เช้าที่แสนสดใสอากาศเย็นสดชื่น แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาในห้องทำให้หญิงสาวปรือตาและขยับตัวบิดขี้เกียจ ดาวประดับรีบลุกแล้วขยับไปมองคนที่นอนอยู่ข้างเตียงเมื่อคืน
“ไปไหนแต่เช้าเลย” หันมองนาฬิกาเพิ่งเจ็ดโมงเช้า อากาศดีแบบนี้น่านอนต่ออีกสักหน่อยแต่ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรา เขาจะหาว่านอนกินบ้านกินเมือง เธอไม่ใช่คนตื่นสาย ลุกลงไปตอนนี้เผื่อข้างล่างมีงานให้ทำ
หลังจากเก็บที่นอนและทำธุระส่วนตัวเสร็จดาวประดับก็เดินลงมาข้างล่างมองหาห้องครัวงานใหญ่ของเช้าวันนี้ทันที
เสียงเอะอะดังมาจากด้านหลัง น่าจะเป็นตรงนั้นเธอจึงก้าวเท้าเข้าไปมองดู
“อุ๊ย”
“ไม่นอนต่ออีกสักหน่อยหรือ” ตะวันเดินเข้ามาทางด้านหลังทำให้ร่างเล็กสะดุ้งโหยง
“ดาวลงมาหางานทำค่ะ ไม่อยากโดนว่า”
“ใครจะกล้าว่าเมียเจ้าของไร่ภูผาหมอกได้”
“ในครัวมีงานให้ดาวช่วยไหมคะ” สายตามุ่งไปยังครัวโดยไม่สนเลยว่าคนมาใหม่หอบเอาอะไรมาด้วยในมือ
“หันมาก่อนสิ”
“อะไรคะ”
“อะ ถือเป็นการต้อนรับเข้าบ้าน พี่ไม่รู้ว่าดาวจะชอบหรือเปล่า” รอยยิ้มเล็ก ๆ เริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าหญิงสาว เป็นรอยยิ้มแรกที่ทำให้ใจของตะวันเริ่มชื้นและมีชีวิตชีวาขึ้นมาในรอบหลายปี
“เอามาจากไหนคะ ที่นี่มีร้านดอกไม่ด้วยเหรอ”
“ร้านดอกไม้ไม่มีหรอก มีแต่สวนดอกไม้ใหญ่ๆ กว้างๆ อยากไปดูไหม” ดอกกุหลาบหลากสีถูกมัดรวมเป็นช่อถูกใจหญิงสาวเป็นอย่างมาก ดาวประดับชอบดอกไม้พวกนี้ เธอยื่นมือไปรับแล้วก้มหน้าใช้จมูกสูดดมความหอมและความสดชื่นเข้าปอด
“ดาวอยากเห็นค่ะ”
“จะเข้าครัวอยู่ไหม”
“ไปดูดอกไม้ก่อนค่ะ” ดาวประดับรักธรรมชาติ ชอบดอกไม้และอากาศบริสุทธิ์เมื่อก่อนไร่ภูผาหมอกเป็นไร่เล็ก ๆ มีพื้นที่เพียงนิดปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ปัจจุบันพื้นที่ของไร่ขยายใหญ่ออกไปหลายร้อยไร่ มีธุรกิจหลายอย่างภายในไร่ หนึ่งในนั้นคือสวนกุหลาบหลายสายพันธ์เพิ่งทดลองทำได้เพียงแค่ห้าเดือนเท่านั้น
ดาวประดับกระโดดขึ้นรถจิ๊บด้วยท่าทางทะมัดทะแมง จนตะวันเผลอยิ้ม ยังคงเป็นดาวประดับของเขาไม่เปลี่ยน
“ตรงนู้นคืออะไรคะ”
“ไร่ชา” ท่าทีสนอกสนใจนั่นอยู่ในสายตาของคนข้างๆ ตลอด
“พาดาวไปดูด้วยได้ไหมคะ”
“ได้สิ ดูสวนดอกไม้เสร็จแล้วจะพาไป” สายๆ ตะวันตั้งใจพาดาวประดับไปแนะนำกับคนงานที่เรือนกลางไร่
