“พ..พอเลยค่ะ หยุดเต๊าะวิได้แล้ว”
วิเวียนยิ้มเขิน หัวใจดวงน้อยเต้นแข่งกันระรัวไม่เป็นจังหวะจนเกิดเสียงดังตุบตับอยู่ตรงกลางอก รีบหลบสายตาคนที่ผละใบหน้าออกห่างจากตนแล้วมามองหน้าเธอแทน แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้สัมผัสไกล้ชิดกับผู้ชายในระยะแบบนี้ แต่กับผู้ชายตรงหน้ากลับทำให้เธอผลอยหวั่นไหวไปด้วยแปลกๆ อีกคนก็เอาแต่ยิ้มกรุ่มกริ่มมองดูคนตัวเล็กกว่าด้วยแววตาเอ็นดูในท่าทางเขอะเขินของเธอ แถมสายตาที่มองมานั่นก็แพรวพราวเกินจนคนถูกมองรับรู้ได้โดยไม่ได้หันมองกลับ วิเวียนทำตัวไม่ถูกอยู่นานหลายวิจนต้องรีบยื่นช่อดอกไม้ในมือให้พร้อมบ่ายเบี่ยงหัวข้อสนทนา "น..นี่ค่ะ ดอกไม้ที่คุณสั่ง " " ขอบคุณครับ ฝีมือคุณไม่เคยทำให้ผมผิดหวังเลย ไว้พรุ่งนี้ว่างผมมาใหม่นะครับ " เซบาสเตียนรับมาพร้อมกล่าวขอบคุณ หยุดรุกแค่นี้ไปก่อนก็ได้ เพิ่งจะรู้จักกัน หากรีบร้อนเกินไปก็กังวลว่าวิเวียนจะรู้สึกอึดอัด ซึ่งเขาไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น “ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ” วิเวียนยิ้มรับตอบถ้อยเสียงนุ่มนวลสมกับบุคลิกนิสัยอันอ่อนโยนของเธอ นำพาคนฟังยิ้มหน้าบานจนแทบเก็บอาการไม่อยู่ หันหลังก้าวออกไปได้ไม่เกินสามก้าวก็ต้องหยุดชะงักหันกลับมามอง เมื่อมีชายรูปร่างสมส่วนคนหนึ่งเดินสวนเขาเข้ามาพร้อมกล่าวทักวิเวียนเหมือนรู้จักกันมาก่อน “สวัสดีครับคุณวิเวียน” เสียงจากชายแปลกหน้าดังก้อนเข้าโสทประสาทคนที่ตั้งท่าพร้อมเดินออกไป เป็นการอันต้องหันกลับมามองอย่างไว “อ้าว คุณแมกซ์ตัน มาซื้อดอกไม้หรอคะ” วิเวียนกล่าวทักทายตอบอย่างเป็นกันเองจนคนที่ยืนมองอยู่ไม่ไกล้ไม่ไกลคิ้วขมวดหากัน "ใช่ครับ ครั้งก่อนคุณจัดดอกไม้ให้แม่ผม เธอชอบมากเลยล่ะครับ” แมกซ์ตันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในขณะที่ตอบ ทำเอาเซบาสเตียนที่ยืนมองนึกหมั่นไส้ คงจะมาขายขนมจีบให้วิเวียนล่ะสิท่า ทำมาเป็นซื้อดอกไม้ให้แม่ เหอะ! เห็นแบบนี้จะยอมได้ยังไงกันล่ะ ไม่รอช้า เซบาสเตียนรีบก้าวเท้าเดินกลับเข้ามา เสียงฝีเท้าของเขาเรียกความสนใจจากสองคนที่ยืนคุยกันให้หันมามอง วิเวียนก็ต้องขมวดคิ้วบางขึ้นด้วยหน้าตาสงสัย เมื่อเขาเพิ่งจะก้าวออกไปได้ไม่ถึงสองนาที “ผมว่าจะซื้อดอกไม้อีกสักช่อน่ะครับ เอาไปให้แม่” เซบาสเตียนไขข้อสงสัยทันที พร้อมยิ้มทรงเสน่ห์ให้กับเจ้าของร้านดอกไม้ แข่งกับชายที่ยืนอยู่ข้างเขา ตราบไดที่คนอย่างเซบาสเตียนยังมีชีวิต ชายคนไหนก็อย่าหวังจะได้ผู้หญิงคนนี้ไปครอบครอง “เอ่อ… งั้นรอสักครู่นะคะ เดี๋ยววิจะรีบไปจัดการให้ทั้งสองคนเลยค่ะ “ วิเวียนยิ้มแห้ง เมื่อเห็นว่าชายสองคนชำเลืองมองกันแปลกๆ อย่างกับว่าเป็นศัตรูกันมาก่อนอย่างไงอย่างงั้น “ได้ครับ—” “ได้อยู่แล้วครับ คุณวิไม่ต้องรีบเลยครับ สำหรับคุณ ผมรอได้เสมอ” แมกซ์ตันเปร่งเสียงพูดยังไม่ทันพ้นคอก็ถูกเซบาสเตียนแทรกตัดบทขึ้นด้วยโทนเสียงนุ่มแทบจะแอ๊บเสียงสองเสียงสามเก่งกว่าผู้หญิงสะแล้วพ่อคุณเอ้ย “เอ่อ..