Share

บทที่ 191

Penulis: สั่งไม่หยุด
ผิดที่นางยืนด้วยลำแข้งของตัวเองอย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด ผิดที่นางแต่งงานมาเป็นภรรยา วางตัวเองเป็นนายหญิง รักและเคารพในตัวเอง ไม่รู้จักใช้มารยาสาไถยกับบุรุษแบบที่อนุทำกัน

ฉีจื่อฟู่หลุบตาลง “ไม่ใช่ ไม่ใช่…ข้าเองก็ผิด…”

หรงจือจือเลิกคิ้วขึ้น คิดในใจว่านี่ช่างเป็นคำพูดที่หาได้ยากยิ่ง

ในช่วงที่ผ่านมา เคยมีผู้ใดในสกุลฉี ที่ไม่วางตัวว่าตนเป็นฝ่ายถูกต้องกับนางด้วยหรือ? แม้ว่าช่วงแรกฉีจื่อฟู่จะยอมรับว่าทำผิดต่อนาง แต่ไม่นานก็กลับมายืดหลังตรง ใช้ถ้อยคำไร้ยางอายกับนางเหมือนเดิม

ท่าทีเสียใจของเขาในวันนี้จึงนับเป็นอะไรที่คาดไม่ถึง

ฉีจื่อฟู่กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น “ข้าผิดไปแล้ว! ข้าผิดไปแล้วจริงๆ! แม้ว่ายามนั้นเจ้าจะทำดีต่อข้า แต่ข้าก็เอาแต่รู้สึกว่าเจ้าสมบูรณ์แบบจนเหมือนไม่ใช่คน เจ้าคล้ายจะรักข้า แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รักข้าขนาดนั้น”

“นอกจากนี้ ทุกคนก็เอาแต่ชื่นชมเจ้า บอกว่าเจ้าดีอย่างโน้นอย่างนี้ บอกว่าเจ้าเก่งกาจมากความสามารถ เป็นหญิงสาวที่สมบูรณ์แบบที่สุดในใต้หล้า เสมือนว่าการที่ข้าแต่งงานกับเจ้ าเป็นอะไรที่เกินเอื้อมไปจากตัวข้าอย่างไรอย่างนั้น”

“เสมือนว่าข้าไม่คู่ควรกับเจ้าแม้แต่น้อย”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 192

    หรงจือจือมองฉีจื่อฟู่ด้วยความดูแคลนปนรังเกียจ ให้โอกาสเขาอีกครั้งอย่างนั้นหรือ?เช่นนั้นผู้ใดให้โอกาสท่านย่าของนางบ้าง?ฉีจื่อฟู่เห็นว่าไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการก็ลุกขึ้นเดินโซเซไปหาหรงจือจือ “จือจือ เดิมทีวันนี้ข้าควรอยู่กับผิงถิง แต่ภายในใจข้ามีแต่เจ้า…”หรงจือจือไม่สนใจที่จะฟังเขาพูดอีกนางโบกมือโปรยผงสีขาว นางกินโอสถต้านพิษตั้งแต่ตอนที่ตัดสินใจพูดคุยกับฉีจื่อฟู่ตามลำพังแล้วฉีจื่อฟู่รู้สึกหมดแรงและวิงเวียนศีรษะโดยพลัน ประกอบกับเมาเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้จึงล้มหมดสติลงกับพื้นทันทีหรงจือจือไม่รู้สึกห่วงว่าเขาจะเป็นหวัดแต่อย่างใด ยิ่งไม่สนใจที่จะประคองเขาขึ้นมาพูดเสียงดังว่า “บอกให้อวี้ม่านหวามารับเขา!”เจาซีรับคำสั่ง “เจ้าค่ะ!”จากนั้นสั่งให้บ่าวรับใช้ซึ่งเป็นสมุนของตนเองไปตามคนมาหลังจากที่หรงจือจือถูกฉีจื่อฟู่ทำร้ายบาดเจ็บเมื่อครั้งก่อน ทั่วทั้งเรือนหลันก็ไม่มีผู้ใดอยากให้เขาอยู่ค้างแรมที่นี่ต่อ ไม่โน้มน้าวให้หรงจือจือรั้งเขาให้อยู่ที่นี่ต่ออีกแต่อวี้หมัวมัวกังวลใจเล็กน้อย “คุณหนู พวกเราส่งตัวฉีจื่อฟู่กลับไปดีหรือไม่? อวี้ม่านหวาเป็นคนเรื่องมาก หากประเดี๋ยวมารับตัวเขา เกรง

