Share

6.เงาอดีต (2)

Author: rasita_suin
last update Last Updated: 2025-05-02 20:27:33

“เมื่อกี้พี่ต้องขอโทษปรางด้วยนะที่เข้าใจผิดว่าเป็นน้องก้อย”

“ไม่เป็นไรคะ”

พิมพ์ปรางตอบเสียงเบาแล้วก้มหน้า รู้สึกตัวเองหน้าร้อนผาว แม้จะไม่ได้คิดอะไรแต่เพราะไม่เคยมีผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ขนาดนี้ แม้จะคุ้นเคยกับปัฐวิกรมาตั้งแต่เด็ก ทว่านับตั้งแต่เขาไปเรียนต่างประเทศทั้งคู่ก็แทบจะไม่ได้พูดคุยกันเท่าไรนักแม้ชายหนุ่มจะกลับมาเยี่ยมบ้านปีละสองครั้งก็ตาม ความสนิทสนมเคยชินก็ไม่เท่ากับเมื่อก่อน แถมปัฐวิกรยังตัวโตสูงใหญ่ไหล่กว้างแตกต่างจากหลายปีก่อนมาก

“พี่ปัฐมองผิดก็ไม่แปลกหรอกค่ะ เพื่อนๆ ยังทักผิดประจำเลย ก้อยกับปรางเลยถักเปียให้ต่างกันทุกวัน เพื่อนเห็นข้างหลังจะได้เรียกถูกไงคะ”

กัญญานันจับผมเปียสองข้างของตนข้างหนึ่งชูให้พี่ชายดู ส่วนพิมพ์ปรางนั้นรวบผมไปถักเอาไว้ด้านหลังทั้งหมด

รูปร่างของสองสาวน้อยไม่ต่างกันแม้แต่น้อย ผมเองก็ยาวหนาสลวยเหมือนกัน เมื่อใส่ชุดนักเรียนเหมือนกันแบบนี้ต้องมองจากด้านหน้าจริงๆ ถึงจะแยกออก

“อ้าว พี่ปัฐมาดักเจอน้องก้อยก่อนซะแล้ว ผมอุตส่าห์กำชับยายจันทร์ว่ายังไม่ต้องบอก กะว่าจะเซอร์ไพรส์สักหน่อย”

ทั้งหมดมองไปตามเสียงแล้วชายหนุ่มที่รูปร่างสูงโปร่งดูบอบบางกว่าปัฐวิกรเล็กน้อยยืนล้วงกระเป๋าทำหน้าเซ็งอยู่หน้าประตู

“พี่กลางก็ แกล้งน้องอีกแล้ว ยายจันทร์ด้วยคนนะคะ ก้อยงอนแล้ว”

น้องคนสุดท้องของบ้านหน้างอจนยายจันทร์ต้องรีบมาเอาใจ

“โธ่ คุณหนูของยาย ก็คุณกลางไม่ยอมให้บอก ยายจะกล้าได้ยังไงล่ะคะ”

“ตามสบายเลยครับยาย โยนมาที่ผมได้เลย”

กิตติกรบอกพร้อมกับยักไหล่ไม่แคร์

“นายกลางพูดกับยายจันทร์แบบนั้นได้ยังไง”

ปัฐวิกรปรามน้องชายอีกฝ่ายก็ยังทำหน้าเฉย แต่เอ่ยขอโทษทั้งที่มือยังล้วงกระเป๋าเหมือนเดิมราวจำใจ

“ขอโทษครับยาย”

“โถ คุณกลาง ยายรู้ว่าคุณกลางล้อเล่น คุณปัฐก็อย่าดุคุณกลางเลยค่ะ อีกไม่กี่วันคุณกลางเองก็ต้องไปอยู่ไกลบ้านไกลเมืองอีกหลายปี รักกัน ใช้เวลาด้วยกันให้มากๆ ดีกว่านะคะ”

“ช่างเถอะครับยาย คนอย่างผมคงไม่มีใครสนใจหรือคิดถึงหรอก ไม่ใช่คนน่ารักใจดีเหมือนพี่ปัฐ”

พร้อมพูดสายตาคมก็กวาดมองทุกคน แต่ยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไร คุณรุจีรัตน์ก็เดินออกมา

“มาถึงกันตั้งนานแล้วนี่ยายก้อย ทำไมยังไม่เข้าบ้านสักที คุณพ่อกับน้องนางรอทานอาหารว่างอยู่รู้ไหม”

คนมาใหม่ดุลูกสาวคนเล็กทันทีตามความเคยชิน คนในบ้านต่างก็รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไรแต่ไม่มีใครพูดและไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้

“ค่ะ”

กัญญานันรับคำแล้วรีบก้าวขึ้นบันไดไปพร้อมกับพี่ชายคนโต ทั้งหมดเดินเข้าไปด้านหลังโดยมีกิตติกรยืนรอให้ทุกคนเข้าไปก่อน ชายหนุ่มเหลือบมองไปทางสาวน้อยที่ขยับไปพยุงยายของตัวเองแวบหนึ่งก่อนจะหันหลังตามทุกคนเข้าไปข้างใน

ไม่มีใครรู้ว่าเขาออกมาทันเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด

สายตาคมที่สบกับเธอชั่วครู่มีความไม่พอใจแฝงอยู่ พิมพ์ปรางบอกตัวเอง แม้กิตติกรไม่ได้สนิทสนมกับเธอเท่าปัฐวิกรแต่เขาก็มักจะมองเธออย่างเฉยเมยราวอยู่คนละชั้นมากกว่าจะดีกับเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเช่นพี่ชายของเขา เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นอีกฝ่ายมองเธอด้วยสายตาแบบนี้

วันพรุ่งนี้เป็นวันหยุดและวันพระยายจันทร์จึงเข้านอนเร็วกว่าปกติเพื่อจะได้ตื่นมาเตรียมอาหารไปวัดกับคนในบ้าน ทำให้ต้องตื่นเช้ากว่าทุกวัน พิมพ์ปรางเข้ามากอดแล้วก็หอมแก้มยายในห้องนอนก่อนจะออกไปทำการบ้าน เธอชอบทำการบ้านในคืนวันศุกร์จะได้ไม่ต้องมากังวลในวันเสาร์อาทิตย์ที่เป็นวันหยุด

