Share

chapter 6

last update Last Updated: 2024-12-01 21:12:20

น้ำเสียงใสดุจระฆังทองแต่สั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด สร้างความพึงพอใจให้กับฟารฮานเป็นอย่างมาก อย่างน้อยตอนนี้ก็ได้รู้และมั่นใจแล้วว่าแม่สาวมัดหมี่ยังไม่มีแมลงใดๆ ไต่ตอม แต่ถ้าให้ดีก็ขอลองลิ้มชิมรสจูบจากริมฝีปากอวบอิ่มนั่นสักหน่อยก็แล้วกัน ดูท่าทางจะหวานดีใช่หยอก

“ว้า...น่าเสียดายจังที่มัดหมี่จำผมไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมทบทวนความจำให้ดีกว่านะ” มือใหญ่คว้าเอวเล็กคอดและดึงอย่างรวดเร็ว จนเรือนกายบอบบางถลาเข้าไปซุกอยู่ในอ้อมกอดหนาและแข็งแกร่ง อีกมือจับปลายคางมนพร้อมกับก้มหน้าลงไปหาอย่างรวดเร็ว

ริมฝีปากหนาอุ่นร้อนประทับลงไปบนเรียวปากนุ่มอิ่มเต็ม บดคลึงด้วยแรงปรารถนาที่ซุกซ่อนอยู่ในเรือนกายตั้งแต่เมื่อแรกที่ได้เห็นแม่สาวน้อยมัดหมี่ถลาเข้ามาซบอกอุ่น มือใหญ่จับรั้งแขนเรียวยาวที่พยายามยกขึ้นประทุษร้ายกายแกร่งไพล่หลัง อีกมือก็รัดร่างน้อยจนลอยจากพื้นและพาไปยังมุมหนึ่งใกล้ห้องบอลลูม ซึ่งเป็นมุมอับลับจากสายตาคน

“อื้อ...อื้อ...” ปิยาพัชรเบิกตากว้าง ความกลัวแผ่ซ่านคลุมกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สองมือสองเท้าเย็นเฉียบ หัวใจเต้นโครมครามเหมือนกับมีใครเอากลองใบใหญ่มาตีอยู่ แต่ความโกรธเพราะถูกล่วงเกินจากชายหนุ่มซึ่งไม่เคยรู้จักก็มีมากอยู่ ทำให้พยายามเอาตัวรอดจากอารมณ์แปลกประหลาดที่โอบล้อมรอบเรือนกายอยู่ ใบหน้าขาวพยายามเบือนหนี แต่ดูเหมือนว่าริมฝีปากหนาร้อนยังคงตามติดไม่ให้ถอยหนีได้เสียด้วย

“ฉันว่าเอาไอ้หน้ากากนี่ออกดีกว่านะมัดหมี่ ให้ฉันได้เห็นหน้าเธอชัดเจนหน่อยนะสาวน้อย” ฟารฮานเปลี่ยนสรรพนามเรียกมัดหมี่เสียใหม่อย่างไม่ค่อยชินกับการใช้คำว่าผมเท่าไหร่นัก

ชายหนุ่มไม่รอให้มัดหมี่ตอบปฏิเสธ ปลายนิ้วใหญ่เกี่ยวเอาหน้ากากที่สวมใส่อยู่ตกลงบนพื้น พร้อมกับริมฝีปากหนาอุ่นร้อนทาบทับไปทั่วใบหน้ารูปไข่ อีกทั้งมือใหญ่ที่ว่างอยู่ก็ไม่ยอมอยู่นิ่งเฉย ลากไล้ไปทั่วลำตัวบอบบาง ไม่ว่าแตะไปตรงจุดใดก็ทิ้งความร้อนผ่าวเหมือนถ่านไฟทาบบนผิวเนื้อเนียนนุ่ม ก่อนจะมาหยุดนิ่งบนเนินทรวงสล้างและอวบอิ่ม ปลายนิ้วลากไล้ตามรอยขอบเสื้อ

