Se connecterธีทัตอยากบอกพ่อของเขาด้วยซ้ำว่าพรรณนาราเป็นของเขาแล้ว แต่ต้องอดทนเก็บความลับเอาไว้เพราะเขาไม่อยู่ในจุดที่ปกป้องเธอได้จากทุกอย่างถ้าเขาพูดมันออกไป
“ผมจะเรียนต่อก็ได้ แต่ขอเรียนที่ไทย เพราะไม่งั้นแม่ต้องอยู่คนเดียวมีแค่แม่บ้าน ผมกับแม่ไม่เคยแยกกันอยู่” “พ่อคุยกับแม่เรียบร้อยแล้ว แม่เห็นด้วย ก็แค่สองปีจะอะไรนักหนา มีเวลาอีกเท่าไหร่เตรียมตัวซะตั้งแต่เนิ่นๆ” “ผมจบเดือนนี้แล้ว แต่ต้องรอมหาวิทยาลัยประกาศผลจบการศึกษาแล้วอนุมัติให้ก่อน ถึงจะขอ Transcript ได้ อย่างต่ำใช้เวลาสองเดือน” “ดี จัดการซะ อย่าทระนงตัวให้มากนักว่าเป็นลูกชายคนเดียวแล้วจะดื้อด้านยังไงก็ได้ เพราะถ้าน้องแกเกิดมาไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็เท่ากับว่าพ่อมีทายาทอีกคนที่ฝากฝังกิจการได้ อย่าลืมว่าพ่ออายุแค่ 51 ยังอยู่ได้อีกนานพอจะเห็นน้องแกโต แม่แกก็ไม่ได้มีธุรกิจอะไรนอกจากเงินที่ได้จากการหย่าไป อยากเสียตรงนี้ไปก็แล้วแต่” ชรันหันหลังจะกลับออกไปแต่เหมือนนึกอะไรได้จึงหันกลับมาพูดด้วยอีกครั้ง “ไม่ต้องมานอนค้างที่นี่อีก ถ้าจำเป็นก็ไปเปิดโรงแรมนอน พ่อจ่ายเอง” “ทำไมครับ?” “ที่นี่มีพ่อเป็นผู้ชายคนเดียวก็พอแล้ว” ชรันออกจากห้องของธีทัต ก็มองที่ประตูห้องของพรรณนาราแล้วแอบเคืองใจที่คืนนี้เขาอดที่จะเข้าไปหาเธอเพราะลูกชายดันเป็นก้างขวางคออยู่ที่นี่ แต่เขาเปลี่ยนใจเดินลงบันไดไปที่ห้องพักของฟ้าแทน ธีทัตรีบโทรหาพรรณนาราที่อาบน้ำอยู่ เธอที่เอาโทรศัพท์ไปในห้องน้ำด้วยจึงรีบรับสาย “พี่ธี คุยกับพ่อเสร็จแล้วเหรอ? เขาไปไหน? กลับห้องหรือยัง?” “พ่อพี่ลงไปข้างล่างน่ะ” “พี่ลองไปดูให้หน่อยได้ไหมว่าเขาอยู่ที่ไหน ไม่งั้นคงไปห้องพี่ฟ้า” พรรณนาราวางสายแล้วรีบล้างตัวและใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย นั่งรอเงียบๆอยู่ในห้อง ธีทัตเดินลงไปหาชรันที่ไหนก็ไม่เจอ จึงเดินออกไปที่ห้องพักแม่บ้านลองแนบหูฟังห้องแรกนั้นเงียบ แต่อีกห้องพอลองเงี่ยหูฟังจึงได้ยินเสียงพ่อของเขากำลังปลอบใจแม่บ้านสาวและเหมือนกำลังจะเริ่มต้นกิจกรรมอะไรกัน ธีทัตจึงรีบเดินกลับเข้าบ้านแล้วโทรบอกเรื่องนี้กับพรรณนารา “พ่อพี่..เป็นคนแบบนี้โดยที่พี่กับแม่..