Share

เอาคืนสหายชั่ว 1.2

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2025-12-18 11:35:25

เมื่อถูกถามหลี่ชุยผิงรีบหันมาหาไป๋หนิงเฟิ่งแล้วเอ่ยถามออกมาว่า  “หนิงเฟิ่ง เจ้าว่าจ่ายที่นี่หรือจะให้ไปเก็บที่จวนดี” น้ำเสียงนั้นอ่อนหวานยิ่งนัก

“อันนี้ก็แล้วแต่เจ้าสิ ข้าไม่ได้เป็นผู้ซื้อเสียหน่อย” ไป๋หนิงเฟิ่งเองก็ตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม

นั่นทำให้หลี่ชุยผิงชะงักไปในทันที ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าแล้วกล่าวออกมาอีกครั้ง “แต่ทุกครั้งที่ข้าออกมาเดินเล่นเป็นเพื่อนเจ้า เจ้าก็เป็นคนจ่ายให้ข้ามิใช่หรือ”

“นั่นมันเมื่อก่อน ตั้งแต่ข้าขอยกเลิกงานแต่งจนให้ชื่อเสียงเสียหาย ท่านพ่อก็ตัดเงินของข้าเกือบหมด ข้าไม่มีเงินจ่ายให้เจ้าหรอก เห็นทีครั้งนี้เจ้าต้องจ่ายด้วยตัวเองเสียแล้ว” ไป๋หนิงเฟิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย คล้ายกับนางไม่มีเงินจริง ๆ

คราวนี้ใบหน้าของหลี่ชุยผิงซีดเผือดลงทันที นางไม่คิดว่าสหายจะกล่าวเช่นนี้ ถึงแม้ว่านางจะเป็นลูกหลานของตระกูลหลี่ ซึ่งเป็นตระกูลของเสนาบดี แต่ใช่ว่านางจะมีเงินมากมายขนาดนี้ อีกทั้งเครื่องประดับพวกนี้ ราคารวมแล้วก็พันกว่าตำลึงเงิน แล้วนางจะเอาเงินจากไหนมาจ่ายกันล่ะ

ไป๋หนิงเฟิ่งไม่รอให้สหายตั้งสติได้ นางจึงรีบกล่าวออกมาอีกครั้ง “ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าเป็นคนจ่ายค่าเครื่องประดับของเจ้าทั้งหมด เจ้าเองก็บอกข้าตลอดนี่ว่าจะคืนเงินให้ จะว่าไปตั้งแต่เราเป็นสหายกันมา เจ้าก็ไม่เคยคืนข้าเลยสักครั้ง เดี๋ยวอย่างไรวันนี้ข้าจะทำรายการทุกอย่างให้ ใบเก็บเงินของทางร้าน ข้ายังเก็บไว้อย่างดี หวังว่าเจ้าจะเห็นใจคืนเงินให้ข้าบ้าง เพราะตอนนี้ข้าถูกท่านพ่อตัดเงิน จนแม้จะซื้อปิ่นปักผมสักชิ้น ยังซื้อไม่ได้” น้ำเสียงของนางนั้นคล้ายกับขอให้สหายเห็นใจ ที่ตอนนี้นางไม่มีเงิน จึงเอ่ยปากทวงเงินสหาย

สิ้นคำของนาง ลูกค้าและผู้คนที่อยู่ในร้าน ต่างก็ป้องปากซุบซิบนินทา

“ไม่คิดเลยว่าคุณหนูหลี่จะเห็นแก่ตัวขนาดนี้ ถึงขั้นให้คุณหนูไป๋จ่ายค่าเครื่องประดับต่าง ๆ ให้ทุกครั้ง แถมบอกจะคืนก็ไม่คืนให้ ทำเหมือนกับว่าตระกูลหลี่ไม่มีเงิน”

