“นมน้องพร้อมจะหมดแล้ว”
ชีวาพรเปรยกับพี่เลี้ยงของลูก...นมผงของลูกกินได้อีกสักสามวันก็จะหมดกระป๋อง เธอกำลังคิดว่าควรออกไปซื้อมาตุนไว้ให้เรียบร้อย เธอตั้งใจจะฝากลูกไว้กับพี่เลี้ยง แต่กลับได้ยินเสียงห้าวทุ้มดังแทรกเข้ามาเสียก่อน“งั้นออกไปซื้อนมให้ลูกด้วยกัน พี่กำลังจะชวนกวางไปซื้อของสดเข้าบ้านพอดี”ชีวาพรหันไปมอง พลันต้องเบิกตาโตกับภาพตรงหน้า...น้องพร้อมอยู่ในเป้อุ้มเด็กที่ธีทัตกำลังอุ้ม ลูกหันหน้ามาทางเธอ เธอจึงเห็นว่าหน้าตาของลูกผุดผ่อง แถมลูกยังอยู่ในเสื้อผ้าชุดใหม่อย่างพร้อมที่จะออกไปข้างนอกแล้ว“คุณอาบน้ำให้ลูกเหรอ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูกด้วย...กวางยังไม่ได้บอกให้คุณทำ”ไม่ได้ดีใจหรือปลื้มใจ แต่ชีวาพรกลัวว่าคนไม่เคยเลี้ยงลูกอย่างเขา จู่ๆ มาจับลูกของเธอเป็นหนูทดลอง ถ้าเกิดเขาทำพลาดพลั้ง แล้วลูกเป็นอะไรขึ้นมา...เธอรับไม่ได้“กวางเป็นอะไร ทำไมต้องเสียงดัง พี่ไม่ได้อาบน้ำให้ลูก พี่แค่เอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดหน้าให้ลูก เพราะมีคราบนมติดบนแก้ม ส่วนเสื้อผ้า พี่ก็ให้พี่กบช่วยเปลี่ยนให้”พอรู้คำตอบ ชีวาพรก็รูรถสปอร์ตคันสีดำแล่นไปจอดหน้าซูเปอร์มาร์เก็ตที่ตั้งอยู่ชานเมืองซึ่งวางขายสินค้าคุณภาพดี ธีทัตเลือกที่แห่งนี้เพราะผู้คนไม่พลุกพล่าน เขาไม่อยากให้น้องพร้อมต้องเข้ามาอยู่ในสถานที่แออัด เพราะลูกยังมีภูมิต้านทานต่ำ ลูกจะติดเชื้อโรคได้ง่ายแล้วอาจไม่สบายได้“ไปซื้อนมให้ลูกก่อน”ธีทัตบอกขณะเดินขนาบข้างหญิงสาวโดยไม่ยอมห่าง คนที่อุ้มลูกน้อยไว้แนบอกพยายามถอยจากเขาอยู่หลายหน แต่เขาก็ยังเดินตามมาประชิดตัว จนเธอต้องข่มใจเอาไว้...ที่ตั้งกว้าง คนก็ไม่เยอะ แต่เขามาเดินเบียดเราอยู่ได้ชีวาพรดึงรถเข็นออกมาใช้ ท่าทางทุลักทุเลอยู่ไม่น้อย เพราะเธอกำลังอุ้มลูกอยู่ด้วย ลูกของเธอตัวเล็กเสียเมื่อไรกัน จนชายหนุ่มทนมองไม่ไหว“ส่งลูกมาเถอะ”“ไม่ต้อง กวางอุ้มลูกเอง”“กวางเข็นรถเข็น”“งั้นคุณเอารถเข็นไปก็แล้วกัน”“พี่เข็นรถเข็นให้กวางได้ แต่กวางส่งลูกมาให้พี่ด้วย กวางต้องเดินซื้อของ แล้วจะอุ้มลูกให้เหนื่อยทำไม ดูแขนขาของลูกเสียก่อน อวบล่ำขนาดนี้ เหมือนเดินแบกก้อนหินทั้งก้อน”อยากทุบเขาให้เจ็บ
เมื่อลูกได้อยู่ในอ้อมแขน ธีทัตก็อยากหยุดเวลาไว้แค่นี้ เขาเพียรกอดและหอมเจ้าตัวกลมอย่างไม่รู้เบื่อ ไม่เคยรู้เลยว่าคนเราสามารถรักและพร้อมที่จะทุ่มเทให้คนคนหนึ่งได้มากขนาดนี้ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่มีเงื่อนไขและพร้อมจะให้จนหมดทั้งตัวดวงตาคมทอดมองดวงหน้าเล็กกลม ในจังหวะที่เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นไปมองพ่อ ดวงตาสองคู่ประสานกัน พลันเกิดเงาแวววาวขึ้นในนัยน์ตาของคนเป็นพ่อ...