Share

บทที่ 5 พบหน้าคู่หมาย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-31 03:06:00

บทที่ 5 พบหน้าคู่หมาย

       หลังเรื่องว้าวุ่นในวันนี้จบลงไป๋ลี่เฟยนั่งรับลมราตรีที่หอบเอากลืนหอมสะอาดบางเบาของเหล่าบุปผาในสวนข้างเรือนมาหมุนวนรอบกายบาง 

       เรือนนอนของคุณหนูใหญ่ผู้นี้ถูกประดับตกแต่งอย่างหรูหรา ทั้งยังเป็นเรือนส่วนตัวแยกจากมารดา ไป๋ลี่เฟยถูกเอาออกเอาใจเป็นพิเศษเพราะถูกวางตัวเป็นชายาขององค์ชายตั้งแต่คลอดออกมาได้ไม่กี่ชั่วยาม มารดาของนางและมู่กุ้ยเฟยเป็นสหายสนิทกันมาตั้งแต่เกิด จึงคิดให้บุตรชายบุตรสาวได้ดองเป็นครอบครัว

        ไป๋ลี่เฟยแค่นยิ้มบางๆ วันพรุ่งนี้แล้วที่นางต้องได้พบจ้าวหลินไฉ่อีกครั้ง ครานี้บทนางรองผู้สนับสนุนและปักใจจะส่งเสริมว่าที่สามีจะไม่ใช่ตัวนางที่เป็นผู้รับ ลี่เฟยจะเป็นนางร้ายผู้ไม่ส่งเสียง วางแผนทำลายอยู่เบื้องหลัง แสแสร้งแกล้งทำด้วยใบหน้าอ่อนโยนประดับรอยยิ้มอาบยาพิษ เป็นนางร้ายที่มีมี่สอนสั่งว่าเป็นมารดาของนางร้ายทั้งปวง

        หากจะมีสิ่งใดที่นางเสียดายเมื่อต้องกลับมา คือการต้องจากลากับสหายผู้นั้น แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นาน แต่มิตรภาพที่นางให้คือสิ่งที่จริงแท้

“หวังว่าข้าจะได้พบเจอเจ้าอีกครา มีมี่” ลี่เฟยพึมพำกับตนเอง

“คุณหนูว่าอย่างไรนะเจ้าคะ บ่าวได้ยินไม่ชัดเจนนัก” จูจูที่ยืนเฝ้าอยู่ริมห้องเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเจ้านายตนบอกกล่าวบางอย่าง

“ไม่มีอันใด ข้าบอกว่าข้าจะนอนแล้ว ดับตะเกียงได้ พรุ่งนี้เจ้าก็พักผ่อนเถอะ ถูกตีหลายครั้งเช่นนี้ควรหยุดงาน” ลี่เฟยส่ายหน้ายิ้มให้บ่าวคนสนิทที่ดื้อดึง ไม่ยอมไปพักผ่อนทั้งที่นางสั่งแกมบังคับไปหลายครา

“เจ้าค่ะ จูจูยินยอมแล้ว” 

“ดียิ่ง อืมที่ข้าสั่งไว้ อย่าลืมหาโอกาสไปจัดการ” ลี่เฟยย้ำกับบ่าว

“เมื่อเสร็จสิ้นแล้วบ่าวจะมารายงานเจ้าค่ะ” จูจูตอบพร้อมกับดับตะเกียงลงจนทั้งห้องมืดสนิท

        ลี่เฟยเข้านอนโดนไม่รู้เลยว่าบนต้นไม้ข้างเรือนมีชายผู้หนึ่งแฝงตัวมาลอบมองอยู่ องค์ชายหกที่ได้คำตอบว่าแม่นางน้อยผู้ยัดเงินตำลึงให้คู่กรณีของผู้อื่นเพื่อจบปัญหาเป็นใคร ก็ตามมาดูด้วยความสนใจ 

       เมื่อเห็นสายตาที่เสมือนแบกโลกไว้ทั้งใบก็ยิ่งดึงดูดให้ต้องอยู่ดูต่อจนเห็นว่าในเวลาเค่อหนึ่ง ไป๋ลี่เฟยผู้นี้พลิกสีหน้าไปแล้วเป็นร้อยๆ นั่นทำให้ความสงสัยเกิดขึ้นในใจของจ้าวโจวเฉิงผู้เป็นองค์ชาย ‘แม่นางวัยสิบสองปีผู้มีหน้าตาจิ้มลิ้ม ทั้งยังเป็นบุตรีภรรยาเอกมีเรื่องมากมายอันใดให้ขบคิดกัน’

       หลังจากที่เห็นว่าตะเกียงภายในห้องนอนถูกดับลงแล้ว ก็พยักหน้ากับองครักษ์ให้ออกจากจวนท่านเจ้ากรมไป๋ในทันที

.

