Semua Bab “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”: Bab 111 - Bab 120

136 Bab

บทที่ 105: ศาลาที่ไม่มีลำดับ – เมื่อเสียงแรกไม่ต้องรอผู้อนุญาต

ศาลาที่ไม่มีลำดับ – เมื่อเสียงแรกไม่ต้องรอผู้อนุญาตศาลาไม้ที่หมู่บ้านโยโคะกาวะ ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รวมเสียงสวดแบบดั้งเดิม เด็กไม่สามารถพูด หญิงต้องนั่งด้านหลัง ชายแก่เท่านั้นที่มีสิทธิ์เปิดสมุดแต่ในเช้าวันหนึ่ง เด็กชายอายุสิบสองปี ลุกขึ้นถือสมุดเล่มบาง เขียนคำสั้น ๆ แล้ววางบนเสื่อหน้าเวที“ชื่อแม่ข้า... ข้าไม่รู้จะสวดอย่างไร แต่ข้าไม่อยากให้หายไป”ไม่มีใครสวด ไม่มีใครกล่าวอาเมน มีแต่ความเงียบจนชายชราผู้เคยเป็นประธานพิธี ค่อย ๆ ลุกขึ้น เดินมานั่งข้างเด็ก แล้วพูดแค่คำเดียว“ชื่อใคร?”ศาลานั้นไม่มีลำดับอีกต่อไป ไม่มีใครรอใบอนุญาตจากวัด ไม่มีตารางสวดที่แข็งตาย ทุกเช้า ใครมา ก็ได้เขียน ใครอยู่ ก็ได้ฟังมันไม่ใช่ศาสนา มันกลายเป็น ชุมชนในหมู่บ้านข้างเคียง เด็กหญิงผู้ไม่เคยพูดในพิธี เริ่มอ่าน “ชื่อคนที่เธอเห็นตายในสงคราม” ไม่มีใครถามว่าเธอเป็นใคร เพราะศาลาไม่มีเวที มีแต่เสื่อวงกลมที่ใครก็เดินเข้าได้ข่าวไปถึง ตระกูลอาซึกิ ตระกูลที่เคยยึดมั่นในลำดับพิธีกรรม บุตรชายคนรองถูกส่งมาสังเกตการณ์ แต่เขากลับมาด้วยสมุดที่ไม่มีตรา มีเพียงประโยคเดียวบน
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-07-03
Baca selengkapnya

บทที่ 106: กำแพงที่เริ่มมีเสียง

กำแพงที่เริ่มมีเสียง– พระในศาสนจักรกลางเริ่มแอบเขียนสมุดเงา**ภายในหอคำสวดแห่งเท็นเซ็นจิ ศูนย์กลางศาสนจักรของแผ่นดิน กำแพงหินสูงกว่าเจ็ดเมตรที่เคยสะท้อนแต่เสียงพระ สวดแต่คำเดิมซ้ำ บัดนี้เริ่มได้ยินเสียง...ที่ไม่เคยมีในบทใดมาก่อนในยามค่ำ ที่โคมธูปล้าแสง พระรูปหนึ่งยืนอยู่ลำพังหน้าแท่นบูชาว่างเปล่า เขาชื่อว่า เซียวอิน — พระลำดับที่ห้าในสายการเทศน์ ผู้ไม่เคยพูดนอกตำรา ผู้ไม่เคยมองตาเด็กแต่คืนนั้น เขาเขียนชื่อหนึ่ง... ด้วยหมึกจาง บนกระดาษสมุดธรรมะเก่า ชื่อของ “อาคิ” — เด็กหญิงที่เขาเคยพบเมื่อนานมาแล้ว ผู้พูดชื่อพ่อของตนแทนบทสวด“ทำไมเจ้าถึงไม่สวด?”“ข้ากลัว... ว่าถ้าข้าสวด ข้าจะลืมชื่อพ่อ”วันนั้นเขาเงียบ แต่วันนี้... เขาไม่เงียบอีกต่อไปเสียงแรกในกำแพง คือเสียงขีดปากกาเล็ก ๆ ที่จดชื่อทีละคน ไม่ใช่เสียงสวด ไม่ใช่เสียงสั่ง เป็นเพียงเสียงของการ “จำ”ไม่นานนัก สมุดเงาเล่มแรกก็เกิดขึ้นในศาสนจักรกลาง ถูกซ่อนไว้ใต้ผ้าห่มที่พระชั้นล่างใช้ มีชื่อของหญิงชราในหมู่บ้านที่ถูกสังเวย ชื่อของชายที่หายตัวหลังเทศน์ขัดคำ และชื่อของเด็กชายที่พูดบทกลอนแทนคำสวดไม่มีคำว่า
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-07-03
Baca selengkapnya

