พี่เลี้ยงของน้องพร้อมมาถึงบ้านในเวลาเที่ยงวันพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่ เธอเป็นผู้หญิงวัยสามสิบปลาย ชีวาพรคุ้นหน้าพี่เลี้ยงคนนี้ดีอยู่แล้ว เพราะเคยเห็นเธอทำงานอยู่ที่บ้านราชเวคิน หากในตอนนั้นชีวาพรไม่รู้ว่าเธอทำหน้าที่อะไร
“พี่กบเคยเป็นพี่เลี้ยงของสองแสบ พี่กบทำงานดี คุณแม่เลยขอให้อยู่กับเราต่อเพื่อจะได้เลี้ยงเด็กๆ ที่บ้านราชเวคินคนต่อไป”เด็กคนต่อไปที่พูดถึงก็คือน้องพร้อม ในเวลานั้นธีทัตกลับนึกไปถึงหลานที่เกิดจากน้องชายอีกสองคน เขาไม่เคยคิดว่าเด็กคนนั้นจะเป็นลูกของตัวเอง“น้องพร้อมน่ารักมากค่ะ พี่ดีใจที่ได้ดูแลน้องพร้อม แค่เห็นหน้าน้องพร้อม พี่ก็หลงรักแล้วค่ะ ทำไมถึงน่ารักอย่างนี้ ดูสิคะ ตาจมูกปากลงตัวไปหมด ผมดกดำ ดูรวมๆ เหมือนตุ๊กตาเด็กผู้ชายเลย”พี่เลี้ยงบรรยายไม่เกินจริง ธีทัตได้ฟังก็ยิ้มปลื้ม ใครเห็นน้องพร้อมก็หลงรักไม่ยาก เพราะลูกของเขาน่ารักจริงๆในขณะที่สายตาของผู้ใหญ่ทั้งสามคู่มองไปที่ทารกน้อย เจ้าตัวกลมก็มองคนมาใหม่อย่างสนใจ จู่ๆ ก็ยิ้มแป้นอย่างน่ารัก“อุ๊ย! น้องพร้อมยิ้มให้พี่ด้วย ดูท่าทางน้องเป็นเด็กอารมณ์ดีนะคะ&rdqu“คนพาล”“กวางว่าพี่ทำไม”“รู้นะ คุณธีร์กำลังคิดจะทำอะไร”“กวางรู้ใจพี่”เมื่อพยายามเข้าหาลูก แต่ลูกกลับเมินหนี ดังนั้นธีทัตจึงเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ เขายิ้มกรุ้มกริ่มแล้วบอกเสียงเบา“พี่บอกกวางหรือยังว่ากวางสวยขึ้นมาก”มันเป็นคำชมที่ออกมาจากใจ...เมื่อก่อนชีวาพรสวยและน่ารัก แต่ตอนนี้เธอสวยซึ้งตรึงใจ เธอมีเสน่ห์ บางสิ่งบางอย่างในตัวเธอทำให้เขาอยากอยู่ใกล้ตลอดเวลา ซึ่งเขาไม่รู้มันคืออะไรชีวาพรมองเขาอย่างระมัดระวัง ธีทัตยังเป็นผู้ชายที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงเพียงแค่เขาอยู่ใกล้ๆ นับประสาอะไรกับเวลานี้ที่เขากำลังทอดสายตาล้ำลึกมาหา หญิงสาวขยับตัวด้วยไม่รู้จะทำตัวอย่างไร สุดท้ายเธอจึงลุกขึ้นไปนั่งตรงมุมของเล่น หวังจะจัดของเล่นที่กองพะเนินให้เป็นระเบียบ อย่างน้อยเธอจะได้ดึงความสนใจออกมาจากพ่อของลูกด้วยทว่าธีทัตยังตามไปนั่งใกล้ๆ แถมเขายังโน้มตัวไปหา ชีวาพรกลั้นลมหายใจเมื่อกลิ่นกายชายที่ผสมกับกลิ่นน้ำหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาโชยมาเตะจมูก เพราะมันทำให้ช่องท้องของเธอปั่นป่วน“คุณธ
มันเป็นปัญหาใหญ่...ธีทัตอยากทำความรู้จักลูกชาย เขาอยากนั่งคุยกับจิตแพทย์เด็กหรือใครสักคนที่สามารถอธิบายพฤติกรรมของเด็กสิบเดือนให้เขาเข้าใจ คิดจะถามแม่ของลูก แต่เมื่อเห็นท่าทางของเธอ เขาก็ตัดสินใจว่าไม่กวนอารมณ์ของเธอคงเป็นเรื่องที่ดีกว่า...