แชร์

บทที่ 43

ผู้เขียน: มายุมายูมายา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-01 21:26:39

 

#####บทที่ 43

 

 

หลังจากวันนั้นที่ได้รู้ว่าพิษที่ทำให้ชาวบ้านหมู่บ้านเทียนหลิวมีอาการท้องร่วงคือพิษที่อยู่ในน้ำ ซือหมิงก็จัดการส่งต่อเรื่องนี้ให้พี่ใหญ่ไป๋เหิงซานจัดการเรื่องต่อทันที ส่วนซูเมิ่งก็ได้เพียงรักษาตัวรอหมอพิษอยู่ที่คฤหาสน์ นางเจอหน้าเพียงบ่าวรับใช้สตรีและซือหมิงบ้างเป็นครั้งคราว เพราะดูเหมือนว่าช่วงนี้เขาจะมีงานให้ทำเยอะมากซึ่งนั่นก็ดีต่อซูเมิ่งที่ไม่ต้องเจอใบหน้าหลากอารมณ์ของเขา

และวันนี้ก็เป็นวันที่ซือหมิงตกลงกับซูเมิ่งไว้ว่าจะพานางกลับตระกูลไป๋รอหมอพิษอยู่ที่นั่นแทน ซึ่งซูเมิ่งก็เป็นกังวลความรู้สึกของคนในตระกูลเช่นกัน ไม่รู้ว่าบิดาและพี่ชายของนางทั้งสองจะเสียใจเพียงใดที่นางหายตัวไป จากการเดินทางแสนสะดวกสบายเพราะทั้งรถม้าถูกบุด้วยผ้านวมหนานุ่ม อีกทั้งเตาอุ่นในรถก็ทำงานได้ดียิ่งทำให้ตลอดการเดินทางตลอดหลายวันมานี้ซูเมิ่งสบายกายเป็นอันมากมีบ้างที่ปวดตัวเนื่องจากนั่ง ๆนอน ๆนาน

ซือหมิงให้รถม้าคันงามหรูหราไปส่งซูเมิ่งถึงประตูจวนไป๋ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจทำให้ภายในจวนมีเรื่องยินดีอีกครั้ง เวลาเพียงไม่นานข่าวที่คุณหนูไป๋ซูเมิ่งที่หายสาบสูญไปกลับมาอย่างปลอดภัยก็แพร่กระจายทั่วเมืองหลวง และกลายเป็นหัวข้อในวงน้ำชาด้วยหัวข้อสุดเร่าร้อนที่ว่า 

หายไปหนึ่งแต่กลับมาสอง คุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ที่หายสาบสูญกลับมาอย่างปลอดภัยพร้อมรถม้าคันหรู 

หัวข้อเรื่องคุยในโรงน้ำชาแม้เหมือนกันแต่เนื้อหาของแต่ละที่แต่ละแห่งกลับต่างกันออกไป

บ้างก็บอกกันว่าที่บอกว่ากลับมาถึงสองหมายถึงคุณหนูซูเมิ่งตั้งครรภ์ ซึ่งเจ้าของเด็กก็คือเจ้าของรถม้าคันหรูนั่นแหละ โดยระหว่างที่เจ้าตัวหายสาบสูญนั้นอยู่กินกับบุรุษแก่หงำเหงือกสุดร่ำรวย พอถึงเวลาหนึ่งถึงค่อยพามาคืนที่ตระกูลไป๋ เหตุผลอาจเพราะเบื่อหรือเป็นเพราะส่งกลับมาเพื่อกลับมาเตรียมงานแต่งงาน

บ้างก็ว่ากลับมาถึงสองหมายถึงอีกหนึ่งคือสามี และเจ้าของรถม้าคันหรูอาจเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือไว้ยามลำบากอยู่ข้างนอก

