LOGIN“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าจะลาออก” เมลานียืนยันทั้งที่เสียงสั่น
“จะออกไปดื้อ ๆ อย่างนี้ได้ยังไง ในเมื่อเธอกับเพื่อนรวมหัวกันทำผิด รู้ไหมว่าถ้าให้ฝ่ายบุคคลส่งหนังสือเวียน เพื่อนเธอก็หางานทำลำบากแล้ว เอ๊...หรือว่าทำเลยดี ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับคนอื่น”
กริชหมุนตัวเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของตนเองเพื่อยกหูโทรศัพท์ ได้ยินเสียงส้นรองเท้าถี่ ๆ ตามมาก็แอบซ่อนยิ้มไว้ภายใต้ใบหน้านิ่งเฉย
“ต่อสายฝ่ายบุคคลให้ผมหน่อย มีเรื่องให้จัดการ”
“อย่านะ” เพราะความตกใจจนลืมตัว เมลานีรีบคว้าโทรศัพท์จากหูของชายหนุ่ม แต่กริชไวกว่า เขาเอนตัวหลบไปด้านหลัง ทำเอาหญิงสาวเสียหลักเหมือนจะถลาล้ม แต่ก็กลายเป็นชายหนุ่มที่ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้และคว้าร่างบางเข้ามานั่งบนตัก
เมลานีตกใจขยับตัวจะลุกขึ้น แต่ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อยแถมยังรวบเอวเธอไว้แน่นทำให้แผ่นหลังบอบบางแนบกับแผงอกด้านซ้ายที่มีหัวใจเย็นชากำลังโลดเต้นอย่างบ้าคลั่ง หญิงสาวได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำชิดใบหู เธอยิ่งพยายามดิ้นหนีแต่ก็ดูเหมือนจะไร้ผล
“ปล่อยมือจากตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ” เมลานีกระชากเสียงแข็ง
“ปล่อยก็ได้ แต่ถ้ามือว่างก็ยกหูโทรศัพท์ง่ายหน่อยนะ” เขาบอกและส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปยังโทรศัพท์ที่ถูกเธอยื้อแย่งจนหล่นอยู่บนโต๊ะทำงาน
“อย่า ฉันขอร้อง” คราวนี้เมลานีถึงกับอ่อนข้อขอร้องเสียงเครือ ลำพังตัวเธอคนเดียวก็ลำบากมากแล้ว ไม่ต้องการให้เพื่อนรักที่คอยช่วยเหลือมาตลอดต้องเดือดร้อนเพราะความแค้นในอดีต กริชพร้อมที่จะทำลายคนที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมดจริง ๆ ความร้ายกาจของเขาเมลานีไม่เคยลืม ไม่อย่างนั้นชายหนุ่มคงไม่ส่งรูปบนเตียงไปให้พี่ชาย ซ่อนปืนไว้หน้ารถหวังส่งเธอเข้าคุก ครั้งนี้หากเขาคิดจะเล่นงานณัชชา หญิงสาวมั่นใจว่าเพื่อนคงยากจะหนีพ้น ครั้งนั้นผู้หญิงของเขาขอร้องให้ปล่อยเธอออกจากคุกเพราะความสังเวช แต่คราวนี้หากเขาเล่นงานพวกเธออีก ใครจะมาช่วยทั้งเธอและณัชชาได้
“ปล่อยพวกเราไปได้ไหม คุณก็มีชีวิตที่ดีไปแล้ว ถือว่าฉันขอร้อง”
“บังเอิญฉันไม่ใช่นักบุญ ถ้าจะขอร้องก็ต้องมีอย่างอื่นมาแลกเปลี่ยน”
“ฉันไม่มีอะไรจะให้แล้ว ที่ผ่านมายังไม่พออีกใช่ไหม” เมลานีหันกลับไปถามเขาอย่างตัดพ้อ สองแขนของเธอยันอยู่ที่แผงอกกว้างเมื่อรู้ว่ากำลังถูกโอบกระชับให้แน่นเข้าไปอีก เนื้อตัวของเธอสั่นเทายามชายหนุ่มขยับก้มเข้ามาใกล้ ได้กลิ่นหอมสะอาดของน้ำหอมผู้ชายผสมกับไอร้อนจากตัวตนของเขา เธอเกลียดที่กริชสารเลวและฉวยโอกาสราวกับผู้ชายต่ำช้า และก็โกรธตัวเองที่ยังหวั่นไหวกับคนที่ทำให้เธอเจ็บช้ำทั้งยังจองเวรไม่เลิกรา
