Share

บทที่ 240

Penulis: อี้ซัวเยียนอวี่
แม้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนจะสั่งให้ดึงลูกธนู แม้ว่าบาดแผลจะอยู่บนตัวนาง หมอหลวงกลับรอฟังคำสั่งของฮ่องเต้

สีหน้าของเซียวอวี้เยือกเย็นจนขีดสุด เขาพยักหน้าในทันที

“ดึงออก”

เมื่อมีคำอนุญาตจากเขา หมอหลวงจึงอาศัยมุมและกำลังที่แม่นยำ ดึงลูกธนูดอกนั้นออกมา

เฟิ่งจิ่วเหยียนกำผ้าห่มใต้ร่างไว้แน่น ได้ยินแค่เสียงร้องอู้อี้เท่านั้น กลับไม่มีเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดใด ๆ

เม็ดเหงื่อราวกับเมล็ดถั่วนั้น ทำให้เส้นผมตรงขมับของนางเปียกชุ่ม

ต่อมาหมอหลวงเริ่มตรวจดูที่ลูกธนูหัวโลหะดอกนั้น หลังจากนั้นมือไม้ของเขาเริ่มสั่น และเอ่ยกับเซียวอวี้ว่า

“ฝ่าบาท ตรงตามที่กระหม่อมคาดการณ์ไว้จริง ๆ ด้านบนนี้มีพิษ!”

“เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตหรือไม่” เซียวอวี้ถามในขณะที่ยืนอยู่

หมอหลวงตอบว่า: “โชคดีที่ดึงมันออกมาได้เร็ว ฮองเฮาทรงยังไม่เป็นอะไรร้ายแรง”

หลังจากพูดจบ หมอหลวงรีบทำการรักษาบาดแผลทันที

เซียวอวี้ยืนอยู่ข้างเตียงตลอดเวลา เฝ้ามองด้วยสายตาหม่นหมอง

หมอหลวงตัดอาภรณ์ด้านหลังของเฟิ่งจิ่วเหยียนให้ขาด เขาจะต้องใช้ยาน้ำพิเศษเฉาะล้างหลาย ๆ รอบ เพื่อขับพิษที่ซึมอยู่ในบาดแผล จากนั้นค่อยโรยผงยาลงไป พร้อมทั้งพันผ้าปิดบาดแ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
ลุ้นว่าฮองเฮาจะได้หนีออกจากวังไหม
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 241

    หนิงเฟยรีบคุกเข่าลงบนพื้นในทันที ใบหน้ายังคงแสดงสีหน้าตื่นตระหนกตกใจออกมาไทเฮาหาได้มีท่าทีใจดีเหมือนเดิมไม่ พระนางเพียงนั่งอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้าที่แสดงท่าทีเคร่งขรึมลง“เจ้าอธิบายออกมาเสีย เรื่องราวในคืนนี้ เจ้ามีส่วนรู้เห็นมากน้อยเพียงใด!”หนิงเฟยที่คิดอยากปฏิเสธออกมานั้น“ท่านป้า ข้ามิได้...”ไทเฮาพลันเอ่ยตัดบทนาง“เมื่อมีข่าวลือขึ้นมาเช่นนี้ ข้ากลับรู้สึกว่าผิดปกติยิ่งนัก“ต่างพากันกล่าวว่าฮองเฮาและอดีตองค์รัชทายาทไร้ความสามารถผู้นั้น พบหน้ากันที่ตำหนักฉือหนิงทั้งยังรื้อฟื้นความสัมพันธ์เก่า ๆ ขึ้นมาอีก วันนั้นยามที่อดีตองค์รัชทายาทขอเข้าเฝ้าข้า ข้าได้สั่งไว้มิให้เขาเข้าพบ ทั้งยังสั่งให้คนไล่เขากลับไป ทว่า ไยเขาเอาแต่รั้งรออยู่ด้านนอกอยู่ตลอดเวลา! หากเขารีบกลับไปละก็ เขาจักได้พบกับฮองเฮาหรือไม่เล่า?”“หลังจากที่ข้าคบคิดเรื่องนี้อยู่นาน ผู้ที่สามารถยื่นมือเข้าไปสอดเรื่องราวในตำหนักฉือหนิงได้นั้น มีเพียงเจ้าเท่านั้น! เป็นเจ้าที่ปลอมแปลงคำสั่งของข้าออกไป”หนิงเฟยพลันรีบร้อนแก้ตัวพลันวัน “ท่านป้า ข้า ...”“อย่าริสอดปากพูดขึ้นมา! ข้ายังพูดไม่จบ!”“เดิมทีข้าคิดว่าเจ้าคงไม่พอใจฮ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 242

