공유

บทที่ 8

작가: แสงอรุณฤดูใบไม้ผลิ
เสิ่นเยี่ยนจือคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาทันที จ้องมองข้อความนั้นอย่างเคร่งเครียด ดวงตาดำมืดไปด้วยความโกรธ

ทุกครั้งที่เขามีอะไรกับฉินจืออี้ เขาก็ใช้วิธีป้องกันเสมอ ดังนั้นไม่ก็เธอกำลังโกหกเขา ก็คือเธอแอบทำอะไรกับถุงยางอนามัย

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน ก็ล้วนแตะต้องขีดจำกัดของเสิ่นเยี่ยนจือทั้งสิ้น

เขาโทรหาฉินจืออี้ทันที "ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?"

เมื่อได้ยินน้ำเสียงเย็นชาและโกรธเกรี้ยวของเขา หัวใจของฉินจืออี้ก็พลันรู้สึกปวดร้าว

"บอส ฉันท้องแล้ว คุณไม่ดีใจเลยเหรอคะ?"

เสิ่นเยี่ยนจือหัวเราะอย่างเย็นชา "เธอแน่ใจเหรอว่าท้อง แล้วก็เป็นลูกของฉันน่ะ?"

"บอสคะ ฉันมีแค่คุณคนเดียว ลูกในท้องฉันจะเป็นของคุณหรือเปล่า คุณจะไม่รู้เหรอคะ?"

น้ำเสียงของเธอเจือด้วยการต่อว่าและความน้อยใจ แต่เสิ่นเยี่ยนจือกลับรู้สึกเพียงรำคาญ

"งั้นก็ทำแท้งซะ"

นอกจากจี้อี่หนิง เขาไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนไหนมามีลูกให้เขาอีก

ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับผู้หญิงอย่างฉินจืออี้ที่เข้าหาเขาเองแบบนี้ เขาก็แค่เล่น ๆ เท่านั้น ไม่เคยจริงเอาจังด้วยเลย

"ไม่ค่ะ นี่เป็นลูกของฉันกับคุณ ฉันจะคลอดเขาออกมา"

เสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้วแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความรำคาญ ถ้ารู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่รู้เรื่องราวขนาดนี้ เขาก็คงไม่แตะต้องเธอตั้งแต่แรก

"ฉันจะถามเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?"

ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง เสียงสะอื้นของฉินจืออี้จึงดังขึ้นมา

"บอสคะ ที่คุณถามว่าฉันอยู่ที่ไหน คุณจะบังคับพาฉันไปโรงพยาบาลเพื่อทำแท้งเหรอคะ?"

เสิ่นเยี่ยนจือไม่พูดอะไร ใช้ความเงียบตอบคำถามเธอ

"ถ้าคุณไม่ชอบเด็กคนนี้ ฉันจะคลอดออกมาเลี้ยงดูเอง และจะไม่ให้เขารู้ว่าใครเป็นพ่อแท้ ๆ..."

พูดยังไม่ทันจบ เสิ่นเยี่ยนจือก็ตัดสายทันที ติดต่อเลขาให้ไปสืบว่าฉินจืออี้อยู่ที่ไหน

วันที่จี้อี่หนิงรู้ว่าเขานอกใจ เขาก็สืบรู้แล้วว่าเป็นฝีมือของฉินจืออี้ จึงไล่เธอออกจากบริษัททันที

ไม่นึกว่าเธอจะยังเก็บไพ่ตายไว้

เด็กคนนั้นต้องไม่ได้เกิดมาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเขากับจี้อี่หนิงก็คงต้องจบกันจริง ๆ

กลางดึก ขณะที่กำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น จี้อี่หนิงก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถ กระนั้นก็ไม่ได้สนใจ

ตอนเช้าขณะทานอาหารเช้า จึงได้ยินแม่บ้านบอกว่าเมื่อคืนเสิ่นเยี่ยนจือรีบออกไปข้างงนอกอย่างเร่งรีบ ไม่รู้ว่าบริษัทมีเรื่องอะไรหรือเปล่า

จี้อี่หนิงไม่ตอบอะไร ยกนมขึ้นมาจิบ ในดวงตาวาบไหวด้วยแววเยาะหยัน

จะเป็นเรื่องบริษัทที่ไหนกัน คงจะรีบไปพบผู้หญิงข้างนอกนั่นแหละ

หลังทานอาหารเช้าเสร็จ จี้อี่หนิงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขับรถไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทยาเฉิงหยวน

หลังสัมภาษณ์เสร็จ ฝ่ายบุคคลก็ให้กลับไปรอข่าว โดยจะแจ้งผลภายในสามวัน

เมื่อเดินออกจากบริษัทยาเฉิงหยวน จี้อี่หนิงจึงส่งข้อความถามสือเวยว่าจะไปกินอาหารกลางงวันที่ไหน สือเวยจึงส่งที่อยู่ร้านอาหารมาให้ทันที

จี้อี่หนิงเก็บโทรศัพท์ ขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าไปร้านอาหาร

แต่เธอไม่ทันสังเกตว่า ไม่ไกลออกไปมีหญิงสาวสวมเสื้อกาวน์สีขาว แต่งหน้าอย่างประณีต จ้องมองมาทางเธออยู่หลายวินาที พลางขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว

หญิงสาวข้าง ๆ ที่สวมเสื้อกาวน์สีขาวมองไปตามสายตาเธอ แต่เห็นเพียงรถของจี้อี่หนิงกำลังเลี้ยวหายไปที่มุมถนน

"อี๋หนิง เธอมองอะไรอยู่น่ะ?"

หลิ่วอี๋หนิงส่ายหน้า "ไม่มีอะไร...เมื่อกี้เหมือนเห็นคนรู้จัก ฉันคงตาฝาดไปเองมั้ง"

"เป็นเพื่อนเธอเหรอ?"

