Share

บทที่ 25

Penulis: Karawek House
last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-27 20:52:28

“ต้องแบบนี้สิ” พริสซิลล่าดีดตัวลุกจากที่นั่ง “เห็นนั่นไหมจ๊ะ” เจ้าหล่อนกรีดนิ้วชี้ไปที่ผ้าผืนสวยบนปลายกิ่งต้นไม้ใหญ่ ที่ขึ้นอยู่ใกล้ๆ ระเบียง

“ต้นไม้เหรอคะ” อัยน์นาแกล้งถามพาซื่อ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเหมือนไม่เข้าใจอะไรเลย

คงเพราะสีหน้าเธอดูไม่รู้เรื่องรู้ราวเกินไป คนที่จับข้อมือเธอไว้อย่างแอนนาเบลก็เลยหมั่นไส้จนถึงขั้นออกปากด่า

“ฉลาดน้อย!”

ท่านหญิงคนรองของคฤหาสน์รีบบุ้ยใบ้ไปยังผ้าคลุมไหล่โปร่งบางปักดิ้นเงินดิ้นทองที่พาดอยู่บนกิ่งไม้

“นั่นย่ะ ผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่ที่คุณพ่อสั่งทำให้คุณพี่พริสซิลล่าต่างหาก”

“ทำไมผ้าคลุมไหล่ถึงไปอยู่บนนั้นได้ล่ะคะ” คนโดนจิกแขนยังคงวางสีหน้าซื่อใส เหมือนไม่เข้าใจอะไรสักนิด

“ลมพัดไปน่ะ” พริสซิลล่าตอบพลางชี้นิ้วสั่งให้สาวใช้ยกแก้วชาส่งให้ เจ้าหล่อนสูดกลิ่นหอมจากชา ก่อนถาม “ไหนไหนเราก็เป็นพี่น้องกันนี่เนอะ ถือว่าช่วยพี่สาวอีกสักครั้ง ช่วยปีนขึ้นไปเก็บมาให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ?”

“ปีนเหรอคะ” อัยน์นาถาม สีหน้าหวาดหวั่น “เอ่อ...แต่ว่า...”

“แต่เต่ออะไรล่ะ เดี๋ยวลมพัดแรง ใบไม้ไหว กิ่งไม้เกี่ยวผ้าคลุมไหล่เสียหายกันพอดี เนอะ” ท้ายประโยค พี่สาวคนโตหันไปเออออกับแอนนาเบล “คุณพ่อสั่งให้พวกเรารักใครช่วยเหลือกันไม่ใช่เหรอ?”

“คุณหนูคะ” สาวใช้คนหนึ่งแทรกขึ้น ท่าทีกล้าๆ กลัวๆ “ให้ทหารในจวนมาเก็บให้เถอะค่ะ”

“ไม่ได้! ” พริสซิลล่าตวาดใส่ทันที “เกิดพวกมือไม้หนักพวกนั้นทำผ้าขาดขึ้นมาก็แย่น่ะสิ!”

“แต่คุณหนูอัยน์นากำลังป่วยนะคะ” สาวใช้อีกคนพยายามช่วยคุณหนูคนใหม่ แต่กลับโดนท่านหญิงคนโตสาดน้ำชาร้อนๆ ใส่เป็นการตอบแทน

พริสซิลล่าทำท่าจะยกแก้วชาตบซ้ำ แต่โดนเสียงอัยน์นาขัดขึ้นเสียก่อน

“พอเถอะค่ะ แค่เก็บผ้าคลุมไหล่ใช่ไหมคะ” คุณหนูคนเล็กของคฤหาสน์บอกละล่ำละลัก ก่อนจะโดนท่านหญิงแอนนาเบลผลักเข้าใส่ขอบระเบียงเย็นเยียบ

“ระวังด้วยล่ะ อย่าให้ผ้าเป็นรอย” แอนนาเบลกำชับเสียงเขียว

สิ้นเสียงสั่ง คุณหนูคนเล็กของคฤหาสน์ก็พยายามปีนขึ้นนั่งบนราวระเบียงด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ

เธอเหลียวมองไปทางพี่สาวด้วยแววตาแบบเดียวกับคนที่คาดหวังว่า ‘คนที่ตนรักจะเปลี่ยนใจไม่คิดทำร้าย’ มองแววตาสาวใช้ภายในห้อง สลับกับพื้นปูอิฐแข็งๆ ด้านล่าง

สุดท้าย เมื่อเห็นว่าพี่สาวต่างมารดาคงไม่คิดจะเปลี่ยนใจ คนที่พอเดาได้ว่าโดนแกล้งใช้ให้ทำเรื่องอันตรายก็กัดฟัน เบือนหน้าเข้าหาผ้าคลุมไหล่ แล้วพยายามเอื้อมมือไปหากิ่งไม้ที่อยู่ห่างออกไปราวหนึ่งศอก

แค่นิดเดียว...อีกนิดเดียวเท่านั้น...

อัยน์นาพยายามเอื้อมแขนอยู่นาน เมื่อแน่ใจว่าคงเอื้อมไปเก็บผ้าในท่านั่งแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ ธิดาคนสุดท้องของเจ้าของคฤหาสน์ก็เหลียวกลับไปมองพี่สาวทั้งสองอีกครั้ง

คราวนี้คนทั้งคู่เหยียดยิ้มใส่ แววตาฉายแววสะใจปนสนุกสนาน

นั่นทำให้ฟางเส้นสุดท้ายในใจเธอขาดผึง

อีกนิดเดียว เธอเม้มปากแน่น พยายามกัดฟันข่มไม่ให้เผลอแสดงสีหน้าขุ่นเคือง จากนั้นก็ฝืนทรงตัวขึ้นยืน ทั้งๆ ที่พื้นที่ต้องเหยียบแคบกว่าฝ่าเท้าเสียอีก

“คุณหนู อย่าค่ะ!” สาวใช้ในห้องรีบร้องห้าม แต่อัยน์นายังฝืนเก็บผ้าผืนเดิมต่อไป

หยดน้ำสีใสร่วงลงไล้แก้มขาวนวลในวินาทีถัดมา

สองมือบอบบางเอาแต่พยายามเอื้อมคว้า สองตายังคงจับจ้องผ้าผืนสวย แววตามุ่งมั่น

“คุณหนูคะ...พอเถอะ” สาวใช้คนเดิมอ้อนวอนเสียงสั่น

“ท่านหญิงคะ บอกให้คุณหนูอัยน์นาหยุดเถอะค่ะ เกิดตกลงไปจะแย่เอานะคะ” สาวใช้อีกคนเอ่ยขึ้นบ้าง

คราวนี้ แอนนาเบลเป็นฝ่ายตวาดคนรับใช้เสียงดังลั่นห้อง

“นี่แค่ชั้นสอง คอไม่หักหรอกน่ะ!”

ไม่ทันที่ใครจะได้พูดหรือทำอะไรมากกว่านี้ ร่างคนบนราวระเบียงก็เกิดซวนเซขึ้นมา เรียกเสียงหวีดร้อง เสียงฮือฮาจากด้านล่างได้ดังระงม

“มีคนเห็นแล้ว...” พริสซิลล่าพึมพำ ก่อนร้องสั่ง “ยัยขี้เถ้า! พอแล้ว ไม่ต้องเก็บแล้ว!”