“เจ้าไม่ควรกล่าวเช่นนั้น จวนเสนาบดีหลี่หรือจะไม่มีเงิน ข้าไม่เชื่อหรอก ตระกูลหลี่มีแต่คนนับหน้าถือตา แล้วเหตุใดคุณหนูหลี่คนนี้ จึงได้ทำตัวเช่นนี้กันนะ”

เสียงซุบซิบนินทาเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ สร้างความอับอายให้กับหลี่ซุยผิงอย่างมาก นางมองหน้าไป๋หนิงเฟิ่งด้วยความแค้นเคือง และคิดในใจว่า

‘นังโง่นี่เป็นอะไรไปกันนะ นอกจากจะไม่จ่ายค่าเครื่องประดับในครั้งนี้แล้ว ยังทวงเงินที่จ่ายเครื่องประดับไปก่อนหน้านี้หลายครั้งคืนอีก ทำเช่นนี้มันหักหน้ากันชัด ๆ’ 

“เจ้าไม่ได้บอกเองหรอกหรือว่า ที่ผ่านมาเจ้ายินดีซื้อเครื่องประดับพวกนั้นให้ข้า อีกทั้งครั้งนี้เจ้าก็เป็นฝ่ายพาข้ามาที่นี่ แล้วเหตุใดเจ้าถึงบอกเช่นนั้นล่ะ” หลี่ชุยผิงยังคงกล่าวออกมาเพื่อรักษาหน้าตนเอง

“เจ้าคิดอะไรผิดไปหรือไม่ เพราะเราเป็นสหายกัน ข้าไม่อยากให้เจ้าเสียหน้าเลยจ่ายให้ก่อน อีกทั้งวันนี้เจ้าก็เป็นคนชวนข้ามาเดินเล่นที่ตลาด ซึ่งเจ้าก็บอกเองว่าต้องการจะซื้อเครื่องประดับ แล้วเหตุใดข้าจึงต้องจ่ายให้เจ้ากันล่ะ อีกอย่างข้าก็บอกไปแล้วว่าข้าถูกท่านพ่อตัดเงิน จึงต้องจำใจทวงเงินจากเจ้า หวังว่าเจ้าจะเห็นใจคืนเงินให้ข้าบ้าง” 

ไป๋หนิงเฟิ่งตอบกลับ สีหน้าและแววตาของนางดูไร้เดียงสามาก ไม่บ่งบอกเลยว่าต้องการกลั่นแกล้งอีกฝ่าย

“คุณหนูหลี่ พวกเราไม่อยากจะเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยหรอกนะ แต่อย่าลืมว่าตอนนี้ข่าวลือของคุณหนูไป๋ กระจายทั่วไปเกือบทั้งเมืองหลวงแล้ว หากข้าเป็นนาง ข้าก็คงไม่ออกมาจากจวนหรอก ออกมาให้ได้ยินสิ่งที่ผู้คนซุบซิบนินทาหรือ ข้าว่านางคงออกมาเพราะขัดเจ้าไม่ได้”

คุณหนูคนหนึ่งที่ยืนฟังอยู่เอ่ยออกมา ข่าวลือยังคงแพร่กระจาย และเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน หากเป็นนางก็คงไม่ออกมาพบหน้าผู้คนหรอก

“ใช่ ๆ อีกอย่างนางก็บอกว่าถูกท่านพ่อตัดเงินจนหมด เจ้าก็คืนเงินให้นางบ้างเถอะ” ลูกค้าอีกคนที่อยู่ในร้านกล่าวขึ้นมา

เมื่อมีคนที่หนึ่ง ย่อมต้องมีคนที่สองสามตามมา กลายเป็นว่าภายในร้านซินหรงเวลานี้เต็มไปด้วยเสียงผู้คน แต่ไม่ใช่เป็นการซื้อสินค้าหรือนินทาคุณหนูไป๋ แต่กลับพากันนินทาคุณหนูหลี่อย่างสนุกปาก