สุดท้ายจึงเหลืออยู่คนเดียวที่เขาพอจะหารือได้ นั่นก็คือน้องชายฝาแฝดของเขา“กูไม่รู้หรอก เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน มึงต้องทำความเข้าใจลูกของมึงเอง ลูกของมึงกับลูกของกูเป็นคนละคนกัน มึงถามกู กูจะไปรู้เรื่องลูกของมึงได้ยังไง”“กูพยายามทำความเข้าใจลูกของกูอยู่นี่ยังไงล่ะ แต่มันกลายเป็นกูทำให้ลูกเกลียดกู”“มึงพลาดตรงไหน”“กูไม่รู้ เมื่อวานลูกยังหัวเราะลั่นห้องกับกูอยู่เลย กูก็ดีใจ คิดว่าลูกคงชอบกู แต่ที่ไหนได้ พอมาวันนี้ มันพลิกกลายเป็นคนละเรื่อง”“มึงทำอะไรขัดใจลูกหรือเปล่า”“มันก็มีบ้าง”“ว่ามา มีอะไร”“ลูกกูจะแทะขวดน้ำ กูก็ห้าม ลูกก็เมินกู พอพาลูกมาที่บ้านหลังเดิมของกวาง คนงานเอาของเล่นของฟ้าใสมาให้ ลูกกูก็จะเล่นลูกบอล
แค่หันหลังกลับไป ธีทัตก็ยืนนิ่ง เรียกว่าตัวแข็งไปเลย ในมือยังถือโทรศัพท์มือถือไว้ เขาก้มลงมองมัน ไม่รู้ว่าเมื่อสักครู่ชีวาพรได้ยินที่เขาคุยกับก่อฤกษ์หรือเปล่า“กวางมีอะไรกับพี่หรือเปล่า”“กวางอยากคุยเรื่องย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ค่ะ”ท่าทางของเธอเหมือนไม่มั่นใจ แต่คนฟังกลับยิ้มกว้าง ออกอาการตื่นเต้นอย่างไม่ปิดบังความรู้สึก แต่พอได้ยินเงื่อนไข แววตาของเขาก็จุดประกายความสงสัยขึ้นมาแทน“ถ้ากวางย้ายมาอยู่ที่นี่ กวางต้องมีสิทธิ์ในบ้านหลังนี้ แต่กวางเข้าใจว่าคุณซื้อบ้านไปแล้ว”“พี่บอกแล้วว่ามันเป็นบ้านของกวาง”อยากย้ำเหลือเกินว่าเขาและเธอเป็นผัวเมียกัน เมื่อบ้านเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา นั่นหมายถึงมันเป็นบ้านของเธอด้วย แต่เพราะก่อฤกษ์เพิ่งสั่งไว้ว่าเมื่ออยู่ที่บ้าน เขาจะต้องใช้ความรู้สึกกับลูกเมียให้มากๆ ธีทัตจึงรอฟังเหตุผลของเธอ“กวางจะขอเช่าบ้านกับคุณ”“เช่าบ้าน? ยังไง?”“ถ้ากวางเช่าบ้านหลังนี้ กวางจะมีสิทธิ์ในฐานะผู้เช่า”อ๋อ! เข้าใจแล้ว...ธีทัตคร
ผู้บริหารหนุ่มหล่อแห่งราชเวคิน กรุ๊ปที่เพิ่งรับหน้าที่แทนพี่ชายคนโตถึงกับขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นเพื่อนของเจ้าตัวโทร.มา เขารับสายอย่างงงๆ และยิ่งงงหนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำถาม“เด็กคนนั้นเป็นใคร? ใช่หลานของกันต์หรือเปล่า เมื่อกี้พี่โทร.ไปหาธีร์ แต่ธีร์ไม่รับสายของพี่เลย”“พี่แพทถามถึงเด็กที่ไหนครับ”“รูปถ่ายของเด็กที่ธีร์โพสต์ลงในไอจีไง”ชนกันต์วางมือจากงาน แล้วเปิดเข้าไปในแอปพลิเคชันอินสตาแกรม เมื่อเห็นรูปที่พี่ชายโพสต์ลงไป เขาก็แทบหงายหลังตกเก้าอี้“เฮ้ย!”“มีอะไรหรือกันต์ ทำไมร้องเสียงดัง กันต์ตกใจอะไร สรุปว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของธีร์ใช่ไหม”“พี่แพทรู้เรื่องหลานแล้วใช่ไหม”“พี่พอจะรู้มาบ้าง แต่พี่ไม่เคยเห็นหลานว่าหน้าตาเป็นยังไง สรุปว่าเด็กคนนี้ก็คือหลานชายของกันต์ใช่ไหม หน้าคล้ายธีร์มาก คิ้วเข้ม ผมดกดำ จมูกโด่ง หางตาเรียวรี ไม่รู้ว่าถ้าลืมตาตื่นมาแล้วจะเหมือนธีร์มากแค่ไหน”“ใช่ครับ เด็กคนนี้เป็นหลานของผม แต่ผมว่าหน้าตาคล้ายแม่ของแกมากกว่า”