ดวงตาของหลิ่วอี๋หนิงวาบไหวด้วยความรังเกียจ พูดด้วยเสียงเย็นชา "ไม่ใช่ เป็นคนที่น่ารังเกียจมากคนหนึ่งต่างหาก"

"คนที่ทำให้เธอรังเกียจได้ คงไม่ใช่คนดีแน่ ๆ"

น้ำเสียงของหญิงสาวเจือด้วยการประจบและเอาใจ แต่หลิ่วอี๋หนิงกลับชอบใจ

"ช่างเถอะ ไม่พูดถึงเธอแล้ว ทำให้อารมณ์เสียเปล่า ๆ"

ตอนที่จี้อี่หนิงไปถึงร้านอาหาร สือเวยก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน ทั้งสองเจอกันที่หน้าร้าน สือเวยเดินเข้ามาคล้องแขนเธอ แล้วเดินเข้าไปข้างในด้วยกัน

สือเวยเดินเฉันมาคล้องแขนเธอ แล้วเดินไปด้วยกัน

"สัมภาษณ์เป็นยังไงบ้าง?"

"รู้สึกว่าก็โอเคนะ แต่ไม่รู้ว่าจะได้งานหรือเปล่า"

"ถ้าไม่ได้ก็เปลี่ยนที่ใหม่สิ บริษัทยาในเมืองเซินมีตั้งเยอะแยะ ถ้าเสียเธอไป ก็ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของบริษัทเขาเลยล่ะ"

"ขอบใจนะที่มั่นใจในตัวฉันขนาดนี้ แต่ฉันไม่ได้อยู่ในห้องปฏิบัติการมาหลายปีแล้ว"

การวิจัยและพัฒนายา เรื่องประสบการณ์ก็มีความสำคัญมากเหมือนกัน

นอกจากตอนที่เธอเรียนปริญญาโททำงานวิจัยสามปี โชคดีที่มีผลงานอยู่บ้าง ในแง่ประสบการณ์การทำงาน เธอก็ไม่สามารถเทียบกับคนที่ทำงานมาหลายปีได้จริง ๆ เธอรู้ตัวดีในข้อนี้

"ไม่ต้องห่วง แค่เธอเริ่มทำงาน ไม่นานก็คงตามคนอื่นทันได้นั่นแหละ"

ตอนที่จี้อี่หนิงทำการทดลอง เธอทุ่มเทจนแทบไม่กินไม่นอนเลยทีเดียว เพื่อผลการทดลองและข้อมูล เธอสามารถอยู่ในห้องปฏิบัติการได้ทั้งเดือน

"ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว เมื่อคืนฉันได้ยินเสียงผู้ชายในโทรศัพท์ เล่ามาซิ เกิดอะไรขึ้น?"

สีหน้าของสือเวยฉายแววเก้อเขิน หลบสายตาจี้อี่หนิงโดยไม่รู้ตัว

"จงั้นเหรอ? ผู้ชายคนไหน? เธอได้ยินผิดหรือเปล่า?"

จี้อี่หนิงจ้องมองเธอ พูดอย่างไร้อารมณ์ "สือเสี่ยวเวย...ฉันยังไม่แก่ขนาดหูมีปัญหาหรอกนะ...หูทั้งสองของฉันได้ยินชัดเจน...เมื่อคืนมีผู้ชายอยู่ที่บ้านเธอ"

แก้มของสือเวยเริ่มแดงขึ้น รู้ว่าวันนี้คงหนีไม่พ้น

"โอเค โอเค ฉันจะบอก...คนเมื่อคืนเป็นเจ้านายของฉันจริง ๆ...เรากำลังคบกันอยู่"

พูดจบ สือเวยก็พบว่าจี้อี่หนิงไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ

เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย เห็นสายตาของจี้อี่หนิงจ้องเขม็งไปที่จุดหนึ่งในร้านอาหาร ดวงตาแดงก่ำ สือเวยก็พลันรู้สึกใจหายวาบ

เมื่อมองตามสายตาของเธอไป ก็เห็นเสิ่นเยี่ยนจือนั่งอยู่กับผู้หญิงที่ไม่รู้จักคนหนึ่ง

เขาทำหน้าเย็นชา ส่วนผู้หญิงข้าง ๆ กำลังเช็ดน้ำตาเป็นครั้งคราวพลางมองเขาด้วยสายตาหวานซึ้ง

สือเวยไม่คิดว่าเสิ่นเยี่ยนจือจะกล้าทำอย่างโจ๋งครึ่มขนาดนี้ พาชู้มาปรากฏตัวในที่สาธารณะอย่างเปิดเผย

"นั่นเป็นชู้ที่เสิ่นเยี่ยนจือหามาเหรอ?"

"อืม"

จี้อี่หนิงไม่อยากสนใจ แต่เมื่อเห็นภาพที่พวกเขานั่งอยู่ด้วยกัน หัวใจก็เหมือนถูกตาข่ายใหญ่รัดแน่น เจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก

"ฉันจะไปจัดการมัน! เป็นแค่ชู้แล้วยังมาทำอวด ไร้ยางอายจริงๆ!"

เมื่อเห็นสือเวยทำหน้าโกรธเกรี้ยว จี้อี่หนิงจึงรีบดึงเธอไว้

"อย่าไปนะ!"

เข้าไปตอนนี้ ก็จะยิ่งทำให้ตัวเองอับอายเท่านั้น

"เธอจะทน.."

คำว่า "กล้ำกลืนความโกรธ" ยังไม่ทันได้พูดออกมา ก็เห็นสีหน้าของจี้อี่หนิงที่เกือบจะร้องไห้ หัวใจของสือเวยก็ปวดร้าวอย่างรุนแรง

"อย่าร้องไห้นะ ไอ้คนเลวแบบนั้นไม่คุ้มค่าหรอก!"

