LOGINเช้าที่แสนสดใสอากาศเย็นสดชื่น แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาในห้องทำให้หญิงสาวปรือตาและขยับตัวบิดขี้เกียจ ดาวประดับรีบลุกแล้วขยับไปมองคนที่นอนอยู่ข้างเตียงเมื่อคืน
“ไปไหนแต่เช้าเลย” หันมองนาฬิกาเพิ่งเจ็ดโมงเช้า อากาศดีแบบนี้น่านอนต่ออีกสักหน่อยแต่ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรา เขาจะหาว่านอนกินบ้านกินเมือง เธอไม่ใช่คนตื่นสาย ลุกลงไปตอนนี้เผื่อข้างล่างมีงานให้ทำ
หลังจากเก็บที่นอนและทำธุระส่วนตัวเสร็จดาวประดับก็เดินลงมาข้างล่างมองหาห้องครัวงานใหญ่ของเช้าวันนี้ทันที
เสียงเอะอะดังมาจากด้านหลัง น่าจะเป็นตรงนั้นเธอจึงก้าวเท้าเข้าไปมองดู
“อุ๊ย”
“ไม่นอนต่ออีกสักหน่อยหรือ” ตะวันเดินเข้ามาทางด้านหลังทำให้ร่างเล็กสะดุ้งโหยง
“ดาวลงมาหางานทำค่ะ ไม่อยากโดนว่า”
“ใครจะกล้าว่าเมียเจ้าของไร่ภูผาหมอกได้”
“ในครัวมีงานให้ดาวช่วยไหมคะ” สายตามุ่งไปยังครัวโดยไม่สนเลยว่าคนมาใหม่หอบเอาอะไรมาด้วยในมือ
“หันมาก่อนสิ”
“อะไรคะ”
“อะ ถือเป็นการต้อนรับเข้าบ้าน พี่ไม่รู้ว่าดาวจะชอบหรือเปล่า” รอยยิ้มเล็ก ๆ เริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าหญิงสาว เป็นรอยยิ้มแรกที่ทำให้ใจของตะวันเริ่มชื้นและมีชีวิตชีวาขึ้นมาในรอบหลายปี
“เอามาจากไหนคะ ที่นี่มีร้านดอกไม่ด้วยเหรอ”
“ร้านดอกไม้ไม่มีหรอก มีแต่สวนดอกไม้ใหญ่ๆ กว้างๆ อยากไปดูไหม” ดอกกุหลาบหลากสีถูกมัดรวมเป็นช่อถูกใจหญิงสาวเป็นอย่างมาก ดาวประดับชอบดอกไม้พวกนี้ เธอยื่นมือไปรับแล้วก้มหน้าใช้จมูกสูดดมความหอมและความสดชื่นเข้าปอด
“ดาวอยากเห็นค่ะ”
“จะเข้าครัวอยู่ไหม”
“ไปดูดอกไม้ก่อนค่ะ” ดาวประดับรักธรรมชาติ ชอบดอกไม้และอากาศบริสุทธิ์เมื่อก่อนไร่ภูผาหมอกเป็นไร่เล็ก ๆ มีพื้นที่เพียงนิดปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ปัจจุบันพื้นที่ของไร่ขยายใหญ่ออกไปหลายร้อยไร่ มีธุรกิจหลายอย่างภายในไร่ หนึ่งในนั้นคือสวนกุหลาบหลายสายพันธ์เพิ่งทดลองทำได้เพียงแค่ห้าเดือนเท่านั้น
ดาวประดับกระโดดขึ้นรถจิ๊บด้วยท่าทางทะมัดทะแมง จนตะวันเผลอยิ้ม ยังคงเป็นดาวประดับของเขาไม่เปลี่ยน
“ตรงนู้นคืออะไรคะ”
“ไร่ชา” ท่าทีสนอกสนใจนั่นอยู่ในสายตาของคนข้างๆ ตลอด
“พาดาวไปดูด้วยได้ไหมคะ”
“ได้สิ ดูสวนดอกไม้เสร็จแล้วจะพาไป” สายๆ ตะวันตั้งใจพาดาวประดับไปแนะนำกับคนงานที่เรือนกลางไร่
