คำพูดของเก็นเหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจของฟูมิโกะ ความกลัวยังคงเกาะกุมแน่น แต่ในคำพูดนั้นมีความมุ่งมั่นที่ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างประหลาด เก็นไม่ลังเล เขาคว้า มีดลงอาคม ขนาดเท่าฝ่ามือที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อออกมา ใบมีดสีเงินวาววับสะท้อนแสงสลัวๆ ของโถงทางเดิน มีอักขระโบราณสลักอยู่ทั่วด้ามจับ เขาจับมีดแน่น พลาง ตั้งท่าสู้ ร่างกายของเขานิ่งสงบราวกับเสือชีตาห์ที่พร้อมพุ่งทะยาน
ฟูมิโกะพยายามรวบรวมสติ แม้ขาทั้งสองข้างจะยังสั่นไม่หยุด เธอหลับตาลงชั่วขณะ ตั้งจิต ให้มั่นคง พลังงานบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นรอบกายเธออย่างช้าๆ เธอสัมผัสได้ถึงการไหลเวียนของมันในเส้นเลือด กำขวดใส่วิญญาณ ที่เอวแน่น ขวดแก้วเล็กๆ ที่มีสัญลักษณ์โบราณสลักอยู่เต็มใบ ราวกับเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวของเธอในตอนนี้ เงาปีศาจขนาดยักษ์พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่ไม่อาจคาดเดาได้ ร่างของมันดูเหมือนของเหลวสีดำที่พุ่งทะยานเข้ามา เสียงกรีดร้องของมันไม่ได้ดังออกมาจากลำคอ แต่เป็นเสียงที่ดังขึ้นในหัวของฟูมิโกะราวกับเสียงตะโกนจากขุมนรก เก็นพุ่งเข้าปะทะกับเงาปีศาจร่างยักษ์นั้นอย่างดุเดือด! เขาใช้ความคล่องตัวและไหวพริบหลบหลีกการโจมตีอันบ้าคลั่งของมัน แขนอันยาวเหยียดของเงาปีศาจฟาดฟันเข้าใส่เก็นอย่างไม่ยั้ง แต่เก็นก็สามารถพลิ้วหลบได้อย่างหวุดหวิดในทุกครั้ง มีดลงอาคมในมือของเขาส่องประกายสีเงินวูบวาบ ฟันเข้าใส่ร่างของเงามืด สร้างรอยแยกเล็กๆ บนผิวสัมผัสของมัน แต่ก็เพียงชั่วครู่ รอยแยกนั้นก็สมานตัวกลับเป็นเหมือนเดิม “ฟูมิโกะ! เร็วเข้า!” เก็นตะโกนบอก พลางฟาดมีดใส่เงาปีศาจอีกครั้ง ฟูมิโกะหลับตาลงอีกครั้ง พยายามท่องคาถาที่อาจารย์สอนมา เสียงคาถาที่เคยท่องได้อย่างราบรื่น ตอนนี้กลับติดขัดด้วยความตื่นตระหนก เธอต้องใช้สมาธิอย่างมากเพื่อควบคุมพลังงานที่กำลังหลั่งไหลออกมาจากตัวเธอ เพื่อสร้างอาณาเขตดูดดึงวิญญาณ การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด เก็นพยายามรักษาระยะห่าง ไม่ให้เงาปีศาจเข้าประชิดตัวได้ เขาหมุนตัวหลบหลีกการโจมตี พลางใช้มีดลงอาคมฟันเข้าใส่มันอย่างไม่หยุดหย่อน แม้มันจะไม่ได้ผลในทันที แต่เขาก็ต้องสร้างความเสียหายให้มากพอที่จะเปิดช่องให้ฟูมิโกะได้ แต่แล้ว! จู่ๆ เงาปีศาจก็เปลี่ยนจากร่างของเหลวที่พุ่งเข้าใส่ มาเป็นร่างที่แข็งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว มันใช้แขนที่ยาวเหยียดข้างหนึ่งคว้าเข้าที่คอของเก็นอย่างแรง ร่างของเก็นลอยขึ้นจากพื้นดิน