บทที่ 107: บทเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง

บทเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง– เด็กกลุ่มใหม่เริ่มใช้ดนตรีเป็นเครื่องจดจำชื่อ**เสียงแรก...เริ่มจากสายขลุ่ยไม้ไผ่ที่แตกเล็กน้อย ไม่ได้ใส แต่นุ่มลึก ไม่ได้ไพเราะ แต่สะเทือนใจอย่างอธิบายไม่ได้กลางลานวัดร้างที่ถูกเผาเมื่อฤดูใบไม้ผลิที่แล้ว เด็กหญิงสามคนกับเด็กชายอีกสอง นั่งล้อมวงรอบเครื่องดนตรีทำจากเศษไม้ เศษหม้อ เศษกระจกที่ยังสะท้อนแสงจันทร์ไม่มีใครพูดชื่อพ่อแม่ที่ตาย ไม่มีใครกล้าพูดว่า “จำ” เพราะ “การจำ” ถูกห้ามด้วยศรัทธาแต่ทุกคน...เริ่ม “เล่น” แทนเสียงกลองที่ตีสองครั้งเบา ๆ หมายถึงชื่อ "เซนะ" หญิงชราที่มอบข้าวให้เด็กก่อนตาย เสียงดีดไม้สามหนถี่ หมายถึง “คาโอรุ” เด็กชายที่หายไปหลังการสวด เสียงเป่าขลุ่ยช่วงสั้น ๆ ที่แผ่วเบา หมายถึง “ยูอิ” แม่ที่ตะโกนชื่อลูก ก่อนถูกลากออกนอกหมู่บ้านเพลงนี้ไม่มีเนื้อร้อง แต่ทุกเสียง...คือตัวแทนของคนและคนที่ได้ยิน...เริ่ม “จำได้” โดยไม่ต้องจำวันนั้นมีพระเร่ร่อนคนหนึ่งชื่อ อุเคียว เดินผ่าน เขาไม่ได้หยุดเทศน์ แต่หยุดฟังเด็กคนหนึ่งยื่นขลุ่ยให้เขา เขาส่ายหน้า“ข้าไม่เป่า” เขากล่าวเบา ๆเด็กหญิงตอบ“งั้นก็เงียบ แล้วฟังเหมือนที่ข้าฟังบทสว
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-07-04
Baca selengkapnya