.

.

       เช้าตรู่วันถัดมามีสารจากจวนองค์ชายสามมาส่งที่จวนไป๋ว่าจะเข้ามาพบในยามซื่อ ดั่งที่เกิดขึ้นในชาติเก่าไม่มีผิดเพี้ยน

        ไป๋ลี่เฟยเลือกใส่อาภรณ์สีม่วงซึ่งเป็นสีที่องค์ชายผู้นี้ไม่ชมชอบ แต่ในชาตินี้นางจะไม่ปรับเปลี่ยน เพื่อความชอบของคนชั่วช้าผู้นี้อีก หากนางชอบนางก็จะใส่ 

หากเจ้าทนมองไม่ได้ก็ควักลูกตาออกมาเสีย นี่ไม่ใช่ปัญหาอันใดของข้า

       เมื่อประโคมจนทั้งกายจนเต็มไปด้วยสีม่วงในทุกส่วนลี่เฟยก็พึงพอใจ และออกไปพบองค์ชายสามที่นั่งรออยู่ในศาลาริมสวน 

       จ้าวหลินไฉ่ไม่ได้ทำให้นางผิดหวังอันใด เมื่อหันมาเห็นว่าอาภรณ์ของนางเป็นสีที่ตนไม่ชมชอบก็แสดงสีหน้าซับซ้อนยากจะอ่านความออกมา แต่ตัวลี่เฟยที่หัดตีความความรู้สึกของคนผู้นี้มาถึงหกปีเต็มรู้ดีว่าใบหน้าเช่นนี้หมายความว่ากำลังขุ่นเคือง

“ถวายพระพรองค์ชายสามเพคะ” ลี่เฟยย่อกายลงทำความเคารพอย่างจำใจ แม้ใบหน้าจะประดับรอยยิ้มแต่ภายในใจต้องการกระชากตัวคนตรงหน้ามากระทืบให้ตายแทบเท้าตนไปเสีย

“ตามสบายแล้วมานั่งเถอะ เสด็จแม่มู่กุ้ยเฟยสั่งให้ข้านำของขวัญมาแสดงความยินดีกับผลวัดระดับของเจ้า” หลินไฉ่ผายมือเชิญให้ลี่เฟยนั่งลง

        ลี่เฟยที่อยากจะกลอกตาต้องสะกดอาการของตนไว้แล้วยิ้มแย้มดังเดิม “ท่านป้าใส่ใจเช่นนี้เสมอ”

“แค่ระดับทั่วไป ไม่รู้ว่าจะให้ข้าเร่งเอาของขวัญมาให้เจ้าไปเพื่ออันใดกัน” องค์ชายสามพูดออกมาด้วยท่าทีเบื่อหน่ายเต็มทน

       สิ่งที่เห็นทำให้ไป๋ลี่เฟยอยากจะหัวเราะร่าออกมาดังๆ คือชายผู้นี้ติดอยู่ระดับเขียวขั้นต่ำมาสองปีเต็มมีสิทธิ์อันใดมาดูแคลนตัวนางที่เริ่มต้นด้วยระดับเขียวขั้นกลางแต่แรกกัน ท่าทีช่างแตกต่างจากชาติเดิมจนทำให้ประหลาดใจแล้ว เมื่อไม่เห็นประโยชน์ก็ถากถางแสดงอาการไม่ชมชอบอย่างตรงไปตรงมาทันที

ดียิ่ง อายุมากกว่าข้าถึงสี่ปี แต่กลับมานั่งจิกกัดแม่นางน้อยที่ไม่เคยไปทำอันใดให้

“หม่อมฉันทำสิ่งใดให้องค์ชายไม่พอใจหรือไม่เพคะ” ลี่เฟยเอียงคอถามแกล้งทำสีหน้าโง่เขลา บีบให้ตาฉ่ำน้ำดูน่าเห็นใจ