ทั้งๆ ที่โดนสั่งแบบนั้น แต่ดูเหมือนคนเคยโดนสั่งให้เก็บผ้าคลุมไหล่จะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้

ร่างบอบบางน่าถนอมเหมือนตุ๊กตาโอนไปทางซ้าย เอนไปทางขวา

สาวใช้ในห้องรีบถลาเข้าคว้า

แต่ไม่ทัน

...เพียงเอื้อมมือไปหา กุหลาบทะเลทรายดอกน้อยก็พลัดหล่นจากราวระเบียงเสียแล้ว...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 29

    “คุณ...” เธอพยายามคุมน้ำเสียงให้ฟังดูนุ่มนวลเหมือนปกติ ทั้งๆ ที่รู้สึกเหมือนโดนขัดคอเพราะประโยคนั้น “หลงทางเหรอคะ”“ไซรัสครับ”“ค่ะ...ใครใครก็เรียกคุณว่าไซรัส ดิฉันจำได้” ปากตอบด้วยท่าทีสงบ แต่สายตาอยู่ไม่สุขกลับเผลอจ้องริมฝีปากเขาแล้วนึกถึงเรื่องในสระน้ำขึ้นมา “มาธากับเพื่อนๆ บอกว่าคุณอาจจะมาตรวจสอบความพึงพอใจลูกค้าด้วยตัวเอง...แล้วคุณก็มาจริงๆ”“ครับ” เขารับคำสั้นๆ พลางเดินตรงมาหาเธอด้วยสีหน้าราบเรียบ ยากจะคาดเดา “แผลนั่นดูดีขึ้นมากเลยนะครับ โชคดีจริงๆ ที่กิ่งไม้ไม่บาดลึกกว่านี้”เพราะไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน อัยน์นาจึงเลือกคลี่ยิ้มน้อยๆ แทนการตอบ“พบคุณก็ดีแล้ว ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณอยู่พอดี” แขกของคฤหาสน์สบตาเธอด้วยแววตาเปี่ยมประกายเอาจริงเอาจังเจิดจ้าทว่ามีสัดส่วนของความยวนเย้าอย่างเปลวไฟ อัยน์นาจึงเลือกตอบกลับปฏิกิริยานั้นด้วยการจ้องลึกลงในตาเขาด้วยแววตาบริสุทธิ์เหมือนน้ำใสสะท้อนแสงดาวสุกสกาวก็เอาสิ ถ้าผู้ชายคนนี้อยากเล่นเกมจ้องตากับเธอ วันน

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 28

    “แหม แขนคุณถลอกนี่คะ” พริสซิลล่าเปลี่ยนเรื่องคุยทั้งอย่างนั้น เจ้าหล่อนขยับเข้าจับแขนเขา พลิกดู แล้วสั่งน้องสาวด้วยท่าทีสุภาพใจเย็นอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน “แอนนาเบลจ๊ะ ไปเอาน้ำอุ่นกับผ้าสะอาดมาให้พี่ที สาวใช้พวกนี้ใช้การไม่ได้ แค่ตกใจเข้าหน่อยก็หนีหายออกไปมุงดูกันหมด”แอนนาเบลจะเดินผละออกไป แต่ไซรัสรีบชิงปฎิเสธ“อย่าลำบากเลยครับ แค่รอยถลอกเท่านี้”“ทำไมคะ หรือกลัวอยู่ในห้องด้วยกันสองคนนานๆ แล้วผู้คนจะนินทา”ไซรัสเลือกจะไม่ต่อปากต่อคำ เพียงคุยด้วยไม่เท่าไหร่ เขาก็เดาออกแล้ว ว่าพริสซิลล่าดื้อรั้นและเอาแต่ใจตัวเองแค่ไหนพอเห็นเขาไม่ตอบอะไร เจ้าหล่อนก็อ้าปากพูดเพิ่ม“หรืออยากรีบไปดูใจอัยน์นาเหมือนสาวใช้สองคนล่าสุดที่เข้ามาในห้องนี้” คุณหนูคนโตช้อนตา มองค้อน แล้วเบือนหน้าหนี วางท่าเหมือนตั้งใจงอนให้ง้อตอนนั้นเอง แอนนาเบลก็ชิงเดินหลบออกจากห้องไปเงียบๆ ทั้งห้องจึงเหลือพ่อค้าหนุ่มกับท่านหญิงคนโตของคฤหาสน์เพียงสองคนเท่านั้นไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง&ldquo

