Share

บทที่ 24

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-27 00:51:59

“เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ” ความคาใจ ขับให้อัยน์นาออกปากถามอย่างตรงไปตรงมา

“เราไม่มีทางรู้หรอก ว่าเรื่องนี้จริงเท็จสักแค่ไหน บางทีมันอาจจะเป็นแค่ความหวาดระแวงของพวกมนุษย์ หรือไม่ก็อาจจะมีอะไรมากกว่านั้น ตั้งแต่โบราณมา ดินแดนหลังแนวภูเขาถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์เสียยิ่งกว่าป่าดึกดำบรรพ์ที่คั่นระหว่างดินแดนเร้นลับที่ว่านี้กับอาณาจักรอัสกันด์เสียอีก คนโบราณเชื่อว่าที่นั่นเป็นที่พำนักของเหล่าเทพ เทวดา การที่ความเชื่อเก่าแก่ถูกแทนที่ด้วยเรื่องพรรค์นี้รวดเร็วชนิดไฟลามทุ่งแบบนี้...มันออกจะผิดปกติ”

“คุณพ่อหมายถึงการสร้างกระแสความหวาดกลัวเพื่อให้ทุกคนคล้อยตามโดยไม่ปริปากถาม กับการสร้างความชอบธรรมที่จะทำสงครามกับพวกอสุรกายพวกปีศาจน่ะเหรอคะ...แต่ถ้าเรื่องมันไม่ร้ายแรงอะไร พวกชนชั้นสูงในอาณาจักรเราจะอยากเอาอาณาจักรตัวเองไปเสี่ยงทำไม?”

ท่านเจ้ากรมการเมืองจ้องลึกลงในตาลูกสาวคนสุดท้อง คล้ายจะอ่านความคิดบางอย่าง

ชายสูงวัยชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนถาม

“ลูกคิดว่ายังไงล่ะ”

“เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ นอกเสียจากว่าจะมีเบื้องลึกเบื้องหลัง” อัยน์นาตอบตรงไปตรงมาจนตัวเองแปลกใจ “ถ้ามีใครในหมู่ชนชั้นสูงลอบจับมือกับอาเรนทร์ พยายามสร้างข่าวตีกระแสให้อาณาจักรเราทำสงครามกวาดล้างปีศาจกับอสุรกายที่มีเลือดเนื้อเพื่อทำให้อาณาจักรเราอ่อนแอลง เรื่องนี้ก็คงเป็นไปได้ ใช่ว่าเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นนี่คะ” เธอลุกเดินไปหยิบตำรา ‘ว่าด้วยพิชัยสงคราม’ ที่เขียนโดย นายพลวิลเลียม วิลส์ตัน บิดาของเจ้ากรมการคลังคนปัจจุบันมาส่งให้คนเป็นพ่อ พลางเอ่ย “ในนี้ก็บอกไว้นี่คะ ‘ไม่ว่าจะทำการใด ความชอบธรรมเป็นสิ่งพื้นฐาน’ กับ ‘จะรบทัพจับศึก ต้องตัดกำลังข้าศึก’ ”

“ตำราเล่มแรกที่ตระกูลวิลส์ตันทุกคนต้องท่อง...” ท่านเจ้ากรมการเมืองพึมพำ แววตาครุ่นคิด “ว่ากันตามตรง พ่อคิดว่าสงครามครั้งนี้ไม่ดีเลย เหมือนแกว่งเท้าหาเสี้ยนชัดๆ”

“พวกที่สนับสนุนสงครามอาจจะแค่อยากกำจัดภัยคุกคามก็ได้ค่ะ”

หรือไม่ ก็อาจจะมีเหตุผลมากกว่านั้นอย่างที่ว่า...