“ให้ปรางตื่นช่วยไหมจ๊ะยาย”

“ไม่ต้องหรอกลูก นอนเถอะ เดี๋ยวจะไปวัดแล้วยายจะเรียก”

พิมพ์ปรางมักจะไปวัดในวันพระพร้อมกับยายจันทร์เสมอ โดยมีกัญญานันติดสอยห้อยตามไปด้วยเช่นกัน

“ฝนตก ยายห่มผ้าเลยนะ หลับแล้วจะได้ไม่หนาว”

เธอคลุมผ้าให้ยายแล้วก็ออกจากห้องไป

เมื่อออกมาข้างนอกแล้วก็ต้องสะดุ้งเพราะฟ้าแลบฟ้าร้อง ก่อนจะเห็นใครคนหนึ่งวิ่งผ่านหน้าบ้านไปโดยไม่มีร่มมาด้วย

“พี่พล พี่พล เดี๋ยวก่อน”

สาวน้อยชะเง้อเรียกอีกฝ่ายตรงหน้าต่างเพราะจำรูปร่างของเขาได้ พีรพลลูกชายของลุงพลคนขับรถที่น่าจะมาเยี่ยมพ่อกับแม่ซึ่งเป็นผู้ช่วยแม่บ้านที่อาศัยอยู่ในบ้านอรรถพันธ์พงศ์หยุดแล้วเดินมาที่หน้าบ้านเธอ ส่วนพิมพ์ปรางรีบไปคว้าร่มใกล้ๆ เปิดประตูเอาออกไปให้เขา

“พี่เอาร่มไปด้วยดีกว่า”

“ขอบใจ คิดว่าวิ่งออกไปแป๊บเดียวคงไม่เท่าไร ที่ไหนได้เปียกโชกเลย”

“จะไปปิดประตูบ้านเหรอจ๊ะ”

“ไปดูความเรียบร้อยอีกทีน่ะ พ่อบอกว่าปิดแล้วแหละ แต่พ่อก็มักจะเดินไปดูอีกทีก่อนจะนอน แต่วันนี้ฝนตกพี่เลยอาสาไปดูแทน”

“อ๋อ งั้นไปเถอะจ้ะ”

“เดี๋ยวพี่เอาร่มมาคืนนะ”

“ไว้พรุ่งนี้ก็ได้พี่ ฉันก็จะปิดบ้านนอนแล้วเหมือนกัน”

อีกฝ่ายพยักหน้าเข้าใจ รู้ว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมหากจะพบเจอกันในเวลาแบบนี้ แม้ชายหนุ่มจะเห็นพิมพ์ปรางมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ แถมยังเคยอุ้มอีกด้วย แต่สาวน้อยโตเกินกว่าที่เขาจะเข้าใกล้แล้ว พีรพลย้ายออกไปอยู่ที่อื่นตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแต่ยังกลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่บ่อยๆ ทั้งสองคนจึงได้พูดคุยทักทายกันอยู่เสมอ

พิมพ์ปรางปิดบ้านทั้งประตูและหน้าต่างหลังจากพีรพลไปแล้ว แล้วก็มานั่งทำการบ้านอยู่ตรงโซฟารับแขกกระทั่งเสร็จ สาวน้อยเปิดดูคลิปวิดีโอการแสดงรำต่างๆ ที่ตัวเองชื่นชอบผ่านอินเตอร์ไปเรื่อยๆ เพราะยังไม่ง่วง

ก็อกๆๆ

ในตอนแรกพิมพ์ปรางคิดว่าตัวเองหูแว่ว แต่เมื่อได้ยินเสียงเคาะที่ประตูอีกซ้ำๆ ก็รู้ว่ามีคนอยู่ด้านนอกจริงๆ ด้วยความที่ไม่คิดอะไรมากเพราะภายในบ้านอรรถพันธ์พงศ์ปลอดภัยดี เธอจึงเข้าใจไปว่าอาจจะเป็นพีรพลเอาร่มมาคืนทั้งที่ผ่านไปชั่วโมงหนึ่งแล้ว และฝนก็เบาลงมากเหลือเพียงแค่ปรอยเม็ดเล็กๆ เท่านั้น

สาวน้อยลุกขึ้นเดินไปยังประตูหน้าบ้านมือบางปลดกลอนและบิดลูกบิดเปิดออกพร้อมพูดขึ้น

“โธ่พี่พล บอกแล้วว่าเอามาคืนพรุ่งนี้ก็...”

ร่างสูงโปร่งที่ปรากฏตรงหน้าไม่ใช่พีรพลทำให้พิมพ์ปรางชะงักคำพูดลงเพียงเท่านั้น

====

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ใต้เงาบุษบา    7.รอยแผล

    คนตรงหน้าไม่พูดอะไรนอกจากจ้องหน้าเธอนิ่ง พิมพ์ปรางเองก็งุนงงว่าเขามาอยู่ตรงนี้ทำไม จึงนึกไม่ออกว่าควรจะพูดอะไรเช่นกันชายหนุ่มค่อยๆ ก้าวเข้ามาทำให้พิมพ์ปรางต้องถอยเข้าไปด้านในโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการสิ่งใด“เอ่อ...คุณ...กลาง”“ปิดประตู”“คะ?”ความสงสัยระคนมึนงงทำให้พิมพ์ปรางยังยืนนิ่ง ไม่ได้ทำตามที่อีกฝ่ายพูดแต่ถามกลับแทน“คุณมีอะไรจะให้ปรางทำเหรอคะ หรือว่ามาหายาย แต่ยายนอนแล้วนะคะ เพราะพรุ่งนี้ยายต้องไปวัด...”“บอกให้ปิดประตู”กิตติกรไม่ได้เสียงดัง เขาสั่งแบบราบเรียบแต่ก็ทำให้สาวน้อยอดหวาดหวั่นกับท่าทางแปลกๆ ของอีกฝ่ายไม่ได้ หากก็ไม่กล้าขัดจึงก้าวผ่านร่างสูงโปร่งไปยังประตู ปิดแล้วล็อกลงในที่สุด และยังไม่ทันหันหลังกลับก็ถูกรวบจากด้านหลัง พิมพ์ปรางจะกรีดร้องแต่ปากเล็กถูกมือของคนข้างหลังปิดไว้ฉับพลัน“หยุด อย่าเสียงดังนะ”“อื้อๆ”พิมพ์ปรางส่ายหน้าไปมา ร่างเล็กถูกรวบเข้าไปหาร่างสูง เนื้อตัวแตกต่างกันที่ปะทะมาด้านหลังก่อปฏิกิริยาแปลกประหลาดทำให้สาวน้อยถึงกับกลั้นหายใจ ก่อนร่างเล็กจะพยายามดิ้นเพราะแรงรัดจากชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกกลัวกิตติกรกำลังตัดสินใจ เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ตั้งแต่