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 193

    “ยิ่งไปกว่านั้น ทักษะด้านการแพทย์ของข้าก็ไม่ได้แย่ ยามที่ข้าพบท่านพี่ฟู่ นั่นเป็นยามที่กองทัพต้าฉีของพวกท่านกำลังจะบุกยึดเมืองหลวงของแคว้นเจา”“โอสถที่ใช้รักษาท่านพี่ฟู่ ล้วนเป็นของที่ข้าต้องเสี่ยงต่อการถูกเสด็จพี่จับได้ ขโมยมาจากสำนักหมอหลวงทั้งสิ้น อีกทั้งบาดแผลของเขาก็เป็นตัวข้าเองที่ค่อยๆ รักษาด้วยความระมัดระวัง!”หรงจือจือเผยสีหน้าแสดงความเข้าใจ “โอ้? ที่แท้ก็เป็นแบบนั้นนี่เอง!”อวี้ม่านหวาพูดด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องใจ จบแล้วก็แสดงท่าทีเหมือนคร้านจะคุยกับหรงจือจืออีก นางเรียกให้คนมาแบกฉีจื่อฟู่ออกไป หรงจือจือไม่ขัดขวางแม้แต่น้อยหลังจากที่อวี้ม่านหวาออกไปเจาซีก็พูดด้วยความตกใจ “คุณหนู อนุอวี้นาง…เมื่อครู่นี้นางว่ากระไรนะเจ้าคะ? คงมีเพียงผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านการแพทย์แม้แต่น้อยเท่านั้น ที่จะเข้าใจสรรพคุณของเปลือกไม้เหอฮวนผิด?”“แม้แต่เรื่องแค่นี้ก็ยังไม่รู้ ทว่านางกลับบอกว่าตัวเองเป็นผู้รักษาฉีจื่อฟู่อย่างนั้นหรือ?”“ซ้ำยังไปขโมยโอสถจากสำนักหมอหลวงอีก? นางไม่กลัวหรือว่าจะใช้โอสถผิดตัวจนทำให้ฉีจื่อฟู่ตาย?”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “ไม่ใช่แค่นั้น ยากล่อมประสาทอย่างอ่อนที่ข้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 194

    เมื่อก่อนนี้เขาแข็งกร้าวเกินไป แต่บัดนี้เขารู้แล้วว่า ความแข็งกร้าวใช้ไม่ได้ผลกับหรงจือจือบางทีเขาควรจะยอมมีท่าทีอ่อนลงและเอาใจนาง!จู่ๆ อวี้ม่านหวาก็ถูกเขาตะคอกใส่นางปิดหน้าร้องไห้ทันที “ท่านพี่ฟู่ เหตุใดจึงตะคอกข้าเช่นนี้? เมื่อคืนนี้ท่านดื่มหนักมาก เป็นข้าที่ดูแลท่านตลอดทั้งคืน!”ฉีจื่อฟู่นึกได้ว่านางกำลังตั้งครรภ์ ไม่ควรกระทบกระเทือนใจมากเกินไป จึงผ่อนน้ำเสียงลง “พอแล้ว ไม่ต้องร้องแล้ว ข้าไม่ดีเอง แต่หากหลังจากนี้ข้าไปอยู่กับฮูหยินน้อย เจ้าก็อย่าเข้ามายุ่งอีก”อวี้ม่านหวากล่าวสะอึกสะอื้น “ข้าเข้าใจแล้ว ข้ารู้ว่าท่านลืมนางไปจากใจไม่ได้…”ฉีจื่อฟู่ “เจ้ารู้ก็ดีแล้ว”อวี้ม่านหวา “?”ฉีจื่อฟู่พูดต่อโดยไม่สนใจนาง “หากนางยอมยกโทษให้ ข้าก็จะ…ช่างเถอะ ไม่มีอะไร”เดิมทีเขาจะพูดว่าจะส่งอวี้ม่านหวาไปอยู่ชนบท แต่เมื่อคิดว่านางฟังแล้วคงร้องไห้ต่อ ก็ไม่อยากสร้างปัญหาให้ตัวเองอีก มันไม่ใช่เพราะเขาไม่ยินดีส่งอวี้ม่านหวาไปอยู่ที่อื่นเพื่อแสดงความจริงใจต่อจือจือแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะกลัวว่าม่านหวาได้รับการกระทบกระเทือนแล้ว จะส่งผลเสียต่อลูกในท้อง เว้นเสียแต่ว่าจือจือจะให้อภัยเขาในทัน

