แชร์

บทที่ 6 น้ำตาประกายแสง

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-11 01:25:07

บทที่ 6 น้ำตาประกายแสง

       ไป๋ซินหยานวิ่งผ่านหน้าศาลาคล้ายไม่รับรู้ว่ามีคนนั่งอยู่ภายในถึงสองคน ใบหน้าที่อาบหยดน้ำตาต้องแสงอาทิตย์จนเป็นประกายวับวาวปรากฎให้เห็น ใบหน้างดงามหมดจดรวมกับสีหน้าทุกข์โศกน่าสงสาร เรียกให้ใจคนละม้ายคล้ายจะอยากวิ่งเข้าไปปลอบโยนนาง

ร้องไห้ได้งดงามจริงๆ แต่ร้องแค่เพราะท่านพ่อไม่ให้ชุดเครื่องประดับของท่านย่า ไร้สาระเสียจริง

       ไป๋ลี่เฟยที่คิดอ่านดังนั้นหันมามองดูจ้าวหลินไฉ่บ้างว่ามีสีหน้าอย่างไร ก็พบเห็นว่าชายผู้นี้ยังมองตามซินหยานไม่วางตา กว่าจะรู้ตัวว่าถูกลี่เฟยจ้องมองอยู่ เวลาก็หมดไปเกือบชั่วจิบชาแล้ว

“สวยมากใช่หรือไม่” ลี่เฟยยิ้มบางพูดออกไปเสียงแผ่วเบา ในใจรู้สึกบิดเบี้ยวอยากจะลุกขึ้นก่นด่าให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำได้เพียงอดทน

“เจ้าว่าอันใดนะ” หลินไฉ่ที่ยังติดตรึงกับสาวสกุลไป๋อีกคนถามขึ้น

“รับน้ำชาและขนมเพิ่มเติมไหมเจ้าคะ”

“ไม่ล่ะ ข้าจะไปห้องน้ำก่อน” 

“เจ้าค่ะ” 

       คราก่อนองค์ชายสามก็ไปทำธุระส่วนตัว และปล่อยให้ลี่เฟยนั่งรอในศาลาเช่นกัน กว่าจะมีบ่าวมาแจ้งว่าองค์ชายสามกลับไปแล้ว ก็ผ่านพ้นไปหลายชั่วยามที่ไป๋ลี่เฟยนั่งอยู่อย่างนั้น คิดไปแล้วนางรู้สึกโง่เง่าที่เสียเวลารอคอยคนเช่นนี้เหลือเกิน ทั้งยังหาข้ออ้างว่าผู้เป็นองค์ชายอาจมีงานการมากมายให้สะสาง แต่ครั้งนี้นางจะลอบติดตามไปดู

ไปหาซินหยานไม่ผิดแน่!

.

.

.

       เวลานี้หากมีใครมาพบเห็นเข้าคงทำสีหน้าแววตาประหลาดไม่น้อย คุณหนูใหญ่ของจวนแอบอยู่หลังพุ่มไม้ แอบสอดส่องดูคู่หมายและน้องสาวของตน ทั้งสองกำลังยืนคุยกันอยู่บริเวณผาน้ำตกที่จำลองขึ้น  แต่แม้จะอยู่ไกล ก็ยังสามารถเดินลมปราณให้ขยายขอบเขตการได้ยินจนแอบฟังได้บ้าง

“เหตุใดจึงดูเศร้าหมอง ดวงหน้าอ่อนหวานเช่นนี้ ไม่ควรมีน้ำตาเลย” องค์ชายสามถามไถ่กับไป๋ซินหยานที่กำลังปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมา

“คุณชายกล่าวชื่นชมเกินจริงแล้ว ซินหยานก็เพียงพอดูได้เท่านั้น”

“ไม่เพียงแค่ดูได้ หากรออีกสองสามปีโฉมสะคราญอันดับหนึ่งคงไม่พ้นเป็นเจ้าแน่” หลินไฉ่ที่ไม่ได้แก้ต่างว่าตนเป็นองค์ชายหาใช่คุณชายอย่างที่ซินหยานเข้าใจ มอบรอบยิ้มอบอุ่นให้แก่แม่นางน้อยข้างกาย

