LOGIN[8]
หนูมิวของเฮียก้อง
--------------
คลื่นลูกใหญ่สาดซัดเข้าหาเรือยนต์จนเอนเอียง กวินหน้าถอดสี จู่ๆ ก็มีคลื่นพัดมาตอนที่เขาไม่ทันตั้งตัว มือหนาไขว่คว้าหาที่เกาะ แล้วชั่ววินาที คลื่นลูกใหญ่ก็กลับเงียบหาย ทะเลพลันนิ่งสงบ มันกลับสู่ภาวะก่อนหน้าอีกหน
ชายหนุ่มมึนงงนี่มันคลื่นบ้าบออะไรกัน
‘คลื่นซัดใจ อย่างไรเล่าที่รัก’
นายหัวหนุ่มหันขวับไปตามเสียง มันแผ่วเบาราวเสียงสายลมกระซิบ ทว่าเขาได้ยินชัดเจน นั่นเสียงหล่อน เมษาภรรยาที่รัก เขาไม่เคยรับรู้ว่าหล่อนยังอยู่ใกล้ๆ แม้แต่ตอนที่หล่อนเพิ่งจากไป แต่เมื่อครู่นี้เสียงหล่อนแน่ๆ เขาจำได้
“เพราะคุณ! แพรวรุ้ง! วิญญาณเมียผมถึงไม่สงบ โผล่ขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ แม่ตัวดี! โผล่ขึ้นสิ โผล่ขึ้นมา!”
กวินร้องเสียงดังลั่นทั่วเวิ้งน้ำ แต่มันคงไม่ดังมากพอให้คนที่จมลงสู่เบื้องล่างได้ยิน
“โธ่เว้ย!”
ตูม!
น้ำทะเลแตกกระเซ็นเป็นวงกว้าง ชายหนุ่มพุ่งทะยานสู่เวิ้งน้ำที่กำลังกลืนร่างนางแบบสาว ลมหายใจเขา
หญิงสาวพยักหน้า รู้สึกดีราวกับไม่เคยปวดมาก่อน เธอยิ้มให้เขาแทนคำขอบคุณ แต่สายตาที่มองกลับมาบอกเธอว่าแค่ยิ้มขอบคุณมันไม่พอ“มีน” กวินเรียกบุตรชาย“ค้าบผม”“ไปบอกพี่ขมิ้นหรือพี่แก้วตาก็ได้ ป๊าขอกาแฟแก้วหนึ่ง” บอกลูกชายแต่สองตามองแต่ริมฝีปากสีชมพูซีดๆ ของสตรีตรงหน้า ไม่รู้สิ แม้หล่อนจะดูซีดเซียวแต่เขายังปรารถนาหล่อนเสมอ“ม่ายปาย” หนูน้อยส่ายหน้าดิก กวินเลยหันมามองลูกอีกรอบ“ป๊าง่วง ป๊าอยากกินกาแฟ จะได้มีแรงนวดขมับให้มะมิวไงครับ”คราวนี้มีนานั่งคิดชั่วครู่ ก่อนจะวิ่งออกไปอย่างไว“คราวนี้ก็ได้โอกาสละ” กวินว่า“โอกาสอะไรคะ” เธอท้วงถาม เอียงคอมองพ่อของมีนาอย่างงุนงง แล้ววินาทีเดียวกันนั้นเธอก็ได้รับคำตอบ ริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาประทับลงมาอย่างรีบร้อน ทั้งดูดดึง กวาดชิมและลิ้มรสอย่างเร่งเร้าในอารมณ์ปรารถนา“พะ...พอ พอก่อนค่ะ เดี๋ยวลูกมานะ”“ชู่ว์...ก็เห็นอยู่ว่ายังไม่มา” ว่าแล้วจุมพิตหล่อนอีกครั้ง ทั้งขบเม้มดูดดึงริมฝ
[8]หนูมิวของเฮียก้อง--------------คลื่นลูกใหญ่สาดซัดเข้าหาเรือยนต์จนเอนเอียง กวินหน้าถอดสี จู่ๆ ก็มีคลื่นพัดมาตอนที่เขาไม่ทันตั้งตัว มือหนาไขว่คว้าหาที่เกาะ แล้วชั่ววินาที คลื่นลูกใหญ่ก็กลับเงียบหาย ทะเลพลันนิ่งสงบ มันกลับสู่ภาวะก่อนหน้าอีกหนชายหนุ่มมึนงงนี่มันคลื่นบ้าบออะไรกัน‘คลื่นซัดใจ อย่างไรเล่าที่รัก’นายหัวหนุ่มหันขวับไปตามเสียง มันแผ่วเบาราวเสียงสายลมกระซิบ ทว่าเขาได้ยินชัดเจน นั่นเสียงหล่อน เมษาภรรยาที่รัก เขาไม่เคยรับรู้ว่าหล่อนยังอยู่ใกล้ๆ แม้แต่ตอนที่หล่อนเพิ่งจากไป แต่เมื่อครู่นี้เสียงหล่อนแน่ๆ เขาจำได้“เพราะคุณ! แพรวรุ้ง! วิญญาณเมียผมถึงไม่สงบ โผล่ขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ แม่ตัวดี! โผล่ขึ้นสิ โผล่ขึ้นมา!”