LOGIN
[1]
คู่กัด
- เจ็ดปีที่แล้ว -
“กรี๊ดดด!!!”
เสียงกรีดร้องดังมาจากห้องหอรอรักของพ่อเลี้ยงวัยเลยหนุ่ม ก่อนจะตามมาด้วยเสียงฝีเท้าอีกสิบกว่าคู่ที่วิ่งกรูมาออยังหน้าห้องดังกล่าว ความตื่นตกใจเกิดขึ้นในหัวใจของทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์นั้น
ปัง!
ประตูห้องหอเปิดผางออกอย่างเร็วแรงด้วยแรงกระแทกจากบาทาของบุรุษมาดเข้มหนึ่งในนั้น
“หนูเปล่านะ! หนูเปล่า...ฮึกๆ เขาจะปล้ำหนู ฮือ...”
น้ำเสียงอู้อี้เจือน้ำมูกน้ำตาดังเล็ดลอดออกมาจากปากเจ้าสาววัยกระเตาะที่กำลังขวัญเสีย หล่อนนั่งอยู่ข้างเตียง เข่ามนงอขึ้นชิดอก ผมเผ้าหลุดลุ่ยรุงรัง แม้แต่ชุดเจ้าสาวก็ขาดวิ่นเผยให้เห็นผิวเนื้อขาวใสในวัยขบเผาะ
บนเตียงกว้างปรากฏร่างอ้วนกลมของเจ้าบ่าวนอนคว่ำอยู่ ใบหน้าอวบอูมจมอยู่กับฟูกหนาที่โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ
“คุณลุง!” บุรุษหนุ่มร่างสูงใหญ่ ขานเรียกบิดาของเพื่อนรักด้วยความตกใจอย่างที่สุด ใจเต้นระรัวด้วยกลัวว่าสิ่งที่คิดไว้จะเป็นเรื่องจริง
“เสี่ย!” เสียงเรียกเสี่ยวัยดึกเจ้าบ่าวผู้โชคร้ายดังระงมไปทั่วห้องหอ บรรดาญาติๆ และเพื่อนสนิทต่างกรูเข้ามาห้อมล้อมร่างที่ไร้ลมหายใจของท่าน บ้างก็ช่วยปั๊มหัวใจ บ้างก็ช่วยผายปอด ด้วยพวกเขารู้ดีว่าเสี่ยมีโรคประจำตัว แต่มันสายไปแล้ว เสี่ยสูงวัยสิ้นใจในวันเข้าหอโดยที่ท่านยังไม่ได้เชยชมเจ้าสาวอย่างที่ใจปรารถนา
“หนูเปล่านะ! หนูเปล่า เขาจะปล้ำหนู ฮึกๆ แล้วเขาก็เจ็บหน้าอก แล้ว...เขาก็ฟุบไปเลย หนูไม่ได้ทำอะไร...นะ ฮือ...” เจ้าสาวค่อนคืนละล่ำละลักบอก ใบหน้าชุ่มฉ่ำด้วยหยาดน้ำตา แววหวาดกลัวยังเจืออยู่ในดวงตาอันไร้เดียงสา
“สวมเสื้อก่อนนะ เอ้าพี่ให้” นายเหมืองหนุ่มว่าแล้วก็ถอดเสื้อสูทของตนให้เจ้าสาวที่น่าสงสาร เมฆา ไม่รู้ว่าเหตุใดสาวน้อยวัยสิบเจ็ดอย่าง ชมจันทร์ ต้องมาแต่งงานกับคนแก่คราวพ่อ มิหนำซ้ำสามีก็มาสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตาในวันเข้าหออีก น่าเวทนานัก แล้วตอนนี้เพื่อนรักของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง ทัศเทพ ผิดหวังและเสียใจอย่างที่สุดเมื่อบิดาแต่งงานใหม่กับสาวคราวลูก ทั้งสองทะเลาะกันบ้านแทบแตก สุดท้ายก็หนีหน้าหายไป หากทัศเทพรู้เรื่องเข้าคงใจสลาย เพราะแม้แต่คำขอโทษ นายนั่นก็ไม่มีโอกาสได้เอ่ยกับบิดาอีกแล้ว
ปัจจุบัน...