    Last Updated : 2025-05-03
  • ใต้เงาบุษบา    8.ตราบาป (1)

    เช้ามืดของวันใหม่ยายจันทร์ออกจากห้องของตัวเองเพื่อไปจัดเตรียมอาหาร ในเรือนครัวมีแม่ครัวกับผู้ช่วยอยู่แล้ว แต่ยายจันทร์คือคนจัดการและออกคำสั่งเป็นเหมือนแม่บ้านใหญ่อีกที เพราะความที่เป็นแม่นมของคุณชายพงศกรและเลี้ยงดูหม่อมหลวงกัญญานันทุกคนบ้านจึงให้เกียรติ แม้แต่คุณรุจีรัตน์ที่แต่งเข้ามาก็ยังเคารพและฟังความคิดเห็นของยายจันทร์หลังดูแลความเรียบร้อยในครัวเรียบร้อยยายจันทร์ก็กลับมาเตรียมตัว เวลานี้ฟ้ายังไม่ทันสว่าง ขึ้นเรือนมาแล้วก็อดสังสัยไม่ได้เพราะมืดและเงียบผิดปกติ ทุกครั้งหากต้องไปวัดเวลานี้พิมพ์ปรางจะตื่นมาอาบน้ำแล้ว แต่คิดว่าให้นอนต่ออีกหน่อยก็น่าจะได้อยู่ ยายจึงไปเตรียมตัวเพื่อจะอาบน้ำก่อน พอออกจากห้องมาพร้อมเสื้อผ้าผลัดเปลี่ยนก็ต้องรีบถอยกลับเข้าห้องและปิดประตูเพราะเห็นใครคนหนึ่งออกจากห้องของหลานสาวใจยายจันทร์ร่วงลงไปอยู่ตาตุ่ม ไม่คิดว่าตัวเองจะมองผิดไป เพราะเพิ่งเปิดไฟตรงโถงนั่งเล่นเอาไว้เองทำให้เห็นรูปร่างกับโครงหน้าคนคนนั้นชัดเจน“คุณกลาง”ยายจันทร์รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหน้ามืด ต้องรีบนั่งลงเอนหลังพิงประตู มือวางทาบอกใจสั่นไปหมด ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้เข้า หลานสาวตัวเองกับ

    Last Updated : 2025-05-03
  • ใต้เงาบุษบา    8.ตราบาป (2)

    กิตติกรต้องเดินทางในอีกสองวันข้างหน้า ชายหนุ่มต้องเตรียมหลายอย่างทำให้ค่อนข้างยุ่ง ทั้งเรื่องเอกสาร ที่พัก และของบางส่วนที่ส่งไปก่อนจนตอนนี้เรียบร้อยแล้วถึงมีเวลาพักไม่กี่วันก่อนเดินทาง จึงตัดสินใจมาหายายจันทร์เพื่อกราบลา อย่างน้อยท่านก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่เมตตาและดูแลเขาอย่างดีรองจากพ่อแม่บ่ายแก่เป็นเวลาที่ยายจันทร์ดูแลเรื่องอาหารว่างเสร็จเมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าเรือนหัวใจก็กระตุก แต่พยายามสงบจิตใจ ทำใจให้เย็นเข้าไว้ คิดเพียงว่าอีกไม่กี่วันคุณกิตติกรก็จะไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองแล้ว ไม่ต้องมาคอยระแวงหรือห่วงอะไรเกี่ยวกับหลานสาวอีก เพราะนับตั้งแต่เช้าวันนั้นกว่ายายจันทร์จะหลับก็เลยค่อนคืนไปแล้วทุกที ท่านคอยเงี่ยหูฟังว่าจะมีเสียงอะไรหรือมีใครมากลางดึกหรือไม่ แถมยังตื่นก่อนหลานสาวและไปแนบหูฟังหน้าประตูทุกวัน แต่ทุกอย่างก็เงียบเชียบไม่มีอะไร ยังดีที่ไม่มีเรื่องบัดสีเกิดขึ้นซ้ำ ทว่าคนเป็นยายได้แต่พยายามทำใจและเก็บความทุกข์ใจไว้เพียงลำพัง หาทางออกสำหรับเรื่องนี้ไม่ได้“อ้าว คุณกลาง ใกล้เวลาอาหารว่างนะคะ ทำไมมานั่งอยู่หน้าเรือนยายล่ะคะ”ยายจันทร์ทักไปด้วยสีหน้าฝืนยิ้มให้เป็น

    Last Updated : 2025-05-03
  • ใต้เงาบุษบา    9.ไม่ใช่คนของบ้านอรรถพันธ์พงศ์อีกต่อไป (1)

    “ปราง ได้ยินไหม ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าเธอไม่มาเปิดประตู ฉันจะเคาะให้ยายเธอตื่นเลย”มือบางกำแน่นจนสั่น กลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากตนเองไปเปิดประตูให้ชายหนุ่มก็กลัว กลัวว่าเขาจะทำเสียงดังจนยายได้ยินก็กลัว ทั้งที่ยังไม่รู้จะทำอย่างไรแต่พอได้ยินเสียงอีกฝ่ายนับหนึ่ง ร่างแบบบางก็รีบเปิดประตูห้องตัวเองออกไปอย่างแผ่วเบา“สอง...”สาวน้อยเหงื่อซึมไปทั่วทั้งตัว หวาดกลัวกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ หากก็ไม่สามารถขัดคำสั่งชายหนุ่มได้“สาม”เสียงนับดังพร้อมกับประตูบ้านเปิดออก ก่อนคนตัวเล็กจะรีบถอยหนีทันทีเมื่อชายหนุ่มเข้ามาด้านใน“เชื่อฟังดี”เขาบอกแล้วเดินนำตรงไปทางห้องของเธอ พิมพ์ปรางเลิ่กลั่กหากก็รีบปิดประตู จำใจก้าวตามอีกฝ่าย ก้าวแต่ละก้าวหนักอึ้งเหลือเกินแต่จะยืนคุยข้างนอกก็กลัวว่าเสียงจะไปถึงในห้องยายหลังจากมาอยู่ในห้องกันทั้งคู่แล้วกิตติกรก็ก้าวเข้ามาใกล้ร่างเล็ก แต่พิมพ์ปรางรีบทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ายกเมือไหว้เขาทันที“อย่าทำปรางเลยนะคะคุณกลาง”สิ่งที่เห็นทำให้กิตติกรถึงกับชะงัก ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะทำถึงขนาดนี้ ใบหน้าเล็กที่เงยมองเขามีหยาดน้ำตาค่อยๆ รินไหลโดยไม่ได้บีบน้ำตาแม้แต่น้อย มันไหลออกมา

