ฉันไม่ได้ใจดีเหมือนไอ้เฟิลมันหรอกนะ...ชิ!” แพรดาวหันหน้าหนี ก่อนจะบ่นพึมพำตามคำพูดของเขาด้วยความหมั่นไส้
“พูดอะไรคิดว่าฉันไม่ได้ยินเหรอแพรดาว” รันเวย์เอ่ยพูดน้ำเสียงเข้มใส่คนตัวเล็กที่ดื้อรั้นเหลือเกิน
“หูดี...” แพรดาวก็ยังบ่นพึมพำให้กับผู้ชายร้ายกาจไม่หยุด
“แพรดาว” รันเวย์เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“โอ๊ย! แพรก็แค่ร้องเพลงเฉยๆ เอง ‘ปากดีเหลือนะเรา แค่ทิ้งคนที่ทำร้าย’ แพรดาวแสร้งร้องเพลงให้เขาฟัง “พี่เวย์เคยได้ยินหรือเปล่าล่ะคะ เพลงปากดี ของโปเตโต้ น่ะ”
“อย่าดื้อ...” รันเวย์เอ่ยบอกแพรดาว และจ้องมองเธอด้วยแววตาดุดันจนแพรดาวต้องหลบสายตา
“ไม่เคยดื้อสักหน่อย” แพรดาวเบือนหน้าหนีเขา และยู่ปากตอบเขาราวกับเด็กน้อย จนคนมองแทบอยากจะกระโจนใส่หญิงสาว แล้วดึงเธอเข้ามาจูบอีกครั้งให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“หึ! แบบนี้แหละที่เขาเรียกว่าดื้อ...”
“รีบไปได้แล้ว ไหนบอกว่าจะให้แพรเปลี่ยนกระโปรงไง” แพรดาวรีบเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น เพราะถ้าขืนยังเถียงเขาอยู่แบบนี้ เธอก็เถียงคนอย่างเขาไม่ชนะอยู่ดี
“อย่าให้เห็นใส่กระโปรงตัวสั้นแบบนี้อีก ถ้าฉันเจอที่ไหนจะจับถอดที่นั่นเลยคอยดู”
“...”
“เข้าใจที่บอกไหม?”
“เข้าใจแล้วค่ะพี่เวย์ขา น้องแพรจะปฏิบัติตามคำสั่งของพี่ชายอย่างเคร่งครัดเลย ถ้าพอใจแล้ว เชิญขับรถออกจากตรงนี้ได้แล้วค่ะพี่ชายขา” แพรดาวตกปากรับคำและประชดรันเวย์ไปในตัว และในระหว่างที่หญิงสาวพูดไป เธอก็เอานิ้วกลางเกี่ยวทับนิ้วชี้ของตัวเองไว้ด้วย นั่นก็หมายความว่าเธอจะไม่ยอมทำตามสิ่งที่เธอได้เปล่งวาจาสัญญากับเขาเมื่อครู่เด็ดขาด แล้วเรื่องอะไรล่ะที่เธอจะต้องทำตามคนอย่างเขาด้วย…
“เหอะ! พี่ชาย…” รันเวย์สบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์กับประโยคท้ายของหญิงสาว จากนั้นเขาก็ปรายตามองเธอเพียงเล็กน้อย ก่อนขับเคลื่อนรถไปที่คอนโดของณิชาทันที...