และที่ร้ายที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่เดาว่าระหว่างที่คุณหนูซูเมิ่งระหกระเหินอยู่ด้านนอกนั้นอาจหาเลี้ยงตัวเองด้วยการเป็นนางในหอนางโลมก็เป็นได้ เพราะด้วยหน้าตาสวยสดงดงามนั้นหากไม่ทำอาชีพนี้ สตรีในห้องหอนางหนึ่งจะอยู่รอดมาถึงตอนนี้ได้อย่างไรกัน ส่วนเจ้าของรถม้าคันหรูอาจเป็นลูกค้าคนหนึ่งที่ไถ่ตัวนางออกมาและรับเลี้ยงก็เป็นได้

“ให้ข้าไปจัดการไหมเจ้าคะ?”

เสียงสตรีไร้ซึ่งความอ่อนหวานติดจะแข็งทื่อผิดนิสัยบ่าวดังขึ้น แต่ก็ต้องหยุดโดยพลันเมื่อซูเมิ่งส่ายหน้าให้ ริมฝีปากบางแย้มยิ้มอารมณ์ดีทำราวกับหัวข้อสนทนาตรงหน้ามิใช่เรื่องของตน

“ดื่มชาเถอะ เดี๋ยวข้าต้องไปตามนัดแล้ว”

ข้างกายซูเมิ่งนั้นมีสตรีสองคน หนึ่งคือไป๋จื่อ บ่าวสนิทคนเดิม ส่วนสตรีอีกคนนั้นก็คือคนในหัวข้อข่าวนั่นเอง นางคือลูกน้องคนหนึ่งของซือหมิงที่เขาให้มาติดตามนาง นามว่า ถิงเย่ นางคือสตรีน้อยคนในลูกน้องของซือหมิง มีฝีมือแก่กล้าและมีความรู้เกี่ยวกับการแพทย์บ้าง ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุให้เขาให้ถิงเย่มาติดตามนาง

หากให้ซูเมิ่งเดา เจ้าเนื้อความที่บอกว่าไปหนึ่งแต่กลับมาถึงสองน่าจะหมายถึงนางกับถิงเย่กระมัง เจ้าคนคิดหัวข้อข่าวนี่ก็ช่างรู้จักเล่นคำเสียจริง

 

“เรียบร้อยแล้วขอรับ ตอนนี้มิมีเรื่องใดเป็นที่พูดถึงได้เท่าเรื่องคุณหนูซูเมิ่งแล้วขอรับ”

ถงฝูเข้ามาเอ่ยบอกข่าวแก่ผู้เป็นนายที่นั่งดื่มน้ำชาอยู่ข้างห้อง แล้วอยู่ดีดีเจ้านายของเขาก็เกิดสำลักไอค่อกแค่กขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พอซือหมิงปรับลมหายใจตัวเองให้กลับมาเป็นปรกติได้จึงไล่ให้ถงฝูออกไปพลางเบี่ยงสายตาออกไปมองนอกหน้าต่าง

ใจที่เคยโดดเดี่ยวจนชาชินกลับรู้สึกปล่าวเปลี่ยวหัวใจขึ้นมา มันรู้สึกโหวงเหวงประหลาด ราวเขาขาดบางอย่างไป ลืมกินข้าวหรือจิบน้ำชายามดึกอย่างไรอย่างนั้น

 

ค่ำคืนในฤดูวสันต์บนฟากฟ้าหิมะตกโปรยปรายตลอดวันและยิ่งตกหนักในยามค่ำคืน ซูเมิ่งให้เย่าถิงดับไฟที่ตะเกียงจากนั้นนางจึงขึ้นไปบนเตียง ส่วนเย่าถิงก็ยกถาดยากลิ่นสุดจะแรงเกินที่นางต้านออกจากห้องไป ทำให้ภายในห้องมีเพียงเสียงเตาไฟประทุและเสียงสายลมพัดบางเบาด้านนอกเท่านั้น

