Home / โรแมนติก / เล่ห์โอบรัก / บทที่ 1 มักกะลีผล - 25%

Share

บทที่ 1 มักกะลีผล - 25%

last update Last Updated: 2024-11-01 16:12:23

"โอย..."

มัลลิกาหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตนร่วงลงมาทับใครคนหนึ่ง และตอนนี้ก็กำลังนั่งทับร่างเขาอยู่ เธอก้มลงมองแล้วก็ต้องอุทานออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ

"ว้าย!" หญิงสาวพยายามกระถดตัวถอยมาด้านหลังพร้อมกับรวบกระโปรงนักศึกษาเข้าหาตัว เพราะตอนนี้กระโปรงพลีตของเธอคลุมศีรษะของเขาอยู่ แต่เพราะหัวเข่าที่เจ็บจากแรงกระแทกจึงทำให้เคลื่อนไหวไม่คล่องตัวเท่าไรนัก จึงเผลอหลุดเสียงร้องโอดโอยออกมาอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน คนที่เป็นเบาะเนื้อรองรับอยู่ด้านล่างก็รู้สึกโลกสว่างขึ้นมาทันทีเมื่อกระโปรงที่คลุมหน้าอยู่เมื่อครู่ถูกดึงออกไปพร้อมกับกางเกงในลายหน้าแมว จากนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยภาพใบหน้าแดงก่ำของหญิงสาวคนหนึ่งในชุดนักศึกษา ซึ่งตอนนี้เจ้าหล่อนกำลังนั่งทับท้องเขาอยู่ และมีทีท่าว่าจะถอยร่นต่ำลงไปเรื่อย ๆ

"เดี๋ยวก่อน หยุด! อย่าเพิ่งขยับ" เขารีบห้ามเธอเอาไว้ เพราะขืนปล่อยให้หญิงสาวถอยสะโพกลงไปมากกว่านี้ ตำแหน่งของ "แมวน้อย" ของเธอกับ "ปืนใหญ่" ของเขาอาจจ๊ะเอ๋กันได้

"หนูขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ" หญิงสาวยกมือไหว้เขาด้วยสีหน้าราวกับจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ เขาจึงเพิ่งรู้ตัวว่าเมื่อครู่ตนเสียงดังมากไปหน่อยจนเธอคิดว่าเขาโกรธ

"ไม่ใช่ พี่ไม่ได้ดุเธอนะอย่าเข้าใจผิด แต่ที่ไม่อยากให้ขยับก็เพราะว่า...เอ่อ...เพราะหลังพี่ยอกนิดหน่อยน่ะ จุกท้องด้วยก็เลยอยากให้อยู่เฉย ๆ ก่อน"

หญิงสาวได้ยินอย่างนั้นก็เบิกตากว้าง เธอก้มหน้าลงมองท้องของเขา จึงเพิ่งเห็นว่าตอนนี้ตนเองกำลังนั่งคร่อมทับท้องเขาอยู่ เธอเองก็ไม่ใช่เด็กน้อยไม่ประสีประสา เป็นถึงนักศึกษาปีสี่แล้วจึงเข้าใจดีว่า "ท่า" ของเธอกับเขาตอนนี้หมิ่นเหม่เพียงใด หากมีใครมาเห็นเข้าคงไม่ดีแน่

"หนูขอโทษค่ะ หนูจะรีบลงนะคะ"

มัลลิกาลนลานลงจากตัวภาวินอย่างทุลักทุเล แต่เพราะเจ็บเข่าจึงต้องหาวิธีลงให้ดี หญิงสาวโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วใช้มือทั้งสองข้างช่วยพยุงตัวโดยเอามือยันไว้กับพื้น จากนั้นก็ค่อย ๆ ไถลตัวลงไปด้านซ้ายจนขาและสะโพกของด้านนั้นแตะพื้นหญ้าได้แล้ว เธอจึงลากขาขวาที่กำลังพาดเอวชายหนุ่มอยู่ตามมาด้วย โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตั้งแต่ตอนที่ไถลตัวลงไปจนกระทั่งลากขาอีกข้างผ่านตัวเขานั้น ทั้งสีหน้าและทุกอิริยาบถถูกประทับไว้ในสายตาภาวินทั้งหมด

