วันถัดมา ฟองเบียร์พยายามตีสนิทกับเปเปอร์ ซึ่งหลังจากเขาได้ทดลองจูบกับแสนดีไปแล้ว ทำให้ความคิดของแสนดีสับสน เริ่มจะอ่านหนังสือในมือไม่ค่อยรู้เรื่อง ฟรีแฮนด์สวมอยู่ในหูกระแทกเท่าไหร่ก็ไม่เข้าหัว
แสนดีรู้สึกหงุดหงิดหลังจากสอนฟองเบียร์จูบที่ลานจอดรถบนห้าง เพราะบริเวณนั้นเธอกับแฟนเก่าเคยจูบกันบ่อย และแอบได้กันลับๆ ช่วงมืดวันนั้น แสนดียอมรับว่าเธอมีอารมณ์และภายในกายสาวถูกกระตุ้นจนเกางเกงในเปียก
เด็กสาวม.ปลายส่ายหัว พยายามลืมเรื่องในอดีตและลอบมองฟองเบียร์ไกลๆ ท่าทางเขายิ้มและหัวเราะออก ราวกับว่าเปเปอร์ยอมรับเขาเป็นแฟน เธอเห็นพวกเขาจับมือกัน มองหน้าและยิ้มแย้ม บางทีแสนดีอาจจะช่วยฟองเบียร์สำเร็จ
ไม่ทันไรก็พบว่าฟองเบียร์หอมแก้มเปเปอร์ พลอยทำให้เพื่อนสาวรอบๆ โห่เสียงดัง เมื่อเห็นเพื่อนได้แฟนสำเร็จ เขาไม่รวยมาก แต่ฐานะก็ไม่เลว แสนดีคิดว่าเธอคงไม่ต้องมีอะไรคุยกับฟองเบียร์แล้ว ในเมื่อเขาคงเป็นแฟนกับเปเปอร์แล้ว
นิหน่าแค่รู้สึกตะขิดตะขวงเรื่องฟองเบียร์คบกับแสนดี เลยถามระหว่างเปเปอร์นั่งอยู่ด้วย
“เป็นแฟนกับแสนดีหรือเปล่า?” นิหน่าถามด้วยความสงสัย กลัวว่าเพื่อนรักจะถูกคบซ้อน
“เปล่า แสนดีเป็นเพื่อนสนิทเราเอง” ฟองเบียร์รู้สึกตกใจที่มีคนเห็นพวกเขาสนิท หนุ่มม.ปลายเลยพยายามปฏิเสธเอาไว้ก่อน เพราะเขาพึ่งจะสมหวังกับเปเปอร์
“ไม่ได้โกหกเรากับเพื่อนเรานะ” นิหน่าแค่รู้สึกไม่ไว้ใจ หลังจากเมื่อวานแอบติดตามตอนเลิกเรียน
“ไม่เลย เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น” ฟองเบียร์ตอบน้ำเสียงปกติ หากไม่เพราะแสนดี เขาคงจีบเปเปอร์ไม่ได้
“ถ้างั้นก็คงจะตรงตามตำรา คบเพื่อนไม่ได้แฟน คบแฟนเสียเพื่อน...” นิหน่าแซวเพื่อนขำๆ เพราะหลังจากนี้ เปเปอร์ก็คงไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับพวกเธอเหมือนเดิม
“เฮ้ย... เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่นะ นิหน่า... พูดอะไรมาแบบนั้น จริงมั๊ยพวกเรา...” เปเปอร์ยังคงเป็นเด็กสาวร่าเริง ยิ้มแย้มหวานสดใส เธอไม่มีวันทิ้งเพื่อน เพราะหากได้ดิบได้ดีจากฟองเบียร์ซึ่งเป็นลูกนักการเมือง เธอคงจะมีโอกาสดีๆ อะไรอีกมากมาย ในการไต่เต้าไปสู่การหาผู้ชายดีๆ ซึ่งมียศถาบรรดาศักดิ์
“ถ้างั้นเย็นนี้เราไปดูหนังด้วยกันนะ” ฟองเบียร์ตั้งใจว่า จะชวนเปเปอร์ไปดูหนัง และอยากจะจูบกับเปเปอร์ เพื่อให้เธอชอบเขาให้มากขึ้น หนุ่มม.ปลายอารมณ์ดี เมื่อเขาคบหากับเปเปอร์สำเร็จ
แสนดีรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเหงา เพราะไม่ได้คุยกับฟองเบียร์เหมือนเมื่อก่อน เธอคิดว่าต่อจากนี้ไปเขาคงคบกับเปเปอร์สมใจนึกแล้ว เธอจึงใช้เวลาหลังเลิกเรียน ไปห้างเข้าร้านหนังสือ หานิยายสนุกๆ สักเล่มมาอ่าน เหมือนเดิม...