จี้อี่หนิงขยี้ตาแล้วสูดหายใจเข้าลึก "อืม ฉันรู้"

ตั้งแต่วินาทีที่เสิ่นเยี่ยนจือนอกใจ ผู้ชายคนนี้ก็ไม่คู่ควรกับความรักของเธออีกแม้แต่น้อย

แต่เธอรักเขามาแปดปี การทำให้จิตใจสงบนิ่งภายในระยะเวลาสั้น ๆ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

แต่เธอเชื่อว่า เธอจะค่อย ๆ ปลดเขาออกจากหัวใจ จนกลายเป็นคนแปลกหน้าได้เอง

โดยไม่มองสองคนนั้นอีก จี้อี่หนิงหันหลังเดินไปอีกทาง

เสิ่นเยี่ยนจือรู้สึกว่ามีสายตาจับจ้องมาที่ตัวเอง แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองไปก็กลับไม่เห็นอะไร

ฉินจืออี้ที่อยู่ข้าง ๆ ยังคงสะอื้นเบา ๆ เขาจึงยิ่งรู้สึกหงุดหงิด จุดบุหรี่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ถ้าเธอไม่ยอมไปทำแท้ง ฉันก็มีวิธีทำให้เธอคลอดเด็กคนนี้ออกมาไม่ได้อีกเยอะเยอะ"
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

관련 챕터

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 9

    เสียงร้องไห้ของฉินจืออี้หยุดชะงักทันที ดวงตาเต็มไปด้วยความน้อยใจ "บอสคะ ฉันจริงใจกับคุณนะคะ"นึกถึงการวางแผนของผู้หญิงคนนี้ที่มีต่อตน ความรู้สึกรังเกียจก็พลุ่งพล่านในใจของเสิ่นเยี่ยนจือ"ความจริงใจของเธอมีค่าเท่าไหร่กัน?"เขาหยิบบัตรเครดิตใบหนึ่งโยนลงบนโต๊ะ มองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ในนี้มีเงินอยู่สองล้าน เอาเงินไปทำแท้งที่โรงพยาบาลเอง หรือจะให้ฉันสั่งบอดี้การ์ดมัดเธอไปโรงพยาบาล เธอน่าจะรู้ว่าควรจะเลือกยังไงนะ"ฉินจืออี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง มือสั่นเทาหยิบบัตรเครดิต แล้วเอามือปิดหน้าวิ่งออกจากร้านอาหารไปเมื่อโทรศัพท์สั่งให้บอดี้การ์ดคอยจับตาดูฉินจืออี้ไปโรงพยาบาล เสิ่นเยี่ยนจือจึงได้วางสายอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นรูปจี้อี่หนิงที่เป็นภาพพื้นหลังหน้าจอ สีหน้าของเขาก็อ่อนโยนลงเล็กน้อยโดยไม่ลังเลเลย เขากดโทรหาเธอทันทีเสียงรอสายดังอยู่นานกว่าอีกฝ่ายจะรับสาย "มีเรื่องอะไร?"น้ำเสียงเย็นชาของเธอ เหมือนสาดน้ำเย็นลงบนหัว หัวใจของเสิ่นเยี่ยนจือที่เดิมอุ่นขึ้นเล็กน้อยเพราะคิดถึงเธอ พลันเย็นชาลงในทันทีมือที่จับโทรศัพท์บีบแน่นโดยไม่รู้ตัว พยายามควบคุมไม่ให้เธอรู้ว่าตัวเองผิดหวัง"ไม่มีอะไ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 10

    เสิ่นเยี่ยนจือตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเผลอพูดออกมาว่า "แต่ทุกครั้งที่คุณไปร้านดอกไม้ คุณก็ซื้อแต่ดอกนี้นี่นา"จี้อี่หนิงหลบตา เขาคงลืมไปแล้วว่าวันที่เขาสารภาพรักกับเธอ ก็ให้ดอกกุหลาบนี่แหละทว่ามันไม่สำคัญอะไรแล้ว แม้แต่ความรู้สึกของพวกเขาเขายังทรยศได้ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ที่เขาไม่ใส่ใจก็เป็นเรื่องปกติ"นั่นมันเมื่อก่อน"จี้อี่หนิงเดินผ่านเขาเข้าห้องนอนไป เธอรู้สึกได้ว่าสายตาของเสิ่นเยี่ยนจือจับจ้องอยู่ที่เธอตลอด แต่เธอไม่สนใจแล้วว่าเขาจะรู้สึกเสียใจหรือทุกข์ใจกับคำพูดของเธอหรือเปล่าหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ลงมาชั้นล่าง แม่บ้านได้นำอาหารเย็นมาวางบนโต๊ะแล้ว"นายน้อย นายหญิงน้อย อาหารเย็นเสร็จแล้วค่ะ"จี้อี่หนิงพยักหน้า เดินตรงไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ไม่แม้แต่จะมองเสิ่นเยี่ยนจือเสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดอะไร เดินมานั่งตรงข้ามเธออย่างเงียบ ๆป้าหวังสังเกตเห็นบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนไม่ค่อยดี เดาว่าคงทะเลาะกันมาเธออุ้มดอกไม้บนโต๊ะในห้องรับแขกขึ้นมา ยิ้มมองจี้อี่หนิงแล้วพูดว่า "นายหญิงน้อยคะ ดอกไม้นี้ให้จัดแจกันส่งไปไว้ในห้องคุณเหมือนเดิมนะคะ?""ไม่ต้อง โยน

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 11

    น้ำเสียงสั่งการของเขา ทำให้จี้อี่หนิงขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว"ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่ ฉันก็จะย้ายออกไป"น้ำเสียงเฉยเมยของจี้อี่หนิงทำให้ความโกรธของเสิ่นเยี่ยนจือทวีความรุนแรงขึ้น เสียงของเขาก็ยิ่งดังขึ้นมาก "คุณอย่าลืมนะ ค่ายารักษาพ่อของคุณ…"ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกจี้อี่หนิงขัดขึ้นอย่างเย็นชา"เสิ่นเยี่ยนจือ ถ้าฉันจำไม่ผิด ลูกชายของลุงสองคุณกำลังจะกลับมาจากการเรียนต่อเร็ว ๆ นี้แล้ว คุณก็คงไม่อยากให้เรื่องที่คุณนอกใจถูกคนที่บ้านเดิมรู้ในตอนนี้หรอกใช่ไหม?"เพราะลุงสองของเขาไม่ได้เรื่อง ดังนั้นท่านผู้เฒ่าเสิ่นจึงทุ่มเทความพยายามอย่างมากกับลูกพี่ลูกน้องของเขาเพราะยังไงซะ เสิ่นซื่อกรุ๊ปก็ใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีทางจะให้เสิ่นเยี่ยนจือทั้งหมดได้หรอกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เสิ่นเยี่ยนจือทำตัวดีต่อหน้าท่านผู้เฒ่าเสิ่นมาโดยตลอด ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ จะให้เธอไปพูดเรื่องที่เขานอกใจออกมาได้ในช่วงเวลานี้ไม่ได้จี้อี่หนิงเลือกที่จะย้ายออกไปในเวลานี้ ก็เพราะคำนึงถึงเรื่องนี้เช่นกันที่ปลายสายเงียบไปนาน ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ตามมา"อี่หนิง ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอจะเป็นกระต่ายที่กัดค

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 12

    วันจันทร์เวลาแปดโมงเช้า จี้อี่หนิงมาถึงเฉิงหยวนตรงเวลาฝ่ายบุคคลทำเรื่องเข้าทำงานให้เธอเสร็จแล้วพาเธอเดินชมรอบบริษัท ให้เธอคุ้นเคยกับตำแหน่งของแต่ละแผนก จากนั้นพาเธอไปที่ห้องทำงานผู้จัดการแผนกวิจัยและพัฒนาของตัวเองแล้วก็จากไปผู้จัดการแผนกวิจัยและพัฒนาชื่อ เจี่ยงหรู เป็นผู้หญิงวัยสี่สิบปีต้น ๆ มีผมสั้นเรียบร้อย ไม่ค่อยยิ้มแย้ม ดูเคร่งขรึมเล็กน้อย"นั่งสิ"หลังจากที่จี้อี่หนิงนั่งลงแล้ว เจี่ยงหรูกล่าวด้วยท่าทางเรียบเฉยว่า "ฉันดูประวัติของเธอแล้ว เธอทำผลงานได้ดีในช่วงที่อยู่มหาวิทยาลัย แต่หลายปีมานี้ไม่ได้เข้าห้องปฏิบัติการอีก เธอเริ่มจากการเป็นผู้ช่วยก่อนแล้วกัน""ค่ะ"เห็นเธอมีท่าทีสงบ ไม่มีท่าทีไม่พอใจเลยสักนิด เจี่ยงหรูก็รู้สึกพอใจอยู่ในใจเธอชอบลูกน้องที่ทำงานอย่างตั้งใจและจริงจัง ตอนนี้ดูเหมือนว่าจี้อี่หนิงจะเป็นคนที่มีความตั้งใจดีเธอลุกขึ้นยืนและมองไปที่จี้อี่หนิง "ฉันจะพาเธอไปพบปะเพื่อนร่วมงาน"เจี่ยงหรูพาจี้อี่หนิงเข้าไปในแผนกวิจัยและพัฒนา แล้วพูดเสียงดังว่า "ทุกคนหยุดงานสักครู่ วันนี้แผนกของเรามีสมาชิกใหม่ อี่หนิง แนะนำตัวหน่อยสิ"จี้อี่หนิงก้าวไปข้างหน้า ยิ้มเล็กน้อ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 13

    เจี่ยงหรูหันไปมองจี้อี่หนิง "หลายวันมานี้เธอได้ความรู้อะไรจากห้องปฏิบัติการไปบ้าง?""ฉันเคยสังเกตค่ะ ตอนนี้สิ่งที่ห้องปฏิบัติการกําลังทําคือการวิจัยพัฒนายารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด ปัจจุบันการวิจัยและพัฒนายาคืบหน้าประมาณ 50% และกําลังเตรียมที่จะใช้หนูทดลองเป็นขั้นตอนการทดลอง"สีหน้าของเจี่ยงหรูที่ได้ยินดังนั้นก็ดีขึ้นมาหน่อย พร้อมกับแววตาที่หันไปมองจี้อี่หนิงก็แฝงไปด้วยความชื่นชม"ดีมาก สำหรับการใช้เครื่องมือทดลอง เธอได้เรียนรู้เป็นยังไงบ้าง?""ก็ศึกษาจนพอได้หมดแล้วค่ะ"หลิ่วอี๋หนิงที่อยู่ด้านข้างก็ขมวดคิ้วหันไปมองจี้อี่หนิง "อี่หนิง ฉันรู้ว่าเธอต้องการที่จะทำการทดลองด้วยตัวเองโดยเร็วที่สุด แต่เธอต้องรู้ว่าการทดลองเป็นสิ่งที่เข้มงวดมาก อีกทั้งมีเครื่องมือหลายชนิดที่ช่วงนี้เรายังไม่เคยใช้ ทำไมเธอถึงพูดว่าเธอศึกษาจนพอได้หมดแล้วล่ะ?"สีหน้าของจี้อี่หนิงนั้นสงบนิ่ง "เครื่องมือพวกนี้สมัยเรียนมหาวิทยาลัยฉันเคยใช้หมดแล้ว""เธอเองก็บอกว่าเรียนในมหาวิทยาลัย เธอไม่ได้เข้าห้องปฏิบัติการมาหลายปีแล้ว ต้องเรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น สิ่งที่เราทําคือการพัฒนายา จะประมาทไม่ได้แม้แต่น้อยเลยนะ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 14