    Last Updated : 2025-05-04
  • ใต้เงาบุษบา    9.ไม่ใช่คนของบ้านอรรถพันธ์พงศ์อีกต่อไป (2)

    “ออกไปจากบ้านนี้ซะ”พิมพ์ปรางตาโตหลังได้ยินประโยคนี้ก่อนจะทรุดลงกับพื้น เธอเปิดประตูออกมาเจอยายยืนอยู่หลังจากเตรียมตัวที่จะไปโรงเรียนเรียบร้อย และคำแรกที่ยายพูดก็ทำเอาหัวใจสาวน้อยสลาย“ยาย”“ไปจากที่นี่ซะ ยายทนให้แกกินบนเรือนขี้รดบนหลังคาคุณชายต่อไปไม่ได้อีกแล้ว”เมื่อคืนยายจันทร์ออกมาเข้าห้องน้ำแล้วก็ได้ยินเสียงคุยกันในห้องหลานสาว ด้วยความที่กิตติกรเป็นลูกท่านทำให้ยายจันทร์ไม่กล้าหักหาญแตกหัก จึงได้แต่เดินกลับห้องน้ำตานองหน้า แล้วก็หลับไม่ลงทั้งคืนด้วยความปวดใจในสิ่งที่หลานสาวตัวเองทำ ก่อนจะตัดสินใจในที่สุดว่าต้องจัดการให้เด็ดขาด“ยายจ๋า”พิมพ์ปรางขยับเข้าไปจับมือยายอย่างขอร้อง เธอรู้สึกผิด กลัว รวมทั้งเจ็บปวดเสียใจในคราวเดียว น้ำตายายที่เอ่อคลอทำเอาคนเป็นหลานรู้สึกอกอัดแน่นหายใจแทบไม่ออก“แกมันอกตัญญูจริงๆ ที่ยายสอนไปไม่จำเลยหรือไง ทำไมยังทำอีก แบบนี้ยายจะมีหน้าที่ไหนไปมองคุณชายท่าน เรามันก็แค่ขี้ข้า แกทำแบบนี้ได้ยังไง”คนเป็นยายสะบัดมือหลานสาวทิ้ง อีกฝ่ายจึงรีบกอดขาทันที“ปรางขอโทษจ้ะยาย”น้ำตาสาวน้อยไหลพราก เธอพูดอะไรไม่ออก ถึงจะอธิบายยายก็คงไม่ฟัง เพราะยังไงเรื่องระหว่างเธอกับคุณ

    Last Updated : 2025-05-04
  • ใต้เงาบุษบา    10.สัญญาก็คือสัญญา (1)

    “อะไรนะคะ ปรางจะออกไปอยู่หอที่โรงเรียนเหรอ”กัญญานันตกใจกับคำบอกของยายจันทร์ เพราะเห็นเพื่อนและยายช่วยกันถือกระเป๋าเสื้อผ้ามาสองใบด้วยความแปลกใจจึงถามแล้วก็ต้องตกใจกับคำตอบที่ได้“ใช่ค่ะ”เป็นยายจันทร์ที่เป็นคนตอบ ขณะเดียวกันก็หันไปกวักมือเรียกให้คนขับรถมาเอากระเป๋าของหลานสาวไปใส่ท้ายรถ“ทำไมอยู่ๆ ปรางก็จะไปอยู่หอล่ะ ไม่เห็นเคยบอกอะไรก้อยเลย”พิมพ์ปรางอึกอัก เธอไม่ใช่คนที่โกหกหรือพลิกแพลงเก่ง พอถูกถามกะทันหันก็ไม่รู้จะตอบคนที่เป็นทั้งเพื่อนทั้งเจ้านายอย่างไร“ยายอยากให้ปรางมีเวลาอ่านหนังสือเยอะๆ น่ะค่ะคุณก้อย ตั้งแต่ขึ้นมอปลายก็ต้องซ้อมรำ ต้องออกงานบ่อยๆ ยายเห็นว่าพักที่หอของโรงเรียนน่าจะสะดวกกว่ากลับมาบ้านทุกวันแบบนี้”“ก้อยก็ทำเหมือนกัน ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนี่นา ปรางไปกลับกับก้อยทุกวันสะดวกออกค่ะ”“โถ คุณก้อยฉลาด แต่ปรางน่ะต้องอ่านหลังสือตั้งหลายรอบกว่าจะเข้าหัว ยายไม่ห้ามถ้าอยากเรียนรำเรียนฟ้อน แต่ยายก็ไม่อยากให้เสียการเรียนเหมือนกัน มีวิชาติดตัวจะได้เอาตัวรอดได้”ยายจันทร์อธิบายเป็นเรื่องเป็นราวจนพิมพ์ปรางเองยังทึ่ง ตาแดงๆ หันมองยายตัวเองสลับกับกัญญานันไปมาอย่างทำตัวไม่ถูก พอเธอรั

    Last Updated : 2025-05-05
  • ใต้เงาบุษบา    10.สัญญาก็คือสัญญา (2)