เวลาผ่านไป หลังจากไฟในห้องซูเมิ่งดับไม่นานบานหน้าต่างที่พับปิดไว้ก็เปิดออกด้วยเสียงเบาขั้นสุดก่อนที่เงาของร่างในชุดดำทะมึนจะกระโดดผลุงเข้ามา ปลายเท้าแตะบางเบาไร้เสียงจากนั้นก็เคลื่อนย้ายร่างตัวเองไปที่เตียงหนึ่งเดียวในห้อง สายตาแสนคะนึงหามองไปยังใบหน้าเรียวรูปไข่ภายใต้แสงสลัวก่อนห้ามไม่ให้ยื่นมือออกไปสัมผัสความเนียนนุ่มมิได้ ฉับพลันเปลือกตาเรียวก็เปิดโพลง มือบางที่ก่อนหน้าอยู่ใต้ผ้าห่มยกขึ้นคว้าข้อมือของผู้บุกรุกพร้อมบิดสุดแรง จากนั้นก็ฉุดกระชากร่างผู้บุกรุกลงเพื่อเหวี่ยงตัวเองให้ลุกขึ้นจากนั้นหมุนตัวใช้เข่าข้างซ้ายกดไปยังหน้าอกของอีกฝ่าย พร้อมกระชากผ้าสีดำที่ปกปิดใบหน้าของคนใต้ร่างออก

“มิคิดว่าผู้มีตำแหน่งชินหวังจะลักลอบเข้ามาห้องสตรีในยามค่ำคืนเยี่ยงนี้”

ซูเมิ่งรู้สึกตัวว่ามีผู้บุกรุกตั้งแต่ตอนเขาเปิดหน้าต่างแล้ว และก็พอเดาได้ว่าอาจเป็นซือหมิง ด้วยเพราะตามจริงทุกคืนถิงเย่จะเฝ้าอยู่แถวรอบห้องของนางตลอด แต่ครานี้มีคนบุกรุกเข้ามาถึงเพียงนี้กับไม่แม้ได้ยินเสียงต่อสู้ใดใด ซูเมิ่งจึงคิดว่าคนที่บุกรุกเข้ามาเป็นเจ้านายนางนั่นเอง

ซึ่งซูเมิ่งก็ได้การตอบรับเป็นเพียงรอยยิ้มไร้คำตอบใดจากบุรุษที่นอนหงายให้นางใช้เข่ากดอยู่ใต้ร่าง

“ท่านมีธุระอันใดหรือ?”

ซูเมิ่งข่มความหมั่นไส้คนตรงหน้าไว้ นางตัดสินใจลุกขึ้นออกพลางเอ่ยถาม แต่เหมือนโลกหมุนกลับอย่างรวดเร็ว ภายในชั่ววาบหนึ่งตอนนี้ร่างบางในชุดแสนบางเบานั้นถูกกดลงสู้เบื้องล่างแทน และเป็นซือหมิงที่คร่อมนางอยู่ด้านบน

...เอ่อ ท่านี้มันออกจะวาบหวิวไปไปกระมัง?

“ข้าไม่มีธุระอันใดก็ไม่สามารถมาหาเจ้าได้หรือ?”

ก็ใช่น่ะสิ แต่นางเพียงได้แต่ตอบในใจ ตอนนี้นางต้องทำอย่างไรก็ได้ให้เขาออกไปจากการทับอยู่บนตัวนางเสียก่อน

“แต่ตอนนี้หม่อมฉันเริ่มหายใจไม่ออกแล้วเพคะ พระองค์ทรงลุกไปออกไปหน่อยเถอะเพคะ”

พูดพลางขยับตัวเท่าที่ทำได้ จนกระทั่งร่างสูงบนตัวของซูเมิ่งเบี่ยงกายลงจากการคร่อมตัวนางและทิ้งตัวลงนอนข้างกายซูเมิ่งแทน พร้อมแขนที่เอื้อมมากอด นางอย่างน่ามิอาย

“ปล่อยเพคะ!”