        องค์ชายสามไม่ได้ตอบอันใดออกมา เกรงว่าจะทำให้แม่นางน้อยตรงหน้าหลั่งน้ำตาออกมาจริงๆ เพราะสำหรับตัวเขาแค่นางเกิดมาเป็นหญิง ทำให้ต้องกลายมาเป็นคู่หมายของตน โดยที่เข้าไม่มีสิทธิ์เลือกเช่นนี้ ก็ทำให้มีความผิดในสายตาองค์ชายผู้เอาแต่ใจแล้ว 

       ยามที่มีอายุได้สี่หนาวถูกมารดาบังคับว่าต้องรักและดูแลทารกหน้าตาน่าเกลียดผู้หนึ่ง ต่อมาไม่นานก็ต้องยกของเล่นชิ้นโปรดให้อย่างไม่เต็มใจ จึงตั้งแง่เกลียดชังมาโดยตลอด

       ความเงียบบังเกิดขึ้นอย่างน่าอึดอัด แต่ไป๋ลี่เฟยไม่คิดจะพยายามเติมเต็มความเงียบอย่างที่เคยอีก นางเพียงยกน้ำชาขึ้นจิบ และชิมขนมที่โรงครัวเตรียมไว้ ไม่ได้ทักท้วงเสียด้วยซ้ำว่าหลินไฉ่ยังมิได้นำของขวัญออกมามอบให้ ทำให้บรรยากาศอึดอัดยากเกินจะบรรยาย

“จูจูไปแจ้งโรงครัวให้นำขนมมาเพิ่มที” ลี่เฟยพูดไปเช่นนั้นเพื่อให้ในบริเวณนี้ไม่มีคนยืนใกล้ๆ ครู่หนึ่ง เพราะดูออกว่าหลินไฉ่อยากก่นด่าตนเต็มที

“เจ้านี่เหมือนสตรีทั่วไปไม่มีผิดเพี้ยน น่ารำคาญ” เมื่อจูจูไม่อยู่เป็นพยานหลินไฉ่ก็กล่าวอย่างที่ใจคิดออกมา

“ดียิ่ง” ลี่เฟยคลี่ยิ้มเต็มใบหน้า ไม่มีท่าทีเสียใจแม้แต่น้อย ในใจกำลังขบขับที่หลินไฉ่ดูตกใจที่นางแสดงออกเช่นนี้

“ข้าด่าว่าเจ้าน่ารำคาญ เสียสติไปแล้วหรือไร”

        ไป๋ลี่เฟยไม่ตอบโต้ออกไป นางเพียงแค่จิบน้ำชาและกินขนมอย่างคนไม่ทุกข์ร้อน อีกไม่เกินเค่อหนึ่ง ซินหยานจะวิ่งทั้งน้ำตาผ่านมาทางนี้ ชาติก่อนนางไม่ได้สังเกตสีหน้าของจ้าวหลินไฉ่ยามพบเจอน้องรอง มัวแต่กังวลว่าจะทำให้องค์ชายผู้นี้ชมชอบตนได้อย่างไร จะหาเรื่องใดมาพูดคุยจึงจะไม่กระอักกระอ่วน แต่เมื่อไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นแล้วจึงคิดว่าจะลอบมองเสียให้รู้แจ้ง

        หากช่างสังเกตกว่านี้นางอาจรู้ตัวเร็ว และไม่ตกเป็นเครื่องมือให้ใครใช้เพื่อผลักดันตนเองไปข้างหน้า แต่ครานี้หากคนอื่นจะถูกใช้เป็นเครื่องมือจัดการหลินไฉ่บ้าง ลี่เฟยก็ยินดีทดลองทำ

โอ๊ะ! มานั้นแล้ว 

_______

ยามซื่อ หมายถึงเวลา 09:00 - 10:59น.

