LOGIN“ไม่เห็นมีใครถามความเห็นจากผมเลย ถ้าต้องไปเรียนผมต้องเตรียมตัวหลายอย่างมาก แล้วทำไมต้องไปที่เดียวกับแบม ในเมื่อที่อื่นก็มี ในไทยก็เรียนได้ มีมหาวิทยาลัยดีๆก็เยอะ ที่ผมเรียนอยู่ก็มี ป.โท ชื่อเสียงก็ระดับประเทศ”
“ลูกคบกับลูกสาวของนังชู้ใช่มั้ย? ถึงไปบอกเลิกแบม บอกแม่ตามตรงธี แม่ก็คือแม่นะ อย่าโกหก” “ผมรู้สึกมาปีกว่าๆแล้วว่าผมกับแบมความสัมพันธ์มันถอยหลัง ไม่คืบหน้า เราต่างคนต่างอยู่มีแค่โทรคุยกันสั้นๆถึงจะทุกวันก็ตาม ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น” “พ่อของลูกบอกแม่ว่า ทางนั้นเองก็ไม่เห็นด้วยเรื่องคบหากัน ถ้าลูกและนังเด็กนั่นพยายามที่จะดื้อรั้น พ่อจะยกทุกอย่างให้ลูกใหม่ที่จะเกิดกับอีนั่น ธี..แม่ขอร้องเถอะ มันคือสิทธิ์ของลูก อย่าให้ใครมาแย่งกิจการที่ต้องเป็นของลูกไป โดยเฉพาะลูกชู้นั่น” “แม่หยุดเรียกพวกเขาแบบนั้นได้มั้ยครับ?” “ตกลงจะไม่เลิกกับมันใช่มั้ย?” “แม่พูดอะไร น้องยังเด็กกำลังจะสิบหก” “ทำเพื่อแม่ได้มั้ยธี? แม่เสียครอบครัว เสียสามีให้นังนั่นไปแล้ว แม่ต้องทนดูลูกเสียกิจการของพ่อไปอีกไม่ได้นะ เอางี้..เรื่องเด็กนั่น ถ้าลูกอยากคบ ก็รอให้เด็กอายุสักยี่สิบเป็นไง ช่วงนี้ก็เออๆออๆกับพ่อไปก่อน จนกว่าเขาจะยกทุกอย่างให้ลูกชัวร์ๆแล้วค่อยคบกันก็ได้” “ผมขอคิดดูก่อนเรื่องไปเรียนที่ต่างประเทศ ส่วนเรื่องอื่นมันไม่ได้ต้องหยิบมาพูดขนาดนั้น” ธีทัตผละจากแม่เพื่อขึ้นไปสงบจิตใจบนห้อง จนกระทั่งเย็นวันอาทิตย์ แม่บ้านสาวก็กลับมาจากไปเยี่ยมแม่ที่ต่างจังหวัด โดยไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวว่าตัวเองจะถูกอัปเปหิ ฟ้าส่งข้อความไปให้ชรันว่าเธอกลับมาแล้วตามหน้าที่ ชรันจึงส่งข้อความกลับว่ามีเรื่องจะคุยด้วย “พิชา คุณขึ้นไปข้างบนก่อน ไม่ต้องรอผม เดี๋ยวจะตามไป” “หวังว่าคงจะเรียบร้อยดีนะคะ พรุ่งนี้ตื่นมาคงไม่ต้องเห็นอะไรที่ไม่สบายตา” แม่บ้านสาวมาหาชรันที่ห้องทำงานตามเวลาที่นัดกันไว้ เธอรู้สึกได้ว่าเขาดูหน้าตาจริงจัง “ฟ้า เรื่องเราสองคน พิชารู้แล้วนะ ตอนนี้ก็กำลังจะตั้งท้องลูกของฉันด้วย เธอคงเข้าใจนะว่าฉันจำเป็นต้องเลือก” “หมายถึงฟ้าต้องไปใช่มั้ยคะ?” เธอตกใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับคำตัดสิน “ฉันเห็นใจเธอนะฟ้า จะให้เงินเธอไปตั้งตัวก้อนหนึ่ง