ดาวประดับตื่นตากับสวนดอกไม้ด้านหน้า ตะวันจึงแนะนำให้รู้จักกับผู้ดูแล เผื่อเธอต้องการอยากรู้รายละเอียดที่ลึกกว่าการเก็บเกี่ยว เขาตอบได้ไม่มากนักถ้าเรื่องทั่วไปก็พอได้เชิงลึกคงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญ
“นี่ลุงศักดิ์ เป็นผู้ดูแลที่นี่อยากรู้อะไรถามลุงศักดิ์ได้ทุกเรื่อง”
“สวัสดีค่ะ ดอกไม้ที่นี่สวยมาก ๆ เลย”
“นายมาแต่เช้าเลยนะครับ นี่ใครครับ แขกที่รีสอร์ทหรือครับ” ปกติจะมีแขกของรีสอร์ทเข้าชมสวนกุหลาบของที่ไร่ทุกวัน สมศักดิ์นึกแปลกใจทำไมวันนี้นายถึงพามาด้วยตัวเอง แขกวีไอพีก็ไม่เคยพามาหรือว่าจะเป็นอย่างคนงานลือกัน
“เมียฉันเอง นายหญิงของไร่ภูผาหมอก” เป็นอย่างที่คนงานในไร่เล่าลือกัน นายขับรถเข้าเมืองกรุงเพื่อไปรับเมียมาอยู่ที่นี่ สมศักดิ์ยิ้มดีใจและยกมือไหว้แทบไม่ทัน ดาวประดับยิ้มรับและรีบไหว้กลับไปอีกครั้ง
“ไม่ต้องไหว้หรอกค่ะ ดาวไม่อยากอายุสั้น”
“นายหญิงอยากรู้อะไรถามผมได้ทุกเรื่องเลยครับ” สมศักดิ์กระตือรือร้นอยากอธิบาย นอกจากนายก็คงจะเป็นนายหญิงนี่แหละที่อยากรู้ข้อมูลของสวนกุหลาบแห่งนี้
“อยากรู้ทุกเรื่องเลยค่ะ ดาวชอบดอกกุหลาบมาก ๆ เลย” สมศักดิ์หันมองนายใหญ่แล้วอมยิ้ม เจ้าของสวนตัวจริงคงไม่ใช่นายใหญ่อีกต่อไป
“ต้องกลับไปกินข้าวเช้าก่อน ฟังทุกเรื่องวันนี้คงไม่ได้ไปไหนกันพอดี”
“ผมอยู่ที่นี่ตลอด นายหญิงไม่ต้องรีบนะครับมีเวลาอยู่ที่นี่อีกทั้งชีวิต”
“เขาจะอยากอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้น่ะสิ” ตะวันพูดเย้า โดยที่หญิงสาวไม่ได้มีท่าทีสนใจเลยแม้แต่น้อย
“นายหญิงชอบกุหลาบมากเลยหรือครับ”
“ชอบค่ะ ดาวฝันว่าอยากมีสวนดอกกุหลาบเป็นของตัวเอง แต่ก็ได้แค่คิดเพราะที่บ้านทำธุรกิจ” เหมือนฝัน ดาวประดับเดินชมดอกไม้ในสวนโดยไม่สนใจคนพามาเลยสักนิด ลืมไปเลยว่าใส่กางเกงสั้นเดินเฉี่ยวหนามกุหลาบจนทำให้เรียวขาขาวมีรอยเลือดซิบ
“ทำไมไม่ระวัง”
“แค่นิดหน่อยเองค่ะ” ใครว่านิดหน่อย ในใจตะวันนึกอยากกระชากกุหลาบต้นนั้นถอนรากให้ตายเสีย
“กลับบ้านก่อน สัญญาว่าจะพาออกมาอีก ดูสิใส่ขาสั้นแบบนี้จะเข้าสวนได้อย่างไร”
“ดาวไม่มีชุดเข้าสวนเลยนี่คะ ถึงถามไงว่าจะออกไปซื้อของต้องทำยังไง” ตะวันรู้ว่าดาวประดับไม่ใช่ผู้หญิงเรื่องมาก เธอมีเหตุผลเสมอ แม้ความจำเสื่อมเธอก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
หญิงสาวยอมกลับบ้านตามที่ตะวันขอ กว่าจะยอมก็เล่นจนเหนื่อย แวะตลอดทางอยากรู้อยากเห็นทุกอย่าง พอถึงบ้านสิ่งแรกที่ทำคือวิ่งเข้าครัว