“คุณหนูหลี่ ท่านจะจ่ายเงินตรงนี้ หรือให้ร้านซินหรงส่งรายการไปเก็บเงินที่จวนสกุลหลี่ดีขอรับ” หลงจู๊เมิ่งเอ่ยเสียงเย็น เนื่องจากเขารู้แล้วว่าคุณหนูคนนี้ คงไม่มีเงินจ่ายค่าเครื่องประดับอย่างแน่นอน

“เอ่อ...” หลี่ชุยผิงเหมือนน้ำท่วมปาก นางไม่คิดว่าจะถูกกลั่นแกล้งและทำให้อับอายขายหน้าต่อหน้าคุณหนูในเมืองหลวงเช่นนี้

“เช่นนั้นเอาไว้ที่ร้านก่อน ข้าพร้อมแล้วจะกลับมารับและจ่ายเงิน” สุดท้ายเพื่อไม่ให้เสียหน้า นางเลยต้องบอกเช่นนี้ออกมา

หลงจู๊ได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยย้ำอีกครั้ง “เช่นนั้นก็ได้ แต่อย่างไรข้าต้องบอกกล่าวคุณหนูหลี่เสียก่อนว่า ร้านของเราให้เวลาท่านเพียงเจ็ดวัน ไม่เช่นนั้นเครื่องประดับพวกนี้ต้องถูกนำออกมาขาย และข้าต้องส่งหนังสือแจ้งจวนสกุลหลี่ ในเรื่องที่ท่านจองสินค้าแล้วไม่สามารถจ่ายเงินได้”

“เหตุใดต้องทำเช่นนั้น” นางกล่าวอย่างไม่พอใจ เพราะหากเรื่องนี้รู้ถึงจวนสกุลหลี่ คงไม่ดีกับนางแน่

“นี่เป็นกฎของร้าน” เขาเอ่ยอย่างเย็นชา

ไป๋หนิงเฟิ่งแม้จะดูปกติและไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา แต่ในใจนั้นกลับสาแก่ใจยิ่งนัก ‘นี่เป็นการเอาคืนครั้งแรกเท่านั้น เจ้ายังต้องเจอกับเรื่องต่าง ๆ อีก จนกว่าข้าจะพอใจ’

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา    ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง 1.2

    เซียวเฟยหลงมองหน้านาง ก็ย่อมรู้ว่าไป๋หนิงเฟิงไม่ได้เบาใจในเรื่องนี้ นางดูหนักใจกับเรื่องที่เขาบอกอย่างมาก จึงเอ่ยบางอย่างออกมา “ข้าพอมีวิธีช่วยเจ้าในเรื่องนี้ได้”“วิธีใดหรือเพคะ” นางเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างตื่เต้น“เจ้าต้องรีบหาบ้านสามีใหม่ ก่อนที่ต้วนอ๋องจะกลับมา” เซียวเฟยหลงกล่าวออกมาเหมือนเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไป“อะไรนะเพคะ!” แต่นางกลับตกใจอย่างมากกับสิ่งที่ได้ยิน จนต้องถามเสียงดังกลับไป“ข้าบอกว่าเจ้าต้องหาสามีให้ได้ก่อนที่เขาจะกลับมา เพื่อมาขัดอำนาจกับต้วนอ๋อง แต่ทว่าหากเจ้ามีบ้านสามีที่ธรรมดาหรือไม่มีอำนาจหนุนหลัง เจ้าคิดหรือว่าหากต้วนอ๋องต้องการตัวเจ้า บุรุษที่แต่งกับเจ้าจะไม่ยอมถอยให้เขา ข้ามีข้อเสนอ” ชายหนุ่มกล่าวเสียงจริงจัง เขาคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว หากนางรับข้อเสนอ เขาก็พร้อมจะช่วยเหลือ“เจ้าอยากแต่งกับข้าหรือไม่” เขาเอ่ยถามพร้อมกับมองสบสายตากับนาง“องค์ชายหมายความว่าอย่างไรเพคะ” คราวนี้ไป๋หนิงเฟิ่งเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ“ข้าถามเจ้าว่า เจ้าอยากแต่งงานกับข้าหรือไม่ หากเจ้าต้องการ ข้าจะขอสมรสพระราชทานจากฝ่าบาท อย่างน้อยก่อนแต่งงาน เจ้าก็คือคู่หมั้นของข้า ไม่ว่าผู้ใดหากคิดจะรังแกเจ้า ย