“มะ...ไม่...” ปิยาพัชรตัวสั่นระริกและอ่อนระทวย สองขาสั่นไหวเหมือนจะยืนทรงตัวไม่อยู่กับจุมพิตวาบหวามและเรียกร้อง ลมหายใจหอบพร่าเหมือนจะหายใจไม่ออก จำต้องเปิดริมฝีปากสูดเอาลมหายใจเข้าปอด แต่ไม่รู้เลยว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้กับฟารฮาน

ปลายลิ้นสากร้อนค่อยๆ ล่วงล้ำเข้าไปภายในโพรงปากนุ่ม แตะแต้มตามไรฟัน กระพุ้งแก้ม ก่อนจะเกี่ยวกระหวัดเข้ากับปลายลิ้นเล็กๆ ที่พยายามขับไล่สิ่งบุกรุกออกไป ดูดกลืนซอกซอนหาความหอมหวานจากโพรงปากนุ่มอิ่มเต็มอย่างชื่นฉ่ำใจ แม้จะนอนกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา แต่ไม่เคยมีใครทำให้รู้สึกอิ่มเอมและมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้ง ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่นอนด้วยก็เพียงแค่บำบัดความใคร่ แต่กับสาวน้อยในอ้อมแขนนี้กลับให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

“จะหนีทำไมล่ะมัดหมี่” ชายหนุ่มทอดเสียงนุ่ม มือหนาซอกซอนไปด้านหลัง เกี่ยวเอาซิปรูดลงแต่ก็เพียงเล็กน้อยก่อนวกกลับมาด้านหน้า เพื่อสัมผัสกับปทุมถันกลมกลึงอย่างถนัดถนี่ที่ความนุ่มหยุ่น ทำให้เขาคิดถึงจนอดใจไม่ไหวต้องรีบปิดปากอิ่มด้วยมือหนา ก่อนละริมฝีปากอุ่นร้อนทาบลงมาตามผิวกายเนียนนุ่มและหอมกรุ่น จนได้พบกับเนินทรวงสล้างขาวผ่องซึ่งยังซุกซ่อนไว้ในกรวยสีหวาน จมูกโด่งเป็นสันกดลงไปอย่างหยอกล้อ

“ไม่มีความสุขกับสัมผัสของฉันหรือมัดหมี่”

ปากหนาขบเม้มไปตามผิวเนื้อเนียนนุ่มและเกือบจะครอบครองทับทิมผลนุ่มอยู่แล้ว แต่ยังคิดได้ ถ้าเขาขืนแตะต้องไปตามแรงอารมณ์ที่ปะทุขึ้น มีหวังเมื่อมัดหมี่เดินเข้างานคงจะต้องเป็นที่จับตาของหนุ่มหลายๆ คน ใบหน้าคมซบซุกกับเนินทรวงขาวผ่อง ขบเม้มริมฝีปากหนาร้อนวนเวียนจากซ้ายไปขวาอย่างไม่ยอมให้สองปทุมถันอวบอิ่มได้หยุดพัก ลมหายใจสาวหอบกระชั้นและถี่รัว ทรวงอกอวบสะท้อนขึ้นและลงอย่างน่ามอง

ไม่รู้ว่ามือเล็กถูกปล่อยตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงตอนนี้มันได้เคลื่อนไปจับต้องกายกำยำและดึงทึ้งเสื้อผ้าตัวใหญ่ พร้อมเอนกายบอบบางอิงแอบแนบชิดร่างหนาแกร่ง ลมหายใจหอบเป็นห้วงๆ ดวงตากลมโตเจิดจรัสเปล่งประกายระยิบระยับ ริมฝีปากอวบอิ่มเผยออ้าเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว

“มัดหมี่...ชื่อจริงชื่ออะไรหืม...” ฟารฮานถามเสียงหวานนุ่ม ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้แผ่วเบาไปตามเรือนกายบอบบางและซอกซอนบีบนวดลำขาเรียวยาวแผ่วเบา ใบหน้าคมซบซุกขบเม้มริมฝีปากหนาอุ่นร้อนกลับขึ้นไปใหม่ ริมฝีปากหนาขบเม้มปลายติ่งหู และรอฟังคำตอบจากเรียวปากอวบอิ่ม แต่เมื่อเห็นว่าแม่สาวมัดหมี่ยังไม่ยอมที่จะตอบคำถาม ปลายลิ้นสากร้อนจึงกระเซ้าเย้าแหย่ไปในช่องหูนุ่ม

ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้ม คลื่นความร้อนผ่าวจากกึ่งกลางท้องน้อยแผ่ซ่านโอบรอบเรือนกายอย่างรวดเร็ว สองมือเล็กที่จับเสื้อตัวใหญ่ไว้สั่นเทา ใบหน้าขาวสวยแหงนหงายไปด้านหลัง ความร้อนผ่าวทาบทับตั้งแต่เนินทรวงอวบอิ่ม ตลอดไปจนถึงลำคอและใบหูนุ่ม

“ว่าไงมัดหมี่...ชื่อจริงชื่ออะไร แล้วทำงานกับซัลจาร์ไท คอร์ปอร์เรชั่นมานานเท่าไหร่แล้วหืม...” มือใหญ่ลากไล้บีบนวดเรือนกายบอบบางผ่านผ้าเนื้อนุ่มเข้าไปกอบกุมปทุมถันอวบอิ่ม ปลายนิ้ววนเวียนรอบผลเชอรี่ก่อนกดคลึงแรงๆ จนร่างน้อยสะดุ้ง

“ปิ...ปิยาพัชร ทำงานกับซัลจาร์ไท คอร์ปอร์เรชั่นมาหะ...หกเดือนแล้วค่ะ”

“ทำแผนกไหนล่ะ” ฟารฮานไม่ยอมให้โอกาสดีที่มีหลุดรอดหายไป เสียดายว่าถ้าคืนนี้จัดงานที่บริษัท เขามีห้องพักส่วนตัวอยู่ด้านบน จะได้อิงแอบแนบชิดและมีความสุขกับแม่สาวมัดหมี่ แต่เมื่อยังอยู่ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมก็คงทำได้เพียงแค่เอาเปรียบเล็กๆ น้อยๆ ไปก่อน แต่คนอย่างเขาไม่ยอมให้สาวน้อยแสนสวยและหวานแบบนี้หลุดรอดน้ำมือไปได้หรอก ก็ทั้งหวานและหอมยั่วใจขนาดนี้ ใครปล่อยให้หลุดรอดเงื้อมมือไปก็โง่เต็มทีแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์ร้ายทรายสิเน่หา   chapter 112 - จบ

    “พาหม่อมฉันกลับมาอีกทำไม หม่อมฉันไม่อยากเห็นหน้าคนใจร้าย คนหลอกลวง”“ถ้าไม่ใจร้ายและหลอกลวงอีก จะอยู่ด้วยไหมล่ะ” น้ำเสียงนุ่มทุ้มและเว้าวอนทำเอาคนที่พยายามจะใจแข็งถึงกับสั่นระรัว ด้วยรู้ชะตาตัวเองดีตั้งแต่ถูกจับได้นั่นแหละว่าอาจหนีไม่พ้นอ้อมแขนใหญ่นี้ไปตลอดชีวิต“จะรู้ได้ไง พระองค์จะไม่หลอกหม่อมฉันอีก ทั้งพี่ทั้งน้องช่างวางแผนและเจ้าเล่ห์เหลือเกินนี่”“ใช้หัวใจแลกหัวใจไง”“เชอะ...คนอย่างองค์นาสเซอร์ ประมุขผู้ครองแคว้นซัลจาร์บาเมีย ชายหนุ่มที่มีผู้หญิงนับสิบอ๋อ...นับร้อยมากกว่าคอยถวายตัวเป็นข้ารองบาทน่ะหรือจะยอมหยุดอยู่ที่ผู้หญิงอย่างหม่อมฉันเพียงคนเดียว เชื่อตายละ” กัญญาพัชรยังคงปากแข็งแม้ใจจะยอมผ่อนตามไปเกือบจะครึ่งแล้ว“อ้าว...ทำไมล่ะ เราแตกต่างกับชายหนุ่มคนอื่นอย่างไร ถึงจะหยุดอยู่ที่ผู้หญิงเพียงคนเดียวไม่ได้น่ะ ผู้หญิงไม่ใช่สิ่งสำคัญเสมอไปในชีวิตนะมัดหวาย สำหรับเราเมื่อเราพบคนที่ใช่ เราก็พร้อมที่จะหยุดทุกอย่างไว้ที่เธอคนนั้นเพียงคนเดียว และตอนนี้เราก็คิดว่าเราพบนางคนนั้นของเราแล้ว”หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักๆ ไม่เป็นจังหวะ นาสเซอร์หมายถึงเธอใช่ไหม ‘ไม่นะมัดหวาย แกอย่าลืมซิว่าเขาหลอกลว

