แชร์

บทที่ 7 คุณหนูผู้มากเล่ห์

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-11 01:26:44

บทที่ 7 คุณหนูผู้มากเล่ห์

       การร่วมโต๊ะของบรรดาชนชั้นสูงเป็นไปอย่างสนุกสนาน แม้จะมีแม่นางน้อยสองคนมาเพิ่มก็ไม่ได้ลดความสนุกสนานแต่กลับกลายเป็นเพิ่มพูนให้บรรยากาศดีขึ้นไปกว่าเดิมแทน ทำให้เมื่อถึงคราวต้องแยกย้ายจึงไม่มีใครอยากปลีกตัวออกไปนัก ทั้งหมดจึงติดตามไป๋ลี่เฟยและฉือจี้ผ่า ไปเลือกซื้อของสวยงามกันครบกลุ่ม

“พี่จินโม่ หากให้พวกข้าเลือกให้ต้องมีของรางวัลนะเจ้าคะ” จี้ผ่าเอ่ยวาจาหยอกล้อต่อโอจินโม่ที่ขอติดตามมาเพราะต้องการซื้อของขวัญให้แก่คู่หมั้น 

“แน่นอน ขอเพียงช่วยข้าเลือกให้ถูกใจเจียหยุนก็เพียงพอ” การมีคุณหนูทั้งสองมาช่วยตัดสินใจเช่นนี้ ไม่คว้าไว้ไม่ได้

“คุณหนูรองหลินพวกข้าคุ้นเคยดี พวกเราเป็นสหายกับคุณหนูห้าน้องสาวของนาง ย่อมเคยพบปะพูดคุยถึงความชอบของพี่เจียหยุน” ลี่เฟยยิ้มบางๆ ให้สหายของพี่ชาย เหลือบมององค์ชายทั้งสองที่เงียบมาตลอดทาง “องค์ชายทั้งสองมีหญิงที่ถูกใจให้พวกเราช่วยเลือกหาของขวัญด้วยหรือไม่เพคะ”

“ฮ่าๆ ยังไม่มีหรอก คงต้องรอจัดการเรื่องพี่รองเสร็จสิ้นก่อน วันนี้ข้าเป็นถุงเงินให้ญาติผู้น้องเท่านั้นก็พอแล้ว” องค์ชายห้ากล่าวอย่างขบขัน แต่ดูจะถูกใจจี้ผ่าไม่น้อย

“ข้าจะเหมาร้านเลย” ฉือจี้ผ่าหัวเราะขบขันอยู่หลังพัดครู่หนึ่ง ก็จับจูงลี่เฟยให้รีบเข้าร้านเครื่องประดับ

“คุณหนูคุณชายทั้งหลายเชิญๆ” หลงจู๊ประจำร้านที่เห็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ก้าวเข้าร้าน รีบวางมือจากงานที่ทำอยู่แล้วเร่งเข้าไปบริการ และให้คนเตรียมเครื่องประดับชุดใหม่ๆ จากหลังร้านมาแสดงด้วย

       ในระหว่างที่คนทั้งกลุ่มกำลังดูเครื่องประดับที่หลงจู๊หยิบมาเรียงราย ก็มีคุณหนูอีกสองคนเดินเข้าร้านมาพอดิบพอดี เมื่อเห็นว่าเป็นคุณหนูหลินและคุณหนูจาง โฉ่โม่จินและไป๋ช่างชางก็มุ่งตรงไปยังพวกนางทันที 

       เมื่อเห็นเช่นนั้นไป๋ลี่เฟยจึงเดินอมยิ้มแยกไปเพื่อเว้นระยะให้ทั้งสองคู่ได้ใกล้ชิด และตนเองก็ได้ดูเครื่องประดับชิ้นเล็กที่เหมาะสมกับวัยมากกว่าแทนอีกด้วย โดยที่นางลืมสังเกตไปว่าใกล้บริเวณนั้นมีองค์ชายหกยืนเลือกของอยู่ก่อนแล้ว ส่วนองค์ชายห้าและฉือจี้ผ่ายังคงดูเครื่องประดับชุดใหญ่ เพื่อซื้อไปถวายแก่เสด็จแม่ขององค์ชายห้าอยู่ที่เดิม 