******
เปเปอร์ไปดูหนังกับฟองเบียร์ ระหว่างภาพยนตร์กำลังดำเนินไปเนื้อเรื่อง มือของฟองเบียร์กุมมือเย็นเฉียบของเปเปอร์เอาไว้ เขาแค่อยากจะจูบเปเปอร์อย่างที่ใจคิด แต่หญิงสาวหลบหน้า และไม่ยินยอม เธออยากดูหนัง ไม่ได้อยากให้ฟองเบียร์ทำอะไรบ้าๆ แบบนั้น
“เดี๋ยวสิ... ฟองเบียร์ เขาขอดูหนังก่อน” เด็กสาวม.ปลายสนุกกับหนังไทยแสดงออกมาตลกมาก ทำให้ฟองเบียร์รู้สึกว่า มันไม่ใช่อารมณ์จูบแบบที่เคยทำกับแสนดี... เขารู้สึกว่า การคบกับเปเปอร์มันใช่อย่างที่เขาคิดแบบนี้รึ?
หนุ่มม.ปลายทำหน้าที่แฟนเหมือนเดิม แต่เปเปอร์ทำสีหน้าเบื่อๆ ราวกับว่าไม่อยากอยู่กับฟองเบียร์ หลังจากภาพยนตร์ฉายหนังจบ เธออยากกลับไปอยู่กับเพื่อนสาวกลุ่มเดิม ซึ่งมันสนุกกว่าอยู่กับผู้ชายทึ่มๆ แบบนี้
“ขอบใจนะที่มาส่ง” เปเปอร์ยอมให้เขามาส่งได้แค่ป้ายรถเมล์ ฟองเบียร์รู้สึกว่าเปเปอร์ยังคงมีกำแพงกับเขาอยู่ เลยอยากจะหาโอกาสคุยกับแสนดี หลังจากเขามาเจออุปสรรคแบบนี้
ฟองเบียร์พยายามกดหาเบอร์โทรของแสนดี เพื่ออยากจะขอคำปรึกษาตามเดิม ยามนี้แสนดีกำลังนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ พลางใส่ฟรีแฮนด์แช่ตัวอย่างสบายๆ เสียงคอลดังในหู ปรากฏหมายเลขของฟองเบียร์
สีหน้าของแสนดีเริ่มจะขมวดคิ้วเข้าหากัน หลังจากไม่ได้คุยกับฟองเบียร์อยู่วันสองวัน นี่เขายังจะคุยกับเธอเรื่องอะไรอีก...
“จีบเปเปอร์เป็นไงบ้างล่ะ? ก้าวหน้าไปถึงไหนละ?”
“เขาไม่ยอมให้เราจูบ เราทำอะไรผิดหรอ?” แสนดีได้ยินเช่นนั้นแล้ว ไม่รู้จะอธิบายยังไงต่อ ทำไมผู้ชายคนนี้มันทึ่มเว่อร์จริงๆ
“แล้วทำอะไรกันบ้างล่ะ?”
