มีทฤษฎีแฟนๆหลายแบบที่ทำให้การอ่าน 'ลำนำรักเคียงบัลลังก์' สนุกขึ้นมากกว่าการติดตามพล็อตตรงๆ — และบางทฤษฎีก็แอบมีความลึกทางอารมณ์ที่ทำให้เราอยากย้อนกลับไปอ่านซ้ำเสมอ
ทฤษฎีแรกที่เจอบ่อยคือการซ่อนเงื่อนสายเลือด: แฟนๆชอบคิดว่าตัวละครรองบางคนมีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์มากกว่าที่ปรากฏ บางคนอธิบายฉากหนึ่งที่ตัวเอกเดินผ่านห้องบรรทมหรูแล้วแจกความรู้สึกคุ้นเคยว่าเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันสายเลือดที่ยังไม่ถูกเปิดเผย ทฤษฎีนี้เติมความหมายให้ฉากหรู ๆ และการสบตากันบางครั้งกลายเป็นเบาะแสสำหรับอดีตที่ถูกปิด
ทฤษฎีที่สองเน้นการเมืองเบื้องหลังความรัก: มุมมองนี้มองความรักในเรื่องเป็นผลพวงของเกมอำนาจมากกว่าจะเป็นความรู้สึกบริสุทธิ์ แฟนๆบางกลุ่มชี้ไปที่ฉากที่มีการแลกเปลี่ยนคำพูดอย่างเป็นพิธีหรือการนั่งร่วมโต๊ะใน
งานเลี้ยงว่าเป็นเครื่องหมายของการทำข้อตกลง ทฤษฎีนี้ทำให้การ์ตูน/นิยายเรื่องนี้มีชั้นความขัดแย้งระหว่างใจและหน้าที่ เหมือนชิ้นงานคลาสสิกอย่าง 'The Rose of Versailles' ที่ความรักต้องชนกับการเมืองในวัง
สุดท้ายมีทฤษฎีทางอารมณ์ที่ชอบเล่นกับแนวคิดเรื่องความทรงจำ — บางคนเสนอนัยว่าเหตุการณ์สำคัญถูกลบหรือบิดเบือนเพื่อปกป้องตัวละคร การตีความฉากที่ตัวละครเงียบหรือหลับไปนาน ๆ ว่าเป็นสัญลักษณ์ของความจำที่หายไป ทำให้การกลับมาของความรู้สึกหรือการเปิดเผยอดีตกลายเป็นโมเมนต์คลายปมที่ทรงพลัง ทั้งสามทฤษฎีนี้ช่วยให้ฉากซ้ำ ๆ มีความหมายใหม่และทำให้เรารู้สึกว่าโลกของ 'ลำนำรักเคียงบัลลังก์' เต็มไปด้วยความเป็นไปได้มากกว่าที่เห็นในหน้ากระดาษ — นี่แหละเสน่ห์ที่ทำให้เรื่องนี้ยังคุยกันไม่จบ