เธอมีผิวเนียนใส ใบหน้ารูปไข่ไร้เครื่องสำอาง จมูกโด่งกำลังดี หน่วยตาเรียว หางตาชี้ขึ้นเล็กน้อยเหมือนตาหงส์ คิ้วของเธอเข้มดกดำเหมือนคิ้วผู้ชาย และเรียวยาวพาดไปตั้งแต่หัวตาจนถึงหางตา เธอไม่ได้กันคิ้วให้เรียวเล็กเหมือนหญิงสาวคนอื่น ๆ จึงยิ่งทำให้ส่วนบนของใบหน้าโดดเด่นสะดุดตาทันทีที่มอง ริมฝีปากก็อวบอิ่มเป็นสีชมพูธรรมชาติ ไม่มีการแต่งแต้มสีสันลงไปแม้แต่น้อย ทุกอย่างเป็นธรรมชาติสรรค์สร้างมาทั้งหมด และทำให้เขาได้แต่มองอย่างเพลิดเพลิน

"โอย..." นั่นไง โดนเข้าจนได้!

ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจ ไม่กล้าพูดออกมาให้สาวน้อยตรงหน้าได้ยิน สาเหตุเพราะตอนที่เธอลากขาผ่านตัวเขาไปนั้น ขาเรียว ๆ ของเธอมันลากผ่านปืนใหญ่ของเขาไปด้วย

เขาไม่ใช่คนทะลึ่งหรือลามก และยิ่งไม่ใช่คนที่หื่นไม่รู้เวล่ำเวลา แต่ท่าโน้มตัวมาด้านหน้าทั้งที่กำลังนั่งคร่อมทับตัวเขาอยู่ หนำซ้ำยังมีเสียงครางผสานกับเสียงลมหายใจเบา ๆ ตอนเธอตั้งหน้าตั้งตาจะลงไปจากตัวเขานั้นช่างดูเซ็กซี่และร้อนแรงจนเขาอดจินตนาการเกินเลยไปไม่ได้จริง ๆ

"โอ๊ย!" ภาวินร้องได้แค่นั้นก็คู้ตัวงอเป็นกุ้งแล้วหันไปอีกทางทันที ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดของเขาทำให้หญิงสาวถึงกับหน้าเสีย

"คุณอา! คุณอาเป็นอะไรคะ" เธอถามเสียงสั่นพลางมองสำรวจร่างกายของเขาไปด้วย เห็นชายหนุ่มเอามือกุมเป้ากางเกงไว้แล้วก็ต้องยกมือขึ้นปิดปากแน่น ก่อนจะค่อย ๆ ปล่อยออกแล้วถามอย่างไม่แน่ใจนัก

"เมื่อกี้...โดนหรือคะ" เธอรู้อยู่ว่าจังหวะที่ชักเท้ากลับมา ส้นเท้าของตนไปกระแทกถูกจุดยุทธศาสตร์ของเขาเข้า

"เต็ม ๆ เลย" เสียงอู้อี้ของชายหนุ่มตอบมาไม่ดังเท่าไร แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้มัลลิการู้สึกผิดยิ่งขึ้นไปอีก เธอยกมือขึ้นไหว้เขาอีกครั้งแล้วพูดเสียงอ่อยอย่างสำนึกผิดว่า

"หนูขอโทษนะคะคุณอาที่ทำให้ต้องเจ็บตัวขนาดนี้"

ภาวินชะงักนิ่งอยู่กับที่ทันที ความเจ็บและจุกตรงส่วนนั้นยังคงมีอยู่ แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับสรรพนามที่เธอใช้เรียกเขา

"เมื่อกี้เธอเรียกพี่ว่าอะไรนะ" เขาถามย้ำเพื่อให้แน่ใจ

มัลลิกายังคงพนมมือไหว้อยู่อย่างนั้น คิ้วได้รูปเลิกขึ้นอย่างแปลกใจก่อนจะตอบไปตามตรง

"เรียกคุณอาค่ะ ก็คุณอาเป็นพ่อของหนูพราวไม่ใช่หรือคะ หนูเรียกคุณว่าคุณอาก็ถูกต้องแล้วนี่" ตอบเสร็จก็นึกขึ้นได้ว่าบางทีชายหนุ่มตรงหน้าอาจจะไม่ชอบให้คนแปลกหน้ามานับญาติด้วยจึงรีบพูดต่อ