ไม่พูดเปล่า ซูเมิ่งใช้มือตัวเองแงะแขนที่พาดบนเอวไปด้วย

“ข้าขอกอดเจ้าครู่เดียว”

ซือหมิงพูดจบก็ออกแรงเพิ่มขึ้นรั้งร่างอันหอมกรุ่นเข้าสู่อ้อมอกตัวเองมากขึ้น พลางเลื่อนคางตัวเองวางตรงตำแหน่งหัวของคนในอ้อมกอด และหลับตาพริ้ม รอยยิ้มสุขใจปรากฏขึ้นบนหน้า

“เจ้าคงเสียใจเรื่องข่าวลือมากกระมัง”

ซูเมิ่งหยุดดิ้นทันที คิ้วบางเลิกขึ้นก่อนเอ่ยตอบ

“หม่อมฉันรู้สึกเฉย ๆเพคะ ใครจะพูดอะไรไปก็เรื่องของพวกเขา ความจริงเป็นเช่นไรตัวหม่อมฉันย่อมรู้ดี”

สำหรับซูเมิ่งนางออกจะชอบฟังเรื่องที่คนอื่นจินตนาการเสียด้วยซ้ำ

ซือหมิงลืมตาโดยพลัน เขามองศีรษะของคนในอ้อมกอดอย่างขัดใจ แต่แล้วก็ต้องยิ้มกระตุกเมื่อได้ยินประโยคถัดมา

“หากการที่พระองค์ทำเช่นนี้แล้วคิดว่าจะทำให้หม่อมฉันอับอายจนต้องร้องขอให้ใครมารับผิดชอบนั้น บอกเลยแผนนี้ไม่ได้ผลเพคะ”

พอนางพูดจบก็สัมผัสได้ถึงระดับการเต้นของหัวใจของคนด้านหลังเปลี่ยนไปจึงรู้ได้ทันทีว่าเป็นจริงอย่างที่นางคิด เมื่อครู่นางแค่จะลองใจอีกฝ่ายแต่ได้ผลเกินคาด เรื่องข่าวลือเป็นแผนของตาชินหวังนี่จริงด้วย

เขาปล่อยข่าวลือเพื่อให้นางอับอายจริงด้วย แต่เสียใจด้วยนะ สำหรับสตรีบ้านอื่นแผนนี้อาจได้ผลเกินคาด แต่สำหรับนางแล้ว นางไม่สนว่าใครจะคิดอย่างไรหรอก ไม่มีใครอยากแต่งงานด้วยแล้วอย่างไร นางอยู่คนหาเลี้ยงตัวเองก็ได้

เวลาผ่านไปหลายเค่อชินหวังก็ตัดใจจากไป แต่ก่อนไปเขาทิ้งคำพูดไว้ประโยคหนึ่ง

“เจ้าหนีไปไหนมิพ้นหรอก”

...ว่าแต่เขากำลังคิดว่านางกำลังหนีอะไรอยู่หรือ?

 

วันรุ่งขึ้นเย่าถิงเข้ามาแจ้งข่าวแก่ซูเมิ่งว่าพี่ใหญ่ที่เดินทางไปแก้ปัญหาที่หมู่บ้านเทียนหลิวกำลังเดินทางกลับมา และน่าจะถึงภายในวันรุ่งขึ้น ซึ่งดูจากรอยยิ้มของบ่าวของตนที่วิ่งมาบอกข่าวแล้ว พี่ใหญ่ไป๋เหิงซานน่าจะแก้ปัญหาได้แล้ว 