ตอนพิเศษ 5@บ้านรันเวย์“ป๊าขา ป๊าหลงรักคุณแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” เพลงเอ่ยถามคุณพ่อของเธอด้วยความอยากรู้ตามประสาเด็ก โดยที่เธอกำลังนอนอยู่ตรงกลางบนที่นอนขนาดใหญ่ ส่วนรันเวย์และแพรดาวนอนขนาบข้างลูกของเขา“ป๊ารักแม่ของหนูตั้งแต่แม่ของหนูอายุสามขวบ แต่แม่ของหนูวิ่งหนีป๊าตลอดเลย ป๊าก็วิ่งหอมแก้มแม่ของหนูทุกครั้งที่เห็นหน้า ส่วนแม่ของหนูก็วิ่งร้องไห้ไปฟ้องคุณตาของหนู แล้วแม่ของหนูก็ชอบพูดกับป๊าว่า หนูไม่ชอบพี่เวย์” รันเวย์เอ่ยเล่าเรื่องวัยเด็กให้ลูกสาวของเขาฟัง ก่อนจะเหล่ตามองแพรดาวที่มองเขาอยู่ด้วยสีหน้ายิ้มๆ“โอ๋ๆ หนูสงสารปะป๊าจังเลย โดนคุณแม่ปฏิเสธตั้งแต่เด็ก” เพลงยกแขนเล็กเข้าไปโอบกอดคุณพ่อของเธอเพื่อปลอบใจ“หนูเหมือนปะป๊าเลยที่มีความรักตั้งแต่เด็ก แต่หนูดีหน่อยที่พี่ไบร์ทก็รักหนู หนูเลยไม่ได้กินแห้วเหมือนปะป๊า” เพลงเอ่ยพูดกับคุณพ่อของเธอราวกับผู้ใหญ่ปรับทุกข์กัน“เพลงแก่แดดจัง” เพ้นท์เอ่ยขึ้น“เพ้นท์จะไปเข้าใจอะไรล่ะ ในเมื่อเพ้นท์ยังไม่มีความรัก” เพลงเอ่ยขึ้น“โอ๊ยยย...ปวดหัวกับความรักของลูกสาวป๊าจังเลย” รันเวย์เอ่ยพูดอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะเอานิ้วจิ้มไปที่เอวน้อยของเพลง“อ๊ายยยย ฮ่าๆๆ
ตอนพิเศษ 4@บ้านบิ๊กบอส“พี่ไบร์ทขา” เด็กหญิงเพลงวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าไปหาเด็กชายไบรตันด้วยความดีใจ จนรันเวย์ต้องส่ายหัวเบาๆ ให้กับความดื้อรั้นของลูกสาวเขา“น้องเพลง” เด็กชายไบรตันรีบลงจากโซฟา และวิ่งเข้าไปโอบกอดเด็กหญิงตัวน้อยของเขาด้วยความคิดถึง“ฟอด! คิดถึงน้องเพลงจังเลย” เด็กชายไบรตันหอมแก้มนิ่มของเด็กหญิงตัวน้อยฟอดหนึ่ง“ดูลูกชายมึงนะไอ้บอส ดูลูกชายมึงทำ” รันเวย์เอ่ยพูดเสียงเข้มกับเพื่อนของเขา“ฮ่าๆ เด็กๆ มันเอ็นดูกัน มึงเก่งมากนักก็ไปห้ามลูกสาวของมึงสิ” บิ๊กบอสเอ่ยพูดยิ้มๆ“เพื่อนหนูไปไหนอะพี่บอส” แพรดาวเอ่ยถามถึงเพื่อนสนิทของเธอ“ออกไปทำธุระกับคุณแม่ตั้งแต่เช้าเลยน้องแพร เพื่อนของน้องทิ้งให้พี่อยู่เฝ้าบ้านกับเจ้าแสบไบรตันกันสองคน” บิ๊กบอสเอ่ยนินทาเมียของเขาให้เพื่อนสนิทของเมียฟัง“หนูอัดคลิปเสียงไว้แล้ว เรื่องนี้ต้องถึงหูเพื่อนของหนู คิกๆ” แพรดาวชูมือถือขึ้น แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ให้บิ๊กบอส“เมียมึงนี่แสบมากไอ้เวย์” บิ๊กบอสเอ่ยพูดกับรันเวย์“หึๆ เพราะแสบแบบนี้ไง ถึงได้โดนกูปราบบนเตียงบ่อยๆ” รันเวย์เอ่ยพูด ก่อนจะหันไปมองหน้าแพรดาวยิ้มๆ“ก็มึงมันชอบปราบเด็กพยศอยู่แล้วนี่หว่า” บิ๊กบอสเอ่ยพู
