Share

บทที่ 13

last update Last Updated: 2025-05-15 22:40:39

ปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่าจะเจ็บแค่ครั้งนี้ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย

จะไม่เสียเวลากับผู้หญิงพรรค์นั้นอีก...

ไอ้เรื่องโกหกนอกใจมันไม่ควรมีอยู่แล้วในชีวิตคู่ แต่นี่ถึงขั้นนอกกาย เขาแม่งโคตรรับไม่ได้และที่สำคัญพิรญาไม่ได้นอกกายเขาด้วยการไปนอนกับผู้ชายแค่คนเดียวแต่เป็นผู้ชายมากหน้าหลายตาไม่ซ้ำราย ยิ่งกว่านั้นหนึ่งในชู้รักคือเพื่อนสนิทของเขา...

พอกันที!

ชายหนุ่มสูดลมเข้าปอดลึก ๆ แม้ในใจจะยังรู้สึกเจ็บกับความผิดหวังที่เพิ่งไปเจอมาไม่หาย เพราะบาดแผลมันยังสดและคงจะใช้เวลาสักพักกว่าจะหายดี อาจเป็นเดือน เป็นปี ไม่สามารถคาดเดาได้ บางทีอาจมีใครสักคนที่เข้ามาทำให้แผลเขาสมานเร็วกว่าเดิมก็ได้

ธนาธิปนั่งกินข้าวต้มกุ้งที่เมริสาซื้อให้จนหมดเกลี้ยง ก่อนจะขึ้นไปบนห้องนอนเพื่ออาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดการเก็บพวกรูปภาพรวมถึงสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพิรญาเก็บใส่ในกล่องจนหมดก่อนจะเดินกลับลงด้านล่าง

"เฟื่อง เอากล่องนี้ไปเผาทิ้งอย่าให้เหลือซาก"

ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจจากผู้หญิงแบบนั้นก็จงตัดให้ขาดอย่าให้เหลือแม้แต่ความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน...

"ค่ะคุณธัน" เฟื่องไม่ได้ละลาบละล้วงเรื่องของเจ้านายจนเกินหน้าที่ หล่อนทำตามคำสั่งนำกล่องนี้ไปเผาทิ้งที่ด้านหลังและนั่งเฝ้าจนกว่าจะมอดไหม้จนกลายเป็นเถ้าถ่านไม่เหลือเป็นชิ้นเป็นอัน...

ปิ้ง!

PIRAYAA : ธันคะ วันนี้พิญมีงานดึก เราคงจะไม่ได้เจอกันนะคะ

PIRAYAA : พิญรักธันมาก ๆ นะคะ

TUNWA.A : ครับ

เขาคว่ำหน้าโทรศัพท์ลงบนเตียงด้วยความรู้สึกรังเกียจขยะแขยงประโยคบอกรักนั่นอย่างบอกไม่ถูก ใช่ เมื่อก่อนอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เขายิ้มออก และคล้ายเป็นเครื่องดื่มชูกำลังที่ช่วยฟื้นฟูชีวิตอันเหนื่อยล้าของเขา แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว…

รังเกียจไปแล้ว!

เขาไม่รู้ว่าตลอดระยะเวลาที่คบหากันมาเกือบปี พิรญานอนกับผู้ชายไปแล้วกี่สิบคน หรืออาจถึงร้อยไหมวะ?

แม้นทุกครั้งเขาจะเซฟทั้งตัวพิรญาและตัวเองด้วยการสวมใส่ถุงยางอนามัยและเราก็ไม่ได้มีเซ็กซ์กันมานานพอสมควรแล้วตั้งแต่ที่เขาแต่งงานกับเมริสา เพราะเวลาว่างไม่ค่อยตรงกัน บางครั้งพิรญากลับมาก็เหนื่อยล้าเพราะเป็นช่วงขาขึ้นงานมากมายล้นมือ ซึ่งเขาเองก็ไม่มีปัญหา เขาไม่ได้เสพติดขนาดนั้น

แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าข้ออ้างนั้นแม่งโคตรตอแหล! ไม่ใช่เหนื่อยจากการทำงานหรอก แต่เพราะเธอมีเซ็กซ์กับคนอื่นมาแล้วต่างหาก เปลี่ยนไม่ซ้ำหน้า ไม่รู้ว่าจะเก็บแต้มไปชิงโชคที่เกาหลีเหรอไง!