    พิมพ์ปรางถึงกับตัวแข็งเมื่อเห็นคนคนหนึ่งเดินตรงมาหาพร้อมกับลุงพลคนขับรถของบ้านอรรถพันธ์พงศ์“พี่กลาง”กัญญานันทักทายพี่ชายพร้อมรอยยิ้ม สองสาวเก็บของเสร็จแล้วออกมาจากห้องแต่งตัวหลังจบการแสดงของตัวเองพร้อมกระเป๋าใบย่อม“มารอนานหรือยังคะ”“สักพักแล้วครับ พี่ได้ดูที่น้องก้อยแสดงด้วย ใครๆ ก็ชมว่าบุษบาสวยกันทั้งนั้น”“ปรางก็สวยค่ะ เนอะ”สาวน้อยบอกพี่ชายแล้วกระแทกไหล่บางของเพื่อนเบาๆ เพราะนางจินตะหราที่พิมพ์ปรางแสดงนั้นก็เป็นที่ชื่นชอบไม่น้อยเลย ถือว่าประสบความสำเร็จในการแสดงละครรำครั้งแรกของพวกเธอ แต่อีกฝ่ายไม่ตอบรับอะไร เพียงแค่ยกมือไหว้กิตติกรกับคนขับรถเท่านั้นกิตติกรเองก็ไม่แสดงสีหน้าใดๆ แม้จะนึกขุ่นเคืองกับคำชมแสนปลาบปลื้มนางจินตะหราที่เขาได้ยินจากบรรดานักเรียนวัยรุ่นที่นั่งใกล้ๆ ก็ตาม พอได้เห็นหน้าพิมพ์ปรางอาการหวงของของเขาก็กลับมาอีกครั้งแน่นอนว่าสาวน้อยใบหน้าผ่องใสในตอนนี้ขณะที่อยู่บนเวทีและแต่งหน้าจัดเต็มกลับกลายเป็นสาวสวยหมดจดตรึงตาตรึงใจจนใครๆ ก็ต้องจดจ้องไม่วางตา รวมทั้งเขาเองด้วย“ขึ้นรถเถอะ จะได้ไปรับเพื่อนๆ พี่ต่อ นัดพวกเขาเอาไว้บ่ายโมง”เมื่อชายหนุ่มบอก คนขับรถจึงเดินมาช่วย

    Last Updated : 2025-05-05
  • ใต้เงาบุษบา    11.ไม่ชอบนอนกับคนเมา (1)

    ช่วงมื้อเย็นจัดเป็นสองโต๊ะ กัญญานันกับพิมพ์ปรางร่วมโต๊ะเดียวกันกับกิตติกรโดยมีเพื่อนที่ชื่อต่อของเขารวมด้วย นั่นทำให้พิมพ์ปรางมักจะตัวเกร็งเสมอเวลาที่ต่อหันมาคุยกับเธอ กระทั่งเลยสี่ทุ่มมาแล้วสองสาวน้อยจึงชวนกันกลับห้องพัก“ก้อยกับปรางกลับห้องก่อนนะคะพี่กลาง”“ครับ”ชายหนุ่มมองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะตอบรับเมื่อสองสาวคล้อยหลัง กลุ่มหนุ่มสาวก็ยังนั่งดื่มนั่งคุยกันอย่างออกรสจนถึงเที่ยงคืนจึงค่อยๆ แยกย้ายไปทีละคนสองคนสักพักกิตติกรก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทำให้สาวร่างอวบอิ่มลุกตามด้วย กระทั่งกำลังจะเข้าไปในบ้านพักชายหนุ่มจึงพูดขึ้น“แอนเดรียนอนที่นี่คนเดียวก็แล้วกันนะ”“ทำไม”แอนเดรียขยับตัวเข้ามาเบียดหน้าอกหน้าใจกับต้นแขนเขาแต่กิตติกรไม่มีอารมณ์ร่วมด้วย วันนี้สาวสวยดื่มหนักเกินไป เขาไม่ชอบกลิ่นเบียร์จากปากผู้หญิงที่จูบ แม้กลิ่นจางๆ อาจจะดูเย้ายวนแต่พอดื่มจนเมาแล้วมันกลายเป็นคนละเรื่องสำหรับเขาไปเลย กิตติกรมักจะนอนไม่หลับถ้าได้กลิ่นฉุนแอลกอฮอล์เพราะนิสัยตัวเองก็ไม่ค่อยดื่มจนเมาหัวราน้ำ เขามีลิมิตในการดื่ม ถ้าตัวมีกลิ่นฉุนติดจมูกยังอาบน้ำก่อนนอนด้วยซ้ำ พูดง่ายๆ คือไม่ชอบนอนกับคนเมา“วันนี้เหนื่อยน่ะ

    Last Updated : 2025-05-06

Latest chapter

  • ใต้เงาบุษบา    11.ไม่ชอบนอนกับคนเมา (2)

    สาวน้อยเผชิญหน้ากับคนตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่น ขณะที่ชายหนุ่มกวาดมองเธอด้วยสายตาไม่พอใจ“ทำไมมาช้า”“รอคุณก้อยหลับค่ะ”คำตอบแทบจะเป็นเสียงกระซิบ แต่กิตติกรก็พอใจ อย่างน้อยพิมพ์ปรางก็ยังฟังคำสั่งเขา ชายหนุ่มดึงอีกฝ่ายเข้ามาหาตัวแต่มือบางรีบดันอกเขาเอาไว้ ดวงหน้าเล็กซีดลงจนหน้าใจหาย“เอ่อ คุณกลางคะ”“เธอผิดสัญญา”“ไม่มีใครมายุ่งกับปราง...”สาวน้อยมีสีหน้าทั้งงงทั้งกลัวระคนกัน“ก็ไอ้ต่อไง”“เราแค่คุยกัน เขาเก็บของคุณก้อยได้ แล้วคิดว่าเป็นของปรางก็เลยเอามาคืน”เธอรีบอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ“อย่าบอกนะว่าเธอดูไม่ออกว่าไอ้ต่อมันคิดจะทำอะไร”คนตัวเล็กตรงหน้ามีสีหน้าไม่เข้าใจ และมันยิ่งทำให้กิตติกรหงุดหงิด“นี่ฟังนะ มันจะจีบเธอ ไม่งั้นมันไม่ชวนคุย ไม่ช่วยแกะกุ้งแกะปู ตักนั่นนี่ให้หรอก”พิมพ์ปรางอ้าปากค้าง คาดไม่ถึง เธอเข้าใจว่าเพื่อนของเขาเป็นคนใจดีมากกว่าจะมาสนใจเด็กอย่างเธอ“เพราะฉะนั้นฉันถึงต้องเตือนความจำเจอเธอไง”พอพูดจบกิตติกรก็โน้มหน้าลงมาหาแต่พิมพ์ปรางรีบหลบ อีกฝ่ายจึงเปลี่ยนไปหอมแก้มแล้วระเรื่อยลงไปยังลำคอแทน ร่างเล็กตัวสั่นเทาขึ้นมาทันที“อย่านะคะ อย่าทำแบบนี้ค่ะ”“ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าไ

