4 คำตอบ2025-11-08 15:49:27
ไม่เคยนึกเลยว่าจะเจอร้านของเชฟกะปอมซ่อนตัวอยู่ในตรอกเล็กๆ ของย่านศิลปะที่เชียงใหม่—บรรยากาศเหมือนห้องทำงานศิลปิน ผสมกับกลิ่นเครื่องเทศที่เข้มข้นจนต้องเดินตามกลิ่นเข้าไป
ประตูไม้เก่าเปิดสู่พื้นที่เล็กๆ ที่มีโต๊ะไม่กี่ตัวและครัวแบบเปิด ฉันชอบการจัดไฟที่ทำให้ทุกจานดูเป็นงานศิลปะ เมนูที่แนะนำคือของคาวผสมผสานแบบบ้านๆ ที่ถูกยกระดับ เช่น ข้าวซอยกุ้งย่างซอสส้มคาแรคเตอร์ที่ได้ทั้งความครีมของน้ำกะทิและกรุบของกุ้งย่าง กับอีกจานคือสลัดผลไม้รวมราดด้วยน้ำยำสมุนไพรที่แปลกแต่ลงตัว คนรักรสจัดจะหลงรักจานนี้
การบริการเป็นกันเองเหมือนเพื่อนแนะนำเมนู ทุกคำที่กินรู้สึกว่ามีเรื่องราวเบื้องหลัง ช่วงเย็นแสงอ่อนกับเสียงดนตรีอะคูสติกทำให้มื้ออาหารดูพิเศษขึ้นอีกระดับ นี่เป็นร้านที่อยากกลับไปหลายครั้ง เพราะทุกครั้งอาจมีเมนูพิเศษใหม่ๆ จากไอเดียประจำวันของเชฟกะปอม
4 คำตอบ2025-11-08 09:49:52
กะเพราจานโปรดของฉันคือเครื่องปลุกความหิวที่ได้ผลเสมอ — วิธีทำไม่ซับซ้อนเลยและได้รสจัดจ้านตามใจชอบ
เริ่มจากวัตถุดิบง่ายๆ: เนื้อสับหรือหมูสับ 200 กรัม, ใบกะเพราเด็ด 1 ถ้วย, กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ, พริกขี้หนูสับตามชอบ, น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 1-1.5 ช้อนโต๊ะ, ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา, น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา และน้ำเล็กน้อยถ้าจำเป็น. ผมมักจะใช้กระทะไฟร้อนมากเพื่อให้ได้กลิ่นหอมและผักยังคงความเขียวไม่เละ
วิธีทำจริงๆ แล้วเร็วมาก: ตั้งกระทะไฟแรงใส่น้ำมัน แล้วเจียวกระเทียมกับพริกให้หอม ใส่เนื้อสับลงผัดจนสุกทั่ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊ว และน้ำตาล ชิมให้ได้รสเค็มเผ็ดเล็กน้อย จากนั้นใส่ใบกะเพราแล้วผัดเร็วๆ ประมาณ 10–15 วินาทีให้พริกกับกระเทียมยังคงความหอม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และไข่ดาวกรอบๆ ที่ฉันชอบโปะข้างบนเพื่อเพิ่มความมัน
เคล็ดลับที่ฉันใช้เสมอคืออย่าใส่กะเพราตั้งแต่ต้น มันจะสูญเสียกลิ่นหอม ถ้าชอบรสจัดขึ้นให้เพิ่มพริกขี้หนูสด หรือหยดน้ำมะนาวเล็กน้อยก่อนเสิร์ฟเพื่อตัดเลี่ยน แล้วก็อย่ากลัวที่จะปรับสัดส่วนน้ำปลาและน้ำตาลจนกว่าจะเจอรสที่ใช่สำหรับปากของคุณ
4 คำตอบ2025-11-08 01:11:10
กลิ่นพริกคั่วกับกระเทียมในครัวของเชฟกะปอมทำให้ผมหยุดมองเมนูเสมอ ๆ — นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องลงมือจดส่วนผสมของ 'ข้าวผัดกะปอม' เอาไว้แบบละเอียด