"แต่ถ้าคุณไม่สะดวก หนูเรียกคุณว่าคุณพ่อหนูพราวก็ได้นะคะ หนูชื่อมะลิค่ะ อยู่บ้านข้าง ๆ นี่"

"มะ...ไม่ใช่อย่างนั้น ความจริงแล้วเรียก..." เขายังพูดไม่ทันจบ คำว่า "พี่" ยังไม่ทันหลุดจากปาก เสียงใสของบุตรสาวสุดที่รักก็ดังแทรกขึ้นเสียก่อน

"พี่มะลิขา อุ๊ยคุณพ่อ ทำไมคุณพ่อนอนตรงนั้นล่ะคะ" พราวนภาเดินเข้ามาหาพร้อมถือตะกร้าใบไม่ใหญ่นัก

"คุณพ่อเห็นแดดมันร่มแล้วก็เลยอยากนอนตากลมเย็น ๆ ค่ะ หนูพราวฉุดแขนคุณพ่อให้ลุกขึ้นนั่งหน่อยสิลูก" ภาวินยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเพื่อให้บุตรสาวตัวน้อยดึงมือ พราวนภาเห็นดังนั้นจึงรีบวางตะกร้าไว้ข้างตัวมัลลิกา จากนั้นก็จับมือทั้งสองข้างของบิดาแล้วออกแรงดึง

"อึ๊บบบบ" พราวนภาออกแรงฉุดบิดาให้ลุกขึ้นนั่งจนสำเร็จ ก่อนจะทรุดตัวนั่งกับพื้นหญ้าบ้าง

"ทำไมหนูพราวไปเอาตะกร้านานจังคะ" มัลลิกาอดถามไม่ได้ แต่คิดไปแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่เด็กน้อยไม่มาเห็นฉากหวาดเสียวระหว่างตนกับบิดาเมื่อครู่

"หนูพราวปวดอึค่ะก็เลยเข้าห้องน้ำก่อน พออึเสร็จก็เลยขอตะกร้ากับคุณย่า แล้วพี่มะลิเก็บมะม่วงได้กี่ลูกแล้วคะ" ถามจบก็หันมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นมะม่วงเลยแม้แต่ลูกเดียว

มัลลิกาทำหน้ารู้สึกผิด อุตส่าห์สัญญากับเพื่อนต่างวัยไว้ว่าจะเด็ดมะม่วงมาให้ แต่ตนกลับตกต้นไม้ หนำซ้ำยังทำให้เจ้าของบ้านเจ็บตัวอีก

"พี่มะลิของหนูตกต้นไม้ค่ะก็เลยเก็บมะม่วงไม่ได้ และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณพ่อขอสั่งห้ามหนูพราวกับพี่มะลิปีนต้นไม้อีกนะคะ มันอันตรายรู้ไหมลูก ถ้าตกลงมาขาหักหรือหัวแตกจะทำยังไงคะ คุณพ่อเป็นห่วงหนูนะไม่อยากให้หนูเจ็บตัว"

ภาวินยกตัวพราวนภาให้มานั่งบนตักแล้วก้มลงหอมแก้มอย่างแสนรัก พลางเหลือบมองไปทางหญิงสาวที่นั่งเงียบอยู่ตรงหน้า

มัลลิกามองมาที่เขากับพราวนภานิ่ง แต่ชายหนุ่มรู้ว่าเธอกำลังตกอยู่ในภวังค์ของตน แววตาคู่นั้นมีหลากหลายอารมณ์ความรู้สึกจนภาวินเดาไม่ออกว่าหญิงสาวกำลังคิดอะไรอยู่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์โอบรัก   บทที่ 24 พ่อตากับลูกเขย - บทส่งท้าย