ณ คฤหาสน์เทพมณี
“ส้มๆ ไปปลุกคุณเทพซิเร็วเข้า วันนี้ฉันมีประชุมเช้านะเนี่ย ตาบ้าเอ๊ย! จะนอนกินบ้านกินเมืองเลยหรือไง ฮึ่ม!”
ชมจันทร์ เทพมณี ร้องสั่งสาวใช้ ใบหน้าสวยงอหงิกขัดใจเมื่อเจ้าของบริษัทยังนอนอุตุอยู่บนที่นอน ขณะที่ แม่เลี้ยง คนนี้ต้องรีบตื่นมาชงกาแฟให้ เหตุเพราะใครชงให้ก็ไม่ถูกใจเขา
“สงสัยคงได้ช้อนวิเศษคนละมั้งถึงไม่ยอมใช้คนอื่น ว่าแล้วก็คนมันสักนิดแล้วกัน คุณลูกเลี้ยง” ชมจันทร์พูดเองเออเองกับถ้วยกาแฟ เธอจิ้มนิ้วชี้ลงไปในถ้วยกาแฟตามที่ใจคิดเพื่อจะพบว่ามัน...
“โอ๊ย ซวยฉิบ! ทำไมวันนี้มันร้อนวะ ทุกทีแค่อุ่นๆ สงสัยน้ำจะเดือดมากไป โอยๆ เดี๋ยวนิ้วเรียวๆ ของฉันพองพอดี หึๆ แต่ก็สะใจพิลึก อยากใช้ฉันดีนัก แม่ไม่บ้วนน้ำลายใส่ก็บุญหัวแล้ว ตาปีศาจจอมหื่นเอ๊ย”
ชมจันทร์บ่นๆๆ ให้ลูกเลี้ยงที่อายุมากกว่าตนอยู่หลายปี ตั้งแต่บิดาของทัศเทพสิ้นลมในวันเข้าหอ เธอก็ต้องติดอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ในฐานะแม่เลี้ยง แน่นอนว่าเธอยินยอมพร้อมใจอย่างยิ่งยวด ที่อยู่ที่กินสุขสบาย มีเงินใช้ ได้เรียนหนังสือ จบมาก็มีงานทำ ที่สำคัญไม่ต้องกลับไปอยู่บ้านที่พ่อแม่อยากจะจับเธอใส่ตะกร้าล้างน้ำแล้วเอาไปประเคนให้อาเสี่ยคนอื่น เธอเบื่อและรังเกียจหากมันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ถ้าไม่เพราะบุญคุณของบิดามารดาท่วมหัว จ้างให้เจ็ดปีก่อนเธอก็ไม่ยอมแต่งงานกับบิดาของทัศเทพหรอก
“ชมจันทร์! เธอว่าใครห๊ะ! แล้วนั่นอะไร ซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง”
ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้ม หล่อเหลา ในชุดสูทสีดำพอดีตัวเอื้อมมือไปควานหาบางอย่างที่ด้านหลังแม่เลี้ยงสาว เจ้าหล่อนซ่อนช้อนพิเศษที่ใช้คนกาแฟให้เขาเอาไว้ตรงนั้น เขาแอบมาเงียบๆ เลยได้เห็นอะไรดีๆ
“ปะเปล่าอย่ามาหาเรื่องนะ ถอยออกไปเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวกลิ่น ผู้ชายป้ายเหลือง มันจะติดฉัน!” ตวาดแหวผลักเขาออกห่าง แต่ชายหนุ่มก็ไวทายาทคว้าเอามือข้างเจ้าปัญหามาพิจารณาได้ทันท่วงที
“ปากดี! เมื่อกี้เธอใช้อะไร คนกาแฟ ห๊ะ!?”