  • เล่ห์ร้ายทรายสิเน่หา   chapter 111

    “ไม่ใช่หรอกมัดหมี่ ถ้าเพียงแค่ความต้องการของผู้ชายคนหนึ่ง ฉันว่าเขาไม่ทำถึงขนาดนี้หรอก” ใบหน้าคมคร้ามแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม มือใหญ่จับมือเล็กเรียวมาวางบนแผงอกกว้างตรงที่มีหัวใจกำลังเต้นอยู่“สิ่งที่ฉันทำด้วยความเจ้าเล่ห์และร้ายกาจก็จริง แรกเริ่มมาจากเพียงแค่ความปรารถนาก็จริง แต่สิ่งหนึ่งนับจากวันแรกที่ฉันได้ครอบครองความบริสุทธิ์ของสาวน้อยคนนั้น มันเป็นคำสั่งมาจากหัวใจทั้งสิ้น” สองมือใหญ่จับรั้งใบหน้าขาวสวยให้จ้องเข้าไปในดวงตาคมกริบ“ฉันอยากจะบอกให้มัดหมี่รู้เหมือนกัน ฉัน...รัก...มัดหมี่”ปิยาพัชรแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ริมฝีปากอ้าค้าง หากว่าไม่ถูกจับรั้งไว้ศีรษะทุยคงจะส่ายบอกว่าไม่เชื่อและไม่จริง แต่คำพูดที่หนักแน่น ดวงตาที่มั่นคงดุจดังภูเขาหินที่ไม่อาจพังทลายลงมาได้ ไม่ว่าจะเจอพายุร้ายเพียงใดเป็นคำตอบที่ชัดเจน และที่สำคัญคือหัวใจของเธอมันก็เลือกที่จะเชื่อคำพูดนั้นซะด้วยสองแขนเรียวโอบรอบกายแข็งแกร่ง “จริงๆ นะคะ คุณฟารฮานพูดจริงๆ นะคะ ไม่ได้หลอกให้มัดหมี่ดีใจเล่นนะคะ”“จริงซิ ฉันจะโกหกมัดหมี่ทำไมล่ะ เพราะรัก ฉันเลยต้องวางแผนการร้ายทุกอย่าง เพื่อส่งแม่สาวจอมหว