“ชิ้นนั้นดูเหมาะสมกับเจ้า ไม่เทอะทะ หากชอบจนยิ้มสุขใจกับตนเองก็ซื้อเถอะ” องค์ชายหกที่เห็นไป๋ลี่เฟยยิ้มเล็กยิ้มน้อยกับกำไลเส้นเล็กอันหนึ่งจึงเปิดบทสนทนาขึ้นมา

“โอ๊ะงามจริงด้วยไม่ทันได้สังเกตเลยเพคะ องค์ชายมาอยู่ตรงนี้เอง ลี่เฟยยิ้มและขยับห่างออกมา เพราะคู่หมั่นพี่โม่จิน และคุณหนูจางที่พี่รองแอบชอบอยู่ที่นี่เพคะ” ลี่เฟยที่ไม่ทันตั้งตัวชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเฉลยความออกไปด้วยเสียงเบาหวิวที่ต้องการให้ได้ยินเพียงสองคน จนต้องขยับตัวไปกระซิบให้องค์ชายหกฟัง

“เจ้าดูรู้เลยหรือ เจ้าเล่ห์นัก” จ้าวโจวเฉิงล้อเลียนออกมาก่อนจะลองนำกำไลทาบกับข้อแขนว่าเข้ากันเช่นที่จินตนาการไว้หรือไม่

“ลี่เฟยอาจดูไม่รู้ก็ได้เพคะ แต่อาจมีดวงตารู้ล่วงหน้า” ไป๋ลี่เฟยระบายยิ้มพยักหน้าเมื่อของชิ้นนั้นวางลงมา “เข้ากันดีจริงด้วย องค์ชายเลือกเก่งนัก ขอบพระทัยเพคะ” 

“ข้าซื้อให้แล้วกัน”

“ซื้อให้ทำไมกันหรือเพคะ” ไป๋ลี่เฟยตีหน้ายุ่งเหยิงไม่เข้าใจส่งไปหาจ้าวโจวเฉิง

“ข้าอยากให้ ไม่ได้หรือ” องค์ชายหกออกสีหน้าที่เจือความเอาแต่ใจออกมา ทำให้ชี่เฟยไม่ขัดข้องอีก

“กำไลแขนชิ้นนี้ มีของอย่างอื่นในชุดอีก สนใจรับไปด้วยหรือไม่ขอรับ” เสียงของหลงจู๊ที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อใด ดังขึ้นจากด้านหลัง

“รับทั้งหมด” องค์ชายหกตอบออกไปก่อนที่ไป๋ลี่เฟยจะได้ปฏิเสธ นางจึงได้แต่กล่าวขอบคุณ และย้ายไปนั่งพูดคุยกับองค์ชายหกที่ชั้นลอยจามคำเชิญของหลงจู๊ จิบน้ำชารอให้ผู้อื่นเลือกซื้อของต่อให้เสร็จสิ้น และไม่เป็นกีดขวางลูกค้าท่านอื่นที่ทยอยเข้ามาเลือกหาของ

       เมื่อมานั่งกันอยู่บนชั้นลอยเช่นนี้ ทำให้มองออกไปนอกหน้าต่างดูผู้คนได้อย่างเพลิดเพลินตา ไป๋ลี่เฟยที่กำลังมองบรรยากาศเบื้องล่างดูผู้คนที่เต็มไปด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข ต้องชะงักค้างเพราะเห็นจ้าวหลินไฉ่และน้องรองของตน กำลังจะเดินเข้าร้านผ้าฝั่งตรงข้าม ไป๋ลี่เฟยเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกกรุ่นโกรธ ตวัดมือส่งพลังธาตุลมของตัวเองออกไปปัดพับผ้าเหล่านั้นให้ร่วงลงสู่พื้น ปล่อยให้องค์ชายสามหัวเสียว่าใครเล่นพิเรนทร์กลั่นแกล้งตน