ภาพอบอุ่นและงดงามระหว่างสองพ่อลูกอยู่ในสายตาของผู้คนที่มาซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต ธีทัตอุ้มลูกไปยืนรอแม่อยู่ใกล้ประตูทางออก ซึ่งบริเวณนี้นานๆ ถึงจะมีคนเดินผ่าน ทั้งสองคนจึงดูโดดเด่นและกลายเป็นจุดสนใจไปโดยปริยายชีวาพรรวมอยู่ในกลุ่มคนที่หันไปมองสองพ่อลูก ภาพนั้นสะกดสายตาของเธอ น้องพร้อมตัวเล็กนิดเดียวเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของธีทัต ลำแขนล่ำสันของเขาโอบอุ้มลูกเอาไว้อย่างอบอุ่นและปลอดภัย เธอมองแล้วจึงเข้าใจว่าทำไมลูกถึงชอบที่จะอยู่ในอ้อมกอดของเขาหญิงสาวทอดมองภาพนั้นนิ่งนานเกือบนาที ก่อนเธอจะถอนสายตากลับมาเมื่อนึกถึงความจริงบางอย่าง...ธีทัตไม่ได้รักเธอ...ก่อนที่เขาจะมาแต่งงานกับเธอ เขาเคยคบหากับนาตาลีมาก่อน
การเชิญธีทัตให้ออกไปจากบ้านนั้นเป็นเรื่องยากแสนยากหลังจากที่เขาแย่งทำหน้าที่ป้อนข้าวมื้อเย็นให้ลูกไปจากเธอ พอถึงอาหารมื้อเย็นของผู้ใหญ่ เขายังเจ้ากี้เจ้าการสั่งพี่เลี้ยงที่กำลังช่วยเธอทำอาหารให้ตั้งโต๊ะไว้สองที่...สำหรับเธอและตัวเขาเอง“พี่กบกินมื้อเย็นแล้วใช่ไหม ไปดูแลน้องพร้อมได้แล้ว”เขาสั่ง ทั้งที่เพิ่งบอกว่ายกพี่เลี้ยงของลูกให้เป็นคนของเธอ ซึ่งพี่เลี้ยงก็ทำตามคำสั่งเขาแต่โดยดี ชีวาพรจึงได้แต่มองตามหลัง แล้วตวัดสายตามามองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามโต๊ะกินข้าว“ลูกเข้านอนกี่โมงเหรอ”“สองทุ่มค่ะ”แต่บางวันกว่าลูกจะยอมนอนก็ปาเข้าไปสามทุ่ม ซึ่งชีวาพรกำลังจะบอกเขา เพราะเพิ่งคิดได้ว่าเขาถามทำไม ทว่าก็ไม่ทันเสียแล้ว“วันนี้พี่จะพาลูกเข้านอนเอง”“”อย่าเลยค่ะ ตอนนี้หนึ่งทุ่มกว่า คุณกินข้าวเสร็จก็กลับบ้านของคุณไปได้ กวางต้องอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนด้วยเหมือนกัน”“กวางทำธุระของตัวเองไปสิ พี่ดูแลลูกให้ ไม่ดีเหรอ”“น้องพร้อมมีพี่เลี้ยงแล้วนี่คะ”&ldqu
“เอิ้กๆ”เสียงแรกเป็นเสียงของผู้ใหญ่ ส่วนเสียงเล็กๆ ที่ตามมานั้นเป็นเสียงของเด็กตัวกลมที่นอนคว่ำหน้า โดยมีสองมือใหญ่ประคองร่างเล็กกลมให้บินร่อนอยู่กลางอากาศธีทัตพาลูกบินร่อนรอบๆ ห้องเด็ก พี่เลี้ยงนั่งอยู่ตรงมุมห้องโดยไม่ขวางการเล่นของสองพ่อลูก ทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงประตูเริ่มทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าตนควรเข้าไปขัดพวกเขาดีไหม เพราะลูกควรอาบน้ำเพื่อเตรียมเข้านอนได้แล้วธีทัตเหลือบไปเห็นแม่ของลูก เหมือนกับเขาอ่านความคิดของเธอได้ เขาจึงค่อยๆ หยุดการเล่นกับลูก“เครื่องบินลงจอดแล้วครับ”น้องพร้อมหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเมื่อพ่อยกตัวเองขึ้นสูงมากกว่าเดิม ก่อนจะพาบินโฉบลงต่ำและทำท่าจะลงจอดบนโซฟา เจ้าตัวกลมคงรู้ทันว่าพ่อจะหยุดเล่นกับตนแล้ว จึงตีสองขาเล็กอวบไปมาเพราะต้องการประท้วง“แอะ...แอ๊...”“พอแล้วนะครับ”น้องพร้อมตั้งท่าจะออกฤทธิ์...อาการเด็กห่วงเล่นเป็นเช่นนี้เสมอ ชีวาพรจึงรีบไปรับลูกจากธีทัต แต่ลูกก็ไม่ยอมมาหาเธอ กลับโผไปหาธีทัต“หนูมาหาแม่นะคะ แม่จะพาไปอาบน้ำ เดี๋ยวเข้านอนกับแม่”