ทัศเทพ เทพมณี ถามเสียงขุ่น ดึงนิ้วชี้ของชมจันทร์มาจ่อใกล้ๆ จมูก กลิ่นหอมของกาแฟที่เพิ่งบดจากเครื่องใหม่ๆ ยังกรุ่นออกมาจากซอกเล็บสะอาดสีชมพูอ่อน
“ถามได้ ก็ช้อนน่ะสิ” ตอบแบบไม่ต้องคิดเพราะท่องจำจนขึ้นใจทุกเช้า ตาโง่เอ๊ย ฉันใช้นิ้วชี้คนกาแฟให้นายมาตั้งชาติหนึ่งแล้ว เพิ่งจะมาสงสัย เหอะๆ รู้จักชมจันทร์น้อยไปซะแล้ว
“แน่ใจ!?” ถามเสียงสูง หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างแคลงใจ เขาดึงนิ้วเรียวเข้ามาใกล้อีกนิด เพื่อพิสูจน์กลิ่นอีกครั้ง ชัดเลย! ยัยนี่เอานิ้วชี้คนกาแฟ
ชมจันทร์พยักหน้า ขืนตัวออกห่าง แต่เขากลับดึงเธอเข้าไปแนบชิด ให้ตายเถอะ เดี๋ยวคนใช้มาเห็นได้นินทาเจ้านายกันสนุกล่ะ
“งั้นฉันขอพิสูจน์”
เขาไม่พูดเปล่า แต่ไล้ลิ้นเรียวตวัดปลายนิ้วชี้ของแม่เลี้ยงสาว แทะเล็มและดูดดึงจนชมจันทร์ร้อนวูบวาบถึงปลายเท้า
“คะ...คุณเทพ ปล่อยนะ...ดะ...เดี๋ยวนี้” เธอร้องขอเสียงสั่นเมื่อความวาบหวิวปั่นป่วนวิ่งวนในช่องท้อง ทัศเทพขบเม้มปลายนิ้วของเธอราวกับมันอร่อยนักหนา แถมมือข้างที่ว่างก็ยังไล้วนบนท่อนขาของเธอด้วย
“เธอโกหก ต้องโดนลงโทษ” เขาว่าแล้วก็ปล่อยมือหล่อน มือข้างนั้นเกี่ยวเอาท้ายทอยระหงให้เข้ามาใกล้ บังคับใบหน้างามให้แหงนเงยเพื่อรอรับจุมพิตร้อนๆ
ชมจันทร์ดิ้นขลุกขลัก เธอทำได้เพียงเท่านั้นเมื่อเขาพันธนาการร่างเธอไว้ด้วยท่อนแขนแข็งแกร่งและรสแห่งจุมพิตอันซาบซ่าน
“อย่านะ!”
แม่เลี้ยงสาวร้องบอกเมื่อปากเป็นอิสระ แต่ไม่อาจยุติฝ่ามือแกร่งที่วางอยู่ตรงท้ายทอย ฝ่ามือร้อนลากไล้เลื่อนต่ำลงไปถึงแนวขอบกระโปรง ก่อนจะดึงทึ้งเสื้อเชิ้ตตัวในของเธอออกแล้วรุกรานเข้าไปสัมผัสเนื้อในอย่างอุกอาจ
ปัง!
มันคือเสียงของลูกเลี้ยงจอมหื่นใช้ปลายเท้าเตะประตูห้องครัวเล็กดังสนั่น เป็นสัญญาณว่าห้ามรบกวนจากคนบุคคลภายนอก บรรดาสาวใช้แตกฮือจากหน้าประตู ต่างนึกสงสัยในใจว่าคุณเทพคงจะมีตาทิพย์กระมังถึงได้รู้ว่าพวกหล่อนแอบดูอยู่ ตอนนี้บ่าวรับใช้จึงได้แต่มองหน้ากันแล้วทำตาปริบๆ เพราะถูกขังจากคนที่อยู่ข้างใน สงสัยต้องอ้อมไปเข้าทางหน้าบ้าน หากอยากดูฉากอันเร่าร้อนของนายทั้งสองต่อ
“คุณเทพ! ฉันบอกให้หยุด!”
ชมจันทร์แหวลั่นเมื่อเขาซุกใบหน้าลงกับทรวงอกอวบอิ่ม มือเรียวจับรวบเส้นผมเขาได้ก็ออกแรงดึงศีรษะเขาอย่างแรง
“โอ๊ย! ทำบ้าอะไรเนี่ย ฉันเจ็บนะ!”
ลูกเลี้ยงจอมหื่นโอดครวญ ชมจันทร์ชักสีหน้าใส่
“สาบานเลยว่าเช้านี้คุณไม่ได้เมา เอาสิ! จะแก้ตัวว่ายังไงคุณเทพที่ลวนลามแม่เลี้ยงของตัวเองห๊ะ!”