ไม่ทันที่อัยน์นาหรือท่านเจ้ากรมการเมืองจะได้พูดคุยกันมากกว่านี้ คนรับใช้ชายก็เข้ามาแจ้งให้รู้ว่าญาติท่านผู้หญิงเพิ่งเดินทางมาถึง อัยน์นาจึงขอปลีกตัวหลบฉากออกมาอย่างรู้หน้าที่

จะทำสงครามกับเผ่าพันธุ์โบราณที่คาดเดาไม่ออกว่าเก่งกาจน่าหวาดกลัวแค่ไหนรึ?

ชนชั้นอภิสิทธิ์อาณาจักรนี้ เบื่อหนายความสงบสุขกันแล้วหรือไง?

อัยน์นาคิดพลางสาวเท้าเดินลงบันไดหินตัด ตั้งใจว่าจะหลบไปออกกำลังกายในสวนรกครึ้มด้านหลังคฤหาสน์เพื่อรีดเหงื่อ ขับไล่อาการป่วย

นับตั้งแต่แปดขวบ เธอก็ตระหนักว่ามีแต่ตัวเองเท่านั้นที่ช่วยเหลือตัวเองได้ จึงมักแอบออกกำลังกายเลียนแบบทหารในสังกัดบิดา เพราะไม่อยากร่างกายอ่อนแอเหมือนพวกเหยื่อ

ก่อนหน้านี้เธอมักจะออกกำลังกายในห้องส่วนตัวที่เรือนคนรับใช้ แต่พอตอนนี้ได้ย้ายขึ้นเรือนใหญ่ มีสาวใช้คอยดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา การออกกำลังกายในห้องจึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจทำได้อีกต่อไป

“ถ้าที่นั่นเงียบสงบไม่มีคนเดินผ่านเหมือนอย่างที่คิดก็คงดี...” คนอยากออกกำลังกายพึมพำ

แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็โดนแอนนาเบลเดินกึ่งวิ่งตามมาคว้าแขนไว้เสียก่อน

“จะไปไหน นังตัวดี!”

“ท่านหญิงแอนนาเบล” อัยน์นามองข้อมือที่โดนแอนนาเบลจิกเล็บใส่ ด้วยความไม่พอใจ

“มานี่!” พี่สาวคนรองฉุดแขน ดึงให้เธอเดินตามโดยไม่อธิบายอะไร

ทันทีที่แอนนาเบลพาเธอไปจนถึงห้องนั่งเล่นห้องใหญ่ ท่านหญิงพริสซิลล่าก็ยิ้มรับด้วยรอยยิ้มชวนขนลุก

“น้องสาวที่รัก เธอมาก็ดีแล้ว” พริสซิลล่าใช้สายตาสั่งให้แอนนาเบลลากตัวอัยน์นาออกไปที่ด้านนอกระเบียงกว้าง

เจ้าหล่อนรอให้ทุกอย่างได้ดั่งใจแล้วค่อยออกปากถาม

“พวกเราเป็นพี่น้องกันใช่ไหม พี่น้องต้องช่วยเหลือกัน ถูกหรือเปล่า?”

“ท่านหญิงมีอะไรให้ดิฉันรับใช้คะ” อัยน์นาถามเสียงเรียบ

“แหมแหม ทำไมทำเสียงแข็งอย่างงั้นล่ะจ๊ะ” พริสซิลล่ายกขาขึ้นไขว่ห้าง ยิ้มเยาะ “หรือเจ็บแขน”

“ตายจริง เล็บพี่สาวคงยาวไปหน่อย ขอโทษนะจ๊ะ” ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่แอนนาเบลกลับเพิ่มแรงจิกเล็บ แสดงออกชัดเจนว่าจงใจ

เป็นจังหวะเดียวกับที่สาวใช้สองคนยกชุดน้ำชาเข้ามา

“คุณพี่...” อัยน์นาเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ น้ำเสียงที่ใช้ ฟังดูอ่อนลงจนน่าสงสาร “มีอะไรให้อัยน์นารับใช้คะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 29

