LOGINผู้ว่าจ้างรายนี้ค่อนข้างเรื่องมากดูมีลับลมคมในรายละเอียดที่แจ้งไว้ก็ไม่ชัดเจน แต่ทางนั้นยืนยันรับรองความปลอดภัยอย่างดีที่สุด เพียงแขเม้มริมฝีปากขบคิดเรื่องงานที่ดีลมาจากฮ่องกง คิดไม่ตกว่าเป็นงานแบบไหน แต่ทางนั้นยืนยันเสียงหนักแน่นว่า ปลอดภัย และสุขสบาย เธอแกว่งแก้วไวน์ในมืออย่างมีจริตค่อย ๆ ละเลียดชิมความหอมหวานของมันอย่างใจเย็น
“หนูขอไปได้ไหมเงินน่าจะดีมาก เผื่อความสวยของหนูจะตกหนุ่มมาเฟียฮ่องกงได้บ้าง”
“น้อย ๆ หน่อยย่ะคุณมุกรดาคุณสมบัติของเธอไม่ผ่านสักข้อภาษาก็ไม่ได้ พ่อกับแม่ไม่สบายทั้งคู่ พี่ชายอย่างเชิดก็ไม่ได้ความทิ้งพวกเขาไปจะอยู่กันยังไงคิดก่อนไหม”
“แหม พี่แขก็พูดเสียหมดอนาคตเลย” มุกรดาอดมองค้อนเจ้าของไนต์คลับหรูเสียมิได้ เธอก็อยากได้รับโอกาสนั้นบ้าง เงินน่าจะดีแถมได้ไปเที่ยวต่างประเทศสาเหตุที่อยากรับงานนี้ส่วนหนึ่งมาจากอาการเซ็งเบื่อหน่ายชีวิตของตนเองเสียมากกว่า
“ไม่ ๆ ฉันไม่ให้หล่อนไปหรอกย่ะ ยัยมุกเผลอ ๆ โดยมาเฟียฆ่าหมกถังน้ำมัน ลอยเท้งเต้งอยู่กลางทะเลล่ะยุ่งเลย พ่อแม่พี่ชายจะอยู่ยังไง คิดบ้างสิ”
“อ้าวแล้วพี่ไม่กลัวยายน้ำหวานจะโดนบ้างเหรอ” มุกรดาอดแย้งไม่ได้น้ำหวานไปได้ทำไมเธอจะไปไม่ได้
“ไม่ ๆ ยังไงพี่ก็ไม่ให้เธอไปเด็ดขาด พี่เป็นห่วงเธอ” เพียงแขจ้องมองหน้ามุกรดาด้วยสีหน้าและแววตาจริงจัง นางเข้าใจความรู้สึกของหญิงสาวตรงหน้าดีแต่มันไกลเกินกว่าจะดูแล มุกรดาทำงานกับนางมานานเกือบสามปีและหญิงสาวมีความซื่อสัตย์สุจริต นิสัยดี มีน้ำใจ ไม่เรื่องมากและเป็นที่ไว้วางใจของนางมากคนหนึ่ง
“อ้าว แล้วยายน้ำหวานพี่ไม่ห่วงเหรอ”
“น้ำหวานมันเก่ง เคยรับงานเอ็นฯ ระดับอินเตอร์มาบ้างแล้ว ความช่ำชองมันต่างกัน”
“ไม่เห็นจะเก็ตเลยพี่แข” มุกรดาเบ้ปากมองบนพลางส่ายหน้ากับความคิดของเจ้านายสาวแอบเซ็งอยู่กลาย ๆ เธอก็อยากได้โอกาสนั้นบ้างช่วงนี้รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตอยากออกไปเผชิญโลกกว้างกับเขาบ้าง
“เอาน่าเชื่อพี่ อย่าทำหน้าเซ็งแบบนั้น มา ๆ ดื่ม ๆ พี่เลี้ยงเอง” มุกรดาทำหน้าเซ็งแอบมองค้อนเจ้านายสาวสีหน้าบึ้งตึง เพียงแขอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นใบหน้านั่น...
วันเดินทาง...