ไม่เคยรู้เลย ถึงว่าเมื่อก่อนที่บ้านพี่ แม่บ้านคนไหนที่ยังสาวมักอยู่ไม่ทน” เสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกของเธอทำให้เขาเป็นห่วงเมื่อนึกถึงวันอื่นที่เขาไม่อยู่ที่นี่ ธีทัตไปที่ห้อง จัดที่นอนเหมือนตัวเขาเองนอนคลุมโปงอยู่ ปิดไฟปิดประตูเรียบร้อยก็โทรให้พรรณนาราออกมาเจอเขาหน่อย “พี่อยู่หน้าห้อง ขอคุยด้วยได้มั้ย?” เธอเปิดประตูแง้มดูเขาด้วยความระแวง จนธีทัตต้องมามองสบตาใกล้ๆที่บานประตู “ขอพี่เข้าไปได้มั้ย?” คำขอที่ไม่ใช่การร้องขอ เขาเบียดตัวเองดันประตูเข้ามาจนได้ก่อนจะปิดอย่างเบามือและล็อกประตูไว้ด้วย พรรณนาราไม่พูดอะไรแต่ทำคิ้วขมวด “ตั้งแต่มีอะไรกัน พี่เห็นหนูทำหน้าแบบนี้ใส่พี่ตลอด มีอะไรในใจบอกได้มั้ย? รู้สึกผิดเหรอ? อย่าคิดแบบนั้นเพราะคนที่ผิดคือพี่คนเดียว” “พี่ธีต้องไปเรียนต่อที่อังกฤษใช่มั้ยคะ? ธีทัตตกใจที่เธอได้ยินสิ่งที่เขาคุยกับพ่อที่หน้าห้อง “พี่ไม่อยากไป ถ้าจะเรียนก็อยากเรียนที่นี่ พู่แค่บอกพี่ว่าอย่าไป พี่จะอยู่” “พี่ต้องสานต่อกิจการเพราะเป็นลูกคนเดียว มันก็สมเหตุสมผลอยู่นะคะ” พรรณนาราตอบด้วยหน้าตาหงอยๆ ไม่สบตาด้วยเวลาพูด แม้เธอจะชอบเขามากแค่ไหนก็จะไม่รั้งเขาไว้เพื่ออนาคตของตัวเขาเอง “ช่างปะไร พ่อจะมีลูกคนใหม่ พี่ไม่ได้อะไรก็ไม่เป็นไร อาจหางานทำค่อยๆตั้งตัว สร้างจากตัวเองก็ดีเหมือนกัน จะได้มีอิสระจากทุกคน ทุกอย่าง” “เสียดายที่พ่อหนูไม่มีลูกชาย คงจะดีกว่านี้ถ้าหนูเกิดเป็นผู้ชาย เรื่องราวแย่ๆทุกอย่างที่เกิดกับหนู มันคงไม่เกิดขึ้น” “เรื่องแย่ๆ…หมายถึงเรื่องของเราด้วยเหรอ?” การที่เธอไม่ตอบแต่ถอนหายใจ มันทำให้เขาเสียใจว่าเป็นหนึ่งในเรื่องแย่ๆในชีวิตเธอไปแล้ว “พี่จะไม่ไปเรียนต่อ แต่จะหางานทำแล้วรับผิดชอบชีวิตพู่เอง” “พี่ธีไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังพูดอะไรออกมา” “พู่กลัวแม่จะโดนพ่อพี่ทิ้งจริงๆเหรอ พวกเขากำลังจะมีลูกด้วยกันนะ” “เขาจะเอาแต่เด็ก แล้วเทแม่หนูทิ้งถ้าหนูไม่เชื่อฟังเขา จนกว่าเขาจะโอนให้แม่แปดล้านก่อน หนูถึงจะสบายใจและคิดไปจากที่นี่ได้ แล้วพี่ธีจะรับผิดชอบชีวิตหนูยังไง? ค่าเรียน ค่ากิน ค่าจิปาถะ ค่าหอ จะยังไงคะ? เดินไปบอกพ่อหนูว่าเรามีอะไรกัน จะขอพาหนูไปอยู่หอเพราะพ่อพี่ล่วงเกินหนูแบบนี้เหรอ? เรื่องจะบานปลายใหญ่โตแจ้งความขึ้นโรงขึ้นศาล พี่ก็จะไม่ได้คบหนูอยู่ดี แถมพี่จะโดนด้วยข้อหาพรากผู้เยาว์ หนูก็อายเพื่อนอายสังคม พวกเราทุกคนต้องอายกันหมด หนูบอกแล้วว่ามันไม่ง่าย..