    “คุณ...” เธอพยายามคุมน้ำเสียงให้ฟังดูนุ่มนวลเหมือนปกติ ทั้งๆ ที่รู้สึกเหมือนโดนขัดคอเพราะประโยคนั้น “หลงทางเหรอคะ”“ไซรัสครับ”“ค่ะ...ใครใครก็เรียกคุณว่าไซรัส ดิฉันจำได้” ปากตอบด้วยท่าทีสงบ แต่สายตาอยู่ไม่สุขกลับเผลอจ้องริมฝีปากเขาแล้วนึกถึงเรื่องในสระน้ำขึ้นมา “มาธากับเพื่อนๆ บอกว่าคุณอาจจะมาตรวจสอบความพึงพอใจลูกค้าด้วยตัวเอง...แล้วคุณก็มาจริงๆ”“ครับ” เขารับคำสั้นๆ พลางเดินตรงมาหาเธอด้วยสีหน้าราบเรียบ ยากจะคาดเดา “แผลนั่นดูดีขึ้นมากเลยนะครับ โชคดีจริงๆ ที่กิ่งไม้ไม่บาดลึกกว่านี้”เพราะไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน อัยน์นาจึงเลือกคลี่ยิ้มน้อยๆ แทนการตอบ“พบคุณก็ดีแล้ว ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณอยู่พอดี” แขกของคฤหาสน์สบตาเธอด้วยแววตาเปี่ยมประกายเอาจริงเอาจังเจิดจ้าทว่ามีสัดส่วนของความยวนเย้าอย่างเปลวไฟ อัยน์นาจึงเลือกตอบกลับปฏิกิริยานั้นด้วยการจ้องลึกลงในตาเขาด้วยแววตาบริสุทธิ์เหมือนน้ำใสสะท้อนแสงดาวสุกสกาวก็เอาสิ ถ้าผู้ชายคนนี้อยากเล่นเกมจ้องตากับเธอ วันน

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 28

    “แหม แขนคุณถลอกนี่คะ” พริสซิลล่าเปลี่ยนเรื่องคุยทั้งอย่างนั้น เจ้าหล่อนขยับเข้าจับแขนเขา พลิกดู แล้วสั่งน้องสาวด้วยท่าทีสุภาพใจเย็นอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน “แอนนาเบลจ๊ะ ไปเอาน้ำอุ่นกับผ้าสะอาดมาให้พี่ที สาวใช้พวกนี้ใช้การไม่ได้ แค่ตกใจเข้าหน่อยก็หนีหายออกไปมุงดูกันหมด”แอนนาเบลจะเดินผละออกไป แต่ไซรัสรีบชิงปฎิเสธ“อย่าลำบากเลยครับ แค่รอยถลอกเท่านี้”“ทำไมคะ หรือกลัวอยู่ในห้องด้วยกันสองคนนานๆ แล้วผู้คนจะนินทา”ไซรัสเลือกจะไม่ต่อปากต่อคำ เพียงคุยด้วยไม่เท่าไหร่ เขาก็เดาออกแล้ว ว่าพริสซิลล่าดื้อรั้นและเอาแต่ใจตัวเองแค่ไหนพอเห็นเขาไม่ตอบอะไร เจ้าหล่อนก็อ้าปากพูดเพิ่ม“หรืออยากรีบไปดูใจอัยน์นาเหมือนสาวใช้สองคนล่าสุดที่เข้ามาในห้องนี้” คุณหนูคนโตช้อนตา มองค้อน แล้วเบือนหน้าหนี วางท่าเหมือนตั้งใจงอนให้ง้อตอนนั้นเอง แอนนาเบลก็ชิงเดินหลบออกจากห้องไปเงียบๆ ทั้งห้องจึงเหลือพ่อค้าหนุ่มกับท่านหญิงคนโตของคฤหาสน์เพียงสองคนเท่านั้นไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง&ldquo