  • ใต้เงาบุษบา    11.ไม่ชอบนอนกับคนเมา (1)

    ช่วงมื้อเย็นจัดเป็นสองโต๊ะ กัญญานันกับพิมพ์ปรางร่วมโต๊ะเดียวกันกับกิตติกรโดยมีเพื่อนที่ชื่อต่อของเขารวมด้วย นั่นทำให้พิมพ์ปรางมักจะตัวเกร็งเสมอเวลาที่ต่อหันมาคุยกับเธอ กระทั่งเลยสี่ทุ่มมาแล้วสองสาวน้อยจึงชวนกันกลับห้องพัก“ก้อยกับปรางกลับห้องก่อนนะคะพี่กลาง”“ครับ”ชายหนุ่มมองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะตอบรับเมื่อสองสาวคล้อยหลัง กลุ่มหนุ่มสาวก็ยังนั่งดื่มนั่งคุยกันอย่างออกรสจนถึงเที่ยงคืนจึงค่อยๆ แยกย้ายไปทีละคนสองคนสักพักกิตติกรก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทำให้สาวร่างอวบอิ่มลุกตามด้วย กระทั่งกำลังจะเข้าไปในบ้านพักชายหนุ่มจึงพูดขึ้น“แอนเดรียนอนที่นี่คนเดียวก็แล้วกันนะ”“ทำไม”แอนเดรียขยับตัวเข้ามาเบียดหน้าอกหน้าใจกับต้นแขนเขาแต่กิตติกรไม่มีอารมณ์ร่วมด้วย วันนี้สาวสวยดื่มหนักเกินไป เขาไม่ชอบกลิ่นเบียร์จากปากผู้หญิงที่จูบ แม้กลิ่นจางๆ อาจจะดูเย้ายวนแต่พอดื่มจนเมาแล้วมันกลายเป็นคนละเรื่องสำหรับเขาไปเลย กิตติกรมักจะนอนไม่หลับถ้าได้กลิ่นฉุนแอลกอฮอล์เพราะนิสัยตัวเองก็ไม่ค่อยดื่มจนเมาหัวราน้ำ เขามีลิมิตในการดื่ม ถ้าตัวมีกลิ่นฉุนติดจมูกยังอาบน้ำก่อนนอนด้วยซ้ำ พูดง่ายๆ คือไม่ชอบนอนกับคนเมา“วันนี้เหนื่อยน่ะ

  • ใต้เงาบุษบา    10.สัญญาก็คือสัญญา (2)

    พิมพ์ปรางถึงกับตัวแข็งเมื่อเห็นคนคนหนึ่งเดินตรงมาหาพร้อมกับลุงพลคนขับรถของบ้านอรรถพันธ์พงศ์“พี่กลาง”กัญญานันทักทายพี่ชายพร้อมรอยยิ้ม สองสาวเก็บของเสร็จแล้วออกมาจากห้องแต่งตัวหลังจบการแสดงของตัวเองพร้อมกระเป๋าใบย่อม“มารอนานหรือยังคะ”“สักพักแล้วครับ พี่ได้ดูที่น้องก้อยแสดงด้วย ใครๆ ก็ชมว่าบุษบาสวยกันทั้งนั้น”“ปรางก็สวยค่ะ เนอะ”สาวน้อยบอกพี่ชายแล้วกระแทกไหล่บางของเพื่อนเบาๆ เพราะนางจินตะหราที่พิมพ์ปรางแสดงนั้นก็เป็นที่ชื่นชอบไม่น้อยเลย ถือว่าประสบความสำเร็จในการแสดงละครรำครั้งแรกของพวกเธอ แต่อีกฝ่ายไม่ตอบรับอะไร เพียงแค่ยกมือไหว้กิตติกรกับคนขับรถเท่านั้นกิตติกรเองก็ไม่แสดงสีหน้าใดๆ แม้จะนึกขุ่นเคืองกับคำชมแสนปลาบปลื้มนางจินตะหราที่เขาได้ยินจากบรรดานักเรียนวัยรุ่นที่นั่งใกล้ๆ ก็ตาม พอได้เห็นหน้าพิมพ์ปรางอาการหวงของของเขาก็กลับมาอีกครั้งแน่นอนว่าสาวน้อยใบหน้าผ่องใสในตอนนี้ขณะที่อยู่บนเวทีและแต่งหน้าจัดเต็มกลับกลายเป็นสาวสวยหมดจดตรึงตาตรึงใจจนใครๆ ก็ต้องจดจ้องไม่วางตา รวมทั้งเขาเองด้วย“ขึ้นรถเถอะ จะได้ไปรับเพื่อนๆ พี่ต่อ นัดพวกเขาเอาไว้บ่ายโมง”เมื่อชายหนุ่มบอก คนขับรถจึงเดินมาช่วย

  • ใต้เงาบุษบา    10.สัญญาก็คือสัญญา (1)