รูปถ่ายของเด็กชายตัวกลมที่ถูกโพสต์ขึ้นบนไอจีของธีทัตทำให้เพื่อนของเขาฟันธงไปในทางเดียวกันว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขาเอง แทบไม่มีใครสงสัยว่าเด็กชายอาจเป็นใครอื่น พวกเขาแค่ประหลาดใจว่าทำไมธีทัตถึงปิดเรื่องนี้ไว้เงียบกริบจนไม่มีใครรู้เลยคงมีเพียงแพทริเซียที่พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ ซึ่งเธอไม่ได้บอกให้ใครรู้เกี่ยวกับครอบครัวนี้ เธอสมัครใจที่จะปิดปากเงียบเอาไว้“แพทว่าการที่ธีร์โพสต์รูปถ่ายของลูกลงไอจี เขาคงต้องการประกาศว่าเขาพร้อมจะเอาลูกและเมียคืน...แพทไม่ยุ่งเรื่องนี้ดีกว่า แพทกลัวจะทำให้ธีร์เสียเรื่อง”แพทริเซียเปรยขึ้นมาขณะนั่งอยู่ในห้องพักผ่อนกับสามี ซึ่งคนที่กำลังจดจ่ออยู่กับซีรีส์จีนบนหน้าจอโทรทัศน์ถึงกับหันมามองภรรยาคนสวย“ไม่มีใครแย่งลูกเมียของเขาไปเลยนะ มีแต่เขาที่ทิ้งเมียไปโดยไม่รู้ว่าเธอกำลังท้อง วันดีคืนดีพอได้เจอหน้าเมียกับลูก เขาก็แสดงความเป็นเจ้าของว่าตัวเองเป็นพ่อของเด็กคนนี้...เพื่อนของคุณเอาแต่ใจตัวเองจริงๆ”“แหม! คุณป๊อบคะ คนเราทำผิดพลาดกันได้นะ”“ไม่รู้ละ ถ้าใครมาทำกับลูกสาวของผมเหม
“นมน้องพร้อมจะหมดแล้ว”ชีวาพรเปรยกับพี่เลี้ยงของลูก...นมผงของลูกกินได้อีกสักสามวันก็จะหมดกระป๋อง เธอกำลังคิดว่าควรออกไปซื้อมาตุนไว้ให้เรียบร้อย เธอตั้งใจจะฝากลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่กลับได้ยินเสียงห้าวทุ้มดังแทรกเข้ามาเสียก่อน“งั้นออกไปซื้อนมให้ลูกด้วยกัน พี่กำลังจะชวนกวางไปซื้อของสดเข้าบ้านพอดี”ชีวาพรหันไปมอง พลันต้องเบิกตาโตกับภาพตรงหน้า...น้องพร้อมอยู่ในเป้อุ้มเด็กที่ธีทัตกำลังอุ้ม ลูกหันหน้ามาทางเธอ เธอจึงเห็นว่าหน้าตาของลูกผุดผ่อง แถมลูกยังอยู่ในเสื้อผ้าชุดใหม่อย่างพร้อมที่จะออกไปข้างนอกแล้ว“คุณอาบน้ำให้ลูกเหรอ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูกด้วย...กวางยังไม่ได้บอกให้คุณทำ”ไม่ได้ดีใจหรือปลื้มใจ แต่ชีวาพรกลัวว่าคนไม่เคยเลี้ยงลูกอย่างเขา จู่ๆ มาจับลูกของเธอเป็นหนูทดลอง ถ้าเกิดเขาทำพลาดพลั้ง แล้วลูกเป็นอะไรขึ้นมา...เธอรับไม่ได้“กวางเป็นอะไร ทำไมต้องเสียงดัง พี่ไม่ได้อาบน้ำให้ลูก พี่แค่เอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดหน้าให้ลูก เพราะมีคราบนมติดบนแก้ม ส่วนเสื้อผ้า พี่ก็ให้พี่กบช่วยเปลี่ยนให้”พอรู้คำตอบ ชีวาพรก็รู