“ต่อให้มีรูปโฉมงดงามเป็นเอก อย่างไรซินหยานก็เป็นเพียงบุตรฮูหยินรอง หากต้องการสิ่งใดย่อมต้องดูฐานะ” คุณหนูรองเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจือความน้อยใจ

         ซินหยานที่คิดจะขอเครื่องประดับชุดใหญ่ของท่านย่า เข้าใจไปว่าเมื่อนางมีพลังถึงขั้นสีน้ำเงินจะขอรางวัลอันใดก็ได้เสียอีก แต่กลับถูกปฏิเสธว่าของชิ้นนั้นส่งต่อให้แก่บุตรภรรยาเอกได้เท่านั้น บุตรชายมอบแก่สะใภ้เอก หรือบุตรสาวนำเป็นสินเดิมอยู่ที่ความเหมาะสมในภายหน้า

       ไป๋ลี่เฟยที่แอบฟังอยู่พอจะคาดเดาได้ว่านางตัดพ้อด้วยเรื่องใด ในชาติก่อนหน้านี้ ซินหยานขอเป็นรางวัลปลอบใจที่ถูกมองข้ามไปในตอนที่ไปตรวจวัดพลัง ซินหยานถูกปฏิเสธเพราะของชิ้นนั้น ท่านย่าเจาะจงไว้ว่าต้องส่งต่อให้ใคร 

       เรื่องนี้ทำให้ชี่เฟยตรึกตรองไปว่าแม้จะใช้เหตุผลที่ต่างกันแต่ปลายทางน้องรองก็ยังคงขอสิ่งของชิ้นเดิม ทว่าคิดอ่านไปได้ไม่นานก็ต้องตกใจที่องค์ชายสามขยับเข้าประชิดตัวน้องรอง

จู่ๆ ทำเช่นนี้ได้อย่างไร รวดเร็วไปหรือไม่! พูดคุยอันใดกัน

        โชคยังดีที่ซินหยานผลักออก ไม่เช่นนั้นลี่เฟยคงเกิดอาการสับสนว่าแม่รองเลี้ยงดูบุตรมาอย่างไร นอกจากนี้คุณหนูใหญ่ไป๋ก็กำลังหงุดหงิดใจไม่น้อย การที่นางเหม่อลอยคิดเรื่องอื่นไปครู่เดียว ทำให้พลาดบทสนทนา ซึ่งนำพาให้หลินไฉ่กล้าประชิดตัวแม่นางน้อยที่พึ่งรู้จักครู่เดียวได้อย่างไร 

นี่เป็นครั้งแรกที่องค์ชายสามมาเยือนที่จวนไป๋ เจอซินหยานครั้งแรกไม่ใช่หรือ 

“คุณชายทำเช่นนี้ไม่เหมาะสม การที่ซินหยานระบายความทุกข์ใจไม่ได้หมายความว่าคุณชายจะมารุ่มร่ามเอาเปรียบกันได้เช่นนี้” ซินหยานผละออกโดยไม่มีอาการเขินอายใดๆ 

“ข้าขออภัยต่อแม่นางด้วย เพียงแต่บางสิ่งก็ทำให้สะท้อนใจแล้ว จึงประพฤติตามอารมณ์มากเกินไป”

       เมื่อลอบฟังมาถึงตรงนี้ลี่เฟยก็รู้สึกว่าซินหยานก็มิได้มีท่าทีไม่เหมาะสมใด กลับเป็นองค์ชายสามที่เข้าหาจนดูน่าอึดอัด ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า แค่ไม่เป็นตัวนางใครๆ ก็คงน่าสนใจและดีพร้อมกว่าทั้งสิ้น จึงทำให้ไป๋ลี่เฟยตัดสินใจกลับมาที่ศาลา 

.

.

.

