共有

บทส่งท้าย

last update 最終更新日: 2025-12-01 21:32:04

#####บทส่งท้าย

 

มือหนาควานหาร่างอุ่นนุ่มอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน ทว่าควานไปพบแต่ความว่างเปล่า สองตาค่อย ๆลืมขึ้น ไฉนวันนี้เขาถึงรู้สึกมึนหัวประหลาด

หือ วันนี้เขาตื่นสายหรือ ไยเป็นภรรยาเขาที่ตื่นก่อนได้เล่า นางตื่นแล้วไยไม่เรียกเขาเสียหน่อยล่ะ

“ใครอยู่ด้านนอกเข้ามาที”

เป็นเย่าถิงที่เดินเข้ามา นางชะงักนิดหน่อยเพราะกลิ่นที่เกิดจากการทำกิจกรรมของสองข้าวใหม่ปลามันคละคลุ้งทั่วห้อง ซึ่งเมื่อคืนพวกนางต่างรู้ดีกว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง เพราะเสียงที่ดังทะลุกำแพงออกมาตลอดคืน

“นายหญิงไปไหนหรือ?”

เย่าถิงยกคิ้วฉงนก่อนตอบ “ก็ไม่ได้อยู่ในห้องหรอกหรือเพคะ” 

พูดพลางสอดส่องมองทั่วห้องก็ไม่เห็นคุณหนูของตนจริง จึงขออนุญาตเรียกไป๋จื่อและบ่าวคนอื่น ๆมาถามไถ่ แต่ก็ไม่มีใครพบเห็นเลย พอไม่เจอสตรีที่ตนเรียกหาจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ คนของชินหวังทั่วทั้งจวนต่างกระจายกำลังหาทั่วจวน แต่หานานหลายชั่วยามก็ไม่มีใครพบ

“พวกเจ้าดูแลนางอย่างไรนายหญิงออกจากห้องไปไยไม่มีใครเห็น!”

บรรยากาศโดยรอบของบุรุษผู้ทรงอำนาจเย็นยะเยือกลามไปทั่วทั้งจวน นัยน์ตาดุดันจ้องมองเขม็งไปที่เหล่าบ่าวใช้ที่คุกเข้าตรงหน้า

“หม่อมฉันเฝ้าหน้าห้องตลอดไม่เห็นนายหญิงออกมาเลยเพคะ หม่อมฉันผิดไปแล้ว”

ซือหมิงเหวี่ยงมือปัดชุดชาที่อยู่บนโต๊ะตกแตกเสียงดังแววตาแข็งกร้าวสุดร้าวราน แต่ก่อนที่เขาจะระบายความโกรธกับสิ่งของและบ่าวตรงหน้าไปมากกว่านี้ เย่าถิงที่วิ่งออกมาจากห้องหนังสือของซูเมิ่งก็ดึงความสนใจเขาไปเสียก่อน

“นายท่านเพคะ มีสิ่งนี้อยู่ที่โต๊ะหนังสือเพคะ”

เย่าถิงถือหีบขนาดเท่าสองฝ่ามือออกมาวางลงตรงหน้าซือหมิง พอเขารับมาก็เปิดออกทันที

ภายในบรรจุสิ่งของสองอย่าง หนึ่งคือถุงหอมสีทองอร่ามที่มีฝีปักบิดเบี้ยวเป็นชื่อของเขากับซูเมิ่งอยู่เคียงกัน และใต้ถุงนั้นเป็นแผ่นกระดาษใบหนึ่งซึ่งคือลายมือของซูเมิ่ง

สายตาไล่อ่านตัวอักษรในกระดาษจนครบ พออ่านจบบ่าที่เคยเหยียดตรงพลันอ่อนแรงล้มตัวลงนั่งเก้าอี้ด้านหลัง สองมือขยำแผ่นกระดาษในมือจนแหลกละเอียด

“ออกไปให้หมด!!!”