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา    ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง 1.1

    บทที่ 7 ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงตั้งแต่วันนั้นนี่ก็ผ่านมาแล้วสามวัน ไป๋หนิงเฟิ่งไม่คิดที่จะสนใจสหายอย่างหลี่ชุยผิงอีกเลยแม้แต่น้อย ทว่าเรื่องที่คุณหนูหลี่ซื้อเครื่องประดับแล้วไม่มีเงินจ่ายโด่งดังไปทั่วเมือง ทำให้เสนาบดีหลี่โกรธมาก เขาสั่งลงโทษกักบริเวณบุตรสาว เขายอมควักเงินไปจ่ายให้กับทางร้านซินหรง และนำเครื่องประดับเหล่านั้นกลับมาจวนสกุลหลี่“คุณหนู เรื่องของคุณหนูหลี่โด่งดังไปทั่วเลยเจ้าค่ะ บ่าวสาแก่ใจยิ่งนัก” สาวใช้อย่างเสี่ยวหลันเอ่ยอย่างชอบใจ นางไม่ชอบสหายคนนี้ของเจ้านายสักเท่าไร แต่ทำอะไรมากไม่ได้เพราะนางเป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น“ที่ผ่านมาข้าโง่จนทำให้ถูกเอาเปรียบ แต่เจ้าไม่ต้องกังวลไป ต่อจากนี้ข้าจะไม่โง่อีกแล้ว ทรัพย์สินและเงินทองของข้า ข้าจะไม่ยอมให้ใครเอาไปใช้เหมือนทรัพย์สินของตนเองแน่นอน” ไป๋หนิงเฟิ่งเอ่ยอย่างจริงจังพร้อมยิ้มออกมา นางไม่อยากให้สาวใช้ผู้ซื่อสัตย์มองว่านางอ่อนแอเหมือนก่อนอีกแล้ว “บ่าวดีใจเหลือเกินเจ้าค่ะ บ่าวพูดจากใจ คุณหนูหลี่ไม่ใช่คนดีอย่างที่เห็น วันที่คุณหนูตกบ่อน้ำ เชื่อไหมเจ้าคะว่านางยืนยิ้มอย่างพึงพอใจโดยไม่คิดจะช่วยเหลือ” เสี่ยวหลันรายงานเรื่อง

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา   เอาคืนสหายชั่ว 1.2

    เมื่อถูกถามหลี่ชุยผิงรีบหันมาหาไป๋หนิงเฟิ่งแล้วเอ่ยถามออกมาว่า “หนิงเฟิ่ง เจ้าว่าจ่ายที่นี่หรือจะให้ไปเก็บที่จวนดี” น้ำเสียงนั้นอ่อนหวานยิ่งนัก“อันนี้ก็แล้วแต่เจ้าสิ ข้าไม่ได้เป็นผู้ซื้อเสียหน่อย” ไป๋หนิงเฟิ่งเองก็ตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มนั่นทำให้หลี่ชุยผิงชะงักไปในทันที ก่อนจะพยายามปรับสีหน้าแล้วกล่าวออกมาอีกครั้ง “แต่ทุกครั้งที่ข้าออกมาเดินเล่นเป็นเพื่อนเจ้า เจ้าก็เป็นคนจ่ายให้ข้ามิใช่หรือ”“นั่นมันเมื่อก่อน ตั้งแต่ข้าขอยกเลิกงานแต่งจนให้ชื่อเสียงเสียหาย ท่านพ่อก็ตัดเงินของข้าเกือบหมด ข้าไม่มีเงินจ่ายให้เจ้าหรอก เห็นทีครั้งนี้เจ้าต้องจ่ายด้วยตัวเองเสียแล้ว” ไป๋หนิงเฟิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย คล้ายกับนางไม่มีเงินจริง ๆคราวนี้ใบหน้าของหลี่ชุยผิงซีดเผือดลงทันที นางไม่คิดว่าสหายจะกล่าวเช่นนี้ ถึงแม้ว่านางจะเป็นลูกหลานของตระกูลหลี่ ซึ่งเป็นตระกูลของเสนาบดี แต่ใช่ว่านางจะมีเงินมากมายขนาดนี้ อีกทั้งเครื่องประดับพวกนี้ ราคารวมแล้วก็พันกว่าตำลึงเงิน แล้วนางจะเอาเงินจากไหนมาจ่ายกันล่ะไป๋หนิงเฟิ่งไม่รอให้สหายตั้งสติได้ นางจึงรีบกล่าวออกมาอีกครั้ง “ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าเป็นค