“คุณหนูของบ่าว ไปไหนมาเจ้าคะ” จูจูที่ไปนำขนมกลับมาตกใจที่ไม่เจอใคร จึงรอคอยอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง กำลังคิดที่จะเรียกคนไปตามหาไป๋ลี่เฟยก็โล่งใจนักที่เจ้านายกลับมาก่อน

“อยู่แถวนี้แหละ นำของว่างไปหาพี่ชายรองกัน” 

อย่างไรไอ้องค์ชายนั่นก็คงไม่กลับมาแล้ว

“ไม่ต้องรอองค์ชายหรือเจ้าคะ”

“ไม่ต้องหรอก เขาพบสิ่งที่น่าสนใจกว่าแล้ว ข้าเองก็ควรทำเช่นนั้นด้วย” ลี่เฟยคลี่ยิ้มเต็มดวงหน้า คุณชายรอง พี่ชายมารดาเดียวกันกับตัวนางนั้นเป็นสหายกับองค์ชายหก หากติดตามพี่ชายคนนี้ไปเป็นครั้งคราวย่อมต้องมีโอกาสให้ได้เจอและทำความรู้จักองค์ชายผู้นี้ นอกเหนือจากสถานการณ์ที่เคยสร้างไว้ ส่วนองค์ชายพระองค์อื่นไป๋ลี่เฟยอาจต้องหาเวลาครุ่นคิดดูก่อน

       เดินรับลมเย็นที่พัดมาเอื่อยๆ ได้ครู่หนึ่งก็มาถึงเรือนของไป๋ช่างชาง บุรุษผู้มีใบหน้าเคร่งครึมขัดกับบุคลิกที่ซุกซนเหมือนดั่งลูกสุนัขก็ไม่ปาน

“คุณหนูใหญ่ นั่งรอในโถงก่อนขอรับ” เมื่อลี่เฟยมาถึงบ่าวหน้าเรือนก็ต้นรับให้เข้าไปภายใน และมีอีกคนที่แยกไปแจ้งพี่ชายของนาง

“เฟยเออร์ มิใช่ว่าตอนนี้ต้องอยู่พูดคุยกับองค์ชายสามหรือ” ไป๋ช่างชางเอ่ยถามเสียงมาถึงก่อนตัว

“พี่ชายรอง มาเร็วจริง เฟยเออร์นั่งเก้าอี้ยังไม่ทันอุ่นเลยเจ้าค่ะ” นางนิ้มแย้มเลี่ยงการให้คำตอบ

“พี่กำลังจะไปโรงเตี๊ยมในตลาดพอดี”

“เฟยเออร์ไปด้วยได้หรือไม่เจ้าคะ อยู่บ้านน่าเบื่อนัก หากได้ไปโรงเตี๊ยมคงมีความสุขไปหลายวัน” ลี่เฟยลุกขึ้นไปเกาะแขนออดอ้อนพี่ชายของตน

“แล้วองค์ชายสามเล่า” ช่างชางยังคงไม่ลดละกับเรื่องคู่หมายของน้องสาว

“น่าจะกลับไปแล้วนะเจ้าคะ ข้ารออยู่ที่สวนนานสองนานก็ไม่กลับมา อาจจะมีงานด่วนก็เป็นได้” ลี่เฟยตอบปัดๆ จดจ้องด้วยดวงตาที่นางเปิดให้กลมโตยิ่งกว่าเดิม หวังให้ไป๋ช่างชางใจอ่อน

“ก็ได้ๆ แต่ต้องไปรับสหายหญิงของเจ้ามาสักคน ไม่เช่นนั้นไปกับชายชาตรีกลุ่มใหญ่อาจไม่เหมาะสม” ช่างชางที่แพ้แววตาน้องน้อยต้องยินยอมเข้าจนได้

“เช่นนั้นไปจวนสกุลฉือกันเจ้าค่ะ จี้ผ่าต้องดีใจเป็นแน่” 