กวินร้องเสียงดังลั่นทั่วเวิ้งน้ำ แต่มันคงไม่ดังมากพอให้คนที่จมลงสู่เบื้องล่างได้ยิน“โธ่เว้ย!”ตูม!น้ำทะเลแตกกระเซ็นเป็นวงกว้าง ชายหนุ่มพุ่งทะยานสู่เวิ้งน้ำที่กำลังกลืนร่างนางแบบสาว ลมหายใจเขา
“แก้วตา ฉันชื่อแพรวรุ้งนะ แก้วตาอาจเคยได้ยินชื่อของฉันมาบ้าง ฉันก็แค่นางแบบขี้โมโหคนหนึ่ง เอาแต่ใจก็มากมาย ฉันไม่มีน้ำใจหรือความดีมาตอบแทนแก้วตาหรอก ฉันไม่มีความพยายามมากขนาดนั้น ถ้าวันหนึ่งแก้วตาขัดใจฉัน ฉันอาจจะกรี๊ดใส่หูแก้วตาก็ได้ รับไปเถอะ แก้วตามาดูแลฉันก็เหนื่อยฟรีๆ เจ้านายก็ไม่ใช่ รับไปเถอะนะ ถือซะว่าฉันซื้อเสื้อตัวใหม่ให้ก็แล้วกัน”แก้วตาพยักหน้าหงึกๆ ยกมือขึ้นไหว้ ยอมจำนนต่อวาจาของนางแบบสาว ปากเจ้าหล่อนก็บอกอยู่ปาวๆ ว่าไม่ได้มีน้ำใจเหลือเผื่อแผ่ไว้ให้ใคร แต่การกระทำที่หล่อนแสดงออกมามันไม่ใช่เลยแพรวรุ้งมองตามร่างที่เดินลับหายไปหลังบานประตู เธอเล่นอยู่กับมีนาราวครึ่งชั่วโมงก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ ตอนนี้กวินไม่อยู่ แก้วตาก็ไม่อยู่...ทางสะดวก“มีน...พาน้าแพรวไปหา ‘แม่’ หน่อยสิ น้าแพรวอยากรู้จักแม่ของมีน” เธอหันมาชวนเจ้าหนูจอมแสบที่กำลังนั่งเคี้ยวขนมตุ้ยๆ หนูน้อยตาโตด้วยความดีใจ รีบพาน้าสาวไปยังห้องที่บิดาชอบพาเข้าไป หนูน้อยพาแพรวรุ้งเดินออกจากห้องแล้วเลี้ยวซ้ายตรงหัวมุม เดินตรงไปอีกนิด...บานประตูสีฟ้าต่างจากห้องอื่นๆ
‘ไม่มีวัน! ยัยแพรวมันต้องไปตกนรกเหมือนอย่างที่ฉันเคยเจอ เฮอะ! คิดหรือว่าฉันจะกลัวคำขู่ของแก ก็เอาสิ ควานหาศพผัวคนล่าสุด ของฉันให้เจอ ส่วนฉันก็จะล่ายัยแพรวเหมือนกัน สวยๆ อย่างมันใส่ตะกร้าล้างน้ำไม่กี่ครั้ง ขี้คร้านเสี่ยกริชจะวิ่งเข้าใส่ แค่โดนเฉาะไปทีสองที มันไม่เสียหายนักหรอก หึๆๆ อ้อ...ขอบใจมากนะไอ้โจรกระจอก เพราะตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าแกอยู่สตูล ฮ่าๆๆ’ตู๊ด...ปลายสายตัดทิ้งเพียงเท่านั้น กวินคิดหนัก คุณหญิงพราวพริ้งกำลังรุกอย่างที่เขาไม่นึกว่าผู้หญิงแก่ๆ คนหนึ่งจะทำได้ แต่อย่างน้อยนางก็ยังไม่รู้ว่าแพรวรุ้งอยู่บนเกาะที่เป็นของเขา หนึ่งในผู้บริหารคนสำคัญของ เพิร์ล คุณหญิงพราวพริ้ง ถ้าจะจัดการคงไม่ยากเท่าไหร่ แต่อาจต้องใช้เวลาสักนิด แต่สำหรับเสี่ยกริชน่ะ ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก รอแค่โอกาสเหมาะๆ เท่านั้นสองวันถัดมากวินนั่งจ้องใบหน้าซีดเซียวของคนบนเตียงด้วยความสับสน หัวใจของเขาอยู่ที่ใครกันแน่ ภรรยาที่แสนดีอย่างเมษา หรือว่าแพรวรุ้ง คนที่เขาเองยังไม่รู้ว่าจะจัดให้หล่อนอยู่ในตำแหน่งใด“ปะป๊า น้าแพวเปนลาย&r