รถสปอร์ตคันสีดำแล่นไปจอดหน้าซูเปอร์มาร์เก็ตที่ตั้งอยู่ชานเมืองซึ่งวางขายสินค้าคุณภาพดี ธีทัตเลือกที่แห่งนี้เพราะผู้คนไม่พลุกพล่าน เขาไม่อยากให้น้องพร้อมต้องเข้ามาอยู่ในสถานที่แออัด เพราะลูกยังมีภูมิต้านทานต่ำ ลูกจะติดเชื้อโรคได้ง่ายแล้วอาจไม่สบายได้“ไปซื้อนมให้ลูกก่อน”ธีทัตบอกขณะเดินขนาบข้างหญิงสาวโดยไม่ยอมห่าง คนที่อุ้มลูกน้อยไว้แนบอกพยายามถอยจากเขาอยู่หลายหน แต่เขาก็ยังเดินตามมาประชิดตัว จนเธอต้องข่มใจเอาไว้...ที่ตั้งกว้าง คนก็ไม่เยอะ แต่เขามาเดินเบียดเราอยู่ได้ชีวาพรดึงรถเข็นออกมาใช้ ท่าทางทุลักทุเลอยู่ไม่น้อย เพราะเธอกำลังอุ้มลูกอยู่ด้วย ลูกของเธอตัวเล็กเสียเมื่อไรกัน จนชายหนุ่มทนมองไม่ไหว“ส่งลูกมาเถอะ”“ไม่ต้อง กวางอุ้มลูกเอง”“กวางเข็นรถเข็น”“งั้นคุณเอารถเข็นไปก็แล้วกัน”“พี่เข็นรถเข็นให้กวางได้ แต่กวางส่งลูกมาให้พี่ด้วย กวางต้องเดินซื้อของ แล้วจะอุ้มลูกให้เหนื่อยทำไม ดูแขนขาของลูกเสียก่อน อวบล่ำขนาดนี้ เหมือนเดินแบกก้อนหินทั้งก้อน”อยากทุบเขาให้เจ็บ
เมื่อลูกได้อยู่ในอ้อมแขน ธีทัตก็อยากหยุดเวลาไว้แค่นี้ เขาเพียรกอดและหอมเจ้าตัวกลมอย่างไม่รู้เบื่อ ไม่เคยรู้เลยว่าคนเราสามารถรักและพร้อมที่จะทุ่มเทให้คนคนหนึ่งได้มากขนาดนี้ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่มีเงื่อนไขและพร้อมจะให้จนหมดทั้งตัวดวงตาคมทอดมองดวงหน้าเล็กกลม ในจังหวะที่เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นไปมองพ่อ ดวงตาสองคู่ประสานกัน พลันเกิดเงาแวววาวขึ้นในนัยน์ตาของคนเป็นพ่อ...ภาพอบอุ่นและงดงามระหว่างสองพ่อลูกอยู่ในสายตาของผู้คนที่มาซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต ธีทัตอุ้มลูกไปยืนรอแม่อยู่ใกล้ประตูทางออก ซึ่งบริเวณนี้นานๆ ถึงจะมีคนเดินผ่าน ทั้งสองคนจึงดูโดดเด่นและกลายเป็นจุดสนใจไปโดยปริยายชีวาพรรวมอยู่ในกลุ่มคนที่หันไปมองสองพ่อลูก ภาพนั้นสะกดสายตาของเธอ น้องพร้อมตัวเล็กนิดเดียวเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของธีทัต ลำแขนล่ำสันของเขาโอบอุ้มลูกเอาไว้อย่างอบอุ่นและปลอดภัย เธอมองแล้วจึงเข้าใจว่าทำไมลูกถึงชอบที่จะอยู่ในอ้อมกอดของเขาหญิงสาวทอดมองภาพนั้นนิ่งนานเกือบนาที ก่อนเธอจะถอนสายตากลับมาเมื่อนึกถึงความจริงบางอย่าง...ธีทัตไม่ได้รักเธอ...ก่อนที่เขาจะมาแต่งงานกับเธอ เขาเคยคบหากับนาตาลีมาก่อน
“อย่าปล่อยลูกไว้กับพ่อของแท้เลย”“ทำไม เขาก็เลี้ยงลูกดี”“เพราะพ่อจะปั้นลูกให้เป็นซุปต้าร์น่ะสิ ไม่ต้องสงสัยเลย ตอนนี้ธีร์เข้าชมรมคนเห่อลูกเรียบร้อยแล้ว”แพทริเซียพูดกับสามีในขณะนั่งดูคลิปผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ คลิปนี้ปรากฏขึ้นบนไอจีของธีทัต ส่วนรูปถ่ายจำนวนมากนั้นอยู่ในเพจของราชเวคิน กรุ๊ป“พวกเขาน่าจะกลับมาคืนดีกันแล้ว”“แพทรู้มาว่าพวกเขาอยู่บ้านเดียวกันแล้ว ก็บ้านเดิมของคุณกวางนั่นแหละ เห็นผู้จัดการบอกว่าคุณธีร์ไปส่งคุณกวางที่โรงแรมอยู่บ่อยๆ”“ดีนะ โรงแรมของเราได้ยกระดับไปในตัว