เสียงตีน้ำจนแตกกระจายสลับกับเสียงพูดอ้อแอ้ของลูกดังมาจากห้องน้ำ คนที่ถือวิสาสะนั่งอยู่ตรงปลายเตียงนอนได้แต่ยิ้มจนหุบไม่ลงเขามีความสุข...ความสุขมันเป็นเช่นนี้เอง“พอได้หรือยังคะ แม่เปียกหมดแล้วนะ”เสียงแม่ดุ แต่คงไม่น่ากลัว เพราะเจ้าตัวแสบร้องอ้อแอ้สวนขึ้นมาทันควัน แถมยังตามด้วยเสียงหัวเราะอย่างชอบใจเสียอีก จนธีทัตต้องลุกขึ้นจากปลายเตียงแล้วเดินไปดูในห้องน้ำเด็กตัวกลมนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำสำหรับเด็ก เขาเห็นคนงานขนอ่างใบนี้มาจากคอนโดมิเนียม เมื่อดูจากสภาพของมัน มันก็คงผ่านการใช้งานมาพอสมควร มีความเป็นไปได้สูงว่ามันคงเดินทางไกลมาจากเชียงรายชายหนุ่มถอนสายตาจากเจ้าจ้ำม่ำเนื้อกายล่อนจ้อนที่นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำแล้วมองแม่ของลูก แล้วได้ตระหนักถึงความเป็นอยู่ของสองแม่ลูกขึ้นมาชีวาพรคงไม่ได้มีเงินมากพอ คุณนพอาจไม่ได้ให้เงินกับลูกสาวคนเล็กสักเท่าไร เพราะทันทีที่ขายหุ้นของบริษัทได้ เช็คเงินสดสองใบก็ถูกยื่นให้กับลูกสาวคนโตและลูกชายคนรองที่มารอรับถึงที่หลังจากเคลียร์หนี้สินของบริษัทและหนี้สินส่วนตัวแล้ว คุณนพเหลือเงินติดตัวไม่มาก
แค่เดินพ้นบานประตูเข้าไปในบ้านราชเวคิน ธีทัตก็แทบสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินสองเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ที่ร้ายกว่านั้นก็คือมันช่างรับส่งกันได้จังหวะจริงๆ“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วถึงเพิ่งกลับบ้าน งานการก็ไม่ทำ โยนให้น้องนุ่งหมดแล้ว ไม่เปลี่ยนจริงๆ...นิสัยไม่เปลี่ยน”“ดีขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย จากสี่ทุ่มลดเหลือสองทุ่มเศษ”เจ้าของเสียงทั้งคู่เดินผ่านประตูด้านในมายืนประจันหน้ากับเขาตรงกลางห้องโถง แล้วกวาดสายตามองเขาตั้งแต่ศีรษะถึงปลายเท้าอย่างสำรวจตรวจตรา“ไปไหนมาเฮีย ทำตัวหายสาบสูญไปทั้งวัน”“กูลาพักร้อน กูก็พักผ่อนและทำธุระของกูสิ พวกมึงทำงานไป ไม่ต้องยุ่งกับกู”“ไม่ได้หรอก ตั้งแต่เมียหายคราวก่อน เฮียเสียผู้เสียคนจนพ่อกับแม่ไม่ไว้ใจ ต้องฝากผมกับไอ้พีทให้คอยสอดส่อง”ชนกันต์กอดอก ทำท่าเหมือนครูฝ่ายปกครองที่กำลังประเมินพฤติกรรมเด็กเกเรหนีเรียน จนพี่ชายใหญ่ชักหมั่นไส้ตงิดๆ เพราะที่ผ่านมาเขามีหน้าที่ดูแลน้องๆ ทั้งสามคน ไม่เคยเลยที่พ่อกับแม่จะให้เจ้าพวกนี้ย้อนมาสอดส่องเขา“มึงพูดเองหรือเปล่า&rdquo
เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนหัวเตียงดังขึ้นในเวลาสามทุ่ม ชายวัยกลางคนที่นอนอยู่บนเตียงขยับตัวตื่น เขากำลังจะลุกขึ้น หากคนที่นอนอยู่ข้างๆ แตะตัวของเขาเป็นเชิงห้าม ก่อนเธอจะรีบลุกจากที่นอนแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือและรับสายเสียเอง“สวัสดีค่ะ”“เบอร์ของพ่อฉันใช่ไหม เธอเป็นใคร”“ไข่มุกเองค่ะ ตอนนี้สามทุ่มแล้ว คุณนพกำลังเข้านอน มุกเลยมารับสายแทน”“ฉันจะพูดกับพ่อของฉัน”คนปลายสายพูดเสียงเฉียบขาด ซึ่งคนรับสายจำได้ดีว่าเป็นเสียงของลูกสาวคนโตของคุณนพ เธอจึงทำตามคำสั่ง เพราะไม่อยากมีปัญหา ถึงแม้จะขัดใจอยู่บ้างก็ตามที เพราะเธออยากให้คุณนพได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่อยากให้มีเรื่องกวนใจเข้ามารบกวนเวลานอนของเขา“คุณแพมโทร.มาค่ะ”คุณนพยันกายลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง แล้วรับโทรศัพท์มาพูดสาย“ว่ายังไงแพม สบายดีไหมลูก”“เรื่อยๆ ค่ะ พ่อเป็นยังไงบ้างคะ”“พ่อพออยู่ได้ อยู่สบายๆ ตามประสาคนแก่ว่างงานนั่นแหละ”“พ่อสบายแล้ว แต่แพมกับภูมิยังต้องดิ้นรน
ชีวาพรกำลังจะเข้านอน พลันเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา เธอรีบรับสาย เพราะกลัวเสียงเรียกจะปลุกลูกให้ตื่นขึ้นมา“คิดถึงจังเลย”คำพูดของคนปลายสายทำให้ชีวาพรถึงกับดึงโทรศัพท์มือถือมาดูหน้าจอเพื่อให้มั่นใจว่าตนกำลังพูดกับใครไม่ผิดคนนี่นา...หรือว่าเขาโทร.ผิดมาหาเรา“คุณโทร.หาใครหรือคะ?”“เมีย…คิดถึง”“คะ? น้องพร้อมหลับแล้ว ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้วนะคะ”ชีวาพรตอบไปแบบงงๆ เพราะเธอไม่เข้าใจคำพูดของเขา ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรจากเธอ“งั้นเหรอ”“ค่ะ ตอนนี้ดึกเกินกว่าที่คุณจะโทร.ไปหาใครต่อใครแล้ว”“พี่ยังไม่ง่วงครับ”“กวางง่วงนอนแล้วค่ะ ปกติกวางนอนพร้อมกับน้องพร้อม เพราะกวางต้องตื่นเช้าพร้อมกับลูกทุกวัน”น้องพร้อมเคยตื่นนอนมาเล่นตั้งแต่ตีสี่ตีห้าด้วยซ้ำ เธอก็ต้องตื่นนอนตามลูก หากตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ น้องพร้อมก็เข้านอนในตอนค่ำและตื่นนอนทีเดียวในตอนเช้า เธอจึงได้นอนอย่างเต็มอิ่มตามไปด้วย“วันนี้เราไม่ได้
“อย่าปล่อยลูกไว้กับพ่อของแท้เลย”“ทำไม เขาก็เลี้ยงลูกดี”“เพราะพ่อจะปั้นลูกให้เป็นซุปต้าร์น่ะสิ ไม่ต้องสงสัยเลย ตอนนี้ธีร์เข้าชมรมคนเห่อลูกเรียบร้อยแล้ว”แพทริเซียพูดกับสามีในขณะนั่งดูคลิปผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ คลิปนี้ปรากฏขึ้นบนไอจีของธีทัต ส่วนรูปถ่ายจำนวนมากนั้นอยู่ในเพจของราชเวคิน กรุ๊ป“พวกเขาน่าจะกลับมาคืนดีกันแล้ว”“แพทรู้มาว่าพวกเขาอยู่บ้านเดียวกันแล้ว ก็บ้านเดิมของคุณกวางนั่นแหละ เห็นผู้จัดการบอกว่าคุณธีร์ไปส่งคุณกวางที่โรงแรมอยู่บ่อยๆ”“ดีนะ โรงแรมของเราได้ยกระดับไปในตัว เพราะลูกสะใภ้ของราชเวคินมาทำงานด้วย”“นั่นสิ ตอนแรกแพทไม่ได้คิดอะไร มองแค่ว่าคุณป๊อบช่วยคุณกวางให้มีงานทำ เพราะคุณกวางต้องเลี้ยงลูกคนเดียว แต่พอรู้ว่าคุณกวางมีความสามารถด้านภาษาในระดับดี ได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน แถมภาษาสเปนอีกนิดหน่อย แพทก็คิดว่าถ้าหลุดไปคงจะเสียดายมาก เพราะโรงแรมสาขานี้ไม่มีพนักงานที่เชี่ยวชาญด้านภาษาเลย ตอนนี้กลายเป็นเราได้โบนัสเพราะรับพนักงานที่ชื่อชีวาพรเข้า
น้องพร้อมอายุครบหนึ่งขวบ เด็กชายได้ตัดเค้กวันเกิดอีกรอบไปเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้เจ้าตัวน้อยเดินได้คล่องมากขึ้น แถมยังขยันทำท่าทางตลกให้คนทั้งบ้านได้หัวเราะถึงแม้ธีทัตยังมองไม่เห็นจุดบรรจบของความสัมพันธ์แบบผัวเมียกับชีวาพร แต่ในฐานะพ่อของลูก...เขาทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าทุ่มเทสุดตัว“วันนี้พ่อต้องไปทำงาน น้องพร้อมจะไปกับพ่อไหมครับ”“คุณพาลูกไปได้หรือคะ”“หนูตอบคุณแม่ไปสิครับว่าได้แน่นอน ตอนนี้หนูโตเป็นหนุ่มแล้ว ไม่ใช่เด็กทารกแล้วนะ ดูสิ หนูมีฟันขึ้นตั้งหลายซี่ แถมยังเดินได้คล่องอีกด้วย ไหน! น้องพร้อมเดินโชว์ให้คุณแม่ดูหน่อยสิครับ”เมื่อคุณพ่อทำเสียงเล็กเสียงน้อยกับตัวเอง น้องพร้อมก็ยิ้มร่าเริงเป็นเชิงตอบรับ สองมือป้อมยันพื้นเอาไว้ แล้วยกก้นโด่งขึ้น กระทั่งท่อนขาสั้นป้อมยืนได้อย่างมั่นคง เจ้าตัวน้อยก็ออกเดินหัวซุนไปหาแม่ชีวาพรยิ้มกับความน่ารักของลูก เธอยกเจ้าร่างป้อมขึ้นมาอุ้มและหอมแก้มนุ่มๆ นั้นอย่างแสนรัก“เป็นไงครับ ผมโตพอที่จะไปทำงานกับคุณพ่อได้หรือยัง”น้องพร้อมออกอากา
“เมื่อไรกวางจะกลับไปอยู่ที่บ้านราชเวคิน”คนที่ตามเข้ามาป้วนเปี้ยนถึงในห้องครัวถามขึ้นมา วันนี้เขาไปรับเธอกลับมาจากที่ทำงาน หลังจากที่เมื่อเช้าเขาเซ้าซี้เพื่อไปส่งเธอรอบหนึ่งแล้ว...“อยู่บ้านหลังนี้ก็สบายอยู่แล้วนี่คะ หรือว่าคุณธีร์อึดอัด คุณกลับไปบ้านโน้นบ้างก็ได้ คุณมานอนค้างคืนอยู่ที่นี่บ่อยเกินไป”“ใครสอนให้พูดอย่างนี้”ธีทัตเคาะหน้าผากเมียเป็นการทำโทษ หญิงสาวปัดมือหนาออก เธอทำหน้ามุ่ยได้อย่างน่ารัก จนเขารู้สึกมันเขี้ยว...นึกอยากจับเมียมาทำโทษด้วยการจูบปากเสียให้เข็ดคนตัวโตมองหญิงสาวที่ง่วนอยู่หน้าเตาตาปรอย อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่เขาไม่อาจแตะแม้กระทั่งปลายนิ้วของเธอ ทั้งที่ข้างในกายรุ่มร้อน โหยหาเมียเหลือเกิน...ชะรอยดวงตาของเขาคงสื่อความรู้สึกให้เธอรู้ ตะหลิวในมือจึงถูกเงื้อขึ้นมาขู่ จนเขาต้องกระแอมในลำคอ แล้วบอกเธอเสียงอ่อน“พี่ไม่ได้อึดอัดที่จะอยู่ที่นี่หรอก พี่อยู่ที่ไหนก็ได้ที่กวางกับน้องพร้อมอยู่ พี่แค่อยากให้กวางได้อยู่ในที่ที่ควรอยู่มากกว่านี้”“บ้านหลังนี้ไม่ควรอยู่หรือคะ?