    เหลียนซวงมิรู้ว่า นางควรจักรายงานเรื่องที่ฮองเฮาฟื้นขึ้นมาแล้วดีหรือไม่นับว่าโชคดีที่ คนภายในฉากกั้นด้านในเอ่ยขึ้นมาพอดี “ฝ่าบาทเพคะ... หม่อมฉันเพิ่งฟื้นเพคะ”หลังจากที่เซียวอวี้ได้ยินเสียงนั้น เขาก็ยกมือขึ้นแหวกม่านฉากกั้นขึ้นมาเรียวนิ้วที่จับม่านนั้น ทำให้เกิดรอยยับอย่างชัดเจนดวงตาทั้งคู่พลันสบตากัน เมื่อเห็นสตรีที่อ่อนแออยู่ตรงหน้านั้น นิ้วมือจึงเผลอลงแรงเข้าไปอีก“พักผ่อนเสีย”นอกจากน้ำเสียงเย็นชาที่เอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วงนั้น เขาหาได้มีคำพูดอื่นไม่เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงทำลายสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจนี้ พร้อมทั้งพยายามที่จะลุกขึ้นมานั่งเซียวอวี้ขมวดคิ้วเป็นปมเล็กน้อย ก่อนจะก้าวไปข้างหน้า ทั้งยังยื่นมือเข้ามาช่วยประคองที่เอวของนางอีกเซียวอวี้จึงมิรู้ว่าตนเองเผลอไปสัมผัสโดนแผลเก่าของนางเข้าแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงสูดลมหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ พร้อมหยุดอยู่ที่เดิมเซียวอวี้ที่สังเกตเห็นท่าทีผิดปกติของนางนั้น จึงเอ่ยถามออกมา “เป็นอะไรไป?”ท่าทีของเซียวอวี้ที่มีต่อนาง มิค่อยมีความอดทนเท่าใดเช่นตอนนี้นัก“ไม่มีอันใดเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายหัวไปมาเบา ๆ ภายในใจได้แต่ลอบกลอกตามอง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 243

    ไทเฮาที่มักจะเอ็นดูและมีเมตตานั้น หากนางมิถูกหนิงเฟยบีบบังคับเช่นนี้ นางย่อมมิมาทางลงมืออย่างแน่นอนนางจ้องมองไปที่หนิงเฟย ฝ่ามือพลันเกิดอาการด้านชา ภายในใจนึกรู้สึกอึดอัดยิ่งนัก“เจ้า...ซิ่วหว่าน! ข้าสั่งให้เจ้าระมัดระวังวาจากิริยามารยาทบัดเดี๋ยวนี้ เจ้าในยามนี้ช่าง...ช่างทำให้ข้านึกผิดหวังยิ่งนัก!”“คำพูดไม่กี่คำของจิ้งกุ้ยเหรินนั้น กลับทำให้เจ้าสิ้นสติไปเช่นนี้ เจ้าคิดว่านางหวังดีกับเจ้ามากงั้นหรือ?”“นางมองออกว่าเจ้าหาได้เหมือนหรงเฟยไม่ มิมีทางได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ทั้งยังสามารถบีบบังคับได้ง่าย ถึงได้พยายามประคองเจ้าขึ้นสู่บัลลังก์นั้น”“หากนางให้กำเนิดพระโอรสออกมาเมื่อใด แม้เจ้าจักได้ตำแหน่งนั้น เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าก็จักต้องถูกเตะลงมาอยู่ดี! เจ้าเข้าใจหรือไม่!”เมื่อถูกไทเฮากระชากสติกลับมาเช่นนี้ หนิงเฟยจึงค่อย ๆ ได้สติกลับมานางเอามือกุมใบหน้าอีกข้างเอาไว้ ทั้งพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเอง“ท่านป้าพูดถูก เป็นความผิดของข้าเอง”หลังจากออกจากตำหนักฉือหนิงแล้ว ภายในใจของหนิงเฟยก็ยังรู้สึกว้าวุ่นไม่หายยามที่ฝ่าบาทยังเป็นเพียงองค์ชายนั้น ฮ่องเต้องค์ก่อนก็มีความคิดจะมอบนาง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 244

