ฟองเบียร์ขอเวลาเป็นการส่วนตัวกับแสนดี เขาใช้เวลาอยู่กับแสนดีมากกว่าจะอยู่กับเปเปอร์ เด็กสาวม.ปลายคิดว่า น่าจะปล่อยให้ฟองเบียร์อยู่ให้ห่างไกลจากเธอเสีย เขายิ่งทำแบบนี้ ราวกับพยายามอยู่ใกล้เธอมากกว่าจะพยายามกับเปเปอร์
“สอนเราหน่อยสิ นะแสนดี” ฟองเบียร์มาหาแสนดีในวันหยุดก่อนสอบปลายภาค
คนที่บ้านเด็กสาวก็ช่างแสนดีกับเธอเสียจริงๆ พร้อมใจกันไม่อยู่บ้านเป็นเพื่อนกับเธอเลย เพราะนัดไปเที่ยวกับเพื่อนตจว.กันหมด ถ้าไม่ติดว่าจะสอบเธอก็อยากจะเผ่นไปเที่ยว หนีฟองเบียร์เหมือนกัน
“นายน่าจะไปทำกับเปเปอร์ตรงๆ เลยดีกว่านะ” แสนดีพยายามบอกปัดหลายวิธีแล้ว ทำไมฟองเบียร์จะต้องมาขอเธอแบบนี้ ทั้งๆ พวกเธอสองคนเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นเอง
“เปเปอร์ไม่เปิดโอกาสให้เราเสียที เราพยายามเยอะมากเลยนะ ทั้งซื้อของขวัญ ให้ดอกไม้ เลี้ยงข้าว พาเที่ยว เลี้ยงดูหนังโรง ขนาดบัตรคอนเสิร์ตวงดังที่สุดตอนนี้ เรายังซื้อฝากเพื่อนเปเปอร์อีกสี่คน...”
ฟองเบียร์เอาใจเปเปอร์หมดทุกอย่างแล้ว เขาเล่าให้แสนดีฟัง สาวเจ้าก็ไม่ยอมให้ฟองเบียร์จูบเสียที ไม่เหมือนกับแสนดี ที่ยอมช่วยและสอนให้ฟองเบียร์จูบสาวเป็น…
“ถ้างั้น... ฉันอยากจะแนะนำว่า นายควรเลิกกับเปเปอร์ได้แล้วล่ะ ท่าทางเขาจะใช้นายเป็นสะพานสู่ความต้องการของเขามากกว่า ไม่ใช่เพราะเขารักนายนะ เขาอาจจะกำลังหลอกใช้นายอยู่ก็ได้...” แสนดีสรุปว่าเปเปอร์ไม่น่าคบหาอีกต่อไป ท่าทางเธอคงไม่ได้จริงจังกับฟองเบียร์ ในฐานะเพื่อนก็อยากจะช่วยให้เพื่อนตาสว่าง
“ทำไมเธอมาบอกเราอย่างนี้ล่ะ แสนดี ไหนว่าเพื่อนกันจะช่วยกันไง”
“ฉันกำลังช่วยนายอยู่นี่ไง เปเปอร์ไม่ได้ชอบนายหรอก นางแสดงตัวออกมาแล้ว ตัดใจเสียเหอะ” แสนดีคิดว่าอยากให้เขาทำใจเรื่องสาวที่จีบอยู่ และอาจจะมีใครสักคนที่ดีกว่าเปเปอร์ เพื่อฟองเบียร์จะไม่ต้องถูกสาวบอกเลิกอีกคน
“เฮ้อ... แสนดีอุตส่าห์พยายามช่วยเราแท้ๆ เลย” แววตาฟองเบียร์หันมองเพื่อนสาว ซึ่งกำลังจะหยิบขนมมาใส่ปาก มือหนึ่งเขาคว้ามือของแสนดีให้ชะงัก พลางเอาไปใส่ปากเขาแทน
“นี่นายมาเล่นตลกกับฉันหรือไง?” แสนดีรู้สึกโกรธที่โดนฟองเบียร์แย่งซีนไปแบบนั้น นี่มันขนมชิ้นที่ใหญ่ที่สุด เธออุตส่าห์เหลือเป็นชิ้นสุดท้าย เพื่อจะกินให้อร่อย...