เสียงตวาดลั่นมาพร้อมพลังกดดันผลักให้บ่าวที่อยู่ในรัศมีกำลังภายในที่เขาปล่อยไปกระเด็นออกนอกห้องไป พอประตูปิดลงซือหมิงนิ่งเงียบมือสั่นสะกดอารมณ์ตัวเองจนกระทั่งความกดดันโดยรอบหายไป นัยน์ตาแดงก่ำเส้นเลือดขึ้นชัดจากการอดกลั้นหากใครมาเห็นต้องผวาตกใจไปตาม ๆกัน

“เจ้าคิดว่าจะหนีข้าพ้นหรือ! ซูเมิ่ง”

 

นอกเคหสถานยามค่ำคืนนั้นเงียบสงบแตกต่างจากความครึกครื้นเมื่อตอนกลางวันเป็นอันมาก จะมีก็เพียงแสงไฟของหอนางโลมตรงหน้าที่เป็นบริเวณที่สว่างที่สุดเต็มไปด้วยความเย้ายวนของสตรีที่ยืนออหน้าหอเพื่อรับแขก

“คุณชายหน้าหยกท่านนี้เชิญก่อนเจ้าค่ะ”

บุรุษร่างบางใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรก็มิปานเดินเข้ามายังปากประตูมีหรือเหล่านางโลมจะไม่เอ่ยทัก พวกนางแม้เป็นเพียงสตรีชั้นต่ำแต่หากเลือกได้ย่อมต้องการแขกที่หล่อเหลาอยู่แล้ว จะขัดก็เพียงแต่ก้อนไฝบนหน้าเท่านั้น แต่ก็นะโดยรวมถือว่าดีกว่าแขกที่เข้ามาที่นี่ส่วนใหญ่มากโขเชียวล่ะ

ซูเมิ่งที่แต่งกายเยี่ยงบุรุษเดินเข้าไปตามคำเชิญ นางทาสีที่หน้าและตามตัวเพื่อพลางสีผิวตัวเอง นอกจากนั้นยังหาวัสดุมาเติมไฝก้อนโตที่เหนือริมฝีปากบนด้วย

ซูเมิ่งคิดว่าจะเข้ามาอยู่แล้ว ภายในหอนางโลมแห่งนี้มีเพียงสองชั้นเล็กกว่าหอฟางซินในเมืองหลวงหลายต่อหลายเท่า นางเข้ามาก็ขอเปิดห้องหนึ่งห้องแต่ไม่ขอนางโลมขึ้นไปด้วย ซูเมิ่งมาเพื่อใช้ที่นี่พักผ่อนเท่านั้น พอรุ่งเช้านางต้องเดินทางต่อแล้ว

ตลอดการเดินทางตั้งแต่เร่งออกจากเมืองหลวงภายในคืนที่หนีออกจากจวนชินหวังนั้น ช่วงกลางวันซูเมิ่งจะเดินทางด้วยม้าพอเข้าเมืองไหนก็จะหยุดพักยามค่ำคืนที่หอนางโลมเอา ไม่ไปเปิดห้องที่โรงเตี๊ยมเพราะนั่นอาจถูกคนของชินหวังจับได้ นอกจากนี้การไปแต่ละเมืองหรือผ่านแต่ละหมู่บ้านซูเมิ่งก็จะปลอมแปลงเป็นคนใหม่ไม่ซ้ำกัน จนตอนนี้ก็ปาเข้าไปวันที่เจ็ดแล้วนับจากที่นางหนีออกมาจากซือหมิง

คืนวันนั้นซูเมิ่งจุดธูปยานอนหลับที่ให้ผลเฉพาะบุรุษไว้ในห้องก่อนที่ซือหมิงจะมา พอยาออกฤทธิ์ซูเมิ่งก็นำของที่จัดเตรียมไว้แล้วออกมาขึ้นขี่ม้าเร่งออกจากเมืองหลวงก่อนที่เขาจะรู้ตัวทันที นางคิดไว้ว่าจะเดินทางไปให้ไกลมากที่สุดเท่าที่ทำได้และหากเจอที่ไหนที่สงบก็จะพักนานหน่อยและเดินทางท่องเที่ยวไปเรื่อย ซูเมิ่งอยากให้ตัวตนที่เป็นพระชายาเอกของชินหวังซึ่งเป็นสายเลือดของปรปักษ์แผ่นดินคนนั้นหายไป ความลับนี้มิรู้ว่าจะปิดได้นานเท่าใดเพื่อความปลอดภัยของทุกคนนางจึงเลือกหนีออกจากคนที่นางรักดีกว่าเพื่อที่ความลับนี้จะได้หายไปพร้อมกับนางเสียเลย