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 27

    กว่าจะรู้ตัวอีกที สองมือแกร่งก็ดึงร่างนุ่มนิ่มเข้ากอดแนบอก ก่อนเสียหลักล้มลงนอนหงาย กลายเป็นเบาะให้เธอ“คุณ...” หญิงสาวอ่อนเยาว์เบิกตากว้าง ไม่รู้ว่าตกใจที่เห็นหน้าเขาหรือตกใจเพราะพลัดตกลงมาเธอแข็งขืนเหมือนพยายามจะดันตัวลุกขึ้นแต่เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป เขายังกอดร่างเธอไว้แน่น การกระทำนั้น เลยกลายเป็นการขยับตัวให้เส้นผมกรุ่นกลิ่นกุหลาบจางๆ คล้อยลงไล้แก้มเขาอย่างไม่ตั้งใจความอ่อนนุ่มที่ขยุกขยิกอยู่บนตัวเขา...กลิ่นดอกไม้หอมรัญจวน...ดวงตาตื่นๆ คู่ที่เคยตรึงสายตาและเชิญชวนให้เขาทำเรื่องผิดบาป สามอย่างนี้ทำให้ทุกอย่างคล้ายหยุดนิ่งไปในวินาทีนั้นเธออยู่ตรงนี้ อยู่บนตัวเขา อย่างแนบชิดไซรัสระบายลมหายใจอย่างยากลำบาก เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ในการประคองร่างบอบบางในอ้อมแขนลุกขึ้นยืน แล้วสอบถามอย่างมีอารยะ“บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ?”“ไม่...ไม่ค่ะ” ทั้งๆ ที่เธอตอบแบบนั้น แต่เขากลับสังเกตเห็นรอยบาดที่ฝ่ามือมันอาจจะเป็นบาดแผลเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับบาดแผลส่วนใหญ่ที่เขาพบเห็นมาใน

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 26

    นับตั้งแต่นาทีแรกที่รถม้าเคลื่อนผ่านประตูรั้วกว้างขวาง ไซรัสก็รู้สึกถึงความเงียบสงบอันหาได้ยากยิ่งในเมืองหลวงคฤหาสน์แกรนเทรนท์ที่ปรากฏแก่สายตาเขาในยามนี้ ไม่ใช่คฤหาสน์หลังโต รูปทรงโก้หรู เหมือนคฤหาสน์หลังอื่นๆ ในเมืองหลวงแห่งนี้โดยรวมแล้ว อาจจะพูดได้ว่า คฤหาสน์แกรนเทรนท์เป็นคฤหาสน์เก่าคร่ำคร่า รูปทรงโดยรวมดูเรียบเกินกว่าจะบอกว่าสร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมของยุคสมัย ตัวสิ่งปลูกสร้างรายรอบด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ประเมินจากรูปทรงภายนอกตัวอาคารแล้ว พอเดาได้ว่ามีชั้นปกติสามชั้น และมีชั้นซึ่งเป็นห้องใต้หลังคาอีกหนึ่งชั้น รวมทั้งหมดเป็นสี่ชั้น ตัวตึกไม่ได้สร้างและตกแต่งด้วยอิฐสีหรือหินอ่อนเหมือนคฤหาสน์หลังอื่นๆ แต่สร้างขึ้นอย่างเรียบง่ายด้วยหินตัดและปูน ดูแล้วชวนให้รู้สึกถึงความเก่าแก่โบราณพวกอนุรักษ์นิยม...หรือไม่ก็พวกประหยัดมัธยัสถ์...ไซรัสประเมินตัวตนเจ้าบ้านจากสภาพคฤหาสน์ยังหรอก...ยังต้องดูให้ถี่ถ้วนกว่านี้ เขาเตือนตัวเองจากประสบการณ์ที่ผ่านๆ มามนุษย์บางคน ก็เก็บซ่อนตัวตนมิดชิด ทำตัวเหมือนน้ำนิ่ง มองภายนอกดูเหมือน

