ภายในห้องนั่งเล่น หน้าต่างบานใหญ่ถูกเปิดกว้างรับลมธรรมชาติ มองเห็นทิวทัศน์สวยงามแปลกตา คุณผกามาศอุ้มหลานชายเอาไว้ในอ้อมแขน พลางหอมแก้มนุ่มนิ่มเสียหลายฟอด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นยิ้มกับโรสรินทร์
“โรสจำคุณเมรินได้ไหม ภรรยาคุณประภาสที่เคยมาที่บ้านเราเมื่อสักสองสามปีก่อน”
หญิงสาวหวนคิดถึงสองสามีภรรยาคู่นั้น ก่อนจะยิ้มหวานออกมาเมื่อจำได้
“จำได้สิคะ ท่านทั้งสองใจดีมาก ยังชวนโรสไปทำงานกับท่านเลย ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ”
“หลังจากจัดการเรื่องวุ่นๆ เรียบร้อยแล้วก็สบายดีทั้งคู่จ้ะ”
คำตอบของท่านทำให้หัวคิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น
“ท่านมีปัญหากันหรือคะ”
คุณผกามาศยิ้ม พลางหันไปมองสาวใช้ที่ติดตามมาดูแลตน
“พวกเธอเข้าครัวเตรียมอาหารเย็นนี้ได้เลย ส่วนรายการก็ตามที่บอกไปนั่นแหละนะ”
“ค่ะคุณผู้หญิง”
สิ้นเสียงของสาวใช้ คุณผกามาศก็หันมาตอบโรสรินทร์
“เรื่องลูกๆ ของท่านนั่นแหละจ้ะ แม่ก็เลยชวนท่านมาพักผ่อนกับเรา หนูไม่ว่านะที่แม่ไม่ได้บอกก่อน”
โรสรินทร์ส่ายหน้ายิ้มทันที
“ไม่หรอกค่ะ ดีเสียอีก มีกันหลายคน ครึกครื้นดีค่ะ”
คนฟังยิ้มกว้างอย่างพอใจ พลางก้มลงจูบแก้มยุ้ยของหลานชายแล้วส่งคืนมารดาของเขา เมื่อลับร่างของโรสรินทร์ คุณผกามาศก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย ยิ่งคิดถึงลูกชายตัวเอ้ที่กำลังตามมา ก็ยิ่งรู้สึกถูกอกถูกใจ แทบจะรอเวลาเจอหน้ากันไม่ไหวเลยทีเดียว
เรวัตตามมาถึงบ้านพักตากอากาศของมารดาในช่วงเย็น แต่เขาต้องหรี่ตามองเมื่อพบว่าไม่ได้มีเพียงมารดาที่พาโรสรินทร์และเด็กคนนั้นมาพักผ่อนที่นี่ ทว่ากลับมีคนอื่นรวมอยู่ด้วย
“เข้าไปเลยไหมครับคุณเร” เด่นซึ่งเป็นคนขับรถเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจนัก
“เข้าสิ”
สิ้นเสียงขรึม เด่นก็ขับรถเข้าไปภายในบ้านพักกลางหุบเขา ทุกคนที่กำลังดื่มกินหันไปมองเป็นตาเดียว เมื่อรถเอสยูวีสีดำคันหรูกำลังแล่นผ่านรั้วบ้านเข้ามา
“ใครกันคุณมาศ” คุณเมรินเอ่ยถาม ดวงตาที่มองไปยังรถคันนั้นมีความฉงนสนเท่ห์ เพราะเท่าที่รู้ที่นี่จะมีเพียงท่านและครอบครัวเจ้าของที่พัก
คุณผกามาศยิ้มอ่อน ทว่าแววตาวาววามขึ้นยามตอบคำถาม
“ลูกชายน่ะค่ะ ตาเร...”