อ๋อที่ยามนั้นข้าต้องรอในศาลาทั้งวัน เพราะออกมามีความสุขข้างนอกงั้นหรือ

        กิริยากัดฟันขยับสบกัน ร่วมกับการกำอาภรณ์ที่หน้าขาก่อนยกมือขึ้นตวัดพลัง ตกอยู่ภายใต้สายตาขององค์ชายหก จ้าวโจวเฉิงรีบพรางไอพลังให้แก่ไป๋ลี่เฟย พร้อมกับส่งพลังลมสู่ร้านข้างเคียง เพื่อป้องกันองครักษ์เงาติดตามไอนี้มาจนเจอผู้กระทำ และสร้างความสับสนให้ดูเป็นเหตุบังเอิญไม่ได้ตั้งใจเจาะจงองค์ชาย

“เจ้าพึ่งวัดพลังไปไปไม่ใช่หรือเหตุใดจึงใช้พลังธาตุได้แล้ว” องค์ชายหกตกตะลึง แม่นางน้อยที่ยังไม่เข้าเรียน วัดระดับได้เพียงสีม่วง เหตุใดจึงทำเช่นนี้ได้กัน

“ขะ…ข้า เมื่อครู่เพียงแค่รู้สึกโกรธมากๆ ไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร” ลี่เฟยแก้ตัวอย่างไม่น่าเชื่อถือนักออกไป นางโกรธตัวเองนักที่ปล่อยให้อารมณ์มาครอบงำ จนไม่คิดอ่านให้รอบคอบเช่นนี้ 

แต่ถ้าหากไม่เป็นข้าใครจะมาเข้าใจ…ยอมสละชีวิตให้กลับไม่เห็นคุณค่าใด 

“ข้าพรางไอพลังให้แล้ว มิเช่นนั้นอาจได้ไปอยู่คุกหลวง” องค์ชายหกที่เกิดความสนใจในตัวไป๋ลี่เฟยอยู่ก่อนแล้ว เมื่อต้องพบกับเรื่องที่ทำให้ตัวเขาตื่นตะลึงเพิ่มขึ้นอีก จึงไม่อาจละสายตาไปจากดวงหน้าจิ้มลิ้มไปได้ สังเกตเห็นแววตาโกรธแค้นจนไม่เข้าใจว่าพี่สามทำสิ่งใดให้ได้รับความรู้สึกเช่นนี้

“ก็ดีสิเพคะ ข้าจะได้ประกาศให้คนรู้ให้ทั่วว่าองค์ชายสามไปพบคู่หมายในยามเช้า แต่ตกบ่ายกลับออกมาเที่ยวเล่นกับน้องสาวของคู่หมาย น่าเกลียด!” ลี่เฟยดวงตาแข็งกร้าวกอดอกไม่ยอมรับความผิดของตนเอง

“หึงหวง?” จ้าวโจวเฉิงถามออกมา ในใจรู้สึกยุบยิบเล็กน้อยที่แม่นางที่ตนให้ความสนใจ อาจเทความชมชอบให้ผู้อื่นไปหมดเสียแล้ว ทั้งยังขุ่นเคืองจนเก็บมาเป็นอารมณ์

“ไม่หึง ลี่เฟยเพียงไม่ชอบการกระทำดูแคลนกันเช่นนี้ ข้าเป็นเพียงแม่นางน้อยไม่ประสาเรื่องความรัก จะหึงหวงชายใดไปทำไมกัน” เลือดลมในกายไม่แน่ว่าอาจจะหยุดนิ่งหลังกล่าววาจาจบ ดวงตาฉายแววความว่างเปล่าคล้ายไม่อาจรู้สึกอันใดถูกส่งออกมา

“อยากหลุดพ้นจากเขาหรือไม่” องค์ชายหกที่จับความรู้สึกรังเกียจที่แผ่ออกมาได้ เสนอออกไป