“หิวจังเลยมีอะไรกินบ้างคะ” ลืมตัวไปว่าที่นี่ไม่ใช่บ้าน แต่แม่บ้านในครัวกับยิ้มต้อนรับและส่งสายตาเอ็นดูมาให้นายหญิงคนใหม่
เยาวภาเห็นตั้งแต่มายืนชะเง้อมองหน้าครัว ถ้าไม่เห็นนายโผล่เข้ามาก็ว่าจะเดินมารับ
“สายป่านนี้แล้วทำไมเพิ่งพากันมากินข้าวเช้าล่ะคะ นายพาเมียไปไหนมา”
“ต้องถามคนนี้มากกว่าครับ ลากผมไปทั่วเลย” ดาวประดับค้อนใส่ เธอไม่ได้ทำขนาดนั้นสักหน่อย กลิ่นหอมของอาหารเช้าทำให้ท้องน้อย ๆ ร้องประท้วงเสียงดังจนถูกจับได้
“หิวแล้วใช่ไหมคะ มานั่งเลยค่ะ”
“ฝากด้วยนะป้าภา”
“พี่ตะวันจะไปไหน ทำไมไม่กินด้วยกัน”
“รายนั้นกินแค่กาแฟดำค่ะ”
“ไม่ได้นะคะ กินแค่นั้นได้ที่ไหน มานั่งเดี๋ยวนี้เลยห้ามหนีไปไหนถ้ายังไม่ยอมกินข้าวเช้า” เยาวภาได้ยินแบบนั้นก็รีบจัดจานเพิ่มอีกหนึ่งชุด
“จัดการเลยค่ะนายหญิง ข้าวเช้าไม่ยอมกิน ทำงานหนักแต่ไม่หาอะไรลงท้องป้าเตือนก็ไม่ยอมฟัง”
“พอเลยป้าภา” เยาวภาคือแม่บ้านและแม่ครัวใหญ่ของที่นี่ มีหน้าที่เตรียมอาหารและสั่งงานเด็ก ๆ ดูแลบ้านให้นายใหญ่ ตะวันรักและเคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่ เรื่องดื้อรั้นเยาวภาไม่สู้จริง ๆ ได้เมียมาคราวนี้หล่อนคงเบาใจขึ้นมาก แค่สั่งให้กินมื้อเช้านายใหญ่ก็รีบเดินมานั่งเก้าอี้ นี่หรือเปล่าที่เขาว่ารักมากจนไม่อยากขัดใจ
“ดาวไม่ชอบบังคับใคร ถ้าพี่ตะวันเห็นว่าสิ่งที่ดาวบอกให้ทำ ไม่ดีหรือว่าก้าวก่ายพี่ตะวันมากเกินไป จะไม่ทำตามก็ได้นะคะ”
“บ่นเก่งนะเรา ป้าภาว่าไงครับ เมียผมคนนี้ปากใช้ได้ไหม”
“ลูกดกหัวปีท้ายปีเลยละนาย”
“ได้ยินหรือยัง บ่นบ่อย ๆ แบบนี้ระวังตัวไว้นะ” คนแก่ก้นครัวรีบตักข้าวให้เจ้านายทั้งสองแล้วเดินเลี่ยงออกไป เช้านี้นายใหญ่รับมื้อเช้า ร้อยวันพันปีเคยสั่งให้ทำกับข้าวที่ไหน มีนายหญิงมาอยู่ก็ดีเหมือนกัน บ้านจะได้ไม่เหงา นายใหญ่จะได้ยิ้มบ่อย ๆ อีกหน่อยคงจะมีคุณหนูตัวเล็ก ๆ วิ่งเต็มบ้านทำให้คนแก่ไม่เหงา
วันเวลาผ่านพ้นไปจนเข้าปีที่ห้าที่ทั้งคู่ร่วมทุกข์สุขกันมาจนเกิดมีพยานรักตัวน้อยมาทำให้ไร่ภูผาหมอกไม่เงียบเหงา“พ่อตะวัน ไม่กินข้าว ไม่เอา”“น้องฟ้าไม่กินไม่ได้นะคะ จะปวดท้องร้องโอ๊ยๆ นะ”“ไม่อร่อย เค็ม คิดถึงแม่ดาว” เพียงเท่านั้นดวงตากลมโตก็คลอหน่อยเต็มไปด้วยน้ำตา ริมฝีปากบิดเบ้พร้อมปล่อยโฮเต็มกำลัง“โอ๋ๆ เดี๋ยวแม่ดาวก็กลับมานะลูก พ่อหยุดป้อนก่อนก็ได้ เรามาเดินเล่นพักผ่อนกันก่อนดีกว่า” น้องฟ้าอ้าแขนให้ผู้เป็นพ่ออุ้มออกจากโต๊ะกินข้าว ทันทีที่พ่ออุ้มแนบอกแก้มขาวใสก็ซบลงบนบ่าของพ่อทันที เมื่อคืนก็กว่าจะกล่อมให้หลับได้ร้องไห้งอแงขอโทรหาแม่ไปหลายครั้งปีนี้น้องฟ้าอายุครบสามขวบพอดี เป็นเด็กพูดเก่งช่างเจรจา ติดแม่มากกว่าพ่อ วันที่น้องฟ้าเกิดพ่อตะวันติดพายุอยู่บนเขาเลยไม่ได้มีโอกาสเข้าไปให้กำลังใจแม่ดาวในห้องคลอด แต่พอลงมาได้ก็ตรงดิ่งไปที่โรงพยาบาลทันที“พ่อตะวันขา คิดถึงแม่ดาว”“เดี๋ยวแม่ดาวก็กลับมาแล้ว น้องฟ้าต้องกินข้าวให้หมดก่อนที่แม่ดาวจะกลับมา ทำได้มั้ยครับ”“น้องฟ้ากินไม่ลงค่ะ”“แม่ดาวต้องไปช่วยคุณปู่ทำงาน อยู่กับพ่อแค่สามวันเองนะ” นึกน้อยใจลูกสาวเหมือนกันแต่เพราะคนเป็นแม่เลี้ยงมาไม่แป
“ดาว พี่ทำข้าวต้มมาให้”“ทำไมไม่ปลุกคะ สายแล้วใช่มั้ย” เขารีบวางถ้วยข้าวต้มลงแล้วหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ เธอที่กำลังจะลุกแล้วก้าวลงจากเตียง“เดี๋ยวเจ็บ” ดาวประดับเผลอยิ้มเมื่อเรื่องเมื่อคืนแวบเข้ามาในหัว“ไม่เท่าไหร่ค่ะ หิวเหรอคะถึงได้รีบลงไป”“ไม่ได้หิวแต่กลัวดาวหิวต่างหาก ตื่นสายบ้างไม่เป็นไร ป้าภาก็อยู่”“หอมจัง ข้าวต้มใช่มั้ยคะ”“ใช่ครับ พี่ทำเองเลยนะ”“ให้คะแนนความตั้งใจก่อนเต็มร้อย”“พี่ตั้งใจทำมากจริงๆ อยากดูแลดาวบ้าง” “ขอบคุณนะคะ” เป็นข้าวต้มที่รสชาติไม่เหมือนที่ไหนและเธอก็ไม่สามารถหากินที่อื่นได้แน่นอนนอกจากที่นี่“เป็นไงครับ”“อร่อยค่ะ อร่อยจริงๆ นะไม่ได้แกล้งชม” เขาถอนหายใจโล่ง ป้าภาไม่ได้โกหก“พี่ก็พอทำอาหารเป็นอยู่บ้างแต่ก็ต้องเปิดสูตรช่วยด้วยอีกทาง ชำนาญแค่บางอย่างเท่านั้นแหละ”ดาวประดับกินข้าวต้มจนหมดถ้วยจากนั้นก็รีบลุกจากที่นอนไปทำธุระส่วนตัวเพื่อออกไปทำงานกับสามีแม้ว่าสามีจะบอกให้เธอพักผ่อนแต่เธอก็ไม่ยอม ร้องจะตามไปด้วยเพราะไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ “นายครับ มีคนมาหาครับ” มาถึงรีสอร์ทได้ไม่นานจ้อยก็ขับมอเตอร์ไซต์ตามมา“ใคร ได้ถามชื่อแซ้หรือเปล่า”“เขาบอกว่าเป็นพ่อของนายหญิงครับ
รถจิ๊บคันใหญ่ของนายตะวันแล่นมาจอดที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดประจำหมู่บ้าน เป็นอีกหนึ่งร้านที่เลื่องชื่อ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็คือชาวบ้านแล้วก็คนงานในไร่ พอมาถึงดาวประดับก็รีบหยิบกระดาษมาจดเมนูที่ตัวเองอยากกิน“พี่ตะวันเอาอะไรคะ”“เหมือนดาวครับ”“คิดสักหน่อยมั้ยคะ อยากเพิ่มอะไรมั้ย”“ไม่ครับ อยากกินเหมือนดาว” เธอจะทำอะไรได้นอกจากเขียนตัวเลขสองลงไปในกระดาษ“คนเยอะเหมือนกันนะคะ นี่ยังไม่เที่ยงตรงเลย”“ของอร่อยก็แบบนี้”“เชิญนั่งครับ” ลูกค้าใหม่สองท่านเดินเข้ามาในร้าน น้ำเสียงคุ้นหูเหมือนเคยได้ยินทำให้ทั้งคู่รีบหันไปมองนทีและหมอนิดมาด้วยกัน แต่สภาพหมอนิดนั้นไม่เหมือนเดิมกับตอนที่เจอกับเธอเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ผ้าก็อตติดหน้าผาก แก้มด้านขวามีคราบยาเหลืองติดอยู่ เหมือนกับว่าไปฟัดกับใครมาเลย“อ้าว หมอนิดไปทำอะไรมาถึงได้สะบักสะบอมมาเนี่ย” แม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวทำหน้าที่แทนดาวประดับล่วงหน้าไปแล้ว“รถล้มค่ะ”“ได้แล้วจ้ะ นายตะวันเนี่ยเดี๋ยวนี้ติดเมียมากเลยนะ” เพราะลูกค้ายังไม่ค่อยเยอะแม่ค้าจึงเดินมาเสิร์ฟและแวะแซวเจ้าของไร่เล็กน้อยเป็นสีสัน“ไม่ติดเมียแล้วจะให้ไปติดอะไรล่ะป้าก็ ถามแปลก”“ดาวสั่งเนื้
“พี่ตะวัน”“จ๋า”“อาหารเช้าเสร็จแล้วค่ะ” หลังจากที่ได้ประคบสมุนไพรที่ป้าภาเตรียมหามาให้อาการข้อเท้าบวมของดาวประดับก็ดีวันดีคืนจนหายดีไม่รู้สึกเจ็บ แต่ก็ยังลงน้ำหนักมากไม่ได้“วันนี้ไปทำงานกับพี่มั้ย”“นึกยังไงชวนคะ แดดแรงไม่เอาหรอก” ภรรยานึกอยากเล่นตัวบ้าง“ไม่ไปจริงเหรอ”“แหมๆ อ้อนเก่งจริงนะพ่อคุณ ป้าไปดีกว่าเหม็นความรัก”“หักเงินเดือนดีมั้ยเนี่ย”“ไม่ให้สักบาทก็ไม่ไปไหนค่ะ” ป้าภาสวนกลับสร้างเสียงหัวเราะในยามเช้าได้เป็นอย่างดี“วันนี้ทำอะไรบ้างคะ”“ไปดูงานรีสอร์ทสร้างใหม่” เป็นรีสอร์ทที่ขยายโซนออกไปให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น หลังจากทดลองเพียงแค่สองหลังผลตอบรับที่ได้กลับมาดีเกินคาดมาก“ไปถึงไหนแล้วคะ ได้ข่าวว่าผลตอบรับดี”“ใช่ ดีมาก ในหนึ่งเดือนแทบไม่มีวันว่างเลย”“อืม น่าสนใจค่ะ ดาวขอไปทาครีมกันแดดเพิ่มก่อนนะคะ”“ได้ครับ” ตะวันอยากพกเธอไปทุกที ตั้งแต่มีเรื่องแน่งน้อยเข้ามาคิดว่าจะจบเพียงเท่านั้น สาบานได้เลยว่าตนไม่เคยคิดหว่านเสน่ห์ให้สาวน้อยใหญ่มาสนใจเลย ความเจ้าชู้ไม่ได้อยู่ในสายเลือด ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาเฝ้ารอมีแค่ดาวประดับเพียงคนเดียว“เสร็จแล้วค่ะ” ดาวประดับออกมาพร้อมก