    “อะไรนะคะ ปรางจะออกไปอยู่หอที่โรงเรียนเหรอ”กัญญานันตกใจกับคำบอกของยายจันทร์ เพราะเห็นเพื่อนและยายช่วยกันถือกระเป๋าเสื้อผ้ามาสองใบด้วยความแปลกใจจึงถามแล้วก็ต้องตกใจกับคำตอบที่ได้“ใช่ค่ะ”เป็นยายจันทร์ที่เป็นคนตอบ ขณะเดียวกันก็หันไปกวักมือเรียกให้คนขับรถมาเอากระเป๋าของหลานสาวไปใส่ท้ายรถ“ทำไมอยู่ๆ ปรางก็จะไปอยู่หอล่ะ ไม่เห็นเคยบอกอะไรก้อยเลย”พิมพ์ปรางอึกอัก เธอไม่ใช่คนที่โกหกหรือพลิกแพลงเก่ง พอถูกถามกะทันหันก็ไม่รู้จะตอบคนที่เป็นทั้งเพื่อนทั้งเจ้านายอย่างไร“ยายอยากให้ปรางมีเวลาอ่านหนังสือเยอะๆ น่ะค่ะคุณก้อย ตั้งแต่ขึ้นมอปลายก็ต้องซ้อมรำ ต้องออกงานบ่อยๆ ยายเห็นว่าพักที่หอของโรงเรียนน่าจะสะดวกกว่ากลับมาบ้านทุกวันแบบนี้”“ก้อยก็ทำเหมือนกัน ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนี่นา ปรางไปกลับกับก้อยทุกวันสะดวกออกค่ะ”“โถ คุณก้อยฉลาด แต่ปรางน่ะต้องอ่านหลังสือตั้งหลายรอบกว่าจะเข้าหัว ยายไม่ห้ามถ้าอยากเรียนรำเรียนฟ้อน แต่ยายก็ไม่อยากให้เสียการเรียนเหมือนกัน มีวิชาติดตัวจะได้เอาตัวรอดได้”ยายจันทร์อธิบายเป็นเรื่องเป็นราวจนพิมพ์ปรางเองยังทึ่ง ตาแดงๆ หันมองยายตัวเองสลับกับกัญญานันไปมาอย่างทำตัวไม่ถูก พอเธอรั

  • ใต้เงาบุษบา    9.ไม่ใช่คนของบ้านอรรถพันธ์พงศ์อีกต่อไป (2)

    “ออกไปจากบ้านนี้ซะ”พิมพ์ปรางตาโตหลังได้ยินประโยคนี้ก่อนจะทรุดลงกับพื้น เธอเปิดประตูออกมาเจอยายยืนอยู่หลังจากเตรียมตัวที่จะไปโรงเรียนเรียบร้อย และคำแรกที่ยายพูดก็ทำเอาหัวใจสาวน้อยสลาย“ยาย”“ไปจากที่นี่ซะ ยายทนให้แกกินบนเรือนขี้รดบนหลังคาคุณชายต่อไปไม่ได้อีกแล้ว”เมื่อคืนยายจันทร์ออกมาเข้าห้องน้ำแล้วก็ได้ยินเสียงคุยกันในห้องหลานสาว ด้วยความที่กิตติกรเป็นลูกท่านทำให้ยายจันทร์ไม่กล้าหักหาญแตกหัก จึงได้แต่เดินกลับห้องน้ำตานองหน้า แล้วก็หลับไม่ลงทั้งคืนด้วยความปวดใจในสิ่งที่หลานสาวตัวเองทำ ก่อนจะตัดสินใจในที่สุดว่าต้องจัดการให้เด็ดขาด“ยายจ๋า”พิมพ์ปรางขยับเข้าไปจับมือยายอย่างขอร้อง เธอรู้สึกผิด กลัว รวมทั้งเจ็บปวดเสียใจในคราวเดียว น้ำตายายที่เอ่อคลอทำเอาคนเป็นหลานรู้สึกอกอัดแน่นหายใจแทบไม่ออก“แกมันอกตัญญูจริงๆ ที่ยายสอนไปไม่จำเลยหรือไง ทำไมยังทำอีก แบบนี้ยายจะมีหน้าที่ไหนไปมองคุณชายท่าน เรามันก็แค่ขี้ข้า แกทำแบบนี้ได้ยังไง”คนเป็นยายสะบัดมือหลานสาวทิ้ง อีกฝ่ายจึงรีบกอดขาทันที“ปรางขอโทษจ้ะยาย”น้ำตาสาวน้อยไหลพราก เธอพูดอะไรไม่ออก ถึงจะอธิบายยายก็คงไม่ฟัง เพราะยังไงเรื่องระหว่างเธอกับคุณ

  • ใต้เงาบุษบา    9.ไม่ใช่คนของบ้านอรรถพันธ์พงศ์อีกต่อไป (1)

    “ปราง ได้ยินไหม ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าเธอไม่มาเปิดประตู ฉันจะเคาะให้ยายเธอตื่นเลย”มือบางกำแน่นจนสั่น กลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากตนเองไปเปิดประตูให้ชายหนุ่มก็กลัว กลัวว่าเขาจะทำเสียงดังจนยายได้ยินก็กลัว ทั้งที่ยังไม่รู้จะทำอย่างไรแต่พอได้ยินเสียงอีกฝ่ายนับหนึ่ง ร่างแบบบางก็รีบเปิดประตูห้องตัวเองออกไปอย่างแผ่วเบา“สอง...”สาวน้อยเหงื่อซึมไปทั่วทั้งตัว หวาดกลัวกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ หากก็ไม่สามารถขัดคำสั่งชายหนุ่มได้“สาม”เสียงนับดังพร้อมกับประตูบ้านเปิดออก ก่อนคนตัวเล็กจะรีบถอยหนีทันทีเมื่อชายหนุ่มเข้ามาด้านใน“เชื่อฟังดี”เขาบอกแล้วเดินนำตรงไปทางห้องของเธอ พิมพ์ปรางเลิ่กลั่กหากก็รีบปิดประตู จำใจก้าวตามอีกฝ่าย ก้าวแต่ละก้าวหนักอึ้งเหลือเกินแต่จะยืนคุยข้างนอกก็กลัวว่าเสียงจะไปถึงในห้องยายหลังจากมาอยู่ในห้องกันทั้งคู่แล้วกิตติกรก็ก้าวเข้ามาใกล้ร่างเล็ก แต่พิมพ์ปรางรีบทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ายกเมือไหว้เขาทันที“อย่าทำปรางเลยนะคะคุณกลาง”สิ่งที่เห็นทำให้กิตติกรถึงกับชะงัก ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะทำถึงขนาดนี้ ใบหน้าเล็กที่เงยมองเขามีหยาดน้ำตาค่อยๆ รินไหลโดยไม่ได้บีบน้ำตาแม้แต่น้อย มันไหลออกมา

  • ใต้เงาบุษบา    8.ตราบาป (2)