ชื่อนั้นทำให้คนที่ก้าวออกมาพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ถึงกับใจกระตุก คนข้างกายของหล่อนเองก็มองตรงไปยังรถยนต์ที่เพิ่งเข้ามาจอด เพียงไม่นานนักคนในรถก็ก้าวออกมาด้วยมาดที่ทำให้คนมองอยู่นั้นเลิกคิ้วสูง
“อาหารมาแล้วค่ะ” โรสรินทร์ที่ได้สติยิ้มหวานให้กับทุกคน พร้อมกับวางจานอาหารลงกลางโต๊ะไม้เนื้อแข็งขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับชัชชัยที่อาสาช่วยหญิงสาว เขาวางจานสเต๊กแล้วนั่งลงข้างๆ หญิงสาวนั่นเอง
คนที่กำลังเดินตรงมาหรี่ตามองเมื่อเห็นชัดว่าโรสรินทร์นั่งลงพร้อมกับผู้ชายหน้าตาดีมากคนหนึ่ง ซึ่งเวลาต่อมาเขาก็จำได้ว่าหมอนั่นเป็นใคร
“สวัสดีครับแม่ สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า” เขาทักทายผู้อาวุโส
“สวัสดี ลุงไม่รู้ว่าเราก็มาด้วย” คุณประภาสเอ่ยด้วยสีหน้าเจือยิ้ม รับรู้สถานการณ์ดีพอควร เพราะคุณผกามาศที่สนิทกับภรรยาของเขาเคยเล่าให้ฟังว่าลูกชายหย่าขาดจากลูกสะใภ้ด้วยเหตุผลที่คนเป็นแม่รับไม่ได้ หลังจากนั้นท่านก็ทำเหมือนไม่เคยมีลูกชายชื่อเรวัตอีก เมื่ออีกฝ่ายมาปรากฏตัววันนี้ ทุกคนจึงค่อนข้างแปลกใจ
“ก็ ผมเพิ่งรู้ ก็เลยตามมาทีหลังครับ” เขาตอบแล้วหันไปสบตามารดาก่อนจะทักทายชายหนุ่มอีกคน “สวัสดีครับพี่ชัช ไม่ได้เจอกันเสียนาน สบายดีนะครับ”
ชัชชัยยิ้มตอบหนุ่มหล่อรุ่นน้อง ทว่าสายตาที่คนทั้งสองมองกันนั้นเต็มไปด้วยการประเมินกันและกันอยู่ในที
“สบายดี เรล่ะ”
“สบายมากครับ” เขาตอบชัชชัย แต่สายตามองไปยังโรสรินทร์ราวจะตอกย้ำให้หล่อนได้รู้ว่าเขามีความสุขมากแค่ไหนหลังหย่าขาดจากหล่อน แต่หญิงสาวกลับนั่งเฉยไม่ยอมสบตาเขา ทว่าชายหนุ่มไม่สนใจและถือโอกาสนั้นนั่งลงข้างมารดา คุณผกามาศเหลือบตามองเขาแวบเดียวก็เลิกสนใจ ก่อนมองไปยังชัชชัยด้วยสายตาชื่นชม
“พ่อชัชกลับมาช่วยงานคราวนี้ คุณเมคงสบายใจแล้วใช่ไหมคะ ไม่ต้องใจหายใจคว่ำอีกแล้ว” ท่านเอ่ยถามเสียงอ่อน ซึ่งคำถามนั้นทำให้โรสรินทร์นิ่งฟังด้วยความสนใจเช่นกัน ท่าทางแบบนั้นทำให้คนที่เพิ่งมาใหม่กัดฟันกรอด ขณะที่ทุกคนหัวเราะออกมาเบาๆ กับคำกระเซ้าของคุณผกามาศ
ไม่มีใครให้ความสนใจเขานัก ทุกคนมุ่งไปที่ชัชชัย พร้อมกับเสียงซักถาม ฝ่ายนั้นก็ตอบกลับมาด้วยท่าทางสบายๆ น่าชื่นชมและหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน แต่แล้วเขาก็กระตุกยิ้ม ดี ไม่ต้องมาสนใจเขาหรอก เพราะที่เขาต้องถ่อมาถึงที่นี่ก็เพื่อมาค้นหาความจริงบางอย่าง ไม่ใช่มาเพื่อให้ใครสนใจ ทว่าต่อให้พยายามคิดแบบนั้น เขากลับรู้สึกคันยุบยิบในใจ ที่อดีตภรรยาไม่ให้ค่าเขาเลยสักนิด ไม่เจอกันแค่ปีกว่าๆ โรสรินทร์เย่อหยิ่งจองหองมากขึ้นและสวยมากขึ้นอีกด้วย เวลานั้นคนถูกนินทาในใจเผลอสบตาอดีตสามีแวบหนึ่งราวจะรับรู้ถึงกระแสร้อนแรงบางอย่างก่อนดึงสายตากลับไปอย่างรวดเร็ว เรวัตเขม้นตามองหล่อนด้วยแววตาหมายมาด ยิ่งมีมารดาของเขาให้ท้าย หล่อนก็ยิ่งเชิดใส่อย่างไม่เห็นหัว เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวได้เห็นดีกัน!
