LOGINบางทีโลกก็กลมจนน่าประหลาดใจ เมื่อสี่ห้าปีก่อนเขาตามหาป้าละไมเพื่อขอบคุณที่ช่วยดูแลย่าผู้ติดเตียงให้เขามาตลอด แต่เมื่อไปหาที่บ้านเก่ากลับพบว่าหญิงชราย้ายไปทำงานที่อื่นแล้ว ตระเวนไปหาที่บ้านหลายครั้งไม่เคยพบ พยายามเท่าไรไม่เคยเจอ จนถอดใจไปเสีย โชคชะตากลับพาให้มาเดินสวนกันอย่างไม่น่าเชื่อในเมืองที่มีคนอยู่อาศัยหลายล้านคน
“ไปยังไง มายังไง ถึงมาอยู่นี่ได้ครับเนี่ย”
“มาเลี้ยงหลาน หนูพายมาหายายมา” ป้าละไมเรียกเจ้าก้อนแป้งกระปุ๊กลุกเพราะเกรงใจที่เจ้าตัวอ้วนเกาะติดให้กริชต้องอุ้มอยู่นานพอสมควรแล้ว เด็กในวัยหนึ่งปีสิบเดือนแถมได้รับการบำรุงอย่างดีย่อมมีน้ำหนักไม่น้อย อาจจะไม่มากเมื่อเทียบกับความแข็งแรงและสูงใหญ่ของชายหนุ่ม แต่หากต้องอุ้มเป็นเวลานานแบบนี้ก็ต้องมีเมื่อยแขนเหมือนกัน ที่สำคัญคนหนุ่มวัยนี้ไม่รู้ว่าจะเบื่อหรือขี้รำคาญเด็กตัวน้อยหรือเปล่า
“มาให้ยายอุ้มเจ้าลูกหมู”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมอุ้มหนูพายให้เอง” ชายหนุ่มรีบบอกเมื่อหญิงชราพยายามรั้งเอาเด็กน้อยออกจากอ้อมอก เจ้าก้อนแป้งกลับยิ่งโผเข้าหา เกาะคอเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย แถมเบี่ยงตัวหนียุกยิก
“สงสัยจะหลงเสน่ห์ของกริชเข้าให้แล้วละสิ เรามันเสน่ห์แรงกับสาว ๆ เหลือเกิน” หญิงชราเห็นชายหนุ่มมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นที่สาวน้อยสาวใหญ่เข้าหาไม่เคยขาดเพราะความหล่อเหลาผสมเจ้าชู้เกินใครในละแวกนั้น แต่เมื่อมาเจอกริชในวัยที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวกลับมีเสน่ห์กว่าในช่วงวัยรุ่นเสียอีก เสียดายที่อุบัติเหตุในชีวิตครั้งนั้นทำให้ประวัติของเขาด่างพร้อยไปบ้าง ทว่าดูจากบุคลิกการแต่งกายและความภูมิฐานที่แผ่ออกมา ละไมก็มั่นใจว่ากริชคงพาชีวิตของตนเองไปสู่จุดที่สูงกว่าเดิมได้แล้ว
“หลานป้าละไมหน้าตาน่ารักน่าดูเลยนะครับ เหมือนตุ๊กตาไม่มีผิด”
“แม่หนูพายเขาสวยน่ะ แต่เอาจริง ๆ ยายหนูไม่เหมือนแม่นะ เหมือนแค่ตาแป๋ว ๆ อย่างอื่นน่าจะได้พ่อ”
“แสดงว่าพ่อก็ต้องหล่อมากเหมือนกันนะครับ” กริชก้มลงพิจารณาหน้าตาจิ้มลิ้มของหนูน้อยที่เขาโอบอุ้มอยู่ ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกชอบใจและรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด คงเป็นความรู้สึกของคนที่ถูกชะตาซึ่งกันและกัน เพราะเมื่อเขามองหนูพาย เจ้าตัวน้อยก็มองเขาตอบแล้วยิ้มหวานกลับมาเสียอย่างนั้น แถมมือเล็ก ๆ ยังตีแปะ ๆ ไปที่ปลายคางของชายหนุ่มเหมือนอยากชวนเล่นด้วย ออดอ้อนจนอดใจไม่ไหว ต้องก้มลงหอมแก้มยุ้ยนั่นฟอดใหญ่ เจ้าตัวน้อยก็ยังหัวเราะคิกคักไม่หยุดหย่อน
“โอ๊ย เจ้าหมูของยาย ชอบคนหล่อเหรอลูก ปกติแทบไม่ให้ใครจับใครหอม เล่นตัวจะตายชัก” คุณยายถามหลานสาวโดยไม่รอคำตอบก็หันกลับมาพูดกับชายหนุ่ม “สงสัยจะชอบพ่อกริชเข้าจริง ๆ เรามีลูกมีเต้าหรือยังล่ะ อุ้มเด็กเป็นแบบนี้ หรือว่าแอบมีลูกไปหลายคนแล้ว”
“เมียยังไม่มีเลยครับจะมีลูกได้ยังไงกัน”
“อะไรกันยังไม่มีเมียอีกเหรอ เราอายุตั้งเท่าไร”
“สามสิบสองเองครับป้า ผมยังไม่คิดจะมีครอบครัว แต่ถ้าได้ลูกสาวหน้าตาน่ารักแบบนี้ ก็เริ่มอยากมีแล้วเหมือนกันนะครับเนี่ย” กริชบอกเมื่อหนูน้อยใช้หน้าถูไถไปกับหน้าอกเขาอย่างขี้อ้อน
“หาเมียเข้าซักคน เดี๋ยวมีลูกไม่ทันใช้นา” ป้าละไมกระเซ้าชายหนุ่มที่เอาแต่ฟัดแต่หอมลูกสาวคนอื่นเล่น