มุกรดาตื่นเต้นสุดขีดมือไม้เย็นเฉียบหัวใจสั่นระรัวเมื่อนั่งเครื่องบินเป็นครั้งแรก เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยได้นั่งเครื่องบิน ก่อนออกเดินทางก็ศึกษาข้อมูลมาบ้างเธอพร้อมที่จะทำงาน ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่างานที่ได้รับมอบหมายจะเป็นลักษณะไหน ไม่รู้รายละเอียดมากนักพี่แขบรีฟงานบอกแต่เพียงว่าจะมีคนมารับที่สนามบิน ทางนั้นยืนยันเสียงหนักแน่นถึงความปลอดภัยเมื่อไปถึงที่นั่น ถึงจะเป็นห่วงพ่อกับแม่และพี่ชายมากก็ตาม
แต่เงินก้อนแรกจำนวนหนึ่งล้านบาทที่โอนเข้ามาในบัญชีทำให้หัวใจดวงน้อยพองโตจนเก็บอาการไม่อยู่ อยากจะรู้เหลือเกินว่าเป็นงานอะไร แอบเผลอไผลคิดไปไกลว่าจะเจอกับอะไรบ้าง มาเฟียฮ่องกง นักเลงข้างถนน หรือโดนหลอกไปขายซ่อง คิดอะไรเรื่อยเปื่อยระหว่างนั่งเครื่องตลอดเวลาสองชั่วโมงกว่าไม่ได้งีบหลับแม้แต่น้อยเพราะมัวแต่ตื่นเต้น
“มุกพี่ไม่อยากให้เธอไปเลย แต่ยายน้ำหวานดันมาประสบอุบัติเหตุขาหักต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน วันเดินทางก็กำหนดไว้แล้ว พอร์ตของน้ำหวานก็ส่งไปให้เขาพิจารณาแล้วด้วย แต่ไม่เป็นไรพี่จะแจ้งว่าทางเราเปลี่ยนตัวกะทันหันและจะส่งอีเมลพอร์ตของเธอไปแทนน้ำหวาน บอกตามตรงพี่หาใครที่เหมาะสมกว่าน้ำหวานไม่ได้เลยนอกจากมุก ที่สำคัญเรารับเงินเขามาแล้ว”
บอดีการ์ดทั้งสองต่างวิตกกังวลเป็นอย่างมากเพราะสินค้าหายไปอย่างไร้ร่องรอย ที่สำคัญคือเธอไม่สามารถสื่อสารทั้งภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษได้ นั่นคือสิ่งที่พวกเขาเป็นกังวลและกลัวจะถูกมิจฉาชีพหลอก ชุนไห่แจ้งให้เจ้านายตนเองรับทราบ หลี่จวิ้นหยางได้รับโทรศัพท์จากบอดีการ์ดคนสนิท ระหว่างเจรจากับลูกค้าอยู่ที่กว่างโจว ชายหนุ่มปิดมือถือทันทีเมื่อเขาเห็นข้อมูลและรูปภาพของผู้หญิงที่มาแทนน้ำหวานก่อนจะพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว“มุกรดา” กรามสองข้างสบกันแน่นสีหน้าครุ่นคิดบางอย่างยากที่จะคาดเดาได้ คิ้วเข้มภายใต้คิ้วหนาขมวดเป็นปมเล็กน้อยกำลังนึกย้อนไปเมื่อหนึ่งปีก่อนกับสาวสวยเด็กเอ็นฯ ที่ชื่อ มุกรดา ชีวาวินทร์ ผู้หญิงที่กล้าขอนอนกับเขาภาพกิจกรรมเร่าร้อนโผล่เข้ามาในมโนภาพ ร่างอรชรอวบอัดเต่งมือทุกสัดส่วน ดิ้นเร่าอย่างร้อนแรงด้วยความไร้เดียงสาเพราะเป็นครั้งแรก ริมฝีปากอิ่มแดงระเรื่อด้วยพิษแอลกอฮอล์ช่างเย้ายวนเผยอเชื้อเชิญอย่างเขินอาย ความทะยานอยากพวยพุ่งจนกู่ไม่กลับภาพในคืนนั้นไหลบ่ามาเป็นฉาก ความสุขสมอิ่มเอมช่างหอมหวานแต่ก็ผ่านเลยไม่ได้ใส่ใจ… เจอกันเพียงสองหรือสามครั้งแทบจะลืมเลือน หญิงสาวถูกว่าจ้างให้มาเอ็นเตอร
มุกรดาก็เร็วอย่างกับปรอทคว้าหมับเข้าที่แขนเสื้อดึงรั้งเขาไว้เสียแน่นไม่ยอมปล่อย จนร่างอรชรถึงกับเสียหลักสะดุดขาตนเองหน้าเกือบคะมำถ้าไม่มีอ้อมแขนแข็งแรงของชายหนุ่มคว้าไว้ ทั้งคู่สบประสานสายตากันอย่างจัง ทำเอาสาวสวยมุกรดาทำตัวไม่ถูก น้ำหอมกลิ่นอ่อน ๆ ลอยปะทะไหลวนในโพรงจมูก“หอมจัง” ผู้ชายบ้าอะไรหล่อชะมัด ผิวก็ขาว ๆ ริมฝีปากก็บางสีแดงระเรื่อ หล่ออย่างกับพระเอกซีรีส์ที่เคยดู มุกรดากำลังเคลิบเคลิ้มกับความหล่อเหลา เป้าหน้าฟ้าประทานของหลี่เฉียงฮุย แต่ชายหนุ่มกลับผลักเธอออกทันทีอย่างนึกรังเกียจ พร้อมกับปัดแขนเสื้อไปมาเหมือนอะไรกำลังไต่หยุบหยับอยู่บนนั้น เธอไม่ใช่เทสต์ของเขา ร่างมุกรดาถึงกับเซถลาเล็กน้อย“ฟังฉัน...