เท้าของเขาลอยเคว้งคว้างอย่างช่วยไม่ได้ “แค่ก! อั่ก!” เสียงเก็นสำลักดังขึ้น ใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ ฟูมิโกะที่กำลังร่ายคาถาอยู่ เห็นเก็นถูกเงาปีศาจบีบคอ หัวใจของเธอหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ความกลัวพุ่งทะลุขีดสุดจนคาถาที่กำลังจะสำเร็จ เกิดการเสียสมาธิ แสงสีฟ้าอ่อนๆ ที่เริ่มแผ่ออกมาจากตัวเธอดับวูบลงทันที เก็นเห็นฟูมิโกะชะงักไป ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก แม้จะถูกบีบคอจนหายใจไม่ออก เขาก็พยายามรวบรวมลมหายใจเฮือกสุดท้าย ตะโกนเสียงแหบพร่าออกมาทันที อย่างกลัวว่าคาถาจะอ่อนลงจนไม่สามารถกางอาณาเขตดูดดึงวิญญาณใส่ขวดอาคมได้ “ฟูมิโกะ! อย่า… อย่าสนใจฉัน! ร่ายคาถาต่อไป!” เสียงของเก็นดังก้องอยู่ในโสตประสาทของฟูมิโกะ ราวกับเสียงสัญญาณเตือนภัยที่ทรงพลังที่สุด มันฉุดเธอให้กลับมาอยู่กับความเป็นจริง เธอเห็นดวงตาของเก็นที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังคงมุ่งมั่นและเชื่อมั่นในตัวเธอ ฟูมิโกะเม้มริมฝีปากแน่น เธอกัดฟันแน่นจนรู้สึกถึงรสเลือดในปาก พยายามผลักความกลัวทั้งหมดออกไปจากความคิด “ตกลง… เก็น… ฉันจะทำ!” เธอตอบรับเสียงแผ่ว แล้วหลับตาลงอีกครั้ง พยายามรวบรวมสมาธิทั้งหมดที่เหลืออยู่ ท่องคาถาต่อไป อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่าเดิม แสงสีฟ้าอ่อนๆ เริ่มกลับมาเรืองรองรอบกายเธออีกครั้ง และค่อยๆ แผ่ขยายออกไปช้าๆ ขณะเดียวกัน เก็นที่ถูกบีบคอจนร่างกายเริ่มอ่อนแรง ก็ รวบรวมแรงทั้งหมดที่มี เขาใช้มือข้างที่ถือมีดลงอาคมแทงเข้าไปในแขนของเงาปีศาจที่บีบคอเขาอยู่ แรงนั้นไม่ได้ทำให้มันบาดเจ็บมากนัก แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้มันรู้สึกเจ็บปวดชั่วขณะ และคลายแรงบีบลงไปได้เล็กน้อย นั่นคือโอกาส! เก็นใช้จังหวะที่เงาปีศาจคลายแรงบีบ ต่อสู้ดิ้นรนอย่างสุดกำลังจนหลุดพ้น จากการจับกุมของมันได้สำเร็จ เขาล้มลงไปกองกับพื้น แต่ก็รีบยันตัวลุกขึ้นทันที พลางกระโดดพุ่งเข้าใส่เงาปีศาจด้วยความเร็วที่เหนือกว่าปกติ เขารู้ดีว่ามีดลงอาคมไม่ได้สร้างความเสียหายทางกายภาพ แต่มันสามารถทำลาย ‘แกนกลาง’ หรือ ‘จุดอ่อน’ ของสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติได้ “อ๊ากกกกกก!” เก็นคำราม พลางง้างมีดลงอาคมขึ้นสุดแขน แล้ว แทงเข้าไปที่กลางหัวของมันอย่างสุดแรง! ทันทีที่คมมีดปักลงกลางหัวของเงาปีศาจ! เสียงกรีดร้องอันโหยหวนและน่าสะพรึงกลัว ก็ดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งโรงพยาบาลร้าง เสียงนั้นไม่ใช่เสียงที่เปล่งออกมาจากลำคอ แต่เป็นเสียงที่ดังออกมาจากทุกอณูของมัน ราวกับจิตวิญญาณนับพันกำลังถูกฉีกกระชาก