บทพิเศษ ๒หมดทั้งใจโรสรินทร์เป็นสาวร่างเล็ก หากเทียบกับเรวัตหล่อนก็สูงเลยหัวไหล่เขาขึ้นไปเล็กน้อยเท่านั้น หญิงสาวอาจไม่ใช่คนสวยจัดจ้าน แต่ก็น่ารักอ่อนหวานอย่างที่ทำให้หนุ่มอื่นเหลียวมองได้โดยไม่ยาก และเขารักทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นหล่อน “กำลังท้องกำลังไส้ ไปซนที่ไหนมาอีก”เสียงกระเซ้าที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวหันไปยิ้มกว้างกับสามีที่เดินเข้ามาสวมกอดหล่อนจากด้านหลัง“ไปซื้อของใช้ส่วนตัวกับแนนมาค่ะ โรสซื้อครีมโกนหนวดแล้วก็มีดโกนมาให้พี่เรด้วย ของเก่าใกล้หมดแล้ว” หญิงสาวตรวจสิ่งของที่ซื้อมาว่าครบถ้วนหรือไม่ ขณะที่ชายหนุ่มเกยคางกับบ่าบอบบางเอาไว้ สายตาก็มองเข้าไปในถุงผ้า มือเรียวใหญ่ลูบไล้บนหน้าท้องที่ยื่นออกมามากแล้ว“ท้องนี้ใหญ่จัง แค่สามสี่เดือนเอง” เขาพึมพำอย่างนึกเป็นห่วง โรสรินทร์ตั้งท้องลูกคนที่สามให้กับเขาแล้ว แต่ดูหล่อนยังกระฉับกระเฉงแทบไม่ต่างจากตอนปกติทั้งที่ท้องโตเร็วมาก“ท้องสามแล้วนะคะ ก็ใหญ่เป็นธรรมดา แต่คลอดคนนี้แล้วโรสว่าเราสองคนทำหมันกันดีกว่านะ”คนตัวโตเลิกคิ้วนิดๆ ยิ้มหน่อยๆ“ตามใจโรส”คนถูกตามใจมาโดยตลอดยิ้มออกมาอย่างปลื้มใจ“ใจดีจังเลย ตามใจตลอด”“มีเมียกับเขาแค่คนเดี
เวลานั้น ภาพวูบวาบในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ขาดหายกำลังไหลผ่านเข้ามาในความคิด ทำให้เขาปวดหัวอีกครั้ง มันหลั่งไหลเข้ามาในความทรงจำ แต่เขาไม่ยอมเชื่อโดยเฉพาะภาพกอดจูบผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นเมีย ทำเรวัตช็อก หัวใจเต้นแรง เหงื่อแตกพลั่กไม่จริง เขาไม่ทำแบบนั้น!เมื่อชายหนุ่มลืมตาและหันไปมองตรงที่หญิงสาวยืนอยู่กลับไม่พบร่างบาง ภายในห้องว่างเปล่าจนเขาใจหาย ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วพร้อมกับเม้มปากเข้าหากันไม่ว่าก่อนหน้านี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เขาไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นต่อไปแน่เมื่อมารดายื่นคำขาด เรวัตก็บอกตนเองว่าช่างมัน ในเมื่อโรสรินทร์อยากอยู่เขาก็ให้อยู่ ทว่าทุกวันหล่อนจะได้พบกับความเจ็บปวดไม่จบไม่สิ้น เหมือนกับที่เขากำลังรู้สึก“อยากอยู่ก็ได้ แต่ช่วยย้ายข้าวของของเธอออกจากห้องของฉันด้วย”เขาออกคำสั่งทันทีที่กลับมาถึงบ้าน หญิงสาวได้แต่ยืนนิ่งตัวชา หน้าชาอยู่พักใหญ่ จากนั้นจึงค่อยๆ ทยอยขนย้ายข้าวของออกจากห้องนอนส่วนตัวที่เคยเป็นวิมานรักของเขาและหล่อนมาหนึ่งปีเต็มด้วยสายตาหม่นหมอง แต่เรวัตกลับเข้าใจไปว่าหล่อนกำลังอาลัยอาวรณ์ห้องนี้นักหนา“โทษทีนะ แต่ห้องนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเธอ บ้านหลังนี้ก็