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 195

    กระทั่งในยามหลับฝันก็ยังฝันว่าฉีจื่อฟู่รู้ว่านางเป็นไส้ศึกแล้วทั้งสองคนต้องแยกจากกันความรู้สึกเจ็บปวดนั่นช่างสมจริงเหลือเกิน!นางหัวเราะเยาะตัวเองอยู่ตลอด ทั้งที่กำลังแสดงละคร ทว่ากลับเกือบจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในบทบาทแต่ในระหว่างที่เดินทางกลับแคว้นต้าฉีนางก็ได้พบกับความกังวลใจของฉีจื่อฟู่ ได้พบว่าเขามักจะร้องเรียกชื่อของหรงจือจือในยามหลับฝัน โดยเฉพาะหลังจากที่กลับถึงสกุลฉี นางยิ่งสัมผัสได้ว่าภายในใจฉีจื่อฟู่มีเพียงหรงจือจือสำหรับฉีจื่อฟู่แล้ว ตัวนางเป็นเพียงเรื่องน่าขัน เป็นเพียงหินลับมีดที่ใช้ขัดเกลาความรู้สึกระหว่างเขากับหรงจือจือ!ถึงเวลานี้ นางได้เก็บความหวั่นไหวทั้งหมดกลับคืน ไม่เหลือความรักอีกต่อไป เหลือเพียงแผนการฟื้นฟูมาตุภูมิอันยิ่งใหญ่ที่เด่นชัดภายในใจ กับความเคียดแค้นเกลียดชังที่ฉีจื่อฟู่ทำลายชาติบ้านเมืองของนาง!เมื่อเห็นองค์หญิงดวงตาแดงก่ำ ยังจะมีอะไรที่ซี่อวี่ไม่เข้าใจอีก?นางพูดด้วยความปวดใจว่า “องค์หญิง หนทางสู่ความสำเร็จมักยากลำบากเสมอ! เมื่อท่านกลับคืนสู่ตำแหน่งองค์หญิงอีกครั้ง ต่อไปต้องการบุรุษแบบใด ท่านอ๋องรองมีหรือจะกล้าขัดใจท่าน? ต่อไปฉีจื่อฟู่ก็เป็นได

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 196

    หรงจือจือพยักหน้าก่อนจะอธิบายถึงจุดประสงค์ในการมาแบบย่อสุดท้ายพูดว่า “ข้าไม่รู้ว่านอกจากภายในสกุลฉีแล้ว อวี้ม่านหวายังมีผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่นอีกหรือไม่ ไม่กล้าแหวกหญ้าให้งูตื่น ด้วยเหตุนี้จึงขอความช่วยเหลือจากพี่หญิงสกุลเซินเพื่อส่งข่าวนี้ให้ท่าน หวังว่าท่านราชเลขาธิการจะเป็นผู้ตัดสินใจ”เซิ่งเฟิงพูดขึ้นว่า “แม่นางหรงทำถูกแล้ว! พวกข้าจับตาดูซี่อวี่ผู้นั้นตั้งแต่ก่อนที่จะถูกรับเข้าสกุลฉีเสียอีก”“หลังจากฉีจื่อฟู่รับนางกลับไป พวกข้าก็คอยจับตาดูสกุลฉีอย่างลับๆ ดูว่าจะมีคนมาติดต่อกับอวี้ม่านหวาหรือซี่อวี่หรือไม่”“แต่ในช่วงก่อนนี้ พวกข้าไม่อาจมั่นใจได้ว่าอวี้ม่านหวาเป็นสายลับหรือไม่ ต้องขอบคุณที่วันนี้แม่นางช่วยยืนยัน”หรงจือจือมองเขาด้วยความประหลาดใจ นั่นเป็นเพราะในการพบหน้าสองสามครั้งก่อนหน้านี้ ท่าทีที่เซิ่งเฟิงมีต่อนางค่อนข้างนิ่งเฉย ทว่าวันนี้กลับสุภาพมีมารยาทมาก ทำให้นางตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อย เซิ่งเฟิงเห็นหรงจือจือมองมาก็ยิ้มยิงฟันให้นางอย่างประจบประแจง หากไม่ติดที่ตัวเองไม่สะดวกที่จะเข้าไปเอาอกเอาใจ เขาคงเลียนแมวอย่างคุณชายหลีแล้ว ตอนนี้เขามองว่าการเอาใจแม่นางหรงจะเป็นผลด