ในช่วงเวลาบ่ายใกล้เย็นของวันนั้น รถคันสีครีมคุ้นตาแล่นเข้ามาในบ้าน ชีวาพรยืนมองด้วยความสงสัยว่ามันเป็นรถของใครกัน กระทั่งได้เห็นรถคันนั้นอย่างชัดตา เธอจึงหันไปมองธีทัตด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม“รถของกวาง...พี่ให้คนขับรถที่บ้านโน้นเอามาคืนให้ รถคันนี้พี่ซื้อให้กวาง ในช่วงที่กวางไม่อยู่ คนขับรถดูแลรถเป็นอย่างดี เช็กสภาพรถไว้ตลอด และไม่ได้ให้ใครใช้รถคันนี้ด้วย ตอนนี้รถติดคาร์ซีตแล้ว กวางจะได้ขับรถพาน้องพร้อมออกไปข้างนอกได้”“คุณเป็นบ้าไปแล้ว คุณทำอะไรของคุณ”“นั่นสิ พี่ทำอะไรของพี่”ธีทัตยิ้มขื่น เมื่อย้อนนึกถึงพฤติกรรมของตัวเอง เขาคงเป็นบ้าตามที่ชีวาพรพูดจริงๆ เขาทำเหมือนชีวาพรยังอยู่กับเขา ทั้งที่เป็นตัวเขาเองที่บอกให้เธอไปหลังจากครบกำหนดที่ทั้งสองคนเคยตกลงว่าจะหย่าจากกันตลอดหนึ่งปีกว่าที่ชีวาพรไม่อยู่กับเขา เขาไม่ได้ออกตามหาเธอ แต่ทุกขณะจิตเขายังคิดว่าตัวเองมีภรรยาแล้ว แม้ภายนอกใครจะมองว่าเขากลับมาเป็นโสดก็ตาม เขาใช้ชีวิตแบบคนโง่ไปวันๆ คนโง่ที่รู้ใจตัวเองแต่แบกอีโก้ไว้สูงเกินไป เขาทำให้เรื่องมันแย่ไปเสียหมด สุดท้ายเขาถ
“จะเป็นไรไปล่ะ”แค่เพียงวางน้องพร้อมลงบนโต๊ะ เจ้าตัวก็โผนไปหาเค้กแฟนซีที่เป็นตุ๊กตาหมีอยู่บนหน้าเค้กในทันที สองมือน้อยๆ คว้าหมับไปที่หน้าเค้ก ซึ่งแน่นอน...มันเละคามือป้อมๆน้องพร้อมออกอาการงุนงง ทำไมลูกหมีที่ประดับอยู่บนเค้กถึงได้เละคามือ เจ้าตัวน้อยยกมือที่เลอะครีมขึ้นมาดู ฉับพลันดวงหน้ากลมก็บิดเบ้“ไม่เป็นไรนะครับ มันเป็นเค้กวันเกิดของหนู หนูจะทำอะไรกับมันก็ได้”คนเป็นพ่อกล่อม แถมยังช่วยลูกเล่นเค้กด้วยการจิ้มครีมแล้วป้ายบนแก้มกลมๆ ชีวาพรรู้ว่าลูกกำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่อีกใจหนึ่งเธอก็รู้สึกเสียดายเค้ก ซึ่งพี่เลี้ยงของลูกก็อ่านความคิดของเธอได้“น้องพร้อมได้สัมผัสและได้ขยำเค้ก ถือเป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กไปในตัวค่ะ”“แต่มันเป็นของกิน เฮ้อ! กวางต้องทำใจสินะคะ”“ทำไมต้องทำใจ ลูกกำลังตัดเค้กให้เรากินอยู่นี่ไงล่ะ”ธีทัตแย้ง ส่วนพี่เลี้ยงของน้องพร้อมก็ลอบยิ้ม...ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพ่อกับลูกได้เจอกันแค่เพียงไม่กี่วัน แต่ลูกก็ติดพ่อหนึบแล้วน้องพร้อมจะตัดเค้กยังไง? ...ชีวาพรยังรู้