เพราะลูกสะใภ้ของราชเวคินมาทำงานด้วย”“นั่นสิ ตอนแรกแพทไม่ได้คิดอะไร มองแค่ว่าคุณป๊อบช่วยคุณกวางให้มีงานทำ เพราะคุณกวางต้องเลี้ยงลูกคนเดียว แต่พอรู้ว่าคุณกวางมีความสามารถด้านภาษาในระดับดี ได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน แถมภาษาสเปนอีกนิดหน่อย แพทก็คิดว่าถ้าหลุดไปคงจะเสียดายมาก เพราะโรงแรมสาขานี้ไม่มีพนักงานที่เชี่ยวชาญด้านภาษาเลย ตอนนี้กลายเป็นเราได้โบนัสเพราะรับพนักงานที่ชื่อชีวาพรเข้า
น้องพร้อมอายุครบหนึ่งขวบ เด็กชายได้ตัดเค้กวันเกิดอีกรอบไปเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้เจ้าตัวน้อยเดินได้คล่องมากขึ้น แถมยังขยันทำท่าทางตลกให้คนทั้งบ้านได้หัวเราะถึงแม้ธีทัตยังมองไม่เห็นจุดบรรจบของความสัมพันธ์แบบผัวเมียกับชีวาพร แต่ในฐานะพ่อของลูก...เขาทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าทุ่มเทสุดตัว“วันนี้พ่อต้องไปทำงาน น้องพร้อมจะไปกับพ่อไหมครับ”“คุณพาลูกไปได้หรือคะ”“หนูตอบคุณแม่ไปสิครับว่าได้แน่นอน ตอนนี้หนูโตเป็นหนุ่มแล้ว ไม่ใช่เด็กทารกแล้วนะ ดูสิ หนูมีฟันขึ้นตั้งหลายซี่ แถมยังเดินได้คล่องอีกด้วย ไหน! น้องพร้อมเดินโชว์ให้คุณแม่ดูหน่อยสิครับ”เมื่อคุณพ่อทำเสียงเล็กเสียงน้อยกับตัวเอง น้องพร้อมก็ยิ้มร่าเริงเป็นเชิงตอบรับ สองมือป้อมยันพื้นเอาไว้ แล้วยกก้นโด่งขึ้น กระทั่งท่อนขาสั้นป้อมยืนได้อย่างมั่นคง เจ้าตัวน้อยก็ออกเดินหัวซุนไปหาแม่ชีวาพรยิ้มกับความน่ารักของลูก เธอยกเจ้าร่างป้อมขึ้นมาอุ้มและหอมแก้มนุ่มๆ นั้นอย่างแสนรัก“เป็นไงครับ ผมโตพอที่จะไปทำงานกับคุณพ่อได้หรือยัง”น้องพร้อมออกอากา
“เมื่อไรกวางจะกลับไปอยู่ที่บ้านราชเวคิน”คนที่ตามเข้ามาป้วนเปี้ยนถึงในห้องครัวถามขึ้นมา วันนี้เขาไปรับเธอกลับมาจากที่ทำงาน หลังจากที่เมื่อเช้าเขาเซ้าซี้เพื่อไปส่งเธอรอบหนึ่งแล้ว...“อยู่บ้านหลังนี้ก็สบายอยู่แล้วนี่คะ หรือว่าคุณธีร์อึดอัด คุณกลับไปบ้านโน้นบ้างก็ได้ คุณมานอนค้างคืนอยู่ที่นี่บ่อยเกินไป”“ใครสอนให้พูดอย่างนี้”ธีทัตเคาะหน้าผากเมียเป็นการทำโทษ หญิงสาวปัดมือหนาออก เธอทำหน้ามุ่ยได้อย่างน่ารัก จนเขารู้สึกมันเขี้ยว...นึกอยากจับเมียมาทำโทษด้วยการจูบปากเสียให้เข็ดคนตัวโตมองหญิงสาวที่ง่วนอยู่หน้าเตาตาปรอย อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่เขาไม่อาจแตะแม้กระทั่งปลายนิ้วของเธอ ทั้งที่ข้างในกายรุ่มร้อน โหยหาเมียเหลือเกิน...ชะรอยดวงตาของเขาคงสื่อความรู้สึกให้เธอรู้ ตะหลิวในมือจึงถูกเงื้อขึ้นมาขู่ จนเขาต้องกระแอมในลำคอ แล้วบอกเธอเสียงอ่อน“พี่ไม่ได้อึดอัดที่จะอยู่ที่นี่หรอก พี่อยู่ที่ไหนก็ได้ที่กวางกับน้องพร้อมอยู่ พี่แค่อยากให้กวางได้อยู่ในที่ที่ควรอยู่มากกว่านี้”“บ้านหลังนี้ไม่ควรอยู่หรือคะ?