พวกเราทำผิดเอง..ทุกอย่างมันมีผลลัพธ์ที่ต้องชดใช้” “บอกพี่ทีสิ..เรื่องของเรา..มันคือเรื่องที่แย่ในชีวิตพู่ด้วยเหรอ?” “สำหรับหนู มันเป็นสิ่งที่เต็มใจให้เพราะไม่อยากเสียใจทีหลังถ้าต้องเกิดอะไรต่อจากนี้..พี่จะเป็นคนแรกของหนูตลอดไป” “พี่จะเป็นของพู่ตลอดไปเหมือนกัน” “พูดแบบนี้กับแฟนด้วยใช่มั้ยคะ?” “ไม่เคย” “โกหกเก่งนะคะ” “ไม่ขอให้เชื่อ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีรักแรกแล้วจะเป็นรักตลอดไป พู่เองก็อาจคิดแบบนี้ แต่พี่เจอแล้ว..แม้ว่าวันข้างหน้าหนูอาจเจอคนอื่นที่อยากอยู่ด้วย..มากกว่าพี่” “สัญญากับหนูได้มั้ยว่าจะไม่บอกใครเรื่องที่เรามีอะไรกัน ถ้าจะมีคนรู้ก็บอกว่าแค่คุยกันเท่านั้น” “กลัวพี่โดนตำรวจจับเหรอ?” พรรณนาราแค่พยักหน้า แต่จริงๆแล้วเธอจะเก็บเอาไว้ต่อรองกับชรัน ถ้าเขารู้ว่าเธอมีอะไรกับธีทัตแล้วเขาอาจจะปู้ยี้ปู้ยำเธอได้ ธีทัตเข้ามาสวมกอด เริ่มหอมแก้ม จูบไปตามวงหน้าของพรรณนารา มือที่ลูบไล้แผ่นหลังจนถึงสะโพก ลมหายใจที่ร้อนแรงของเขาทำให้เธอรู้ตัว “พี่ธีกลับห้องเถอะค่ะ เดี๋ยวพ่อพี่มาจับผิดเราละแย่แน่” “ไม่ต้องสนใจหรอก เขากำลังมีอะไรกับแม่บ้านอยู่” sds ธีทัตจะไม่เสียเวลาพูดต่อและเริ่มจูบเธออย่างเร่าร้อน มือที่สัมผัสไปทั่วตัวสาวน้อยอย่างสะเปะสะปะ แล้วอุ้มเธอไปที่เตียง ทำให้พรรณนารากลัวว่าชรันจะมาเปิดประตูห้องเธอตอนไหนก็ได้ จึงคิดว่าจะทำในสิ่งที่เคยทำเพื่อให้มันจบลงไวๆ เธอผลักธีทัตให้นอนหงายและจูบเขาไม่หยุดหย่อน มือที่ล้วงเข้าไปในกางเกงนอนของชายหนุ่ม ลูบไล้แก่นกายที่แข็งตัวรอแล้ว ธีทัตใช้มือหนึ่งดึงกางเกงนอนและบ็อกเซอร์ลงไปนิดหน่อยเพื่อให้เธอทำสะดวก “อาา..พู่ ช้าหน่อย..” เขาแอ่นตัวรับที่เธอใช้มือรูดขึ้นลงให้เร็วๆจนดูรีบเร่ง ตอนนั้นน้ำใสๆออกมาจากส่วนหัวจนไหลเยิ้มเปื้อนมือเธอที่กำลังทำให้ “อยากให้หนูทำอะไรให้..?” ธีทัตเอามือล้วงเข้าไปในเสื้อเธอเพื่อขยำหน้าอกเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนอิริยาบถให้เธอนอนตะแคงส่วนเขาเลื่อนตัวเอาแก่นกายจ่อไปที่ปากเล็กๆนั้น