และดูเหมือนนางจะลืมบอกไปว่าหลังจากที่นางกลับมาทั้งท่านพ่อและพี่รองต่างก็ไม่บังคับให้นางอยู่แต่ในจวนอีก ทั้งยังจัดเวลาทุกเช้าให้มีอาจารย์มาสอนซูเมิ่งทั้งเรื่องขี่ม้าและฝึกดาบ หากนางเดามิผิดพวกเขาคงคิดได้ว่าการกันนางออกจากปัญหาคงมิใช่ทางออกที่ดี เห็นได้จากแม้คราก่อนพวกเขาจะไม่ให้นางมายุ่งกับเรื่องความขัดแย้งของตระกูลอย่างเด็ดขาดแล้ว แต่นางก็ยังถูกลูกหลงอยู่ดี และอีกเรื่องคือพวกเขาน่าจะยังไม่รู้ว่านางมีพิษกำเริบอยู่ช่วงนี้ หากซือหมิงไม่ได้บอกพวกเขาก็คงไม่รู้เพราะนางก็ไม่ได้บอกเช่นเดียวกัน

ยามสายระหว่างที่ซูเมิ่งเพิ่งกลับเข้ามาในเรือนตัวเองหลังฝึกดาบเสร็จ เย่าถิงที่ปรกติมักเดินแช่มช้าเปี่ยมด้วยมารยาทก็วิ่งพุ่งพรวดเข้ามาในห้อง พร้อมส่งเสียงร้องเรียกดังลั่นเรือน

“คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู!”

ซูเมิ่งพันผ้าคาดเอวตัวเองกลับ เพราะก่อนหน้านางกำลังถอดชุดเพื่อไปอาบน้ำล้างคราบเหงื่อไคลจากการออกกำลัง

“มีอะไรหรือ วิ่งหน้าตื่นมาเชียว”

เย่าถิงหยุดลงที่ตรงหน้าซูเมิ่ง นางก้มตัวลงหอบหายใจอย่างแรงก่อนเอ่ย

“มี มี เอ่อ คุณหนูต้องไปดูเองเจ้าค่ะ ที่ห้องโถงกลาง”

สีหน้าของซูเมิ่งฉายแววแปลกใจ แต่นางก็พยักหน้ารับคำ “งั้นข้าขออาบน้ำล้างตัวก่อนแล้วกัน”

พูดจบก็ดึงผ้าคาดเอวออกอีกคราแต่ก็ต้องตระหนกยิ่งกว่าเดิมเมื่อเย่าถิงพุ่งเข้ามารั้งมือนางไว้พลางคาดสายรัดเอวกลับไปที่เดิม

“ไม่ได้เจ้าค่ะ คุณหนูต้องไปเดี๋ยวนี้”

 

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทส่งท้าย

    #####บทส่งท้ายมือหนาควานหาร่างอุ่นนุ่มอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน ทว่าควานไปพบแต่ความว่างเปล่า สองตาค่อย ๆลืมขึ้น ไฉนวันนี้เขาถึงรู้สึกมึนหัวประหลาดหือ วันนี้เขาตื่นสายหรือ ไยเป็นภรรยาเขาที่ตื่นก่อนได้เล่า นางตื่นแล้วไยไม่เรียกเขาเสียหน่อยล่ะ“ใครอยู่ด้านนอกเข้ามาที”เป็นเย่าถิงที่เดินเข้ามา นางชะงักนิดหน่อยเพราะกลิ่นที่เกิดจากการทำกิจกรรมของสองข้าวใหม่ปลามันคละคลุ้งทั่วห้อง ซึ่งเมื่อคืนพวกนางต่างรู้ดีกว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง เพราะเสียงที่ดังทะลุกำแพงออกมาตลอดคืน“นายหญิงไปไหนหรือ?”เย่าถิงยกคิ้วฉงนก่อนตอบ “ก็ไม่ได้อยู่ในห้องหรอกหรือเพคะ” พูดพลางสอดส่องมองทั่วห้องก็ไม่เห็นคุณหนูของตนจริง จึงขออนุญาตเรียกไป๋จื่อและบ่าวคนอื่น ๆมาถามไถ่ แต่ก็ไม่มีใครพบเห็นเลย พอไม่เจอสตรีที่ตนเรียกหาจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ คนของชินหวังทั่วทั้งจวนต่างกระจายกำลังหาทั่วจวน แต่หานานหลายชั่วยามก็ไม่มีใครพบ“พวกเจ้าดูแลนางอย่างไรนายหญิงออกจากห้องไปไยไม่มีใครเห็น!”บรรยากาศโดยรอบของบุรุษผู้ทรงอำนาจเย็นยะเยือกลามไปทั่วทั้งจวน นัยน์ตาดุดันจ้องมองเขม็งไปที่เหล่าบ่าวใช้ที่คุกเข้าตรงหน้า“หม่อมฉันเฝ้าหน้าห้องตลอดไม่เห็