เขาจึงโทรไปนัดหมอที่โรงพยาบาล คัดเลือกหมอและชุดทีมงานที่ไว้ใจได้ว่าจะไม่เอาเรื่องของเขาไปพูดต่อ ไม่งั้นเขาฟ้องจนเจ๊งแน่! เพื่อตรวจดูโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์!! อย่างน้อยถ้าติดขึ้นมา รู้ตัวก่อนจะได้หนทางรักษาทัน

เสร็จเรื่องจากโรงพยาบาลกว่าจะเดินทางกลับถึงบ้านก็เย็นมากแล้ว โชคดีที่ผลตรวจวันนี้ออกมาว่าเขายังสะอาด ปลอดภัย ไม่ได้ติดโรคอุรังอุตังพวกนั้นมาให้พอได้สบายใจหน่อย

บีบแตรปี้นที่หน้าประตูรั้วสองสามครั้ง เฟื่องก็รีบสิ่งแจ้นออกมาเปิดให้โดยเร็ว พอเข้าไปจึงพบว่ารถBM ของเมริสาจอดอยู่ แสดงว่าวันนี้เธอคงไม่ตะแล็ดแต็ดแต๊ออกไปเที่ยวที่ไหน

ธนาธิปเดินพุ่งตรงขึ้นไปบนห้องอย่างเคย ไม่ได้แวะทักทายใครที่เดินผ่านไปผ่านมาทำราวกับว่าคนเหล่านั้นไม่มีตัวตน แต่คราวนี้มีบางสิ่งบางอย่างดูแปลกใจจนเขาต้องขมวดคิ้วเพราะเสียงเรียกแสบแก้วหูของเมริสา

“สามี๊!!!” เธอทำเสียงโคตรสูง จนขี้หูเขาเกือบไหลออกมาเต้นระบำอยู่ด้านนอก

แฮะ! เขาไม่ได้ตั้งใจมอง แต่วันนี้เมริสามาแปลก ปกติถ้าอยู่บ้านไม่ได้ออกไปผลาญเงินเล่นก็จะเห็นแค่ภาพที่เธอเดินลอยชายไปมาด้วยสถาพหน้าสดกิ๊ง มัดผมขมวด ๆ ไว้กลางหัว และใส่แค่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ ๆ ยาวคลุมขาอ่อน

ทว่าวันนี้เธอถักเปียสองข้าง แต่งหน้าบาง ๆ สวมใส่เสื้อครอปตัวเล็กสั้นจิ๋วลอยเหนือเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งและหน้าท้องแบนราบ ด้านหน้าสกรีนลายแมวน่ารัก ๆ สีชมพูบาร์บี้ตัดกับเนื้อเนียน ๆ พอดี ส่วนด้านล่างเป็นกางเกงขาสั้นทรงกระบอกสีขาว แต่ยังคงความเป็นคุณหนูเมริสาเอาไว้คือ ทั้งเนื้อทั้งตัว ไม่กี่ชิ้นนี่ แม่งรวมกันได้เกินครึ่งล้านแน่นอน เผลอ ๆ อาจมากกว่าด้วยซ้ำ

“มานี่” เธอลากตัวเขาให้เข้ามาในห้องรับรองแขกที่ตอนนี้มันถูกเปิดไฟสลัว ๆ และรอบ ๆ ติดไฟระยิบระยับหลากสี พร้อมเปิดเพลงคลอเบา ๆ ให้บรรยากาศเหมือนกำลังอยู่ในผับบาร์หรือร้านเหล้า

“นั่งตรงนี้ อะ แก้วของคุณ” พูดพลางก็รินไวน์ใส่ในแก้วและยื่นให้เขา “ไวน์นี่เป็นไวน์ชั้นดีเลยนะ ขวดหนึ่งตกอยู่ประมาณครึ่งแสน”