ฉันจะพาเธอไปส่งสถานทูตไทยและเธอควรกลับประเทศของเธอไป เข้าใจใช่ไหม ไม่เช่นนั้นฉันจะพาเธอส่งสถานีตำรวจแทนและบอกพวกเขาว่าเธอคุกคามข่มขู่ฉัน” “อะไรนะคุกคามข่มขู่บ้าไปแล้ว อย่าเลยนะ อย่าพาฉันส่งตำรวจเลย ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะมาหางานทำที่นี่ ครอบครัวของฉันลำบากมาก พ่อก็ขาหัก แม่ก็ป่วย พี่ชายพิการติดเตียง” มุกรดาแสร้งทำเสียงเศร้าพยายามบีบเคล้นน้ำตาสุดฤทธิ์ แอบหรี่ตามองหนุ่มตี๋ตรงหน้าตอนนี
ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในย่านคนรวยใจกลางเกาะฮ่องกง หลี่เฉียงฮุยนั่งกอดอกใบหน้าเรียบนิ่งออกจะตึง ๆ เล็กน้อย พลางหรี่ตามองอย่างประเมินหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ดวงหน้าสวยใสไร้สีสันที่ลอยเด่นตรงหน้า การแต่งกายที่ไร้รสนิยม เห็นแล้วรู้สึกหงุดหงิดในอารมณ์ ระยะนี้เขาอารมณ์ไม่ค่อยดี ไม่ว่าจะเรื่องของคุณปู่ และพี่ชายบุญธรรม เรื่องไร้สาระที่ท่านต้องการให้เขามีทายาทมันก่อกวนอารมณ์เขาอยู่ตอนนี้ ไหนจะหญิงสาวตรงหน้าที่นั่งทำตาละห้อยใส่เขาอีก ตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต บัตรประชาชน ยันบัตรกดเงินสดยี่ห้อหนึ่ง และมือถือหน้าจอแตกอีกหนึ่งเครื่อง พร้อมกับแบงก์เงินดอลลาร์ฮ่องกงจำนวนหนึ่ง ทั้งหมดวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ “เธอต้องการอะไร” เขาพูดภาษาไทยแต่สำเนียงอาจไม่เป๊ะเหมือนเจ้าของภาษา “เอาแบบตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม ห้ามตุกติก” เสียงเข้มของหลี่เฉียงฮุยทำเอามุกรดาแอบยิ้มแสดงว่าเขาอาจเปิดโอกาสให้เธอได้ต่อรอง มุกรดาสอดส่ายสายตาไปมาเห็นบอดีการ์ดมาดเข้มยืนจังก้าทางด้านหลังหนุ่มตี๋ตรงหน้า สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมาทางเธออย่างรอคอย พวกมาเฟียหรือเปล่านะ พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกช้างด้วย เสียงในหัวของมุกรดากำลังตีก
รถแท็กซี่ที่มุกรดาโบกมือเรียกจอดรออยู่นานเกือบสิบนาที สุดท้ายเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่มีทีท่าจะขึ้นจึงขับออกไปทันทีเพราะการจราจรค่อนข้างติดขัดทำให้คนขับไม่รอ มุกรดาทำตาปรอยมองตามหลังรถแท็กซี่คันนั้นไป และทันใดนั้นจึงหันมาต่อว่าชายหนุ่มที่แต่งตัวดีเวอร์ยืนเก๊กทำหน้าหล่ออยู่ตรงหน้า “เพราะนายคนเดียว ไอ้หน้าปลาจรวด” เธอแอบด่าเขาเป็นภาษาไทยโดยไม่คาดคิดสักนิดว่า หนุ่มตี๋หน้าหล่อคนนี้จะเข้าใจภาษาไทย หลี่เฉียงฮุยเกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาทันที ประกอบกับวันนี้เขาต้องเข้าไปธุระด่วนที่คฤหาสน์ตระกูลหลี่ เนื่องจากถูกเรียกตัวกลับจากทริปฝรั่งเศสกะทันหัน “ด่าใครไอ้หน้าปลาจรวด” เสียงเข้มแกมดุเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าบึ้งตึง “คุณ” มุกรดาร้องเสียงหลงขึ้นมาทันที พลางอ้าปากค้างกะพริบตาปริบ ๆ ยิ้มแหย่ “เธอด่าฉัน” เขาเอ่ยต่อทันทีไม่ให้เธอได้ตั้งตัว “ใครจะไปรู้ว่าฟังภาษาไทยออก” มุกรดาบ่นพึมพำรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก แต่ช่วยไม่ได้เขามาเหยียบหนังสือของเธอก่อน “เอ่อ คือ นาย เอ้ย ไม่ใช่ คุณเข้าใจภาษาไทยเหรอ” มุกรดาเอ่ยอ้อมแอ้มอดที่จะถามไถ่ไม่ได้ หลี่เฉียงฮุยเบ้ปากมองเหยียดหญิงสาวตรงหน้าอย่างเปิดเผย รู้สึกน่ารำคาญและเสี