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 50

    #####บทที่ 50นับจากวันที่กลับจากไปเยี่ยมจวนตระกูลไป๋ซูเมิ่งก็รอบางอย่างจนสิ่งที่นางรอคอยก็มาถึง ไป๋จื่อเข้ามาหาซูเมิ่งในห้องหนังสือพร้อมปิดประตูแน่น จนในห้องเหลือเพียงซูเมิ่งและไป๋จื่อสองคน“ครานี้ได้เรื่องแล้วเพคะพระชายา”“ว่ามา...”ตามที่ให้ไป๋จื่อออกไปรับเรื่องที่นางให้เป่าต้ง บ่าวบุรุษที่ซูเมิ่งไว้ใจในจวนตระกูลไป๋ทำเรื่องบางอย่างในจวน การมารายงานครานี้ของเป่าต้งนั้นต่างออกไปจากครั้งก่อน ๆแล้ว เรื่องที่ซูเมิ่งกำลังเฝ้าคอยเป็นเรื่องเกี่ยวกับไป๋หย่งคังบิดาของซูเมิ่งเอง ในวันที่นางกลับไปเยี่ยมบ้านนั้นนอกจากซูเมิ่งจะเข้าไปขอพบหย่งคังเป็นการส่วนตัวแล้วนางยังเรียกเป่าต้งเพื่อมอบหมายงานให้ทำด้วยนั่นก็คือ ให้เขาคอยจับตาดูไป๋หย่งคังตลอดทุกฝีก้าวตอนที่อยู่ในจวนไม่เว้นแม้กระทั่งช่วงกลางคืน และให้มารายงานนางทุก ๆสามวัน ในช่วงแรก ๆ สิ่งที่ไป๋หย่งคังทำนั้นซูเมิ่งคิดว่าปรกติทั่วไป แต่พอได้ฟังคำจากเป่าต้งรายงานหลาย ๆคราซูเมิ่งเริ่มสงสัยบางอย่างเข้าให้แล้ว กิจวัตรหนึ่งที่น่าสงสัยคือไป๋หย่งคังมักจะเทียวไปเรือน ๆหนึ่งทุก ๆสองหรือสามวันเสมอและใช้เวลาอยู่ที่นั่นราวสองเค่อ สิ่งที่น่าประหลาดคือเรือนแห่ง

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 49

    #####บทที่ 49และแล้ววันที่ท่านหมอพิษมาถึงจวนชินหวังก็มาถึง เขาเข้ามาพร้อมกับหยางเหวินเพื่อมาตรวจอาการของซูเมิ่ง “แปลก พระชายาไม่น่ามีพิษชนิดนี้อยู่ในกายได้พะยะค่ะ”หมอพิษพูดพลางลองตรวจสอบพิษอีกรอบผลปรากฎว่าเลือดที่มาจากร่างกายซูเมิ่งนั้นเป็นพิษชนิดที่เขาคิดจริง ๆ“อย่างไรหรือท่านหมอ”ซูเมิ่งเอ่ยถาม นางอยากรู้อย่างที่สุดว่าพิษที่อยู่ในร่างกายนางแต่กำเนิดนั้นคือชนิดใดกันแน่โดยท่านหมอพิษบอกว่าพิษนี้คือพิษที่มีแหล่งกำเนิดจากอาณาจักรชิงจง ซึ่งคืออาณาจักรข้างเคียงที่เป็นศัตรูกับอาณาจักรที่นางอยู่นี้มาช้านานแล้ว โดยพิษนี้เป็นพิษที่หากออกฤทธิ์จะค่อย ๆทำลายอวัยวะทั้งหมดในร่างกาย แต่เงื่อนไขการออกฤทธิ์จะออกฤทธิ์เมื่ออยู่ในกระแสเลือดของบุคคลผู้นั้นนานเป็นเวลาสองปี ซึ่งพิษนี้ไม่ค่อยมีผู้คนนำมาใช้เท่าไหร่นัก แทบไม่มีคนในอาณาจักรนี้รู้จักเลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับอาณาจักรชิงจงพิษชนิดนี้จะใช้เฉพาะกับทหารที่ฝึกไว้เพื่อเป็นสายลับเท่านั้น ด้วยเงื่อนไขการออกฤทธิ์นี้ทำให้สามารถใช้เพื่อควบคุมเหล่าทหารยามต้องออกไปปฏิบัติการได้ โดยการให้สายลับทุกคนดื่มพิษชนิดนี้เข้าไปและหากต้องการมีชีวิตต่อเพียงแค่กลับไปที่ฐาน