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา   เอาคืนสหายชั่ว 1.1

    บทที่ 6 เอาคืนสหายชั่วไป๋หนิงเฟิ่งปรายตามองสหายเล็กน้อย ทว่าไม่ให้ฝ่ายนั้นรู้ตัว เนื่องจากนางต้องการเล่นงานสหายคนนี้ ถึงแม้ว่าบ้านของหลี่ชุยผิงมีฐานะร่ำรวยและเป็นจวนเสนาบดี แต่ทุกครั้งที่ออกมาเดินเล่นหรือซื้อของด้วยกัน กลับกลายเป็นให้นางจ่ายทั้งนั้นคราวนี้มาดูกันเถิดว่า ต่อจากนี้ใครกันแน่เป็นฝ่ายเสียหน้า!หลี่ชุยผิงยิ้มก่อนจะเดินเข้ามาคล้องแขนสหาย แล้วเอ่ยอย่างดีใจ “ถ้าเช่นนั้นเราสองคนไม่ต้องคิดมากแล้ว ไปร้านขายเครื่องประดับกันดีกว่า ข้าอยากซื้อเครื่องประดับสักชุดสองชุด”“อืม ถ้าเจ้าอยากซื้อ ข้าจะไปกับเจ้า” ไป๋หนิงเฟิ่งตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทว่าเน้นคำว่าอยากซื้อ สายตาหันไปสบกับสาวใช้คนสนิทเพื่อส่งสัญญาณบางอย่างให้จากนั้นพวกนางจึงพากันเดินไปทางร้านขายเครื่องประดับทันทีร้านเครื่องประดับซินหรง ภายในร้านมีลูกค้ามากมายที่เข้ามาดูสินค้าและเลือกซื้ออย่างที่ต้องการ เมื่อลูกจ้างสาวในร้านเห็นว่าไป๋หนิงเฟิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับคุณหนูหลี่ จึงได้รีบเดินมาทักทายอย่างนอบน้อม“คุณหนูไป๋ คุณหนูหลี่ เชิญเจ้าค่ะ วันนี้ทั้งสองต้องการสิ่งใดเจ้าคะ” ใบหน้าของนางยิ้มแย้ม ไม่คิดดูหมิ่นไป๋หนิงเฟิ่งตามข่

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา    พบเจอองค์ชายรองเซียวเฟยหลง 1.2

