เวลาในค่ำคืนนี้ช่างสุขสบาย กับบรรยากาศเย็นสบาย ได้ยินเสียงคลื่นซัดสาดเข้าหาชายฝั่ง ราวกับบทเพลงชวนให้หลงใหล รินรดานั่งจิบไวน์แดงอยู่กับอธิวัฒน์ คุยกันหลายเรื่องสนุกสนาน
เขาถึงได้รู้ว่า เธออกหักเพราะเพื่อนรักแย่งแฟน ยามเมื่อไวน์แดงยิ่งดื่ม เธอก็ยิ่งพูดมาก จนลืมควบคุมตัวเอง ความเมามายจนหน้าแดง ทำให้เรือนหน้าหญิงสาวน่ารักมากเข้าไปอีก อธิวัฒน์คิดว่า นี่ก็เริ่มดึกเข้าไปทุกที คิดว่าน่าจะถึงเวลากลับห้องได้แล้ว
“เดินไหวมั๊ยครับ?” อธิวัฒน์เห็นว่า เธอเริ่มยืนไม่อยู่ เดินซัดเซไปมา ราวกับทรงตัวไม่อยู่
“ไม่เป็นไรค่ะ ดาเดินไหว” หญิงสาวพยายามประคองตัวเอง เพราะไม่อยากให้เขารู้ว่า เธออยู่ห้องไหน ยิ่งไปกว่านั้น เธอดื่มไวน์แดงมากเกินไป ไม่คิดว่าจะทำให้เมาหัวทิ่มได้แบบนี้
“ถ้างั้นผมไปส่งดีกว่า เกิดหกล้มขาหัก คงจะเที่ยวต่อไม่สนุกแน่ๆ” อธิวัฒน์ตั้งใจหมายถึงอย่างที่พูด แววตาหญิงสาวหลบชายที่สูงกว่า พยายามควบคุมตัวเองกลับห้อง โดยไม่ปล่อยให้เขาเข้ามาด้วย เธอตั้งใจไว้...
******
เสื้อผ้าหญิงสาวเกลื่อนอยู่เต็มห้อง พร้อมๆ กับเสื้อผ้าของชายหนุ่มที่พึ่งจะทานข้าวด้วยกัน กระจัดกระจายตามชิ้นส่วน ปลายทางมาจนถึงเตียงนุ่มใหญ่
เสียงจูบบดเบียดเพราะอารมณ์ร้อนรุ่ม และโหยหา ความมึนเมาของไวน์แดง ทำให้หญิงสาวบกพร่องต่อตัดสินใจ และใช้อารมณ์ในการตอบสนองยามนี้แทน
ชายหนุ่มปล่อยให้หญิงสาวนอนราบบนเตียง ใช้อีกมือบีบกุมหน้าอก พลางป้อนริมฝีปากจูบบดเบียดชวนเธอมีเซ็กซ์ เขาแอบมองรินรดาอยู่บ่อยครั้งวันนี้ทั้งวัน ในที่สุดเขาเองนั้นแหละ ที่อยากจะมีอะไรกับเธอด้วย
หญิงสาวรับรสจูบแลกลิ้น ยกสองแขนที่หมดแรง กอดรอบคอชายหนุ่ม ซึ่งกำลังจูบโลมเลียสอดลิ้นชวนเร้าอารมณ์ ตั้งแต่เลิกกับแฟนมา เธอเศร้าจนไม่มีใครเข้ามาในชีวิต ยิ่งทำให้ความต้องการทวีเพิ่มมากขึ้น เมื่อยามนี้อธิวัฒน์กำลังปรนเปรอมอบให้แก่เธอ
มือซึ่งกำลังเล่นหยอกอยู่ยอดถัน กำลังเลื่อนลงไปเค้นคลึงกับความเป็นสาว กำลังร้องไห้ปล่อยสายน้ำไหลหยาดเยิ้ม อย่างโหยหา ชายหนุ่มแหย่ปลายนิ้วไหลลื่นเข้าไป ส่งผลให้หญิงสาวกระตุกเรือนกาย ละริมฝีปากหอบอย่างเสียวซ่าน