    ไทฮองไทเฮาเสด็จมาถึงตำหนักหย่งเหอด้วยขบวนอลังการสง่างามเป็นอย่างยิ่งผู้ดูแลซุนหมัวมัวเป็นผู้รับผิดชอบพาพระนางเดินเข้ามายังตำหนักในเมื่อเข้ามานั้น พลันเห็นฮ่องเต้นั่งอยู่ข้างโต๊ะ สายตาเอาแต่จับจ้องไปที่เตียงนอน ยามที่นางกำนัลสาวใช้กำลังป้อนยาให้กับฮองเฮาพระองค์เอาแต่มุ่งความสนใจไปที่ฮองเฮามากจนเกินไป แม้แต่พระนางที่มีศักดิ์เป็นถึงเสด็จย่ามาเยือนเช่นนี้ เขาหาได้รู้สึกถึงการมาของนางไม่จนกระทั่งหลิวซื่อเหลียงเอ่ยทำความเคารพขึ้นมา“บ่าวเข้าเฝ้าไทฮองไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวอวี้ถึงได้รู้สึกตัว พร้อมทั้งลุกขึ้นให้การต้อนรับ“เสด็จย่า”น้ำเสียงของเขาแหบแห้ง เสมือนกับว่าเป็นไข้เจ็บคอไทฮองไทเฮารู้สึกเป็นห่วงหลายชายของตนเองยิ่งนัก“ฝ่าบาท เมื่อคืนเจ้าจัดการเรื่องนักฆ่าแล้ว คงมิได้พักผ่อนเลยกระมัง”“ฮองเฮามีคนคอยดูแลมากมายเช่นนี้ เจ้าก็กลับไปพักผ่อนเสียหน่อยเถิด”สีหน้าเซียวอวี้เฉยเมย ราวกับว่าเขามิได้สนใจสิ่งใด“เราเพียงแค่แวะมาดูเท่านั้น กำลังจะออกไปพอดี”ไทฮองไทเฮาพยักหน้าลงเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองดูผู้ที่นอนอยู่บนเตียง“หมอหลวงกล่าวเช่นไร?”“เพียงตกใจ”“แค่ตกใจจริงหรือ?” น้ำเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 245

    “ช่วย”กลับกันหากมีบุคคลที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่ตกอยู่ในอันตรายละก็ นางจักต้องยื่นมือออกไปช่วยแน่นอนจากนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเอ่ยขึ้นมาอีกว่า “ช่วยในขอบเขตที่หม่อมฉันพอจะช่วยเหลือได้เพคะ”อาจารย์หญิงมักจะกล่าวกับนางเสมอว่า ชีวิตของนางย่อมเป็นของตัวเองก่อนเซียวอวี้เพียงสนใจคำของนางว่า “ช่วย” เขามิอาจบอกได้เลยว่าเขารู้สึกอย่างไรในยามนี้หลิงเยี่ยนเอ๋อร์เองก็เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขาเช่นกัน ทั้งยังยินยอมมอบทั้งหัวใจและวิญญาณให้กับเขา และยังยอมลดอายุขัยเพื่อเขาอีกหากเปรียบเทียบกันแล้ว สิ่งที่ฮองเฮาทำมีเพียงแค่ช่วยแก้พิษวารีสวรรค์และเอาตัวมาบังลูกธนูเท่านั้น หาได้มากเท่ากับสิ่งที่หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ทำให้เขาตลอดสี่ปีที่ผ่านมาไม่ทว่า หัวใจของเขา กลับสั่นไหวเพราะฮองเฮาอาจเป็นเพราะหลิงเยี่ยนเอ๋อร์มอบทุกอย่างให้กับเขา แต่ก็ได้รับหลาย ๆ อย่างจากเขาเช่นกันแต่ ฮองเฮาไม่เคย...ทว่าความอ่อนโยนในนัยน์ตาของเซียวอวี้กลับถูกความเย็นชาเข้ามาบดบังอีกครั้งผู้ใดจักไปรู้กัน ว่าฮองเฮามิมีสิ่งที่ตัวเองต้องการ มิใช่การถอยเพื่อรับหลายวันที่ผ่านมานั้นเขาเอาแต่คิดมากทุกครั้งที่เขานึกถึงงานเลี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 246

    เซียวอวี้ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้ามืดมน ใบหน้าราวกับถูกปกคลุมไปด้วยแสงจันทร์ยามเหมันตฤดูที่หนาวเหน็บ ทั้งยังคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความผิดของฮองเฮาทันใดนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนที่มีกำลังภายในอันเข้มข้นจึงได้รับรู้การมีอยู่ของเซียวอวี้ได้ในทันทีทั้งคู่พลันสบตากัน เฟิ่งจิ่วเหยียนคล้ายกับเห็นความรังเกียจฉายอยู่ในดวงตาของเขา...เหลียนซวงเองก็มองตามสายตาของฮองเฮาไป เมื่อเห็นว่าเป็นฮ่องเต้นั้น นางจึงรีบร้อนหยิบเสื้อตัวนอกที่วางเอาไว้บนเตียงขึ้นมาคลุมร่างของฮองเฮาในทันทีเหลียนซวงราวกับลืมไปว่า การที่ฝ่าบาทมองสตรีของตนเองนั้นเป็นเรื่องที่สมควรกระทำนับว่าโชคดีที่ในยามนี้แผลมีผ้าพันเอาไว้อยู่“เข้าเฝ้าฝ่าบาทเพคะ”เหลียนซวงรีบออกมาทำความเคารพในทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงได้แต่แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยตนเอง นั่นจึงทำให้นางหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บที่หลังไปอย่างเสียไม่ได้ แต่นางก็ได้แต่ต้องอดทนเอาไว้เซียวอวี้เอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“วันนี้ฮองเฮายังคงมีไข้สูงอยู่หรือไม่”เหลียนซวงก้มหน้าตอบกลับ “เพ เพคะ”เหลียนซวงมีท่าทีตื่นเต้นเล็กน้อยมิรู้เลยว่าฝ่าบาทมาถึงเมื่อใดนับ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 247