  • เล่ห์ร้ายทรายสิเน่หา   chapter 110

    “แสดงว่าพวกนายรู้แผนการของเราทุกอย่างเลยใช่ไหม แล้วรู้ได้ยังไง รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมถึงไม่ขัดขวางตั้งแต่ต้น”“เอาเป็นว่าฉันจะเล่าให้เธอฟังวันหลังนะ แต่วันนี้ขอฉันลงโทษคนที่ทำให้ใจเสียก่อนละกัน”ใบหน้าขาวสวยแย้มยิ้ม ดวงตาเป็นประกายพราวระยับ สองแขนเรียวยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่ง “เสียใจด้วยนะอินซอฟ เผอิญว่าวันนี้เครื่องซักผ้ามันดันเกิดแอ๊กซิเดนท์ ทำงานไม่ได้อ่ะ”จันฑีราหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจ ยิ่งได้เห็นใบหน้าเสียอารมณ์ของอินซอฟก็ยิ่งอยากแกล้งยั่วเย้าให้หนักขึ้นอีก แต่รู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่เธอหายจากสิ่งที่เป็นอยู่ ย่อมจะต้องถูกเขาเอาคืนจนอาจจะลุกจากเตียงไม่ได้เพราะความเพลียมือเล็กจับแขนใหญ่วางยาวแนบไปกับพื้นเตียง พร้อมกับวางศีรษะลงไปนอนหนุน อีกมือก็จับแขนใหญ่มาพาดรอบเรือนกายเล็ก กายบางขยับจนแนบชิดกับเรือนกายใหญ่ นับจากวันนี้ชีวิตที่เคยมีเคยอยู่คนเดียวได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาเติมเต็มด้วยความรักและความอบอุ่น“ขอบใจนะอินซอฟที่รักฉัน เมื่อก่อนที่ฉันเคยทำร้ายและทำไม่ดีกับนายไว้ ขอให้นายยกโทษและให้อภัยฉันด้วยนะ ฉันสัญญาว่าต่อไปนี้ฉันจะทำตัวดีๆ และรักนายให้มากที่สุดเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำ

  • เล่ห์ร้ายทรายสิเน่หา   chapter 109

    “จะไปไหนล่ะมัดหมี่...” แขนแข็งแกร่งสอดเข้าระหว่างเอวเล็กคอดและดึงเข้าหาตัว ศีรษะทุยโน้มลงกระซิบเบาๆ ข้างใบหูนุ่ม น้ำเสียงกึ่งกระเซ้าและยั่วเย้า“รู้ไหมว่าโทษของคนที่คิดหนีฉันน่ะมันร้ายแรงมากนะ”“ปล่อยน้องสาวฉันนะนายฟารฮาน” แม้จะห้อยต่องแต่งอยู่บนร่างสูงใหญ่ แต่กัญญาพัชรก็ไม่วายส่งเสียงแว้ดๆ ใส่ฟารฮาน สองมือยันแผ่นหลังกว้างเพื่อจะได้นำเอาตัวเองลงไปขัดขวาง“ฉันว่าเธอเอาตัวให้รอดพ้นจากพี่ชายฉันก่อนดีกว่านะมัดหวาย ก่อนที่จะมาช่วยเหลือคนอื่นเขาน่ะ” ฟารฮานตอบกลับด้วยน้ำเสียงยิ้มๆ คิ้วคมเข้มข้างหนึ่งเลิกขึ้นสูงเป็นจังหวะ“ไปกันเถอะมัดหมี่ เรามีเรื่องที่จะต้องคุยเหมือนกัน”“ว้าย!!” สองแขนเรียวโอบรอบลำคอแกร่งอย่างรวดเร็ว เมื่อร่างกายลอยขึ้นจากพื้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว “ทำอะไรก็ไม่รู้คุณฟารฮานน่ะ”“ก็พาคนที่กล้าหนีฉันไปลงโทษไง” ใบหน้าคมโน้มลงจนจมูกโด่งคมประชิดติดแก้มนุ่ม“บ้า...” ปิยาพัชรส่งค้อนให้คนพูดวงโตด้วยความอบอุ่นในหัวใจ เพราะฟังจากน้ำเสียงฟารฮานไม่ได้โกรธเคืองเธอแม้แต่น้อยนิด อาจมีน้อยใจบ้าง แต่ถ้าอธิบายให้ฟังเขาก็พร้อมที่จะเข้าใจ“โว้ย...ปล่อยฉันนะคนบ้า คนเฮ็งซวย ไอ้ผู้ชายเส็งเคร็ง รัง