       เมื่อตกลงกันเสร็จสิ้นรถม้าก็แวะเวียนไปที่สกุลฉือเพื่อรับคุณหนูสามจี้ผ่า แล้วจึงวนไปที่ตลาดที่ในยามนี้มีผู้คนสัญจรขวักไขว่ โรงเตี๊ยมเองก็แน่นขนัด โชคยังดีที่เพื่อนพี่ชายของลี่เฟยจับจองไว้จึงทำให้มีห้องส่วนตัวนั่ง

“ขออภัย ตัวข้าไปรับคุณหนูฉือมาเป็นสหายกับน้องสาวจึงมาช้าไปเสียหน่อย”

“ไม่ช้าๆ พวกข้าก็พึ่งมาถึงได้ไม่นาน องค์ชายห้าและองค์ชายหกก็ยังมาไม่ถึง ไม่ต้องวิตกไป” โอจินโม่สหายคนหนึ่งของไป๋ช่างชางกล่าวขึ้น

“หากออกมาเองท่านพ่อท่านแม่อาจไม่อนุญาต จึงต้องติดตามพี่ชายมาเช่นนี้ เดี๋ยวให้เสี่ยวเอ้อแยกโต๊ะเล็กให้ข้าและจี้ผ่า จะได้ไม่เป็นการรบกวนช่วงสนุกสนานของท่านพี่ทั้งหลายดีหรือไม่เจ้าคะ” ลี่เฟยที่รู้ว่าการแทรกตัวมาอาจดูไร้มารยาท จึงเสนอเช่นนี้ออกไป

“คนกันเองทั้งสิ้นไม่ต้องแยกให้เสียเวลาไป” องค์ชายหกที่เข้ามาทีหลังกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย และมีองค์ชายห้าเดินตามเข้ามาอีกผู้หนึ่ง

        ไป๋ลี่เฟยเอียงหน้าแสร้งทำสีหน้าตกใจอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นองค์ชายหก และองค์ชายผู้นี้ก็ส่งสายตาหยอกล้อตอบกลับมา ก่อนจะถูกเก็บกลับไปเมื่อมีเสียงพูดแทรกออกมา

“เช่นนั้นก็ตามที่องค์ชายหกว่า” ไป๋ช่างชางกล่าว

“องค์ชายหก และญาติผู้พี่เองก็มาที่โรงเตี๊ยมนี้หรือเพคะ” ฉือจี้ผ่าทักทายขึ้น เพราะมีความคุ้นเคยกับองค์ชายห้าอยู่แล้ว

       รอยยิ้มมากแผนการของลี่เฟยปรากฎขึ้นครู่หนึ่ง หากเรื่องราวดำเนินไปในทิศทางนี้ การกระชากหลินไฉ่ให้ลงต่ำอาจไม่ยากเย็นอย่างที่คาดคิด วันนี้นางจงใจเลือกฉือจี้ผ่ามา เพราะต้องการเสริมความสนิทสนมที่มีอยู่แล้วให้มากขึ้น หวังใช้หลานสาวฮองเฮาผู้นี้เป็นสะพานเชื่อมไปสู่องค์ชายรองและองค์ชายห้า จนกว่านางจะตัดสินใจได้ องค์ชายทุกพระองค์คือหมากที่ใช้กำจัดองค์ชายสามได้ทั้งหมด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 4 บรรจบเป็นวงกลม

    บทพิเศษ 4 บรรจบเป็นวงกลมในที่สุดสหายรักของไป๋ลี่เฟยก็เดินทางถึงเมืองหลวงในแคว้นจ้าวอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนเสียที หลังเดินทางเข้ามาถึงตงหม่าจางต้องทำเรื่องขอกลับเข้าเป็นองครักษ์ ส่วนฉือจี้ผ่าก็จำเป็นต้องกลับไปอยู่บ้านเดิมให้บิดามานดาของนางเห็นหน้ามากหน่อย กว่าจะได้มาพบปะสหายทั้งหลาย เวลาก็ผ่านไปเกือบรอบจันทร์แล้ว“ข้ามาแล้ว” จี้ผ่าเอ่ยทักเมื่อเข้ามาในร้านประมูลของแม่นางอูที่เปิดขึ้นใหม่เมื่อสองปีก่อน“จี้ผ่า คิดถึงเจ้านัก” ลี่เฟยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เสียดายที่มิได้ร่ำลากัน”“โชคยังดีที่มีโอกาสได้กลับมา” จี้ผ่ายิ้มเล็กน้อย“และโชคดีที่พวกเจ้าออกมาหาข้าได้ มิเช่นน