บทที่ 108: นักสวดที่เปลี่ยนใจกลางพิธี

นักสวดที่เปลี่ยนใจกลางพิธี– เกิดเหตุการณ์คนเทศน์เปลี่ยนคำสวดกลางงานใหญ่**วันนั้นคือวันที่ 5 แห่งฤดูฟื้นฟูแห่งศรัทธา วันพิธีใหญ่ของศาสนจักรกลาง พระนับร้อยจากสิบสองแคว้น รวมตัวกัน ณ ลานสวดหลวงใต้ร่มธงขาวอักษรทองผู้คนหลั่งไหลเข้ามาจนล้นกำแพงวัด ธูปถูกจุดพร้อมกันทุกมุม เสียงกลองโบราณที่ไม่เคยตีเกินสามครั้งในรอบสิบปี ดังขึ้นห้า... หก... เจ็ดครั้งหมายถึงพิธีนี้ “ไม่ธรรมดา”พระหนุ่มชื่อ เร็นจู เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้อ่าน “คำสวดแห่งการลืม” บทที่สั่งให้ทุกหมู่บ้าน “ลบ” ชื่อคนที่ขัดแย้ง เพื่อให้ความสงบกลับมาเขาคือศิษย์เอกแห่งสายธรรมะอาวุโส ผู้เคยเทศน์จนกล่อมทั้งเมือง ผู้เชื่อในศรัทธาโดยไม่เคยตั้งคำถามแต่ในคืนก่อนวันพิธี เขานั่งอยู่ลำพัง กับสมุดเงาเล่มหนึ่งสมุดที่มีแต่ชื่อ ชื่อของคนที่เคยยิ้มให้เขาตอนยังเด็ก ชื่อของคนที่เคยสวดร่วมกับเขา แต่วันนี้... ไม่มีในคำสวดแล้วรุ่งขึ้น ท่ามกลางผู้คนนับพัน เมื่อเขาก้าวขึ้นแท่น“จงเตรียมใจฟังคำแห่งความสงบ” เสียงประกาศของพระอาวุโสดังลั่นแต่เร็นจู…เงียบเขากางสมุดเงาขึ้น แทนบทสวด อ่านชื่อแรก“คิริโกะ...ผู้ที่สวด
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-07-04
Baca selengkapnya

บทที่ 109: ศาลาสุดท้าย

ศาลาสุดท้าย– ศาสนจักรประกาศปิดทุกศาลาที่ไม่ยอมรับตำรา**ในรุ่งอรุณที่ลมหายใจยังติดกลิ่นธูปจากคืนก่อน ธงของศาสนจักรถูกชักขึ้นพร้อมเสียงกลองคำสั่ง ประกาศฉบับใหม่แผ่กระจายไปยังทุกแคว้น“นับแต่วันนี้ ศาลาใดที่ไม่ยึดตามตำราศักดิ์สิทธิ์แห่งบทสวดที่ 47 จะถือเป็นศาลากบฏ และจะถูกยุบ ถอนสถานะศรัทธา และห้ามมิให้มีการชุมนุมในรูปแบบพิธีกรรมใด ๆ”ข่าวนี้มาถึงหมู่บ้านจิไร ลูกหลานแห่งเสียงเงา ศาลาไม้เก่ากลางทุ่งนา ที่เด็กใช้เป่าขลุ่ยแทนสวด และคนเฒ่าร่ายชื่อผู้ตายแทนบทสรรเสริญวันนั้น พระ 3 รูปถูกเรียกกลับ สมุดเงา 6 เล่มถูกยึด แผ่นไม้สลักชื่อที่แขวนเรียงรายถูกสั่งให้เผาทิ้งแต่ในคืนก่อนวันเผา เด็กน้อยนาม ยูอิ ปีนขึ้นบนหลังคาศาลา วางสมุดเงาไว้กลางหลังคา และเขียนไว้บรรทัดสุดท้ายว่า“หากข้าต้องเลือก… ข้าเลือกชื่อของคนมากกว่าคำจากเทพ”วันรุ่งขึ้น ศาลาถูกเผา แต่หลังคา...ถล่มลงช้าเกินไป ไฟไม่ทันกินสมุดทั้งหมด และชื่อเหล่านั้น กระจายไปกับลมในเช้าวันใหม่สิ่งที่ศาสนจักรไม่ได้รู้ คือศาลานี้...ไม่ใช่ศาลาสุดท้ายเพราะชื่อ ไม่มีฝา ไม่มีกำแพง และเมื่อไม่มีศาลา ชื่อ...ก
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-07-04
Baca selengkapnya