ชมจันทร์พยายามเบี่ยงเบนความสนใจ แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่อยากฟัง
ทัศเทพปล้ำจุมพิตแม่เลี้ยงอีกครั้ง แล้วยกร่างหล่อนไปวางบนบาร์เครื่องดื่มซึ่งสูงเท่าหน้าขา กระโปรงผ้านิ่มสีเขียวมะนาวถูกถกขึ้นมากองเหนือสะเอว ชั้นในตัวจิ๋วถูกเขารูดลงพร้อมๆ กับนิ้วร้ายๆ เริ่มปฏิบัติการลงโทษคุณแม่เลี้ยงเหมือนที่เขาได้คาดโทษไว้ล่วงหน้า
“คุณเทพ! ฟังฉันก่อนได้โปรด”
ชมจันทร์วิงวอนเสียงแหบพร่า ไม่อาจห้ามปรามเขาได้ หรือว่าคราวนี้เธอจะชะตาขาด! ต้องตกเป็นเมียลูกเลี้ยงเข้าแล้วจริงๆ
ทัศเทพแทบกระอัก เมื่อความคับแน่นตอดรัดที่ปลายนิ้วเขา โอ...หรือว่าเรื่องที่เพื่อนรักอย่างนายเหมืองเมฆาบอกจะเป็นเรื่องจริง ชมจันทร์แต่งงานกับบิดาเขาแต่ยังไม่ได้ เข้าหอ แต่อย่ากระนั้นเลย หล่อนไม่ใช่สาวสิบเจ็ดอย่างวันวานสักนิด ดีไม่ดีเขาอาจจะเป็นผู้ชายอีกคนที่ช่วยเติมสีสันให้กับชีวิตหล่อนก็ได้
คิดได้ดังนั้นหัวเข็มขัดสีเงินวาววับก็หลุดออกจากรอบเอวสอบ เขารูดซิปลงอย่างรวดเร็วเพื่อจะได้ปลดปล่อยบางอย่างออกมา แต่ทว่า!
ก๊อกๆๆ
“เอ่อ...คุณเทพขา คือ...คือว่านายเหมืองเมฆามาค่ะ”
เสียงกล้าๆ กลัวๆ ของนางจวง แม่บ้านก้นกรุของเสี่ยใหญ่ดังขึ้น ยังผลให้ทัศเทพต้องถอดถอนจุมพิตออกอย่างน่าเสียดาย เขาจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อย ในใจก็บ่นเพื่อนรักกลายๆ ว่าทำไมมาเร็วนัก ยังไม่ถึงเวลานัดด้วยซ้ำ
“ถ้าคราวหน้าเล่นพิเรนทร์อย่างนี้อีก ฉันจะ รีดนมเธอ ด้วยปากของฉัน แล้วเอามันมาใส่กาแฟ!”
เขาขู่เสียงกระเส่า ส่งสายตาโลมเลียไปยังแม่เลี้ยงสาว หล่อนเร่งใส่ชั้นในตัวจิ๋ว มือไม้สั่นระริก
“ปากหมา!” ชมจันทร์ให้พรลูกชาย เธอมีน้ำนมที่ไหนกันเล่า อีตาบ้าเอ๊ย!
“อะไรนะ? ฉันได้ยินนะจันทร์”
“เปล่าๆ เปล่าจ้า แบบว่าจันทร์บอกว่าคุณเทพรีบไปดีกว่า เฮียเมฆคงคอยนานแล้ว” แก้ต่างพลางเร่งติดกระดุมเสื้อ แต่เพราะมือไม้สั่นมันเลยติดผิดๆ ถูกๆ ลูกเลี้ยงอดใจไม่ไหวเลยยื่นมือมาติดให้
“อย่าให้รู้นะว่าแอบด่าฉัน ไม่งั้นฉันจะเฉดหัวเธอออกไปจากบ้านนี้ซะ!”