    “ทั้งสำนักหมอหลวงไปตรวจโรค?” ไทเฮาทรงตกตะลึงไปครู่หนึ่งโดยปกติแล้ว หากในวังหลวงมีคนป่วยนั้น มักจะใช้หมองหลวงประมาณสองคนผลัดกันเข้าเวรมาตรวจดูอาการเท่านั้น หากว่าให้หมอหลวงทั้งสำนักมาทำการตรวจนั้น ถือเป็นโอกาสที่หาได้ยากเป็นอย่างยิ่งอาการป่วยของฮองเฮาสาหัสเพียงนั้นเลยหรือ?กุ้ยหมัวมัวพลันโค้งกายคำนับ “ไทเฮาเพคะ หม่อมฉันเดาว่าฝ่าบาทคงคาดเดาได้ว่าฮองเฮาแสร้งประชวรเพคะ”ไทเฮาพลันเลิกคิ้วขึ้น“หากเป็นเช่นนั้น ก็อาจจะเป็นไปได้”ทว่า ค่ายกลล้อมจับนี้นับว่าใหญ่นักหากฮองเฮาแสร้งป่วยจริง ๆ แล้วไซร้ เรื่องราวทุกอย่างย่อมกระจ่างแจ้งขึ้น เช่นนั้นนางจะเอาหน้าไปไว้ที่ใดกัน?ตำหนักฟางเฟยน้ำเสียงของชิวหงเผยให้เห็นท่าทีสะใจขึ้นมา“กุ้ยเหรินเพคะ หากหมอหลวงในสำนักหมอหลวงมาวินิจฉัยเช่นนี้ ฮองเฮาแสร้งป่วยหรือไม่นั้น อีกไม่นานคงได้รู้กันแล้ว”มู่หรงฉานที่กำลังเป็นกังวลเกี่ยวกับข่าวคราวของพี่ชายตนเองนั้น ใบหน้าพลันเจือไปด้วยความวิตกกังวล ทว่า หลังจากที่ได้ยินชิวหงเอ่ยขึ้นมานั้น ใบหน้าของนางจึงเจือไปด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า หากฮองเฮาหลอกลวงฝ่าบาทขึ้นมาจริง ๆ ละก็ เช่นนั้นนางต้องโทษอย่างรุนแรง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 248

    ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันฉายแววความห่างเหินออกมาแม้ว่าหมอหลวงจักมิได้กล่าวความจริงออกมา ทว่า เซียวอวี้ก็คงมองออกว่านางแสร้งป่วยเช่นนี้นางคงมิอาจแสร้งป่วยต่อไปได้อีก ทั้งยังมิอาจใช้โอกาสนี้หาข้ออ้างหลบออกจากวังหลวงไปได้อีกแล้วในยามนี้ นางคงต้องคิดหาทางอื่นอย่างแรกต้องติดต่ออู้ไป๋ให้ได้เสียก่อน ต้องนำยาแสร้งตายมาให้ได้ทว่า การคุ้มกันภายในวังหลวงแน่นหนายิ่งนัก นี่ถือว่าเป็นปัญหาอันใหญ่หลวงอีกด้านหนึ่งเซียวอวี้มองออกว่าอาการไข้สูงของฮองเฮานั้นเป็นนางที่เสแสร้งออกมา ทว่า ก็มิมีหมอหลวงคนใดสักคนออกมากล่าวความจริงในเรื่องนี้หากแต่ยามนี้ภารกิจของแว่นแคว้นมีมากมายนัก เขามิอาจหาเวลามาคิดเรื่องเล็กเรื่องน้อยเช่นนี้กับนางได้การแสร้งป่วยเช่นนี้นับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ว่าจะคิดเช่นไรนางก็แค่หาวิธีเรียกร้องความสนใจจากเขาเท่านั้นเห็นแก่ที่นางเอาตัวรับลูกธนูให้เขานั้น เขาจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้ ทว่า ก็มิคิดให้อภัยนางในเรื่องนี้เช่นเดียวกันหลังจากวันนั้น เซียวอวี้ก็มิได้มาเยือนที่ตำหนักหย่งเหออีกนางสนมเจียและนางสนมเจียงทั้งสองคนที่มักจะมาเยี่ยมเยียนบ่อย ๆนางสนมเจียพลันกล่าวว่