บทที่ 110: ขบวนแห่งชื่อ

ขบวนแห่งชื่อ– เด็กนับพันเดินถือสมุดเข้าสู่เมืองหลวง**ไม่มีกลอง ไม่มีแตร ไม่มีทหารนำ มีเพียงฝุ่นลอยจากฝ่าเท้าเล็ก ๆ นับพัน บนถนนสายหลักที่ทอดสู่เมืองหลวงฟุซากิเด็กชายในชุดปะปิดหัว เด็กหญิงแบกสมุดหนากว่าร่าง บางคนเดินเท้าเปล่า บางคนมีเพียงเศษผ้าพันแผลทุกคนเขียนชื่อ ทุกคนพูดชื่อ แต่ไม่มีใครพูดถึงศาสนา ไม่มีใครกล่าวถึงเทพข่าวการเดินทางลุกลามเร็วกว่าลมฤดูใบไม้ผลิ ตระกูลชินเร ผู้ครองเขตตะวันออกเฉียงใต้ สั่งทหารหยุดการลาดตระเวนตามทางผ่าน แม่ทัพหลานคนของฮากุโร่บอกว่า:“นี่ไม่ใช่กบฏ แต่คือขบวนของเสียงที่ไม่มีใครเคยฟังมาก่อน”ในเมืองหลวง ประตูหินซึ่งเปิดเฉพาะเทศกาลสำคัญ เริ่มสั่นจากแรงเท้าของเด็ก ๆ ขุนนางศาสนจักรประชุมด่วน บางเสียงสั่งให้ “ห้ามเข้า” บางเสียงเสนอ “รับฟังแต่คัดกรอง” แต่ในที่สุด ไม่มีใครกล้าปิดประตูเพราะหากชื่อพ่อแม่ของผู้คุมประตู อยู่ในสมุดเล่มนั้น...ใครจะกล้าไม่เปิด?ซาโยะกับฮากุโร่ยืนบนหอคอยมองภาพนั้น ขบวนที่ไม่มีธง แต่ชัดเจนยิ่งกว่าธงชาติใด“พวกเขาไม่ได้เดินเพื่อเปลี่ยนโลก” ซาโยะพูด “แต่แค่ไม่อยากให้ชื่อคนที่รัก หายไปอีก
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-07-04
Baca selengkapnya

บทที่ 111: เสียงที่ไม่มีใครสั่งให้หยุด

เสียงที่ไม่มีใครสั่งให้หยุด– ศาสนจักรพังทลายไม่ใช่จากการโจมตี แต่จากการฟัง**ศาลาหลวงของศาสนจักรกลางเคยเป็นสถานที่ที่เสียงต้องผ่านการอนุมัติต้องถูกรับรอง ต้องมีรูปแบบ ต้องมีที่มาแต่ในเช้าวันที่หก หลังพิธีการจำร่วมครั้งแรกเสียงหนึ่งลอดเข้ามาโดยไม่มีการร้องขอ“แม่ของข้า… ไม่เคยถูกเรียกชื่อในที่แห่งนี้”เด็กชายในชุดเก่าขาดยืนกลางศาลา“แต่ข้าจะพูดชื่อของนางตรงนี้ — นางชื่อ มิสึโนะ”พระอาวุโสบางคนลุกขึ้นบางคนยืนอึ้งแต่ไม่มีใครกล้าพูดคำว่า “หยุด”ไม่ใช่เพราะกลัวแต่เพราะไม่มีคำใดตอบได้ว่าทำไมถึงต้องหยุดหลังจากนั้นอีกหลายสิบคนเริ่มพูดชื่อชื่อของคนที่เคยถูกฆ่าคนที่เคยลืมคนที่ไม่มีใบรับรองการตายไม่มีพิธี ไม่มีหลุมศพและเมื่อเสียงเริ่มไม่หยุดศาสนจักรเริ่มพัง — จากข้างในพระหนุ่มรูปหนึ่งเคยเทศน์ตำราเดิมซ้ำพันครั้งยื่นสมุดเงาให้เด็กหญิงคนหนึ่ง“เจ้าเขียนให้ข้าได้หรือไม่… ข้าจำชื่อแม่ข้าไม่แม่นแล้ว”เด็กหญิงพยักหน้าจากนั้นจึงถามกลับเบา ๆ“เจ้าจะจำชื่อลูกข้าแทนด้วยได้ไหม ถ้าเจ้าเจอเขาในภายภาคหน้า”วันนั้น ไม่มีขบวน ไม่มีป้าย ไม่มีคมดาบมีแต่เสียงชื่อที่ไหลผ่านรอยร้าวของกำแพงซึมเข
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-07-05
Baca selengkapnya