ไอ้เหี้ย!!! ไวน์ขวดเดียวครึ่งแสน

“คุณทำอะไร เมริสา?” เขาสงสัย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเมริสาไม่อยากแม้กระทั่งสนทนากับเขาเลยด้วยซ้ำ เลี่ยงได้เลี่ยง ปั้นหน้าเสเเสร้งแค่ยามจำเป็นหรือมีเรื่องสำคัญเท่านั้น

“มาดื่มไวน์ด้วยกัน วันนี้ฉันจะเมาเป็นเพื่อนคุณเอง เอาให้หัวทิ่มกันไปเล๊ย” เมริสาหย่อนสะโพกลงนั่งข้างกายเขา ใช้แขนเรียวบางข้างหนึ่งยกขึ้นมาพาดคอเขาราวกับเราสนิทสนมกัน ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?

ก่อนที่จะชูมืออีกข้างหนึ่งซึ่งถือแก้วไวน์เอาไว้ลอยขึ้นเหนือศีรษะ “น้อง ขอเพลงมันส์ ๆ ดิ วู้ววววว”

เขาหันไปตามมือของเธอ ปรากฏว่าคนที่คอยอยู่ควบคุมเพลงคือ บุญช่วยและเฟื่อง!

“นี่มันเรื่องอะไรกัน” เขางงไปหมดแล้ว

“ฉันรู้นะว่าเมื่อวานคุณไปเจออะไรมา ถึงจะรู้ไม่ละเอียดก็เหอะ! ฉันจะบอกอะไรให้ อย่าไปแคร์เลยผู้หญิงแบบนั้น คุณทั้งหล่อ ทั้งรวย หน้าที่การงานก็ดี ต่อให้ขี้เก๊กไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วคุณเป็นผู้ชายที่โคตรเพอร์เฟกต์เชื่อเหอะ เธอไม่คู่ควรกับความรักของคุณหรอก” เมริสาเข้าใจหัวอกของเขาดีว่ามันรู้สึกอย่างไร

“พูดเหมือนตัวเองเคยเจอน่ะ” ธนาธิปหรี่ตามองร่างบางที่กำลังยกแก้วไวน์กระดกเข้าปาก

“ก็ใช่ไง ฉันเข้าใจดีว่าคุณรู้สึกยังไง แม่งโคตรเจ็บเลยใช่ไหม ตอนที่ถูกคนที่เรารัก คนที่เราไว้เนื้อเชื่อใจแทงข้างหลังเนี่ย ฉันเองก็เคยเจอ ไอ้ผู้ชายเฮงซวยนั่นทำให้ฉันเกือบไม่ได้มานั่งข้าง ๆ คุณในฐานะภรรยาที่ถูกตามกฎหมายแล้วรู้ปะ” น้ำเสียงเมริสาค่อนข้างติดยาน ๆ เอื่อย ๆ เขาสันนิษฐานว่าเธอน่าจะดื่มล่วงหน้าไปก่อนแล้วหลายแก้วกว่าเขาจะมาถึงและตอนนี้คงกำลังเริ่มกรึ่ม ๆ หรือเมาไปแล้วก็ได้

ยอมรับว่าเขาไม่เคยเห็นเมริสาในแง่มุมนี้มาก่อน ปกติเธอจะค่อนข้างกินหรู อยู่ดี รูดบัตรวันละสิบล้าน อาหารข้างทางเธอไม่มีทางชายตาแล บางครั้งก็ดูหยิ่ง ๆ เข้าถึงยาก เว้นระยะห่างกับเขาเพื่อรักษาขอบเขต แต่บางทีก็กวนตีน ชอบปั่นประสาทเขา แต่วันนี้มาแปลกเเฮะ…

“ทำไม?” หัวคิ้วขมวดแน่น เมริสาบอกว่า ไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนี้ทำให้เธอเกือบไม่ได้มานั่งข้าง ๆ เขาในฐานะภรรยาที่ถูกตามกฎหมายแล้ว…