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 197

    เมื่อเขาพูดเช่นนี้ หรงจือจือย่อมไม่กล้าถามอีก นางย่อเข่าพูดว่า “เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อน หากวันหน้าพบเจอเบาะแสใดๆ เกี่ยวกับแคว้นเจาจะส่งคนไปแจ้งให้ท่านทราบ”เฉินเยี่ยนซู “อืม”หลังจากที่หรงจือจือจากไปแววตาเย็นยะเยียบของเฉินเยี่ยนซูพลันหม่นลง เขาสั่งอย่างราบเรียบว่า “บอกให้ขันทีอาวุโสหยางค้นตำหนักบรรทมของฝ่าบาทให้ทั่ว หากยังมีตำราไร้สาระหลงเหลือก็ทำลายทิ้งให้หมด”เซิ่งเฟิง “…ขอรับ”ฝ่าบาทช่างน่าสงสารยิ่งนัก! หากไม่ใช่เพราะฝ่าบาทบอกให้ใส่อัญมณีลงไป คุณหนูสกุลหรงก็คงไม่พูดว่าสมบัติมีราคาแพงเกินไปจนอยากส่งคืนให้กับเจ้าของเช่นนี้ดูแล้วท่านราชเลขาธิการน่าจะเข้าใจหรงจือจือมากกว่า หากมีเพียงพวงบุปผา นางก็คงไม่พูดเช่นนี้ แต่เพราะฝ่าบาทที่อ่านตำราไร้สาระที่ทำให้นายท่านเสียความมั่นใจและใส่อัญมณีลงไป ครานี้เป็นอย่างไรเล่า? กระทั่งฝ่าบาทก็ยังถูกลงโทษไปด้วยเฉินเยี่ยนซู “ยึดจิ้งหรีดที่ฝ่าบาทเพิ่งได้รับมาด้วย”เซิ่งเฟิงรู้สึกสงสารฮ่องเต้ “ข้าน้อยรับบัญชา!”การเล่นจิ้งหรีดเป็นงานอดิเรกเพียงอย่างเดียวของฮ่องเต้ ท่านราชเลขาธิการมีการดูแลและควบคุมอย่างเข้มงวด ทุกๆ สิบวันจะอนุญาตให้เล่นเพียงแ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 198

    ฉีจื่อฟู่ผิดจากคนอื่นที่ขอเงินจากนางถานได้ยาก หากเขาเป็นคนไปขอเงินจากอีกฝ่าย มันจะเป็นอะไรที่ง่ายมากเขาไม่ได้บอกนางถานว่าจะเอาเงินไปทำอะไร เพียงแต่ให้คำมั่นสัญญาต่อนางถานว่า เมื่อวันหน้าตัวเองได้รับรางวัลหรืออะไรอย่างอื่นจากราชสำนัก เขาจะรีบนำมาคืนท่านแม่โดยเร็วที่สุด นางถานจึงมอบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงให้กับเขาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เพราะในสายตานางถานแล้ว บุตรชายคนโตของนางสมบูรณ์แบบทุกประการ ก่อนหน้านี้สามารถสร้างผลงานครั้งใหญ่ที่แคว้นเจา หากจะสร้างผลงานอีกในอนาคตก็ไม่ใช่เรื่องยาก!ไม่นานนัก ฉีจื่อฟู่ก็มาถึงยังเรือนหลันหรงจือจือรู้ว่าเขานำเงินมาคืนจึงไม่ได้ให้คนขวางไว้และคลายการปิดเรือน อย่างไรเสีย หลังจากเหตุการณ์ปลดตำแหน่งเป็นต้นมา คนสกุลฉีก็ไม่กล้าหาเรื่องนางมั่วซั่วอีกฉีจื่อฟู่นำตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงออกมามอบให้หรงจือจือ “นี่คือเงินสามพันตำลึง ส่วนที่เกินมาขอยกให้เจ้า!”หรงจือจือหัวเราะเยาะแล้วให้อวี้หมัวมัวหาเงินมาทอนให้ฉีจื่อฟู่นางกล่าวอย่างนิ่งเรียบว่า “ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยกินไม่เคยใช้ของๆ จวนโหวแม้แต่น้อยแต่กลับถูกท่านตำหนิ ตอนนี้ข้าคงไม่กล้ารับเงินที่เกินมาสองร้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 199

    แต่หลังจากกลับมาในทุกๆ วันจะมีของขวัญชิ้นเล็กชิ้นน้อยมาฝากหรงจือจือ ไม่ว่าหรงจือจือจะต้องการหรือไม่ เขาก็ยืนกรานที่จะวางไว้ที่นี่หรงจือจือไม่เก็บไว้กับตัวแม้แต่ชิ้นเดียว สั่งให้เจาซีนำไปมอบให้ถานผิงถิงหรือไม่ก็อวี้ม่านหวาทั้งหมด วันนี้ อวี้หมัวมัวนำข่าวมารายงานหรงจือจือด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณหนู ช่วงนี้นางถานเกลียดชังท่านเป็นพิเศษ บ่าวไปดึงตัวยายเฉินมาเป็นพวกตามที่ท่านสั่ง นึกไม่ถึงว่าจะสำเร็จจริงๆ”“หลังจากที่ยายเฉินถูกท่านสั่งโบยเมื่อคราก่อน นางถานกลับไม่สนใจความเป็นความตายของนางแม้แต่น้อย ปล่อยให้บ่าวรับใช้ที่ประจบสอพลอเจ้านายและเหยียบย่ำผู้ที่อยู่ต่ำกว่ารังแกนาง ยารักษาบาดแผลหลายตัวที่ยายเฉินใช้ก็เป็นของที่คนของพวกเราแอบส่งไปให้”“ด้วยเหตุนี้ นางจึงโกรธแค้นนางถาน มองว่าตัวเองทำงานรับใช้นางถานด้วยความภักดีมาตลอดชีวิต ทว่านางถานกลับไม่เห็นถึงความดีของนางแม้แต่น้อย”“ประกอบกับบ่าวมีการมอบผลประโยชน์เล็กน้อยให้กับนาง ตอนนี้นางจึงไม่ได้อยู่ฝั่งนางถานอีกต่อไปแล้ว! นางบอกกับบ่าวว่า นางถานวางแผนที่จะกล่าวหาท่านเรื่องมีชู้ในวันตรุษจีนเล็ก”แววตาหรงจือจือเย็นยะเยียบปานน้ำแข็งเมื่อฟังถึ

Bab terbaru

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 338

    เสิ่นเยี่ยนซูดวงตาเย็นยะเยือก และเดินไปตรงหน้าหรงเจียวเจียวเขามองนางด้วยสายตาที่เหนือกว่า พลางถามเสียงเย็นว่า “เจ้าว่าผู้ใดเป็นคนชั้นต่ำ?”เขามักจะมีอำนาจในฐานะผู้เหนือกว่าอยู่เสมอ ทำเอาหรงเจียวเจียวตกใจสีหน้าซีดเผือด อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าและถอยหลังไปหนึ่งก้าว น้ำตาก็คลอเบ้า จนแทบจะไหลลงมาอีกครั้งนางกล่าวด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา “ข้า ข้า ข้า...”ดวงตาที่เสิ่นเยี่ยนซูมองนาง มองราวกับเป็นของที่ตายแล้ว “วันนี้ข้าจะให้เกียรติมหาราชครูหรง”“เจ้าคุกเข่าอยู่ที่นี่สองชั่วยาม ตบหน้าหนึ่งร้อยที ก็จะสามารถลุกขึ้นได้”“หากครั้งหน้าข้าได้ยินคำพูดเช่นนี้อีก ลิ้นของเจ้าก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป องครักษ์หลงสิงมีวิธีดึงลิ้นออกมามากมาย เข้าใจหรือไม่?”หรงเจียวเจียวตกใจมากจนฉี่จะราดอยู่แล้ว นั่นเป็นครั้งแรกที่รู้ว่า ชายที่ตนเองชื่นชอบ มีด้านที่น่ากลัวเช่นนี้ด้วย จึงกล่าวด้วยตัวสั่นเทิ้มว่า “เข้า เข้าใจเจ้าค่ะ!”เสิ่นเยี่ยนซูหัวเราะเสียงเย็นทีหนึ่ง ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อและจากไปหรงจือจือเห็นเช่นนี้ ยังตกตะลึงอยู่เล็กน้อยแม้ท่านย่าจะเอ็นดูนาง แต่ก็ไม่ค่อยออกไปด้านนอก ดังนั้น นี่จึงเป็นครั้งแรก ที่นางสัม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 337

    สายตาที่ประจบของฮูหยินหลี่ มองไปทางหรงจือจือ “จือจือ ได้ยินว่าเจ้าเป็นสตรีผู้มีพรสวรรค์เป็นเลิศอันดับหนึ่งของเมืองหลวงมาตั้งนาน ไม่สู้เจ้าแต่งกวีเสียหนึ่งบท จะได้เปิดหูเปิดตาให้พวกข้าด้วย!”หรงจือจือกล่าวเสียงเรียบ “ข้าไม่ได้เตรียมตัว ให้คนอื่นแต่งดีกว่าเจ้าค่ะ”สีหน้าของฮูหยินหลี่ดูจะเก็บอาการไม่ค่อยอยู่แล้ว แต่ก็รู้ ว่าก่อนหน้านี้ตนเองประพฤติตัวไม่ดี หรงจือจือจะโกรธก็สมควร ดังนั้นจึงเดินไปตรงหน้าหรงจือจือเมื่อจับมือของนาง ขณะที่ยิ้มก็กล่าว “เจ้ามีความคิดที่ปราดเปรื่อง การแต่งบทกวีจำเป็นต้องเตรียมตัวเสียที่ใด? ตอนนี้สุ่มเขียนมาเสียหนึ่งบท คิดดูแล้วก็ดีมากแล้ว”หรงจือจือดึงมือของตนเองออกมาจากอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉย “พูดขึ้นมาแล้ว ตอนนั้นป้าสะใภ้บอกว่า วันนี้ข้าไม่ได้รับเชิญไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”“ข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ จริง ๆ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ท่านเสนาบดี ทุกท่าน ขอให้เพลิดเพลินให้เต็มที่ ข้าขอตัวลาไปก่อนเจ้าค่ะ!”ขณะที่พูด หรงจือจือก็ลุกขึ้นเตรียมจะจากไปฮูหยินหลี่ตื่นตระหนกแล้ว จึงรีบกล่าว “นี่...จือจือ เข้าใจผิด! ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด! ป้าสะใภ้แค่เลอะเลือนไปชั่วขณะจึงพู