เรวัตจดปลายปากกาลงบนใบสำคัญการสมรสเรียบร้อย โรสรินทร์จึงเซ็นชื่อของตนเองตามลงไป มองผู้หญิงที่มารดาบอกว่ากำลังวางแผนร่วมชีวิตกับหล่อนก่อนประสบอุบัติเหตุด้วยความรู้สึกสับสน แต่ไม่ว่าอย่างไรทุกอย่างก็ดำเนินไปตามที่มารดากล่าวอ้างจนลุล่วงภายในห้องหอเขายืนนิ่งอยู่หน้าเตียงนอน ขณะที่เจ้าสาวของเขากำลังอาบน้ำ งานแต่งวันนี้เป็นเพียงงานเล็กๆ มีผู้ร่วมงานไม่กี่คน แต่เขาก็พอใจให้เป็นแบบนั้น เพราะต่อให้มีคนมากมาย เขาก็จำอะไรไม่ได้สักอย่างชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงบนเตียงกว้าง จนถึงเวลานี้เขาก็ยังสับสน ตอนนี้เขาแต่งงานแล้ว มารดาบอกว่าเขากับเจ้าสาวรักกัน แต่ทำไมเขาจึงไม่อาจสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนั้นเลยสักนิด แม้ความจริงเขาจะยังจำอะไรไม่ได้ หมอบอกว่าต้องค่อยเป็นค่อยไป แต่อย่างน้อยเขาก็ควรจะต้องมีความรู้สึกผูกพันกับหล่อนบ้างสิ แต่นี่ไม่เลยสักนิด...คืนแรกผ่านไปด้วยดี เขาไม่ได้แตะต้องหล่อน เพราะดูเหมือนหล่อนเองก็ประหม่าเช่นกัน แต่หลังจากนั้น เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น พูดคุยทำความรู้จักกันมากขึ้น จึงทำให้คู่สามีภรรยาหมาดๆ เริ่มคุ้นเคยกันทีละนิด จากที่เคยรู้สึกแปลกหน้า ก็กลายเป็นความสนิทสนม“เช้านี้คุณเร
บทพิเศษ ๑เศษพิศวาสณ โรงพยาบาลชื่อดัง โรสรินทร์นั่งบนโซฟาชิดผนังภายในห้องพิเศษ ดวงตาคู่สวยของสาวน้อยคอยมองไปยังเตียงผู้ป่วยเป็นระยะ คนบนเตียงยังคงหลับอยู่บนนั้น ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาให้คนรอได้ใจชื้นเลยสักหน“ตาเรตื่นบ้างไหมโรส” คุณผกามาศกลับเข้ามาอีกครั้งในช่วงเย็น ท่านยืนมองลูกชายที่มีสายระโยงระยางอยู่เท่าเดิมด้วยสายตาหม่นหมองเหตุการณ์ชวนช็อกทำให้ท่านแทบล้มทั้งยืน แต่เมื่อเป็นเสาหลักทำให้ต้องฝืนหยัดยืนและตั้งสติ“ยังเลยค่ะ คุณแม่นั่งก่อนนะคะ” หญิงสาวผุดลุกจากเก้าอี้ข้างเตียง คุณผกามาศจึงเข้าแทนที่ ท่านกอบมือลูกชายขึ้นมากุมเอาไว้ นัยน์ตามีหยาดน้ำเอ่อคลอ“ตาเร ได้ยินแม่ไหมลูก”โรสรินทร์ยืนมองท่านด้วยความสงสารจับใจ เรวัตไม่มีวันรู้ว่าเขาเกือบทำให้ท่านขาดใจตามไปด้วยเปลือกตาของเรวัตกระตุกเบาๆ แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น คุณผกามาศนั่งมองลูกชายอยู่นาน ภาวนาให้เขาปลอดภัยทุกลมหายใจ กระทั่งมีงานเร่งด่วนท่านจำต้องกลับไปอีกครั้ง“แม่ฝากพี่เขาด้วยนะโรส”โรสรินทร์ยิ้มให้กับผู้มีพระคุณ“คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ ถ้าคุณเรรู้สึกตัวเต็มที่ โรสจะรีบโทร.บอกกับคุณแม่ค่ะ”ผู้สูงวัยพยักหน้ารับรู้ ดวงตาคู่