“ตอนนั้นฉันโง่มั้ง แค่ผู้ชายคนเดียวทิ้งไปมีผู้หญิงคนใหม่ แถมยังควงอีหนัาปลาดุกนั่นมาเย้ยฉันถึงหน้าตึกคณะ ฉันประชดชีวิต ไม่กิน ไม่นอน คิดสั้นเกือบฆ่าตัวตาย แล้ววันนั้นก็เป็นวันแรกที่ฉันเห็นพ่อกับแม่ร้องไห้สะอื้นหนัก พวกท่านบอกกับฉันว่า แค่ผู้ชายคนเดียวทำให้ลูกไม่อยากอยู่กับพ่อกับแม่เลยเหรอ ฉันแม่ง โคตรแย่ปะ ทำให้พวกท่านเสียใจ” เมริสาเล่าพลางก็หยิบเอ็นไก่ทอดเคี้ยวเข้าปาก พลางป้อนให้เขาด้วย

“…” ธนาธิปนิ่งเงียบ

“ฉันก็เลยได้สติ ต่อให้ไม่มีไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้น อย่างน้อยฉันก็มีครอบครัวที่รักฉันมาก…แล้วคุณรู้ปะ พอย้อนกลับไปเหตุผลที่มันขอเลิกกับฉันโคตรเหี้ย เหี้ย เหี้ยเลย มันบอกว่าฉันไม่ยอมให้มันเอา มันก็เลยต้องไปเอาคนอื่น อีดอกก เหี้ยมาก”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 20

    หากอยู่กันนานกว่านี้ กูว่าเมริสาต้องเล่นหัวเขาเข้าสักวันแน่! ปากเรียกกู คุณธัน คุณธันวาทุกคำ แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ย้อนแย้งสัส ๆ “ทำไมเมื่อกี้กินแค่นิดเดียว อิ่มเหรอ” ถามคำถามนี้ปุ๊บ สายตาแปลก ๆ ของเมริสาก็เลื่อนขึ้นมามองหน้าเขา ก่อนหัวคิ้วจะขมวดย่นติดกันเล็กน้อย “ปกติคุณไม่เคยแม้แต่จะชายตาแลด้วยซ้ำ แต่นี่สังเกตด้วยว่าฉันกินนิดเดียว เอ๊ะ” แววตากรุ้มกริ่มพร้อมรอยยิ้มเลศนัยกระตุกขึ้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาจนปลายจมูกแทบชนกัน “เอ๊ะ หรือได้กันครั้งเดียว คุณหลงฉันแล้วเหรอไง๊” “คงงั้นมั้ง” ธนาธิปไม่ได้หลบหลีกหรือปฏิเสธอย่างที่เมลิสาคิด ในทางกลับกันเขายื่นหน้าเข้าไปซ้ำยังทำสายตากรุ้มกริ่มใส่เธออีกด้วยทำให้คนที่คิดจะกลั่นแกล้งเมื่อครูต้องรีบถอยเสียเอง “บ้า” ใบหน้าเธอแดงก่ำ หลุบความขวยเขินอย่างบอกไม่ถูก บ้าชะมัดกะว่าจะเป็นเสือไล่ตะครุบเหยื่อให้กลัวเล่นแท้ ๆ แต่ดันโดนเขาหลอกกลับเสียได้!! จะว่าไปตั้งแต่ที่ธนาธิปตาสว่างจากผู้หญิงคนนั้นเขาก็ดูสดใสไม่เก๊กครึ้มหรือทำตัวเข้าถึงยากเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ธนาธิปหัวเราะเล็กน้อยให้กับท่าทีตื่นตูมของเมริสา ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนโผงผางตรงไปต

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 19

    คุณผกาวรรณเข้าไปดึงหูลูกชายตัวดีของหล่อนก่อนจะลากพามันเข้าไปด้านในสะบัดตัวให้ทิ้งลงบนโซฟานุ่มพร้อมจ้องมอง ท้าวสะเอวอย่างคาดโทษ“ตาธันแกคิดอะไรอยู่ถึงได้พาผู้หญิงคนนั้นเข้าบ้านห๊ะ! แกควรจะให้เกียรติเมียแกบ้าง! ไม่ใช่ทำอะไรประเจิดประเจิดประเจ้อขนาดนี้ โอ๊ย! อกอีแป้นจะแตก ทั้งลูก ทั้งผัวไม่ได้เรื่องสักคน!!!” มาถึงยังไม่ทันจะพูดจะจา หรือดื่มน้ำสักแก้ว ผกาวรรณก็เหวใส่ลูกชายเสียงดัง ซึ่งมันเป็นภาพธนาธิปเองก็คุ้นตาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แม่เขาเป็นคนแบบนี้แหละ แรง ๆ ตรงไปตรงมา ปากกล้า คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ถึงได้เอาคุณพ่อที่เคยเป็นคาสโนวาตัวพ่อควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าอยู่หมัดมาจนถึงทุกวันนี้ยังไงล่ะ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลด้วยมั้งที่คุณแม่ของเขา ทั้งรัก ทั้งเอ็นดู แม่หนูเมริสาอะไรนั่นหัวปักหัวปำ เพราะมีลักษณะนิสัย กิริยาท่าทางที่ละม้ายคล้ายกันละมั้งตอนอยู่อยู่กับเมลิสากูรู้สึกเหมือนอยู่กับแม่ยังไงก็ไม่รู้ อบอุ่นฉิบหาย!!! ฉิบหายแล้ว เหลือแต่อบอุ่น!“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพิญมาได้ยังไง” คราวนี้เขาพูดจริง ไม่ได้โกหกเหมือนครั้งก่อน ที่มักนัดเจอกับพิรญาแล้วบอกว่าบังเอิญเจอ แต่หนนี้เขาไม่รู้มาก่อนล

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 18

    หลังจากที่พูดคุยตกลงกับธนาธิปเรื่องการสวมบทบาทการเป็นผัวเมียปลอม ๆ อีกระดับหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ปกติมันก็ไม่ได้เป็นผัวเมียกันจริง ๆ อยู่แล้ว ก็ได้กลับขึ้นมาบนห้องนอนแล้วนั่งคิดทบทวนกับตัวเองว่ารับปากไปเพื่ออะไรวะ?ตอนนี้เธอก็สุขสบายอยู่แล้วเราแค่วันที่จะได้เซ็นใบหย่าเท่านั้น เมริสาเอ้ยหาเหาใส่หัวชัด ๆ !ปิ้ง!! จู่ ๆ ข้อความจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น...เป็นแอ็กเคานต์ส่วนตัวของรติมาเพื่อนที่เป็นดาราสาวซึ่งหูตากว้างขวางอยู่ในแวดวงสังคมบันเทิงเด้งข้อความเข้ามา pv.rosese : -send photo- pv.rosese : พ่อมึงใช่ปะ หน้าคุ้น ๆ กูว่าใช่ เมริสาเองจั๊บ : มึงเจอที่ไหน pv.rosese : ภูเก็ต กูมาเที่ยวที่ภูเก็ตกับผู้แล้วบังเอิญเจอคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายพ่อมึงไม่มีผิด pv.rosese : มากับผู้หญิงว่ะ pv.rosese : พ่อกับแม่มึงมาฮันนีมูนกันที่นี่เหรอวะ โรแมนติกโคตร อีดอกกก ได้ห้องพักที่วิวดีที่สุดของโรงแรมด้วย เมริสาเองจั๊บ : กูโทรหาแม่แป๊บ ...เมริสามีลางสังหรณ์ใจแปลก เธอสันนิษฐานว่าผู้หญิงที่รติมาหมายถึงอาจจะไม่ใช่แม่ของเธอหรือเปล่าเพราะหากแม่ไปจริงๆก็คงจะโทรมาหาเธอแล้ว กริ้งง...my mom (เม ว่าไงลูก) เสี