Bab terbaru

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1218

    องค์ชายเจ็ดทรงนำทัพออกศึกแล้ว ยามดึกเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าไปค้นหาที่จวนขององค์ชาย ก็ไม่มีองครักษ์เฝ้าอยู่มากนักค้นหาติดต่อกันสามคืนแล้ว ก็ยังไม่มีเบาะแสใดเลยพวกอู๋ไป๋ก็ไปค้นหาที่จวนขององค์ชายองค์อื่น ๆ ทว่าก็ไม่มีข่าวดีเช่นเดียวกันทางด้านวังหลวงจนถึงตอนนี้ก็ยังสืบหาไม่พบสถานที่ที่เหมาะสมกับการคุมขังคนหยิ่นลิ่วไปสืบหาในจวนองค์ชายสี่ ก็แอบได้ยินองค์ชายสี่ทรงเอ่ยตัดพ้อกับที่ปรึกษา“เสด็จพ่อทรงโปรดปรานน้องเจ็ด ข้าจะแย่งชิงได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้ยังมีฮ่องเต้ฉีคอยแนะนำข้า ตอนนี้แม้แต่จะพบฮ่องเต้ฉีก็ยังไม่อาจทำได้เลย!”หยิ่นลิ่วจับจุดสำคัญนี้ได้ จึงรีบกลับไปที่โรงพักแรมเพื่อทูลรายงาน“ฮองเฮา มิต้องสงสัยเลยว่า องค์ชายสี่ผู้นี้จะต้องทราบว่าฝ่าบาททรงถูกขังอยู่ที่ใด!”เมื่อเทียบกับหยิ่นลิ่ว เฟิ่งจิ่วเหยียนใจเย็นยิ่งกว่านางต้องการยืนยันอีกครั้ง “องค์ชายสี่ทรงเอ่ยคำพูดเช่นนี้จริงหรือ”หยิ่นลิ่วมั่นใจอย่างยิ่งอู๋ไป๋เริ่มรู้สึกร้อนใจ“นายท่าน ข้าน้อยจะไปจับตัวองค์ชายสี่ และสอบสวนอย่างลับ ๆ !”ด้วยการทรมานอย่างหนัก องค์ชายสี่แห่งเป่ยเยี่ยนไม่มีทางที่จะไม่บอกความจริงเฟิ่งจิ่วเหยียนยกม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1217

    ช่วงเริ่มต้นของปีใหม่ กองทัพเยี่ยนเคลื่อนเข้ามาใกล้ชายแดน เหล่าทหารมีจิตใจที่ฮึกเหิม ใช้การยึดคืนเมืองที่เสียไปเป็นเป้าหมาย และแย่งกรูกันเข้าไปทางเมืองชายแดนของหนานฉีองค์ชายเจ็ดของเป่ยเยี่ยนได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่ ควบคุมทั้งสามกองทัพในการรบครั้งนี้ ฮ่องเต้เยี่ยนทรงคาดหวังต่อเขาอย่างมาก ก่อนออกรบทรงตักเตือนและกำชับไว้มากมาย“เจ้าเจ็ด หากชนะสงครามครั้งนี้ ตำแหน่งว่าที่จักรพรรดิ ก็ต้องเป็นเจ้าเพียงผู้เดียว! เหล่าพี่น้องของเจ้าก็จะยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งเช่นกัน!”องค์ชายเจ็ดพยักหน้าอย่างนอบน้อม“กระหม่อมจะไม่ทำให้เสด็จพ่อผิดหวัง”ฮ่องเต้เยี่ยนมองบุตรชายด้วยความพึงพอใจ ในบรรดาเหล่าองค์ชายที่เหลืออยู่ มีเพียงองค์ชายเจ็ดที่มีลักษณะของความเป็นจักรพรรดิมากที่สุดองค์ชายสี่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน มองดูฉากเหตุการณ์นั้นด้วยสายตาอันคมกริบฮ่องเต้ฉีเอ่ยไว้ถูกต้องจริง ๆ เสด็จพ่อดีต่อน้องเจ็ดเหลือเกิน!ขอเพียงทหารสามารถรบชนะ ไม่ว่าใครจะเป็นแม่ทัพใหญ่ ก็จะได้รับความดีความชอบไปด้วยชัดเจนว่าเสด็จพ่อทรงให้โอกาสกับน้องเจ็ดแล้วเขาเล่า? เขาเป็นองค์ชายสี่นะ?เหตุใดเสด็จพ่อทรงมองไม่เห็นเข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1216