เขาขู่จริงจัง และแทนที่ติดกระดุมเสร็จจะละมือจากร่างหล่อน เขากลับฝังปลายจมูกคมๆ บนแก้มนวล สูดดมกลิ่นหอมรัญจวนฟอดใหญ่ๆ เป็นของแถม ก่อนจะจากไป
ชมจันทร์มองตามร่างเขาแล้วเศร้าใจนัก สามวันดีสี่วันไล่คือทัศเทพนี่แหละ เขาจะไล่เธอไปอยู่ที่ไหน เขาก็รู้ว่าเธอไม่มีที่ไป ไม่มีจริงๆ
“โธ่เอ๋ย...ชมจันทร์ ถามจริงๆ เถอะ เธออยู่ที่นี่เพราะอะไร!? อยู่เพราะได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยง หรือว่าอยู่เพราะหัวใจตัวเองมันเรียกร้องกันแน่”
แม่เลี้ยงคนงามจับแก้มที่ถูกลูกเลี้ยงดอมดม เธอค่อยๆ ปีนลงจากเคาน์เตอร์บาร์ในใจเฝ้าถามตัวเองซ้ำๆ ว่า เพราะอะไร?
************* นิยายวางขายอีบุ๊กแล้วที่ M*B ปกสีแดงค่ะ ส่วนปกคน จะอัปเดตไฟล์ใหม่แล้วค่อยเปลี่ยนปกทีเดียว ตอนแก้สำนวนเรียบร้อย แก้สำนวนเพียงเล็กน้อย นักอ่านที่อ่านอีบุ๊ก สามารถอัปเดตไฟล์ทีหลังได้ค่ะ
กวินแค่นหัวเราะแล้วหันกลับไปต่อกรกับตาเฒ่าเจ้าเล่ห์พราวพริ้งยืนจังงังอยู่กับที่ นี่นางโดนหลอกอีกแล้วเหรอ ครั้งหนึ่งตาเฒ่าหื่นกามก็ล่อลวงให้นางบำรุงบำเรอความใคร่ให้มัน ตั้งแต่สาวยันอายุปูนนี้ อยากจะเลิกก็เลิกไม่ได้เพราะกลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายเปิดโปงให้ตนเสียหน้าเสียชื่อเสียง พอเวลานี้ กวิน คนที่นางเผลอมีใจให้ ก็โกหกหลอกลวงนางเพื่อ.. เพื่ออะไร!? หรือว่า...แพรวรุ้ง!“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!” กวินร้องบอก หน้าตาดุดัน ตาแก่พุงหนาชักปืนออกมาขู่ มองดูลูกน้องที่ถูกต่อยหมดท่าแล้วให้ขัดใจนัก ไร้ฝีมือจริงๆ“อาลายวะ! พูดกันลีๆ ก็ล่าย ทำไมต้องใช้กำลัง หรือว่าลื้ออยากมีเลื่อง นี่มันผู้หญิงของอั๊ว ลื้อม่ายมีสิทธิ์”“เฮอะ! ผู้หญิงของแก แต่นั่น เมียกูโว้ย!”“ไม่จริง! ไม่จริง! กวินโกหก เธอโกหก! เธอเจอยัยแพรวแค่ตอนไปถ่ายแบบเท่านั้น แถมไปไม่กี่วันยังไม่ทันได้ทำงานด้วยซ้ำก็เลิกกองกลางคัน แล้วยัยแพรวจะไปเป็นเมียเธอได้ยังไง!?”“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคุณหญิง ก็ที่เธอหายไปเพราะผมนี่แหละเป็นคนพาเธอไปเอง โจรกระจอกที่ลักพาตัวแพรวรุ
[13]ปิดฉากเมฆากุมมือบางของภรรยาเอาไว้ เฝ้าดอมดมทั้งจูบจุมพิตฝ่ามือบางครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับการทำเช่นนั้นจะทำให้หล่อนตื่นขึ้นมาพูดคุยกับเขาเช่นเมื่อวานนี้ เกือบสามชั่วโมงแล้วที่เขานั่งอยู่ตรงนี้ คุณหมอบอกว่าไม่เกินชั่วโมงหล่อนคงฟื้น แล้วทำไมผ่านไปตั้งสามชั่วโมง หล่อนยังไม่ลืมตา“วารินทร์ คนขี้เซา ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ เธอยังไม่ได้รดน้ำในแปลงผักเลย วันนี้จะอู้งานใช่ไหม” เมฆาเอ่ยทั้งน้ำตา วันวานที่ผ่านผันแต่ความทรงจำในบางเรื่องยังไม่เลือนหาย เขายังจำได้เมื่อครั้งที่ลักพาตัวศรีภรรยามาจากอกของพี่ชาย ช่างเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่ถ้าถามว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะทำแบบนั้นไหม บอกได้เลยว่า...