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 336

    แม้หรงจือจือเห็นท่าทางของเซิ่งเฟิง ล้วนยังต้องหยิบผ้าเช็ดหน้ามาปิดมุมปากไว้เล็กน้อย ก็ไม่รู้ว่าเสิ่นเยี่ยนซูไปหาคนที่มีอารมณ์ขันเช่นนี้มาจากที่ใดช่างน่าสนุกยิ่งนัก!เดิมทีหรงเจียวเจียวไม่สบายใจ ยังถูกเซิ่งเฟิงก่อเรื่องเช่นนี้อีก ก็เกิดความคิดอยากตายขึ้นมาจริง ๆ แล้ว “ข้า ข้า...”คิดว่าวันนี้ชื่อเสียงของตนเองคงเสียหายเป็นแน่ นางจึงตัดสินใจทุ่มสุดตัวไปเลย!ขณะมองหรงจือจืออย่างดุร้ายก็กล่าวว่า “หรงจือจือ เจ้าตั้งใจขโมยงานแต่งของข้าใช่หรือไม่? เจ้าก็แค่ไม่อยากให้ข้ามีชีวิตที่ดี เจ้า...”หรงจือจือยังไม่ทันได้เอ่ยปากเสิ่นเยี่ยนซูก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไร้สาระ! เดิมทีก็เป็นของของนาง เหตุใดต้องพูดถึงการขโมยด้วย? เจ้าไม่ลองดูใบหน้าของลูกพี่ลูกน้องเจ้า และคิดดูอีกทีว่าควรจะพูดจาไร้สาระต่อไปหรือไม่”เพียงคำพูดเดียว ก็ทำให้หรงเจียวเจียวสั่นสะเทือนแล้วจากสีหน้าของเสิ่นเยี่ยนซู นางมองออก ว่าเขาไม่ได้กำลังล้อเล่นกับนาง หากตนเองโวยวายต่อไป มีหวังโดนตบหน้าจริง ๆ แน่เห็นนางสงบลงได้เสียทีฮูหยินหนิงกั๋วกงก็ยิ้มพลางกล่าว “ครั้งก่อนข้าไปงานเลี้ยงของสกุลฉี เห็นสกุลฉีวุ่นวายไปหมด แม่นา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 335

    เขาเอ่ยเน้นย้ำทีละคำอย่างชัดเจน “คุณหนูสามหรง เจ้าฟังให้ดี ก่อนหน้าวันนี้ แม้แต่หน้าตาของเจ้าเป็นเช่นไรข้าก็ยังไม่รู้ชัด ไม่เคยมีความคิดที่จะแต่งเจ้าเป็นชายาเลยแม้แต่น้อย”“ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ที่ข้าต้องการสู่ขอ ก็คือพี่สาวของเจ้ามาโดยตลอด หากเจ้ายังไม่เชื่อ ก็ลองกลับไปสอบถามบิดาของเจ้าดูเถิด”หรงเจียวเจียวส่ายศีรษะไปมา ไม่อาจยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้นางยังคงคิดว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าหาใช่ความจริงไม่ แต่เป็นเพียงฝันร้ายอันน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น นางยิ่งร่ำไห้สะอึกสะอื้นหนักกว่าเดิม “ไม่จริง เป็นไปได้อย่างไร... เป็นไปไม่ได้...”ในชั่วขณะนั้นเอง บ่าวรับใช้ของจวนตระกูลหลี่ ก็ได้พาเหวินหมัวมัวเข้ามาด้านในพอเหวินหมัวมัวเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ก็รู้ได้ทันทีว่าคงเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นแล้วเป็นแน่เฉินเยี่ยนซูเหลือบมองเหวินหมัวมัวแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ดูท่าแล้ว เจ้าคงมาเพื่อจะบอกคุณหนูสามของเจ้ากระมัง ว่าแท้จริงแล้วผู้ที่ข้าต้องการหมั้นหมายด้วยคือผู้ใดกันแน่?”เมื่อท่านอัครมหาเสนาบดีเอ่ยถาม มีหรือที่เหวินหมัวมัวจะกล้าไม่ตอบ? นางรีบคุกเข่าลงกับพื้น ใบหน้าซีดขา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 334

