Home / รักโบราณ / ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้ / 1 สตรีในชุดคลุมขนหมาป่าสีเงิน

Share

ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้
ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้
Author: รอรีวัน

1 สตรีในชุดคลุมขนหมาป่าสีเงิน

last update Last Updated: 2025-08-10 19:32:23

สายลมแห่งทุ่งหญ้าพัดผ่านแผ่วเบา กลิ่นอายของทุ่งหญ้าทำให้นางรู้สึกสงบใจ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งที่ทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัย ทัศนียภาพนี้ เป็นทิวทัศน์ที่นางเห็นทุกวันมาตั้งแต่เกิด มองเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อ หลายคนมักจะคิดว่ามันก็เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน แต่นางไม่คิดเช่นนั้น ต้นไม้ที่สูงขึ้น ผู้คนที่เติบโต ฝูงสัตว์ต่าง ๆ

สำหรับนางแล้วมันไม่เหมือนกันสักวัน วันนี้กับพรุ่งนี้เหมือนกันเสียที่ไหน แม้แต่นางและพี่สาวฝาแฝดที่ใคร ๆ ก็ว่าหน้าตาไม่ต่างกัน หนานรั่วซียังรู้สึกเลยว่าแตกต่าง พี่สาวของนางสดใสราวกับสายน้ำ ดูมีชีวิตชีวาราวกับนกอินทรีที่บินร่อนเหนือทุ่งหญ้าอย่างอิสระ

นางร่างกายอ่อนแอมาแต่เด็กผิดกับแฝดพี่ที่ร่างกายแข็งแรง ตอนเด็กเพราะโดนผึ้งตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งต่อย พิษของผึ้งทำเอานางจับไข้ไปเป็นเดือน ๆ จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดหลังจากหายป่วย ร่างกายของหนานอันรั่วก็ไม่แข็งแรงดังเก่า จากที่เคยขี่ม้าอย่างอิสระในทุ่งหญ้าต้องมานั่งรักษาร่างกายให้แข็งแรง โตขึ้นมาถึงได้ดีขึ้นมานิดหนึ่ง

ถ้าวันไหนอากาศไม่เย็นจนเกินไป นางมักจะแอบออกไปขี่ม้าเที่ยวเล่นเพียงลำพัง นาน ๆ ที พี่สาวฝาแฝดของนางหนานอันรั่วจะแอบติดตามมาด้วยสักครั้ง ถ้าหนานอันรั่วรู้ว่านางแอบออกมาตามลำพังแฝดพี่จะอารมณ์ไม่ดี นางบอกว่าน้องสาวไม่แข็งแรงไม่อยากให้ไปไหนคนเดียว ถ้าจะไปให้บอกนางด้วย นางร่างกายแข็งแรงไม่ว่าน้องสาวอยากไปไหนนางจะตามไปปกป้องคุ้มครอง

แต่ในวันนี้นั้นหนานรั่วซีอยากจะอยู่คนเดียว จึงแอบออกมาตอนแฝดพี่ไปเรียนหนังสือ แค่คิดถึงหน้าหนานอันรั่วตอนรู้ว่าตนแอบออกขี่ม้าเล่นเพียงลำพัง ผู้เป็นน้องก็นึกตลกแล้ว เกิดห่างกันเพียงไม่กี่นาทีแต่พี่สาวนางทำตัวราวกับว่าเกิดห่างกันหลายปี หนานอันรั่วชอบทำตัวใหญ่ปกป้องคุมภัยนางอยู่เสมอ

คนตัวเล็กรวบชุดคลุมให้กระชับ วันนี้รั่วซีสวมเสื้อคลุมหนังหมาป่าสีเงินอย่างดี นางได้มาจากพี่ชาย เขาบอกว่านางร่างกายทนความเย็นไม่ได้จึงจำเป็นต้องใช้แบบพิเศษ ว่ากันว่าขนของหมาป่าสีเงินอบอุ่นและเป็นของหายาก หนานเจินหยางผู้เป็นพี่ชายจึงตั้งใจเพื่อน้องสาวโดยเฉพาะ