    สีหน้าของจี้อี่หนิงเปลี่ยนไปทันที พร้อมกับรีบแย่งโทรศัพท์คืนจากเสิ่นเยี่ยนจือกะทันหัน"ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ!"เสิ่นเยี่ยนจือคว้ามือของเธอไว้"ผมจะไปกับคุณ"ก็ไม่ให้โอกาสจี้อี่หนิงปฏิเสธ เขาดึงจี้อี่หนิงออกไปข้างนอกทันทีจี้อี่หนิงพยายามสะบัดมือเขา แต่ไม่สำเร็จและอดขมวดคิ้วไม่ได้"ปล่อยฉันนะ ฉันเดินเองได้"เสิ่นเยี่ยนจือหันหน้ากลับมามองเธอ สีหน้าเหนื่อยหน่ายเล็กน้อย "อี่หนิง ตอนนี้คุณพ่อร่างกายสำคัญกว่า เรื่องที่เราทะเลาะกันค่อยเคลียร์ทีหลัง ได้ไหม?"เดิมทีจี้อี่หนิงอยากจะบอกว่าระหว่างพวกเขาไม่ใช่การทะเลาะกันธรรมดา แต่ตอนนี้เรื่องของพ่อของเธอสําคัญกว่า เธอจึงขี้เกียจเถียงกับเขาอีกทั้งสองรีบไปที่ประตูห้องฉุกเฉิน จากนั้นก็เห็นเวินจิ้งหงนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างทางเดินและรออย่างใจจดใจจ่อ ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ จี้อี่หนิงก็รีบก้าวไปข้างหน้า"คุณน้าคะ มันเกิดบ้าอะไรขึ้น? อาการของพ่อฉันทรงตัวมาตลอดไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ ๆ ถึงเป็นลมกะทันหัน?"ก่อนหน้านี้หมอเคยกล่าวไว้ว่า ตราบใดที่จี้เหว่ยหงไม่ถูกกระตุ้น อาการป่วยโดยทั่วไปก็จะทรงตัวได้เมื่อเห็นจี้อี่หนิง เวินจิ้งหงอดไม่ได้ที่จะสะอึกสะอื้น ผ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 15

    เสิ่นเยี่ยนจือรีบเข้าไปด้านหน้า นั่งยอง ๆ อยู่ข้างจี้หงเหว่ย "คุณพ่อครับ ท่านวางใจได้ว่า ผมจะดีกับอี่หนิงไปตลอดชีวิตแน่นอน""อื้ม ตราบใดที่นายดีกับเธอพ่อก็พอใจแล้ว"เมื่อเห็นดวงตาของจี้หงเหว่ยค่อย ๆ ปิดลง จี้อี่หนิงก็รีบตะโกนเรียกเขา "คุณพ่อคะ ตอนนี้ฤทธิ์ยาสลบยังไม่หมดดี ห้ามนอนหลับค่ะ"จี้อี่หนิงและเสิ่นเยี่ยนจือผลัดกันเรียกจี้เหว่ยหงตลอดทั้งคืน จนกระทั่งท้องฟ้าค่อย ๆ สว่างขึ้น ฤทธิ์ของยาสลบเกือบหมดแล้วจึงปล่อยให้จี้เหว่ยหงนอนหลับเพิ่งรุ่งสางไม่นาน เวินจิ้งหงก็นําซุปที่ปรุงเสร็จแล้วมา"อี่หนิง เยี่ยนจือ เมื่อคืนพวกเธอลำบากมาก พวกเธอกลับไปเถอะ น้าจะดูแลเอง"อดหลับอดนอนข้ามคืน จี้อี่หนิงแทบจะลืมตาไม่ขึ้น พยักหน้าแล้วเอ่ยว่า "ค่ะ น้าเวิน ถ้ามีเรื่องอะไรน้าโทรหาหนูได้เลยนะคะ เสาร์อาทิตย์หนูพักผ่อนอยู่บ้าน"คนพูดพูดโดยไม่ได้คิดอะไร เวินจิ้งหงขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวจี้อี่หนิงไม่ได้ทํางานมาตลอดไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงบอกว่าเสาร์อาทิตย์หยุดพักผ่อน?แต่เธอยังไม่ทันได้ถาม พยาบาลก็เข้ามาเตรียมตรวจจี้เหว่ยหง เธอได้แต่เก็บความสงสัยในใจ เตรียมส่งข้อความถามจี้อี่หนิงทีหลังทั้งสองเดินออกจากโรงพย

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 16

    ความเย็นถาโถมเข้ามา จี้อี่หนิงตัวสั่นเทาโดยไม่รู้ตัว ร่างกายสั่นไม่หยุดเมื่อมองเห็นส่วนนูนโค้งวับ ๆ แวม ๆ บนเนินอกของเธอ ดวงตาของเสิ่นเยี่ยนจือก็มืดลงทันที ทันใดนั้นก็ก้มศีรษะลงไซร้จูบที่กระดูกไหปลาร้าของเธอทันที"อย่ามาโดนฉัน!"จี้อี่หนิงดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แต่ร่างกายเจ้ากรรมถูกเสิ่นเยี่ยนจือกดทับเอาไว้ ความแตกต่างระหว่างความแข็งแกร่งตามธรรมชาติระหว่างผู้ชายและผู้หญิงทําให้เธอไม่มีทางหลบหนีได้สีหน้าเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจและความโกรธ เมื่อถูกเขาสัมผัสเข้า ก็รู้สึกขยะแขยงมาก"อี่หนิง ครั้งนี้คุณปฏิเสธไปก็ไร้ประโยชน์"มีเพียงทำให้เธอตั้งท้องลูกของเขาเท่านั้น เธอถึงจะอยู่กับเขาบังคับฝืนให้ตัวเองไม่สนใจสายตาที่รังเกียจของจี้อี่หนิง เสิ่นเยี่ยนจือก้มหน้าจูบที่ริมฝีปากเธอเสี้ยววินาทีต่อมา ริมฝีปากถูกจี้อี่หนิงกัดอย่างรุนแรงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกลิ่นเลือดก็ตลบอบอวลในปากของทั้งคู่เสิ่นเยี่ยนจือปล่อยเธอและไปเช็ดเลือดที่มุมปาก แสยะยิ้มพร้อมกับบีบคางของเธอ บังคับให้เธอหันมามองตัวเขา"อี่หนิง วันนี้คุณหนีไม่พ้นหรอก"ทันทีที่ก้มหัวลงจูบกระดูกไหปลาร้าของเธอ ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะปร

최신 챕터

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 340

    จี้อี่หนิงแววตาเต็มไปด้วยความรำคาญ “ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ และก็ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นตัวอันตรายอะไร สำหรับฉัน เธอก็แค่คนแปลกหน้าคนหนึ่งเท่านั้นเอง”เสิ่นเยี่ยนจือสีหน้าเจือความจนใจเล็กน้อย “เธอไม่ต้องดื้อขนาดนี้ก็ได้ เราก็เคยรักกันมาก่อน ถึงแม้ตอนนี้จะเลิกกันไปแล้ว ผมก็ยังอยากให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น แค่อาเล็กของผม เขาไม่เหมาะกับเธอเลยจริงๆ”จี้อี่หนิงขมวดคิ้ว พูดอย่างเย็นชา “ฉันไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระพวกนี้ หลบไป!”วันนี้เธอเจอหลี่เหวิน เดิมทีก็อารมณ์ดีอยู่แล้ว ไม่นึกว่าจะมาเจอเสิ่นเยี่ยนจือเลยทำให้อารมณ์ดีๆ หายหมดฉินจืออี้ที่อยู่ข้างๆ หัวเราะเยาะ “เยี่ยนจือ เธอไม่ต้องพูดแล้ว ปล่อยให้เธออยากเป็นเมียน้อยเถอะ ยังไงคนที่น่าอับอายสุดท้ายก็ไม่ใช่เธออยู่ดี”เดิมทีจี้อี่หนิงไม่คิดจะสนใจพวกเขาแล้ว แต่พอได้ยินแบบนี้ก็อดหันไปมองฉินจืออี้ไม่ได้“พูดถึงเรื่องเป็นเมียน้อย คุณฉินน่าจะมีประสบการณ์นะ ก็ในเมื่อเธอเองก็ได้ขึ้นแท่นภรรยาจากการเป็นเมียน้อยนี่ไม่ใช่เหรอ?”ใบหน้าฉินจืออี้เปลี่ยนสีทันที ตะโกนว่า “จี้อี่หนิงเธอพูดบ้าอะไร?! ฉันกับเยี่ยนจือจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ตอนนี้ฉันคือคุณนายเสิ่นอย่างถู

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 339

    หลังจากที่รุ่นพี่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอก็ไปเรียนต่อที่เมืองเป่ย์เฉิง ส่วนจี้อี่หนิงกลับมาที่เมืองเซิน นับๆ ดูแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 4 ปีแล้วจี้อี่หนิงตอบกลับข้อความ จากนั้นก็ถามว่าโรงแรมของรุ่นพี่อยู่ที่ไหน แล้วก็หาร้านอาหารท้องถิ่นใกล้โรงแรมไว้หนึ่งแห่งตอนหกโมงเย็นกว่าๆ จี้อี่หนิงเพิ่งเดินเข้าไปในร้านอาหาร ก็เห็นผู้หญิงผมสั้น หน้าเหมือนตุ๊กตาคนหนึ่งนั่งอยู่ริมหน้าต่างโบกมือให้เธอ“อี่หนิง นี่!”เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของรุ่นพี่แล้ว จี้อี่หนิงก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัย มุมปากของเธอก็เผลอยิ้มตามอย่างไม่รู้ตัวชื่อของรุ่นพี่คือหลี่เหวิน เป็นผู้เรียนเก่ง พอเรียนต่อก็สอบเข้าเรียนปริญญาเอกโดยไม่ต้องสอบอีกครั้ง ครั้งนี้มาเข้าร่วมงานสัมมนาพร้อมอาจารย์ที่ปรึกษาหลังจากจี้อี่หนิงนั่งลง หลี่เหวินก็พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า “อี่หนิง เธอแทบไม่เปลี่ยนไปจากสมัยเรียนเลยนะ”“รุ่นพี่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย พอเห็นพี่ก็ทำให้นึกถึงตอนที่พี่พาหนูทำการทดลองสมัยเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ"“อย่าเลย... พี่ไม่กล้ารับคำชม หลังๆ ก็เป็นเธอที่คอยช่วยพี่ด้วยซ้ำ ว่าแต่ สามีเธอล่ะ?

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 338

    ไม่นาน ซุนสิงก็กลับมา"ประธานเสิ่นครับ เช้านี้คุณจี้มีปากเสียงกับพนักงานของชิงหงที่หน้าประตูลิฟต์ คุณจี้ถูกผลักจนล้ม เวินลี่เจ๋อน่าจะพาคุณจี้ไปโรงพยาบาลครับ"เสิ่นซื่อขมวดคิ้ว "เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมีการปะทะกัน?"ซุนสิงลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยความระมัดระวัง "ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่คุณกับคุณฉีกลับมาคบกัน... นี่คือวิดีโอจากกล้องวงจรปิด คุณดูเองเลยครับ"เสิ่นซื่อรับแท็บเล็ตจากมือซุนสิง แล้วเปิดดูวิดีโอ กลับพบว่าหน้าตาของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก"ไล่ออกพนักงานที่ก่อเรื่องคนนั้น""ประธานเสิ่นครับ อย่างนี้จะไม่ดีเหรอครับ? เพราะว่าคุณจี้ก็ยังตบพนักงานคนนั้นเหมือนกัน"เสิ่นซื่อมองไปที่ซุนสิงด้วยสีหน้าที่เย็นชา "ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเคยประกาศว่าในบริษัทห้ามพูดถึงเรื่องส่วนตัวของผม"เมื่อเห็นดวงตาของเขามีความโกรธ ซุนสิงก็รีบพูดว่า "ครับ ผมจะไปดำเนินการเดี๋ยวนี้ครับ"ไม่นาน ข่าวการถูกไล่ออกของพนักงานคนนั้นก็แพร่กระจายไปในบริษัท พร้อมกับประกาศฉบับหนึ่ง【พนักงานทุกคนของชิงหง หากมีใครพูดถึงเรื่องส่วนตัวของประธานบริษัท หรือสร้างปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะถูกไล่ออกทันที!】พนักงานคนอื่นๆ ที่เคยพูดถ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 337