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 3 งานปักผ้าของจี้ผ่า

    บทพิเศษ 3 งานปักผ้าของจี้ผ่าชีวิตของฉือจี้ผ่าและตงหม่าจางหลังออกจากเมืองหลวงมิได้ลำบากนัก ด้วยทรัพสินเงินทองที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ติดตัวมิได้น้อยเลย หากจะมีลำบากก็เพราะตงหม่าจางต้องติดสินบนปลอมแปลงเอกสารยืนยันตัวตน เพื่อผ่านทางไปยังแคว้นอื่นที่สงบจากภัยสงครามในขณะนี้แต่เมื่อผ่านมาได้แล้วทั้งสองก็เลือกปักหลักอยู่ที่เมืองทางทิศใต้ของทะเลสาบต้งถิง เป็นเมืองที่มีผู้คนผ่านไปมามาก จึงทำให้ผู้มาใหม่ทั้งสองสามารถกลืนไปกับผู้คนในเมืองได้ไม่ยากเย็นนัก จวนที่ซื้อต่อจากสกุลวานิชเล็กๆ สกุลหนึ่ง กลายเป็นบ้านใหม่ของคู่สามีภรรยาเยาว์วัยคู่นี้ทุกๆ วันตงหม่าจางจะเข้าป่าเพื่อสร้างสถานที่เก็บตำราของฮ่องเต้ พร้อมกับคิดค้นกับดักและร่ายอักขระไว้ปกป้องตำราภายในด้วย ส่วนจ

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 2 ความร้อนในกายช่วยให้อบอุ่น

    บทพิเศษ 2 ความร้อนในกายช่วยให้อบอุ่นโจวเฉิงจับข้อมือของไป๋ลี่เฟยอ้าออกก่อนจะก้มลง เพื่อใช้ลิ้นร้อนฉ่าทักทายยอดบัวชมพูอย่างตั้งใจ อีกมือหนึ่งผละจากท่อนแขนมากอบกุบความนุ่มนวลตรงหน้านี้ สลับข้างไปมาอย่างคนถูกมอมเมามิอาจละตัวให้ห่างไปได้เลย“อ๊ะ..พะ พี่” ลี่เฟยที่ถูกจู่โจมเช่นนี้รู้สึกวูบวาบจนเริ่มหายใจติดขัด จะกล่าววาจาใดก็ไม่ถนัดดังเช่นยามปกติเห็นเช่นนั้นท่อนแขนแข็งแรงช้อนตัวไป๋ลี่เฟยให้ขึ้นไปนั่งยังบริเวณขอบบ่อ หยดน้ำพราวเกาะบนผิวยิ่งทำให้ร่างกายนี้เย้ายวนเหนือบรรยาย ใบหน้าของชายหนุ่มไล่สายตาจนมาหยุดอยู่ที่กึ่งกลางร่างกายของไป๋ลี่เฟย“เฟยเฟยอ้าขาออก”