“พาไปเลี้ยงข้าว ดูหนัง ไปส่งที่ป้ายรถเมล์ ท่าทางเขาไม่สนุกตอนอยู่กับเราเลย” ฟองเบียร์ปรึกษาเล่าเหตุการณ์ให้แสนดีฟัง เสียงน้ำในอ่างอาบน้ำกระทบไปมา ทำให้ฟองเบียร์ต้องถามถึงว่าเธออยู่ไหน
“ฉันกำลังอาบน้ำ ยังไงก็แค่นี้ก่อนนะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่” แสนดีตัดสาย แล้วเริ่มอาบน้ำทำความสะอาด
สำหรับฟองเบียร์ พยายามนึกภาพตอนแสนดีเปลือยกายและอาบน้ำอยู่ ภายในกายชายร้อนรุ่ม และบางสิ่งกระตุ้นให้ท่อนเนื้อส่วนล่างเริ่มเจ็บปวด มันเริ่มตื่นตัวและบวมพองขยายยาว ฟองเบียร์คิดว่าเขาอาจจะต้องใช้มือรูดมัน เพื่อบรรเทาอาการความต้องการซึ่งมันเกิดขึ้น หลังจากเขาจินตนาการถึงแสนดีโดยไม่มีเสื้อผ้า...
******
เด็กสาวในชุดม.ปลายกำลังนั่งกินขนม พลางฟังเพลงสวมฟรีแฮนด์เหมือนเดิม เธอแค่นั่งรถฟองเบียร์มาคุยเท่านั้นแหละ ส่วนหนังสือเรียนเอามาวางไว้ตรงหน้า ทำเหมือนกำลังทำรายงาน ทำการบ้าน ซึ่งแค่เอามาอำพรางธุระเสียมากกว่า
นิหน่าเห็นแสนดีนั่งกินขนมอยู่คนเดียว เลยคิดว่าน่าจะเข้าไปลองถามเสียหน่อย ว่าฟองเบียร์โกหกหรือเปล่า
“เป็นไง ยัยแสนดี สบายดีป่าว ทำการบ้านหรอ?” นิหน่าทักทายสีหน้ายิ้มแย้ม ขอคุยด้วยก่อนฟองเบียร์จะแวะมา
“ก็สบายดี วันนี้หน้าตาสดใสนะ ยัยนิหน่า”
“อ่อ แน่นอนสิ ฉันอยู่ในระดับท๊อปเทนของสาวงามประจำโรงเรียนนิจ๊ะ” นิหน่าชื่นชมตัวเองว่าเธอสวยกว่าแสนดีแน่นอน เรื่องนั้นแสนดีไม่เถียงเลยหากนิหน่าจะหลงตัวเองได้เพียงนั้น
“เห็นอยู่ว่าสว่างสไวเสียจนมองไม่เห็น” เพราะผิวของนิหน่าคล้ำดำแดงกว่าแสนดี เธอเลยไม่รู้ว่านิหน่านั่งอยู่ตรงไหน
“เหน็บซะ... เห็นคุยกับฟองเบียร์บ่อยๆ เป็นเพื่อนสนิทกับเขาจริงๆ รึ?”
“ก็เพื่อนสนิท... แกไม่เห็นกับตาหรือไง” แสนดีรู้สึกแปลกๆ เมื่อถูกถามเช่นนั้น
“ก็เปล่าหรอก เห็นสนิทกันม๊าก... แค่สงสัยน่ะ” นิหน่าไม่เห็นปฏิกิริยาว่าแสนดีจะเป็นแฟนกับฟองเบียร์แม้แต่น้อย
“ถามแปลกๆ ไปกินไข่เน่ามากไปหรือเปล่า?” แสนดีแซวนิหน่า ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเปเปอร์ นี่พวกเธอสงสัยว่าฟองเบียร์มาปรึกษาเรื่องจีบสาวกับแสนดีสินะ เธอแอบคิดในใจ
“ไม่มีอะไรละ อ้อ... เรื่องสอบปลายภาคอย่าลืมบอกเพื่อนคนอื่นๆ ด้วยนะ อาทิตย์หน้าเขาสอบกันแล้ว” นิหน่าบอกทวนทิ้งท้าย
“ขอบใจจ้า” แสนดียิ้มแย้ม โบกมือลา หันมามองหนังสือตรงหน้า แทบจะเริ่มอ่อนละเหี่ยใจ วันใกล้สอบเหมือนวันใกล้ลงนรกสำหรับเธอเลยทีเดียว
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้