เสียวอู่มองหยวนจั้นตรงหน้า ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความสงสัย“ฮองเฮาฉี? คือใคร?”สายตาหยวนจั้นเฉียบคม“เจ้าหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกข้าไม่ได้“เมื่อคืนฮองเฮาฉีซุ่มโจมตีไม่สำเร็จ วันนี้เลยเปลี่ยนกลอุบายใหม่“บอกมา เจ้าคิดจะทำอะไร!”เสียวอู่กัดฟันกรอด“เจ้านี่ระแวงไปหมด ท่านปู่ของเจ้าก็บอกแล้วว่า ข้าเป็นลูกชายของท่านป้าใหญ่ของเจ้า เจ้าไม่เชื่อแม้แต่คำพูดของท่านปู่ตัวเองหรือ?”เอาท่านปู่ออกมาอ้าง ยังไงก็ไม่ผิดแน่และก็จริงอย่างคาด หยวนจั้นลังเลขึ้นมาคนที่เขาเคารพที่สุด ก็คือท่านปู่เสียวอู่ดันเขาออก หยักคิ้วเอ่ยถาม“ยังจะเดินต่อไหม? ถ้าเจ้าไม่พาข้าไป ข้าจะไปหาคนอื่นแทนก็ได้ อย่างเช่นญาติผู้น้องอีกคนของข้า…”“หยวนตั๋วอายุมากกว่าเจ้า ควรเรียกเขาว่าพี่ชาย”เสียวอู่โบกมืออย่างไม่ใส่ใจ“ไม่ต่างกัน อย่างไรข้าก็ไม่คิดที่จะอยู่ในจวนหยวนนี้นาน รอท่านปู่คืนสิ่งของท่านแม่ให้ข้าเมื่อไหร่ ข้าก็จะไป กลับไปยังภูเขาอู๋หยาของข้า”นี่เป็นครั้งแรกที่หยวนจั้นได้ยินชื่อภูเขาอู๋หยาทว่า เขาไม่มีเวลามาสนใจญาติผู้พี่คนนี้“จวนหยวนกว้างแค่นี้เอง เจ้าจะเดินดู เรียกใช้พวกบ่าวก็ได้”เสียวอู่รีบขวางทางเขา
หว่างคิ้วชายหนุ่มปรากฏความประหลาดเขารีบปิดประตูหน้าต่าง ก่อนหันมากำชับภรรยาด้วยเสียงเข้ม“ฮูหยิน พูดมากไปมักจะพลาด”ฮูหยินนั่วสะสมความคับแค้นใจมานานเกินไป คิดเพียงอยากระบายออกมานางหัวเราะเยือกเย็น“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก็เพราะเรื่องนี้ ท่านพ่อทำเย็นชากับเราสองสามีภรรยา อย่ามองว่าเขาไม่พูด แต่เขาโทษท่านที่ทำให้พี่หญิงใหญ่ต้องตาย! ไม่อย่างนั้น ทำไมเขาไม่ช่วยให้ท่านได้ก้าวหน้า ไม่ช่วยให้ท่านได้เข้าสู่งานราชการ?“ตอนนี้ก็มีเสียวอู่โผล่มาอีกคน“ไม่ว่าเขาจะเป็นลูกชายของพี่หญิงใหญ่จริงหรือไม่ เขาก็ไม่ควรมาปรากฏตัว!”ชายหนุ่มอธิบายอย่างไม่มีความต้องการใด ๆ“ท่านพ่อไม่ช่วยข้า เพราะข้ามีความรู้ความสามารถตื้นเขิน ไม่เกี่ยวกับเรื่องของพี่หญิงใหญ่ ท่านมิใช่คนใจแคบเช่นนั้น“ตอนนั้นที่ส่งพี่หญิงใหญ่ไปยังแคว้นหนานฉี ท่านพ่อก็เห็นด้วย”ฮูหยินนั่วขมวดคิ้ว“ท่านลืมไปแล้วหรือ ตอนนั้นที่ท่านพ่อตกลง แต่มีข้อแม้คือ พวกท่านต้องรับประกันความปลอดภัยของพี่หญิงใหญ่ ไม่ว่าจะลอบฆ่าฮ่องเต้ฉีได้สำเร็จหรือไม่ ก็ต้องพานางกลับมาอย่างปลอดภัย!”ฝ่ายชายถึงกับพูดไม่ออกเขามองตาของภรรยา ฉายแววสำนึกผิด“ล้วนเป