ควบม้าไปได้ไม่นานโพรงไม้ที่นางสร้างเอาไว้ก็ปรากฏ รั่วซีขมวดคิ้ว ที่ตรงนั้นมีชายแปลกหน้าอยู่หลายคน ชุดที่พวกเขาสวมใส่ดูแล้วไม่ใช่คนในเผ่าเดียวกันกับนาง เผ่ารอบข้าง ๆ ก็ไม่ใช่ เป็นเสื้อผ้าของผู้คนที่นางไม่เคยเห็น

หวืด!! นางฟาดแส้ลงไปยังกลุ่มคนที่อยู่ตรงนั้น

“พวกเจ้าเป็นใคร เหตุใดจึงมายุ่งกับของของข้า” หนานรั่วซีพูดอย่างไม่พอใจ

ชายกลุ่มนั้นวิ่งหลบแส้หนังที่นางฟาดมาออกไปคนละทิศคนละทาง พวกเขาเห็นสตรีผู้หนึ่งใบหน้างดงาม เสื้อคลุมขนหมาป่าสีเงินที่นางสวมใส่ ทำให้นางดูสง่างามน่าค้นหา

“ช้าก่อนแม่นาง ข้าเห็นว่าพวกลูกหมาป่าพวกนี้ดูเหมือนจะป่วย จึงให้ท่านหมอที่ข้าพามาด้วยแวะดูอาการพวกมันเสียหน่อย” ชายหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีเข้มก้าวเดินออกมาสนทนากับนาง ใบหน้าของเขาหล่อเหลาราวกับรูปสลัก ท่าทางของเขาภูมิฐานสง่างามโดดเด่นกว่าทุกคนตรงนั้น

หัวใจของรั่วซีพลันสั่นไหว นางรู้สึกได้ว่าหัวใจของนางเต้นแรง แต่พอได้ยินว่าเจ้าลูกสุนัขป่วยคนตัวเล็กก็รีบกระโดดลงจากม้าทันที แต่เพราะความเร่งรีบของนาง ตอนลงจากม้าจึงทำให้เจ้าสีหมอกตกใจวิ่งเตลิดหนีหายไปในทุ่งหญ้า

“โอ๊ย” หนานรั่วซีร้องด้วยความตกใจ

หยวนไป๋เจียนรีบปรี่เข้าประคองนาง รั่วซีตกใจรีบสะบัดกายออกจากเขา

“แม่นางระวังด้วย” เขาบอกนางด้วยความเป็นห่วง เมื่อได้ใกล้ชิดกันหยวนไป๋เจียนจึงได้มีโอกาสพิจารณาใบหน้านางชัด ๆ ผู้คนล้วนบอกว่าหญิงสาวชาว  ชนเผ่า หน้าตาไม่งดงาม ออกจะตัวใหญ่แถมดูดิบเถื่อน แต่แม่นางผู้นี้กลับมีใบหน้าจิ้มลิ้ม ตัวเล็กกว่าเขาหลายเท่าส่วนสูงของนางก็เพียงแค่ระดับไหล่เขาเท่านั้น

เมื่ออยู่ใกล้เขาหนานรั่วซีเขินอายจนรู้สึกว่าตัวเองหน้าแดง คนตัวเล็กแสร้งขมวดคิ้วทำหน้าเคร่งเครียดและผละออกจากเขา

“พวกมันเป็นอะไร” นางควบคุมสติเปลี่ยนเรื่องและเดินไปยังโพรงไม้ที่ตนเองเป็นคนสร้างเอาไว้อย่างลวก ๆ

“น่าจะเพราะอากาศที่นี่หนาวไป และขาดความอบอุ่นจากแม่ เลยป่วย”

“น่าสงสารนัก ข้าได้ยินคนในเผ่าบอกว่าพวกมันถูกแม่ทิ้งไป ถ้ามีโอกาสข้าก็มักจะแวะมาเยี่ยมพวกมัน”

คนตัวสูงมองนาง แววตาของนางเศร้าสร้อย นางถือว่าเป็นสตรีที่งดงาม แต่ท่าทางอมทุกข์ ใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด ถึงนางจะดูสวยงามแต่ก็เปราะบางราวกับแก้วกระเบื้อง เขาไม่ชอบผู้หญิงที่เป็นเช่นนี้ หยวนไป๋เจียนชอบผู้หญิงที่มั่นใจในตนเอง อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสนุก

“สงสัยเจ้าคงมาไม่บ่อย” หยวนไป๋เจียนเอ่ย เพราะเห็นว่าเจ้าลูกหมาป่าพวกนี้ตัวผอมแห้งหิวโซ

“ข้าก็อยากจะมาบ่อย ๆ แต่เพราะเหตุผลบางอย่างทำให้ข้าออกมาไม่ได้” หากนางแข็งแรงต่อให้ลมหนาวรุนแรงแค่ไหน นางก็ฝ่าออกมาได้

“แล้วทำไมเจ้าไม่รับมันไปอยู่ด้วย” หยวนไป๋เจียนมองใบหน้าเล็ก ๆ ของนาง อากาศยิ่งเย็นขึ้นสายลมเย็นพัดผ่านจนแก้มของนางแดงราวกับผลผิงกั่ว

“ก็ไม่ได้อยู่ดี ข้าคิดว่าสักวันหนึ่งแม่ของพวกมันคงจะกลับมารับลูก ๆ ”

หยวนไป๋เจียนรู้สึกเห็นด้วยกับคำพูดของนางส่วนหนึ่ง

“แล้วถ้าแม่มันไม่กลับมาล่ะ เจ้าจะปล่อยให้มันตายอยู่ตรงนี้งั้นหรือ”

“เอ่อ...” นางไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น “ถ้าอีก 3 วันแม่ของมันไม่มาจริง ๆ ข้าก็จะให้คนมาพามันกลับไปที่เผ่า” หลังจากเล่นกับเจ้าตัวน้อยตรงแล้วนั้น หนานรั่วซีก็ยืนขึ้นพูดคุยกับเขา

ใบหน้างดงามแต่ซีดเซียวของนาง หยวนไป๋เจียนรู้สึกว่านางช่างไม่มีเสน่ห์แบบสตรีเอาเสียเลย

“ไม่ใช่ว่าแม่ของเจ้าพวกนี้กลายเป็นเสื้อคลุมของเจ้าไปแล้วหรือ” เขาสังเกตเห็นเสื้อคลุมบนตัวนาง เสื้อตัวนั้นดูก็รู้ว่าเป็นของหมาป่าสีเงิน คนธรรมดาใช่ว่าจะหามาได้ง่าย ๆ เขาเดาว่านางน่าจะเป็นพวกราชนิกุลของที่นี่

“ย่อมไม่ใช่ เจ้าพวกนี้เป็นพันธุ์เล็ก รูปร่างของมันไม่พอจะถลกหนังมาทำเสื้อคลุมหรอก” นางพูดตามความเป็นจริง

"ไม่ใช่ก็ดีแล้ว”

ตอนแรกก็รู้สึกเขาหล่อดี ผิดจากคนในเผ่าของนาง แต่ตอนนี้ท่าทางเย่อหยิ่งของเขามันลดทอนความหล่อของเขาลงไปเยอะ นางลอบเบ้ปากในใจ

“องค์ชาย!! พวกเราต้องไปแล้ว หากช้ากว่านี้จะเลยเวลา” ผู้ชายชรามีอายุคนหนึ่งร้องเตือน

หนานรั่วซีมองเขา ท่าทางคนผู้นั้นยังเป็นกังวลเรื่องนางกับพวกลูกหมาป่าพวกนี้

“เจ้าไปเถอะไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ข้าจะเอาผ้าห่มกับอาหารมาให้พวกมันอีก”

“แล้วม้าของเจ้า มันหนีไปแล้ว” ดูท่านางจะเข้าใจผิดคิดว่าเขากังวลใจเรื่องพวกลูกหมาป่า แต่เขากังวลเรื่องนางต่างหาก ม้าสีหมอกของนางตกใจหนีหายไปตั้งแต่ต้นนางจำไม่ได้หรือ

หนานรั่วซีเองก็เพิ่งนึกขึ้นได้เช่นกันว่าม้าของนางหนีไปแล้ว

“งั้นจะทำอย่างไรดี”