    มัลลิกานั่งแช่อยู่ในสระว่ายน้ำส่วนตัว หญิงสาวยกแขนขึ้นวางบนขอบสระแล้วเอาคางเกยไว้ สองตาทอดมองผืนน้ำสีฟ้าสุดลูกหูลูกตาอย่างผ่อนคลาย มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนกำลังก้าวลงน้ำมาเช่นกัน จากนั้นแผ่นหลังของเธอก็ถูกทาบทับด้วยแผงอกหนั่นแน่นตามมาด้วยอ้อมแขนที่กอดรัดเอวไว้ และมีริมฝีปากอุ่นร้อนตามมาพรมจูบไปทั่วลาดไหล่"ชอบที่นี่ไหม" เสียงทุ้มเอ่ยถามชิดริมหู หญิงสาวห่อไหล่ตามสัญชาตญาณเพราะรู้สึกจั๊กจี้"ชอบค่ะ น้ำสีสวยมากเลย อากาศดีด้วยไม่ร้อนอย่างที่คิด" ทั้งที่ตอนนี้เธออยู่กลางแจ้งท่ามกลางแสงแดดอ่อน แต่กลับไม่ร้อนเหมือนแดดเมืองไทย"ชอบก็ดีแล้ว พี่นวดให้นะ เดินทางมาถึงเหนื่อย ๆ"ภาวินขันอาสาอย่างเอาใจ เขานั่งซ้อนอยู่ด้านหลังแล้วค่อย ๆ บีบนวดต้นแขน หัวไหล่ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับนวดวนเวียนอยู่แต่ก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นสองก้อนที่อยู่ด้านหน้า บั้นท้ายก็ถูกสิ่งนั้นของเขาบดเบียดอย่างเป็นจังหวะ"ฮื้อ...พี่วินเนี่ยมือซนตลอดเลย" หญิงสาวครางเบา ๆ เมื่อเขาล้วงเข้าไปในชุดว่ายน้ำชิ้นบนแล้วใช้นิ้วหมุนวนปลายยอดอย่างปลุกเร้าภาวินมองไปรอบด้

  • เล่ห์โอบรัก   บทที่ 23 ฝึกรัก - 100%

    ภาวินมองคนที่นั่งหลับมาตลอดทางด้วยสายตารักใคร่ วันนี้เขาได้ใช้เวลาอยู่กับเธอทั้งวัน ได้นอนกกกอดเธอไว้ในอ้อมแขนจนเขาแทบสำลักความสุข เขารู้ว่าตนยังไม่อิ่มแต่ก็ต้องรีบพาหญิงสาวกลับกรุงเทพฯ เพราะไม่อยากให้ค่ำเกินไปชายหนุ่มจอดรถหน้าบ้านมัลลิกาในตอนหัวค่ำ ก่อนหน้านี้เขาโทรศัพท์บอกมารดาของเธอแล้วว่าจะพาหญิงสาวแวะกินมื้อเย็นแล้วค่อยกลับเข้าบ้าน จึงไม่ห่วงว่าเธอจะถูกบิดามารดาดุ"มะลิ ถึงบ้านแล้วครับ" เขาสะกิดมัลลิกาเบา ๆ หญิงสาวตื่นขึ้นแล้วมองซ้ายมองขวาอย่างงัวเงีย"ถึงบ้านหนูแล้ว หรือจะไปนอนบ้านพี่ดี" เจ้าตัวหันมาค้อนใส่เขาทันทีก่อนจะเปิดประตูลงไปยืนข้างรถแล้วโบกมือให้ แต่สภาพของเธอเหมือนคนยังไม่ตื่นดี เขาจึงอดไม่ไหวอีกต่อไป หัวเราะออกมาในที่สุด"ตื่นได้แล้ว หลับมาตลอดทางยังไม่พออีกหรือแม่คุณ" เขาถามกลั้วหัวเราะ เธอยู่หน้าใส่เขาแล้วพูดว่า"เพราะใครล่ะ" จากนั้นหญิงสาวก็หันหลังเดินจากไป เขามองจนเธอเข้าบ้านแล้วจึงขับเลยไปที่บ้านของตัวเองบ้างบิดามารดาของภาวินนั่งดูข่าวภาคค่ำอยู่ในห้องนั่งเล่น ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาแล้วนั่งบนโซฟาอีกตัว อ