    อาจือถูกส่งเข้าวังมาตั้งแต่เล็ก และคอยรับใช้ข้างกายองค์หญิงเซี่ยนอี๋ที่จริงนางถือกำเนิดในตระกูลที่มีฐานะและชื่อเสียง ทว่าคนในตระกูลทำผิด จึงกลายมาอยู่ในสถานะต่ำต้อยอาจือคอยติดตามรับใช้องค์หญิง ทว่ากลับมองตนเองว่าพิเศษกว่าคนทั่วไปอาจารย์สอนศาสตร์ความรู้ต่าง ๆ ให้กับองค์หญิง ไม่ว่าทำอย่างไรองค์หญิงก็ทรงร่ำเรียนไม่สำเร็จ ส่วนนางเรียนรู้ไม่นานก็ทำได้หมัวมัวในวังก็มักจะมองนางด้วยความเสียดาย---อาจือ หากเจ้าไม่อยู่ในสถานะต่ำต้อย ก็คงมีชื่อเสียงรุ่งโรจน์กว่าองค์หญิงเป็นแน่ทว่า คนที่อยู่ในสถานการณ์มักจะมองไม่เห็นภาพรวมชัดเจนอาจือฉลาดก็จริง ทว่าไม่ถือว่าฉลาดถึงขั้นสุดเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอย่างเซียวอวี้ จึงกลายเป็นคนฉลาดเพียงเล็กน้อยคนที่มีทักษะครึ่ง ๆ กลาง ๆ กลับมั่นใจเกินไป เหมือนกับคนที่ว่ายน้ำเป็นกลับจมน้ำอาจือก็มีจุดอ่อนที่อันตรายถึงแก่ชีวิตเช่นกันนางเข้าใจว่าตนเองพูดไม่กี่คำ ก็สามารถได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ฉีแล้ว กลับไม่รู้ว่า อีกฝ่ายวางแผนลวงไว้ตั้งแต่แรกแล้วเมื่อมองจักรพรรดิรูปงามที่อยู่เบื้องหน้า ในใจอาจือเริ่มว้าวุ่นเมื่อใจเริ่มว้าวุ่น แม้จะมีความฉลาดอยู่เล็กน้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1215

    ณ เป่ยเยี่ยนจวนขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ได้รับพระราชทานแล้ว นางไม่อาจทนรอได้อีกต่อไปจึงย้ายเข้าไปในเรือนหลังใหม่มิใช่ว่าองค์หญิงทุกพระองค์จะสามารถเปิดจวนได้ นี่เป็นความโปรดปรานที่เสด็จพ่อมีต่อนางเป็นพิเศษและสิ่งที่นางยินดีเป็นอย่างยิ่งคือ ฮ่องเต้ฉีก็ถูกส่งมาที่จวนของนางด้วยเช่นกันถึงแม้เสด็จพ่อจะส่งคนมาคุ้มกัน ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าออกห้องลับที่คุมขังฮ่องเต้ฉีตามอำเภอใจ ทว่า นี่คือจวนของนาง นางย่อมต้องหาโอกาสได้จากคุกลับมาที่จวนองค์หญิง เซียวอวี้ถูกคนคลุมศีรษะมาตลอดทางบวกกับเป็นเวลาค่ำคืน ก็ยิ่งไม่มีผู้ใดรู้องค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกมาต้อนรับด้วยพระองค์เอง โดยยืนรออยู่ที่หน้าประตูห้องลับ ราวกับเชื้อเชิญให้เข้ามาติดกับ และยิ่งเหมือนนายพรานที่สร้างกรงขัง กำลังมองดูเหยื่อเดินเข้ามาในกรงด้วยความพอใจขณะที่เซียวอวี้เดินผ่านตัวนาง นางก็เอ่ยอย่างอารมณ์ดี“ฮ่องเต้ฉี พวกเรายังมีอนาคตร่วมกันอีกยาวไกล”เซียวอวี้มีท่าทีเย็นชา ไม่แสดงสีหน้าเป็นมิตรแม้แต่น้อยทว่านางก็ชอบท่าทางดื้อรั้นเช่นนี้ของเขาและว่ากันตามตรง ห้องลับก็ดูสะอาดกว่าคุกลับองค์หญิงเซี่ยนอี๋ทรงเกเรเอาแต่ใจ ทว่าก็มีความจริงใจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1214