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 25

    “ต้องแบบนี้สิ” พริสซิลล่าดีดตัวลุกจากที่นั่ง “เห็นนั่นไหมจ๊ะ” เจ้าหล่อนกรีดนิ้วชี้ไปที่ผ้าผืนสวยบนปลายกิ่งต้นไม้ใหญ่ ที่ขึ้นอยู่ใกล้ๆ ระเบียง“ต้นไม้เหรอคะ” อัยน์นาแกล้งถามพาซื่อ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเหมือนไม่เข้าใจอะไรเลยคงเพราะสีหน้าเธอดูไม่รู้เรื่องรู้ราวเกินไป คนที่จับข้อมือเธอไว้อย่างแอนนาเบลก็เลยหมั่นไส้จนถึงขั้นออกปากด่า“ฉลาดน้อย!”ท่านหญิงคนรองของคฤหาสน์รีบบุ้ยใบ้ไปยังผ้าคลุมไหล่โปร่งบางปักดิ้นเงินดิ้นทองที่พาดอยู่บนกิ่งไม้“นั่นย่ะ ผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่ที่คุณพ่อสั่งทำให้คุณพี่พริสซิลล่าต่างหาก”“ทำไมผ้าคลุมไหล่ถึงไปอยู่บนนั้นได้ล่ะคะ” คนโดนจิกแขนยังคงวางสีหน้าซื่อใส เหมือนไม่เข้าใจอะไรสักนิด“ลมพัดไปน่ะ” พริสซิลล่าตอบพลางชี้นิ้วสั่งให้สาวใช้ยกแก้วชาส่งให้ เจ้าหล่อนสูดกลิ่นหอมจากชา ก่อนถาม “ไหนไหนเราก็เป็นพี่น้องกันนี่เนอะ ถือว่าช่วยพี่สาวอีกสักครั้ง ช่วยปีนขึ้นไปเก็บมาให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ?”“ปีนเหรอคะ” อัยน์นาถาม สีหน

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 24

    “เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ” ความคาใจ ขับให้อัยน์นาออกปากถามอย่างตรงไปตรงมา“เราไม่มีทางรู้หรอก ว่าเรื่องนี้จริงเท็จสักแค่ไหน บางทีมันอาจจะเป็นแค่ความหวาดระแวงของพวกมนุษย์ หรือไม่ก็อาจจะมีอะไรมากกว่านั้น ตั้งแต่โบราณมา ดินแดนหลังแนวภูเขาถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์เสียยิ่งกว่าป่าดึกดำบรรพ์ที่คั่นระหว่างดินแดนเร้นลับที่ว่านี้กับอาณาจักรอัสกันด์เสียอีก คนโบราณเชื่อว่าที่นั่นเป็นที่พำนักของเหล่าเทพ เทวดา การที่ความเชื่อเก่าแก่ถูกแทนที่ด้วยเรื่องพรรค์นี้รวดเร็วชนิดไฟลามทุ่งแบบนี้...มันออกจะผิดปกติ”“คุณพ่อหมายถึงการสร้างกระแสความหวาดกลัวเพื่อให้ทุกคนคล้อยตามโดยไม่ปริปากถาม กับการสร้างความชอบธรรมที่จะทำสงครามกับพวกอสุรกายพวกปีศาจน่ะเหรอคะ...แต่ถ้าเรื่องมันไม่ร้ายแรงอะไร พวกชนชั้นสูงในอาณาจักรเราจะอยากเอาอาณาจักรตัวเองไปเสี่ยงทำไม?”ท่านเจ้ากรมการเมืองจ้องลึกลงในตาลูกสาวคนสุดท้อง คล้ายจะอ่านความคิดบางอย่างชายสูงวัยชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนถาม“ลูกคิดว่ายังไงล่ะ”“เป็นไปไม่ไ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status