ข้าวผัดจานฮิตของเขาไม่ได้ใช้ของหรูหราอะไร แต่ความใส่ใจอยู่ที่จังหวะและวัตถุดิบบ้าน ๆ: ข้าวหอมมะลิเมล็ดร่วน, ไข่ไก่, กุ้งสดตัวเล็ก, กากหมูกรุบ ๆ, หอมใหญ่ซอย, ต้นหอมซอย, มะนาวฝาน, พริกขี้หนูสวนตำหยาบ และน้ำปลาเค็มหวานสมดุล เขายังใส่ปลาฉิ้งฉ้างแห้งบดละเอียดเพิ่มความลึกของรส umami กับการเติมซอสหอยนางรมเล็กน้อยเพื่อให้กลิ่นยั่วชวนน้ำลายไหล
ผมชอบว่าทุกคำมีทั้งความกรุบของกากหมู ความฉ่ำของกุ้ง และความเปรี้ยวสดของมะนาวที่กดรสให้ออกมาชัด — ถือเป็นสูตรบ้าน ๆ ที่ทำให้ร้านเล็ก ๆ กลายเป็นจุดแวะของคนท้องถิ่นได้ โดยไม่ต้องพึ่งวัตถุดิบไฮเอนด์เลย
4 คำตอบ2025-11-08 21:20:23
จากรายการคอร์สและแพ็กเกจที่เห็นบ่อย ๆ ราคาของ 'เชฟกะปอม' จะแบ่งเป็นหลายระดับขึ้นอยู่กับรูปแบบการเรียนและระยะเวลา ซึ่งถ้าเป็นคอร์สออนไลน์แบบวิดีโอบันทึกไว้ล่วงหน้า ราคาประมาณ 300–1,000 บาทสำหรับคอร์สเดี่ยวหนึ่งหัวข้อ ส่วนคอร์สสดแบบกลุ่มเล็ก (ประมาณ 6–12 คน) จะอยู่ราว 1,200–3,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นกับวัตถุดิบที่จัดให้และระยะเวลาคลาส
ถ้าเป็นเวิร์กช็อปเชิงปฏิบัติการหนึ่งวันหรือคอร์สระยะสั้นหลายครั้ง ราคามักกระโดดไปที่ 3,000–8,000 บาท ส่วนคอร์สแบบตัวต่อตัวหรือมาสเตอร์คลาสพิเศษ ราคาสามารถแตะ 5,000–15,000 บาทต่อชั่วโมงหรือเป็นแพ็กเกจได้ ฉันมักคำนึงถึงสิ่งที่รวมมาในค่าเรียน—วัตถุดิบ เครื่องมือ คู่มือ และการติดตามหลังคลาส—เพราะสิ่งเหล่านั้นทำให้ค่าคอร์สดูสมเหตุสมผลหรือไม่ก็น่าเสียดายหากไม่ได้ประโยชน์เต็มที่
4 คำตอบ2025-11-08 17:01:36
บอกตรงๆว่าฉันเห็นคลิปยาวๆของเชฟกะปอมบ่อยที่สุดบน YouTube ซึ่งเป็นที่ที่เขาใส่รายละเอียดขั้นตอนจริงจังและมีการตัดต่อที่เอาใจคนอยากเรียนทำอาหารอย่างแท้จริง
สไตล์บนช่อง YouTube จะมีทั้งวิดีโอสอนทำจานหลักแบบเต็ม ๆ คลิปสาธิตเทคนิคการหั่น การปรับรส รวมถึงซีรีส์สั้น ๆ ที่เน้นเมนูตามเทศกาล ผมชอบที่เขามักลงสูตรละเอียดในคำอธิบายใต้คลิป ทำให้ฉันกลับมาทำตามได้ง่ายเวลาอยากทำ 'แกงเขียวหวาน' ในวันฝนตก การแบ่งเป็นบททำให้ดูตามได้ไม่งง และมักมีลิงก์ไปยังบล็อกของเขาซึ่งรวมสูตรฉบับพิมพ์และภาพประกอบครบถ้วน
โดยรวมสำหรับคนที่อยากดูทั้งภาพและคำอธิบายชัด ๆ ช่องหลักบน YouTube กับบล็อก/เว็บไซต์ของเชฟคือช่องทางที่ต้องตาม ถ้าชอบดูคลิปยาว ๆ และอ่านสูตรแบบละเอียดนี่คือที่ที่ฉันมักจะกลับไปบ่อยที่สุด