    เฉินจี๋ได้รับการช่วยเหลือจากนายพรานผู้หนึ่ง ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรง กระทั่งตอนนี้ก็ยังหมดสติอยู่นี่จึงไม่น่าแปลกใจที่เขายังไม่ปรากฏตัว ที่แท้เป็นเพราะร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้นายพรานรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับคณะรู้จักกับเฉินจี๋ จึงรู้สึกโล่งใจ“ข้าลำบากใจจริง ๆ เพราะคิดว่านี่คือชีวิตคนคนหนึ่ง จึงไม่อาจทอดทิ้งได้ ทว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ข้าก็ต้องใช้เงิน...”ไม่รอให้นายพรานพูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งสัญญาณให้อู๋ไป๋นำเงินให้อู๋ไป๋ถนัดการจัดการเรื่องต่าง ๆ สักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับนายพราน และเอ่ยขอบคุณอย่างสนิทสนม“พี่ชาย ขอบคุณจริง ๆ ที่เจ้าช่วยสหายข้าไว้! เงินเล็กน้อยนี้ไม่พอจะทดแทนคำขอบคุณได้! ใช่แล้ว เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่า เจอสหายข้าที่ใด แล้วเขาได้รับบาดเจ็บอย่างไร? และเจอคนที่น่าสงสัยคนอื่นหรือไม่?“เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่อยากรู้ให้ชัดเจน ว่าผู้ใดทำร้ายสหายข้า บาปมีคนก่อหนี้ย่อมมีเจ้าหนี้”คำพูดของอู๋ไป๋ ล้วนเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของคนนายพรานลองคิดทบทวนอย่างละเอียดรอบหนึ่ง“ข้าช่วยเขาตรงริมแม่น้ำ ตอนนั้นไม่พบผู้อื่น ขอโทษจริง ๆ ที่ข้าช่วยพวกท่านไม่ได้”“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1213

    ปลายเดือนสิบสอง ปีใหม่ใกล้เข้ามาเส้นทางมุ่งหน้าไปทางเหนือเต็มไปด้วยน้ำแข็ง การเดินทางนั้นยากลำบากเฟิ่งจิ่วเหยียนในช่วงอยู่ไฟมิได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ตอนนี้ยังต้องเดินทางท่ามกลางพายุหิมะอีก จึงมักจะปวดเมื่อยเอว และเหงื่อออกมากอยู่บ่อย ๆในช่วงกลางคืนเข้านอน ก็มักรู้สึกเย็นที่ไหล่ และหนาวอย่างรุนแรงอู๋ไป๋เห็นสีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก จึงเตือนนาง“นายท่าน ไม่สู้ให้หมอมาตรวจดูบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบร้อนจะตามหาคน จึงไม่อยากล่าช้าครั้งนี้อู๋ไป๋ยืนหยัดอย่างเต็มที่“นายท่าน ต่อให้ท่านไม่คำนึงถึงตนเอง ก็ควรนึกถึงฝ่าบาท หากท่านเจ็บป่วย จะยิ่งไม่ล่าช้ามากกว่าหรอกหรือ?”เขาเอ่ยเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเริ่มลังเลก็จริงหากนางเจ็บป่วยจนลุกไม่ขึ้น ก็จะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปตรงชายแดนหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ไปที่สำนักการแพทย์แห่งหนึ่งหลังจากหมอจับชีพจรของนาง ก็เอาแต่ส่ายหัว“ฮูหยินท่านนี้ ท่านมีภาวะร่างกายไม่สมดุลหลังคลอด จึงเป็นต้นเหตุเกิดโรคเรื้อรัง“อาการปวดตามข้อเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ฝนหิมะรุนแรง แน่นอนว่าย่อมไม่สบายตัว“ในยามปกติรู้สึกว่าไม่เป็นไร ทนหน่อยก็ผ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1212