แสนดีวิ่งไล่ตบตีฟองเบียร์ภายในห้องส่วนตัว จนฟองเบียร์วิ่งหนีแต่ดันลื่นเพราะผ้าเช็ดเท้า เขาล้มตัวลงบนเตียงของแสนดี และเธอกระโดดลงทับทุบฟองเบียร์ แต่ทว่า... เรือนหน้าของพวกเขาสองคนใกล้กันจนมือของแสนดีหยุดในทันใด
******
ฟองเบียร์จับเรือนหน้าของแสนดีเข้ามาใกล้ เพื่อขอจูบเธออีกครั้งในแบบที่เคยสอน เด็กสาวพยายามดึงตัวเองออก แต่ว่าปลายลิ้นหนาร้อนแทรกตวัดกับลิ้นของเธอเอาไว้ เรือนกายนุ่มนวลถูกร่างของฟองเบียร์พลิกขึ้น ทับเธอเอาไว้เบื้องล่าง
หนุ่มม.ปลายจูบเร่าร้อนกับสาวเจ้าของเตียงในห้องนอนส่วนตัว แม้ว่าแสนดีจะพยายามดันเขาหรือพยายามผลักออก ยิ่งปลายลิ้นแทรกเข้ามา พลางถูกจูบเร่าร้อนดูดดื่มครอบครอง เรือนหน้าของแสนดีร้อนผ่าว หัวใจร้อนรุ่ม มือไม้อ่อนระทวย และเลิกขัดขืนกับฟองเบียร์
“นายก็จูบใช้ได้แล้วนิ ทำไมไม่ใช้กับเปเปอร์ล่ะ?” แสนดีเริ่มจะหอบ เพราะตื่นตระหนกและตื่นเต้น แววตามองฟองเบียร์ซึ่งอยู่เบื้องบน
“ไม่รู้สิ จูบเธอได้รสชาติกว่ามั๊ง” ฟองเบียร์ตอบและขอจูบต่อเนื่องจนริมฝีปากสาวม.ปลาย เริ่มบวมเจ่อ เธอจูบตอบเขาอย่างพึงพอใจ หลังจากทำกับฟองเบียร์ที่ลานจอดรถวันนั้น วันนี้เธอรู้สึกดีที่ได้อยู่กับเขาสองคนตามลำพัง
เรือนร่างของฟองเบียร์ล้มลงนอนอยู่บนเตียง ปล่อยให้แสนดีถอดเสื้อผ้าตัวเอง โชว์ให้เขาดู ว่าร่างกายเธอสวยหรือเปล่า แววตาฟองเบียร์จรดจ้องมองเธออย่างเลื่อนลอย และความเป็นชายใต้กางเกงเริ่มแข็งตุง
มือหนึ่งของแสนดีจับเป้ากางเกงและ อยากจะขอดูของฟองเบียร์บ้าง เธอยิ้มเยาะด้วยร่างเปล่าเปลือย พลางจับเขาถอดกางเกงและถอดเสื้อ ฟองเบียร์รู้สึกถึงความร้อนรุ่มภายในร่างกาย และส่วนสำคัญของเขามันเริ่มเจ็บปวดอีกแล้ว
ความเป็นชายตระหง่านต่อหน้าแสนดี เด็กสาวม.ปลายมองอย่างเบิกดวงตาใหญ่กว้าง เธอพึ่งจะได้เห็นของฟองเบียร์เป็นครั้งแรก ว่ามันอาจจะใหญ่กว่าของแฟนเก่าเล็กน้อย และยาวกว่าอีกนิดนึง เธอเริ่มจะรู้สึกอายและหัวใจเต้นแรง
“เราทำเธอกลัวหรอ?” ฟองเบียร์รู้สึกผิดเล็กๆ เขารู้สึกอายเหมือนกันที่อยู่ตามลำพังกับแสนดี
“เปล่าๆ นายเคยมาหรือยังล่ะ?” แสนดีถาม เธออยากจะนั่งทับเขาเสียจริงๆ อยากรับรสอารมณ์แห่งสุขสันต์ มันทำให้เธอมีอารมณ์อยากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่เคยอ่ะ มีเธอคนแรกเห็นเราโป๊วแบบนี้” ฟองเบียร์ตอบทำให้เด็กสาวยิ้มแย้ม พร้อมกระโดดขึ้นมาคร่อมบนตัวฟองเบียร์ เด็กหนุ่มม.ปลายเริ่มจะหวาดหวั่นว่าแสนดีจะทำอะไรกับร่างกายของเขายามนี้
“อยากให้เราสอนไม่ใช่หรอ?” แสนดีบอกพลางใช้มือจับองคชาติจัดมันเข้าหาเป้าหมาย อย่างน้อยฟองเบียร์ควรรู้ว่า มันจะต้องใช้กับผู้หญิงยังไง...