    ครานี้ ทุกผู้คนต่างตกตะลึงงัน สายตาตำหนิหลายคู่พลันจับจ้องไปยังฮูหยินหลี่อะไรกัน! ในเมื่อไม่ได้หมั้นหมาย แล้วเหตุใดเจ้าจึงมาหลอกลวงพวกเรา? เช่นนั้นเมื่อครู่พวกเราก็ประจบเอาใจนางเสียเปล่าไปตั้งนานนะสิ?! เจ้ารู้หรือไม่ว่าการที่พวกเราต้องสรรหาคำเยินยอหรงเจียวเจียวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเมื่อครู่นั้น มันต้องสิ้นเปลืองความคิดอ่านไปมากเพียงใด? สมองแทบจะระเบิดอยู่แล้ว!ฮูหยินหลี่เองก็ตกตะลึงงันไปเช่นกัน ตามเหตุผลแล้ว นาวหวังไม่น่าจะวิปลาสถึงขั้นกุเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้! เมื่อเห็นสายตาตำหนิของผู้คนจับจ้องมา นางจึงพยายามอธิบายอย่างตะกุกตะกัก “ไม่... ไม่ใช่! ข้า... เจียวเจียว นี่มันเรื่องอันใดกันแน่!”หรงเจียวเจียวมองไปยังเฉินเยี่ยนซู ด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ “ท่านอัครมหาเสนาบดี! ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าท่านจะเป็นคนเช่นนี้! ท่านเห็นข้าโกรธจนเอ่ยปากขอถอนหมั้น ท่านไม่คิดจะง้อก็แล้วไปเถิด แต่ยังจะกล่าวปดว่าไม่เคยมาสู่ขอข้าอีกอย่างนั้นหรือ?”เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ประกอบกับเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของหรงเจียวเจียว ผู้คนก็เริ่มรู้สึกสับสนขึ้นมาอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความกังขาจับจ้องสลับไปมาระหว่า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 333

    หรงเจียวเจียวชะงักไปครู่หนึ่ง “อ๊ะ?”จ้าวหมัวมัวกล่าวว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดีคงต้องการจะแสดงอำนาจความเป็นสามี ทั้งยังต้องการจะดูท่าทีคุณหนูด้วยว่าจะยอมอ่อนข้อให้เขาหรือไม่ อย่างไรเสีย ฐานะฮูหยินของราชเลขาธิการผู้ทรงเกียรติ จะเป็นเพียงสตรีที่เอาแต่ใจตน พอเขาขุ่นเคืองก็เอาแต่ร้องขออภัยไปเสียทุกเรื่องไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”หรงเจียวเจียวมีสีหน้าลังเล “เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”จ้าวหมัวมัวกล่าว “ใช่แล้วเจ้าค่ะ ต้องเป็นเช่นนี้เป็นแน่! คุณหนู ท่านต้องรู้จักแสดงความอ่อนแอบ้าง คนที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่งและทรงอำนาจเช่นท่านอัครมหาเสนาบดี หรือจะยอมลดตัวลงมาง้อคุณหนูได้เล่าเจ้าคะ?”หากไม่เช่นนั้นแล้ว จะอธิบายได้อย่างไรว่าเหตุใดท่านอัครมหาเสนาบดีจึงจงใจสร้างความลำบากให้คู่หมั้นของตนต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้เล่า?เมื่อสองนายบ่าวปรึกษาหารือกันเสร็จสิ้นในที่สุดหรงเจียวเจียวก็รวบรวมความกล้าได้ นางรอจนกระทั่งบัณฑิตผู้หนึ่งแต่งบทกวีเสร็จสิ้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดี... ข้ารู้ตัวว่าผิดไปแล้ว ท่านจะโปรดให้ข้าลุกขึ้นได้หรือไม่เจ้าคะ เจียวเจียวปวดเข่าเหลือเกิน พื้นก็ทั้งเย็นทั้งแข็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 332

    ทุกคนย่อมเห็นแผ่นหลังของหรงเจียวเจียวที่กำลังหันหลังจากไป และพอจะเดาได้ว่านางกำลังแสดงความเอาแต่ใจออกมาบรรดาสตรีที่สนิทสนมกับหรงเจียวเจียวต่างแอบตำหนิอัครมหาอัครมหาเสนาบดีเฉินอยู่ในใจ ว่าช่างไม่รู้จักถนอมบุปผาเทิดทูนหยกล้ำค่าเอาเสียเลย เหตุใดจึงไม่รู้จักไว้หน้าคู่หมั้นของตนเองเช่นนี้?เฉินเยี่ยนซูสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของหรงเจียวเจียวอยู่แล้ว จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หยุดอยู่ตรงนั้น!”ฝีเท้าของหรงเจียวเจียวพลันชะงัก นางคิดในใจ ในที่สุดเขาก็เรียกข้าแล้ว หรือว่าในใจเขายังคงเป็นห่วงข้าอยู่?นางแค่นเสียงหึเบาๆ แล้วหันไปมองเฉินเยี่ยนซู “ในใจของท่าน ไม่ใช่มีเพียงแต่พี่สาวของข้าหรอกหรือ? แล้วจะมารั้งข้าไว้อีกด้วยเหตุใด?”กล่าวจบ นางก็เช็ดน้ำตาพลางหันเสี้ยวหน้าอย่างดื้อรั้นให้เฉินเยี่ยนซูมองนางเชื่อว่าเมื่อเขาเห็นหยาดน้ำตาบนใบหน้าของนาง จะต้องสำนึกได้แน่ว่าตนเองทำผิดไปแล้ว นางเคยส่องกระจกพิจารณาดูตนเองยามร้องไห้อย่างละเอียดแล้ว รู้อยู่แก่ใจว่าท่าทางเช่นนี้จะยิ่งขับเน้นความงดงามแววตาของเฉินเยี่ยนซูเย็นชา “ในใจของข้ามีผู้ใดอยู่ ถึงตาเจ้ามาสอดปากวิจารณ์ด้วยหรือ?”หรงเจียวเจียวฟั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 331