คืนนี้เป็นเหมือนอย่างเคย นางอาบน้ำและเอนนอนบนเตียงในห้องที่นางเปิดไว้ ความรู้สึกเหมือนอะไรขาดหายไป ความไม่คุ้นชินยังคงเกิดขึ้นเสมอ ตอนอยู่ที่จวนไม่มีวันไหนที่ซือหมิงจะไม่มากอดนาง แต่ในเมื่อซูเมิ่งได้เลือกทางเดินนี้แล้วนางจำต้องทำตัวให้ชินให้ได้

ในขณะที่ซูเมิ่งกำลังเคลิ้มหลับ ความรู้สึกบางอย่างเหมือนมีอะไรมายุ่งตามตัวของตนทำให้เปลือกตางามค่อย ๆลืมขึ้น ภาพที่ปรากฎตรงหน้าคือเงาตะคุ่ม ๆก้ม ๆเงย ๆอยู่บนตัวนาง ทำให้ซูเมิ่งตื่นเต็มตา สองขาหดเข้ามาหาตัวและยันไปที่เงานั่นเต็มแรง

“โอ๊ย!!!”

ไม่รอให้เจ้าของเสียงตั้งตัวซูเมิ่งเอื้อมหยิบมีดปิ่นพร้อมชักเอาใบมีดออกมาและพุ่งตัวไปที่ผู้บุกรุกทันที แต่ร่างบนพื้นก็ไม่ได้นั่งรอให้ความตายมาเยือนเขาลุกขึ้นใช้แขนปะทะของมีคมที่กำลังพุ่งเข้ามาโดยแขนปะทะแขนทำให้หยุดยั้งอาวุธไว้ได้ ซูเมิ่งวาดขาเตะเบื้องล่างของผู้บุกรุกแต่ก็พลาดอีก และในชั่ววาบเดียวมือที่กันปิ่นไว้ก่อนหน้าก็รวบสองซูเมิ่งไว้และดึงร่างบอบบางของนางเข้าหาตัวเองทันที

“ไม่เจอหน้ากันไม่กี่วันสุดที่รักข้าจะฆ่าแกงสามีแล้วหรือ?”

ซือหมิงรับรู้ได้ว่าร่างบางในอ้อมอกตัวเองกระตุกตกใจ ก่อนที่เสียงที่เขาแสนจะคำนึงหาดังขึ้น

“ท่านหาข้าเจอได้อย่างไร”

แขนที่โอบกอดอยู่รัดแน่นขึ้นไปอีก “มิสำคัญ สิ่งที่สำคัญคือเหตุใดเจ้าถึงได้ใจร้ายแก่ข้าเยี่ยงนี้ต่างหากเล่า”

ซูเมิ่งนิ่งให้เข้ากอดเพราะนางก็คิดถึงอ้อมกอดนี้เช่นเดียวกัน ประโยคเมื่อครู่นางรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงที่เปล่งออกมาของเขาสั่นเครือเล็กน้อย

“ข้าไม่...”