    เมื่อเจอคำถามนี้ หลี่ชุยผิงสะอึกไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบ “ใช่แล้ว เขายังไม่กลับมาจากชายแดน หากกลับมาแล้วเขาคงมาสู่ขอข้าน่ะ แล้วที่เจ้าตกสระน้ำน่ะ อาการดีหรือยัง สตรีอย่างเราต้องดูแลตัวเองให้ดี เพราะหากไอเย็นเข้าร่างกายเยอะ จะทำให้มีบุตรยาก”“ข้าไม่คิดถึงเรื่องนั้นหรอก สตรีที่ชื่อเสียงเสียหายเช่นข้า คงไม่มีชายใดกล้ามาสู่ขอแล้วล่ะ แต่ข้ายินดีกับเจ้านะ และจะไปร่วมงานแต่งของเจ้าอย่างแน่นอน”“เจ้าอยู่แต่ในจวนไม่เบื่อบ้างหรือ เช่นนั้นไปเดินเล่นกับข้าในตลาดดีหรือไม่ เผื่อว่ามีจะของถูกใจเจ้า” หลี่ชุยผิงเอ่ยชวนไปเดินเล่นในตลาด นางเองก็อยากได้เครื่องประดับเหมือนกัน หากไปกับไป๋หนิงเฟิ่งคราใด นางไม่เคยได้จ่ายเงินสักตำลึงเดียวไป๋หนิงเฟิ่งรู้ทันสหายชั่ว แต่ก็แสร้งโอนอ่อนเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสงสัย “ไปตลาดก็ดีเหมือนกัน ข้าอยากเดินเล่น” นางยิ้มคล้ายกับดีใจ‘คอยดูว่าข้าจะเล่นงานเจ้าอย่างไร มีหรือที่ข้าไม่รู้ว่า เจ้าต้องการให้ข้าไปพบเจอคำติฉินนินทาของชาวบ้าน แต่ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าก็พร้อมที่จะเล่นกับเจ้าเช่นกัน’ นางคิดในใจ ยิ้มเย็นมุมปากเล็กน้อยไม่นานพวกนางก็พากันนั่งรถม้าออกมาจากจวนตระกูลไป๋จวนอ

  • ไป๋หนิงเฟิ่งสตรีผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตา    พบเจอองค์ชายรองเซียวเฟยหลง1.1

    บทที่ 5 พบเจอองค์ชายรองเซียวเฟยหลงขณะเดียวกัน มีสายตาคู่หนึ่งมองมาทางนางอย่างพึงพอใจ ก่อนร่างใหญ่จะออกมาจากที่ซ่อน“ไม่คิดว่าเจ้าจะกล้าปฏิเสธการแต่งงาน และยอมแบกรับชื่อเสียงที่ถูกฝ่ายชายยกเลิกงานแต่ง แล้วยังให้บุตรสาวบ้านรองแต่เข้าเป็นอนุอีก”ไป๋หนิงเฟิ่งหันมาตามเสียง นางพยายามทบทวนความทรงจำและรับรู้ได้ว่าเขาคือองค์ชายรอง แววตาของนางสงบเย็น นางลุกขึ้นแล้วค่อย ๆ คุกเข่าลงทำความเคารพ “คารวะองค์ชายรอง”“ลุกขึ้นเถิด เจ้าไม่ต้องพิธีรีตองมากนัก”นางลุกขึ้นหลังจากได้รับอนุญาต เซียวเฟยหลงเดินมาหยุดตรงหน้า “เจ้ายังไม่ได้ตอบข้า เหตุใดเจ้าทำเช่นนั้น นั่นไม่เท่ากับต้องการขัดราชโองการหรอกหรือ”“หม่อมฉันไม่ได้ขัดราชโองการเพคะ ราชโองการส่งมาที่จวนนั้นมอบให้บุตรสาวสายรอง เพื่อแต่งเข้าไปเป็นอนุต่างหาก ไม่ใช่ให้หม่อมฉันแต่งเข้าจวนต้วนอ๋องเสียหน่อย” นางตอบกลับเสียงเรียบนิ่ง พร้อมกับเงยหน้าสบตาเขาตรง ๆ ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อยเซียวเฟยหลงหัวเราะเบา ๆ เสียงนั้นทุ่มต่ำแต่กลับเย็นยะเยือก “เจ้ากล้ายอกย้อนดีนัก สตรีทั้งแผ่นดินต้องการแต่งเข้าจวนอ๋อง ต้องการสานสัมพันธ์กับราชวงศ์ แต่เจ้ากลับผลักไสวาสนานี้ ช่างน่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status