ร่างของเงาปีศาจสั่นสะท้านอย่างรุนแรง พลางบิดเกลียวไปมาอย่างทรมาน แสงสีแดงฉานจากดวงตาของมันริบหรี่ลงอย่างรวดเร็ว พรึ่บ! เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา ร่างของมันก็แตกสลายกลายเป็นกลุ่มควันสีดำที่ลอยฟุ้งกระจาย ไปในอากาศอย่างรวดเร็ว มันไม่ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่กลับมีมวลพลังงานสีดำที่กำลังจะเลือนหายไปในอากาศ ฟูมิโกะที่เห็นร่างของเงาปีศาจแตกสลาย ก็รีบ เปิดขวดอาคมทันที! เธอชูขวดขึ้นไปในอากาศ แสงสีฟ้าอ่อนๆ ที่เรืองรองอยู่รอบตัวเธอ พุ่งเข้าไปในขวดราวกับลำแสงดูดดึง ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! มวลพลังงานสีดำที่กระจายอยู่ในอากาศ ถูกดูดเข้ามาในขวดอย่างรวดเร็วและรุนแรง ราวกับถูกดูดเข้าไปในสุญญากาศ จนกระทั่งพลังงานสีดำทั้งหมดหายไปจากอากาศ ขวดอาคมของฟูมิโกะเรืองแสงสีดำทึบขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาเป็นปกติ ฟูมิโกะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง เธอหอบหายใจอย่างหนัก แต่ริมฝีปากของเธอกลับคลี่ยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจและปิติ เธอชูขวดอาคมขึ้นมามอง แล้วหันไปทางเก็นที่กำลังพยุงตัวลุกขึ้นอย่างช้าๆ “เย้! เราทำได้แล้วเก็น!” ฟูมิโกะเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจสุดขีด น้ำตาคลอเบ้าด้วยความโล่งใจและความสำเร็จ เก็นเดินเข้ามาหาฟูมิโกะ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อและรอยขีดข่วน แต่ก็มีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก เขาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เธอ แล้วตบบ่าเธอเบาๆ “ยังก่อนฟูมิโกะ” เก็นเอ่ยเสียงทุ้ม “อย่าเพิ่งดีใจไป เจ้านี่… มันก็แค่พวกลูกสมุน” คำพูดของเก็นทำให้รอยยิ้มของฟูมิโกะหุบลงทันที ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ “หมายความว่า… หมายความว่ามันยังมีตัวที่เก่งกว่านี้อีกใช่ไหม?” ฟูมิโกะถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล เธอมองไปที่ขวดอาคมในมือ ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะหนักอึ้งขึ้นมาทันที เก็นพยักหน้าช้าๆ “ใช่ ฟูมิโกะ นี่อาจจะเป็นแค่ ‘ยาม’ ตัวแรกที่เราต้องเจอเท่านั้น” เขามองไปยังประตูบานใหญ่ที่เปิดอ้าอยู่เบื้องหลัง “แต่ไม่ต้องกลัว” เก็นหันกลับมาสบตาฟูมิโกะ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและจริงจัง “พวกเราจะจัดการมันทั้งหมด… และกลับไปอย่างปลอดภัย” เขาจับมือฟูมิโกะแน่นอีกครั้ง เพื่อส่งผ่านความเชื่อมั่นและกำลังใจทั้งหมดที่มีไปให้เธอแสงแรกของรุ่งอรุณสาดส่องผ่านหน้าต่างที่พังทลายของห้องผ่าตัด