ในช่วงเวลาบ่ายใกล้เย็นของวันนั้น รถคันสีครีมคุ้นตาแล่นเข้ามาในบ้าน ชีวาพรยืนมองด้วยความสงสัยว่ามันเป็นรถของใครกัน กระทั่งได้เห็นรถคันนั้นอย่างชัดตา เธอจึงหันไปมองธีทัตด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม“รถของกวาง...พี่ให้คนขับรถที่บ้านโน้นเอามาคืนให้ รถคันนี้พี่ซื้อให้กวาง ในช่วงที่กวางไม่อยู่ คนขับรถดูแลรถเป็นอย่างดี เช็กสภาพรถไว้ตลอด และไม่ได้ให้ใครใช้รถคันนี้ด้วย ตอนนี้รถติดคาร์ซีตแล้ว กวางจะได้ขับรถพาน้องพร้อมออกไปข้างนอกได้”“คุณเป็นบ้าไปแล้ว คุณทำอะไรของคุณ”“นั่นสิ พี่ทำอะไรของพี่”ธีทัตยิ้มขื่น เมื่อย้อนนึกถึงพฤติกรรมของตัวเอง เขาคงเป็นบ้าตามที่ชีวาพรพูดจริงๆ เขาทำเหมือนชีวาพรยังอยู่กับเขา ทั้งที่เป็นตัวเขาเองที่บอกให้เธอไปหลังจากครบกำหนดที่ทั้งสองคนเคยตกลงว่าจะหย่าจากกันตลอดหนึ่งปีกว่าที่ชีวาพรไม่อยู่กับเขา เขาไม่ได้ออกตามหาเธอ แต่ทุกขณะจิตเขายังคิดว่าตัวเองมีภรรยาแล้ว แม้ภายนอกใครจะมองว่าเขากลับมาเป็นโสดก็ตาม เขาใช้ชีวิตแบบคนโง่ไปวันๆ คนโง่ที่รู้ใจตัวเองแต่แบกอีโก้ไว้สูงเกินไป เขาทำให้เรื่องมันแย่ไปเสียหมด สุดท้ายเขาถ
“จะเป็นไรไปล่ะ”แค่เพียงวางน้องพร้อมลงบนโต๊ะ เจ้าตัวก็โผนไปหาเค้กแฟนซีที่เป็นตุ๊กตาหมีอยู่บนหน้าเค้กในทันที สองมือน้อยๆ คว้าหมับไปที่หน้าเค้ก ซึ่งแน่นอน...มันเละคามือป้อมๆน้องพร้อมออกอาการงุนงง ทำไมลูกหมีที่ประดับอยู่บนเค้กถึงได้เละคามือ เจ้าตัวน้อยยกมือที่เลอะครีมขึ้นมาดู ฉับพลันดวงหน้ากลมก็บิดเบ้“ไม่เป็นไรนะครับ มันเป็นเค้กวันเกิดของหนู หนูจะทำอะไรกับมันก็ได้”คนเป็นพ่อกล่อม แถมยังช่วยลูกเล่นเค้กด้วยการจิ้มครีมแล้วป้ายบนแก้มกลมๆ ชีวาพรรู้ว่าลูกกำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่อีกใจหนึ่งเธอก็รู้สึกเสียดายเค้ก ซึ่งพี่เลี้ยงของลูกก็อ่านความคิดของเธอได้“น้องพร้อมได้สัมผัสและได้ขยำเค้ก ถือเป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กไปในตัวค่ะ”“แต่มันเป็นของกิน เฮ้อ! กวางต้องทำใจสินะคะ”“ทำไมต้องทำใจ ลูกกำลังตัดเค้กให้เรากินอยู่นี่ไงล่ะ”ธีทัตแย้ง ส่วนพี่เลี้ยงของน้องพร้อมก็ลอบยิ้ม...ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพ่อกับลูกได้เจอกันแค่เพียงไม่กี่วัน แต่ลูกก็ติดพ่อหนึบแล้วน้องพร้อมจะตัดเค้กยังไง? ...ชีวาพรยังรู้