อยากให้รู้ไว้ว่าฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้ แต่ถ้าไม่ทำก็จะเสียครอบครัวไปอีกครั้ง” ฟ้าเริ่มร้องไห้ ชรันได้เข้ามากอดปลอบใจพร้อมกับกระซิบเบาๆ “ไม่เป็นไรนะ เธอยังสาวยังแส้ จะได้เจอผู้ชายวัยเดียวกันที่เขาไม่มีพันธะแบบฉัน” “ฟ้ารักคุณรันนะคะ..” “เอาล่ะ ฉันคุยนานไม่ได้ เธอจะไปตอนไหนให้บอกจะได้โอนเงินให้ ..ฉันอยากให้เธออยู่ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันบีบคั้นไปหมด เข้าใจฉันด้วยนะ” ชรันปล่อยแขนที่กอดเธอ แล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ฟ้าทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ตามลำพังบนพื้นห้อง แต่เหตุการณ์กลับผลิกผันเมื่อเย็นวันต่อมาที่พรรณนาราได้เลิกเรียนและพ่อได้ขับรถมาส่งที่บ้านของพ่อเลี้ยงและแม่ เธอได้เจอแค่คุณป้าแม่บ้านในตอนที่รับประทานมื้อเย็นกับทุกคน แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร “เอ้อ คุณรันคะ แบบนี้ต้องรับแม่บ้านใหม่อีกคนนะ ลำพังป้าแกทำงานคนเดียวไม่ไหวแน่ๆ” “อืม แล้วแต่คุณนะพิชาหรือคุณจะเป็นธุระเรื่องนี้ก็ได้ จะได้หาคนแบบที่คุณอยากได้” “โอเคค่ะ” พรรณนาราแปลกใจที่ฟ้าลากลับบ้านแต่พอกลับมาก็ต้องออกจากที่นี่ “หนูอิ่มแล้วค่ะ ไปอาบน้ำก่อนนะคะ เหนียวตัว” เธอแกล้งเดินออกจากห้องรับประทานอาหารแต่ไม่ขึ้นไปชั้นบนและเดินออกประตูหลังทางห้องครัวไปยังห้องพักของฟ้าแทน เสียงเคาะประตูเบาๆ ฟ้าจึงมาเปิดให้ด้วยดวงตาที่บวมช้ำ “ขอหนูเข้าไปคุยด้วยได้มั้ยคะ?” ฟ้าพยักหน้าและเปิดให้เข้ามาก่อนจะปิดประตู ทำให้พรรณนาราเห็นว่าแม่บ้านสาวกำลังเก็บข้าวของ พอตั้งท่าจะนั่งคุยก็มีข้อความจากธีทัตว่ากำลังจะมาถึงแล้ว เธอโทรกลับหาเขาทันทีเพื่อจะบอกว่าอยู่ที่ห้องพักของแม่บ้าน “พี่ธีคะ หนูมาคุยกับพี่ฟ้า อีกสักพักถึงจะกลับไปที่ห้อง” “งั้นพี่จะอาบน้ำก่อนแล้วจะรอหนูที่ห้องรับแขกนะ” “ค่ะ” จากนั้นพรรณนาราจึงเริ่มการสนทนากับฟ้าต่อ “พี่ฟ้าคะ เกิดอะไรขึ้น? หนูได้ยินว่าจะรับแม่บ้านใหม่ คือยังไง?” “คือ..พี่จะกลับบ้านแม่ที่ต่างจังหวัด ไปลงทุนขายของอะไรที่นั่นเอาค่ะ” ฟ้าตอบพลางเช็ดน้ำตาไปพลาง “หนูรู้ว่าพี่ฟ้ามีความสัมพันธ์กับสามีแม่หนู” “คุณผู้หญิงบอกหรือคะ?” “ไม่ค่ะ แต่หนูรู้เพราะคืนนั้นพี่ออกไปจากห้องแล้วหนูตามออกมา หนูแอบเห็นแม่ยืนอยู่หน้าห้องทำงาน” ฟ้าก้มหน้านิ่ง น้ำตาพรั่งพรูไม่หยุด “หนูไม่อยากให้พี่ฟ้าไป เพราะถ้าไม่มีพี่..