    ถึงจะอยู่ที่บ้านตระกูลหลี่ แต่เมื่อนางทำผิด หากเฉินเยี่ยนซูไม่เอ่ยอนุญาต นางก็ไม่อาจนั่งได้เมื่อได้รับอนุญาตให้นั่งจากเฉินเยี่ยนซู หลี่เซียงเหยากลับยิ่งรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ นางรู้สึกราวกับว่าพี่เขยสาม ผู้นี้กำลังตบหน้านางอย่างแรง แล้วค่อยยื่นขนมหวานปลอบใจ ทว่าการตบหน้านี้ช่างหนักหน่วงเหลือเกินนางร่ำไห้ออกมา กล่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อระคนน้อยใจ “ขอบคุณท่านอัครมหาเสนาบดีเจ้าค่ะ!”เมื่อครู่หรงเจียวเจียว ไม่ได้ออกหน้าช่วยนาง ตอนนี้จึงรีบเข้ามากล่าวกลบเกลื่อน “เหยาเหยา เห็นหรือไม่ ท่านอัครมหาเสนาบดียังคงให้ความสำคัญกับเจ้านะ ถึงได้อนุญาตให้เจ้าอยู่ในงานเลี้ยงแต่งบทกวีต่อ!”เฉินเยี่ยนซูเอ่ย “ย่อมต้องให้ความสำคัญ”หรงเจียวเจียวพลันยิ้มออก นางคิดว่าอย่างไรเสียท่านอัครมหาเสนาบดีก็ต้องไว้หน้านางบ้าง แต่คาดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนซู จะเอ่ยประโยคถัดมาว่า “หากนางจากไปแล้ว ไม่มีนางอยู่ที่นี่เป็นข้อเปรียบเทียบ ผู้ใดจะรู้เล่าว่าจุดจบของการลบหลู่ท่านหญิงเป็นเช่นไร?”ทุกคน “…”เหล่าสตรีที่เมื่อครู่ร่วมวงนินทาหรงจือจือ ตอนนี้ต่างรู้สึกชาวาบไปทั้งศีรษะ!ส่วนหรงเจียวเจียวยิ่งหน้าเขียวคล้ำ นางเข้าใจในท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 330

    วันนี้หรงจือจือถึงได้รู้ว่า อันที่จริงเฉินเยี่ยนซูคนผู้นี้ใจดำอำมหิตเป็นอย่างมาก บางทีก่อนหน้านี้ที่เขาไม่รู้จักเจียวเจียวอาจเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้ที่บิดเบือนความหมายของหรงเจียวเจียว เขาต้องจงใจเป็นแน่สายตาของทุกคนเองก็ตกไปที่ตัวหรงจือจือที่พวกเขากระแหนะกระแหนอยู่นานสองนานนี่...เหตุใดท่านเสนาบดีจัดการเรื่อง ไม่ให้หน้าหรงเจียวเจียวแม้แต่น้อยก็ช่างมันเถอะ ยังจะถามความเห็นของหรงจือจืออีก? นี่หากไม่รู้ ยังคิดว่าคู่ที่ดูตัวหมั้นหมายกัน เป็นหรงจือจือจริง ๆ เสียอีก!หรงจือจือทำทีท่าไม่เกี่ยวกับตน ตอบกลับชืด ๆ ว่า “เรื่องนี้ท่านเสนาบดีตัดสินใจก็พอเจ้าค่ะ”เฉินเยี่ยนซูพยักหน้า ก่อนจะกวาดสายตามองไปที่หรงเจียวเจียว “เจ้าแน่ใจหรือว่าจะถูกตบปากไปด้วย?”จากสายตาของเขา หรงเจียวเจียวมองออกว่า เขาพูดจริง และไม่ได้ล้อเล่นกับตน สีหน้าของนางก็ยิ่งซีดเผือดเข้าไปอีกนางรีบถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “ข้า...ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้นเจ้าค่ะ!”หลี่เซียงเหยามองพี่หญิงสามของตนอย่างยากจะเชื่อทีหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะตนช่วยนางพูด ก็คงไม่ตกมาอยู่ในขั้นนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่อยากแยแสตนเฉินเยี่ยนซูกวาดสา

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status