มันเป็นความเคยชินสำหรับช่วงนี้ไปแล้วที่หากมีเรื่องอะไร ธีทัตจะโทร.ไปหาก่อฤกษ์...เรียกได้ว่าน้องชายฝาแฝดเป็นที่ปรึกษาของเขา“มึงห้ามผู้หญิงไม่ได้หรอก เธอมีเหตุผลของเธอ ถ้ามึงอยากเข้าใจเธอ มึงต้องยืนอยู่ในจุดของเธอ”คำตอบเฉียบคมเหมือนเดิม จนธีทัตนึกสงสัยตงิดๆ ขึ้นมาว่าก่อฤกษ์กำลังดึงเขาเข้าสมาคมพ่อบ้านใจกล้าอยู่หรือเปล่า เพราะเรื่องที่เกิดกับเขานั้นดันคล้ายกับเรื่องที่กำลังเกิดกับเจ้าตัวฝนแก้วกำลังเรียนระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยที่เมืองเพิร์ท ถึงแม้น้องสะใภ้ต้องเลี้ยงลูกถึงสองคน แต่เธอมีความตั้งใจสูงที่จะเรียนต่อ ดังนั้นก่อฤกษ์จึงรับหน้าที่เลี้ยงลูกไปโดยปริยายเพื่อให้เมียเรียนจบตามที่ตั้งใจว่าก็ว่าเถอะ...ธีทัตรู้สึกค้านมาตลอด เขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของฝนแก้ว แถมไม่เข้าใจน้องชายที่สนับสนุนเมีย แต่เขาพูดอะไรไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องภายในครอบครัวของน้องชายหากเมื่อถึงเวลานี้ ธีทัตกลับเจอปัญหาคล้ายกัน มันเป็นคำถามที่อยู่ในใจของเขามา 2-3 วันแล้วว่าทำไมชีวาพรจะต้องออกไปทำงานข้างนอก ในเมื่อเขายินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด เขายินดีจะให้เธอมากกว่านี้ด
นาตาลีรู้สึกคาใจกับเด็กหน้ากลมผมดกดำคนนั้นมาทั้งวัน ดังนั้นเมื่อกลับมาถึงที่พักในตอนค่ำ หญิงสาวจึงติดต่อไปหาเพื่อนที่อยู่เมืองไทยซึ่งเคยส่งรูปถ่ายของเด็กคนนั้นมาให้เธอ“มีอะไรเหรอแพม”“เด็กคนนั้นเป็นใคร”“เด็กคนไหน?”“คนที่เธอเอารูปจากไอจีของคุณธีร์ส่งมาให้ฉันดูไง”“ไหนเธอบอกว่าไม่สนใจไง แล้วมาถามอะไรอีก”“อย่าเรื่องมากนะจูลี่”อารมณ์ของนาตาลีเริ่มขุ่นมัว แต่เพื่อนไม่ได้ถือสาหาความเธอ ได้แต่ตอบเธอไปตามความรู้สึกแท้จริง“ฉันมั่นใจว่าเด็กเป็นลูกของคุณธีร์ ฉันไม่ได้มีข้อมูลลับอะไรหรอก ฉันแค่ประมวลจากคอมเมนต์จากเพื่อนและคนใกล้ชิดของเขาตอนที่เห็นรูปถ่ายบนไอจี รวมถึงข่าวเมื่อวานที่บอกว่าเด็กเป็นทายาทราชเวคิน อ้อ! เขามีรูปถ่ายของเด็กอีกชุดหนึ่ง คราวนี้ลงในข่าวออนไลน์เลย ฉันไม่รู้ว่าเธอเห็นหรือยัง”“เห็นแล้ว”เพราะเห็นว่ารูปถ่ายของเด็กคนนั้นถูกนำไปลงเป็นข่าวบนสื่อออนไลน์ เธอจึงไม่อาจวางเฉย อีกทั้งฉากหลังของรูปถ่ายยังเป็นบ้านที่เธอเคยอยู่มาตั้งแต่เ