“ท่านต้องการสิ่งใดแลกเปลี่ยน” แม้ว่าองค์ชายผู้นี้จะมีแววตาแสดงความสนใจในตัวนาง แต่อดีตที่ผ่านมาทำให้ลี่เฟยไม่ค่อยเชื่อถือว่าจะมีผู้ใดมอบความช่วยเหลือแบบให้เปล่าออกมาเช่นนี้

“กีดกันคนผู้หนึ่งให้ข้า ข้าก็จะกีดกันพี่สามให้เจ้า” 

       ไป๋ลี่เฟยที่เคยหลงคิดไปว่าเพียงแค่เหตุการณ์เดียวทำให้องค์ชายหกมาตามติดน้องรอง แท้จริงแล้วเรื่องนี้อาจไม่ใช่อย่างที่ซินหยานจดบันทึกไว้ แต่เป็นจ้าวโจวเฉิงที่ใช้น้องรอง ให้ช่วยบรรลุเป้าหมายแฝงนี้ต่างหาก

“ตกลง”

“เช่นนั้น เตรียมตัวไว้ ข้าจะไปพบเจ้าโดยใช้ช่างชางเป็นข้ออ้าง” จ้าวโจวเฉิงยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อยเสยผมขึ้น ก่อนจะนั่งเอนหลัง ยกขาขึ้นไขว่ห้างจิบน้ำชาหลิ่วตาให้ลี่เฟย

        การกระทำนี้คล้ายว่าจะทำให้หัวใจของไป๋ลี่เฟยเต้นไม่เป็นจังหวะ คนที่มีอายุมากกว่านางเพียงสองปีมีท่าทีที่ทำให้หัวใจกระตุกเช่นนี้ได้อย่างไร ลี่เฟยถึงกับต้องสะบัดหน้าหนีกลบเกลื่อนไม่ให้เขาเห็นแก้มแดงเรื่อของตนเอง ต่างคนต่างเพียงลอบมองกันจนถึงเวลากลับ

       ผิดกับด้านองค์ชายสามและไป๋ซินหยานที่ควรจะมีบรรยากาศที่ชวนให้หัวใจกระตุกเช่นนี้ด้วย แต่เพราะการตวัดลมไม่อาจหาผู้บงการได้ จึงทำให้อารมณ์ของจ้าวหลินไฉ่ขุ่นมัวจนไม่อาจกลับมาเป็นปกติได้

“จะให้เปิ่นหวางดูผ้าที่ตกลงพื้นแล้วได้อย่างไร ไปเอาของใหม่มาเปลี่ยนทั้งหมด” จ้าวหลินไฉ่มีสีหน้าตึงเครียดปล่อยรังสีกดดันออกมาช่วยให้คนรอบข้างอึดอัด

       ไป๋ซินหยานที่เจอเหตุการณ์เช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะมีความกังวลหลุดรอดออกมา แต่เมื่อองค์ชายสามที่นางพึ่งได้รู้สถานะที่แท้จริงหันกลับมามอง ซินหยานก็ได้แต่ส่งรอยยิ้มอ่อนหวานตอบกลับไปให้บรรยากาศดีขึ้น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 4 บรรจบเป็นวงกลม

    บทพิเศษ 4 บรรจบเป็นวงกลมในที่สุดสหายรักของไป๋ลี่เฟยก็เดินทางถึงเมืองหลวงในแคว้นจ้าวอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนเสียที หลังเดินทางเข้ามาถึงตงหม่าจางต้องทำเรื่องขอกลับเข้าเป็นองครักษ์ ส่วนฉือจี้ผ่าก็จำเป็นต้องกลับไปอยู่บ้านเดิมให้บิดามานดาของนางเห็นหน้ามากหน่อย กว่าจะได้มาพบปะสหายทั้งหลาย เวลาก็ผ่านไปเกือบรอบจันทร์แล้ว“ข้ามาแล้ว” จี้ผ่าเอ่ยทักเมื่อเข้ามาในร้านประมูลของแม่นางอูที่เปิดขึ้นใหม่เมื่อสองปีก่อน“จี้ผ่า คิดถึงเจ้านัก” ลี่เฟยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เสียดายที่มิได้ร่ำลากัน”“โชคยังดีที่มีโอกาสได้กลับมา” จี้ผ่ายิ้มเล็กน้อย“และโชคดีที่พวกเจ้าออกมาหาข้าได้ มิเช่นน