หนูคงเดือดร้อน มีแค่พี่ที่จะช่วยหนูได้” แม่บ้านสาวเงยหน้ามองพรรณนารา เธอหยุดร้องไห้แล้วตั้งใจฟังในสิ่งที่เด็กสาวพูด “พี่ฟ้าอาจเต็มใจให้เขาแต่หนู..โดนบังคับ” “คุณชรันเข้าหาน้องพู่ใช่มั้ยคะ? แล้วคุณผู้หญิงรู้เรื่องนี้มั้ย?” “แม่ใช้หนูเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ที่เขาสัญญาจะให้แม่ ถ้าหนู..ไม่ทำดีกับเขา แม่จะไม่ได้อะไรเลย” ฟ้าทำหน้าใช้ความคิดก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นความเดือดดาลขึ้นมา “นี่ทำกับลูกในไส้ขนาดนี้ ส่วนอีกคนก็ใคร่เด็กอย่างงั้นเหรอ? สมกันดีเหมือนผีเน่ากับโลงผุนัก..” พรรณนารากลับมีสีหน้าที่เฉยมากกับสิ่งที่ฟ้าพูด “ถ้าหนูขอร้องให้พี่ยังอยู่ที่นี่ได้ พี่จะอยู่มั้ยคะ? หนูต้องอดทนให้แม่คลอดน้องและได้รับเงินจากเขาก่อน ถึงจะไปจากที่นี่ได้ ถึงแม่จะทำแบบนี้กับหนู แต่หนูก็ไม่อยากให้แม่เสียเปรียบเขาจนไม่ได้อะไรเลย ถ้าวันหนึ่งเขาทิ้งแม่ไปเอาคนใหม่” ฟ้าเองเริ่มเห็นใจเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า เพราะชะตากรรมก็ไม่ต่างจากเธอที่กำลังโดนเฉดหัวทิ้ง “พี่จะอยู่ถ้าอยู่ได้ค่ะ จนกว่าน้องพู่จะไปจากที่นี่” “ขอบคุณค่ะ ที่นี่..หนูมีแค่พี่ฟ้าที่พึ่งพาได้เท่านั้น หนูเองก็จะปกป้องพี่จากแม่เท่าที่ทำได้” ชรันที่อาบน้ำเสร็จแล้ว เห็นภรรยาที่นั่งแปรงผมอยู่จึงเข้าไปเอาใจช่วยหวีผมให้ “เดือนหน้ารอลุ้นว่าลูกของเราจะมามั้ย? ขอให้มาเถอะ” พิชามญช์ยิ้มบางๆให้สามีในกระจก “ค่ะ งั้น..พิชาจะนอนก่อนนะคะ พักผ่อนเยอะหน่อยจะได้ดีกับสุขภาพ” เมื่อภรรยาเปิดโอกาสให้โดยไม่ต้องเอ่ยอะไรก็เป็นที่รู้กัน เขาจึงประคองเธอไปนอนและห่มผ้าให้ พร้อมกับจูบหน้าผากก่อนจะออกจากห้องตรงไปที่ห้องของลูกเลี้ยงสาวด้วยใจที่เสน่หาแต่กลับเจอธีทัตที่อาบน้ำเสร็จแล้วออกมาจากห้องนอนของเขาที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนของพรรณนารา “ธี แกมาตั้งแต่เมื่อไหร่? จะมาไม่บอกไม่กล่าว” “ผมมีธุระกับเพื่อนเรื่องโครงงาน บ้านมันอยู่ใกล้ที่นี่เลยไม่อยากฝ่ารถติดจากที่บ้านแม่น่ะครับ อยู่นี่ก็ใกล้หน่อย” ชรันเหลือบตามองที่ประตูห้องของพรรณนาราพลางคิดว่าเธอจะรู้หรือเปล่าว่าลูกชายของเขามาที่นี่ “พ่อมีเรื่องจะคุยด้วยพอดี