    บนบัลลังก์มังกร เซียวถงเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของจักรพรรดิ “เรารับพระราชโองการจากเสด็จอา มาทำหน้าที่รักษาการแทนตำแหน่งฮ่องเต้ชั่วคราว ทุกท่านมีเรื่องใดก็เสนอได้”เหล่าขุนนางในราชสำนักมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงบางคนถึงกับสงสัยว่าเซียวถงแย่งชิงบัลลังก์ทว่าคิดดูอีกที ฮองเฮาทรงมีทักษะเพียงนั้น ผู้ใดจะกล้าแย่งชิงบัลลังก์?ณ วังหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกอาวรณ์อย่างยิ่งที่จะกล่าวอำลาต่อบุตรทั้งสองพวกเขายังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้าขณะหลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ นางจุมพิตบนหน้าผากของพวกเขา หัวใจราวกับถูกบีบเข้าหากันสาวใช้หว่านชิวรู้สึกเศร้าใจ “ฮองเฮา จักต้องเสด็จไปให้ได้หรือเพคะ?”ฮองเฮาทรงตัดใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นการไปของนางครั้งนี้ จะมีชีวิตอยู่หรือตายยังไม่แน่นอนการพาบุตรทั้งสองคนไปด้วย หนึ่งจะเป็นภาระให้กับนาง สองอาจจะนำภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตมาให้พวกเขาการแยกจากบุตร ย่อมต้องทุกข์ใจอยู่แล้ว ทว่าหากให้นางกับลูกรออยู่ในวัง และทนทรมานกับการรอฟังข่าว นางยิ่งไม่ยินยอม“ฮองเฮา หนิงเฟยมาถึงแล้วเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบปรับอารมณ์ทันที และเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1211

    ที่ดินที่โซ่วอ๋องได้รับมอบไม่ถือว่าไกลจากเมืองหลวงมากนัก หลังจากได้รับคำสั่งจากฮองเฮา ซื่อจื่อเซียวถงก็ออกเดินทางภายในวันเดียวกันห้าวันต่อมา เซียวถงก็มาถึงพระราชวัง และตรงไปยังห้องทรงพระอักษรเพื่อเข้าเฝ้าครั้งล่าสุดที่เขามาเมืองหลวง ก็คือเมื่อสามปีก่อน ช่วงที่เกิดความวุ่นวายในวิหารบรรพบุรุษ เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากฮ่องเต้ ให้ขึ้นครองบัลลังก์ชั่วคราว เพื่อหลอกลวงพรรคเทียนหลงกับกองทัพศัตรูให้สับสนในตอนนั้นเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พระราชโองการพินัยกรรมของฝ่าบาท ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นว่าที่จักรพรรดิครั้งนี้ฮองเฮาทรงเรียกเขามา ไม่รู้ว่ามาเพราะเรื่องใดทว่าก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับพระราชโองการพินัยกรรมก่อนที่เขาจะมาเมืองหลวง ท่านพ่อก็ยังเตือนเขาว่า ตอนนี้ฮองเฮาทรงประสูติองค์ชายแล้ว เช่นนั้นเขาที่เคยเป็นคนที่อ้างถึงในพระราชโองการพินัยกรรม ก็เท่ากับเป็นตัวขัดขวางขององค์ชายดังนั้น การมาเมืองหลวงครั้งนี้ ก็เสี่ยงอันตรายอย่างมากในใจของเซียวถงเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่ง ไม่ถือตัวไม่ถ่อมตนเกินพอดีแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสนใจตำแหน่งฮ่องเต้ แล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1210

    วันต่อมา องค์หญิงเซี่ยนอี๋เสด็จมาพบองค์ชายสี่ด้วยพระองค์เององค์ชายสี่ทรงยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น“แขนของน้องหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?”องค์หญิงเซี่ยนอี๋โมโหจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่“เหตุใดเสด็จพี่ต้องขัดขวางข้า!”รอยยิ้มขององค์ชายสี่เลือนหายไป และตอบอย่างมีเหตุมีผล“เซี่ยนอี๋ ข้าคิดว่าเจ้าแค่พาลไร้เหตุผล นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะโง่เขลาเพียงนี้ เจ้าคิดได้อย่างไรที่จะวางยาผู้อื่น แล้วบังคับขืนใจเขา?“หากเจ้าพลีกายให้กับฮ่องเต้ฉี แล้วจะให้ข้าทูลเสด็จพ่ออย่างไร?“คืนก่อนเจ้าเกือบจะแขนหักไปข้างหนึ่ง ก็น่าจะจำเป็นบทเรียนได้แล้วกระมัง”เซี่ยนอี๋รู้ตัวว่าทำผิดทว่าเรื่องที่นางยังทำไม่เสร็จสิ้น จะไม่ยอมแพ้และเลิกล้มเช่นนี้“หากข้าได้เป็นฮองเฮาของหนานฉี หนานฉีก็จะไม่เล่นงานเป่ยเยี่ยนอีก นี่ไม่ดีหรอกหรือ?”องค์ชายสี่แย้มพระสรวล“เซี่ยนอี๋ หากเสด็จพ่อได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า เกรงว่าจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก“การเกี่ยวดองของสองแคว้น เดิมทีไม่อาจหยุดยั้งความโหดเหี้ยมของหนานฉีได้“เจ้าจะทำให้ตนเองเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ และถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ“บุรุษดี ๆ ในเป่ยเยี่ยนของเรามีมากมาย เหตุใดเจ้าต

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status