“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครขอเพียงเจ้าเชื่อใจข้า ข้าจะจัดการทุกเรื่องเพื่อให้เจ้าได้อยู่กับข้าได้แน่นอน ขอเพียงจากนี้อย่าทิ้งข้าไปอีกได้หรือไม่”

น้ำตาไหลรินราวสายน้ำของซูเมิ่งนั้นมิใช่มาจากความเสียใจแต่อย่างใด นางรู้สึกดีใจต่างหากที่เขาตามหานางจนเจอ เพียงเจ็ดวันที่ซูเมิ่งมิได้รับความอบอุ่นจากอ้อมกอดนี้ทำให้นางโหยหาแทบขาดใจ 

การจากลากันครั้งนี้ทำให้ซูเมิ่งรู้ว่ามิใช่เพียงเขาเท่านั้นที่ขาดนางไม่ได้ ทว่าซูเมิ่งก็เช่นกัน ต่อแต่นี้ไปไม่ว่านางจะต้องเผชิญกับปัญหาใดนางก็ยอมทุกอย่างเพื่อแลกกับการได้อยู่กับคนที่นางรัก อยู่กับซือหมิงของนางตลอดไป

 

 

“คุณชายน้อยเพคะ ท่านพ่อและท่านแม่ของพระองค์กลับมาแล้วเพคะ”

เสียงบ่าวรับใช้นางหนึ่งนางเดิมพร้อมร่างบางวิ่งเข้ามายังห้อง ๆหนึ่ง ภายในห้องมีเด็กชายน่าตาน่าเอ็นดูอายุราวห้าปีกำลังก้มหน้าลงอ่านหนังสือในมืออยู่ ซึ่งพอเขาได้ยินดังนั้นก็ทิ้งหนังสือในมือลงทันที ร่างเล็กกระโดดลงจากเก้าอี้และวิ่งออกไป

“ท่านแม่”

เด็กชายวิ่งออกมาจากห้องก็พุ่งเข้ากอดสตรีในชุดสีขาวบริสุทธิ์ที่แต่งกายเยี่ยงบุรุษอย่างแรง ซูเมิ่งยกเด็กชายแก้มยุ้ยขึ้นอุ้มจากนั้นก้มลงหอมแก้มสองข้างอย่างนึกคิดถึง

“โตจนป่านนี้แล้วมิรู้หรือว่าชายชาตรีต้องปฏิบัติตัวอย่างไร”

เสียงดุดันเอ่ยขึ้นก่อนที่ร่างกำยำในชุดสีดำขลิบทองเดินมาหยุดที่ข้างกายซูเมิ่ง เขาแยกบุตรของตัวเองออกจากอ้อมอกของซูเมิ่งและวางลงพื้น

...อ้อมอกนี้เป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น ใครก็ห้ามกอด

“คารวะท่านพ่อพะยะค่ะ”

ซูเมิ่งส่ายหน้าให้กับการกระทำที่หึงเกินไปของผู้เป็นสามี แม้กระทั่งบุตรที่นางคลอดออกมาก็กันไม่เข้าท่า ซูเมิ่งไม่สนใจซือหมิง นางจูงมือบุตรของตนเข้าห้อง นางไม่ได้เจอหน้าเขามาได้เกือบปีแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ซูเมิ่งออกไปท่องเที่ยวกับซือหมิงและเพิ่งกลับมาก็วันนี้ ตามจริงกำหนดการกลับนางควรถึงตั้งนานแล้ว แต่เป็นเขาที่โยกเย้ลีลาพานางออกนอกลู่นอกทางจนเพิ่งถึงจวน ซูเมิ่งคิดถึงบุตรชายสุดน่ารักมากและจากนี้นางก็คงต้องพักอยู่ที่จวนอีกยาว

“ท่านแม่เดินทางมาเหนื่อย ๆทานน้ำแกงนี่ก่อนเถอะพะยะค่ะ”

เจียอี้หรือก็คือเด็กชายตัวน้อยยกถ้วยน้ำแกงขึ้นนำมาให้ซูเมิ่ง แต่พอซูเมิ่งได้กลิ่นของน้ำแกงเท่านั้นแหละก็วิ่งออกไปโก่งคออ้วกด้านนอกทันที นางเหม็นกลิ่นน้ำแกง คลื่นไส้จนหน้าซีด ซือหมิงรีบเดินเข้ามาลูบหลังซูเมิ่งอย่างอ่อนโยน

“ไปรินน้ำอุ่นมาให้ข้า!”