******
องคชาติเนียนใส อวบอิ่มพองขยายตัวเต็มที่ มีความยาวและใหญ่กว่าแขนของแสนดี ปลายองคชาติกลมมนกำลังปะทะกับปากทางเข้าช่องสวาทเด็กสาวม.ปลาย เรือนหน้าของฟองเบียร์วิตกว่า แสนดีจะนั่งทับเขาแล้วมันจะทำให้เขาเจ็บหรือเปล่า
“มันจะเจ็บมั๊ย?” ฟองเบียร์ถามเพราะเขากลัวแสนดีจะทนไม่ไหว เขารู้สึกเจ็บแปลบที่ปลายหัวองคชาติ แต่เมื่อแสนดีทิ้งน้ำหนักนั่งทับ ค่อยๆ กลืนองคชาติของฟองเบียร์ลงไปเรื่อยๆ ชายหนุ่มเสียวกระสัน ขนลุกตัวเกร็งจนแอ่นกายไปด้านหลัง แม้จะนอนหงายราบบนเตียงแสนดีก็ตาม
เด็กสาวม.ปลายเริ่มอ้าปากกว้าง หลังจากค่อยๆ กดตัวเองลงนั่งทับองคชาติแทงเข้ามาภายในช่องสวาทตน เธอรู้สึกว่ามับเบียดภายในคับแคบและเข้าไปอย่างยากลำบาก กลับทำให้ความกลัวและตื่นเต้นรุนแรงนั้นหายไป สร้างความสุขและอารมณ์เคลิบเคลิ้มให้เธอกว่าตอนอยู่กับแฟนเก่า ช่างรู้สึกดีจริงๆ
“เจ็บมั๊ย?” แสนดีถามฟองเบียร์ เห็นเขาเงียบนอนตัวเกร็ง อยากจะขยับสะโพกราวกับจะลุกหนี
“เสียวมากเลย แสนดี”
“มันจะรู้สึกดีกว่านี้นะ ฟองเบียร์” แสนดีค่อยขยับสะโพกพลางยกสองแขนขึ้น ราวกับเต้นส่ายสะโพกบนตัวเขา ชายหนุ่มรู้สึกดีจนเหม่อ ละเมอเพ้อ เห็นนางฟ้าสวยงามกำลังเปลือยกายนั่งทับ ส่ายสะโพกราวกับเต้นอยู่บนตัวเขา
“ดีจริงๆ แสนดี...” เด็กสาวม.ปลายนั่งทับ พลางขยับสะโพกขึ้นลง ยกขึ้นและทับลงไปหลายตับ สะโพกกลมกลึงเด้งสนั่นเมื่อถูกกระทบกับกายชายเบื้องล่าง
เด็กสาวเสียวกระสันขยับกายด้วยความเร็วเพิ่มขึ้น ยิ่งทำให้ฟองเบียร์เสียวซ่านรับแรงกดจากช่องสวาทที่คับแคบ บีบรัดเสียแน่น แต่ยิ่งมันถูไถกับภายในช่องแคบ มันยิ่งลื่นมากเมื่อน้ำภายในหลั่งเพิ่มขึ้น
แสนดีรู้สึกเสียวกระสัน เธอแทบทนไม่ไหวเมื่อองคชาติของฟองเบียร์บดเบียดภายในจนถึงทางตัน แทบจะกระแทกชนผนังปากมดลูกได้บ่อยครั้ง เธอเสร็จสมสุดเสียว แทบจะหมดเรี่ยวแรงหลังจากเห็นสวรรค์เกิดขึ้นในหัวใจ
“เราเสียวเหลือเกินแสนดี เราจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” ฟองเบียร์รู้สึกถึงแรงดันภายในกาย และบางอย่างกำลังเคลื่อนออกจากระหว่างขา เพื่อมันจะถูกแรงฉีดอัดครั้งแรก พุ่งเข้าไปทางปลายท่อนเนื้อองคชาติ
บางสิ่งที่หลั่งออกมาด้วยความร้อน และน้ำขุ่นเมือกระหว่างร่างของแสนดีขยับขึ้นลงบนตัวฟองเบียร์ มันได้ไหลทะลักออกมาจนเด็กสาวม.ปลายเสียวกระสันจนหยุดไม่ได้ เผลอครวญกรีดร้องแผ่วเบา
ฟองเบียร์แตกในหนักมาก พวยพุ่งน้ำขุ่นกามเต็มที่ภายในช่องสวาท เด็กหนุ่มม.ปลายหอบหายใจมองแสนดียังคงขยับส่ายสะโพกถูไถไปมาอย่างเพลิดเพลิน ราวกับชำนาญเรื่องนี้จากแฟนเก่าสอนมาแล้วอย่างดี...
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้