ดาวประดับตื่นตากับสวนดอกไม้ด้านหน้า ตะวันจึงแนะนำให้รู้จักกับผู้ดูแล เผื่อเธอต้องการอยากรู้รายละเอียดที่ลึกกว่าการเก็บเกี่ยว เขาตอบได้ไม่มากนักถ้าเรื่องทั่วไปก็พอได้เชิงลึกคงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญ
“นี่ลุงศักดิ์ เป็นผู้ดูแลที่นี่อยากรู้อะไรถามลุงศักดิ์ได้ทุกเรื่อง”
“สวัสดีค่ะ ดอกไม้ที่นี่สวยมาก ๆ เลย”
“นายมาแต่เช้าเลยนะครับ นี่ใครครับ แขกที่รีสอร์ทหรือครับ” ปกติจะมีแขกของรีสอร์ทเข้าชมสวนกุหลาบของที่ไร่ทุกวัน สมศักดิ์นึกแปลกใจทำไมวันนี้นายถึงพามาด้วยตัวเอง แขกวีไอพีก็ไม่เคยพามาหรือว่าจะเป็นอย่างคนงานลือกัน
“เมียฉันเอง นายหญิงของไร่ภูผาหมอก” เป็นอย่างที่คนงานในไร่เล่าลือกัน นายขับรถเข้าเมืองกรุงเพื่อไปรับเมียมาอยู่ที่นี่ สมศักดิ์ยิ้มดีใจและยกมือไหว้แทบไม่ทัน ดาวประดับยิ้มรับและรีบไหว้กลับไปอีกครั้ง
“ไม่ต้องไหว้หรอกค่ะ ดาวไม่อยากอายุสั้น”
“นายหญิงอยากรู้อะไรถามผมได้ทุกเรื่องเลยครับ” สมศักดิ์กระตือรือร้นอยากอธิบาย นอกจากนายก็คงจะเป็นนายหญิงนี่แหละที่อยากรู้ข้อมูลของสวนกุหลาบแห่งนี้
“อยากรู้ทุกเรื่องเลยค่ะ ดาวชอบดอกกุหลาบมาก ๆ เลย” สมศักดิ์หันมองนายใหญ่แล้วอมยิ้ม เจ้าของสวนตัวจริงคงไม่ใช่นายใหญ่อีกต่อไป
“ต้องกลับไปกินข้าวเช้าก่อน ฟังทุกเรื่องวันนี้คงไม่ได้ไปไหนกันพอดี”
“ผมอยู่ที่นี่ตลอด นายหญิงไม่ต้องรีบนะครับมีเวลาอยู่ที่นี่อีกทั้งชีวิต”
“เขาจะอยากอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้น่ะสิ” ตะวันพูดเย้า โดยที่หญิงสาวไม่ได้มีท่าทีสนใจเลยแม้แต่น้อย
“นายหญิงชอบกุหลาบมากเลยหรือครับ”
“ชอบค่ะ ดาวฝันว่าอยากมีสวนดอกกุหลาบเป็นของตัวเอง แต่ก็ได้แค่คิดเพราะที่บ้านทำธุรกิจ” เหมือนฝัน ดาวประดับเดินชมดอกไม้ในสวนโดยไม่สนใจคนพามาเลยสักนิด ลืมไปเลยว่าใส่กางเกงสั้นเดินเฉี่ยวหนามกุหลาบจนทำให้เรียวขาขาวมีรอยเลือดซิบ
“ทำไมไม่ระวัง”
“แค่นิดหน่อยเองค่ะ” ใครว่านิดหน่อย ในใจตะวันนึกอยากกระชากกุหลาบต้นนั้นถอนรากให้ตายเสีย
“กลับบ้านก่อน สัญญาว่าจะพาออกมาอีก ดูสิใส่ขาสั้นแบบนี้จะเข้าสวนได้อย่างไร”
“ดาวไม่มีชุดเข้าสวนเลยนี่คะ ถึงถามไงว่าจะออกไปซื้อของต้องทำยังไง” ตะวันรู้ว่าดาวประดับไม่ใช่ผู้หญิงเรื่องมาก เธอมีเหตุผลเสมอ แม้ความจำเสื่อมเธอก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