เย่าถิงวิ่งเข้ามาพร้อมถ้วยน้ำอุ่น พอซูเมิ่งได้ดื่มก็รู้สึกดีขึ้น พอมองสบตากับเย่าถิงที่มองมาที่นางด้วยสายตาสงสัยก็ทำเอาซูเมิ่งหลุดหัวเราะ

“เป็นอย่างที่เจ้าคิด ข้าตั้งครรภ์แล้ว”

“นายหญิงตั้งครรภ์!”

เย่าถิงแทบล้มทั้งยืน นางตะโกนด้วยความตกใจ นี่คุณหนูนางตั้งครรภ์อีกแล้วหรือ มิใช่เย่าถิงไม่ดีใจนะ แต่นางออกจะตกใจกับเรื่องนี้มากกว่า คุณชายเจียอี้คือบุตรคนโตสุดมีอายุได้ห้าปีเต็ม เกิดหลังจากซูเมิ่งแต่งงานได้หนึ่งปี หลังจากคุณชายเจียอี้เกิดคุณหนูนางดูแลได้ไม่นานก็เริ่มออกท่องเที่ยวกับชินหวัง กว่าจะกลับมาก็ปาเข้าไปเกือบปี กลับมาพร้อมข่าวดีที่ซูเมิ่งท้องลูกคนที่สอง พอคลอดออกมาก็เป็นไทเฮาที่ขอนำไปเลี้ยง พอคุณชายโตได้สี่ปีคุณหนูของนางก็ออกท่องเที่ยวอีกคราจนเพิ่งกลับมาครานี้พร้อมกับเด็กในท้องอีกคน

นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เย่าถิงแทบลมจับเมื่อได้ยินที่ซูเมิ่งบอก

ทั้งซูเมิ่งและซือหมิงไม่รอให้บ่าวทั้งหลายหายตระหนก เป็นซือหมิงที่ไม่อยากให้ซูเมิ่งเหนื่อย เขาจึงช้อนนางขึ้นและเดินพากลับไปยังเรือนพักผ่อนตัวเองทันที

...เขาต้องลงโทษที่นางผิดสัญญากับเขาหน่อยเสียแล้ว เมื่อครู่นางให้ชายอื่นแตะต้องตัว ทั้งกอด ทั้งหอม อย่างนี้เขาจักต้องทำให้นางจำคำสัญญานี้ขึ้นใจเสียแล้ว

 

--จบ--

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทส่งท้าย

    #####บทส่งท้ายมือหนาควานหาร่างอุ่นนุ่มอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน ทว่าควานไปพบแต่ความว่างเปล่า สองตาค่อย ๆลืมขึ้น ไฉนวันนี้เขาถึงรู้สึกมึนหัวประหลาดหือ วันนี้เขาตื่นสายหรือ ไยเป็นภรรยาเขาที่ตื่นก่อนได้เล่า นางตื่นแล้วไยไม่เรียกเขาเสียหน่อยล่ะ“ใครอยู่ด้านนอกเข้ามาที”เป็นเย่าถิงที่เดินเข้ามา นางชะงักนิดหน่อยเพราะกลิ่นที่เกิดจากการทำกิจกรรมของสองข้าวใหม่ปลามันคละคลุ้งทั่วห้อง ซึ่งเมื่อคืนพวกนางต่างรู้ดีกว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง เพราะเสียงที่ดังทะลุกำแพงออกมาตลอดคืน“นายหญิงไปไหนหรือ?”เย่าถิงยกคิ้วฉงนก่อนตอบ “ก็ไม่ได้อยู่ในห้องหรอกหรือเพคะ” พูดพลางสอดส่องมองทั่วห้องก็ไม่เห็นคุณหนูของตนจริง จึงขออนุญาตเรียกไป๋จื่อและบ่าวคนอื่น ๆมาถามไถ่ แต่ก็ไม่มีใครพบเห็นเลย พอไม่เจอสตรีที่ตนเรียกหาจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ คนของชินหวังทั่วทั้งจวนต่างกระจายกำลังหาทั่วจวน แต่หานานหลายชั่วยามก็ไม่มีใครพบ“พวกเจ้าดูแลนางอย่างไรนายหญิงออกจากห้องไปไยไม่มีใครเห็น!”บรรยากาศโดยรอบของบุรุษผู้ทรงอำนาจเย็นยะเยือกลามไปทั่วทั้งจวน นัยน์ตาดุดันจ้องมองเขม็งไปที่เหล่าบ่าวใช้ที่คุกเข้าตรงหน้า“หม่อมฉันเฝ้าหน้าห้องตลอดไม่เห็