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 5 พบหน้าคู่หมาย

    บทที่ 5 พบหน้าคู่หมาย หลังเรื่องว้าวุ่นในวันนี้จบลงไป๋ลี่เฟยนั่งรับลมราตรีที่หอบเอากลืนหอมสะอาดบางเบาของเหล่าบุปผาในสวนข้างเรือนมาหมุนวนรอบกายบาง เรือนนอนของคุณหนูใหญ่ผู้นี้ถูกประดับตกแต่งอย่างหรูหรา ทั้งยังเป็นเรือนส่วนตัวแยกจากมารดา ไป๋ลี่เฟยถูกเอาออกเอาใจเป็นพิเศษเพราะถูกวางตัวเป็นชายาขององค์ชายตั้งแต่คลอดออกมาได้ไม่กี่ชั่วยาม มารดาของนางและมู่กุ้ยเฟยเป็นสหายสนิทกันมาตั้งแต่เกิด จึงคิดให้บุตรชายบุตรสาวได้ดองเป็นครอบครัว ไป๋ลี่เฟยแค่นยิ้มบางๆ วันพรุ่งนี้แล้วที่นางต้องได้พบจ้าวหลินไฉ่อีกครั้ง ครานี้บทนางรองผู้สนับสนุนและปักใจจะส่งเสริมว่าที่สามีจะไม่ใช่ตัวนางที่เป็นผู้รับ ลี่เฟยจะเป็นนางร้ายผู้ไม่ส่งเสียง วางแผนทำลายอยู่เบื้องหลัง แสแสร้งแกล้งทำด้วยใบหน้าอ่อนโยนประดับรอยยิ้มอาบยาพิษ เป็นนางร้ายที่มีมี่สอนสั่งว่าเป็นมารดาของนางร้ายทั้งปวง หากจะมีสิ่งใดที่นางเสียดายเมื่อต้องกลับมา คือการต้องจากลากับสหายผู้นั้น แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นาน แต่มิตรภาพที่นางให้คือสิ่งที่จริงแท้“หวังว่าข้าจะได้พบเจอเจ้าอีกครา มีมี่” ลี่เฟยพึมพำกับตนเอง“คุณหนูว่าอย่างไรนะเจ้าคะ บ

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 4 ขโมยวาสนา

    บทที่ 4 ขโมยวาสนา บรรยากาศความวุ่นวายถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง สายตามาดมั่นขัดกับใบหน้าอ่อนเยาว์ดูเป็นแม่นางน้อยไม่ประสาของเจ้าตัว ตกอยู่ภายใต้สายตาคู่หนึ่งที่เพ่งพินิจดู และก้าวย่างตามมาอย่างใคร่รู้ ไป๋ลี่เฟยที่เดินลัดมายังประตูเก่าที่ถูกปิดการใช้งานไปแล้วของสำนักศึกษาหลวง นางลอดออกไปยังตรอกที่เป็นทางเชื่อมกับตลาด ทว่าเมื่ออยู่ในตรอกที่เงียบสงัด เสียงฝีเท้าที่คราแรกปัดไปว่าเป็นเสียงของคนในสำนัก ก็ยังคงดังก้องต่อเนื่อง เมื่อหันไปก็พบกับอาจารย์ผู้หนึ่งที่ยืนยิ้มแย้มรออยู่ก่อนแล้ว “หากไม่รู้ตัวไปนานกว่านี้ ข้าคงผิดหวังแล้ว” ชายวัยกลางคนผู้นั้นเผยรอยยิ้มคล้ายเอ็นดูลูกหลาน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นจูจูก็นำตัวไปขวางระหว่างชายในอาภรณ์สีเขียวอ่อนและคุณหนูของตนไว้ ผู้ที่เดินตามมาคือ ‘อาจารย์โฉ่โม่จิน’ ผู้ที่นางกราบกรานเป็นหนึ่งในศิษย์เอกเมื่อภพที่แล้ว แต่ยามนี้ลี่เฟยเป็นเพียงเด็กหญิงคนหนึ่งที่ยังไม่มีความโดดเด่นใดให้อยากรับเป็นศิษย์ คุณหนูไป๋จึงสับสนว่าเหตุใดอาจารย์โม่จึงลอบติดตามมา“ลี่เฟยไม่คิดว่าจะมีผู้ใดสนใจติดตามแม่นางน้อยผู้หนึ่งมาเช่นนี้ จึงไม่ได้ระวังตัว” นางตอบไปเพี