“อวดเก่ง” เขาเยาะหยัน อุ้มหล่อนไปวางบนเตียง ใบหน้าสวยซีดเซียวเหลือเกิน ข้างๆ ขมับมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายออกมาด้วย“ขอน้ำหน่อย” เธอร้องเสียงแหบเขาส่งหลอดน้ำดื่มเข้าไปในปากช่างจ้อของหล่อน“คุณเป็นอะไร บอกผมได้หรือเปล่า” เขาถามเสียงอ่อน ผละจากเตียงเดินไปเข้าห้องน้ำ สักครู่ก็กลับมาพร้อมกับผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ“ฉันก็แค่เจ็บไข้ตามประสาลูกคุณหนูนั่นแหละ เจอเชื้อโรคนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้ ร่างกายมันไม่มีปัญญาต่อต้านก็เลยสำรอกออกมาทางเก่าเท่านั้นเอง” แพรวรุ้งตอบออกไปผ่านๆ ขี้เกียจสาธยายถึงความจริงที่มีโรคประจำตัวให้เขาฟัง เพราะถึงอย่างไรเธอก็ไม่ได้สำคัญพอให้เขามาใส่ใจอยู่แล้ว“ก็ดี เพราะคุณต้องอยู่ชดใช้ให้ผมอีกนาน” เขาพูดเหมือนประชด แต่มือกลับไล้ผ้าหมาดๆ เช็ดตามใบหน้าและไรผมให้หญิงสาวอย่างเบามือ หล่อนนอนนิ่งอย่างไร้เรี่ยวแรง เมื่อครู่คงขย้อนอาหารออกมาจนเกลี้ยงพุงกระมัง“ชดใช้อะไร? ฉันไปเป็นหนี้นายตั้งแต่ตอนไหน” เธอเถียง มารดาที่ถูกเขากล่าวหาว่าขายลูกกิน ท่านก็ออกจะร่ำรวย ไม่มี
“ฮัดชิ้ว!” แพรวรุ้งบีบถูปลายจมูก อาการแพ้อากาศคงกำเริบอีกแล้ว“คุณคะ ขึ้นตึกเถอะค่ะ ลมแรงแล้ว บางทีคืนนี้พายุอาจจะเข้า คุณอยู่คนเดียวได้นะคะ คืนนี้นายหัวคงอยู่เฝ้านายน้อยที่โรง’บาล”สายใจ แม่บ้านของกวินเอ่ยเป็นภาษากลางให้แพรวรุ้งเข้าใจมากที่สุด พร้อมกับยื่นผ้าขนหนูให้เช็ดหน้าเช็ดตา เรือยนต์ลำนั้นแล่นฉิวห่างออกไปเรื่อยๆ จนแลเห็นเป็นจุดเล็กๆ อยู่ไกลลิบๆ เมฆฝนก้อนมหึมากำลังส่งเสียงคำราม พร้อมกับลมเย็นจัดที่พัดผ่านเสื้อผ้าเปียกชุ่มจนหญิงสาวหนาวสั่น“ขึ้นตึกเถอะค่ะ” สายใจบอกอีกครั้ง นางไม่รู้ว่าทำไมนางแบบสาวคนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ หรือว่าที่เขาลือกันหนาหูว่าพวกดารานางแบบชอบรับงานอย่างว่าจะเป็นเรื่องจริง ไม่น่าเลย หน้าตาก็ดีทำไมถึงคิดหากินทางนี้ก็ไม่รู้“สายใจ” แพรวรุ้งเรียกเมื่อเห็นแม่บ้านสูงวัยเอาแต่จ้องหน้ากัน“คะ คุณจะเอาอะไรหรือคะ”“ขอเข้าฝั่งบ้างได้ไหม”“อาทิตย์ก่อนคุณก็ขอแบบนี้”“แล้วทำไมถึงไปส่งไม่ได้ล่ะ สายใจเองก็คงนั่งเรือเข้าฝั่งได