จู่ ๆ ก็มีรถแท็กซี่คันหนึ่งมาจอดอยู่ตรงหน้า คนขับลดกระจกลงเอ่ยถามเป็นภาษาจีน มุกรดาเกิดอาการสตันไปหลายนาที อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เมื่อตั้งสติได้จึงรีบกดแอปแปลภาษาในโทรศัพท์แต่ก็ไร้ประโยชน์เพราะไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต “คือ...ฉัน...” มุกรดาพูดติดอ่างขึ้นมาทันทีทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษเป็นศูนย์ในเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน จากสาวสวยสายสตรองที่มีความมั่นใจ เฉลียวฉลาดกลายเป็นซื่อบื้อในบัดดล รีบเปิดกระเป๋าสะพายควานหาหนังสือสื่อสารภาษาจีนที่พกติดตัวมาด้วยรีบมากจนลนลานหนังสือเล่มดังกล่าวร่วงหล่นตกพื้นจึงหมายจะก้มลงเก็บ และอะไร ๆ มันจะบังเอิญพอดีกับความว่องไวของฝีเท้าที่เร่งรีบรองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังรุ่นลิมิเตดที่มีอยู่ไม่กี่คู่ในโลก คู่นั้นดันเหยียบลงบนมือเรียวกลมกลึงและหนังสือพร้อม ๆ กันโดยมิได้นัดหมาย “โอ๊ย ไอ้บ้าเหยียบลงมาได้ยังไงวะ” และเสียงอุทานเป็นภาษาไทยก็ชัดเจนแจ่มแจ้ง ชายหนุ่มหน้าตาดี ตาชั้นเดียว ผิวขาวสวมแว่นกันแดดสีชาปิดอำพรางใบหน้าปรายตามองรองเท้าคู่โปรดความรู้สึกเหมือนกำลังเหยียบอะไรนิ่ม ๆ แข็ง ๆ “ยกเท้าออกสิวะ เจ็บโว้ย” เสียงตะโกนเป็นภาษาไทยขึ้นมาอีกรอบคราวนี้น้ำเสียงหงุดหงิดมากกว่าเดิม เสีย
หลี่จวิ้นหยางลุกขึ้นเดินไปที่บาร์เล็ก ๆ ในห้องทำงาน ซึ่งเป็นห้องที่เขาจัดไว้สำหรับคลายเครียด คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อยคิดไม่ตกกับปัญหาที่คุณปู่ยื่นให้ จัดการเทน้ำสีอำพันลงไปประมาณเศษหนึ่งส่วนสามของแก้วก่อนจะยกขึ้นจรดริมฝีปากกระดกพรวดเดียวจนหมด ความขมเฝื่อนของมันไหลลงสู่ลำคอช่างอุ่นซ่านร้อนแรงพอ ๆ กับดีกรีของมันรู้สึกซาบซ่านไปทุกอณูของร่างกาย ก่อนจะต่อด้วยแก้วที่สองพร้อมกับเดินมาหยุดยืนบริเวณหน้ากระจกบานใหญ่ มือขวาถือแก้วเหล้าทรงสวยมือข้างที่เหลือล้วงกระเป๋ากางเกงรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง แต่ความเคร่งเครียดบนใบหน้าก็ไม่จางหาย สายตาทอดมองไปยังทิศเบื้องหน้าตึกสูงระฟ้าเรียงรายเป็นตับโอบรอบแผ่นน้ำที่กว้างใหญ่ไพศาล แสงแดดส่องสะท้อนระยิบระยับจับตาทัศนียภาพของที่นี่ยังคงงดงามตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมาเหยียบ “เนี่ยเหรอ ลูกชายของพงษ์เดช หน้าตาหล่อเหลาใช่เล่น แววตาดุกร้าว น่าค้นหาเสียจริง ไปอยู่กับฉันที่ฮ่องกงไหมหนุ่มน้อย ฉันจะทำให้นายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง” เสียงของนายหลี่เจี๋ยประมุขของตระกูลหลี่ ใคร ๆ ต่างเรียกขานเขาว่าท่านประธานหลี่ หรือนายท่านหลี่ผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของฮ่องกง ทำการค้าขายกับต่า