พรรณนาราอายจนหน้าแดงและหลับตาเพื่อไม่อยากเห็นความเป็นชายของเขาใกล้ขนาดนั้น เสียงครางในลำคออย่างพึงพอใจ ความรู้สึกเร่าร้อนในอารมณ์รักที่ถูกสัมผัสอยู่ในช่องปากที่ข้างในนั้นนุ่มนิ่ม ลิ้นที่สัมผัสรอยหยักที่ไวต่อการถูกกระตุ้น เขาดันเข้าออกช้าๆโดยมองหน้าสาวน้อยที่เขาหลงรักไปด้วย ยิ่งทำให้อารมณ์พลุ่งพล่านกระเจิดกระเจิง “อาา พู่ นี่ครั้งแรกด้วยใช่มั้ย? …” “อื้อ…” คำตอบนี้ทำให้เขาสาวเอวเร็วขึ้น..เร็วขึ้น พรรณนาราที่อยากทำให้เขาเสร็จจึงตอบรับด้วยการดูดกลืนที่แรงตอบเช่นกัน “โอยย.. พู่ อ๊าาา…อาาา” ร่างกายเขากระตุกอยู่หลายที พร้อมกับหายใจหอบแรงจนเห็นรอยซี่โครงได้อย่างชัดเจน บ่งบอกว่าเขาเสร็จสมเรียบร้อย พรรณนารารีบลุกวิ่งไปเข้าห้องน้ำเพื่อคายทิ้งและบ้วนปาก ธีทัตเดินไปหาเธอที่ห้องน้ำ กอดจากด้านหลังอย่างรักใคร่ “เดี๋ยวมานะ” ธีทัตรีบเดินออกจากห้องของเธอ มองซ้ายมองขวาก่อนจะไปหยิบเอาเงินในกระเป๋าเอามาให้พรรณนาราสามพันบาท “อย่าเข้าใจผิด พี่อยากให้ไว้พู่ใช้ เผื่ออยากได้อะไร ถ้าทำงานได้จะให้อีก ส่งเลขบัญชีไว้ให้พี่ทีนะ ถ้าไม่ได้เจอกันก็ยังโอนให้ได้” พรรณนารายื่นมือรับเงินปุ๊บ เขาก็บรรจงจูบเธออย่างอ้อยอิ่งเพราะต้องกลับห้องแล้ว ก่อนที่ชรันจะมาเห็นเข้า “พี่รักพู่นะ..พี่จะไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ” “กลับห้องได้แล้วค่ะ” ธีทัตกลับออกไปแล้ว แต่พรรณนารามองเงินในมือตัวเองอย่างครุ่นคิด ผู้ชายเป็นแบบนี้สินะ..ใช้เงินเพื่อจบปัญหาทุกอย่าง..งั้นฉันจะทำเพื่อมันบ้างก็คงไม่ผิดหรอก …………………………………….🔥💳💵วันเสาร์ที่อากาศสดใส รถหรูคันหนึ่งได้ขับเข้ามาที่บ้านของณัฐวีย์ มีผู้หญิงวัยกลางคนที่โฉบเฉี่ยวได้ก้าวลงจากรถ“เอ่อ คุณพิชามาพบคุณณัฐใช่มั้ยคะ? ท่านกำลังทานมื้อเช้ากันอยู่ค่ะ”แม่บ้านคนเก่าคนแก่ได้ถามขึ้นด้วยท่าทางเกรงกลัว“ฉันรอได้ ให้พวกเขากินให้อิ่มก่อนแล้วกัน”พิชามญช์เดินเข้าไปในบ้านที่เธอเคยอยู่มาสิบสามปี สายตามองหาความเปลี่ยนแปลงซึ่งก็มีหลายอย่างที่ขัดหูขัดตา เสียงของตกแตกดังลั่นบ้าน จนทุกคนออกจากห้องรับประทานอาหารวิ่งตามเสียงสิ่งของที่แตกในห้องรับแขก “โอ้..ขอโทษที พอดีชาจะมาหาพู่กันน่ะ เดินชนใส่..ไอ้ไหประหลาดนี้แตก ขอโทษทีนะคะ แต่..