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 17

    เมื่อกลับมาจากห้องของเมริสา ชายหนุ่มเองก็สับสนไม่ต่างไปจากเธอ เขาทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่มด้วยความคิดมากมายตีปนกันมั่วไปหมดภายในสมอง ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนลอยเข้ามาเป็นฉาก ๆ ยังคงวนเวียนตามหลอกหลอนไม่เลิกราเน้นย้ำว่ามันคือความจริงที่ระหว่างเขาและเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยกันยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นต่างฝ่ายต่างก็เมามายไม่ได้สติเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น เพราะสำหรับชีวิตแต่งงานของพวกเขาแล้วหนทางไปต่อมันมองไม่เห็น ไม่มี รู้เพียงแค่อีกเจ็ดเดือนข้างหน้าก็จะได้หย่าขาดเป็นอิสระจากพันธะที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตั้งขึ้นมาเขาตั้งใจว่าจะคุยกับเธอให้รู้เรื่องเสียวันนี้ แต่เธอกลับหลบหน้าไม่พูดไม่จา ...ผ่านไปประมาณสองวันหลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้นเขาก็ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องนี้กับเมริสาอีกเลย เพราะดูเหมือนเธอจะจงใจหลบหน้า ไม่พูดไม่จาและไม่มาให้เขาพบเจอ ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็กลับมานอนบ้านทุกคืน เมริสารู้ดีว่าเขาจะกลับจากทำงานช่วงประมาณหกโมงเย็นและเข้านอนไม่เกินสี่ทุ่มเธอจึงเล่นกลับเอาเที่ยงคืนเพื่อเลี่ยงที่จะไม่ได้เจอะเจอหน้ากัน "เม" แต่คราวนี้เขาซัด

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 16

    แสงแดดสีทองสดใสยามรุ่งอรุณสาดส่องกระทบกระจกบานใหญ่ทะลุเข้ามาด้านใน ตกลงบริเวณปลายเตียงนุ่มโดนเท้าเล็ก ๆ ที่โผล่พ้นผ้านวมผืนใหญ่ออกมาได้รับความร้อนระอุจนต้องรีบขดกลับขึ้นไป แล้วขยุกขยิกตัวไปมาเล็กน้อย แต่ก็พริ้มตาหลับตาเพราะอาการหนักอึ้งจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ยังคงหน่วงอยู่ในศีรษะบวกกับอาการเหนื่อยล้าด้วยกิจกรรมรักอันเร่าร้อนที่เพิ่งจบลงเมื่อตอนตีสามกว่าฝ่ามือนุ่มนิ่มของเมริสาพาดขึ้นมาวางบนหน้าท้องที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อลอนเรียงมัดเป็นกลม ก้อนใหญ่ราวกับขนมปัง ใบหน้านอนซบอยู่บนอกอกแกร่งกำยำ มีผ้านวมสีขาวผืนหนาปกปิดเรือนร่างเปลือยเปล่าเอาไว้ไม่ให้ดูอนาจารจนเกินไป ถึงแม้เมื่อคืนมันจะผ่านการสัมผัสจากริมฝีปากหยักมาแล้วทุกจุดก็ตาม..."อื้อ..." ส่วนธนาธิป นอนหงาย ส่งแขนแกร่งข้างหนึ่งโอบรอบร่างบางเอาไว้อย่างรักใคร่ พริ้มตาหลับเข้าสู่ภวังค์นิทราเพราะความเหนื่อยล้าเต็มที เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยรอยคิสมาร์กที่อีกฝ่ายทำเอาไว้มากมาย"ฮือ..." เมื่อเริ่มรู้สึกตัว หัวคิ้วก็ขมวดเข้าหากันโดยอัติโนมัติเพราะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาดไปจากทุก ๆ วัน ทำไมวันนี้หมอนในห้องเธอถึงได้แข็งโป๊ก! ท