  • เล่ห์ร้ายทรายสิเน่หา   chapter 108

    ยามราตรีที่ท้องฟ้ามีแสงดาวส่องนำทาง สามร่างเดินตามกันไปอย่างรีบเร่ง โดยมีร่างสูงโปร่งเดินนำและร่างบอบบางอีกสองร่างเดินตามไปติดๆ ศีรษะทุยสอดส่ายเหลียวซ้ายแลขวา ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความระมัดระวัง ถึงแม้จะรู้ว่าคืนนี้นาสเซอร์ ฟารฮาน และอินซอฟกำลังอยู่ร่วมการประชุมในการกำหนดนโยบายของแคว้นว่าจะให้เดินไปในทิศทางใดหลังจากนี้ แต่ใครจะรู้เล่าเกิดว่าคนหนึ่งคนใดเกิดสงสัยในพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ และกระซิบกระซาบที่เธอและน้องๆ ทั้งสองคนมีมีหลายครั้งที่ร่างโปร่งบางหยุดยืนและหันไปจะเอ่ยปากถามสองสาวที่ตามมาด้วยว่าตัดสินใจดีแล้วใช่ไหมที่จะตามเธอไปน่ะ แต่พอเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรักและห่วงใยของสองสาวก็ทำให้พูดไม่ออก ใจจริงกัญญาพัชรไม่ได้อยากชวนปิยาพัชรและจันฑีราหนีไปด้วย แต่เพราะความเป็นห่วงเป็นใยในสวัสดิภาพของสองสาว ที่ไม่รู้ว่าจะต้องโดนหางเลขจากคนที่ไม่หวังดีด้วยเมื่อไหร่ มันก็ทำให้เธอต้องคะยั้นคะยอชักแม่น้ำทั้งห้าให้สองสาวเดินทางหลบหนีกลับบ้านด้วย อีกทั้งเมื่อน้องสาวทั้งสองคนรู้ว่าเธอจะหนีกลับ ทั้งสองก็ไม่ยอมให้เธอต้องเดินทางเพียงลำพังปิยาพัชรและจันฑีราเดินตามกัญญาพัชรไปด้วยใจที่เจ็บปวดและหวาดกลัว

  • เล่ห์ร้ายทรายสิเน่หา   chapter 107

    “อ้าว...พี่มัดหวายหลับแล้วละแก” ปิยาพัชรที่เล่าเรื่องของตัวเองจ๋อยๆ ด้วยความดีใจและสุขล้นหยุดอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมโตแปรเปลี่ยนเป็นหมองเศร้าลง เธอเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่สาวฟังแทบทั้งหมด ยกเว้นเรื่องที่เธอตกเป็นของฟารฮานแล้วและเรื่องถูกปองร้ายหมายเอาชีวิต“ใจเย็นๆ นะแก ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานอินซอฟจะต้องหาคนที่คิดร้ายกับแกเจอ” จันฑีรายกมือขึ้นตบบ่ากว้างของเพื่อนรักเบาๆ เธอเองก็เป็นกังวลไม่น้อยไปกว่าปิยาพัชร แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่ากัญญาพัชรมีอาการดีขึ้น ความเหนื่อยจากการเดินทางไกลก็เริ่มประท้วง ริมฝีปากอวบอิ่มอ้าหาวหวอดๆ ดวงตาก็เริ่มที่จะหรี่ลง“ฉันไม่ไหวแล้วแก ขอนอนกอดพี่มัดหวายก่อนนะ” ร่างบอบบางคลานขึ้นไปบนเตียงนอนใหญ่ เอนตัวนอนแนบชิดร่างกัญญาพัชร“เฮ้ย...ไม่เอาซิแก ฉันนอนด้วย” ปิยาพัชรบอก เพราะเธอก็เหนื่อยและเพลียเหมือนกัน ร่างบอบบางรีบเอนตัวลงอิงแอบแนบซบกับร่างพี่สาว แขนเรียวยาวพาดไปโอบร่างโปร่งไว้ แต่ด้วยความไม่ระมัดระวังทำให้ปลายมือไปถูกเอาที่บาดแผล ทำให้คนที่หลับอยู่ถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างงงๆ และเจ็บปวดเล็กน้อย“ขอมัดหมี่นอนด้วยนะพี่มัดหวาย คิดถึง อยากนอนกอดพี่” ปิยาพัชรบอกเสียงหว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status