บทที่ 112: เสียงที่เริ่มเดินทาง

เสียงที่เริ่มเดินทางหมอกในเช้าวันนั้น ไม่ได้คลุมแค่แผ่นดิน... แต่คลุมถึงความเงียบในใจเด็กๆ ทุกคนสายลมในหมู่บ้านอิซึนะเช้านั้นพัดเบา แต่แหลมคมพอจะตัดผ่านคำพูดที่ไม่เคยพูดออกไปเด็กหญิงตัวเล็กในชุดกิโมโนเก่าโบกมือให้หลังแม่ที่ยืนอยู่หน้าเรือนพัก สองตาแดงก่ำแต่ไม่หลั่งน้ำตา“เจ้าจะไปไกลแค่ไหน?”แม่ถามทั้งที่รู้ว่าไม่มีคำตอบเด็กหญิงก้มหน้า มัดสมุดสวดเก่าแน่นที่เอว ไม่ใช่เพื่อพกคำสวดดั้งเดิม... แต่เพื่อจดสิ่งที่ได้ยินระหว่างทางเด็กอีกเจ็ดคนยืนรออยู่ที่ปากหมู่บ้าน ใครบางคนมีพิณเก่า บางคนมีสมุดขาดกระจัดกระจาย บางคนไม่มีแม้รองเท้าแต่ทุกคนมี "ชื่อ" ที่ตั้งใจจะฟังให้ได้พวกเขาไม่ใช่คนเทศน์ ไม่ใช่นักสวด ไม่ใช่นักรบแต่คือเด็กที่เดินออกไปเพื่อนำ “การฟัง” ไปยังที่ที่ไม่มีเสียงการเดินทางไม่เริ่มด้วยเสียงตีกลองแต่มันเริ่มเมื่อขาเล็ก ๆ ย่างเหยียบถนนดินที่ไร้ผู้ต้อนรับ“หมู่บ้านโคมแดง” คือจุดหมายแรกหมู่บ้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องโรงน้ำชาศักดิ์สิทธิ์ทุกเช้าเสียงสวดจากวัดกลางจะไล่ผู้คนให้ยกมือพนม แม้ไม่ได้เข้าใจความหมายเมื่อเด็กกลุ่มนี้เดินเข้าไปโดยไม่มีบทสวด ไม่มีผ้าคลุมหัว ไม่มีพระนำ พวกเขาก็ถูกต้
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-07-05
Baca selengkapnya