หญิงสาวยอมกลับบ้านตามที่ตะวันขอ กว่าจะยอมก็เล่นจนเหนื่อย แวะตลอดทางอยากรู้อยากเห็นทุกอย่าง พอถึงบ้านสิ่งแรกที่ทำคือวิ่งเข้าครัว
“หิวจังเลยมีอะไรกินบ้างคะ” ลืมตัวไปว่าที่นี่ไม่ใช่บ้าน แต่แม่บ้านในครัวกับยิ้มต้อนรับและส่งสายตาเอ็นดูมาให้นายหญิงคนใหม่
เยาวภาเห็นตั้งแต่มายืนชะเง้อมองหน้าครัว ถ้าไม่เห็นนายโผล่เข้ามาก็ว่าจะเดินมารับ
“สายป่านนี้แล้วทำไมเพิ่งพากันมากินข้าวเช้าล่ะคะ นายพาเมียไปไหนมา”
“ต้องถามคนนี้มากกว่าครับ ลากผมไปทั่วเลย” ดาวประดับค้อนใส่ เธอไม่ได้ทำขนาดนั้นสักหน่อย กลิ่นหอมของอาหารเช้าทำให้ท้องน้อย ๆ ร้องประท้วงเสียงดังจนถูกจับได้
“หิวแล้วใช่ไหมคะ มานั่งเลยค่ะ”
“ฝากด้วยนะป้าภา”
“พี่ตะวันจะไปไหน ทำไมไม่กินด้วยกัน”
“รายนั้นกินแค่กาแฟดำค่ะ”
“ไม่ได้นะคะ กินแค่นั้นได้ที่ไหน มานั่งเดี๋ยวนี้เลยห้ามหนีไปไหนถ้ายังไม่ยอมกินข้าวเช้า” เยาวภาได้ยินแบบนั้นก็รีบจัดจานเพิ่มอีกหนึ่งชุด
“จัดการเลยค่ะนายหญิง ข้าวเช้าไม่ยอมกิน ทำงานหนักแต่ไม่หาอะไรลงท้องป้าเตือนก็ไม่ยอมฟัง”
“พอเลยป้าภา” เยาวภาคือแม่บ้านและแม่ครัวใหญ่ของที่นี่ มีหน้าที่เตรียมอาหารและสั่งงานเด็ก ๆ ดูแลบ้านให้นายใหญ่ ตะวันรักและเคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่ เรื่องดื้อรั้นเยาวภาไม่สู้จริง ๆ ได้เมียมาคราวนี้หล่อนคงเบาใจขึ้นมาก แค่สั่งให้กินมื้อเช้านายใหญ่ก็รีบเดินมานั่งเก้าอี้ นี่หรือเปล่าที่เขาว่ารักมากจนไม่อยากขัดใจ
“ดาวไม่ชอบบังคับใคร ถ้าพี่ตะวันเห็นว่าสิ่งที่ดาวบอกให้ทำ ไม่ดีหรือว่าก้าวก่ายพี่ตะวันมากเกินไป จะไม่ทำตามก็ได้นะคะ”
“บ่นเก่งนะเรา ป้าภาว่าไงครับ เมียผมคนนี้ปากใช้ได้ไหม”
“ลูกดกหัวปีท้ายปีเลยละนาย”
“ได้ยินหรือยัง บ่นบ่อย ๆ แบบนี้ระวังตัวไว้นะ” คนแก่ก้นครัวรีบตักข้าวให้เจ้านายทั้งสองแล้วเดินเลี่ยงออกไป เช้านี้นายใหญ่รับมื้อเช้า ร้อยวันพันปีเคยสั่งให้ทำกับข้าวที่ไหน มีนายหญิงมาอยู่ก็ดีเหมือนกัน บ้านจะได้ไม่เหงา นายใหญ่จะได้ยิ้มบ่อย ๆ อีกหน่อยคงจะมีคุณหนูตัวเล็ก ๆ วิ่งเต็มบ้านทำให้คนแก่ไม่เหงา