แววตาสลึมสลือปรือใส่ แต่ริมฝีปากอ้ากว้าง อธิวัฒน์ยังคงจูบตอบต่อเนื่อง พลางใช้เรียวนิ้วมือสำรวจภายใน หมดกังวลเรื่องความบริสุทธิ์ และเธอก็เคยกับแฟนมาแล้ว คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาและเธอในค่ำคืนนี้
******
เรือนกายหนุ่มเห็นว่าช่องสวาทภายในยังคงเปียกไม่มา เห็นทีจะต้องใช้ตัวช่วย เพื่อปลุกเร้าอารมณ์รินรดามากกว่านี้ เขาละริมฝีปากออกห่าง เลื่อนกายช่วงบนลงมายังเบื้องล่างกายสาว
เนื้อโหนกนูนกลมสวย กับขนที่ขึ้นรำไรเรียงตัวสวย หญิงสาวนอนหลับหายใจอย่างสงบ หลังจากเขาเอานิ้วมือออก แต่กลับแลบลิ้นโลมเลียกับกลีบบวม ซึ่งกำลังเยิ้มด้วยน้ำเมือกใส รินรดาอุทานตัวสั่น ตกใจเมื่อถูกชายหนุ่มโลมไล้
“อ๊ะ!!!” หญิงสาวครวญในลำคอตัวสั่น ดีดดิ้นกายขยับหนี แต่สองแขนแกร่งกอดสะโพกหญิงสาว ดึงเข้าหาริมฝีปากหนาอุ่นร้อน แหย่ลิ้นบวมหนาสอดปลายโลมเลียที่ยอดเม็ด รินรดาครืนครางขนลุกเสียวซ่านตัวสั่นระริก
ชายหนุ่มเห็นว่าร่างกายเธอพร้อมแล้ว ที่จะรับรสความเป็นชายจากเขา สองเข่าหนุ่มคลานเข้าหาระหว่างเรือนกาย แทรกอยู่กลางต้นขานวลสวย ชายหนุ่มโน้มตัวเองลงหาจูบรินรดาอีกครั้ง ให้เธอหายหวาดกลัว
ส่วนสำคัญกำลังปะทะกับเนื้อกายสาวในคราแรก พยายามบดเบียดแทรกร่องแหวกช่องสวาทให้เปิดทาง หญิงสาวยกสองฝ่ามือยันแขนชายหนุ่มซึ่งอยู่ด้านข้าง แหงนหน้าไปเบื้องหลัง เพราะนอนราบอยู่เบื้องล่าง
“อย่าค่ะ...!!!” เสียงแหบพร่าไร้เรี่ยวแรงขัดขืน ไร้การควบคุมด้วยเหตุผล เธอไม่อาจหุบเรือนขาได้อีกแล้ว หากสองขาชายหนุ่ม กำลังค้านอยู่ตรงกลาง และกำลังปล่อยให้ความเป็นชาย เลื่อนไหลแหวกช่องสวาท เข้าไปภายในที่คับแคบ และฟิตแน่น
“อ๊า!!!” รินรดาครวญร้อง เมื่อเขาดันเข้ามาหนัก เพราะรู้สึกได้ถึงความหนาแน่น มวลเนื้อมากมาย กำลังยัดเข้ามาอยู่ภายในกาย จนสุดทางไปชนกับปากมดลูก หญิงสาวขบฟัน ริมฝีปากสั่น แววตาหลับสนิทแต่น้ำตาไหลอาบขอบดวงตา
“ผมชอบคุณนะ ดา” อธิวัฒน์บอกเสียงแหบ สอดสองแขนหนาใต้รักแร้หญิงสาว กอดเธอไว้แน่น พร้อมจะขยับสะโพกกระแทกใส่ร่องสวาท ซึ่งเขาอัดเข้าไปจนสุดทาง มิดด้านหมดโคน