ไปคุยในห้องสิ” “เรื่องจะส่งผมไปเรียนต่อที่อังกฤษใช่มั้ย?” “อ้อ แม่แกคงบอกรายละเอียดบ้างแล้วสินะ แล้วบอกเรื่องอื่นอีกหรือเปล่า? ป่ะ ไปคุยในห้อง” ธีทัตจำใจต้องกลับเข้าไปในห้องของเขาโดยมีชรันตามเข้าไปและปิดประตู พรรณนาราที่แอบได้ยินเสียงพูดคุยของคนทั้งสองอยู่ตรงบันไดด้านล่างจึงรีบขึ้นมาที่ห้องนอนของตัวเองเงียบๆเพื่อรีบอาบน้ำอาบท่าในตอนที่มีโอกาส “แกเลิกกับแฟนทำไม? มีคนใหม่เหรอ? แบมถึงกับตั้งตัวไม่ทัน” “ผมเลิกเพราะอยากเปลี่ยนสถานะนานแล้ว เราเหมาะเป็นเพื่อนกันมากกว่า พอใกล้จะจบเลยอยากบอกเพื่อไม่ให้แบมเสียเวลากับผม ไหนๆแบมก็จะไปเรียนต่อโทอยู่แล้วด้วย ยังไงก็ต้องห่างกันอยู่ดี” “พ่อถึงจะส่งแกไปเรียน ป.โท กับแบมด้วยไง จะได้ทั้งความรู้เพิ่มเพื่อรับช่วงกิจการต่อแถมได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับแบมไปด้วยเลยทีเดียว” “เวลาพ่อจะเลิกหรือจะคบกับใคร ก็ไม่เห็นจะไปรื้อฟื้นความสัมพันธ์อะไรกับคนที่เลิกไป พ่อไม่เข้าใจผมจริงๆเหรอ?” “เพราะแกตามจีบหนูพู่อยู่ละสิ ถึงรีบเคลียร์ตัวเองให้ได้ใจเธอ งั้นพ่อจะบอกให้รู้ไว้ว่า ที่บ้านนี้..พิชามญช์และหนูพู่อยู่ในความดูแลของพ่อ ก็คือเป็นคนของพ่อ แกกับหนูพู่เกี่ยวดองเป็นครอบครัวเดียวกัน เท่ากับเป็นได้แค่พี่น้องกันเท่านั้น” “ผมไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันกับน้องพู่” “อย่ายุ่งกับคนของพ่อ ไม่งั้นแกจะไม่ได้อะไรเลย แกอยากให้แม่ของหนูพู่เดือดร้อนเหรอ? เธอกำลังจะมีน้องให้แกนะ ขืนแกยังยุ่งวุ่นวายดื้อดึงจะตามตื้อหนูพู่ แม่ของเธอก็จะไปแต่ตัว” ธีทัตไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อของเขาจะเสียสติถึงขั้นหึงหวงลูกเลี้ยงสาวได้ขนาดนี้ ทำให้เขายิ่งเชื่อสนิทใจในสิ่งที่พรรณนารานั้นหวาดกลัวและชิงชัง ……………………………..🧚🏼🧳วันเสาร์ที่อากาศสดใส รถหรูคันหนึ่งได้ขับเข้ามาที่บ้านของณัฐวีย์ มีผู้หญิงวัยกลางคนที่โฉบเฉี่ยวได้ก้าวลงจากรถ“เอ่อ คุณพิชามาพบคุณณัฐใช่มั้ยคะ? ท่านกำลังทานมื้อเช้ากันอยู่ค่ะ”แม่บ้านคนเก่าคนแก่ได้ถามขึ้นด้วยท่าทางเกรงกลัว“ฉันรอได้ ให้พวกเขากินให้อิ่มก่อนแล้วกัน”พิชามญช์เดินเข้าไปในบ้านที่เธอเคยอยู่มาสิบสามปี สายตามองหาความเปลี่ยนแปลงซึ่งก็มีหลายอย่างที่ขัดหูขัดตา เสียงของตกแตกดังลั่นบ้าน จนทุกคนออกจากห้องรับประทานอาหารวิ่งตามเสียงสิ่งของที่แตกในห้องรับแขก “โอ้..ขอโทษที พอดีชาจะมาหาพู่กันน่ะ เดินชนใส่..ไอ้ไหประหลาดนี้แตก ขอโทษทีนะคะ แต่..มันขวางทางเกะกะมากเลย แถมดูไร้รสนิยมสุดๆ”เธอส่งสายตาที่คุ้นเคยให้อดีตสามี จนเขาเองต้องตั้งสติ ส่วนปริมนั้นถึงกับตัวสั่นที่เห็นสิ่งที่เธอซื้อมาแต่งบ้านได้แตกไม่มีชิ้นดี“ช่างมันเถอะ แล้วลูกไม่บอกคุณหรือว่าแกไปอยู่ที่คอนโดแล้ว”เขาตอบพลางชี้ให้แม่บ้านเก็บกวาดให้เรียบร้อย“ลูกเราโตเป็นสาวแล้วสินะ อีกอย่าง..แกคงยังโกรธชาอยู่ลึกๆ ชาเองมีเรื่องกลุ้มใจเกี่ยวกับพู่กัน มีคนที่ชาจะคุยได้แค่คุณ..พ่อแม่ชาก็เสียหมดแล้ว ไม่รู้จะคุยกับใครได้”ปริมได้ยินแบบนั้น
พิชามญช์กลับมาที่บ้านหลังจากทำผมทำหน้าเสร็จ และรีบขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้านก็เจอลูกสาวกล่อมน้องชายอยู่ เธอยืนดูลูกสาวเงียบๆอยู่พักหนึ่ง พลางคิดแล้วว่าลูกสาวจะต้องเจอฤทธิ์เดชของชรันยังไง“พู่ มาคุยกับแม่ตอนนี้เลย เวลามีไม่มาก ไปที่ห้องคุณธี”พรรณาราทำหน้างง แต่ก็ตามออกไปโดยดี“เมียคุณธีมาที่นี่ใช่มั้ย? มันโทรไปฟ้องคุณรันว่าสงสัยเรื่องลูกมีอะไรกับผัวมันที่นี่ แล้วตอนนี้เขากำลังจะขึ้นเครื่องกลับ แม่มีคำถามจะถามอย่างหนึ่ง ก่อนจะบอกให้ลูกหนีไปจากที่นี่ หมายถึง..ไม่ต้องกลับมาอีก อย่าให้เขาตามหาลูกเจอ ดูแลตัวเองให้ดี”“แต่เขารู้ว่าหนูเรียนที่ไหน?”“แม่จะหาวิธีดึงเขาให้เลิกสนใจลูกเอง เอาล่ะ..บอกแม่สิ ลูกมีอะไรกับคุณธีหรือเปล่า?”“ไม่มีค่ะ เราแค่คุยกัน”พิชามญช์ไม่เชื่อแต่ก็ไม่ถามต่อ “เขาจะช่วยลูกได้และลูกคือคนที่จะทำให้เขามีความสุข ต่อสู้เพื่อตัวเอง เราเป็นผู้หญิง ใช้มารยาหญิงให้เป็นประโยชน์”“แบบแม่น่ะเหรอคะ? หนูไม่ใจร้ายขนาดนั้น”“ไปเก็บของแล้วไปซะ ให้ฟ้ามาช่วยเก็บ”พรรณนาราให้ฟ้ามาช่วยเก็บของทั้งหมดที่จำเป็นรวมถึงกล้องที่ซ่อนไว้ในห้องที่กุมความลับทุกอย่างในห้องนี้เอาไว้มาหลายปี “น้องพู่ เด
ธีทัตที่โตขึ้นกว่าเมื่อก่อน เขาดูเป็นชายหนุ่มที่มุ่งมั่น มั่นใจในตัวเองและดูเอาแต่ใจมากขึ้น “พี่ธี..อื้ออ..ปล่อย” เขาบังคับเอาจูบจากเธอ สองแขนที่กอดแน่น มือที่จับต้นคอเธอไม่ให้หนีหน้าไปจากเขา ไม่มีอะไรหยุดเขาจากความต้องการที่ปะทุขึ้นได้อีกแล้ว “เดี๋ยวค่ะ..พี่ธี เดี๋ยวก่อน..อ๊ะ” พรรณนาราถูกจับกดลงบนเตียง นั่นทำให้เธอกลัวมากเพราะยังไม่ได้ตั้งตัว “รออะไร? พี่รอมาสามปีแล้ว” เขาจูบอย่างหนักหน่วง ใช้น้ำหนักตัวกดทับเพื่อไม่ให้พรรณนาราดิ้นหนี มือล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นลูบไล้ต้นขาและสะโพกของเธอ ก่อนจะพยายามดึงกางเกงแต่อีกฝ่ายต่อต้านด้วยการยื้อไว้ไม่ให้เขาดึงออกไปได้ “พี่ธี…เดี๋ยว ให้หนูทำให้ดีกว่ามั้ยคะ?” ธีทัตมองเธอใกล้ๆด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเขาต้องการและต้องได้ตอนนี้ “ทำอะไร? ไม่ต้องทำ พี่จะเป็นฝ่ายทำ” เธอกลืนน้ำลายและคิดหาทางเอาตัวรอด จึงเอามือลูบและขยำแก่นกายเขาที่แข็งตัว รูดซิบลงแล้วเอามือล้วงเข้าไปจับข้างในกางเกงแทน “ทำไมไม่อยากให้ทำ ไม่รักพี่แล้วเหรอ? หนูบอกว่าพี่ได้ทุกอย่างแล้วค่อยมาคุยกัน นี่ไง..พี่ได้ทุกอย่างแล้ว” “อย่าพึ่งพูดเลย..ให้หนูทำก่อนนะ” เขาบรรจง
ธีทัตฝากของขวัญวันเกิดให้พรรณนาราที่อายุครบ 19 ปี ผ่านทางแม่บ้านสาวอย่างฟ้า เป็นสร้อยแพลตตินั่มจี้เพชรทรงหยดน้ำที่เขาตั้งใจเลือกด้วยตัวเองเพื่อเธอ“น้องพู่ คุณธีฝากของขวัญวันเกิดไว้ให้นะคะ แกโทรมาให้พี่เดินออกไปเอาตั้งไกลแน่ะ สงสัยกลัวคนมาเห็น น้องพู่จะมานอนบ้านนี้อีกทีตอนไหนคะ?”“อาจจะวันศุกร์นี้ค่ะ อยู่บ้านพ่อก็เบื่อ เสียงเด็กร้องโวยวายตลอด ลูกสาวคนใหม่ของพ่อดื้อมาก อารมณ์ร้ายน่าดู ไม่พอใจอะไรก็ตะเบ็งเสียง”“ตายจริง ผิดกับน้องชายน้องพู่เลย ยิ้มเก่ง เริ่มพูดเก่งแล้วเนี่ย ถึงพี่จะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ แต่เห็นจากไกลๆ ป้าพูดให้ฟังว่าน่ารัก เลี้ยงง่ายมาก”“ไม่อยากเชื่อเลยเนอะ”“ยังไงคะ?”“ก็แม่น่ะ ตอนท้องชอบหงุดหงิดจับผิดไปหมด ชอบวางแผน อารมณ์ขึ้นๆลงๆ แต่น้องชายหนูดันตรงข้ามเลย”“ช่วงนี้คุณชรันไม่ค่อยอยู่บ้านด้วยน่าจะงานยุ่ง คุณป้ามาบอกพี่ว่าคุณแม่น้องพู่บ่นทุกวัน แต่ก็ดีกับน้องพู่นะ”“ใช่ค่ะ แต่หนูว่าเขาน่าจะมีเด็กใหม่”“หึ..คนมักมาก สักวันโรคจะถามหา”“พี่ฟ้า..หนูอยากให้พี่ได้เจอคนดีๆเหมือนกันนะคะ”“ถ้าพี่ยังจน ความรู้น้อย คงไม่คิดมีแฟนหรอกค่ะ ที่ผ่านมานี่ก็สิ้นคิดพอแล้ว”“ไม่เอาน่า”วั
“คุณพ่อพี่ดูแลหนูอย่างดี ยินดีด้วยที่เรียนจบและสุขสันต์วันเกิดนะคะ”เธอพูดโดยที่แง้มประตูอยู่แค่นั้นและไม่สบตาด้วย“อวยพรให้หน่อยสิ”“หนูเขียนคำอวยพรในกระดาษให้แล้ว พี่ได้รับหรือยังคะ?”“ได้แล้ว แต่อยากได้อีก”สายตาเขาที่ทอดมองมาหมายความแบบนั้นจริงๆที่อยากได้ทั้งคำอวยพรและอย่างอื่น“ขอให้พี่ธีสุขภาพดีและคิดหวังสิ่งใดให้สมหวังทุกอย่างนะคะ” “พี่จะสมหวังแบบที่น้องพู่พูด เพราะคิดแล้วว่าต้องการอะไร”ธีทัตดันประตูเข้ามาจนได้ ทำให้พรรณนาราเกิดกลัวขึ้นมา เธอกอดอกตัวสั่นเพราะหวั่นใจถ้าใครมาเห็นเข้าพรรณนาราถอยหลังไปเรื่อยๆเพราะธีทัตเดินมาใกล้ แล้วมอบกอดที่อบอุ่นให้เธอ เขาสูดดมกลิ่นหอมจากเส้นผมของเธออย่างหลงใหล“พี่เรียนจบแล้ว ตอนอยู่อังกฤษคิดอยู่ว่า..หรือจะหางานทำแล้วพาพู่มาอยู่ด้วยกัน พี่อยากสละทุกอย่างที่นี่ พู่ก็โอนหน่วยกิตไปเรียนที่นู่นเอา พี่จะส่งเสียเอง”ถึงฉันจะมีความรู้สึกให้เขา..แต่ฉันจะไม่ยอมให้ทุกคนที่ทำให้ฉันมีแผลใจต้องสมหวังหรอก… “หนูทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ตอนนี้พ่อก็มีภรรยาใหม่เหมือนกัน หนูเองต้องอยู่เพื่อปกป้องสิทธิ์ของหนูด้วย ไม่มีใครควรชุบมือเปิบเอาของๆคนอื่นมาเป็นของตัวเองทั้งน
วันที่ธีทัตเรียนจบกลับมาจากอังกฤษซึ่งใกล้กับวันเกิดของเขาพอดี แต่เขาโดนกันท่าจากพ่อและแม่ทำให้ไม่สามารถไปที่บ้านซึ่งพรรณนาราอยู่ที่นั่นได้ เขาอยากเจอเธอที่ตอนนี้อายุได้สิบแปดแล้ว แต่ก็ทำได้แค่คิดฝัน สามวันตั้งแต่กลับมาธีทัตได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อปรับเวลาและปรับสภาพร่างกายโดยอยู่ในสายตาของแม่อยู่ตลอด“วันนี้ครอบครัวแบมกับครอบครัวเรามีนัดทานข้าวเย็นกันที่ Lacal Bangkok นะลูก แต่งตัวดีๆล่ะ”บรรยากาศการดินเนอร์ของสองครอบครัวเป็นไปด้วยดี มีเพียงธีทัตที่พูดน้อย เน้นพูดและแสดงออกตามมารยาท เสียงเคาะประตูทำให้พรรณนาราตกใจทุกครั้ง แต่ก็เดินไปเปิดให้“ไงลูกรัก คุณอาชรันกับภรรยาเก่ามีนัดทานข้าวกับครอบครัวคู่หมั้นคุณธี ถึงเวลาที่ลูกต้องดึงเขาอย่าให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น แทนที่จะมานั่งจับเจ่าเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่แบบนี้”“หนูมัวคุยกับเพื่อนเรื่องเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ ไม่ได้สนใจเรื่องคนอื่นหรอก พรุ่งนี้วันศุกร์ก็ต้องไปอยู่บ้านพ่อด้วย คงไม่ได้เจอใครหรอกค่ะ”“ใกล้วันเกิดพี่ธีแล้ว แม่จะลองพูดให้เขาจัดงานวันเกิดที่นี่ดู”“แล้วแต่แม่เถอะค่ะ ขอตัวคุยกับเพื่อนต่อนะคะ”เมื่อจบจากดินเนอร์ ธีทัตไปส่งแม่ที