“ผู้ชายพวกนั้นใช้เงินแต่ไม่ให้คำว่ารักเหมือนพี่ตะวัน”“คำว่ารักของพี่ไม่ได้หวือหวา มีแต่ความจริงใจ วันนี้ดาวอาจจะยังไม่รู้สึก พี่อยากขอเวลา ให้พี่ได้ทำสิ่งที่อยากทำให้ดาวได้ไหม”“ดาวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนรถคว่ำ ดาวจำอะไรไม่ได้เลย แม้กระทั่งชื่อตัวเอง พ่อเล่าให้ฟังว่าดาวช็อกมาก ตื่นมาก็เอาแต่กรี๊ดแล้วก็ซึมไปตั้งหลายวันกว่าจะยอมคุยกับหมอ”ตะวันจำวันนั้นได้ดีและไม่มีวันลืม“ดาว ดาว ฟื้นสิครับดาว” สองมือของชายหนุ่มประคองร่างของแฟนสาวขึ้นมาจากพื้นถนน ของเหลวสีแดงไหลออกจากร่างกายเธอจนเขาตกใจ กลิ่นคาวคละคลุ้งทำให้ตกอยู่ในความกลัว อุบัติเหตุชนแล้วหนีครั้งนั้นทำให้ดาวประดับสูญเสียความทรงจำที่มีเขาไปตลอดกาลตะวันเหมือนคนบ้าโดนขัดขวางไม่ให้เข้าเยี่ยม ถูกเจ้าสัวดิลกสั่งห้ามติดต่อกับดาวประดับมาตลอด พอรู้ว่าเธอสูญเสียความทรงจำยิ่งทำให้เขาหมดแรงสู้ต่อ ผู้ชายที่มีแต่ตัวและหัวใจไม่มีผู้ใหญ่คนไหนอยากยกลูกสาวให้ดูแลตะวันมีแค่ไร่เล็ก ๆ ที่เป็นมรดกตกทอดจากพ่อแม่ ไม่เด่นพอที่จะทำให้มีโอกาสคว้าดาวประดับมาครอบครองผู้มีอิทธิพลอย่างเจ้าสัวดิลกสามารถทำได้ทุกอย่างดาวประดับถูกส่งไปอยู่เมืองนอกเมื่อหายดี ไม่ม
“ดาวไม่ชอบเด็ก”“แต่พี่ชอบ เด็กขี้บ่นยิ่งชอบ”ณ เรือนกลางไร่ช่วงบ่ายของวัน คนงานนับร้อยมารวมตัวกันเพื่อรอชื่นชมนายหญิงของนายตะวัน นับเป็นข่าวดีและเรื่องน่าตื่นเต้นของคนงาน ทุกคนรู้ว่านายใหญ่ทุ่มเทเรื่องงานมากกว่าการหาคู่ ไม่คิดว่าอยู่ ๆ ไร่ภูผาหมอกจะมีนายหญิงขึ้นมาอยู่เคียงข้างนายใหญ่ ทุกคนดีใจ และยินดีต้อนรับ“นี่ดาวประดับนายหญิงของไร่ ขอบใจทุกคนมากที่มาในวันนี้” เสียงฮือฮาของคนงานดังขึ้นเป็นระยะ ส่วนมากเป็นเสียงชื่นชมความสวยของเมียนายใหญ่ ไม่อยากเชื่อว่านายใหญ่จะมีเมียสวยขนาดนี้ วันๆ เอาแต่ขลุกอยู่กับงาน ตากแดดตากลมจนผิวคล้ำแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเอง“ยินด้วยนะนาย”“ขอบใจมาก ทุกคนเลยนะ” ดาวประดับยืนมองภาพคนงานและเจ้านายที่ดูสนิทสนมกันเหมือนเครือญาติ ทุกคนส่งรอยยิ้มให้เธอ รู้สึกได้ถึงมิตรภาพและความจริงใจ เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นทุกคนก็แยกย้ายไปทำงานดาวประดับยังไม่อยากกลับบ้าน งานในไร่นี้น่าสนใจ ทำให้เธอกระตือรือร้นอยากเรียนรู้มากกว่านั่งเก้าอี้บริหารเสียอีก ตะวันมีเรื่องที่ต้องจัดการเลยอยากให้เธอกลับไปรอที่บ้านก่อน อยู่ ๆ ฝนก็ตั้งเค้ามาเกรงว่าถ้าให้ตามไปด้วยจะตากฝนไม่สบายเสียเปล่าๆ“ดาวอย