หยวนไป๋เจียนส่งมือให้นาง “งั้นไปด้วยกันเถอะ ให้ข้าไปส่งเจ้าที่บ้าน”

คนตัวเล็กอ้ำอึ้ง ทำอะไรไม่ถูก ตอนแรกก็คิดว่าจะกลับเอง แต่เมื่อนึกถึงระยะทางแล้วยอมไปกับเขาก็ได้ นางส่งมือให้หยวนไป๋เจียน ลักษณะของคนทั้งคู่บนหลังม้าตอนนี้จึงดูคล้ายกับคู่รักก็ไม่ปาน

“บ้านเจ้าอยู่ที่ไหน”

เป็นเรื่องที่นางอ้ำอึ้งอีกเช่นกัน นางไม่อยากให้เขารู้ว่าบ้านนางอยู่ที่ไหน และรู้สถานะของนาง

“......”

แค่เรื่องบ้านนางยังไม่ตอบเขา จะให้เขาไปส่งที่ไหนนางก็อ้ำอึ้ง แต่เมื่อคิดถึงเสื้อคลุมหมาป่าสีเงินล้ำค่าตัวนั้น เอานางไปย่อนไว้หน้าพระราชวังของแคว้นซีตันน่าจะได้ละมั้ง

“งั้นข้าส่งเจ้าที่หน้าวังของแคว้นซีตัน”

“มะ ไม่ได้” นางละล่ำละลัก “ส่งข้าที่ทางเข้าเมืองก็พอ ที่เหลือข้าไปต่อเองได้

“อ้อ”

สนทนากันเสร็จหยวนไป๋เจียนก็รีบควบม้าไปในทันที

ความรู้สึกนี้นางก็บอกไม่ถูก แม้แต่กับพี่ชาย รั่วซีเองก็ไม่เคยขี่ม้าตัวเดียวกันและไม่เคยใกล้ชิดชายใดขนาดนี้มาก่อน คนตัวเล็กนั่งตัวเกร็ง ไม่กล้าขยับเขยื้อน

เมื่อใกล้ชิดนางขนาดนี้ เขาได้กลิ่นยาสมุนไพรหอมเย็นจากตัวนาง ไม่ใช่กลิ่นเครื่องหอมจากดอกไม้ดังเช่นสตรีทั่วไป ดูท่านางไม่ใช่คนที่มีร่างกายแข็งแรงกินยาทุกวันเช่นนี้ทำให้สมุนไพรพวกนั้นเข้าไปผสานกับร่างกายของนางจึงเกิดเป็นกลิ่นหอมประหลาด

กลุ่มอาชาของหยวนไป๋เจียนเคลื่อนตัวไปจนถึงทางเข้าเมือง

รั่วซีเห็นเช่นนั้นจึงร้องเรียกให้เขาปล่อยนางลง

“คุณชายปล่อยข้าลงได้แล้ว”

“ให้ข้าไปส่งถึงบ้านเถอะ” เขาไม่ฟังคำเรียกร้องของนาง

“แล้วท่านรู้หรือว่าบ้านข้าคือที่ไหน” นางเงยหน้ามองหน้าเขา

เห็นใบหน้าเขาเพียงด้านข้างหนานรั่วซีก็รู้สึกหัวใจเต้นระรัว เขาหล่อเกินไป เกินไปจนทำให้นางรู้สึกหวั่นใจ

“ไม่ใช่พระราชวังแคว้นซีตันหรอกหรือ” เขาพูดหยั่งเชิง

“ห๊า ท่านรู้ได้อย่างไร” นางตกใจที่เขารู้ความลับของนาง

“หึ ข้าก็พูดไปเรื่อย เป็นเรื่องจริงสินะ” เขาส่งเสียงหึในลำคอ “องค์หญิงออกมาเที่ยวเล่นเช่นนี้ รู้หรือไม่ว่าไม่ปลอดภัย”

“ก็ไม่เคยมีวันไหนไม่ปลอดภัย” นางทำหน้าบูดบึ้งที่เขารู้ความลับของนาง นางอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยรู้สึกสักครั้งว่าสถานที่แห่งนี้เป็นอันตราย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้   9 จดหมายจากซีตัน

    เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ทั้งหมอเย่ลู่และหนานรั่วซีก็ตกลงว่าจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ เมื่อจัดการทุกเรื่องเรียบร้อย ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ก็ถึงเวลาที่คนจากซีตันจะกลับบ้านเสียที โชคดีที่พวกเขาเจอกับหมอเย่ลู่ระหว่างทาง ไม่จำเป็นต้องไปตามหาถึงเมืองหลวง เจอเขาที่กลางทางช่วยย่นระยะเวลาได้ดีไม่น้อยหากนางเข้าไปอยู่ในหุบเขาแล้วเรื่องทุกอย่างภายนอกก็ขอไม่รับรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคนซีตันหรือเขา ช่วงเวลาต่อแต่นี้ไปนางจะดูแลรักษาร่างกายของตัวเองให้ดีที่สุด ไว้นางออกไปค่อยใส่ใจก็ยังไม่สายเกินไปต้องมีสักวันที่นางลืมเขา แต่ก่อนนางเคยสงสัยว่าทำไมท่านอาหลานอี้ ถึงไม่สามารถลืมเสด็จพ่อของนางได้ บัดนี้นางเข้าใจแล้ว พิษของความรักเมื่อยังไม่ได้รับพิษย่อมไม่รู้สึก แต่เมื่อวันใดที่พิษนั้นกัดกินหัวใจ เมื่อนั้นก็ยากจะจบสิ้นความทรมานเมื่อใกล้รุ่ง หนานอันรั่วรีบตื่นออกมาส่งฝาแฝด“รั่วซี เจ้าจะไปแล้วจริง ๆ หรือ” หนานอันรั่วจับมือแฝดน้องแน่น นางไม่อยากแยกจากรั่วซีแม้เพียงสักวัน ความรู้สึกที่นางต้องจากกันในวันนี้เหมือนกับจะจากกันไป

  • ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้   8 จุดเริ่มของโศกนาฏกรรม

    กระทั่งฟ้าใกล้มืดพวกพี่ ๆ นางจึงกลับมา ในมือพวกเขาเต็มไปด้วยสิ่งของมากมาย หน้ากาก ว่าวลมโคมไฟ ขนมขึ้นชื่อ ของเล่น พี่ใหญ่กลายเป็นคนถือของ ของทั้งหมด สิ่งที่ซื้อมาเป็นผลงานของพี่สาวฝาแฝดนางทั้งนั้นรั่วซีเห็นแล้วก็รู้สึกอิจฉา พวกเขาสามารถออกไปเที่ยวเล่นได้ทั้งวัน กลับมาแล้วก็ยังดูไม่เหนื่อย มีร่างกายแข็งแรงนี่ดีจริง ๆไฟในห้องรับประทานอาหารส่องสว่าง อาหารท้องถิ่นหลายอย่างถูกห้องครัวจัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว ที่ข้างด้านข้างมีบุรุษสองคนนั่งดื่มชารอคอยกันเงียบ ๆ คนหนึ่งคือหยวนไป๋เจียนซึ่งทุกคนรู้จัก ส่วนอีกคนเป็นใครก็ไม่รู้ สวมชุดสีสันประหลาด สีเขียวแดงฟ้าตัดกันมั่วไปหมด“ท่านนี้คือ” หนานเจินหยางถามน้องสาว“ท่านหมอเย่ลู่ เขาหาเราเจอก่อนที่เราจะเริ่มตามหาเขาเสียอีก” นางผายมือแนะนำ“เข้าเรื่องเถอะ ข้าไม่อยากเสียเวลา” เย่ลู่ตัดบท “เจ้าจะพูดเองหรือให้ข้าพูด” เขาถามคนไข้ของตนนางพยักหน้าส่งสัญญาณว่าจะพูดเอง“พวกท่านจำได้ใช่ไหม จุดประสงค์ที่เราออกเดินทางในครั้งน

  • ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้   7 ผิดคน

    ข่าวการมาเที่ยวเป่ยฮั่นของคนจากซีตัน ทำเอาหยวนไป๋เจียนรู้สึกตื่นเต้นจนไม่เป็นอันทำอะไร เขาคิดถึงหนานอันรั่วอยู่ทุกวัน เมื่อได้ยินว่าจะได้พบหน้านางอีกครั้งก็ทนไม่ไหว ผละจากงานทุกอย่างที่มีอยู่ในมือ เตรียมการต้อนรับนางหยวนไป๋เจียนส่งคนไปสืบข่าวว่าตอนนี้พวกนางเดินทางถึงไหนแล้ว หากเป็นไปได้เขาจะไปสมทบกับพวกนางที่กลางทางและออกเดินทางด้วยกัน ต่อให้เหน็ดเหนื่อยแต่ได้เจอหน้านางเขาก็มีความสุข หยวนไป๋เจียนคิดถึงแต่ใบหน้างดงามและรอยยิ้มสดใสของหนานอันรั่วเพียงคนเดียวเขารู้จุดประสงค์ของการเดินทางมาครั้งนี้ นอกจากท่องเที่ยวในภาคกลาง ยังถือโอกาสพาองค์หญิงผู้นั้นมารักษาอาการป่วยเรื้อรังอีกด้วย นางชื่ออะไรเขาจำไม่ได้แล้ว จำได้แค่หนานอันรั่วเพียงผู้เดียว“ท่านอ๋อง ท่านจะร่วมเดินทางกับพวกเขาเช่นนั้นหรือ” ผู้ติดตามคนหนึ่งถาม“ไม่ต้องถามให้มากความของที่ข้าสั่งให้พวกเจ้าเตรียม เตรียมไว้หรือยัง”“กระหม่อมเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว หากถึงเมืองหน้าด่านก็สามารถมอบให้พวกเขาได้ทันที”นอกจากพบหน้านางเขายังเตรียมสิ่งของมากม

  • ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้   6 สหายเพียงคนเดียวของนาง

    คนจากซีตันเดินทางเรื่อย ๆ ไม่เร่งรีบ ระหว่างทางมีปะทะกับพวกกลุ่มโจรบ้างประปราย แต่ทุกที่ที่พวกเขาผ่านไป จะมีสหายของบิดาคอยให้การต้อนรับเสมอ พวกเขาจึงรู้สึกสนุกมากกว่าเหน็ดเหนื่อยทุกอย่างเป็นสิ่งที่ไม่เคยพบเจอ หนานเจินหยางไม่ได้ตื่นตกใจกับเรื่องพวกนี้มากนัก เขาท่องเที่ยวเป่ยฮั่นกับผู้เป็นบิดาอยู่บ่อยครั้ง ผิดกับน้องสาวทั้งสองโดยเฉพาะหนานอันรั่ว นางทำให้ทุกอย่างรอบกายเป็นเรื่องสนุกน่าตื่นเต้น ส่วนหนานรั่วซีก็ได้แต่เฝ้ามองสิ่งต่าง ๆ อย่างเงียบ ๆในใจของหนานเจินหยางได้แต่บอกว่าดีแล้วๆ ดีที่หนานรั่วซีนั่งเงียบ ๆ หากนางป่วนเขาด้วยอีกคนเกรงว่าเขาจะรับมือไม่ไหว ระหว่างทางหนานอันรั่วแวะซื้อสิ่งของนู่นนี่นั่นจนต้องหารถม้าเพิ่ม สิ่งนั้นสิ่งนี้นางล้วนอยากได้ไปหมด แม้จะบอกว่าที่ซีตันก็มี แต่นางว่าของพวกนั้นนางไม่ได้เลือกเอง นางไม่ชอบ นางชอบสิ่งของที่ตัวเองเป็นผู้เลือกต่างหากจากทัศนียภาพที่เป็นทุ่งหญ้ากลายเป็นป่าเขา แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเริ่มเข้าใกล้ดินแดนเป่ยฮั่นไปในทุกทีเดินทางมาเกือบครึ่งเดือนอายงที่ติดตามเดินทางมาด้วย พูดกับรั่วซีนับคร

  • ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้   5 เริ่มต้นเดินทาง

    คณะราชทูตจากเป่ยฮั่นจากไปได้ไม่กี่วัน หนานรั่วซีก็ฟื้นขึ้น แพขนตาของนางสั่นไหว พระพี่เลี้ยงเห็นการเคลื่อนไหวของนางเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ไม่นานคนตัวเล็กที่นอนไม่ได้สติก็ลืมตาฟื้นขึ้น อย่างช้า ๆ“หิวน้ำ” นางร้องเรียกหาน้ำอันอันที่คอยดูแลนางไม่ห่างกายตกใจจนน้ำตาไหล องค์หญิงของนางฟื้นแล้ว รีบกุลีกุจอทำตามที่คนป่วยบอก“เจ้าค่ะ น้ำอยู่นี่เจ้าค่ะ”“อันอันเจ้าร้องไห้ทำไม ข้าไม่ได้เป็นอะไรมากเสียหน่อย”“ร้องไห้เพราะเป็นห่วงพระองค์ไงเจ้าคะ”“หึ ข้าหลับไปกี่วันกันล่ะครั้งนี้” นางถามพระพี่เลี้ยงดูท่าครั้งนี้นางน่าจะหลับไปนาน“ราว ๆ เดือนครึ่งเจ้าค่ะ ตั้งแต่หยวนอ๋องพาท่านกลับมา ท่านก็ไม่ฟื้นอีกเลย จนกระทั่งหยวนอ๋องจากไปวันนี้วันที่ 5 ท่านจึงฟื้น”คำพูดของอันอันทำนางตกใจ หลับไปนานขนาดนั้นเชียวหรือ เมื่อไหร่กันที่ร่างกายนางจะแข็งแรงเสียที แม้กระทั่งเขาจากไปแล้วนางก็ไม่ได้เห็นหน้าเขา น่าเศร้าใจนัก“ระหว่างนี้ใครมาเยี่ยมข้าบ้าง

  • ได้โปรด...รักข้าเท่าที่ท่านจะรักได้   4 คำสัญญา

    ร่างกายที่เต็มไปด้วยเลือดของหนานรั่วซีถูกเขาพาไปส่งที่ตำหนักของนาง รอยแผลจากการถูกสุนัขป่ากัดที่แขนซ้ายของนาง สร้างความหวาดหวั่นแก่พระพี่เลี้ยง ทุกคนเกรงว่านางจะกลายผู้หญิงที่เสียโฉม เรียวแขนบอบบางขององค์หญิงมีรอยแผลฉกรรจ์ ร่างกายสตรีจะมีรอยแผลเป็นได้อย่างไรคนที่เกี่ยวข้องรีบตามฮ่องเต้และพระชายามาในทันที หมอหลวงทั้งในวังและนอกวังถูกตามมาเพื่อยื้อชีวิตองค์หญิงหนานรั่วซีหนานอันรั่วและหนานเจินหยางตามมาทีหลัง ผู้เป็นพี่กอดน้องสาวคนรองเอาไว้แน่น นางตัวสั่นหวาดกลัวราวกับลูกนก ตอนที่รั่วซีโดนผึ้งพิษต่อยก็ครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เขาเห็นสายตาหวาดกลัวของนาง ความกลัวที่จะสูญเสียเป็นบาดแผลที่คอยหลอกหลอนน้องสาวเขามาตลอดครั้งนั้นเป็นเพราะน้องสาวคนเล็ก วิ่งเข้ามาช่วยเหลือหนานอันรั่วผู้เป็นพี่ที่กำลังตกอยู่ในดงผึ้งพิษ จึงทำให้นางได้รับบาดเจ็บและส่งผลกระทบต่อร่างกายนางมาจนถึงปัจจุบัน“หยวนอ๋องขอบใจท่านมากที่ช่วยเหลือนาง” หนานปาอี้ขอบคุณชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้าง“โชคดีที่ข้าสังหรณ์ใจ วันที่พบนางวันแรก ข้าสังเกตเห็นรอยเท้าของฝูงหมาป่า และคิดว่านางอาจจะไปหาพวกมันอีก จึงตามไปดู” เขาพูดอย่า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status