  • เล่ห์โอบรัก   บทที่ 23 ฝึกรัก - 70%

    "ใส่ทำไม พี่อยากอ่อยคนแถวนี้นี่นา" ไม่พูดเปล่า แต่เขายังแบมือมาทางเธอราวกับต้องการให้วางมือลงไปบนมือของเขามัลลิกายื่นมือไปวางลงบนมืออุ่นข้างนั้น ชายหนุ่มกระตุกเบา ๆ หญิงสาวจึงทรุดนั่งข้างกายเขาแต่โดยดี"เย็น ๆ ค่อยกลับเนอะ หรือจะค้างดี" ภาวินถามพลางนวดมือให้เธอไปด้วย จึงทำให้มัลลิการับรู้ความในใจของชายหนุ่มอีกจนได้...พี่แค่อยากพาหนูมาผ่อนคลาย เห็นอุดอู้อยู่ในบ้านเป็นเดือน ๆ..."พี่ก็โทร. ไปขอคุณพ่อให้หนูสิคะ" เธอแกล้งหยอกเขาเล่น แต่ภาวินกลับคิดจะทำจริง ๆ"ก็ได้นะ พี่มีเบอร์คุณพ่อของหนูอยู่"ชายหนุ่มทำท่าจะยืนขึ้น หญิงสาวจึงรีบกอดแขนเขาไว้ทันทีเพราะกลัวว่าเขาจะโทรศัพท์ไปขออนุญาตกับบิดาของตนจริง ๆ"ไม่เอา! พี่ก็รู้อยู่ว่าคุณพ่อไม่อนุญาตหรอก ขืนโทร. ไปมีหวังโดนจี้ให้กลับบ้านตอนนี้แน่" พูดจบเธอก็ถูกเขากอดไว้แล้วเอนตัวลงนอนไปด้วยกัน โดยที่หญิงสาวนอนเอาหูแนบอกฟังเสียงหัวใจของเขาที่เต้นอยู่ข้างใน"บ้านก็ติดกันอย่างนั้น ยังไงก็หนีพี่ไม่พ้นหรอก"เขาปัดผมของเธอออกจากลาดไหล่แล้วใช้มือลูบต้นแขนเปลือยเปล่าของหญิงสาวไปมา ผิ

  • เล่ห์โอบรัก   บทที่ 23 ฝึกรัก - 35%

    มัลลิการักษาตัวอยู่โรงพยาบาลอีกสองอาทิตย์ก็ได้กลับบ้าน แผลที่แก้มเริ่มไม่เจ็บเท่าไรแล้ว แต่แผลที่ถูกกระจกบาดและแผลถลอกพอตกสะเก็ดกลับดูน่ากลัวจนมัลลิกาไม่กล้าส่องกระจกดูหน้าตัวเอง หญิงสาวยังเดินด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องอาศัยไม้ค้ำช่วยพยุง ในแต่ละวันเธอจึงได้แต่นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ในบ้าน ภาวินจึงนึกสนุกด้วยการนำเครื่องสำอางมาให้หญิงสาวได้ลองหัดแต่งหน้าโดยแนะนำให้เธอเริ่มศึกษาจากยูทูบช่วงอาทิตย์แรกมัลลิกายังใช้แปรงและอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเก้กังเพราะไม่เคยใช้ แต่พออาทิตย์ถัดมาหญิงสาวก็เริ่มคล่องขึ้น และเริ่มสนุกกับการแปลงโฉมใบหน้าของตัวเองในรูปแบบต่าง ๆ เธอเริ่มเข้าเว็บไซต์ และติดตามแฟนเพจที่เกี่ยวกับความสวยความงาม ครีมหรือโลชั่นยี่ห้อไหนที่โด่งดังเรื่องช่วยลบรอยแผลเป็น เธอก็คลิกสั่งออนไลน์เพื่อเอามาลองใช้หลายยี่ห้อมัญชุดานั่งมองบุตรสาวที่กำลังทดลองสีลิปสติกกับข้อมือของตัวเองแล้วก็ได้แต่ยิ้ม เมื่อก่อนมัลลิกาไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เพราะชอบคิดว่าตนไม่สวย แต่งไปก็ไม่มีใครดู แต่พอแม่สาวน้อยของเธอเริ่มมีความรักก็เริ่มหัดดูแลตัวเองมากขึ้น หนำซ้ำยังดูมีความสุขดีด้วย