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 3 ทดสอบพลัง

    บทที่ 3 ทดสอบพลัง ดวงตาดอกท้อเบิกโพลง สะดุ้งตัวขึ้นมานั่ง ร่างเล็กของไป๋ลี่เฟยหอบหายใจอยู่บนเตียงกว้าง เหงื่อเย็นผุดขึ้นตามกรอบหน้า นางก้มลงมองร่างของตนเอง ควานหาคันฉ่องเล็กที่มักเก็บไว้ข้างหมอนยังไม่ตายจริงด้วย! เมื่อตั้งสติไปประมาณหนึ่งไป๋ลี่เฟยจึงเริ่มสูดหายใจเข้าออกยาวๆ เพื่อให้ใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะนี้สงบลง ยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อที่กรอบหน้าก็ต้องตกใจอีกครั้ง เพราะยามที่ลากมือผ่านหน้าผากมีแสงสีม่วงลวดวายดั่งไม้ใหญ่ที่เคยพบเมื่อครั้งแรกที่ไปยังภพประหลาดนั้นแปลว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง แล้วข้ากลับมาที่ช่วงเวลาใดกัน…ใบหน้าเช่นนี้คงไม่เกินสิบสามปีเป็นแน่ ไม่นานเกินรอบ่าวประจำตัวที่ได้ยินเสียงนางขยับเขยื้อนก็ยกน้ำเข้ามาเตรียมรอให้ไป๋ลี่เฟยล้างหน้าบ้วนปาก“คุณหนูตื่นเร็วนัก วันนี้ต้องไปวัดระดับพลัง เหตุใดจึงไม่นอนเอาแรงอีกเสียหน่อยเจ้าคะ” จูจูข้ารับใช้คนสนิทเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ส่งให้ลี่เฟยรู้ว่ายามนี้นางมีอายุสิบสองปี“อาจเป็นเพราะข้าตื่นเต้นเกินไป เป็นสตรีชั้นสูงพลังไม่มากก็ไม่เป็นอันใดหรอกจูจู” คุณหนูไป๋ภายนอกดูพูดจาเจือความขบขัน แต่ภายในใจนั้นกำลังนึกถึงซินหย

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 2 หลีกหนีไม่ได้แล้ว

    บทที่ 2 หลีกหนีไม่ได้แล้ว ไป๋ลี่เฟยอยู่วนเวียนในห้องน้องสาวผู้ยังไม่ตายของมีมี่ จนเอ็นดูหลานของมีมี่ดั่งว่าเป็นลูกหลานของตนไปด้วยเสียแล้ว คนในบ้านหลังนี้ หากไม่นั่งดูอะไรร่วมกันในจอใหญ่ก็จะดูให้จอเล็กที่ใช้ทำอะไรได้มากมายนัก บางคราแม่นางน้อยลูกของน้องสาวมีมี่ก็ใช้ทำแบบฝึกหัดที่อาจารย์จากสำนักศึกษาของนางสอนสั่งระหว่างรอมาดูเรื่องราวของนาง ที่ตอนนี้แล่นมาถึงโค้งสุดท้าย“ไป๋ลี่เฟย หากวันนี้มีอะไรไม่ถูกใจเธออีก เธอห้ามทำให้ไฟดับนะ” มีมี่เดินเข้ามาหาลี่เฟยที่นั่งเหม่อลอยรอเวลา“ข้าไม่เคยรู้เลยว่าองค์ชายสามรักน้องรองถึงเพียงนั้น หากข้ารู้มาก่อนย่อมยินดีหลบทางให้ก่อนที่จะได้หมั้นหมายกันเป็นทางการ” ลี่เฟยยิ้มบางตอบในตอนล่าสุดองค์ชายสามไปลาซินหยานเพื่อไปยังสุสานของจักรพรรดิหูหลงฉางกับตัวนาง การจากลาที่หวานซึ้งไม่ได้ทำร้ายน้ำใจให้นางรู้สึกเจ็บปวดดั่งคนอกหักปางตาย แต่ลี่เฟยรู้สึกเสียหน้าจนเกินกว่าจะให้อภัย ความเจ็บปวดเรื่องความรักสำหรับนางไม่เท่าการไม่ให้เกียรติกันเช่นนี้“ข้าทุ่มเทมากมายถึงเพียงนี้ ยอมเสี่ยงตายไปหุบเขานั้นเพื่อความฝันขององค์ชาย หาทุกวิถีทางให้เส้นทางการขึ้นเป็นรัช

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 1 นั่นมันเรื่องราวของข้า?!