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 27

    กว่าจะรู้ตัวอีกที สองมือแกร่งก็ดึงร่างนุ่มนิ่มเข้ากอดแนบอก ก่อนเสียหลักล้มลงนอนหงาย กลายเป็นเบาะให้เธอ“คุณ...” หญิงสาวอ่อนเยาว์เบิกตากว้าง ไม่รู้ว่าตกใจที่เห็นหน้าเขาหรือตกใจเพราะพลัดตกลงมาเธอแข็งขืนเหมือนพยายามจะดันตัวลุกขึ้นแต่เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป เขายังกอดร่างเธอไว้แน่น การกระทำนั้น เลยกลายเป็นการขยับตัวให้เส้นผมกรุ่นกลิ่นกุหลาบจางๆ คล้อยลงไล้แก้มเขาอย่างไม่ตั้งใจความอ่อนนุ่มที่ขยุกขยิกอยู่บนตัวเขา...กลิ่นดอกไม้หอมรัญจวน...ดวงตาตื่นๆ คู่ที่เคยตรึงสายตาและเชิญชวนให้เขาทำเรื่องผิดบาป สามอย่างนี้ทำให้ทุกอย่างคล้ายหยุดนิ่งไปในวินาทีนั้นเธออยู่ตรงนี้ อยู่บนตัวเขา อย่างแนบชิดไซรัสระบายลมหายใจอย่างยากลำบาก เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ในการประคองร่างบอบบางในอ้อมแขนลุกขึ้นยืน แล้วสอบถามอย่างมีอารยะ“บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ?”“ไม่...ไม่ค่ะ” ทั้งๆ ที่เธอตอบแบบนั้น แต่เขากลับสังเกตเห็นรอยบาดที่ฝ่ามือมันอาจจะเป็นบาดแผลเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับบาดแผลส่วนใหญ่ที่เขาพบเห็นมาใน

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 26

    นับตั้งแต่นาทีแรกที่รถม้าเคลื่อนผ่านประตูรั้วกว้างขวาง ไซรัสก็รู้สึกถึงความเงียบสงบอันหาได้ยากยิ่งในเมืองหลวงคฤหาสน์แกรนเทรนท์ที่ปรากฏแก่สายตาเขาในยามนี้ ไม่ใช่คฤหาสน์หลังโต รูปทรงโก้หรู เหมือนคฤหาสน์หลังอื่นๆ ในเมืองหลวงแห่งนี้โดยรวมแล้ว อาจจะพูดได้ว่า คฤหาสน์แกรนเทรนท์เป็นคฤหาสน์เก่าคร่ำคร่า รูปทรงโดยรวมดูเรียบเกินกว่าจะบอกว่าสร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมของยุคสมัย ตัวสิ่งปลูกสร้างรายรอบด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ประเมินจากรูปทรงภายนอกตัวอาคารแล้ว พอเดาได้ว่ามีชั้นปกติสามชั้น และมีชั้นซึ่งเป็นห้องใต้หลังคาอีกหนึ่งชั้น รวมทั้งหมดเป็นสี่ชั้น ตัวตึกไม่ได้สร้างและตกแต่งด้วยอิฐสีหรือหินอ่อนเหมือนคฤหาสน์หลังอื่นๆ แต่สร้างขึ้นอย่างเรียบง่ายด้วยหินตัดและปูน ดูแล้วชวนให้รู้สึกถึงความเก่าแก่โบราณพวกอนุรักษ์นิยม...หรือไม่ก็พวกประหยัดมัธยัสถ์...ไซรัสประเมินตัวตนเจ้าบ้านจากสภาพคฤหาสน์ยังหรอก...ยังต้องดูให้ถี่ถ้วนกว่านี้ เขาเตือนตัวเองจากประสบการณ์ที่ผ่านๆ มามนุษย์บางคน ก็เก็บซ่อนตัวตนมิดชิด ทำตัวเหมือนน้ำนิ่ง มองภายนอกดูเหมือน