ธีทัตเปิดประตูรั้วด้วยกุญแจที่ตนถือไว้ จากนั้นจึงนำรถไปจอดในโรงจอดรถ แล้วเข้าไปในบ้านโดยใช้รหัสเปิดประตูบ้านทั้งหลังเงียบกริบ เขาเดินเข้าไปในห้องเด็กที่อยู่ชั้นล่าง แต่ลูกไม่อยู่ในนี้ ชะรอยว่าลูกยังอยู่ในห้องนอนชั้นบน เมื่อคิดจะตามขึ้นไป หากต้องชะงักเท้า เพราะฉุกคิดได้ว่าชีวาพรได้สั่งห้ามเขาไม่ให้ล่วงล้ำเข้าไปก่อนที่จะได้รับอนุญาตธีทัตจำใจถอยออกมา หากเมื่อกลิ่นอาหารลอยมาเตะจมูก เขาจึงเบนทิศทางไปยังห้องครัวชีวาพรยืนอยู่หน้าเตา เธอกำลังทำอาหาร เขาได้กลิ่นขิงจากอาหาร มันชวนให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่เคยอยู่ด้วยกัน แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เขากลับติดรสมือของเธอ อาหารธรรมดาแต่เธอมักคิดไว้แล้วว่าแต่ละเมนูนั้นทำเพื่ออะไร‘กวางทำไก่ผัดขิงให้พี่ธีร์ค่ะ ช่วงนี้เริ่มหนาว เมื่อวานพี่ธีร์จามตั้งหลายหน เสียงขึ้นจมูกเหมือนคนเป็นหวัดด้วย เช้านี้กวางเลยทำไก่ผัดขิงให้กินไล่หวัด ไม่รู้ว่าพี่ธีร์กินเป็นมื้อเช้าได้หรือเปล่า ตอนแรกจะทำโจ๊กใส่ขิงเยอะๆ แต่แม่บ้านบอกว่าพี่ธีร์ไม่ชอบกินโจ๊ก’อยากได้ความใส่ใจนี้คืนมา ตลอดหนึ่งปีกว่าที่เธอหายไป เขาได้รู้ว่าบางอย่างในชีวิตข
ร่างสูงใหญ่ของคนที่นั่งบนเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำอยู่ในสายตาของน้องชายทั้งสองคนที่เดินมาหยุดยืนฟังการพูดคุยทางโทรศัพท์ของเขาสักพักใหญ่ ทั้งสองคนหันไปสบตากัน ก่อนจะตัดสินใจเดินไปหาเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวมีท่าทางแปลกไปธีทัตนิ่งเงียบ ท่าทางเหมือนคนกำลังเศร้า...มันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร ในเมื่อเมื่อกี้พี่ชายใหญ่เพิ่งเล่านิทานให้ลูกฟัง เขาควรมีความสุขมากกว่านั่งคอตกเช่นนี้“กลับมานานแล้วหรือเฮีย แล้วเป็นอะไรหรือเปล่า”ชนกันต์ถาม...คนถูกถามสะดุ้ง เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่ายังมีคนอื่นอยู่แถวนี้ แต่เขายังไม่เงยหน้าขึ้นมา ภพธรจึงถามซ้ำไปด้วย เพราะเห็นท่าทางของพี่ชายชักน่าเป็นห่วง“เมื่อกี้เฮียคุยกับลูกไม่ใช่เหรอ แล้วนั่งคอตกทำไม ผมไม่ได้แอบฟังนะ แค่จะมาชวนเฮียให้ไปกินเบียร์ด้วยกัน แต่เห็นเฮียติดสายก็เลยรอ แล้วมันก็ได้ยินเอง”“น้องพร้อมไม่ยอมนอน กูเลยเล่านิทานให้ลูกฟัง”ธีทัตเคยได้ยินนิทานเรื่องนี้มาจากก่อฤกษ์ แต่เขาจำเนื้อหานิทานไม่ได้หรอก เพราะเขาได้แต่ฟังผ่านๆ ในตอนที่น้องชายเล่านิทานให้หลานๆ ฟัง อาศัยการฟังหลายครั้งก็เลยปะติดปะต่อเข้าด้