  • เล่ห์โอบรัก   บทที่ 22 ตื่นจากฝัน - 100%

    มัลลิกายังคงไม่ยอมออกจากผ้าห่ม แต่เสียงสะอื้นนั้นไม่มีแล้ว ราวกับเจ้าตัวกำลังชั่งใจว่าจะโผล่หน้าออกมาคุยกับเขาดีหรือไม่"ถ้าอย่างนั้น พี่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม" ชายหนุ่มเอื้อมมือไปวางบนศีรษะของเธอเบา ๆ ก่อนพูดต่อ"ถ้าหากว่าคนที่ถูกรถชนเป็นพี่ คนที่ต้องนอนอยู่ตรงนี้เป็นพี่ และพี่ต้องมีแผลเป็นบนหน้าบ้าง หนูจะบอกเลิกพี่รึเปล่า หนูจะเลิกรักพี่แล้วหันไปคบคนอื่นไหม"คนนอนคลุมโปงส่ายหน้าไปมาแล้วตอบ "ไม่ ทำไมหนูต้องทำอย่างนั้น"ภาวินยิ้มออกทันที "ใช่ไหมล่ะ แล้วทำไมพี่ต้องทำอย่างนั้นล่ะครับ"ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วก้มลงไปจูบบริเวณที่คาดว่าน่าจะเป็นหน้าผากของหญิงสาวผ่านทางผ้าห่ม"หนูพราวถามหาพี่มะลิทุกวันเลย ไว้วันเสาร์นี้พี่จะพาหนูพราวมาเยี่ยมด้วยนะ"พอพูดถึงพราวนภา คนในผ้าห่มก็เลิกผ้าออก เผยให้เห็นใบหน้าแดงก่ำและเปลือกตาบวมจากการร้องไห้เมื่อครู่ เจ้าตัวสูดน้ำมูกทีหนึ่งแล้วถาม"หนูพราวเป็นยังไงบ้างคะ หนูผลักแรงขนาดนั้นไม่รู้หัวเข่ากระแทกพื้นจนเป็นแผลรึเปล่า"ภาวินมองหญิงสาวด้วยสายตาอ่อนเชื่อม ตัวเองเป็นอย่างนี้ยังอุตส่าห์ถามถึงคนอื่

  • เล่ห์โอบรัก   บทที่ 22 ตื่นจากฝัน - 70%

    มัลลิกาเบิกตากว้างเมื่อได้ยินอย่างนั้น แม้จะคาดเดาไว้อยู่แล้วแต่ก็อดใจหายและเศร้าอยู่ลึก ๆ ไม่ได้ ถึงปรีชญาจะทำไม่ดีกับเธอไว้มากมาย แต่อย่างไรเสียก็ยังเคยคบหากันอย่างสนิทสนมมาก่อน"ทำไมตาลเขาต้องทำอย่างนั้นคะคุณพ่อ""เขาป่วยเป็นโรคหลายบุคลิกน่ะ ตอนนี้ถึงจะจับตัวได้แล้วแต่ก็ยังดำเนินคดีอะไรไม่ได้ เพราะต้องให้เขารักษาจนอาการดีขึ้นก่อน""อ้าว เขาไม่ติดคุกหรือ แล้วถ้าเขาออกมาขับรถไล่ชนหนูอีกล่ะคะ" มัลลิกาถามหน้าตื่น คิดในใจว่าถ้าโดนชนอีกครั้งคงไม่มีชีวิตรอดแน่นอน"พ่อก็ห่วงเรื่องนี้อยู่ เพราะไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่จะกักตัวเขาไว้รักษาอาการแบบไหน พ่อกลัวว่าเขาจะปล่อยให้มันไปรักษาที่บ้านแล้วมันก็จะออกมาก่อเรื่องอีก""แย่จัง...แล้วตกลงเจอแพตที่ไหนคะ"เธออยากรู้ว่าตติยะลงมือกับปรีชญาแบบไหน และทำอย่างไรจึงสามารถซ่อนศพไว้ได้นานขนาดนั้นโดยที่ไม่มีใครหาเจอ"ศพลอยมาติดกับกอผักตบข้างวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาน่ะ แต่ผลการชันสูตรบอกว่าตายเพราะถูกบีบคอจนขาดอากาศหายใจ"นฤเบศร์เล่าให้บุตรสาวฟังไปตามความจริงโดยไม่คิดปิดบัง เพราะคนที่เป็นทั้งเหยื่อและฆาตกรก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status