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 25

    “ต้องแบบนี้สิ” พริสซิลล่าดีดตัวลุกจากที่นั่ง “เห็นนั่นไหมจ๊ะ” เจ้าหล่อนกรีดนิ้วชี้ไปที่ผ้าผืนสวยบนปลายกิ่งต้นไม้ใหญ่ ที่ขึ้นอยู่ใกล้ๆ ระเบียง“ต้นไม้เหรอคะ” อัยน์นาแกล้งถามพาซื่อ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเหมือนไม่เข้าใจอะไรเลยคงเพราะสีหน้าเธอดูไม่รู้เรื่องรู้ราวเกินไป คนที่จับข้อมือเธอไว้อย่างแอนนาเบลก็เลยหมั่นไส้จนถึงขั้นออกปากด่า“ฉลาดน้อย!”ท่านหญิงคนรองของคฤหาสน์รีบบุ้ยใบ้ไปยังผ้าคลุมไหล่โปร่งบางปักดิ้นเงินดิ้นทองที่พาดอยู่บนกิ่งไม้“นั่นย่ะ ผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่ที่คุณพ่อสั่งทำให้คุณพี่พริสซิลล่าต่างหาก”“ทำไมผ้าคลุมไหล่ถึงไปอยู่บนนั้นได้ล่ะคะ” คนโดนจิกแขนยังคงวางสีหน้าซื่อใส เหมือนไม่เข้าใจอะไรสักนิด“ลมพัดไปน่ะ” พริสซิลล่าตอบพลางชี้นิ้วสั่งให้สาวใช้ยกแก้วชาส่งให้ เจ้าหล่อนสูดกลิ่นหอมจากชา ก่อนถาม “ไหนไหนเราก็เป็นพี่น้องกันนี่เนอะ ถือว่าช่วยพี่สาวอีกสักครั้ง ช่วยปีนขึ้นไปเก็บมาให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ?”“ปีนเหรอคะ” อัยน์นาถาม สีหน

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 24

    “เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ” ความคาใจ ขับให้อัยน์นาออกปากถามอย่างตรงไปตรงมา“เราไม่มีทางรู้หรอก ว่าเรื่องนี้จริงเท็จสักแค่ไหน บางทีมันอาจจะเป็นแค่ความหวาดระแวงของพวกมนุษย์ หรือไม่ก็อาจจะมีอะไรมากกว่านั้น ตั้งแต่โบราณมา ดินแดนหลังแนวภูเขาถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์เสียยิ่งกว่าป่าดึกดำบรรพ์ที่คั่นระหว่างดินแดนเร้นลับที่ว่านี้กับอาณาจักรอัสกันด์เสียอีก คนโบราณเชื่อว่าที่นั่นเป็นที่พำนักของเหล่าเทพ เทวดา การที่ความเชื่อเก่าแก่ถูกแทนที่ด้วยเรื่องพรรค์นี้รวดเร็วชนิดไฟลามทุ่งแบบนี้...มันออกจะผิดปกติ”“คุณพ่อหมายถึงการสร้างกระแสความหวาดกลัวเพื่อให้ทุกคนคล้อยตามโดยไม่ปริปากถาม กับการสร้างความชอบธรรมที่จะทำสงครามกับพวกอสุรกายพวกปีศาจน่ะเหรอคะ...แต่ถ้าเรื่องมันไม่ร้ายแรงอะไร พวกชนชั้นสูงในอาณาจักรเราจะอยากเอาอาณาจักรตัวเองไปเสี่ยงทำไม?”ท่านเจ้ากรมการเมืองจ้องลึกลงในตาลูกสาวคนสุดท้อง คล้ายจะอ่านความคิดบางอย่างชายสูงวัยชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนถาม“ลูกคิดว่ายังไงล่ะ”“เป็นไปไม่ไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status