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 48

    #####บทที่ 48“คุณหนูเจ้าคะ ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ”เป็นเย่าถิงที่เข้ามาปลุกซูเมิ่งที่กำลังกอดกองผ้าห่มนุ่มด้วยอาการมึนงง นางลืมตามองเย่าถิงอย่างเกียจคร้าน“ข้าขอนอนอีกหน่อยได้หรือไม่”ไม่พูดเปล่าซูเมิ่งปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง นางรู้สึกอ่อนเพลีย และปวดเนื้อปวดตัวไปหมดจนไม่อยากขยับเขยื้อน แต่ก็ต้องลืมตาขึ้นอีกครั้งเพราะแขนตัวเองถูกดึงให้ลุกขึ้นและทันทีที่เย่าถิงดึงแขนของซูเมิ่งพ้นผ้าห่มก็ต้องตกใจ นางมองไปยังรอยสีกุหลาบบนผิวขาวผุดผาดของผู้เป็นนายที่ตอนนี้ขึ้นรอยแดงราวถูกแมลงกัดต่อย และยิ่งพอซูเมิ่งเอนตัวขึ้นตามแรงดึงของเย่าถิงแล้วผ้าห่มที่คลุมร่างอยู่ไหลกองลงปิดเพียงเอวยิ่งตระหนกไปใหญ่ ทั้งรอยมือและบางแห่งเกิดเป็นรอยช้ำ เย่าถิงพอนึกถึงว่าที่มารอยพวกนี้มาจากไหนจึงใบหน้าแดงขึ้นลามจนถึงใบหู“ไป๋จื่อเตรียมน้ำอุ่นผสมสมุนไพรให้แล้วเจ้าค่ะ ให้บ่าวพยุงไปนะเจ้าคะ”ซูเมิ่งพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย นางรู้สึกล้าเกินจะลืมตาตื่นด้วยซ้ำ แต่ก็รู้ว่าตามธรรมเนียมแล้วตนจะต้องไปไหว้บุพการีของซือหมิง ซูเมิ่งแทบจะอยากไปหักคอของบุรุษน่าตายนามซือหมิงให้ตายคามือเสียเดี๋ยวนี้เลย เมื่อคืนเขารู้ทั้งรู้แท้ ๆว่าไม่ควรเข้

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 47 (ต่อ)