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 3 งานปักผ้าของจี้ผ่า

    บทพิเศษ 3 งานปักผ้าของจี้ผ่าชีวิตของฉือจี้ผ่าและตงหม่าจางหลังออกจากเมืองหลวงมิได้ลำบากนัก ด้วยทรัพสินเงินทองที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ติดตัวมิได้น้อยเลย หากจะมีลำบากก็เพราะตงหม่าจางต้องติดสินบนปลอมแปลงเอกสารยืนยันตัวตน เพื่อผ่านทางไปยังแคว้นอื่นที่สงบจากภัยสงครามในขณะนี้แต่เมื่อผ่านมาได้แล้วทั้งสองก็เลือกปักหลักอยู่ที่เมืองทางทิศใต้ของทะเลสาบต้งถิง เป็นเมืองที่มีผู้คนผ่านไปมามาก จึงทำให้ผู้มาใหม่ทั้งสองสามารถกลืนไปกับผู้คนในเมืองได้ไม่ยากเย็นนัก จวนที่ซื้อต่อจากสกุลวานิชเล็กๆ สกุลหนึ่ง กลายเป็นบ้านใหม่ของคู่สามีภรรยาเยาว์วัยคู่นี้ทุกๆ วันตงหม่าจางจะเข้าป่าเพื่อสร้างสถานที่เก็บตำราของฮ่องเต้ พร้อมกับคิดค้นกับดักและร่ายอักขระไว้ปกป้องตำราภายในด้วย ส่วนจ

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 2 ความร้อนในกายช่วยให้อบอุ่น

    บทพิเศษ 2 ความร้อนในกายช่วยให้อบอุ่นโจวเฉิงจับข้อมือของไป๋ลี่เฟยอ้าออกก่อนจะก้มลง เพื่อใช้ลิ้นร้อนฉ่าทักทายยอดบัวชมพูอย่างตั้งใจ อีกมือหนึ่งผละจากท่อนแขนมากอบกุบความนุ่มนวลตรงหน้านี้ สลับข้างไปมาอย่างคนถูกมอมเมามิอาจละตัวให้ห่างไปได้เลย“อ๊ะ..พะ พี่” ลี่เฟยที่ถูกจู่โจมเช่นนี้รู้สึกวูบวาบจนเริ่มหายใจติดขัด จะกล่าววาจาใดก็ไม่ถนัดดังเช่นยามปกติเห็นเช่นนั้นท่อนแขนแข็งแรงช้อนตัวไป๋ลี่เฟยให้ขึ้นไปนั่งยังบริเวณขอบบ่อ หยดน้ำพราวเกาะบนผิวยิ่งทำให้ร่างกายนี้เย้ายวนเหนือบรรยาย ใบหน้าของชายหนุ่มไล่สายตาจนมาหยุดอยู่ที่กึ่งกลางร่างกายของไป๋ลี่เฟย“เฟยเฟยอ้าขาออก”