มันขวางทางเกะกะมากเลย แถมดูไร้รสนิยมสุดๆ”เธอส่งสายตาที่คุ้นเคยให้อดีตสามี จนเขาเองต้องตั้งสติ ส่วนปริมนั้นถึงกับตัวสั่นที่เห็นสิ่งที่เธอซื้อมาแต่งบ้านได้แตกไม่มีชิ้นดี“ช่างมันเถอะ แล้วลูกไม่บอกคุณหรือว่าแกไปอยู่ที่คอนโดแล้ว”เขาตอบพลางชี้ให้แม่บ้านเก็บกวาดให้เรียบร้อย“ลูกเราโตเป็นสาวแล้วสินะ อีกอย่าง..แกคงยังโกรธชาอยู่ลึกๆ ชาเองมีเรื่องกลุ้มใจเกี่ยวกับพู่กัน มีคนที่ชาจะคุยได้แค่คุณ..พ่อแม่ชาก็เสียหมดแล้ว ไม่รู้จะคุยกับใครได้”ปริมได้ยินแบบนั้น
พิชามญช์กลับมาที่บ้านหลังจากทำผมทำหน้าเสร็จ และรีบขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้านก็เจอลูกสาวกล่อมน้องชายอยู่ เธอยืนดูลูกสาวเงียบๆอยู่พักหนึ่ง พลางคิดแล้วว่าลูกสาวจะต้องเจอฤทธิ์เดชของชรันยังไง“พู่ มาคุยกับแม่ตอนนี้เลย เวลามีไม่มาก ไปที่ห้องคุณธี”พรรณาราทำหน้างง แต่ก็ตามออกไปโดยดี“เมียคุณธีมาที่นี่ใช่มั้ย? มันโทรไปฟ้องคุณรันว่าสงสัยเรื่องลูกมีอะไรกับผัวมันที่นี่ แล้วตอนนี้เขากำลังจะขึ้นเครื่องกลับ แม่มีคำถามจะถามอย่างหนึ่ง ก่อนจะบอกให้ลูกหนีไปจากที่นี่ หมายถึง..ไม่ต้องกลับมาอีก อย่าให้เขาตามหาลูกเจอ ดูแลตัวเองให้ดี”“แต่เขารู้ว่าหนูเรียนที่ไหน?”“แม่จะหาวิธีดึงเขาให้เลิกสนใจลูกเอง เอาล่ะ..บอกแม่สิ ลูกมีอะไรกับคุณธีหรือเปล่า?”“ไม่มีค่ะ เราแค่คุยกัน”พิชามญช์ไม่เชื่อแต่ก็ไม่ถามต่อ “เขาจะช่วยลูกได้และลูกคือคนที่จะทำให้เขามีความสุข ต่อสู้เพื่อตัวเอง เราเป็นผู้หญิง ใช้มารยาหญิงให้เป็นประโยชน์”“แบบแม่น่ะเหรอคะ? หนูไม่ใจร้ายขนาดนั้น”“ไปเก็บของแล้วไปซะ ให้ฟ้ามาช่วยเก็บ”พรรณนาราให้ฟ้ามาช่วยเก็บของทั้งหมดที่จำเป็นรวมถึงกล้องที่ซ่อนไว้ในห้องที่กุมความลับทุกอย่างในห้องนี้เอาไว้มาหลายปี “น้องพู่ เด
ธีทัตที่โตขึ้นกว่าเมื่อก่อน เขาดูเป็นชายหนุ่มที่มุ่งมั่น มั่นใจในตัวเองและดูเอาแต่ใจมากขึ้น “พี่ธี..อื้ออ..ปล่อย” เขาบังคับเอาจูบจากเธอ สองแขนที่กอดแน่น มือที่จับต้นคอเธอไม่ให้หนีหน้าไปจากเขา ไม่มีอะไรหยุดเขาจากความต้องการที่ปะทุขึ้นได้อีกแล้ว “เดี๋ยวค่ะ..พี่ธี เดี๋ยวก่อน..อ๊ะ” พรรณนาราถูกจับกดลงบนเตียง นั่นทำให้เธอกลัวมากเพราะยังไม่ได้ตั้งตัว “รออะไร? พี่รอมาสามปีแล้ว” เขาจูบอย่างหนักหน่วง ใช้น้ำหนักตัวกดทับเพื่อไม่ให้พรรณนาราดิ้นหนี มือล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นลูบไล้ต้นขาและสะโพกของเธอ ก่อนจะพยายามดึงกางเกงแต่อีกฝ่ายต่อต้านด้วยการยื้อไว้ไม่ให้เขาดึงออกไปได้ “พี่ธี…เดี๋ยว ให้หนูทำให้ดีกว่ามั้ยคะ?” ธีทัตมองเธอใกล้ๆด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเขาต้องการและต้องได้ตอนนี้ “ทำอะไร? ไม่ต้องทำ พี่จะเป็นฝ่ายทำ” เธอกลืนน้ำลายและคิดหาทางเอาตัวรอด จึงเอามือลูบและขยำแก่นกายเขาที่แข็งตัว รูดซิบลงแล้วเอามือล้วงเข้าไปจับข้างในกางเกงแทน “ทำไมไม่อยากให้ทำ ไม่รักพี่แล้วเหรอ? หนูบอกว่าพี่ได้ทุกอย่างแล้วค่อยมาคุยกัน นี่ไง..พี่ได้ทุกอย่างแล้ว” “อย่าพึ่งพูดเลย..ให้หนูทำก่อนนะ” เขาบรรจง
ธีทัตฝากของขวัญวันเกิดให้พรรณนาราที่อายุครบ 19 ปี ผ่านทางแม่บ้านสาวอย่างฟ้า เป็นสร้อยแพลตตินั่มจี้เพชรทรงหยดน้ำที่เขาตั้งใจเลือกด้วยตัวเองเพื่อเธอ“น้องพู่ คุณธีฝากของขวัญวันเกิดไว้ให้นะคะ แกโทรมาให้พี่เดินออกไปเอาตั้งไกลแน่ะ สงสัยกลัวคนมาเห็น น้องพู่จะมานอนบ้านนี้อีกทีตอนไหนคะ?”“อาจจะวันศุกร์นี้ค่ะ อยู่บ้านพ่อก็เบื่อ เสียงเด็กร้องโวยวายตลอด ลูกสาวคนใหม่ของพ่อดื้อมาก อารมณ์ร้ายน่าดู ไม่พอใจอะไรก็ตะเบ็งเสียง”“ตายจริง ผิดกับน้องชายน้องพู่เลย ยิ้มเก่ง เริ่มพูดเก่งแล้วเนี่ย ถึงพี่จะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ แต่เห็นจากไกลๆ ป้าพูดให้ฟังว่าน่ารัก เลี้ยงง่ายมาก”“ไม่อยากเชื่อเลยเนอะ”“ยังไงคะ?”“ก็แม่น่ะ ตอนท้องชอบหงุดหงิดจับผิดไปหมด ชอบวางแผน อารมณ์ขึ้นๆลงๆ แต่น้องชายหนูดันตรงข้ามเลย”“ช่วงนี้คุณชรันไม่ค่อยอยู่บ้านด้วยน่าจะงานยุ่ง คุณป้ามาบอกพี่ว่าคุณแม่น้องพู่บ่นทุกวัน แต่ก็ดีกับน้องพู่นะ”“ใช่ค่ะ แต่หนูว่าเขาน่าจะมีเด็กใหม่”“หึ..คนมักมาก สักวันโรคจะถามหา”“พี่ฟ้า..หนูอยากให้พี่ได้เจอคนดีๆเหมือนกันนะคะ”“ถ้าพี่ยังจน ความรู้น้อย คงไม่คิดมีแฟนหรอกค่ะ ที่ผ่านมานี่ก็สิ้นคิดพอแล้ว”“ไม่เอาน่า”วั