วันเวลาเคลื่อนไปปีแล้ว ปีเล่า ทุกชีวิตล้วนเติบใหญ่ เช่นเดียวกับสองพี่น้องที่กำลังวิ่งเล่นบนชายหาด เสียงคลื่นซัดสาดเป็นจังหวะ บริเวณนี้เป็นชายหาดส่วนตัวของเรวัต เมื่อไม่นานมานี้ เขาตัดสินใจซื้อบ้านพักตากอากาศหรูติดชายทะเลเพราะลูกๆ ชอบมาก เด็กๆ มักจะเรียกร้องขอให้พ่อกับแม่พามาเที่ยวทะเลเสมอ เขาซึ่งเป็นพ่อที่รักลูกมากจึงตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้เอาไว้เป็นบ้านพักสำหรับครอบครัว“พ่อจ๋า มาเย่นกัน” แม่หนูรินร้องเรียกบิดาเสียงแหลม แล้วกระโดดโลดเต้นกับพี่ชายตัวโตที่คอยดูแลน้องสาวอยู่ไม่ห่าง“พี่เรไปเล่นกับลูกๆ เถอะค่ะ ตรงนี้โรสกับแนนจัดการเอง” หญิงสาวเงยหน้าบอกสามีที่กำลังเตรียมวางบาร์บีคิวบนเตา“งั้นฝากด้วยนะ” เรวัตบอกกับภรรยาก่อนจะเช็ดมือแล้วเดินตรงไปยังลูกๆ ที่กำลังสนุกสนานกับการเตะน้ำเล่นคุณผกามาศที่หลับเอาแรงเพิ่งเดินออกมาสมทบ ท่านมองหลานหญิงชายด้วยสายตาแจ่มใส“สนุกกันน่าดู ร่ำร้องมาตั้งแต่เดือนก่อน”โรสรินทร์หันไปมองท่านแล้วยิ้มอ่อน ก่อนจะมองเลยไปยังคนทั้งสามที่เป็นดั่งดวงใจของหล่อน“บ่นทุกวันเลยค่ะ นี่ถ้าอาทิตย์นี้ไม่พามาคงโวยวายไม่หยุด”“จริงค่ะคุณท่าน คุณหนูเซ้าซี้จนคุณโรสไม่เป็นอันทำง
บทส่งท้ายเมื่อถึงกำหนดคลอด เรวัตพาโรสรินทร์ไปโรงพยาบาลตามนัด เขาอยู่กับภรรยาตลอดเวลา แม้แต่ช่วงเวลาสำคัญ เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มได้เห็นภรรยาคลอดลูก หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก ลุ้นจนหน้าดำหน้าแดง รู้ตัวอีกทีว่าลืมหายใจก็ตอนที่ลูกสาวของเขาพ้นออกมาจากท้องของมารดาหมอให้ชายหนุ่มตัดสายสะดือ จากนั้นเขาได้อุ้มลูกสาวเป็นครั้งแรก พลันความตื้นตันก็ปริ่มล้นจนเอ่อท้นออกมาเป็นน้ำตา ลูกสาวของเขาผิวขาวผ่อง เนียนละเอียด ปากนิดจมูกหน่อย ตัวนิดเดียวแต่ร้องดังลั่นห้อง จนหมอและพยาบาลแซวว่าคงต้องส่งให้น้องเรียนว่ายน้ำ เพราะปอดใหญ่มากโรสรินทร์มองภาพสามีอุ้มลูกสาวแล้วน้ำตาไหล เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่น้ำตาคลอ เขายิ้มให้หล่อนแล้วส่งลูกสาวคืนให้กับนางพยาบาล...ไม่กี่วันต่อมาทั้งหมดก็กลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ตามปกติ น้องรันที่ตอนนี้กลายเป็นพี่รันเรียบร้อยอยู่ไม่ห่างน้องสาว ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ตรงไหนก็จะวนเวียนกลับมาหาน้อง มากอด มาหอมและคอยดูแล“น้องริน” พี่รันยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แล้วจดจมูกลงบนแก้มนุ่มนิ่มหอมกรุ่นสูดดมดังฟอด จนคนเป็นแม่อดที่จะหัวเราะเพราะความเอ็นดูไม่ได้ “แม่ค้าบ น้องรินน่ารักจัง”คนตัว