“แม่ทัพ! วันนี้ท่านผู้เฒ่าให้ท่านกลับจวนเร็วหน่อยขอรับ!”หยวนจั้นถูกคำพูดของผู้ติดตามดึงกลับมาจากภวังค์เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย“ท่านปู่บอกหรือไม่ว่า มีเรื่องอะไร?”ท่านปู่เคยดำรงตำแหน่งมหาเสนาบดี ปัจจุบันวางมือนานแล้วในแต่ละวัน ท่านมักนั่งสมาธิภาวนา สงบจิตใจมีเรื่องอะไรกันแน่ ที่ทำให้ท่านปู่ถึงกับต้องเร่งร้อนขนาดนี้?สองชั่วยามต่อมาหยวนจั้นออกเวร กลับถึงจวนหยวนข้ารับใช้เตรียมพร้อมอยู่แล้ว จูงม้าของหยวนจั้นไป พร้อมพูดเตือน “คุณชายรอง ท่านผู้เฒ่าให้ท่านไปพบเขาโดยตรงเลยขอรับ”ท่านผู้เฒ่าหยวนพักอยู่ที่เรือนหลักของจวนเมื่อหยวนจั้นไปถึง ก็เห็นว่ามีหลายคนนั่งอยู่ในห้องโถงส่วนหน้ารวมถึงแม่ของเขา ยังมีท่านป้ากับลุงเขยจากเรือนตะวันตกท่านปู่นั่งอยู่ตรงที่นั่งหลัก ด้านขวามือมีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ชายหนุ่มคนนั้น เขาไม่รู้จักดูท่าทางก็ไม่น่าจะเป็นผู้คุ้มกันของจวน“ท่านปู่” หยวนจั้นโค้งคำนับท่านผู้เฒ่าท่านผู้เฒ่าลูบเครา แลดูไม่รู้ว่ากำลังโกรธหรือยินดี“นั่งเถอะ”จากนั้นเขาก็กวาดตามองคนที่นั่งอยู่“หยวนตั๋วล่ะ?”ฮูหยินนั่วพยักหน้า “ท่านพ่อ หยวนตั๋วได้รับบาดเจ็บสาหัสตอ
เสียวอู่เดินตามท่านผู้เฒ่าอย่างระวังทุกฝีก้าวจู่ ๆ คนด้านหน้าก็หยุดก้าวเท้า ขณะยังหันหลังให้เขา ก็ถามด้วยน้ำเสียงเบา“ในเมื่อแค่ต้องการสิ่งของของแม่เจ้า ไม่คิดอยากกลับมาตระกูลหยวน เหตุใดคืนก่อนหนีไปแล้ว แต่วันนี้ยังกลับมาอีกเล่า?”เขาสามารถนำเอาสิ่งของแล้วหนีไปได้เลยเสียวอู่ถูกถามอย่างไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้ ฝ่ามือเริ่มเปียกชื้นก็มิใช่เพราะว่า เดิมทีแล้วเขามิใช่นักฆ่าของคืนก่อนอย่างไรเล่า!ทว่าเขาบอกความจริงไม่ได้อย่างแน่นอนเสียวอู่เอ่ยอย่างจริงจัง“คืนก่อนข้านำภาพวาดออกไป ก็เกือบถูกคนจับได้ ไฉนเลยจะมีเวลาไปขโมยของอย่างอื่น“ภายหลังย้อนกลับมาคิดดู การที่ข้านำสิ่งของของท่านแม่ข้าไป ก็เป็นเรื่องที่ชอบธรรม ครั้งนี้จึงเป็นฝ่ายมาขอพบที่จวนด้วยตัวเอง”ท่านผู้เฒ่าหยวนมิได้ถามต่อเสียวอู่จ้องมองแผ่นหลังของเขา มองไม่เห็นความรู้สึกบนใบหน้าชัดเจนมิรู้เช่นกันว่าท่านผู้เฒ่าเชื่อหรือไม่......ในโรงพักแรมแห่งหนึ่งในเมืองเฟิ่งจิ่วเหยียนดูแลเซียวอวี้ด้วยตนเองร่างกายของเซียวอวี้ร้อนขึ้นเป็นครั้งคราว แต่ละครั้งจะนานต่อเนื่องหนึ่งเค่อไปจนถึงหนึ่งชั่วยามตอนนี้เป็นปลายเดือนเก้า อากาศเ