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 50

    #####บทที่ 50นับจากวันที่กลับจากไปเยี่ยมจวนตระกูลไป๋ซูเมิ่งก็รอบางอย่างจนสิ่งที่นางรอคอยก็มาถึง ไป๋จื่อเข้ามาหาซูเมิ่งในห้องหนังสือพร้อมปิดประตูแน่น จนในห้องเหลือเพียงซูเมิ่งและไป๋จื่อสองคน“ครานี้ได้เรื่องแล้วเพคะพระชายา”“ว่ามา...”ตามที่ให้ไป๋จื่อออกไปรับเรื่องที่นางให้เป่าต้ง บ่าวบุรุษที่ซูเมิ่งไว้ใจในจวนตระกูลไป๋ทำเรื่องบางอย่างในจวน การมารายงานครานี้ของเป่าต้งนั้นต่างออกไปจากครั้งก่อน ๆแล้ว เรื่องที่ซูเมิ่งกำลังเฝ้าคอยเป็นเรื่องเกี่ยวกับไป๋หย่งคังบิดาของซูเมิ่งเอง ในวันที่นางกลับไปเยี่ยมบ้านนั้นนอกจากซูเมิ่งจะเข้าไปขอพบหย่งคังเป็นการส่วนตัวแล้วนางยังเรียกเป่าต้งเพื่อมอบหมายงานให้ทำด้วยนั่นก็คือ ให้เขาคอยจับตาดูไป๋หย่งคังตลอดทุกฝีก้าวตอนที่อยู่ในจวนไม่เว้นแม้กระทั่งช่วงกลางคืน และให้มารายงานนางทุก ๆสามวัน ในช่วงแรก ๆ สิ่งที่ไป๋หย่งคังทำนั้นซูเมิ่งคิดว่าปรกติทั่วไป แต่พอได้ฟังคำจากเป่าต้งรายงานหลาย ๆคราซูเมิ่งเริ่มสงสัยบางอย่างเข้าให้แล้ว กิจวัตรหนึ่งที่น่าสงสัยคือไป๋หย่งคังมักจะเทียวไปเรือน ๆหนึ่งทุก ๆสองหรือสามวันเสมอและใช้เวลาอยู่ที่นั่นราวสองเค่อ สิ่งที่น่าประหลาดคือเรือนแห่ง