เช้าที่แสนสดใสอากาศเย็นสดชื่น แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาในห้องทำให้หญิงสาวปรือตาและขยับตัวบิดขี้เกียจ ดาวประดับรีบลุกแล้วขยับไปมองคนที่นอนอยู่ข้างเตียงเมื่อคืน“ไปไหนแต่เช้าเลย” หันมองนาฬิกาเพิ่งเจ็ดโมงเช้า อากาศดีแบบนี้น่านอนต่ออีกสักหน่อยแต่ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรา เขาจะหาว่านอนกินบ้านกินเมือง เธอไม่ใช่คนตื่นสาย ลุกลงไปตอนนี้เผื่อข้างล่างมีงานให้ทำหลังจากเก็บที่นอนและทำธุระส่วนตัวเสร็จดาวประดับก็เดินลงมาข้างล่างมองหาห้องครัวงานใหญ่ของเช้าวันนี้ทันทีเสียงเอะอะดังมาจากด้านหลัง น่าจะเป็นตรงนั้นเธอจึงก้าวเท้าเข้าไปมองดู“อุ๊ย”“ไม่นอนต่ออีกสักหน่อยหรือ” ตะวันเดินเข้ามาทางด้านหลังทำให้ร่างเล็กสะดุ้งโหยง“ดาวลงมาหางานทำค่ะ ไม่อยากโดนว่า”“ใครจะกล้าว่าเมียเจ้าของไร่ภูผาหมอกได้”“ในครัวมีงานให้ดาวช่วยไหมคะ” สายตามุ่งไปยังครัวโดยไม่สนเลยว่าคนมาใหม่หอบเอาอะไรมาด้วยในมือ“หันมาก่อนสิ”“อะไรคะ”“อะ ถือเป็นการต้อนรับเข้าบ้าน พี่ไม่รู้ว่าดาวจะชอบหรือเปล่า” รอยยิ้มเล็ก ๆ เริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าหญิงสาว เป็นรอยยิ้มแรกที่ทำให้ใจของตะวันเริ่มชื้นและมีชีวิตชีวาขึ้นมาในรอบหลายปี“เอามาจากไหนคะ ที่นี่มีร้านดอกไ
ชีวิตของเธอนับจากนี้จะเปลี่ยนไปตลอดกาล ดาวประดับหิ้วกระเป๋าออกจากบ้านหลังใหญ่เพื่อมาทำหน้าที่ภรรยาให้เจ้าของไร่ภูผาหมอกและว่าที่สามีก็ลงทุนขับรถมารับเธอถึงกรุงเทพด้วยตัวเองตะวัน เจ้าของร่างสูงผิวสีแทนคล้ำแดดคือเจ้าของไร่ภูผาหมอก เขาทำหน้าที่ขับรถด้วยความใจเย็น แวะปั๊มทุก ๆ สองชั่วโมงเพื่อให้คนข้างๆ เข้าห้องน้ำ แม้เธอไม่เอ่ยปากเขาก็เข้าใจ ไม่มีใครอดทนนั่งรถนาน ๆ ได้หรอก หรือไม่อาจมี ดาวประดับคนนี้ไง โตเป็นสาวดูขาวขึ้นเยอะ ปากนิดจมูกหน่อย เสียดายไม่ช่างพูดช่างเจรจาเหมือนเมื่อก่อน คงเป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน“อยากแวะซื้อของก่อนไหม พี่จะพาแวะห้างในเมือง”“ไม่เป็นไรค่ะ” เจ้าของไร่พยักหน้าแล้วเร่งความเร็วเพราะใช้เวลาทำธุระที่อำเภอเสียนานดีที่ยังไม่ค่ำมืดเสียก่อนทางเข้าไร่ก็เพิ่งจะลงคอนกรีตเสร็จข้างเดียวขืนชักช้าเกรงว่าฝนหลงฤดูจะเทลงมาทำให้การเดินทางล่าช้ามากกว่าเดิมยังไม่ทันไรฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยเมฆฝน ตะวันต้องใช้สมาธิและฝีมือการขับรถค่อนข้างมาก อาศัยความชำนาญพารถเจ็ดที่นั่งเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ระหว่างนั้นก็สังเกตคนข้าง ๆ อยู่ตลอดดาวประดับกำลังกลัว