“ปล่อยนะ วัฒน์... ปล่อยเค้า...” เธอพร่ำเพ้อห้ามเขา ไม่รู้สึกตัวเลยว่า เธอปล่อยให้เขาเข้ามาในห้อง ถอดเสื้อผ้า ยอมให้เขาจูบปลุกอารมณ์จนมาถึงเตียงได้ยังไง ดันหลงกับรสจูบและเรียวลิ้นที่ชำนาญจนเธอเผลอถ่างขาให้เขายามนี้
ชายหนุ่มขยับกายเคลื่อนไหวเร็วไว พลิ้วไหว กอดรัดหญิงสาวไว้ มิให้หลุดมือ แม้รินรดาจะพยายามผลักเขา แต่ยิ่งผลักออก เธอยิ่งเลื่อนสองแขนกอดเขาแน่นกว่าเดิม รับรสจูบตลอดเวลา เก็บงำเสียงทั้งหมดไว้ภายใต้รสรักจากเขาทั้งหมด
เรือนกายสาวตอบรับจากความเป็นชาย เมื่ออธิวัฒน์กระแทกใส่อย่างต่อเนื่องราวครึ่งชม. แววตาชายหนุ่มมองดูรินรดาหยุดขัดขืน เปิดใจยอมรับเขามากยิ่งขึ้น หรือว่าเธอยังเมาอยู่ จึงสับสนว่าควรจะตัดสินใจอย่างไรดี
เขาถอนกายออกจากหญิงสาว จับเธอนอนคว่ำเพื่อเปลี่ยนท่า เมื่อเห็นว่าหญิงสาวรู้สึกเหนื่อย เขาคร่อมกายเธอ พลางสอดความเป็นชายเข้าทางหลัง กระแทกกระทั้นหนักเน้นขึ้น หญิงสาวกรีดร้องมากกว่าเดิม
อธิวัฒน์เริ่มจะชอบโรงแรมนี้ เมื่อเห็นว่ามันเป็นห้องเก็บเสียงด้วย แม้ว่าเขาจะขยับจนหัวเตียงเคลื่อนกระแทกกับกำแพงบ่อยครั้งเพียงใด เสียงมันไม่ได้เล็ดไปยังห้องข้างๆ เลย
เขารู้เหมือนกับที่ห้องข้างๆ ก็กำลังทำเช่นเดียวกันกับเขาเหมือนกัน ตัวโครงไม้รับน้ำหนักเตียงหนานุ่ม และน้ำหนักของพวกเขาสองคน กำลังร่วมรักในกิจกรรมที่ร้อนแรง
หญิงสาวรับรู้ถึงความเป็นชายมากยิ่งขึ้น เมื่อมันกระทบกับก้อนเนื้อภายในกายเธอ และยิ่งไปกว่านั้นมันสะเทือนไปถึงเรือนเอวหลังหนัก เมื่อเขากระแทกท่อนเนื้อเข้ามาลึกๆ และแรงมาก
ความร้อนแผ่ซ่านอยู่ในช่องสวาท แต่อธิวัฒน์มิได้หยุดเคลื่อนกาย เขากลับเร่งความเร็ว และแรงขึ้นเรื่อยๆ จนหญิงสาวกรีดร้องด้วยความเสียวสุดๆ จนเมื่อถูกกระแทกหนักในคราสุดท้าย พร้อมกับหยาดเหงื่อของอธิวัฒน์อาบทั่วกาย
ชายหนุ่มดึงปลายองคชาติออกมา สาดใส่เรือนหลังของรินรดาอย่างพึงพอใจ เขาพลาดลับนอนกับเธอไปแล้ว เพราะความเมาของไวน์แดง
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้