ค่ะ งั้นนั่งรอกันก่อนนะคะ” วิเวียนทำหน้าแหยๆ ด้วยความประหม่ากับสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสดใสสักเท่าไหร่ ก่อนจะหันหลังก้าวออกไปจัดการหน้าที่ตัวเองให้ได้ไวที่สุด เพื่อที่จะแก้ปัญหาด้วยการส่งลูกค้ากลับไวๆ พอวิเวียนออกไปเท่านั้นแหละ ชายสองคนหันมองหน้ากันควับ ด้วยสายตาที่โครตจะบ่งบอกว่ามองหน้าหาเรื่องอ๋อ “มองอะไรไม่ทราบครับ” เป็นเซบาสเตียนที่เริ่มกวนประสาทด้วยคำถามที่ดูเหมือนจะสุภาพ ทว่าโทนเสียงนี่สิ กวนยิ่งเสียกว่าอะไร หากเป็นนักเลงข้างถนนคงได้แลกหมัดกันเข้าให้แล้ว “คุณเองก็มองนิครับ ไม่ทราบว่ามองอะไร” แมกซ์ตันเองไม่มีทางยอม กวนมากวนกลับ สวนตอบด้วยสีหน้าท่าทางที่พร้อมบวกทุกเวลา “อยากมองตายแหละครับ ก็แค่จะหันไปมองว่าแถวนี้มีนกมีกาอยู่รึเปล่า แต่ไม่ยักรู้ว่าจะมีคุณยืนอยู่เลยนะครับ “ เซบาสเตียนเผยสีหน้าทะเล้นตามประสาคนกวนประสาท สิ่งที่เขาอยากจะสื่อคือเตรียมตัวนกได้เลยหากคิดจะแข่งกับเขาเรื่องจีบวิเวียน “เหอะ… งั้นคุณคงต้องตายจริงๆแล้วแหละครับ เพราะผม… จีบสาวแล้วไม่เคยตายไม้ “ แมกซ์ตันสวน สีหน้าบ่งบอกถึงความมั่นอกมั่นใจ แต่ในความคิดอีกคนกลับกลายเป็นมั่นหน้ามากกว่านี่สิ “งั้นเราคงต้องมารอดูกันสักตั้งแล้วแหละครับ” เซบาสเตียนท้าทาย แล้วอีกคนก็ตอบรับทันทีด้วยความเป็นลูกผู้ชาย ไม่เคยจะกลัวเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว สายตาสองคู่ยังคงจ้องกันอย่างเอาเป็นเอาตาย จนกระทั่งวิเวียนเดินกลับมาพร้อมดอกไม้ในมือสองช่อที่เหมือนกันเป๊ะ เพราะเธอกลัวว่าสองคนจะนึกเคืองกันเหมือนเด็กขึ้นมา หากดอกไม้ของใครคนหนึ่งถูกมองว่าสวยกว่า “เอ่อ…” วิเวียนยิ้มแหยๆ ด้วยความประหม่า เมื่อดอกไม้ถึงในมือทั้งสองแล้วแต่ดูเหมือนสองคนไม่ได้จะสนใจดอกไม้นั่นเลย ไม่แม้แต่จะก้มมองมันตอนเธอยื่นให้ด้วยซํ้า ก็แหงสิ ในเมื่อมันเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อที่จะเข้าหาเจ้าของร้านชัดๆ “แฮ่ม.. ไม่ทราบว่าคุณว่างมากหรอครับ ดอกไม้ก็ได้ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วไม่คิดจะกลับรึยังไงกันครับ” เซบาสเตียนแขวะเสียงกวน “แล้วคุณล่ะครับ ไม่มีงานการรึยังไงกันครับ ถึงได้มายืนอยู่ตรงนี้ไม่รู้จักกลับ “ แมกซ์ตันแขวะกลับอย่างไม่ยอม “หึ… พอดีผมเป็นเจ้าของธุรกิจน่ะครับ จะเข้างานตอนไหนก็ย่อมได้” เซบาสเตียนตอบกลับท่าทางทะเล้นใช่ย่อยพรางกับยักไหล่ขึ้นเบาๆ เป็นการแสดงให้เห็นว่าเขานั้นไร้เรื่องราวต้องให้กังวล แถมยังเป็นการอวดคร่าวๆ ว่าตัวเองคู่ควรกับวิเวียนขนาดไหน ด้วยฐานะที่จะซื้อโลกทั้งใบให้เธอยังได้ เพียงขอแค่เธอเอ่ยปากว่าอยากได้เท่านั้น โลกใบนี้จะต้องมาตั้งไว้ตรงหน้าเธอทันที ก็พี่มันสายเปร์~~กรี๊ดดดดด!! “ที่รัก..