สาดไล่ความมืดมิดที่เคยปกคลุมโรงพยาบาลแห่งนี้มานานหลายทศวรรษให้จางหายไป ความเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่ฟูมิโกะและเก็นอย่างหนัก ทั้งคู่ล้มตัวลงนอนแผ่กับพื้นคอนกรีตเย็นเฉียบ หอบหายใจอย่างหนักหน่วง ราวกับเพิ่งผ่านการวิ่งมาราธอนอันยาวนาน แต่ในดวงตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความโล่งอกและความสุขที่ไม่สามารถบรรยายได้ฟูมิโกะหันไปมองเก็น ใบหน้าของเธอเปื้อนฝุ่นและมีรอยขีดข่วนเล็กน้อย แต่รอยยิ้มที่ปรากฏบนริมฝีปากกลับเปล่งประกายสดใส เก็นเองก็ยิ้มตอบ ดวงตาของเขายังคงฉายแววอ่อนเพลีย แต่ก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำสำเร็จ“เราทำได้จริงๆ ด้วยนะเก็น…” ฟูมิโกะพึมพำ เสียงของเธอแหบพร่าด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความตื้นตันใจ“ใช่ฟูมิโกะ… เราทำได้แล้ว” เก็นตอบ เสียงของเขาเองก็หอบไม่แพ้กัน “มันเป็นการต่อสู้ที่หนักหนาสาหัสที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย”ฟูมิโกะค่อยๆ หยิบ ขวดกักเก็บวิญญาณ ที่มีแสงสีเหลืองอำพันเรืองรองอยู่ภายในขึ้นมาดูด้วยรอยยิ้ม แสงนั้นอบอุ่นและบริสุทธิ์ ไม่ใช่แสงสีดำที่น่าขนลุกเหมือนตอนแรกอีกต่อไป“ในที่สุด… เหล่าวิญญาณก็ไ
เสียงทุบประตูห้องผ่าตัดยังคงดังกึกก้องไม่หยุดหย่อน ผนังห้องสั่นสะเทือนราวกับจะพังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ เก็นและฟูมิโกะนั่งพิงกำแพง หอบหายใจอย่างหนัก ร่างกายของพวกเขาเหนื่อยล้าเต็มทีจากบาดแผลและจากการต่อสู้ที่ไม่รู้จบกับ "นายใหญ่" ที่ยังคงกราดเกรี้ยวอยู่ภายนอก“เราจะทำยังไงดีเก็น?” ฟูมิโกะถาม เสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล เธอพลิกหน้าหนังสืออาคมอย่างรวดเร็ว ดวงตากวาดไปตามตัวอักษรโบราณพยายามหาวิธีที่จะเอาชนะนายใหญ่ได้เสียทีเก็นมองไปที่ประตูห้องผ่าตัด ผ้ายันต์ผืนที่สองที่แปะอยู่เริ่มเรืองแสงริบหรี่ลงแล้ว แสดงว่าพลังป้องกันของมันกำลังจะหมดลงในไม่ช้า “เราต้องหาทางหยุดมันให้ได้ก่อนที่มันจะบุกเข้ามา ฟูมิโกะ!”ตูม!ประตูห้องผ่าตัดถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนบานประตูเริ่มปริแตกออก เศษไม้กระเด็นเข้ามาในห้อง“มันใกล้จะพังแล้ว!” ฟูมิโกะอุทาน เธอกัดฟันแน่น พยายามรวบรวมสมาธิทั้งหมดที่มี เพื่ออ่านหนังสืออาคมให้เร็วที่สุดทันใดนั้น!ดวงตาของฟูมิโกะก็หยุดอยู่ที่หน้ากระดาษหน้าหนึ่ง! เธอจำได้ว่าเคยเห็นคาถานี้มาก่อน! มันเป็นคาถาที่ดูเหมือนจะไม่รุนแรงมาก แต่กลับมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ!“เก็น! ฉันเจอแล้ว!” ฟูมิโกะตะ