มันเป็นความเคยชินสำหรับช่วงนี้ไปแล้วที่หากมีเรื่องอะไร ธีทัตจะโทร.ไปหาก่อฤกษ์...เรียกได้ว่าน้องชายฝาแฝดเป็นที่ปรึกษาของเขา“มึงห้ามผู้หญิงไม่ได้หรอก เธอมีเหตุผลของเธอ ถ้ามึงอยากเข้าใจเธอ มึงต้องยืนอยู่ในจุดของเธอ”คำตอบเฉียบคมเหมือนเดิม จนธีทัตนึกสงสัยตงิดๆ ขึ้นมาว่าก่อฤกษ์กำลังดึงเขาเข้าสมาคมพ่อบ้านใจกล้าอยู่หรือเปล่า เพราะเรื่องที่เกิดกับเขานั้นดันคล้ายกับเรื่องที่กำลังเกิดกับเจ้าตัวฝนแก้วกำลังเรียนระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยที่เมืองเพิร์ท ถึงแม้น้องสะใภ้ต้องเลี้ยงลูกถึงสองคน แต่เธอมีความตั้งใจสูงที่จะเรียนต่อ ดังนั้นก่อฤกษ์จึงรับหน้าที่เลี้ยงลูกไปโดยปริยายเพื่อให้เมียเรียนจบตามที่ตั้งใจว่าก็ว่าเถอะ...ธีทัตรู้สึกค้านมาตลอด เขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของฝนแก้ว แถมไม่เข้าใจน้องชายที่สนับสนุนเมีย แต่เขาพูดอะไรไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องภายในครอบครัวของน้องชายหากเมื่อถึงเวลานี้ ธีทัตกลับเจอปัญหาคล้ายกัน มันเป็นคำถามที่อยู่ในใจของเขามา 2-3 วันแล้วว่าทำไมชีวาพรจะต้องออกไปทำงานข้างนอก ในเมื่อเขายินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด เขายินดีจะให้เธอมากกว่านี้ด
นาตาลีรู้สึกคาใจกับเด็กหน้ากลมผมดกดำคนนั้นมาทั้งวัน ดังนั้นเมื่อกลับมาถึงที่พักในตอนค่ำ หญิงสาวจึงติดต่อไปหาเพื่อนที่อยู่เมืองไทยซึ่งเคยส่งรูปถ่ายของเด็กคนนั้นมาให้เธอ“มีอะไรเหรอแพม”“เด็กคนนั้นเป็นใคร”“เด็กคนไหน?”“คนที่เธอเอารูปจากไอจีของคุณธีร์ส่งมาให้ฉันดูไง”“ไหนเธอบอกว่าไม่สนใจไง แล้วมาถามอะไรอีก”“อย่าเรื่องมากนะจูลี่”อารมณ์ของนาตาลีเริ่มขุ่นมัว แต่เพื่อนไม่ได้ถือสาหาความเธอ ได้แต่ตอบเธอไปตามความรู้สึกแท้จริง“ฉันมั่นใจว่าเด็กเป็นลูกของคุณธีร์ ฉันไม่ได้มีข้อมูลลับอะไรหรอก ฉันแค่ประมวลจากคอมเมนต์จากเพื่อนและคนใกล้ชิดของเขาตอนที่เห็นรูปถ่ายบนไอจี รวมถึงข่าวเมื่อวานที่บอกว่าเด็กเป็นทายาทราชเวคิน อ้อ! เขามีรูปถ่ายของเด็กอีกชุดหนึ่ง คราวนี้ลงในข่าวออนไลน์เลย ฉันไม่รู้ว่าเธอเห็นหรือยัง”“เห็นแล้ว”เพราะเห็นว่ารูปถ่ายของเด็กคนนั้นถูกนำไปลงเป็นข่าวบนสื่อออนไลน์ เธอจึงไม่อาจวางเฉย อีกทั้งฉากหลังของรูปถ่ายยังเป็นบ้านที่เธอเคยอยู่มาตั้งแต่เ