“ฉันคิดถึงเธอ” กริชบอกเสียงต่ำพร่าด้วยแรงอารมณ์อันอ่อนไหวและความปรารถนาภายในที่ถูกผลักจนพลุ่งพล่าน เขาเพิ่งแน่ใจถึงความต้องการของตนเอง ความโหยหาที่คิดว่าคงเจือจางไปตามวันเวลากลับเข้มข้นขึ้นทันทีที่รั้งเมลานีเข้ามาในอ้อมแขนอีกครั้ง
“คุณกริช อย่า” เมลานีสะเปะสะปะผลักบริเวณกลางแผงอกเมื่อชายหนุ่มเกือบแนบใบหน้าลงมาชิดปลายจมูก ฝ่ามือน้อย ๆ ของเธอไม่ทันสังเกตว่ากดถูกวัตถุหนึ่งจนมันประทับไปกับเนื้อแน่น กริชสะดุ้งจากอารมณ์อ่อนไหวในทันที พระกลางอกที่ย่าคล้องไว้ให้เขา ทำลายมนตร์ขลังแห่งความปรารถนาจนหมดสิ้นและทำให้ชายหนุ่มกลับมามองเมลานีอย่างเย็นชา
อีกครั้ง“ก็แค่เซ็กซ์ ฉันคิดถึงคืนเก่า ๆ ของเรา”
เมลานีตวัดฝ่ามือลงบนใบหน้าคมคายที่มีแต่สายตาเหยียดหยาม แต่กริชจับข้อมือบางของหญิงสาวไว้ได้ก่อน แถมยังออกแรงบีบจนเธอเจ็บร้าว
“ไอ้ผู้ชายสารเลว”
“มันถึงจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับผู้หญิงมารยาแบบเธอไง”
เมลานีดันตัวขึ้นสุดแรงในจังหวะที่กริชก็ยอมทิ้งวงแขนที่โอบรอบตัวเธออยู่ หญิงสาวจึงยืนขึ้น ทั้งที่อีกฝ่ายนั่งต่ำกว่าแต่ยังข่มเธอให้ดูเล็กกระจ้อยร่อยและเป็นรองในทุกทาง
“ขอพูดอีกครั้งว่าฉันจะลาออก และจะไม่มาที่นี่ให้รกหูรกตาคุณอีก”
“ถ้าพรุ่งนี้เธอหายไป เพื่อนเธอหมดอนาคตแน่” เขาใจหายกับคำพูดของเธอจนต้องบดกรามกรอด
“คุณมันเลือดเย็น”
“นี่ไม่ใช่คำขู่นะเมลานี ถ้ากล้าหนีไปดื้อ ๆ ก็รอดูความพังพินาศของเพื่อนเธอได้เลย”
“ก็ลองดู คราวนี้ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำร้ายฉันได้ฝ่ายเดียวแน่” หญิงสาวจ้องตาคนที่ทำร้ายเธอได้เจ็บช้ำอย่างที่สุดโดยไม่เคยสะทกสะท้าน
“หนูเมลคนสวยจะทำร้ายผัวเก่าลงเหรอคะ”
เพียะ!
“คุณมันเลวกว่าที่ฉันคิดไว้มาก” กริชกระชากต้นแขนทั้งสองของหญิงสาวเข้ามาใกล้ ในจังหวะที่เจตน์ผลักประตูเข้ามาอย่างเคยชินเพราะไม่เห็นเลขาของชายหนุ่มอยู่ที่โต๊ะ ส่วนจารวีที่ตามหลังพี่ชายมาก็ชะงักงันไปด้วยก่อนจะเบี่ยงตัวเพื่อเข้ามาในห้องทำงานของเขา
“เฮ้ย ไอ้กริชเรื่องที่มึงถาม...”
“เธอ!! ทำไมมาอยู่ที่นี่” จารวีตกใจถลันเข้ามาหาหญิงสาวที่ควรจะหายสาบสูญจากชีวิตของเธอกับกริชไปนานแล้ว
เมลานีไม่ได้ตอบคำถามใคร เธอสะบัดตัวออกจากจากการเกาะกุมของกริช มองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ ทั้งห่างเหินและผิดหวังจนน่าใจหาย จนกระทั่งเสียงประตูปิดลง ร่างบางหายลับออกไป กริชก็ยังคงถูกตรึงให้นิ่งสนิทด้วยสายตาคุ้นเคยคู่นั้น ดวงตาที่สวยกว่าเครื่องแก้วหรืออัญมณีใด ๆ ในโลก แต่ตอนนี้ไร้รอยอ่อนหวาน เหลือแต่ความเกลียดชังเข้มข้นฉายชัดจนน่าปวดใจ
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ







