“ไม่เห็นมีใครถามความเห็นจากผมเลย ถ้าต้องไปเรียนผมต้องเตรียมตัวหลายอย่างมาก แล้วทำไมต้องไปที่เดียวกับแบม ในเมื่อที่อื่นก็มี ในไทยก็เรียนได้ มีมหาวิทยาลัยดีๆก็เยอะ ที่ผมเรียนอยู่ก็มี ป.โท ชื่อเสียงก็ระดับประเทศ”
“ลูกคบกับลูกสาวของนังชู้ใช่มั้ย? ถึงไปบอกเลิกแบม บอกแม่ตามตรงธี แม่ก็คือแม่นะ อย่าโกหก” “ผมรู้สึกมาปีกว่าๆแล้วว่าผมกับแบมความสัมพันธ์มันถอยหลัง ไม่คืบหน้า เราต่างคนต่างอยู่มีแค่โทรคุยกันสั้นๆถึงจะทุกวันก็ตาม ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น” “พ่อของลูกบอกแม่ว่า ทางนั้นเองก็ไม่เห็นด้วยเรื่องคบหากัน ถ้าลูกและนังเด็กนั่นพยายามที่จะดื้อรั้น พ่อจะยกทุกอย่างให้ลูกใหม่ที่จะเกิดกับอีนั่น ธี..แม่ขอร้องเถอะ มันคือสิทธิ์ของลูก อย่าให้ใครมาแย่งกิจการที่ต้องเป็นของลูกไป โดยเฉพาะลูกชู้นั่น” “แม่หยุดเรียกพวกเขาแบบนั้นได้มั้ยครับ?” “ตกลงจะไม่เลิกกับมันใช่มั้ย?” “แม่พูดอะไร น้องยังเด็กกำลังจะสิบหก” “ทำเพื่อแม่ได้มั้ยธี? แม่เสียครอบครัว เสียสามีให้นังนั่นไปแล้ว แม่ต้องทนดูลูกเสียกิจการของพ่อไปอีกไม่ได้นะ เอางี้..เรื่องเด็กนั่น ถ้าลูกอยากคบ ก็รอให้เด็กอายุสักยี่สิบเป็นไง ช่วงนี้ก็เออๆออๆกับพ่อไปก่อน จนกว่าเขาจะยกทุกอย่างให้ลูกชัวร์ๆแล้วค่อยคบกันก็ได้” “ผมขอคิดดูก่อนเรื่องไปเรียนที่ต่างประเทศ ส่วนเรื่องอื่นมันไม่ได้ต้องหยิบมาพูดขนาดนั้น” ธีทัตผละจากแม่เพื่อขึ้นไปสงบจิตใจบนห้อง จนกระทั่งเย็นวันอาทิตย์ แม่บ้านสาวก็กลับมาจากไปเยี่ยมแม่ที่ต่างจังหวัด โดยไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวว่าตัวเองจะถูกอัปเปหิ ฟ้าส่งข้อความไปให้ชรันว่าเธอกลับมาแล้วตามหน้าที่ ชรันจึงส่งข้อความกลับว่ามีเรื่องจะคุยด้วย “พิชา คุณขึ้นไปข้างบนก่อน ไม่ต้องรอผม เดี๋ยวจะตามไป” “หวังว่าคงจะเรียบร้อยดีนะคะ พรุ่งนี้ตื่นมาคงไม่ต้องเห็นอะไรที่ไม่สบายตา” แม่บ้านสาวมาหาชรันที่ห้องทำงานตามเวลาที่นัดกันไว้ เธอรู้สึกได้ว่าเขาดูหน้าตาจริงจัง “ฟ้า เรื่องเราสองคน พิชารู้แล้วนะ ตอนนี้ก็กำลังจะตั้งท้องลูกของฉันด้วย เธอคงเข้าใจนะว่าฉันจำเป็นต้องเลือก” “หมายถึงฟ้าต้องไปใช่มั้ยคะ?” เธอตกใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับคำตัดสิน “ฉันเห็นใจเธอนะฟ้า จะให้เงินเธอไปตั้งตัวก้อนหนึ่ง อยากให้รู้ไว้ว่าฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้ แต่ถ้าไม่ทำก็จะเสียครอบครัวไปอีกครั้ง” ฟ้าเริ่มร้องไห้ ชรันได้เข้ามากอดปลอบใจพร้อมกับกระซิบเบาๆ “ไม่เป็นไรนะ เธอยังสาวยังแส้ จะได้เจอผู้ชายวัยเดียวกันที่เขาไม่มีพันธะแบบฉัน” “ฟ้ารักคุณรันนะคะ..” “เอาล่ะ ฉันคุยนานไม่ได้ เธอจะไปตอนไหนให้บอกจะได้โอนเงินให้ ..ฉันอยากให้เธออยู่ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันบีบคั้นไปหมด เข้าใจฉันด้วยนะ” ชรันปล่อยแขนที่กอดเธอ แล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ฟ้าทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ตามลำพังบนพื้นห้อง แต่เหตุการณ์กลับผลิกผันเมื่อเย็นวันต่อมาที่พรรณนาราได้เลิกเรียนและพ่อได้ขับรถมาส่งที่บ้านของพ่อเลี้ยงและแม่ เธอได้เจอแค่คุณป้าแม่บ้านในตอนที่รับประทานมื้อเย็นกับทุกคน แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร “เอ้อ คุณรันคะ แบบนี้ต้องรับแม่บ้านใหม่อีกคนนะ ลำพังป้าแกทำงานคนเดียวไม่ไหวแน่ๆ” “อืม แล้วแต่คุณนะพิชาหรือคุณจะเป็นธุระเรื่องนี้ก็ได้ จะได้หาคนแบบที่คุณอยากได้” “โอเคค่ะ” พรรณนาราแปลกใจที่ฟ้าลากลับบ้านแต่พอกลับมาก็ต้องออกจากที่นี่ “หนูอิ่มแล้วค่ะ ไปอาบน้ำก่อนนะคะ เหนียวตัว” เธอแกล้งเดินออกจากห้องรับประทานอาหารแต่ไม่ขึ้นไปชั้นบนและเดินออกประตูหลังทางห้องครัวไปยังห้องพักของฟ้าแทน เสียงเคาะประตูเบาๆ ฟ้าจึงมาเปิดให้ด้วยดวงตาที่บวมช้ำ “ขอหนูเข้าไปคุยด้วยได้มั้ยคะ?” ฟ้าพยักหน้าและเปิดให้เข้ามาก่อนจะปิดประตู ทำให้พรรณนาราเห็นว่าแม่บ้านสาวกำลังเก็บข้าวของ พอตั้งท่าจะนั่งคุยก็มีข้อความจากธีทัตว่ากำลังจะมาถึงแล้ว เธอโทรกลับหาเขาทันทีเพื่อจะบอกว่าอยู่ที่ห้องพักของแม่บ้าน “พี่ธีคะ หนูมาคุยกับพี่ฟ้า อีกสักพักถึงจะกลับไปที่ห้อง” “งั้นพี่จะอาบน้ำก่อนแล้วจะรอหนูที่ห้องรับแขกนะ” “ค่ะ” จากนั้นพรรณนาราจึงเริ่มการสนทนากับฟ้าต่อ “พี่ฟ้าคะ เกิดอะไรขึ้น? หนูได้ยินว่าจะรับแม่บ้านใหม่ คือยังไง?” “คือ..พี่จะกลับบ้านแม่ที่ต่างจังหวัด ไปลงทุนขายของอะไรที่นั่นเอาค่ะ” ฟ้าตอบพลางเช็ดน้ำตาไปพลาง “หนูรู้ว่าพี่ฟ้ามีความสัมพันธ์กับสามีแม่หนู” “คุณผู้หญิงบอกหรือคะ?” “ไม่ค่ะ แต่หนูรู้เพราะคืนนั้นพี่ออกไปจากห้องแล้วหนูตามออกมา หนูแอบเห็นแม่ยืนอยู่หน้าห้องทำงาน” ฟ้าก้มหน้านิ่ง น้ำตาพรั่งพรูไม่หยุด “หนูไม่อยากให้พี่ฟ้าไป เพราะถ้าไม่มีพี่..หนูคงเดือดร้อน มีแค่พี่ที่จะช่วยหนูได้” แม่บ้านสาวเงยหน้ามองพรรณนารา เธอหยุดร้องไห้แล้วตั้งใจฟังในสิ่งที่เด็กสาวพูด “พี่ฟ้าอาจเต็มใจให้เขาแต่หนู..โดนบังคับ” “คุณชรันเข้าหาน้องพู่ใช่มั้ยคะ? แล้วคุณผู้หญิงรู้เรื่องนี้มั้ย?” “แม่ใช้หนูเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ที่เขาสัญญาจะให้แม่ ถ้าหนู..ไม่ทำดีกับเขา แม่จะไม่ได้อะไรเลย” ฟ้าทำหน้าใช้ความคิดก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นความเดือดดาลขึ้นมา “นี่ทำกับลูกในไส้ขนาดนี้ ส่วนอีกคนก็ใคร่เด็กอย่างงั้นเหรอ? สมกันดีเหมือนผีเน่ากับโลงผุนัก..” พรรณนารากลับมีสีหน้าที่เฉยมากกับสิ่งที่ฟ้าพูด “ถ้าหนูขอร้องให้พี่ยังอยู่ที่นี่ได้ พี่จะอยู่มั้ยคะ? หนูต้องอดทนให้แม่คลอดน้องและได้รับเงินจากเขาก่อน ถึงจะไปจากที่นี่ได้ ถึงแม่จะทำแบบนี้กับหนู แต่หนูก็ไม่อยากให้แม่เสียเปรียบเขาจนไม่ได้อะไรเลย ถ้าวันหนึ่งเขาทิ้งแม่ไปเอาคนใหม่” ฟ้าเองเริ่มเห็นใจเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า เพราะชะตากรรมก็ไม่ต่างจากเธอที่กำลังโดนเฉดหัวทิ้ง “พี่จะอยู่ถ้าอยู่ได้ค่ะ จนกว่าน้องพู่จะไปจากที่นี่” “ขอบคุณค่ะ ที่นี่..หนูมีแค่พี่ฟ้าที่พึ่งพาได้เท่านั้น หนูเองก็จะปกป้องพี่จากแม่เท่าที่ทำได้” ชรันที่อาบน้ำเสร็จแล้ว เห็นภรรยาที่นั่งแปรงผมอยู่จึงเข้าไปเอาใจช่วยหวีผมให้ “เดือนหน้ารอลุ้นว่าลูกของเราจะมามั้ย? ขอให้มาเถอะ” พิชามญช์ยิ้มบางๆให้สามีในกระจก “ค่ะ งั้น..พิชาจะนอนก่อนนะคะ พักผ่อนเยอะหน่อยจะได้ดีกับสุขภาพ” เมื่อภรรยาเปิดโอกาสให้โดยไม่ต้องเอ่ยอะไรก็เป็นที่รู้กัน เขาจึงประคองเธอไปนอนและห่มผ้าให้ พร้อมกับจูบหน้าผากก่อนจะออกจากห้องตรงไปที่ห้องของลูกเลี้ยงสาวด้วยใจที่เสน่หาแต่กลับเจอธีทัตที่อาบน้ำเสร็จแล้วออกมาจากห้องนอนของเขาที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนของพรรณนารา “ธี แกมาตั้งแต่เมื่อไหร่? จะมาไม่บอกไม่กล่าว” “ผมมีธุระกับเพื่อนเรื่องโครงงาน บ้านมันอยู่ใกล้ที่นี่เลยไม่อยากฝ่ารถติดจากที่บ้านแม่น่ะครับ อยู่นี่ก็ใกล้หน่อย” ชรันเหลือบตามองที่ประตูห้องของพรรณนาราพลางคิดว่าเธอจะรู้หรือเปล่าว่าลูกชายของเขามาที่นี่ “พ่อมีเรื่องจะคุยด้วยพอดี ไปคุยในห้องสิ” “เรื่องจะส่งผมไปเรียนต่อที่อังกฤษใช่มั้ย?” “อ้อ แม่แกคงบอกรายละเอียดบ้างแล้วสินะ แล้วบอกเรื่องอื่นอีกหรือเปล่า? ป่ะ ไปคุยในห้อง” ธีทัตจำใจต้องกลับเข้าไปในห้องของเขาโดยมีชรันตามเข้าไปและปิดประตู พรรณนาราที่แอบได้ยินเสียงพูดคุยของคนทั้งสองอยู่ตรงบันไดด้านล่างจึงรีบขึ้นมาที่ห้องนอนของตัวเองเงียบๆเพื่อรีบอาบน้ำอาบท่าในตอนที่มีโอกาส “แกเลิกกับแฟนทำไม? มีคนใหม่เหรอ? แบมถึงกับตั้งตัวไม่ทัน” “ผมเลิกเพราะอยากเปลี่ยนสถานะนานแล้ว เราเหมาะเป็นเพื่อนกันมากกว่า พอใกล้จะจบเลยอยากบอกเพื่อไม่ให้แบมเสียเวลากับผม ไหนๆแบมก็จะไปเรียนต่อโทอยู่แล้วด้วย ยังไงก็ต้องห่างกันอยู่ดี” “พ่อถึงจะส่งแกไปเรียน ป.โท กับแบมด้วยไง จะได้ทั้งความรู้เพิ่มเพื่อรับช่วงกิจการต่อแถมได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับแบมไปด้วยเลยทีเดียว” “เวลาพ่อจะเลิกหรือจะคบกับใคร ก็ไม่เห็นจะไปรื้อฟื้นความสัมพันธ์อะไรกับคนที่เลิกไป พ่อไม่เข้าใจผมจริงๆเหรอ?” “เพราะแกตามจีบหนูพู่อยู่ละสิ ถึงรีบเคลียร์ตัวเองให้ได้ใจเธอ งั้นพ่อจะบอกให้รู้ไว้ว่า ที่บ้านนี้..พิชามญช์และหนูพู่อยู่ในความดูแลของพ่อ ก็คือเป็นคนของพ่อ แกกับหนูพู่เกี่ยวดองเป็นครอบครัวเดียวกัน เท่ากับเป็นได้แค่พี่น้องกันเท่านั้น” “ผมไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันกับน้องพู่” “อย่ายุ่งกับคนของพ่อ ไม่งั้นแกจะไม่ได้อะไรเลย แกอยากให้แม่ของหนูพู่เดือดร้อนเหรอ? เธอกำลังจะมีน้องให้แกนะ ขืนแกยังยุ่งวุ่นวายดื้อดึงจะตามตื้อหนูพู่ แม่ของเธอก็จะไปแต่ตัว” ธีทัตไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อของเขาจะเสียสติถึงขั้นหึงหวงลูกเลี้ยงสาวได้ขนาดนี้ ทำให้เขายิ่งเชื่อสนิทใจในสิ่งที่พรรณนารานั้นหวาดกลัวและชิงชัง ……………………………..🧚🏼🧳ธีทัตอยากบอกพ่อของเขาด้วยซ้ำว่าพรรณนาราเป็นของเขาแล้ว แต่ต้องอดทนเก็บความลับเอาไว้เพราะเขาไม่อยู่ในจุดที่ปกป้องเธอได้จากทุกอย่างถ้าเขาพูดมันออกไป “ผมจะเรียนต่อก็ได้ แต่ขอเรียนที่ไทย เพราะไม่งั้นแม่ต้องอยู่คนเดียวมีแค่แม่บ้าน ผมกับแม่ไม่เคยแยกกันอยู่”“พ่อคุยกับแม่เรียบร้อยแล้ว แม่เห็นด้วย ก็แค่สองปีจะอะไรนักหนา มีเวลาอีกเท่าไหร่เตรียมตัวซะตั้งแต่เนิ่นๆ”“ผมจบเดือนนี้แล้ว แต่ต้องรอมหาวิทยาลัยประกาศผลจบการศึกษาแล้วอนุมัติให้ก่อน ถึงจะขอ Transcript ได้ อย่างต่ำใช้เวลาสองเดือน”“ดี จัดการซะ อย่าทระนงตัวให้มากนักว่าเป็นลูกชายคนเดียวแล้วจะดื้อด้านยังไงก็ได้ เพราะถ้าน้องแกเกิดมาไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็เท่ากับว่าพ่อมีทายาทอีกคนที่ฝากฝังกิจการได้ อย่าลืมว่าพ่ออายุแค่ 51 ยังอยู่ได้อีกนานพอจะเห็นน้องแกโต แม่แกก็ไม่ได้มีธุรกิจอะไรนอกจากเงินที่ได้จากการหย่าไป อยากเสียตรงนี้ไปก็แล้วแต่”ชรันหันหลังจะกลับออกไปแต่เหมือนนึกอะไรได้จึงหันกลับมาพูดด้วยอีกครั้ง “ไม่ต้องมานอนค้างที่นี่อีก ถ้าจำเป็นก็ไปเปิดโรงแรมนอน พ่อจ่ายเอง”“ทำไมครับ?”“ที่นี่มีพ่อเป็นผู้ชายคนเดียวก็พอแล้ว”ชรันออกจากห้องของธีทัต ก็มองที
“ไม่เห็นมีใครถามความเห็นจากผมเลย ถ้าต้องไปเรียนผมต้องเตรียมตัวหลายอย่างมาก แล้วทำไมต้องไปที่เดียวกับแบม ในเมื่อที่อื่นก็มี ในไทยก็เรียนได้ มีมหาวิทยาลัยดีๆก็เยอะ ที่ผมเรียนอยู่ก็มี ป.โท ชื่อเสียงก็ระดับประเทศ”“ลูกคบกับลูกสาวของนังชู้ใช่มั้ย? ถึงไปบอกเลิกแบม บอกแม่ตามตรงธี แม่ก็คือแม่นะ อย่าโกหก”“ผมรู้สึกมาปีกว่าๆแล้วว่าผมกับแบมความสัมพันธ์มันถอยหลัง ไม่คืบหน้า เราต่างคนต่างอยู่มีแค่โทรคุยกันสั้นๆถึงจะทุกวันก็ตาม ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น”“พ่อของลูกบอกแม่ว่า ทางนั้นเองก็ไม่เห็นด้วยเรื่องคบหากัน ถ้าลูกและนังเด็กนั่นพยายามที่จะดื้อรั้น พ่อจะยกทุกอย่างให้ลูกใหม่ที่จะเกิดกับอีนั่น ธี..แม่ขอร้องเถอะ มันคือสิทธิ์ของลูก อย่าให้ใครมาแย่งกิจการที่ต้องเป็นของลูกไป โดยเฉพาะลูกชู้นั่น”“แม่หยุดเรียกพวกเขาแบบนั้นได้มั้ยครับ?”“ตกลงจะไม่เลิกกับมันใช่มั้ย?”“แม่พูดอะไร น้องยังเด็กกำลังจะสิบหก” “ทำเพื่อแม่ได้มั้ยธี? แม่เสียครอบครัว เสียสามีให้นังนั่นไปแล้ว แม่ต้องทนดูลูกเสียกิจการของพ่อไปอีกไม่ได้นะ เอางี้..เรื่องเด็กนั่น ถ้าลูกอยากคบ ก็รอให้เด็กอายุสักยี่สิบเป็นไง ช่วงนี้ก็เออๆออๆกับพ่อไปก่อน จนกว่
ชรันได้ไปหาครอบครัวของแบมแต่เช้าเพื่อพูดคุยเรื่องหมั้นหมาย ซึ่งจบลงด้วยดีเพราะพ่อแม่ของเธอก็ชอบในตัวของธีทัต บวกกับความเป็นทายาทคนเดียวของกิจการขนส่งทางเรือใหญ่ระดับประเทศ“รอให้หลังเรียนจบดีมั้ยครับ? ก่อนแบมจะไปเรียนต่อที่อังกฤษ”พ่อของแบมเสนอขึ้นมา ส่วนชรันก็เห็นด้วย“ดีครับ ผมเองก็อยากส่งลูกชายไปเรียน ป.โท ด้วยเหมือนกันแล้วค่อยมารับช่วงกิจการ จากนั้นค่อยให้หนุ่มสาวเค้าแต่งงานกัน อายุอานามจะได้เหมาะสม”เมื่อคุยธุระจบ ชรันแจ้งข่าวนี้กับอดีตภรรยาทันที “คุณหาทางบีบให้ธีหมั้นให้ได้ ไม่งั้นผมไม่ยกกิจการอะไรให้ทั้งนั้น จะเซ็นยกให้ลูกของผมกับพิชามญช์แทน จะบีบน้ำตาทำยังไงก็ได้ให้หมั้นก่อน แล้วผมจะส่งธีไปเรียน ป.โท กับแบมที่อังกฤษ”กชกร อดีตภรรยาของชรันกดวางสายโดยไม่ตอบอะไร ส่วนชรันก็รู้ดีถึงความคิดของเธอว่าหวงสมบัติของเขาให้ลูกชายคนเดียวของทั้งคู่มากขนาดไหน เท่ากับว่าเขากดดันสองแม่ลูกให้ต้องทำตามช่วงเที่ยงณัฐวีย์ได้ขับรถพาพรรณนาราผู้เป็นลูกสาวไปรับแฟนใหม่ของเขาที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านรามคำแหงเพื่อไปทานข้าวและทำความรู้จักกัน ซึ่งเป็นคอนโดที่ดูสภาพค่อนข้างเก่า สักพักก็มีสาวผมตรงยาว การแต่งตัวด
แบมนั่งมองธีทัตที่ไม่สบตากับเธอเลยอยู่พักหนึ่งโดยไม่พูดอะไรกัน จนเธอต้องเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา“ห่างกันดูสักพักก็ได้ธี แบมขอเวลาทำใจหน่อย จริงอยู่ว่าสองปีหลังนี้เราดูไม่ค่อยมีกิจกรรมด้วยกัน ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเพราะต่างคนต่างมีเพื่อนของตัวเอง ใกล้จบด้วยมันเลยหนัก แล้วก็เรื่องอย่างว่าที่แบมเข้าใจดีว่ามันขาดหายไปนานมาก ปีแรกเรามีอะไรกันบ่อยทุกครั้งที่มีโอกาส หลังจากนั้นความถี่ก็ลดลงเรื่อยๆ เพราะเรื่องนี้ด้วยใช่มั้ย?”“อย่างที่บอก มันไม่ใช่เรื่องความสัมพันธ์ทางกาย มันเป็นเรื่องของความรู้สึกที่ยังไม่ลึกซึ้งพอ เอาเป็นว่าธีนิสัยไม่ดีเอง”“ลองห่างกันดู อาจทำให้เรารู้ใจตัวเองว่ายังต้องการกันอยู่มั้ย”แบมลุกขึ้นเดินกลับไปที่รถโดยไม่รอฟังคำตอบจากเขาอีก แล้วขับรถตรงไปที่บ้านแม่ของธีทัต“สวัสดีค่ะคุณแม่..หนูโดนพี่ธีบอกเลิกแบบงงๆเลยค่ะ วันนี้คงเรียนไม่รู้เรื่อง..”เธอพูดพร้อมเช็ดน้ำตาไปด้วย แม่ของธีทัตรีบมานั่งข้างๆพร้อมกับลูบหลังเบาๆ“สองสามวันก่อนแม่ถามหาแบมกับธี เขายังบอกว่าหนูยุ่งๆแต่ก็คุยกันทุกวัน ทำไมมาบอกเลิกอะไรกันน่ะ”“เขาบอกว่ามีใจให้คนอื่นค่ะ คือ..หนูมาที่นี่ไม่ได้จะมาตีโพยตีพายนะคะ แ
คุณป้าแม่บ้านได้ทำแผลให้พิชามญช์ที่ห้องรับแขก ส่วนชรันก็นอนแช่จากุซซี่เพื่อให้ใจเย็นลง ในขณะที่ธีทัตเริ่มคิดว่าถ้าเข้าไปตอนนี้น่าจะโดนกันท่าอีก จึงคิดว่าจะจอดรถไว้ไกลบ้านแล้วเดินเข้ามาเพื่อไม่ให้คนในบ้านรู้ว่าคืนนี้เขามาอีก “พี่ธี มาแล้วเหรอ? หนูอยู่ในห้องน้ำของคุณป้าแม่บ้าน”“พู่ หนูขอคุณป้าเอาชุดนักเรียนมาให้ได้ไหม? พี่ว่าจะพาไปอยู่ที่อื่นก่อน ให้พวกเขาคิดว่าหนูอยู่ห้องคุณป้าคืนนี้ก็ได้มั้ง”“ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาตามหนูมั้ย แล้วถ้ารู้ว่าหนูไม่อยู่คงแย่แน่”“ไม่กล้าหรอก เพราะกลัวพู่ไปบอกพ่อหรือตำรวจ มีเรื่องแบบนี้พวกเขาทำอะไรไม่ได้มากหรอก พี่จะจอดรถรอที่นอกบ้านนะ เดินมาไม่ไกล หนูรีบมาจะได้รีบไป”“ค่ะ”ธีทัตขับรถเข้าหมู่บ้านและไปจอดใกล้ๆบ้านหลังหนึ่งแล้วโทรบอกพรรณนารา ไม่นานนักเธอก็เดินมาตัวเปล่ามีแค่โทรศัพท์ที่เอามา เขารีบลงไปเปิดประตูรถให้เธอแล้วรีบขับออกไปจากหมู่บ้านอย่างเร็ว “ไม่เอาอะไรมาเลยเหรอ? พรุ่งนี้จะไปเรียนยังไง?”“หนูบอกเพื่อนไว้ว่า ปวดท้องเมนส์ เผื่อคุณครูเช็กชื่อ”เขาเลือกโรงแรมสี่ดาวซึ่งราคาพอรับได้ เพื่อให้เธอได้นอนพักสบายๆ ซึ่งตอนเช็กอินนั้นพวกเขาต่างเขินเจ้าหน้าที่ขอ
ธีทัตอุ้มไปส่งเธอในห้องน้ำเพื่อให้ชำระร่างกาย จนกระทั่งเธอทำอะไรเสร็จแล้วเปิดประตูออกมา เขารีบไปประคองให้มานั่งบนเตียง “เดี๋ยวพี่จะออกไปซื้อยามาให้นะ ขอโทษที่พี่ลืมตัวทำพู่เดือดร้อน”“พี่ธี..ถ้าเขาแอบไขห้องหนูอีกแล้วรู้ว่าเรามีอะไรกัน หนูต้องโดนแน่ๆ แล้วนี่ยังเจ็บอยู่ ถ้าเขาทำอะไรหนูรับไม่ไหวหรอก”“พี่มีวิธี หนูรอแป๊บนึง พี่ไปร้านขายยานอกนี้ก่อนนะ”ธีทัตรีบบึ่งออกไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้ แล้วจัดการขนหมอนและผ่าห่มมาให้เธอนอนที่ห้องรับแขก โซฟาเข้ามุมขนาดใหญ่รูปตัวแอลพอที่จะนอนสองคนได้ เขานั่งเปิดโน้ตบุ้คทำงานอะไรไป โดยมีสาวน้อยที่นอนอยู่ส่งยิ้มให้ “พี่จะมานอนค้างที่นี่ทุกวันที่พู่อยู่ แล้วก็..พี่จะเคลียร์เรื่องส่วนตัวให้เรียบร้อยระหว่างที่รอพู่อายุสิบแปด เข้ามหาวิทยาลัยเมื่อไหร่ เราคงต้องคุยกันจริงจังอีกทีว่าต้องอยู่ที่ไหน แต่ไม่ใช่ที่นี่”“ค่ะ เพราะถ้าแม่ท้องบวกกับมีน้อง พู่น่าจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว จะได้หาเรื่องไปอยู่หอไม่ก็บ้านพ่อ”“ไม่อยากอยู่กับพี่เหรอ?”พรรณนาราได้ยินคำถามนี้ เธอขยับตัวนอนหันหลังเข้าพนักผิงโซฟาพร้อมกับถอนหายใจแรง“เอ้า..ไหงงั้นล่ะ?”“ให้ทุกอย่างมันถูกต้องกว่านี้