ตอนพิเศษ 3“ลูกชายจงมา ลูกชายจงมา” ร่างแกร่งหมุนเอวสอบบดขยี้ร่องแคบ ก่อนจะถอดลำแกร่งออกจากร่องแคบ“ลุกขึ้นไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ จะได้ลงไปหาลูก”“งั้นไปอาบพร้อมกัน” ชายหนุ่มหยัดตัวขึ้น ก่อนจะอุ้มร่างบางเดินเข้าห้องน้ำไป“อ๊ายยย เฮียพอแล้ว” ร่างบางเปล่งเสียงร้องลั่นอยู่ในห้องน้ำ เมื่อเขาจับเธอหันหน้าเข้ากำแพงห้องน้ำ“อีกรอบนะเด็กดี เฮียยังอยากอยู่เลย ไหนๆ ลูกก็เปิดโอกาสให้เราแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะดันแก่นกายเข้าร่องแคบอีกครั้ง“อื้อ~” ศึกรักเริ่มบรรเลงขึ้นมาอีกครั้งด้วยความโหยหา เขาและเธอเปล่งเสียงครางระงมภายในห้องน้ำด้วยความเสียวซ่าน จนตอนนี้ภายในห้องน้ำตลบอบอวลด้วยกลิ่นอายไฟเสน่หาที่เร่าร้อนวันต่อมา... “พากันแต่งตัวอะไรแบบนี้วะเนี่ย” รันเวย์ที่นั่งรอเมียและลูกของเขาอยู่ที่ห้องรับแขก ต้องขมวดคิ้วจนเป็นปม เมื่อเห็นสามแม่ลูกใส่ชุดธีมเดียวกัน ซึ่งกระโปรงแต่ละคนทำเอาเขาแทบกุมขมับ เพราะแต่ละคนสวมใส่กระโปรงสั้นจิ๋วเลยทีเดียว“ปะป๊า ทำไมต้องทำเสียงดุด้วย” เพลงวิ่งเข้าไปโอบกอดขาแกร่งคุณพ่อของเธออย่างเอาใจ“ไม่เสียงดังนะคะคุณพ่อ หนูกลัว” เพ้นท์เข้าไปกอดขาแกร่งคุณพ่อของเธอ
ตอนพิเศษ 2แกร๊ก~"..." แพรดาวเมื่อเห็นสามีของเธอเปิดประตูเข้ามา เธอก็หยัดลุกขึ้นจะเดินหนี"จะหนีไปไหนครับเด็กดี ไม่คิดถึงเฮียเหรอ" รันเวย์เข้าไปโอบกอดแพรดาวไว้แน่นด้วยความคิดถึง จากนั้นเขาก็สูดดมผมสลวยและซุกไซ้ซอกคอของเธออย่างหื่นกระหาย"ปล่อยเลยนะคนใจร้าย ฮึก~" แพรดาวดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนแกร่ง ก่อนที่น้ำตาของเธอจะรินไหลออกมาด้วยความน้อยใจ"อย่าโกรธเฮียเลยนะที่รัก เฮียไม่ได้ตั้งใจจะไปญี่ปุ่นนานถึงหนึ่งอาทิตย์เลยนะ พอดีงานที่นั่นมีปัญหาจริงๆ" รันเวย์เอาปลายคางเกยไว้ที่ไหล่มน และเอ่ยบอกเธอด้วยน้ำเสียงกระเส่าที่กกหูเล็ก"เฮียรู้ไหมว่าคนที่นับวันรอเฮียกลับมา มันคิดถึงเฮียมากขนาดไหน" แพรดาวเอ่ยพูดด้วยริมฝีปากสั่นระริก เพราะถึงเธอจะมีลูกแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังติดเขาเหมือนเดิม อยากอยู่ใกล้เขา อยากเจอหน้าเขาทุกวัน"เฮียก็คิดถึงหนูที่สุด หนูใจร้ายมากเลยนะ ไม่ยอมรับโทรศัพท์เฮียเลย""ก็เฮียใจร้ายกับหนูก่อนหนิ" แพรดาวยู่ปากพูดอย่างเง้างอน"งั้นเฮียขอไถ่โทษกับหนูบนเตียงนะที่รัก" รันเวย์เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะอุ้มภรรยาสาววางไว้บนเตียงอย่างเบามือ"เฮีย..." ปากเล็กเอ่ยเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสีย
ตอนพิเศษ 1เจ็ดปีต่อมา...รถสปอร์ตหรูขับเคลื่อนเข้ามาจอดที่ลานจอดรถบ้านหลังใหญ่ จากนั้นเขาก็หันไปหยิบตุ๊กตาหมีสองตัวกับดอกกุหลาบสีแดงสดช่อใหญ่มาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง นักธุรกิจหนุ่มหล่อลงจากรถและเดินเข้าบ้านไปด้วยรอยยิ้มแห่งความคิดถึง เพราะตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาไม่ได้เจอลูกสาวตัวน้อยและภรรยาสุดที่รักของเขาเลย เพราะเขาติดงานสำคัญที่ญี่ปุ่น"น้องเพ้นท์ น้องเพลง ปะป๊ากลับมาแล้วครับ" รันเวย์เอ่ยบอกลูกสาวฝาแฝดของเขาด้วยรอยยิ้มเมื่อแพรดาวเห็นสามีของเธอเดินเข้ามาในบ้าน เธอก็กระซิบบอกอะไรบางอย่างกับลูกสาวตัวน้อยของเธอทั้งสองคน ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นและเดินขึ้นห้องส่วนตัวไปอย่างเง้างอน"อ้าว...หนูจะเดินหนีเฮียไปไหนครับ" รันเวย์เอ่ยถามแพรดาวหน้าตาตื่น เมื่อเห็นภรรยาตัวน้อยของเขาเดินหนีขึ้นห้องไป"ห้ามรบกวนคุณแม่นะคะ ปะป๊า" เพ้นท์และเพลงเด็กน้อยฝาแฝดหน้าตาจิ้มลิ้มราวกับตุ๊กตากางแขนเรียวเล็กสุดแขน เพื่อกั้นขวางไม่ให้คุณพ่อของพวกเธอตามคุณแม่ของพวกเธอขึ้นห้องไปได้"ปะป๊าใจร้าย ทิ้งหนูกับคุณแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ชิ! หนูงอนป๊าแล้ว" เสียงเล็กของเพลงเอ่ยต่อว่าคุณพ่อของเธอ ก่อนจะทำแก้มป่องเบือนหน้าหนีคุณพ
The endรุ่งเช้า6.00 น.เมื่อรันเวย์ออกมาจากเต็นท์พร้อมแพรดาว เขาก็เลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นไรเฟิลณิชา คิมหันต์นั่งผิงไฟอยู่หน้าเต็นท์ มิหนำซ้ำหน้าตาของทั้งสามคนยังดูอิดโรยราวกับคนไม่ได้นอน“ตื่นเช้าจังวะ” รันเวย์เอ่ยถามเพื่อนของเขา“กูยังไม่ได้นอนเลย มึงเห็นขอบตาพวกกูไหมเนี่ย? จะเป็นหมีแพนด้าอยู่แล้ว” ไรเฟิลเอ่ยตอบรันเวย์ด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก“ครางห่าอะไรขนาดนั้นวะ กูไม่น่าหลวมตัวมาเที่ยวกับพวกมึงเลย” คิมหันต์เอ่ยพูดประชดรันเวย์ ก่อนจะมองไปอีกเต็นท์ที่ยังไม่ออกมา“หาววว ตื่นก็ดีแล้ว ฉันจะได้นอนบ้าง” ณิชาปิดปากหาวหวอดๆ ก่อนที่เธอจะเดินเข้าเต็นท์ของเธอ“ไม่ไปดูทะเลหมอกเหรอวะณิชา” รันเวย์เอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นณิชากำลังจะเข้าไปในเต็นท์ของเธอ“ไม่ล่ะ ฉันนั่งดูดาวตกทั้งคืนแล้ว ขอนอนก่อนนะ ง่วง”“ไอ้เชี่ยเอ๊ย! กูก็นึกว่ามาทริปม่อนแจ่มมาดูทะเลหมอก ที่ไหนได้กูมาทริปแข่งกันเย็Xไอ้ฉิบหาย ฟังเสียงครางจนอารมณ์ค้างเลยกู” ไรเฟิลเอ่ยจบ เขาก็เข้าไปเต็นท์ของเขาทันที“กูนอนละ เชิญดูทะเลหมอกให้สมใจ” คิมหันต์เอ่ยพูด ก่อนจะยกมือปิดปากหาวแล้วเข้าเต็นท์ไปอีกคน“เฮียครางเสียงดัง จนรบกวนพวกพี่ๆ เขาเลยนะ” แพ