    บทที่ 1 นั่นมันเรื่องราวของข้า?!“มีมี่ข้าเข้าไปได้แน่หรือ” ไป๋ลี่เฟยฉงนอยู่หน้าประห้องน้องสาวของมีมี่สหายในโลกวิญญาณผู้นี้ คราแรกนางเข้าใจว่าทั้งตึกเป็นจวนประจำสกุลของผีสาวนางนี้ แต่เมื่อรู้ว่าคนในยุคสมัยนี้อยู่ในห้องกันเสียส่วนมากก็ตกใจไม่น้อย“เข้าได้สิ เจ้าที่แถวนี้น่ะไม่มีพลังขนาดนั้นแล้ว กันเราเข้าไปไม่ได้หรอก” มีมี่ทะลุประตูเข้าไปโดยที่ฉุดไป๋ลี่เฟยตามเข้าไปด้วย“เห็นไหมว่าเข้าได้” มีมี่ยักคิ้ว“เหตุใดเจ้าที่ไม่มีพลัง” ไป๋ลี่เฟยยังยึดติดกับคำพูดก่อนหน้าอยู่จึงกล่าวถามเช่นนี้ออกไป“ก็ไม่มีใครสนใจจะบูชาอะไรแล้วน่ะสิ เหลือแค่ส่วนน้อยเท่านั้น มาเร็วเข้า กำลังเริ่มพอดี” มีมี่ที่เห็นน้องสาวของตนนั่งข้างหลานสาวตรงหน้าโทรทัศน์แล้วก็รีบเรียกให้มาทันที ไป๋ลี่เฟยก้าวตามไปหยุดตรงที่นั่งซึ่งมีมี่หันมาบอกว่าคือโซฟา แล้วก็นั่งลงเลียนแบบคนทั้งสอง และผียุคอนาคตของนางอีกหนึ่งตน ดวงตาจับจ้องไปที่กล่องสี่เหลี่ยมบางจนเกือบเป็นกระดาษอย่างไม่เข้าใจนัก “เหตุใดมีคนอยู่ในที่บางเช่นนั้นได้ ช่วยพวกเขาออกมาเร็วเข้า!” คุณหนูไป๋ตกใจสุดขีด แม้จะพบเรื่องประหลาดมากมาย แต่สิ่งที่เห็นอยู่นี้ทำให้นางไม่เข้า

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทนำ วิชาถนอมวิญญาณ

    โปรยเนื้อหา‘เป็นคนดีไปก็ไม่มีใครรัก ทุ่มเทเท่าไหร่สุดท้ายไอ้พระเอกก็ทิ้งข้าไปรักกับแม่นางเอกที่ไม่เคยทุ่มเทอันใดให้ เช่นนั้นก็ร้ายแทนแล้วกัน!’ ไป๋ลี่เฟยดื่มยาพิษเพื่อช่วยเหลือชายผู้เป็นที่รักไว้ เกิดวิญญาณหลุดลอยไปเห็นว่าเรื่องราวของนาง(?) ถูกบอกเล่าอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมน่าประหลาด แล้วดูนั่นเหตุใดจึงเลือกหญิงสาวหน้าตาจืดจางเช่นนั้น มาแทนตัวไป๋ลี่เฟยสาวที่นับว่าน่ารักน่าเอ็นดูงดงามเป็นหนึ่งในสี่ของเมืองหลวงกัน?! ยังกรุ่นโกรธได้ไม่เต็มที่กล่องนั้นก็ฉายภาพเป็นเหตุการณ์ที่นางเสียสละตนเองดื่มพิษเจ็ดทวารสี่ทรมานพอดี ไป๋ลี่เฟยที่เป็นวิญญาณจึงอยากตั้งใจดูว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นตามมา ลี่เฟยพบว่าการกระทำของนางไม่ถูกจารึกลงในหัวใจเขาเลย ต้องกลับกลายเป็นหญิงโง่งม เป็นสิ่งที่คน ณ ที่แห่งนี้รู้สึกเวทนาสงสาร “นี่ล่ะนะ นางรองน่าสงสารจริงๆ ทำไปเท่าไหร่ คนไม่รักเขาก็ไม่รักอยู่ดี” ลี่เฟยอดทนดูไปจนถึงตอนจบพวกเขาที่เป็นพระเอกนางเอกก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสม องค์ชายสามที่นางหลงรักเอาชนะหัวใจไป๋ซินหยานที่ผู้คนในที่แห่งนี้เรียกว่านางเอกมาเป็นฮองเฮาคู่บัลลังก์ได้ในที่สุด เมื่อทำดีแล้วไม่เห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status