เสียวอู่เผชิญหน้ากับคนมากมายเพียงนี้ แต่กลับไม่หวาดกลัวเขาถึงขั้นใช้นิ้วมือดันกระบี่ที่ใกล้ที่สุดออกไป แล้วเอ่ยกับท่านผู้เฒ่าหยวน“ข้ามิได้คิดจะลอบสังหาร คืนก่อน ข้าแอบเข้ามาในจวนตระกูลหยวน เพื่อมาตามหาญาติ”ท่านผู้เฒ่าหยวนยังคงมีสีหน้าเคร่งขรึม“หาญาติอะไรกัน?“พ่อหนุ่ม นี่คือจวนตระกูลหยวน ผู้ใดคือญาติของเจ้า?”เสียวอู่หยิบภาพวาดของหยวนซีออกมาจากในอกเสื้อ“ก็คือนาง”เมื่อเห็นภาพนี้ สีหน้าของท่านผู้เฒ่าหยวนเปลี่ยนไปอย่างมาก“ภาพนี้ มาจากที่ใด?!”เสียวอู่เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา“คืนก่อนข้าขโมยไปจากจวนตระกูลหยวน”ภายใต้เส้นผมสีขาวของท่านผู้เฒ่าหยวน สีหน้ากลับเจือด้วยความโศกเศร้า“เจ้าพูดว่า คนที่เจ้ามาตามหาคือนาง? นางเป็นอะไรกับเจ้า?”เสียวอู่ยกภาพขึ้นมาข้างใบหน้าตน“พวกเราคล้ายกันมาก ใช่หรือไม่?“นางก็คือมารดาของข้า”“เหลวไหล!” ท่านผู้เฒ่าหยวนตวาดใส่อย่างดุดันเรื่องนี้เหลวไหลยิ่งนักนักฆ่าผู้หนึ่ง ขโมยภาพของซีเอ๋อร์ไป แล้วอาศัยใบหน้านั้น บอกว่าเขาเป็นบุตรของซีเอ๋อร์?แม้เขาจะคิดถึงบุตรสาวเพียงใด ก็จะไม่ยอมรับหลานชายอย่างง่าย ๆ“พาเขาออกไป!”เสียวอู่เอ่ยขึ้นมาทันที: “
ในเมื่อตัดสินใจจะให้เสียวอู่ไปที่จวนตระกูลหยวน เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ปิดบังเขา พร้อมเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟังเสียวอู่ฟังที่มาที่ไปทั้งหมดจนจบ ก็ใช้เวลานานมากกว่าจะเรียกสติกลับมาได้เขาหยิบภาพของมารดาที่พกติดตัวออกมา แล้วถามอย่างไร้เดียงสา“ดังนั้น...นี่ก็มิใช่แม่ของข้า?”เซียวอวี้: โง่เพียงนี้ ต้องมิใช่คนในตระกูลเซียวของเขาแน่พอนึกย้อนดูอีกที คนในตระกูลเซียวที่โง่เขลายังมีน้อยหรือ?เซียวม่อก็คือหนึ่งในนั้นเพื่อตำแหน่งฮ่องเต้ จึงสมรู้ร่วมคิดกับแคว้นศัตรู แม้กระทั่งชีวิตก็ยอมเสี่ยงเฟิ่งจิ่วเหยียนถามเสียวอู่อย่างจริงจังเป็นพิเศษ“เจ้าเต็มใจจะไปจวนตระกูลหยวนหรือไม่?”เสียวอู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าอย่างหนักแน่น“ข้าก็อยากสืบหาให้แน่ชัดว่า คนผู้นั้นเป็นมารดาของข้าจริงหรือไม่! และข้าก็ยิ่งอยากจะจับตัวหยวนตั๋วให้ได้ เพื่อช่วยถอนพิษให้ศิษย์พี่!”เซียวอวี้เตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ดูแลตัวเองให้ดีเถอะ”เสียวอู่ฉีกยิ้มกว้าง: “ศิษย์พี่ หากท่านเป็นพี่ชายของข้าจริง นั่นคงจะดีมาก!”เขาโตมาคนเดียวตั้งแต่เล็กถึงแม้อาจารย์และเหล่าศิษย์พี่จะดีกับเขามาก แต่ทุกคนก็มิใช่ญาติที่แท