    บทที่ 47 (ต่อ)“คุณหนู พร้อมแล้วออกมาได้เลยนะเจ้าคะขบวนของชินหวังใกล้มาถึงแล้วคุณหนูออกมาได้เลยเจ้าค่ะ”ร่างงามระหงเดินตามนางกำนัลเจี่ยงและคนอื่นออกจากห้องนอนเพื่อไปยังโถงจัดงานไม่นานขบวนเสด็จของชินหวังก็หยุดลง ทั้งขุนนาง และทหารรักษาพระองค์ตั้งขบวนจนหางยาวไปไกลลิบตา บนม้าต้นขบวนร่างกำยำงามสง่าในชุดแดงผ่าเผย นัยน์ตานิ่งลึกล้ำยากคาดเดา ยามปรายตาไปทางใดเหล่าบ่าวใช้ที่ติดตามเจ้านายจวนตระกูลไป๋ออกมาต้อนรับต่างเขินหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ซือหมิงเหวี่ยงตัวลงจากอานม้าท่าทางงามสง่าเต็มไปด้วยอำนาจแม้วันนี้เขาจะยังคงท่าทาดุดันเข้าถึงยากอยู่แต่หากเป็นคนสนิทของซือหมิงย่อมมองออกมาเจ้านายของพวกเขานั้นนัยน์ตาเปล่งประกายเจิดจ้ากว่าวันใด และริมฝีปากบางนั่นก็หยักยกเล็กน้อยด้วยพอซือหมิงถูกเชิญเข้ามาในจวนเพื่อไปยังห้องโถงกลาง ก็พอดีกับที่นางกำนัลเจี่ยงจูงมือซูเมิ่งซึ่งมีผ้าสีแดงผืนใหญ่ปิดใบหน้าเดินออกมา ขนาดไม่เห็นหน้าตาซือหมิงยังรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมา เขามองเห็นเพียงทรวดทรงและท่าทางการเดินนั่นก็รู้สึกภาคภูมิใจเป็นไหน ๆ พอถึงย้อนไปคราที่เขาพบนางครั้งแรก ท่ามความมืดมิดในค่ำคืนหนึ่งในป่ากว้าง ร่างงามสง่าผิวข

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 47

    #####บทที่ 47วันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมาร่างกายของซูเมิ่งก็เริ่มกลับมาปรกติแล้ว ความเจ็บปวดเมื่อตอนก่อนได้รับเทียบยาถอนพิษคลายลง ทำให้ร่างกายซูเมิ่งกลับมามีแรงอีกครา เมื่อคืนตอนที่นางนั่งคุยกับหยางเหวินทำให้ได้รู้ว่าหมอพิษคนที่ท่านหมอจูบอกว่าเป็นหมอกำจัดพิษที่เก่งที่สุดนั้นแท้จริงคืออาจารย์ผู้สอนหยางเหวินนั่นเอง จากคำกล่าวของหยางเหวิน เขาบอกว่าอาจารย์ของเขาผู้นี้รักความสงบมากมักจะเร้นกายไม่ให้คนขอพบได้ง่าย และเนื่องด้วยเขาอายุมากแล้วไม่แข็งแรงกำยำเหมือนสมัยหนุ่ม ๆจึงไม่รับรักษาคนอีก เหมือนว่าหยางเหวินจะคือลูกศิษย์คนสุดท้ายของเขา แต่แม้หยางเหวินจะได้รับการถ่ายทอดวิชาแต่ด้วยประสบการณ์ตรงในความรอบรู้เรื่องพิษต่าง ๆก็ไม่สู้อาจารย์ได้อยู่ดี แต่หยางเหวินอาจสามารถขอให้อาจารย์มารักษาซูเมิ่งได้เป็นกรณีพิเศษ นี่คือเหตุผลที่ซูเมิ่งคุยกับหยางเหวินจนดึกดื่นใครจะไม่ตื่นเต้นเล่าที่พบหนทางกำจัดพิษได้ นางไม่อยากเป็นสตรีอ่อนแออย่างนี้หรอกนะ ซูเมิ่งตื่นขึ้นมาอีกทีก็ยามเว่ยแล้ว ไป๋จื่อนำอาหารอ่อนเข้ามาให้ซูเมิ่งกินถึงหน้าเตียง พอทานเสร็จก็ขอร้องแกมบังคับให้นางนอนพักผ่อนต่ออีก แต่ด้วยความที่นางเพิ่งทานข้าวไป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status