ธีทัตเปิดประตูรั้วด้วยกุญแจที่ตนถือไว้ จากนั้นจึงนำรถไปจอดในโรงจอดรถ แล้วเข้าไปในบ้านโดยใช้รหัสเปิดประตูบ้านทั้งหลังเงียบกริบ เขาเดินเข้าไปในห้องเด็กที่อยู่ชั้นล่าง แต่ลูกไม่อยู่ในนี้ ชะรอยว่าลูกยังอยู่ในห้องนอนชั้นบน เมื่อคิดจะตามขึ้นไป หากต้องชะงักเท้า เพราะฉุกคิดได้ว่าชีวาพรได้สั่งห้ามเขาไม่ให้ล่วงล้ำเข้าไปก่อนที่จะได้รับอนุญาตธีทัตจำใจถอยออกมา หากเมื่อกลิ่นอาหารลอยมาเตะจมูก เขาจึงเบนทิศทางไปยังห้องครัวชีวาพรยืนอยู่หน้าเตา เธอกำลังทำอาหาร เขาได้กลิ่นขิงจากอาหาร มันชวนให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่เคยอยู่ด้วยกัน แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เขากลับติดรสมือของเธอ อาหารธรรมดาแต่เธอมักคิดไว้แล้วว่าแต่ละเมนูนั้นทำเพื่ออะไร‘กวางทำไก่ผัดขิงให้พี่ธีร์ค่ะ ช่วงนี้เริ่มหนาว เมื่อวานพี่ธีร์จามตั้งหลายหน เสียงขึ้นจมูกเหมือนคนเป็นหวัดด้วย เช้านี้กวางเลยทำไก่ผัดขิงให้กินไล่หวัด ไม่รู้ว่าพี่ธีร์กินเป็นมื้อเช้าได้หรือเปล่า ตอนแรกจะทำโจ๊กใส่ขิงเยอะๆ แต่แม่บ้านบอกว่าพี่ธีร์ไม่ชอบกินโจ๊ก’อยากได้ความใส่ใจนี้คืนมา ตลอดหนึ่งปีกว่าที่เธอหายไป เขาได้รู้ว่าบางอย่างในชีวิตข
ร่างสูงใหญ่ของคนที่นั่งบนเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำอยู่ในสายตาของน้องชายทั้งสองคนที่เดินมาหยุดยืนฟังการพูดคุยทางโทรศัพท์ของเขาสักพักใหญ่ ทั้งสองคนหันไปสบตากัน ก่อนจะตัดสินใจเดินไปหาเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวมีท่าทางแปลกไปธีทัตนิ่งเงียบ ท่าทางเหมือนคนกำลังเศร้า...มันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร ในเมื่อเมื่อกี้พี่ชายใหญ่เพิ่งเล่านิทานให้ลูกฟัง เขาควรมีความสุขมากกว่านั่งคอตกเช่นนี้“กลับมานานแล้วหรือเฮีย แล้วเป็นอะไรหรือเปล่า”ชนกันต์ถาม...คนถูกถามสะดุ้ง เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่ายังมีคนอื่นอยู่แถวนี้ แต่เขายังไม่เงยหน้าขึ้นมา ภพธรจึงถามซ้ำไปด้วย เพราะเห็นท่าทางของพี่ชายชักน่าเป็นห่วง“เมื่อกี้เฮียคุยกับลูกไม่ใช่เหรอ แล้วนั่งคอตกทำไม ผมไม่ได้แอบฟังนะ แค่จะมาชวนเฮียให้ไปกินเบียร์ด้วยกัน แต่เห็นเฮียติดสายก็เลยรอ แล้วมันก็ได้ยินเอง”“น้องพร้อมไม่ยอมนอน กูเลยเล่านิทานให้ลูกฟัง”ธีทัตเคยได้ยินนิทานเรื่องนี้มาจากก่อฤกษ์ แต่เขาจำเนื้อหานิทานไม่ได้หรอก เพราะเขาได้แต่ฟังผ่านๆ ในตอนที่น้องชายเล่านิทานให้หลานๆ ฟัง อาศัยการฟังหลายครั้งก็เลยปะติดปะต่อเข้าด้