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 15

    อ้าว! คราวนี้แม่งหลอกด่ากูจริง ๆ ไอ้สัส คือกูสามารถโกรธคนเมาได้ไหมวะ? "เอ้าา โช้นนนนนนน" เมริสาชูแก้วไวน์ขึ้นแล้วเลื่อนลงมากระดกเข้าปาก "กินดิ คออ่อนเหรองายยย ห๊า" ธนาธิปยินคำสบประมาทเช่นนั้นก็ยอมความไม่ได้ ยกแก้วไวน์ของตนขึ้นมากระดกเข้าปากแข่งกับเมริสาจนผ่านไปขวดที่เท่าไรต่อเท่าไรแล้วก็ไม่รู้...รู้สึกตัวอีกทีตอนที่ศีรษะมันหนักอึ้ง ดวงตาพร่ามัว เดินโซซัดโซเซคล้ายกับบ้านหมุน ส่วนเมริสาเองก็ไม่ได้ต่างกัน เผลอ ๆ อาการหนักกว่าเขาด้วยซ้ำ "เม ลุกขึ้นไปนอนบนห้องดิ้" "อื้อ! เสือกรายยยอะ" เมริสาที่กำลังนอนฟุบอยู่บนอกแกร่งกำยำของธนาธิปแหงนหน้าขึ้นไปสบถถ้อยคำหยาบโดนใส่หน้าเขา "เมมม ปายยยนอนดีดี ดิ้" ธนาธิปดึงแขนเรียวยาวของเมริสาขึ้นมาพาดบ่า ก่อนจะพากันเดินโซซัดโซเซขึ้นไปชั้นบนของบ้าน "อยากจะเมาห๊ายยลืมเธอ ลืมความรักที่แสนห่วย วู้วววว ความร๊ากกกกก" เมริสาแหกปากร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีตลอดทาง เขาก็ต้องรับภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงแบกร่างของเธอขึ้นไปจนถึงด้านบนให้จนได้! ภาระกูชัด ๆ ! เขาหลอกด่าอยู่ในใจโดยไม่ได้ออกเสียงออกมา ไม่เช่นนั้นเมริสาที่กำลังอยู่ในสภาพเมามายหัวราน้ำแบบนี้คงตบหัวเขาเข้าสักผ

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 14

    เอาจริง ตอนนี้เขาไม่รู้จะอึ้งกับอะไรก่อนดี ระหว่างมุมมองแปลกใหม่ในตัวเมริสาที่เขาไม่เคยได้สัมผัส เช่น การสบถถ้อยคำหยาบโลนออกมา หรือ เรื่องราวในอดีตที่เธอเคยพบเจอมา… เขาเคยคิดว่าชีวิตตัวเองโคตรเพอร์เฟ็กต์ที่สุด แต่พอได้มาทำความรู้สึกกับเมริสาเธอกลับเลยในสิ่งที่เขามี เขาเป็นขึ้นไปในอีกระดับหนึ่งที่เขาหรือแม้กระทั่งคนอื่น ๆ ก็คงถีบตัวเองขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ยาก…เมริสาเรียนจบจากต่างประเทศด้วยปริญญาสองใบ มีคุณพ่อคุณแม่ที่ทั้งรัก ทั้งเข้าใจ หวงแหวน และตามใจเธอทุกอย่าง ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะยากเย็นแค่ไหนพวกเขาก็พร้อมซัพพอร์ตหากเป็นความต้องการของลูกสาว ทรัพย์สินเงินทองไม่ต้องพูดถึง ตระกูลนั้นร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ลำพังเพียงหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่ถืออยู่ของบริษัทดังระดับโลกซึ่งตั้งอยู่ ณ ประเทศอังกฤษก็เฉลี่ยเดือนละหลายร้อยล้าน และที่สำคัญเธอไม่ต้องทำการทำการอะไรสักอย่าง ลอยชายช็อปปิ้งไปวัน ๆลูกคุณหนูสัส ๆ แต่เขาเพิ่งรู้ก็วันนี้ว่าอดีตเธอโคตรแย่ เจอกับความสัมพันธ์เหี้ย ๆ เหตุผลในการบอกเลิกแบบคนเห็นแก่ตัว จนกระทั่งคิดจะฆ่าตัวตาย หากในวันนั้นคุณอาทั้งสองขึ้นไปไม่ทัน ก็คงไม่มีเมริสามานั่ง