ร้านอาหารขึ้นชื่อของตำบลเป็นสถานที่รับประทานอาหารของคณะทำงานจากกรมปศุสัตว์ ที่มาจากอำเภอ ซึ่งนายตะวันอาสาเป็นเจ้ามือเลี้ยงแสดงความขอบคุณภรรยาสาวสวยนั่งเคียงข้างผู้เป็นสามีไม่ห่าง ส่วนผู้ช่วยมือวางอันดับหนึ่งอย่างแน่งน้อยก็คอยซับพอร์ตอยู่ใกล้ๆ คอยสำรวจตรวจตราผู้ไม่หวังดีกับดาวประดับทุกนาทีตาไม่กระพริบ“เต็มที่เลยนะครับทุกคน”“เหนื่อยมั้ยคะ” เมื่อสามีนั่งลงภรรยาก็รีบเอ่ยถามทันทีพร้อมเตรียมจานกับช้อนให้เสร็จสรรพ ถึงแม้ว่ายังไม่หายโกรธร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม“ไม่เหนื่อยถ้าได้เห็นหน้าเมีย”“แหม หวานไม่เกรงใจน้อยเลยนะคะ ให้เครดิตกันหน่อยสิคะ”“คุณน้อยเอาเรื่องอะไรไปเล่าให้ดาวฟังหรือครับ ถึงได้ยอมมาด้วย” ดาวประดับขยิบตาเป็นเชิงบอกแน่งน้อยไม่ให้พูด“น้อยแวะไปหาน้องดาวพอดีค่ะ ก็เลยชวนกันออกมาขับรถเล่น”“ดาวไม่เคยเห็นวัวตัวใหญ่ขนาดนั้นก็เลย อยากเข้าไปดูค่ะ” แน่งน้อยยกนิ้วโป้งให้ดาวประดับอย่างชื่นชมโดยไม่ให้ตะวันเห็น“ทำไมไม่บอกพี่ล่ะ”“ดาวเห็นว่าพี่ตะวันงานเยอะก็เลยไม่อยากรบกวนค่ะ”“รบกวนอะไร ทีหลังบอกนะพี่อยากพาดาวไปทุกที่นั่นแหละ” แน่งน้อยแทบกรี๊ดเมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่ หวังว่าคนแถวนี้ก็คงจะ
ดาวประดับกับตะวันมองหน้ากันแล้วถอนหายใจ แน่งน้อยหลับไปเพราะความเพลีย กว่าจะหมดฤทธิ์ก็ทำเอาคนในบ้านปวดหัวไปตาม ๆ กัน“ยังดีที่มีจิตสำนึกอยู่บ้าง ป้าก็นึกว่าจะร้องกรี๊ด ๆ แล้วเข้ามาทำร้ายนายหญิงของป้า” ตะวันคิดไว้แล้วว่าแน่งน้อยไม่กล้าทำแบบนั้นแน่นอน เท่าที่รู้จักแน่งน้อยมาหล่อนไม่เคยแสดงพฤติกรรมไร้มารยาทแบบนั้น เป็นความผิดของเขาเองที่ไม่ยอมบอกให้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์แบบนั้นคงไม่มีวันเกิดขึ้น ตะวันคิดกับหล่อนแค่เพื่อนเอ็นดูเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง เขารักใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากผู้หญิงที่ชื่อดาวประดับคนนี้คนเดียว“ดูละครมากเกินไปหรือเปล่าป้าภา”“ก็ใช่สิคะ ป้าถึงไม่อยากให้ใครมาแทนที่นายหญิงของป้า” แม่บ้านใหญ่เดินเข้าเกาะแขนนายหญิงสุดที่รัก ไม่มีใครเหมาะสมกับนายใหญ่เท่ากับนายหญิงอีกแล้ว“เห็นผมเป็นผู้ชายแบบไหนกัน”“น้อยใจหรือคะ” ดาวประดับเอียงคอถาม“มีใครเข้าข้างพี่บ้าง”“นอนสลบอยู่นั่นไงคะ ให้ป้าปลุกให้มั้ย” ดาวประดับกลั้นขำ ส่วนตะวันขอตัวขึ้นไปอาบน้ำดับความร้อนที่มีในกาย“นายใหญ่ของป้าขี้งอนนะคะ”“ปล่อยไปเถอะค่ะ เดี๋ยวก็หาย”“น้ำมะนาวที่ป้าภาทำไปให้อร่อยชื่นใจมากเลยค่ะ”“น้ำมะนาว”“ใช่ค่ะ” แม่