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่ผสมปนเปกับความชื้นและกลิ่นคาวเลือดจางๆ ยังคงคละคลุ้งอยู่ในห้องแล็บที่มืดมิด ฟูมิโกะกับเก็นนั่งอยู่บนพื้นคอนกรีตเย็นเฉียบ หอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้กับ "นายใหญ่" บนดาดฟ้า ผ้ายันต์ผืนที่สองที่แปะอยู่บนประตูกำลังเรืองแสงจางๆ เป็นเกราะป้องกันที่เปราะบาง แต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยได้ในตอนนี้“เราต้องหาผ้ายันต์อีกสองผืนให้เจอ” ฟูมิโกะบอก เสียงของเธอแหบพร่าเล็กน้อย เธอเปิดหนังสืออาคมเล่มหนาออกอีกครั้ง พยายามกวาดสายตาหาเบาะแสเก็นพยักหน้า เขายังคงกุมแขนที่บาดเจ็บจากกรงเล็บของนายใหญ่ “ใช่… ยิ่งเราได้ผ้ายันต์ครบเร็วเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีโอกาสโค่นมันได้มากเท่านั้น”“แต่ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่ฉันสัมผัสบนดาดฟ้า… มันหายไป” ฟูมิโกะพึมพำ “ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร หรือว่ามันทำงานยังไง”“อย่าเพิ่งคิดมากเรื่องนั้นเลยฟูมิโกะ” เก็นบอก “ตอนนี้เราต้องหาอีกสองผืนที่เหลือให้เจอ” เขามองไปที่นาฬิกาข้อมืออาคมของฟูมิโกะที่วางอยู่ข้างๆฟูมิโกะเห็นแล้ว ดวงตาของเธอเบิกกว้าง “จุดสีแดง! มันอยู่ที่ด้านหลังโรงพยาบาล! ทั้งสองจุดเลย!” เธอกรีดร้องด้วยความดีใจ“ด้านหลังโรงพยาบาลเหร
แสงจันทร์ส่องสลัวๆ ลงมาบนดาดฟ้าที่ทรุดโทรมของโรงพยาบาลร้าง เสียงลมยามค่ำคืนพัดหวีดหวิวราวกับเสียงกระซิบของเหล่าวิญญาณที่ถูกจองจำ เก็นและฟูมิโกะยืนเผชิญหน้ากับ “นายใหญ่” ร่างกายของมันสูงใหญ่กำยำ บิดเบี้ยวผิดรูป เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งราวกับหินผา ดวงตาสีแดงฉานคู่นั้นจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างอำมหิต พลังงานมืดมิดแผ่ออกมาจากร่างของมันอย่างมหาศาล จนอากาศรอบตัวรู้สึกหนักอึ้ง“เจ้า… จะต้องชดใช้… สำหรับสิ่งที่เจ้าทำ!” เสียงของนายใหญ่ดังก้องในหัวของฟูมิโกะและเก็น มันไม่ใช่เสียงพูดที่ออกมาจากลำคอ แต่เป็นเสียงที่ส่งตรงจากจิตใจ เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่รุนแรงจนน่าสะพรึงกลัวเก็นก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย มือหนึ่งกำมีดลงอาคมแน่น อีกมือหนึ่งถือผ้ายันต์แห่งสายฟ้าที่ยังคงเรืองแสงสีม่วงเข้ม “เรามาที่นี่เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของวิญญาณทุกดวงในโรงพยาบาลแห่งนี้! และเราจะไม่มีวันยอมให้เจ้าทำร้ายใครได้อีก!”“หึหึ… ไร้สาระ!” นายใหญ่หัวเราะเยาะ เสียงหัวเราะของมันแหบพร่าและน่าขนลุก “เจ้าคิดว่า… เจ้าจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ? ข้าคือ… ผู้ที่ควบคุมทุกสิ่งในสถานที่แห่งนี้! ข้าคือ… ผู้ที่สร้างพวกมันขึ้นมา!” มันยกแข