ทำ เขายอมเป็นคนชั่ว หากว่าวันนี้ได้ครอบครองหัวใจของภรรยา“ปะ...เปล่านะ นายเหมืองจะกลับคำ...ใช่ไหม ไหนบอกว่าจะไม่ใช้แรงงานเมียแล้วไง แค่กๆ”เสียงแหบแห้งของคนป่วยร้องค้าน“วารินทร์...คนดีของนายเหมือง ฟื้นแล้วจริงๆ ผมดีใจเหลือเกิน”นายเหมืองหนุ่มเพียรกดจูบบนใ
“อ๊ะ...กวิน อืม...” แพรวรุ้งส่งเสียงเมื่อเขาเปลี่ยนจากนิ้วร้ายเป็นท่อนลำของความเป็นชายร้อนผ่าว เขาไม่ได้ถอดกางเกงด้วยซ้ำ เพียงแค่รูดซิบลงแล้วควักมันออกมาจากกางเกงชั้นใน เขาพยายามดุนดันแก่นกายร้อนผ่าวเข้ามาในร่างเธอ แต่มันช่างทำได้ยากเย็น“อ๊ะ! กวิน ฉันเจ็บ!”กวินชะงักเมื่อเสียงครางกระเส่าเปลี่ยนเป็นเสียงร้องอย่างเจ็บปวด เขาขยับกายอีกนิดเพื่อจะได้ยกร่างหล่อนขึ้นเหนือท่อนลำอีกหน“ค่อยๆ นั่งทับมัน อย่างนั้นแพรว อย่างนั้น อา....”แพรวรุ้งใบหน้าบิดเหยเก เขาบอกเธอเหมือนเป็นเรื่องง่ายแต่สิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่มันหนักหนาทีเดียว ตอนนี้ลำลึงค์ใหญ่โตสมชายชาตรี มุดเข้าไปในร่างเธอได้เพียงส่วนหัว ส่วนที่เหลือยังค้างเติ่งอยู่อย่างนั้นกวินยกร่างหล่อนขึ้นน้อยๆ แล้วค่อยๆ ปล่อยลงมาช้าๆ ทำอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ กระทั่งความชุ่มฉ่ำนำพาให้ช่องทางสวาทดูดกลืนลำเอ็นขนาดยักษ์จนหมด และมันสามารถลดความเจ็บปวดในการหลอมรวมได้ดีทีเดียว“โอ...ไม่!” แพรวรุ้งร้องเสียงหลงเมื่อเขาช้อนร่างเธอไว้แล้วยกขึ้นลงเป็นจังหวะ ท่อนลำแกร่งกร้าวหา
กวินชะงักเล็กน้อย คุณหญิงเจ้าเล่ห์นัก หนึ่งเดือนมานี้เขาทำทุกวิถีทางที่จะให้พราวพริ้งไว้ใจเขา การร่วมทุนร่วมหุ้นทำฟาร์มไข่มุกที่เกาะมันตรา มันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เกาะมันตรามีจริงเสียเมื่อไหร่กัน ลายเซ็นของนางต่างหากคือสิ่งที่เขาต้องการ เอกสารฉบับล่าสุดที่เขาเอามาให้นางเซ็น มันไม่ใช่เอกสารทางธุรกิจแบบธรรมดา แต่มีใบโอนทรัพย์สินแทรกมาอย่างแนบเนียน มันถูกทำขึ้นจากทีมงานที่เขาไว้ใจมากที่สุด เพื่องานนี้โดยเฉพาะ“โธ่...ไม่ได้ปากหวานสักหน่อย แค่พูดความจริงเท่านั้น ถ้าพี่พริ้งยังไม่เซ็นก็ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้ ยังไงซะ เงินที่จะเอามาใช้ในการทำฟาร์มงวดนี้ มันก็เป็นของพี่พริ้งอยู่ดี” กวินว่า“นั่นก็เงินของเธอด้วย ถ้าฟาร์มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเมื่อไหร่ เธอต้องพาพี่ไปดูนะ พี่อยากรู้จริงๆ ว่าเกาะมันตราจะสวยแค่ไหน” พราวพริ้งทำหน้าเคลิ้มฝัน หารู้ไม่ว่า รูปถ่ายที่กวินเคยให้ดูนั้นมันเป็นสวนหนึ่งของเกาะปันรัก มิใช่เกาะมันตรา“แน่นอนครับ ตอนนี้ก็คืบหน้าไปมากแล้ว บ้านของเราสองคนก็สร้างได้ครึ่งหนึ่งแล้วนะครับ อีกเดือนสองเดือนน่าจะเข้าอยู่ได้เลย ผมไม่ไ