    "เธอกับเธอเป็นอะไร ทำไมต้องช่วยเธอ?"ผู้หญิงพยายามจะสะบัดมือเขาออก แต่ไม่สำเร็จ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ"ผมกับเธอเป็นอะไรไม่จำเป็นต้องบอกเธอ พฤติกรรมที่เธอผลักเธอลงไปเมื่อกี้ถูกกล้องวงจรปิดจับได้หมดแล้ว เดี๋ยวผมจะพาเธอไปตรวจอาการ บิลค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายทางจิตใจ ผมจะให้ทนายคุยกับเธอ""ฮ่ะๆ เธอก็ไม่ได้ตบฉันเหรอ? ตรวจอาการ ใครๆ ก็ทำได้! ฉันก็จะไปตรวจ!"เวินลี่เจ๋อมีแววความเย็นชาในตา เขาเข้าใกล้ผู้หญิงและพูดเสียงต่ำที่มีแค่สองคนฟังได้: "เธอควรอธิษฐานให้เธอไม่มีอะไร มิฉะนั้นผมจะฆ่าเธอ!"เสียงของเขาเย็นชาและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ทำให้ผู้หญิงรู้สึกหนาวเยือกในใจเธอมีลางสังหรณ์ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ขู่เธอ เขากำลังพูดจริง!ขณะที่เธอยืนอึ้งไปด้วยความกลัว เขาก็ปล่อยมือเธอและหันหลังเดินไปทันที โดยอุ้มจี้อี่หนิงขึ้นและเดินเร็วไปที่ประตูจี้อี่หนิงไม่คิดว่า เมื่อคืนนี้ที่เธอพูดกับเวินลี่เจ๋อเขาจะช่วยเธอในวันนี้จนกระทั่งออกจากประตู เธอถึงได้สติและรีบพูดว่า: "ปล่อยฉันลงก่อน ฉันเดินเองได้ และก็ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจ"ถึงแม้จะล้มแรง แต่คงไม่กระทบกระดูกอ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 336

    เสียงแตรดังขึ้นจากข้างหลัง จี้อี่หนิงหันกลับไปและรีบขับรถไปจอดข้างทางเมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือของเธอสั่นสายยังคงเชื่อมต่ออยู่ เสียงของสือเวยที่เต็มไปด้วยความกังวลดังออกมาจากโทรศัพท์"อี่หนิง เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? ไม่มีอะไรใช่ไหม? เธอกำลังขับรถไปทำงานใช่ไหม? ฉันมันโง่จริงๆ ไม่ควรบอกข่าวนี้ตอนนี้เลย!"จี้อี่หนิงเช็ดน้ำตาที่มุมตาแล้วพูดเสียงเบาๆ "ไม่มีอะไร แค่โทรศัพท์หลุดจากมือไป""ถ้าไม่มีอะไรฉันก็โล่งใจ... ฉันไม่ควรโทรหาตอนนี้จริงๆ..."เสียงของสือเวยเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอเห็นข่าวนั้นเธอโกรธมากจนไม่ได้คิดอะไร รีบโทรหาจี้อี่หนิงตอนนี้คิดแล้วรู้สึกเสียใจสุดๆ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับจี้อี่หนิง เธอคงไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้!"อืม ฉันต้องขับรถแล้ว เอาไว้คุยทีหลัง"พูดจบ จี้อี่หนิงก็วางสายเธอสูดหายใจลึก เปิดเว็บค้นหาเกี่ยวกับเสิ่นซื่อและฉีรั่วอวี่ข่าวทั้งหมดที่ปรากฏคือพวกเขาประกาศกลับมาคบกัน【รอแฟนเก้าห้าปี CEOชิงหง เสิ่นซื่อในที่สุดก็สมหวัง!】【เปิดเผยสาเหตุที่เสิ่นซื่อโสดมานาน เพราะรอแฟนเก่าไปเรียนต่อต่างประเทศ!】【เผยข่าวเสิ่นซื่อกับแฟนเก่ากลับมาคบกัน ทั้งค

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 335

    เสิ่นซื่อสีหน้าเย็นชา "วันนั้นที่เธอกลับมาประเทศ"เหนียเว่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย เขาสูดหายใจลึกก่อนพูดอย่างช้าๆ: "ที่เธอเลิกกับจี้อี่หนิงแล้วกลับไปอยู่กับรั่วอวี่ก็เพราะเธอเหลือเวลาแค่สามเดือนใช่ไหม?"เสิ่นซื่อขมวดคิ้ว "ผมไม่ได้กลับไปคบกับเธอ"เขาแค่สัญญาว่าจะอยู่กับเธอในช่วงสามเดือนนี้ แต่ไม่ได้ตั้งใจจะกลับไปคบกัน"งั้น... เธอไม่รักรั่วอวี่แล้วจริงๆ เหรอ?""ตั้งแต่วันที่เธอเลือกจะไปต่างประเทศ พวกเราก็ไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว"มือที่ลงข้างลำตัวของเหนียเว่ยชิงกำแน่นทันที สีหน้าก็เริ่มตื่นเต้น "แต่รั่วอวี่รักเธอมาโดยตลอด ไม่เคยเปลี่ยนเลย และตอนนี้รั่วอวี่เหลือเวลาแค่สามเดือน เธอช่วย... หลอกรั่วอวี่สักหน่อยไม่ได้เหรอ?""ไม่ได้ มันไม่ยุติธรรมกับจี้อี่หนิง"เขาให้เธอรอเขาสามเดือน และก็เคยให้สัญญาว่าจะไม่กลับไปคบกับฉีรั่วอวี่แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อ เขาก็จะไม่ลืมคำสัญญานั้น"อะไรที่ไม่ยุติธรรมล่ะ?รั่วอวี่ต้องการแค่สามเดือน หลังจากนั้นเธอก็สามารถกลับไปหาจี้อี่หนิงได้ นี่คือคำขอสุดท้ายของรั่วอวี่ ถึงแม้เธอจะไม่รักรั่วอวี่แล้ว แต่ครั้งหนึ่งพวกเธอก็เคยรักกัน เธอจะใจแข็งปล่อยให้รั่วอวี่จากไปอย