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 13

    ปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่าจะเจ็บแค่ครั้งนี้ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายจะไม่เสียเวลากับผู้หญิงพรรค์นั้นอีก... ไอ้เรื่องโกหกนอกใจมันไม่ควรมีอยู่แล้วในชีวิตคู่ แต่นี่ถึงขั้นนอกกาย เขาแม่งโคตรรับไม่ได้และที่สำคัญพิรญาไม่ได้นอกกายเขาด้วยการไปนอนกับผู้ชายแค่คนเดียวแต่เป็นผู้ชายมากหน้าหลายตาไม่ซ้ำราย ยิ่งกว่านั้นหนึ่งในชู้รักคือเพื่อนสนิทของเขา...พอกันที! ชายหนุ่มสูดลมเข้าปอดลึก ๆ แม้ในใจจะยังรู้สึกเจ็บกับความผิดหวังที่เพิ่งไปเจอมาไม่หาย เพราะบาดแผลมันยังสดและคงจะใช้เวลาสักพักกว่าจะหายดี อาจเป็นเดือน เป็นปี ไม่สามารถคาดเดาได้ บางทีอาจมีใครสักคนที่เข้ามาทำให้แผลเขาสมานเร็วกว่าเดิมก็ได้ ธนาธิปนั่งกินข้าวต้มกุ้งที่เมริสาซื้อให้จนหมดเกลี้ยง ก่อนจะขึ้นไปบนห้องนอนเพื่ออาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดการเก็บพวกรูปภาพรวมถึงสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพิรญาเก็บใส่ในกล่องจนหมดก่อนจะเดินกลับลงด้านล่าง "เฟื่อง เอากล่องนี้ไปเผาทิ้งอย่าให้เหลือซาก" ตัดบัวไม่ให้เหลือใย ตัดใจจากผู้หญิงแบบนั้นก็จงตัดให้ขาดอย่าให้เหลือแม้แต่ความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน..."ค่ะคุณธัน" เฟื่องไม่ได้ละลาบละล้วงเรื่องของเจ้านายจนเกินหน

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 12

    ส่วนภาพที่เหลือก็เป็นภาพของพิรญาที่กำลังนัวเนียกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าเลยสักรูปเดียว วินาทีนั้นหยาดน้ำอุ่นคล่อหน่วยจนทัศนวิสัยพร่ามัวแล้วค่อย ๆ เอ่อทะลักพร่างพรูออกมาอาบสองพวงแก้มอย่างยากเกินกว่าจะกัดฟันขมกลั้นเอาไว้ไหว หมดสิ้นแล้ว...เขารู้สึกเหมือนแม่ง ไม่เหลืออะไรสักอย่างไม่มีแรงแม้กระทั่งพิมพ์ข้อความถามออกไปด้วยซ้ำว่าเจ้าของแอ็กเคานต์มีจุดประสงค์อะไร ตอนนี้ร่างกายเขามันอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรงแม้แต่หายใจยังโรยริน...ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกคอพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ฝืนทนกล้ำกลืนรับเอาความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายยัดเยียดให้ไม่ไหวเพราะมันรุนแรงทรมานเหลือเกินราวกับถูกควักหัวใจออกมาบีบเล่นให้แหลกละเอียดคามือ เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าชีวิตรักของผู้ชายที่โคตรเพอร์เฟคทั้งหน้าตา รูปร่าง ฐานะ ครอบครัว หน้าที่การงาน อย่างเขาจะต้องเจอกับเหตุการณ์โคตรผิดหวังแบบนี้ ที่ผ่านมาเขาทั้งรัก ทั้งไว้เนื้อเชื่อใจและทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อผู้หญิงคนนั้น แต่ท้ายสุดแล้วกลับต้องมารู้ความจริงว่าเธอตอบแทนเขาด้วยการโกหกหลอกลวงและหักหลังแทงข้างหลังเขาอย่างเลือดเย็น ประโยคที่ว่า 'กูคบกับมันเพราะกูต้องการให้ตัวเองสุขสบายเนาะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status