แสงจันทร์ส่องสลัวๆ ลงมาบนดาดฟ้าที่ทรุดโทรมของโรงพยาบาลร้าง เสียงลมยามค่ำคืนพัดหวีดหวิวราวกับเสียงกระซิบของเหล่าวิญญาณที่ถูกจองจำ เก็นและฟูมิโกะยืนเผชิญหน้ากับ “นายใหญ่” ร่างกายของมันสูงใหญ่กำยำ บิดเบี้ยวผิดรูป เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งราวกับหินผา ดวงตาสีแดงฉานคู่นั้นจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างอำมหิต พลังงานมืดมิดแผ่ออกมาจากร่างของมันอย่างมหาศาล จนอากาศรอบตัวรู้สึกหนักอึ้ง“เจ้า… จะต้องชดใช้… สำหรับสิ่งที่เจ้าทำ!” เสียงของนายใหญ่ดังก้องในหัวของฟูมิโกะและเก็น มันไม่ใช่เสียงพูดที่ออกมาจากลำคอ แต่เป็นเสียงที่ส่งตรงจากจิตใจ เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่รุนแรงจนน่าสะพรึงกลัวเก็นก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย มือหนึ่งกำมีดลงอาคมแน่น อีกมือหนึ่งถือผ้ายันต์แห่งสายฟ้าที่ยังคงเรืองแสงสีม่วงเข้ม “เรามาที่นี่เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของวิญญาณทุกดวงในโรงพยาบาลแห่งนี้! และเราจะไม่มีวันยอมให้เจ้าทำร้ายใครได้อีก!”“หึหึ… ไร้สาระ!” นายใหญ่หัวเราะเยาะ เสียงหัวเราะของมันแหบพร่าและน่าขนลุก “เจ้าคิดว่า… เจ้าจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ? ข้าคือ… ผู้ที่ควบคุมทุกสิ่งในสถานที่แห่งนี้! ข้าคือ… ผู้ที่สร้างพวกมันขึ้นมา!” มันยกแข
เสียงการต่อสู้ที่ดุเดือดดังมาจากชั้นล่างของโรงพยาบาลร้าง คลอไปกับเสียงฝีเท้าหนักอึ้งของ "นายใหญ่" ที่กำลังไล่ตามฟูมิโกะมาติดๆ บนดาดฟ้า ลมยามค่ำคืนพัดกรรโชกแรงจนเส้นผมของฟูมิโกะปลิวไสวไปตามแรงลม เธอยืนอยู่หน้า เสาล่อฟ้าขนาดใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางดาดฟ้า ผ้ายันต์ผืนที่หกเรืองแสงสีม่วงเข้มพร้อมกับสายฟ้าเล็กๆ ที่แลบแปลบปลาบอยู่รอบๆ ราวกับมันกำลังมีชีวิต"ผ้ายันต์ผืนนั้น… มันคงเป็นผ้ายันต์แห่งสายฟ้าแน่ๆ" ฟูมิโกะพึมพำกับตัวเอง เธอสัมผัสได้ถึงพลังงานที่มหาศาลจากผ้ายันต์ผืนนั้น พลังงานที่แตกต่างจากผ้ายันต์อื่นๆ ที่เธอเคยสัมผัสมาทั้งหมดตุบ! ตุบ! ตุบ!เสียงฝีเท้าหนักๆ ของ "นายใหญ่" ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มันกำลังปีนขึ้นมาบนบันไดที่นำไปสู่ดาดฟ้า"ไม่นะ… มันกำลังมาแล้ว!" ฟูมิโกะอุทานด้วยความตกใจ เธอรู้ว่าไม่มีเวลาลังเลอีกต่อไปแล้วทันใดนั้น!ร่างของเก็นก็พุ่งพรวดขึ้นมาบนดาดฟ้า! ใบหน้าของเขาซีดเซียวเล็กน้อย มีรอยเปื้อนฝุ่นและรอยขีดข่วนอยู่หลายแห่ง แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งกว่าเดิม เขากำมีดลงอาคมแน่นในมือ“ฟูมิโกะ! เธอไม่เป็นไรนะ?!” เก็นตะโกนถาม เสียงของเขาหอบเล็กน้อยจ