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 334

    "ขอบใจนะ แต่ไม่ต้องหรอก ต่อไปเราควรหลีกเลี่ยงการติดต่อกันเป็นการส่วนตัว ฉันไม่อยากถูกคนอื่นชี้หน้าด่าอีกแล้ว"หลังจากพูดอย่างเย็นชาจบ จี้อี่หนิงก็กำลังจะเดินผ่านเขาไป แต่เขากลับขวางไว้"อี่หนิง คำพูดที่แม่ผมพูดกับเธอ ผมขอโทษแทนเธอด้วยนะ ผมก็พูดกับเธอแล้ว เธอสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับเธออีก อย่าโกรธเลยนะ ได้ไหม?""ถ้าเธอคิดว่าคำพูดพวกนั้นมันผิดจริงๆ คนที่มาที่นี่คืนนี้ก็ควรเป็นเธอไม่ใช่เธอ"เวินลี่เจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วมองเธอพร้อมพูดเสียงเบา "ถ้าเธอมาขอโทษด้วยตัวเอง เธอจะให้อภัยเธอไหม?"ใบหน้าของจี้อี่หนิงแสดงความไม่พอใจออกมา เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเวินลี่เจ๋อถึงต้องการให้เธอให้อภัยเวินจิ้งหงเวินจิ้งหงเป็นแค่แม่เลี้ยงของเธอ พวกเธอแทบไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ไม่จำเป็นต้องปรับความเข้าใจ"สิ่งที่เธอพูดกับฉัน ฉันไม่มีวันลืม และก็ให้อภัยไม่ได้ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว อย่ามาหาฉันอีกเลย"ไม่ให้โอกาสเวินลี่เจ๋อพูดอีก จี้อี่หนิงก็เปิดประตูเข้าไปในบ้านทันทีเวินลี่เจ๋อยืนอยู่หน้าประตูสักพักก่อนจะจากไป พอกลับถึงบ้านก็เจอกับเวินจิ้งหงที่เพิ่งกลับมาหยิบเสื้อผ้าเมื่อเห็นกล่องอาหารในมือเขาเวินจิ้ง

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 333

    จี้อี่หนิงเม้มริมฝีปากแน่น แล้วกดโทรหาเขาโดยตรง“ฉันยังอยู่ข้างนอก ครั้งหน้าหาอะไรมาให้ไม่ต้องลำบากหรอกนะ”ปลายสายเงียบไปไม่กี่วินาที เสียงอบอุ่นของเวินลี่เจ๋อจึงดังขึ้น “โอเค ตอนนี้ก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว ให้ฉันไปรับเธอไหม?”เพราะคำพูดของเวินจิ้งหง จี้อี่หนิงจึงไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์กับเวินลี่เจ๋อมากนัก“ไม่ต้อง ฉันมีเพื่อนมาส่ง ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็แค่นี้นะ”หลังจากวางสาย สือเวยถามด้วยความสงสัย “เมื่อกี้คุยกับใครน่ะ?”“พี่ชายต่างแม่ของฉัน”สือเวยดูตกใจเล็กน้อย “เขากลับมาแล้วเหรอ? เมื่อไหร่น่ะ?”เมื่อก่อนสือเวยไปบ้านจี้อี่หนิงบ่อย เลยเจอเวินลี่เจ๋ออยู่หลายครั้ง“ก็แค่ไม่กี่วันก่อนเอง”“โอ้ ตอนนี้เขาดูห่วงเธอดีนะ ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนไปบ้านเธอ เขาดูเย็นชาออก”“ก็โอเคล่ะ ใช่สิ…คืนนี้ฉันเป็นคนชวนแท้ๆ สุดท้ายเธอเป็นคนจ่าย เธอส่งบิลให้ฉันสิ เดี๋ยวฉันโอนให้”สือเวยมองค้อนเธอ “กับฉันยังจะคิดมากอีกเหรอ? ไว้คราวหน้าเลี้ยงคืนก็พอ แล้วเธอไปโรงพยาบาลกับเสิ่นซื่อทำไมล่ะ? เธอบาดเจ็บเหรอ?”จี้อี่หนิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องน้ำคร่าวๆ ให้ฟัง หลังจากฟังจบสือเวยก็เดือดดาลทันที“ฉันก็รู้ว่าเธอนั่นม

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 332

    “ฉันไม่อยากเลือกทั้งสองอย่าง ตอนนี้จอดรถเดี๋ยวนี้ ฉันจะลงรถ”เสิ่นซื่อขับรถต่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ในเมื่อเธอไม่อยากเลือก งั้นผมเลือกให้เอง”จี้อี่หนิงหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น เธอรู้ว่าไม่ว่าเธอจะพูดอะไร เสิ่นซื่อก็ไม่มีทางปล่อยให้เธอลงรถ เธอจึงเงียบแล้วหันไปมองนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าเย็นชาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงหน้าโรงพยาบาล เสิ่นซื่ออุ้มเธอเข้าไปข้างในทันทียังไงขัดขืนก็ไม่มีประโยชน์ จี้อี่หนิงจึงนิ่งเงียบด้วยใบหน้าเย็นชาหลังจากตรวจเสร็จ หมอบอกว่าไม่มีอะไรน่ากังวล แค่จ่ายยาแบบรับประทานและยาทาตอนออกจากโรงพยาบาล เสิ่นซื่อยังจะอุ้มเธออีก แต่เธอก้าวถอยหลังหลบเธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คืนนี้ขอบคุณมาก ฉันจะกลับเองโดยแท็กซี่ก็ได้”พูดจบ เธอก็ถือถุงยาแล้วหันหลังเดินออกจากโรงพยาบาลเสิ่นซื่อเดินตามเธอมาเงียบ ๆ จนใกล้ถึงรถ เขาถึงได้ขวางเธอไว้แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ผมจะไปส่งเธอ”จี้อี่หนิงเงยหน้ามองเขาอย่างจนใจ “เราก็เลิกกันไปแล้ว สิ่งที่คุณทำตอนนี้ไม่มีความหมาย ฉันจะไม่กลับไป และไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณกับฉีรั่วอวี่ค่ะ”“ฉันไม่ได้กลับไปคบกับเธอ และจะไม่กลับไปคบด้วย”

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status