ร่างสวยสูงโปร่งอย่างนางแบบของแพรวรุ้ง เดินนวยนาดลงมาตามขั้นบันได เรียวขายาวขาวสะอาดมันสามารถตรึงสายตาของหนึ่งบุรุษให้จดจ้องแน่วนิ่ง แพรวรุ้งใจเต้นโครมคราม ดวงตาเขาที่จ้องมองมาประหนึ่งจะเปลื้องผ้าเธออย่างไรอย่างนั้น“เอ้า? ยัยแพรวมาพอดี”มารดาผู้แสนดีเอ่ยทักบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานผิดปกติ แพรวรุ้งรับรู้โดยสัญชาตญาณ คุณหญิงพราวพริ้ง มารดาผู้ยังงดงามของเธอ กำลังมีความรัก“แพรวไม่รู้ว่าคุณแม่มีแขก ขอโทษที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยค่ะ”เธอกล่าวขอโทษแต่ไม่ได้คิดจะขึ้นไปเปลี่ยนแต่อย่างใด เดินมานั่งบนโซฟาเดี่ยวตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ในห้องรับแขก แอบปรายตาไปมองกวินอย่างยั่วเย้าอยู่ในที“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ถือ” กวินกล่าวเสียงเรียบเรื่อย จ้องมองวงหน้าเนียนของแพรวรุ้งตาไม่กะพริบ หล่อนดูสดใสอิ่มเอิบผิดหูผิดตา และหล่อนกล้ามากที่หนีออกจากเกาะปันรัก มันน่าโมโหจริงๆ“ขอโทษนะจ๊ะกวิน” พราวพริ้งหันไปขออภัยบุรุษในดวงใจ ก่อนจะหันมาสั่งบุตรสาว “เราก็รีบขึ้นไปเปลี่ยนชุดสิ จะมัวมาขอโทษขอโพยกันทำไม”
[12]เพิ่งเข้าใจ-------------วารินทร์กำลังจัดโต๊ะอาหารค่ำไว้รอนายเหมืองผู้เป็นสามี ร่างอรชรเริ่มอวบอิ่มขึ้นมากเมื่อเธอต้องเร่งอาหารหลักอาหารเสริมเพื่อบำรุงเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในครรภ์ แต่กระนั้น ความน่ารักสดใสของคุณน้องคนงามก็ยังไม่เลือนหายไป“สวัสดีคะพี่วารินทร์ จันทร์มาหาเฮียเมฆค่ะ”วารินทร์ทำหน้าไม่ถูก ด้วยว่าการพบกันครั้งแรก เธอเข้าใจแม่เลี้ยงคนงามผิดไป“สวัสดีค่ะ เอ่อ...นายเหมืองยังไม่กลับเลย คุณ...เอ่อ...น้องจันทร์มาซะค่ำเชียว ทานข้าวด้วยกันนะคะ” ว่าที่คุณแม่เอ่ยชวน แต่ชมจันทร์ตอบกลับมาเพียงรอยยิ้มและยื่นซองเอกสารให้กับนายหญิงแห่งเหมืองวารินทร์“ฝากให้เฮียด้วยนะคะ จันทร์รีบไป ลาเลยก็แล้วกันนะคะพี่ สวัสดีค่ะ” ชมจันทร์ลาพี่สะใภ้ ความอ่อนแอในหัวใจพาให้เธออยากไปให้พ้นๆ จากผู้คน อยากอยู่เงียบๆ อยากนอนร้องไห้ให้สมใจ“เอ้า? จันทร์มาได้ไงมืดค่ำป่านนี้”เมฆาที่เพิ่งเดินขึ้นเรือนมาเอ่ยทักน้องสาวทันที“เฮียเมฆ คือ






![ความลับประธานหม้าย [20+ Soft BDSM]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