“ว่าแต่ ป้าทำงานไหมครับหรือว่าเลี้ยงหลานอย่างเดียว มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้เลยนะ ผมพักอยู่คอนโดต้นซอยนี้เอง”
“แสดงว่ารวยแล้วสิ เห็นหลานสาวป้าบอกว่าไอ้ตึกสูงนั่นมีแต่เศรษฐีกับฝรั่งอยู่ เก่งนะพ่อคุณ ย่าแก้วคงชื่นใจที่กริชไม่ทำให้ผิดหวังเลย”
“จริง ๆ ผมกลับไปตามหาป้าละไมตอนที่ผมออกจากคุกแรก ๆ แต่ก็ไม่เจอ ผมมีเรื่องอยากถามมากมายเกี่ยวกับย่า แล้วก็อยากตอบแทนที่ป้าดูแลย่าผมเป็นอย่างดี”
“ตอบแทนอะไรกัน ป้าก็ทำตามหน้าที่ ได้ค่าจ้าง เมื่อก่อนย่าของกริชช่วยป้าไว้ก็มาก จริง ๆ ถ้ากริชอยากคุยกับป้า เราค่อยนัดคุยกันอีกบ่อย ๆ ก็ได้ ป้าย้ายมาอยู่ในซอยนี่แหละเป็นทาวน์เฮาส์เล็ก ๆ ท้ายซอย แต่เดี๋ยวป้าต้องพายายหนูพายกลับบ้านก่อน วันนี้ไม่มีใครอยู่ อีกเดี๋ยวหนูพายคงหิวด้วย”
หลังคนเป็นยายพูดคำว่าหิวให้ได้ยิน กระเพาะของเด็กน้อยก็เริ่มทำงาน จากที่นั่งเล่นกับดอกโมกที่ชายหนุ่มยื่นให้ เด็กหญิงทำปากขมุบขมิบและเริ่มร่ำร้อง
“หม่ำ หม่ำ”
“กิน” ป้าละไมพูดช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเป็นการสอนหลานสาว “กิน พูดตามยายเร็วลูก กิน”
“กิง กิง”
“สงสัยจะหิวแล้วจริง ๆ ครับ ป้าละไมสอนหลานดีจัง หัดให้พูดชัดถ้อยชัดคำ”
“ไอ้ป้าก็ไม่เท่าไรหรอก เจ้าตัวแม่ของยายหมูพายน่ะสิ บอกว่าต้องพูดกับลูกให้เป็นผู้ใหญ่ หัดให้พูดชัดและถูกต้อง เด็กจะได้ไม่โยเย”
กริชเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนรุ่นก่อนมักจะเลี้ยงลูกหลานแบบประคบประหงมเพื่อให้เด็กยังคงความน่ารักตามวัยเอาไว้ แม้แต่การพูดก็ทำเสียงเล็กเสียงน้อย ผิดกับฝรั่งหรือคนรุ่นใหม่ที่เริ่มหันมาเลี้ยงเด็กให้มีความคิดเฉกเช่นผู้ใหญ่ ถือเป็นการฝึกให้เติบโตและเริ่มต้นเคารพตนเองไปตั้งแต่แรก แม่หนูพายถือว่าทันสมัยเข้าท่าดี
“งั้นหนูพายพูดตามลุงกริชนะครับ กิน”
เจ้าก้อนแป้งมองหน้าชายหนุ่มด้วยความงงงวย แต่ก็ไม่ยอมพูดตามเสียอย่างนั้น โผเข้ากอดคอ แนบหน้ากับบ่า เป็นการยุติการฝึกพูดของทั้งยายและเพื่อนเล่นคนใหม่
“อ้าว ไม่หิวซะแล้วละมั้งเนี่ย” กริชกระเซ้าสาวน้อยตัวกลมในอ้อมแขน แล้วกดหน้าลงก็หอมหัวเด็กดื้ออีกฟอดใหญ่ ยอมรับว่าเอ็นดูเด็กหญิงคนนี้เป็นพิเศษมากกว่าใคร ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเขารู้สึกดีและเคารพยายของเด็กคนนี้ก็เป็นไปได้
ชายหนุ่มตัดใจส่งเจ้าตัวน้อยให้กับป้าละไมเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอ้าแขนออกมารอรับ คงถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านไปกินนมแล้วจริง ๆ นั่นแหละ ส่วนตัวเขาก็มีนัดหมายต่อกับเพื่อนฝูงเช่นกัน
“ผมขอเบอร์ป้าไว้หน่อยได้ไหมครับ ต่อไปจะได้ติดต่อกันสะดวก” กริชยังยืนยันที่จะช่วยเหลือหญิงชราให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมถึงอยากหาโอกาสพูดคุยถึงเรื่องราวของย่าที่ขาดหายไปในระยะเวลาที่เขาติดคุก ความทรงจำช่วงนั้นก็คงมีแต่คนที่ช่วยดูแลย่าที่พอจะช่วยเติมเต็มมันได้
ป้าละไมบอกตัวเลขสิบหลักให้ชายหนุ่มและเขาก็จัดการบันทึกเบอร์ตัวเองกลับมาให้อีกฝ่ายเช่นเดียวกัน
“แล้วเจอกันใหม่นะเจ้ากริช หนูพายบ๊ายบายลุงกริชก่อนลูก”
“กิด บาย” เด็กน้อยพูดยานคางและโบกมือหย็อย ๆ เป็นการบอกลาเพื่อนใหม่ตัวโตที่ยืนมองหนูพายกับป้าละไมค่อย ๆ เดินลับสายตาเข้าไปทางท้ายซอยด้วยความเอ็นดู
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ


![สมิงดำ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)