“คุณพ่อพี่ดูแลหนูอย่างดี ยินดีด้วยที่เรียนจบและสุขสันต์วันเกิดนะคะ”เธอพูดโดยที่แง้มประตูอยู่แค่นั้นและไม่สบตาด้วย“อวยพรให้หน่อยสิ”“หนูเขียนคำอวยพรในกระดาษให้แล้ว พี่ได้รับหรือยังคะ?”“ได้แล้ว แต่อยากได้อีก”สายตาเขาที่ทอดมองมาหมายความแบบนั้นจริงๆที่อยากได้ทั้งคำอวยพรและอย่างอื่น“ขอให้พี่ธีสุขภาพดีและคิดหวังสิ่งใดให้สมหวังทุกอย่างนะคะ” “พี่จะสมหวังแบบที่น้องพู่พูด เพราะคิดแล้วว่าต้องการอะไร”ธีทัตดันประตูเข้ามาจนได้ ทำให้พรรณนาราเกิดกลัวขึ้นมา เธอกอดอกตัวสั่นเพราะหวั่นใจถ้าใครมาเห็นเข้าพรรณนาราถอยหลังไปเรื่อยๆเพราะธีทัตเดินมาใกล้ แล้วมอบกอดที่อบอุ่นให้เธอ เขาสูดดมกลิ่นหอมจากเส้นผมของเธออย่างหลงใหล“พี่เรียนจบแล้ว ตอนอยู่อังกฤษคิดอยู่ว่า..หรือจะหางานทำแล้วพาพู่มาอยู่ด้วยกัน พี่อยากสละทุกอย่างที่นี่ พู่ก็โอนหน่วยกิตไปเรียนที่นู่นเอา พี่จะส่งเสียเอง”ถึงฉันจะมีความรู้สึกให้เขา..แต่ฉันจะไม่ยอมให้ทุกคนที่ทำให้ฉันมีแผลใจต้องสมหวังหรอก… “หนูทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ตอนนี้พ่อก็มีภรรยาใหม่เหมือนกัน หนูเองต้องอยู่เพื่อปกป้องสิทธิ์ของหนูด้วย ไม่มีใครควรชุบมือเปิบเอาของๆคนอื่นมาเป็นของตัวเองทั้งน
วันที่ธีทัตเรียนจบกลับมาจากอังกฤษซึ่งใกล้กับวันเกิดของเขาพอดี แต่เขาโดนกันท่าจากพ่อและแม่ทำให้ไม่สามารถไปที่บ้านซึ่งพรรณนาราอยู่ที่นั่นได้ เขาอยากเจอเธอที่ตอนนี้อายุได้สิบแปดแล้ว แต่ก็ทำได้แค่คิดฝัน สามวันตั้งแต่กลับมาธีทัตได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อปรับเวลาและปรับสภาพร่างกายโดยอยู่ในสายตาของแม่อยู่ตลอด“วันนี้ครอบครัวแบมกับครอบครัวเรามีนัดทานข้าวเย็นกันที่ Lacal Bangkok นะลูก แต่งตัวดีๆล่ะ”บรรยากาศการดินเนอร์ของสองครอบครัวเป็นไปด้วยดี มีเพียงธีทัตที่พูดน้อย เน้นพูดและแสดงออกตามมารยาท เสียงเคาะประตูทำให้พรรณนาราตกใจทุกครั้ง แต่ก็เดินไปเปิดให้“ไงลูกรัก คุณอาชรันกับภรรยาเก่ามีนัดทานข้าวกับครอบครัวคู่หมั้นคุณธี ถึงเวลาที่ลูกต้องดึงเขาอย่าให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น แทนที่จะมานั่งจับเจ่าเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่แบบนี้”“หนูมัวคุยกับเพื่อนเรื่องเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ ไม่ได้สนใจเรื่องคนอื่นหรอก พรุ่งนี้วันศุกร์ก็ต้องไปอยู่บ้านพ่อด้วย คงไม่ได้เจอใครหรอกค่ะ”“ใกล้วันเกิดพี่ธีแล้ว แม่จะลองพูดให้เขาจัดงานวันเกิดที่นี่ดู”“แล้วแต่แม่เถอะค่ะ ขอตัวคุยกับเพื่อนต่อนะคะ”เมื่อจบจากดินเนอร์ ธีทัตไปส่งแม่ที