    กิตติกรต้องเดินทางในอีกสองวันข้างหน้า ชายหนุ่มต้องเตรียมหลายอย่างทำให้ค่อนข้างยุ่ง ทั้งเรื่องเอกสาร ที่พัก และของบางส่วนที่ส่งไปก่อนจนตอนนี้เรียบร้อยแล้วถึงมีเวลาพักไม่กี่วันก่อนเดินทาง จึงตัดสินใจมาหายายจันทร์เพื่อกราบลา อย่างน้อยท่านก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่เมตตาและดูแลเขาอย่างดีรองจากพ่อแม่บ่ายแก่เป็นเวลาที่ยายจันทร์ดูแลเรื่องอาหารว่างเสร็จเมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าเรือนหัวใจก็กระตุก แต่พยายามสงบจิตใจ ทำใจให้เย็นเข้าไว้ คิดเพียงว่าอีกไม่กี่วันคุณกิตติกรก็จะไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองแล้ว ไม่ต้องมาคอยระแวงหรือห่วงอะไรเกี่ยวกับหลานสาวอีก เพราะนับตั้งแต่เช้าวันนั้นกว่ายายจันทร์จะหลับก็เลยค่อนคืนไปแล้วทุกที ท่านคอยเงี่ยหูฟังว่าจะมีเสียงอะไรหรือมีใครมากลางดึกหรือไม่ แถมยังตื่นก่อนหลานสาวและไปแนบหูฟังหน้าประตูทุกวัน แต่ทุกอย่างก็เงียบเชียบไม่มีอะไร ยังดีที่ไม่มีเรื่องบัดสีเกิดขึ้นซ้ำ ทว่าคนเป็นยายได้แต่พยายามทำใจและเก็บความทุกข์ใจไว้เพียงลำพัง หาทางออกสำหรับเรื่องนี้ไม่ได้“อ้าว คุณกลาง ใกล้เวลาอาหารว่างนะคะ ทำไมมานั่งอยู่หน้าเรือนยายล่ะคะ”ยายจันทร์ทักไปด้วยสีหน้าฝืนยิ้มให้เป็น

  • ใต้เงาบุษบา    8.ตราบาป (1)

    เช้ามืดของวันใหม่ยายจันทร์ออกจากห้องของตัวเองเพื่อไปจัดเตรียมอาหาร ในเรือนครัวมีแม่ครัวกับผู้ช่วยอยู่แล้ว แต่ยายจันทร์คือคนจัดการและออกคำสั่งเป็นเหมือนแม่บ้านใหญ่อีกที เพราะความที่เป็นแม่นมของคุณชายพงศกรและเลี้ยงดูหม่อมหลวงกัญญานันทุกคนบ้านจึงให้เกียรติ แม้แต่คุณรุจีรัตน์ที่แต่งเข้ามาก็ยังเคารพและฟังความคิดเห็นของยายจันทร์หลังดูแลความเรียบร้อยในครัวเรียบร้อยยายจันทร์ก็กลับมาเตรียมตัว เวลานี้ฟ้ายังไม่ทันสว่าง ขึ้นเรือนมาแล้วก็อดสังสัยไม่ได้เพราะมืดและเงียบผิดปกติ ทุกครั้งหากต้องไปวัดเวลานี้พิมพ์ปรางจะตื่นมาอาบน้ำแล้ว แต่คิดว่าให้นอนต่ออีกหน่อยก็น่าจะได้อยู่ ยายจึงไปเตรียมตัวเพื่อจะอาบน้ำก่อน พอออกจากห้องมาพร้อมเสื้อผ้าผลัดเปลี่ยนก็ต้องรีบถอยกลับเข้าห้องและปิดประตูเพราะเห็นใครคนหนึ่งออกจากห้องของหลานสาวใจยายจันทร์ร่วงลงไปอยู่ตาตุ่ม ไม่คิดว่าตัวเองจะมองผิดไป เพราะเพิ่งเปิดไฟตรงโถงนั่งเล่นเอาไว้เองทำให้เห็นรูปร่างกับโครงหน้าคนคนนั้นชัดเจน“คุณกลาง”ยายจันทร์รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหน้ามืด ต้องรีบนั่งลงเอนหลังพิงประตู มือวางทาบอกใจสั่นไปหมด ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้เข้า หลานสาวตัวเองกับ

  • ใต้เงาบุษบา    7.รอยแผล

    คนตรงหน้าไม่พูดอะไรนอกจากจ้องหน้าเธอนิ่ง พิมพ์ปรางเองก็งุนงงว่าเขามาอยู่ตรงนี้ทำไม จึงนึกไม่ออกว่าควรจะพูดอะไรเช่นกันชายหนุ่มค่อยๆ ก้าวเข้ามาทำให้พิมพ์ปรางต้องถอยเข้าไปด้านในโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการสิ่งใด“เอ่อ...คุณ...กลาง”“ปิดประตู”“คะ?”ความสงสัยระคนมึนงงทำให้พิมพ์ปรางยังยืนนิ่ง ไม่ได้ทำตามที่อีกฝ่ายพูดแต่ถามกลับแทน“คุณมีอะไรจะให้ปรางทำเหรอคะ หรือว่ามาหายาย แต่ยายนอนแล้วนะคะ เพราะพรุ่งนี้ยายต้องไปวัด...”“บอกให้ปิดประตู”กิตติกรไม่ได้เสียงดัง เขาสั่งแบบราบเรียบแต่ก็ทำให้สาวน้อยอดหวาดหวั่นกับท่าทางแปลกๆ ของอีกฝ่ายไม่ได้ หากก็ไม่กล้าขัดจึงก้าวผ่านร่างสูงโปร่งไปยังประตู ปิดแล้วล็อกลงในที่สุด และยังไม่ทันหันหลังกลับก็ถูกรวบจากด้านหลัง พิมพ์ปรางจะกรีดร้องแต่ปากเล็กถูกมือของคนข้างหลังปิดไว้ฉับพลัน“หยุด อย่าเสียงดังนะ”“อื้อๆ”พิมพ์ปรางส่ายหน้าไปมา ร่างเล็กถูกรวบเข้าไปหาร่างสูง เนื้อตัวแตกต่างกันที่ปะทะมาด้านหลังก่อปฏิกิริยาแปลกประหลาดทำให้สาวน้อยถึงกับกลั้นหายใจ ก่อนร่างเล็กจะพยายามดิ้นเพราะแรงรัดจากชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกกลัวกิตติกรกำลังตัดสินใจ เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ตั้งแต่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status