บทที่ 113: ตระกูลที่ยอมลดธง

ตระกูลที่ยอมลดธงเมื่อตราประจำตระกูลไม่สำคัญกว่าชื่อของคนที่ไม่มีใครจดจำ“เจ้าจะให้เรายอมลดธงตระกูลง... เพื่อฟังเสียงของเด็ก?”เสียงของ อาซูมะ โชอุน ดังก้องในหอปรึกษากลางปราสาทหินสูงแห่งฮิโนคามิ เสียงของชายที่เคยเป็นหนึ่งในเจ็ดดาบปราบขุนนางทรราช เสียงที่เคยทำให้แม่ทัพทั้งสามแคว้นต้องก้มหน้าแต่วันนี้ เสียงนั้นถามกับเด็กหญิงคนหนึ่งเด็กหญิงที่ตัวเปื้อนฝุ่น ขาเปล่า ผมสั้นยุ่งเหยิง และไม่มีตรา ไม่มีบทสวด ไม่มีผู้นำเธอเงยหน้าขึ้นช้า ๆ แล้วกล่าว“ข้าไม่ได้ขอให้ท่านลดธง... ข้าเพียงอยากให้ท่านจำชื่อของผู้ตายใต้ธงนั้น”ห้าปีก่อน ตระกูลอาซูมะคือแนวหน้าในการสนับสนุนศาสนจักร พวกเขาสร้างศาลาใหญ่ริมทะเล ถวายธงพิธีทั้งเจ็ดผืน ตั้งบทสวดเอง และล้างชื่อลูกบ้านที่ขัดคำสั่งออกจากทะเบียนแห่งแสงแต่หลังเหตุการณ์ "สมุดเงา" ที่แพร่เข้ามาถึงหมู่บ้านชายฝั่งอย่างเบา ๆ แต่ต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มแอบสวดชื่อของลูกที่ตาย แทนที่จะสวดตามตำราอาซูมะ โชอุน เองก็ได้ยินเสียงนั้นทุกค่ำเสียงกระซิบใต้ต้นสนเสียงท่องชื่อคนรักของลูกสาวเขาที่ตายโดยที่ไม่มีใครพูดถึงวันหนึ่ง เขาพบสมุดเปื้อนดินวางอยู่ใต้ธงตระกูลเปิดดู พบเพียงช
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-07-05
Baca selengkapnya

บทที่ 114: การสวดโดยไม่มีพระ

การสวดโดยไม่มีพระเมื่อคำที่ออกจากปากคนธรรมดา กลายเป็นพิธีที่ไม่มีใครกล้าเหยียบย่ำลานหน้าศาลาไม้หลังเก่าในหมู่บ้านฮินะมิ ปกคลุมด้วยหมอกจางในยามเช้าที่ตรงนั้นเคยเป็นที่ประกอบพิธีศพของศาสนจักรพระผู้เทศน์จากศูนย์กลางจะเดินทางมาสวดบทตามตำรา พิธีจะจบภายในหนึ่งชั่วโมงไม่มีน้ำตาไม่มีเสียงอื่นเพียงคำว่า “สว่าง” ถูกเอ่ยซ้ำ ๆแต่วันนี้... ไม่มีพระมาสวดผู้คนยังยืนเรียงกันบางคนถือสมุดเล่มเล็กบางคนมีเพียงเศษกระดาษจารด้วยชื่อศพของ “อาคาเนะ” หญิงชราผู้เสียชีวิตในคืนที่ผ่านมา ถูกวางไว้กลางเสื่อหญ้าไม่มีเทียนไม่มีธูปไม่มีแท่นบูชามีเพียงหลานชายของนาง — เด็กชายวัยสิบสามชื่อ “โทริโอะ”ที่ยืนขึ้นเปิดสมุดเล่มหนึ่งและเอ่ยคำว่า“ข้าเคยฟังเธอร้องเพลงกล่อมตอนนั้นข้าไม่รู้ความหมายตอนนี้ข้ารู้แล้วว่า…เธอกำลังพยายามให้ข้าจำเสียงของเธอ”ไม่มีใครขัด ไม่มีใครสวดแทรกเงียบก่อนที่หญิงอีกคน — ลูกสะใภ้ของอาคาเนะ — จะลุกขึ้นและกล่าวชื่อของสามีที่ตายไปก่อนหน้านี้แล้วตามด้วยชื่อของลูกสาวแล้วกล่าวว่า“ทุกชื่อที่เธอจำไว้ พวกเราจะจำต่อให้”และนั่นคือจุดเริ่มต้นของพิธีศพที่ไม่มีพระไม่มีบทไม่มีตราประทั
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-07-05
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
91011121314
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status