เพลงที่ผมให้เป็นไฮไลต์ของ '
ฉันกลายเป็น ตัวประกอบ ที่ตัว เอง เคยด่า' คงหนีไม่
พ้นแทร็กบรรเลงช้าๆ ที่โผล่มาพร้อมกับซีนการยอมรับตัวเองของตัวประกอบ—ท่อนไวโอลินที่ค่อยๆ เล่าความเปลี่ยนแปลงภายในได้ละเอียดมากกว่าคำพูดใดๆ
การเรียงเครื่องดนตรีในเพลงนี้น่าสนใจตรงที่ไม่พยายามตะโกนให้คนฟังสะดุ้ง แต่เลือกบรรยายแบบสีน้ำ คือมีเปียโนเป็นแกนกลาง เสริมด้วยสายเสียงอ่อนหวานที่พาดผ่านเหมือนแสงเช้ามาแตะผิวความคิด เป็นการใช้พื้นที่ว่างของเสียงเพื่อให้ความเงียบมีน้ำหนัก ซึ่งทำให้ฉากที่ตัวประกอบเผชิญกับคำด่าและคำตัดสินจากคนอื่นมีความเจ็บปวดที่กลมกล่อม ไม่ฉาบฉวย
ความทรงจำกับเพลงนี้ผมมักจะเชื่อมโยงกับฉากหนึ่งที่ตัวละครยืนนิ่งต่อหน้ากระจก—ไม่ใช่แค่การสะท้อนตัวตน แต่เป็นการตั้งคำถามว่าบทบาทที่ถูกสังคมมอบให้มันใช่ของจริงไหม โทนดุจดนตรีคลอช่วยผลักให้ภาพนั้นคงอยู่ในหัวนานกว่าเดิม คล้ายกับตอนที่ฟังเพลงจาก 'Violet Evergarden' ซึ่งใช้ดนตรีอารมณ์เดียวกัน แต่เพลงของเรื่องนี้มีความเรียบง่ายกว่า เลยรู้สึกเป็นมิตรกับผู้ชมมากขึ้น มันทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างอารมณ์ของตัวละครกับคนดูได้อย่างเงียบๆ แบบที่ผมชอบมาก
เมื่อเพลงวนกลับมาระหว่างเครดิตท้าย มันไม่ใช่แค่ซาวนด์แทร็กที่สวยงาม แต่น้ำหนักของมันเปลี่ยนความหมายของฉากทั้งหมดได้ เพลงนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ชัดว่าซีรีส์ไม่ต้องใช้เสียงดังหรือจังหวะเร็วเพื่อทำให้คนดูหัวใจเต้นเร็ว บางครั้งการให้พื้นที่เงียบและโน้ตที่วางอย่างระมัดระวังก็ทรงพลังพอจะทำให้ตัวประกอบกลายเป็นคนที่เราอยากติดตามต่อไป