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 49

    #####บทที่ 49และแล้ววันที่ท่านหมอพิษมาถึงจวนชินหวังก็มาถึง เขาเข้ามาพร้อมกับหยางเหวินเพื่อมาตรวจอาการของซูเมิ่ง “แปลก พระชายาไม่น่ามีพิษชนิดนี้อยู่ในกายได้พะยะค่ะ”หมอพิษพูดพลางลองตรวจสอบพิษอีกรอบผลปรากฎว่าเลือดที่มาจากร่างกายซูเมิ่งนั้นเป็นพิษชนิดที่เขาคิดจริง ๆ“อย่างไรหรือท่านหมอ”ซูเมิ่งเอ่ยถาม นางอยากรู้อย่างที่สุดว่าพิษที่อยู่ในร่างกายนางแต่กำเนิดนั้นคือชนิดใดกันแน่โดยท่านหมอพิษบอกว่าพิษนี้คือพิษที่มีแหล่งกำเนิดจากอาณาจักรชิงจง ซึ่งคืออาณาจักรข้างเคียงที่เป็นศัตรูกับอาณาจักรที่นางอยู่นี้มาช้านานแล้ว โดยพิษนี้เป็นพิษที่หากออกฤทธิ์จะค่อย ๆทำลายอวัยวะทั้งหมดในร่างกาย แต่เงื่อนไขการออกฤทธิ์จะออกฤทธิ์เมื่ออยู่ในกระแสเลือดของบุคคลผู้นั้นนานเป็นเวลาสองปี ซึ่งพิษนี้ไม่ค่อยมีผู้คนนำมาใช้เท่าไหร่นัก แทบไม่มีคนในอาณาจักรนี้รู้จักเลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับอาณาจักรชิงจงพิษชนิดนี้จะใช้เฉพาะกับทหารที่ฝึกไว้เพื่อเป็นสายลับเท่านั้น ด้วยเงื่อนไขการออกฤทธิ์นี้ทำให้สามารถใช้เพื่อควบคุมเหล่าทหารยามต้องออกไปปฏิบัติการได้ โดยการให้สายลับทุกคนดื่มพิษชนิดนี้เข้าไปและหากต้องการมีชีวิตต่อเพียงแค่กลับไปที่ฐาน

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 48

    #####บทที่ 48“คุณหนูเจ้าคะ ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ”เป็นเย่าถิงที่เข้ามาปลุกซูเมิ่งที่กำลังกอดกองผ้าห่มนุ่มด้วยอาการมึนงง นางลืมตามองเย่าถิงอย่างเกียจคร้าน“ข้าขอนอนอีกหน่อยได้หรือไม่”ไม่พูดเปล่าซูเมิ่งปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง นางรู้สึกอ่อนเพลีย และปวดเนื้อปวดตัวไปหมดจนไม่อยากขยับเขยื้อน แต่ก็ต้องลืมตาขึ้นอีกครั้งเพราะแขนตัวเองถูกดึงให้ลุกขึ้นและทันทีที่เย่าถิงดึงแขนของซูเมิ่งพ้นผ้าห่มก็ต้องตกใจ นางมองไปยังรอยสีกุหลาบบนผิวขาวผุดผาดของผู้เป็นนายที่ตอนนี้ขึ้นรอยแดงราวถูกแมลงกัดต่อย และยิ่งพอซูเมิ่งเอนตัวขึ้นตามแรงดึงของเย่าถิงแล้วผ้าห่มที่คลุมร่างอยู่ไหลกองลงปิดเพียงเอวยิ่งตระหนกไปใหญ่ ทั้งรอยมือและบางแห่งเกิดเป็นรอยช้ำ เย่าถิงพอนึกถึงว่าที่มารอยพวกนี้มาจากไหนจึงใบหน้าแดงขึ้นลามจนถึงใบหู“ไป๋จื่อเตรียมน้ำอุ่นผสมสมุนไพรให้แล้วเจ้าค่ะ ให้บ่าวพยุงไปนะเจ้าคะ”ซูเมิ่งพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย นางรู้สึกล้าเกินจะลืมตาตื่นด้วยซ้ำ แต่ก็รู้ว่าตามธรรมเนียมแล้วตนจะต้องไปไหว้บุพการีของซือหมิง ซูเมิ่งแทบจะอยากไปหักคอของบุรุษน่าตายนามซือหมิงให้ตายคามือเสียเดี๋ยวนี้เลย เมื่อคืนเขารู้ทั้งรู้แท้ ๆว่าไม่ควรเข้

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 47 (ต่อ)