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 1 พักตากอากาศ

    บทพิเศษ 1 พักตากอากาศเมืองซุ่ยปาคือจุดมุ่งหมายที่สองบิดามารดามือใหม่ตั้งใจจะไปพักผ่อนให้สบายจิตใจ เมืองแห่งนี้เป็นเมืองสงบมีผู้คนอยู่อาศัยไม่มากนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นขุนนางที่ปลดระวางตนเองจากตำแหน่งหน้าที่แล้วมาอยู่อาศัย ไม่ห่างไกลจากเมืองหลวงเกินไป เพื่อให้สะดวกหากมีขุนนางคนใดอยากเข้ามาปรึกษาหารือประเด็นต่างๆเมืองซุ่ยปามีทิวเขางดงาม ป่าไม่อุดมสมบูรณ์มีแหล่งพลังปราณธรรมชาติหนาแน่น สตรีมีครรภ์และผู้มีอายุจึงนิยมมาอาศัยในเมืองแห่งนี้เพื่อบำรุงร่างกาย ข้อเสียเพียงอย่างเดียวมีเพียงอากาศที่เย็นกว่าพื้นที่ส่วนอื่นของแคว้นอย่างน่าประหลาดจ้าวโจวเฉิงจับจูงไป๋ลี่เฟยให้เดินชมสวนของจวนไม่เล็กไม่ใหญ่หลังนี้ “ชอบหรือไม่”

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 67 คลี่คลายง่ายนัก

    บทที่ 67 คลี่คลายง่ายนัก“ท่านหมอ พอรู้หรือไม่ว่าต้องทำอย่างไร” ไป๋ลี่เฟยเอ่ยถามออกไป แต่ไม่ทันที่จะได้เว้นช่วงให้หมอเทวดาตอบ นางก็มิอาจกลั้นอาเจียนไว้ได้อีกต่อไป“พระชายาไป๋ นั่งลงก่อน” หมอเทวดาดวงตาเป็นประกาย เมื่อเห็นความท้าทายในการรักษาถึงสองอาการ คนหนึ่งหลับไปเฉยๆ โดยที่มิได้รับความบาดเจ็บใด ส่วนอีกผู้หนึ่งอาเจียนเป็นเลือด แต่ยังเดินเหินและดูแข็งแรงปกติไป๋ลี่เฟยนั่งลงให้ท่านหมอตรวจอาการ และไม่ลืมนำน้ำหกธาตุพิชิตออกมาให้หมอเทวดาผู้นี้ดู ก่อนจะเล่าว่าอาการของตนและองค์ชายหกเกิดได้อย่างไร แต่มิได้บอกความมหัศจรรย์ของพิษจิตแตก บอกแต่เพียงว่าเป็นพิษ“วิเศษนัก” ท่านหมอกล่าวระหว่างยกขวดโอสถขึ้นมาส่องดู ก่อนจะวางลงข้างกาย “อาการขององค์ชายหก

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 66 ความสุขกลับคืนทีละน้อย

    บทที่ 66 ความสุขกลับคืนทีละน้อยเช้าวันรุ่งขึ้นข่าวแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวงว่าองค์รัชทายาทต้องการพาพระชายาไปพักผ่อนให้เป็นส่วนตัว จึงมิได้ให้องครักษ์คนใดติดตามไป เกิดเป็นเรื่องราวน่าใจหายองค์ชายถูกสัตว์รุมกัด มีร่องรอยการต่อสู้ดุเดือด ส่วนไท่จื่อเฟยก็หนีอยากหวาดกลัว กล่าวกับผู้คนว่าองค์ชายปกป้องตนเองจนตัวตายท่าทางของพระชายาคนงามดูอ่อนแอบอบบางจนมีแต่ผู้คนสงสาร เล็บมือเล็บเท้าของสตรีสูงศักดิ์ฉีกขาดเพราะการหนีตาย ยิ่งทำให้หมดข้อสงสัยว่าไป๋ซินหยานมีส่วนรู้เห็นกับการตายขององค์ชายสาม ช่วงเวลาต่อมาวังเมฆาแสงจันทร์ถูกปิดตาย ด้วยคำสั่งพระชายามีเพียงหมอหลวง และคนจากสกุลเดิมเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตเข้าออกวังแห่งนี้ได้ ส่วนตัวไป๋ซินหยานเองก็ออกมาด้ายนอกเพียงเพื่อร่วมพิธีศพเท่านั้น“ซินหยาน เป็

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status