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 1 พักตากอากาศ

    บทพิเศษ 1 พักตากอากาศเมืองซุ่ยปาคือจุดมุ่งหมายที่สองบิดามารดามือใหม่ตั้งใจจะไปพักผ่อนให้สบายจิตใจ เมืองแห่งนี้เป็นเมืองสงบมีผู้คนอยู่อาศัยไม่มากนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นขุนนางที่ปลดระวางตนเองจากตำแหน่งหน้าที่แล้วมาอยู่อาศัย ไม่ห่างไกลจากเมืองหลวงเกินไป เพื่อให้สะดวกหากมีขุนนางคนใดอยากเข้ามาปรึกษาหารือประเด็นต่างๆเมืองซุ่ยปามีทิวเขางดงาม ป่าไม่อุดมสมบูรณ์มีแหล่งพลังปราณธรรมชาติหนาแน่น สตรีมีครรภ์และผู้มีอายุจึงนิยมมาอาศัยในเมืองแห่งนี้เพื่อบำรุงร่างกาย ข้อเสียเพียงอย่างเดียวมีเพียงอากาศที่เย็นกว่าพื้นที่ส่วนอื่นของแคว้นอย่างน่าประหลาดจ้าวโจวเฉิงจับจูงไป๋ลี่เฟยให้เดินชมสวนของจวนไม่เล็กไม่ใหญ่หลังนี้ “ชอบหรือไม่”

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 67 คลี่คลายง่ายนัก

    บทที่ 67 คลี่คลายง่ายนัก“ท่านหมอ พอรู้หรือไม่ว่าต้องทำอย่างไร” ไป๋ลี่เฟยเอ่ยถามออกไป แต่ไม่ทันที่จะได้เว้นช่วงให้หมอเทวดาตอบ นางก็มิอาจกลั้นอาเจียนไว้ได้อีกต่อไป“พระชายาไป๋ นั่งลงก่อน” หมอเทวดาดวงตาเป็นประกาย เมื่อเห็นความท้าทายในการรักษาถึงสองอาการ คนหนึ่งหลับไปเฉยๆ โดยที่มิได้รับความบาดเจ็บใด ส่วนอีกผู้หนึ่งอาเจียนเป็นเลือด แต่ยังเดินเหินและดูแข็งแรงปกติไป๋ลี่เฟยนั่งลงให้ท่านหมอตรวจอาการ และไม่ลืมนำน้ำหกธาตุพิชิตออกมาให้หมอเทวดาผู้นี้ดู ก่อนจะเล่าว่าอาการของตนและองค์ชายหกเกิดได้อย่างไร แต่มิได้บอกความมหัศจรรย์ของพิษจิตแตก บอกแต่เพียงว่าเป็นพิษ“วิเศษนัก” ท่านหมอกล่าวระหว่างยกขวดโอสถขึ้นมาส่องดู ก่อนจะวางลงข้างกาย “อาการขององค์ชายหก

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 66 ความสุขกลับคืนทีละน้อย

    บทที่ 66 ความสุขกลับคืนทีละน้อยเช้าวันรุ่งขึ้นข่าวแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวงว่าองค์รัชทายาทต้องการพาพระชายาไปพักผ่อนให้เป็นส่วนตัว จึงมิได้ให้องครักษ์คนใดติดตามไป เกิดเป็นเรื่องราวน่าใจหายองค์ชายถูกสัตว์รุมกัด มีร่องรอยการต่อสู้ดุเดือด ส่วนไท่จื่อเฟยก็หนีอยากหวาดกลัว กล่าวกับผู้คนว่าองค์ชายปกป้องตนเองจนตัวตายท่าทางของพระชายาคนงามดูอ่อนแอบอบบางจนมีแต่ผู้คนสงสาร เล็บมือเล็บเท้าของสตรีสูงศักดิ์ฉีกขาดเพราะการหนีตาย ยิ่งทำให้หมดข้อสงสัยว่าไป๋ซินหยานมีส่วนรู้เห็นกับการตายขององค์ชายสาม ช่วงเวลาต่อมาวังเมฆาแสงจันทร์ถูกปิดตาย ด้วยคำสั่งพระชายามีเพียงหมอหลวง และคนจากสกุลเดิมเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตเข้าออกวังแห่งนี้ได้ ส่วนตัวไป๋ซินหยานเองก็ออกมาด้ายนอกเพียงเพื่อร่วมพิธีศพเท่านั้น“ซินหยาน เป็

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status