    บทที่ 47 (ต่อ)“คุณหนู พร้อมแล้วออกมาได้เลยนะเจ้าคะขบวนของชินหวังใกล้มาถึงแล้วคุณหนูออกมาได้เลยเจ้าค่ะ”ร่างงามระหงเดินตามนางกำนัลเจี่ยงและคนอื่นออกจากห้องนอนเพื่อไปยังโถงจัดงานไม่นานขบวนเสด็จของชินหวังก็หยุดลง ทั้งขุนนาง และทหารรักษาพระองค์ตั้งขบวนจนหางยาวไปไกลลิบตา บนม้าต้นขบวนร่างกำยำงามสง่าในชุดแดงผ่าเผย นัยน์ตานิ่งลึกล้ำยากคาดเดา ยามปรายตาไปทางใดเหล่าบ่าวใช้ที่ติดตามเจ้านายจวนตระกูลไป๋ออกมาต้อนรับต่างเขินหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ซือหมิงเหวี่ยงตัวลงจากอานม้าท่าทางงามสง่าเต็มไปด้วยอำนาจแม้วันนี้เขาจะยังคงท่าทาดุดันเข้าถึงยากอยู่แต่หากเป็นคนสนิทของซือหมิงย่อมมองออกมาเจ้านายของพวกเขานั้นนัยน์ตาเปล่งประกายเจิดจ้ากว่าวันใด และริมฝีปากบางนั่นก็หยักยกเล็กน้อยด้วยพอซือหมิงถูกเชิญเข้ามาในจวนเพื่อไปยังห้องโถงกลาง ก็พอดีกับที่นางกำนัลเจี่ยงจูงมือซูเมิ่งซึ่งมีผ้าสีแดงผืนใหญ่ปิดใบหน้าเดินออกมา ขนาดไม่เห็นหน้าตาซือหมิงยังรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมา เขามองเห็นเพียงทรวดทรงและท่าทางการเดินนั่นก็รู้สึกภาคภูมิใจเป็นไหน ๆ พอถึงย้อนไปคราที่เขาพบนางครั้งแรก ท่ามความมืดมิดในค่ำคืนหนึ่งในป่ากว้าง ร่างงามสง่าผิวข

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 47

    #####บทที่ 47วันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมาร่างกายของซูเมิ่งก็เริ่มกลับมาปรกติแล้ว ความเจ็บปวดเมื่อตอนก่อนได้รับเทียบยาถอนพิษคลายลง ทำให้ร่างกายซูเมิ่งกลับมามีแรงอีกครา เมื่อคืนตอนที่นางนั่งคุยกับหยางเหวินทำให้ได้รู้ว่าหมอพิษคนที่ท่านหมอจูบอกว่าเป็นหมอกำจัดพิษที่เก่งที่สุดนั้นแท้จริงคืออาจารย์ผู้สอนหยางเหวินนั่นเอง จากคำกล่าวของหยางเหวิน เขาบอกว่าอาจารย์ของเขาผู้นี้รักความสงบมากมักจะเร้นกายไม่ให้คนขอพบได้ง่าย และเนื่องด้วยเขาอายุมากแล้วไม่แข็งแรงกำยำเหมือนสมัยหนุ่ม ๆจึงไม่รับรักษาคนอีก เหมือนว่าหยางเหวินจะคือลูกศิษย์คนสุดท้ายของเขา แต่แม้หยางเหวินจะได้รับการถ่ายทอดวิชาแต่ด้วยประสบการณ์ตรงในความรอบรู้เรื่องพิษต่าง ๆก็ไม่สู้อาจารย์ได้อยู่ดี แต่หยางเหวินอาจสามารถขอให้อาจารย์มารักษาซูเมิ่งได้เป็นกรณีพิเศษ นี่คือเหตุผลที่ซูเมิ่งคุยกับหยางเหวินจนดึกดื่นใครจะไม่ตื่นเต้นเล่าที่พบหนทางกำจัดพิษได้ นางไม่อยากเป็นสตรีอ่อนแออย่างนี้หรอกนะ ซูเมิ่งตื่นขึ้นมาอีกทีก็ยามเว่ยแล้ว ไป๋จื่อนำอาหารอ่อนเข้ามาให้ซูเมิ่งกินถึงหน้าเตียง พอทานเสร็จก็ขอร้องแกมบังคับให้นางนอนพักผ่อนต่ออีก แต่ด้วยความที่นางเพิ่งทานข้าวไป

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status