ฮึกก อดทนอีกนิดนะครับทูลหัว” “เบ่งอีกนิดเดียวนะคะคุณแม่” “ฮึกกก อร๊ายยย!” ภายในห้องคลอดที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวายและเสียงกรี๊ดร้องของคนบนเตียง ผู้เป็นสามีเองมองดูภรรยาแล้วเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน หากเป็นไปได้เขาอยากจะเป็นคนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นด้วยซํ้า มือหนาคอยเช็ดเหงื่อจับมือและคอยลูบหัวทุยให้กำลังใจเธออยู่ไกล้ๆไม่ยอมห่าง เพียงเห็นความทรมานของเธอเขาไม่คิดอยากจะมีลูกอีกเลยด้วยซํ้า กรี๊ดดดด! อุแว้ อุแว้! เสียงกรี๊ดเฮือกสุดท้ายดังขึ้นก่อนจะดับลงและมีเสียงเด็กน้อยดังก้องขึ้นเรียกรอยยิ้มของคนทั้งห้องรวมถึงคนที่คอยรอลุ้นอยู่หน้าห้องก็ตาม “เก่งมากเลยที่รัก… เก่งมากครับ…“ มือหนายังคงคอยลูบหัวทุยเบาๆไม่หยุด ก้มหน้าจุ๊บเหม่งเธอเบาๆก่อนผู้เป็นแม่จะหมดสติไปทั้งรอยยิ้มและคราบนํ้าตาที่เปียกชุ่มสองพวงแก้ม . . . . . ”หลานรักของปู่~” “เจ้าจิ๋วของลุงงง” “เจ้าจิ๋วของหนูต่างหาก!” เสียงเกรี้ยวกราดถกเถียงกันดังแว่วเข้ามาในหูคนที่หลับไหลอยู่บนเตียง ก่อนเปลือกตาที่หนักอื้อจะค่อยๆลืมขึ้นมองภาพตรงหน้า ซึ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มของทั้งป๊า ซาร่าและโอท
“ที่รักตื่นพอดีเลย มาครับ ผมพาไปล้างหน้า” เซบาสเตียนเมื่อเดินเข้ามาในห้องก็กล่าวประโยคพาคนเพิ่งตื่นมึนงงอยู่บนเตียง ”วิทำเองได้ค่ะ ก็แค่ล้างหน้าเอง ทำไมต้องพาไป“ “ไม่ได้สิครับ เกิดที่รักลื่นแล้วคงตัวไม่อยู่ทำยังไง ให้ผมเฝ้าดีกว่า” ไม่พูดเปล่า เขารีบเดินแจ้นเข้ามาสอดมือเข้าไต้ขาเธอก่อนจะอุ้มพาเข้าห้องนํ้า จนคนที่ยังมึนๆจากการตื่นปฏิเสธไม่ทัน “เสร็จแล้วไปกินข้าวนะครับ ผมทำกับข้าวไว้เยอะเลย ผมไปเสริจกูเกิ้ลมาแล้วเค้าบอกว่าแต่ละอย่างดีต่อคนท้องมากๆ พอกินข้าวเสร็จแล้วเราไปฝากครรภ์กันนะครับ” วิเวียนที่ยืนแปรงฟันได้แต่ตั้งหูฟังเขาที่ยืนรออยู่ด้านหลังไปด้วย เขายืนรอเธออยู่แบบนั้นไม่ไปไหนจนเสร็จธุระแล้วลงมากินข้าว บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารอ่อนๆสารพัดที่เตรียมไว้เพื่อเธอโดยเฉพาะ จนวิเวียนต้องเงยหน้าถาม “แล้วคุณไม่กินหรอคะ” “ผมยังไม่หิวหรอก ที่รักกินให้อิ่มๆนะครับ เดี๋ยวผมกินต่อจากที่รักก็ได้” วิเวียนเงียบ ก้มหน้าตักข้าวเข้าปาก เพราะขืนมองหน้าแพรวพราวเขาต่อคงได้กลับไปเขินเหมือนตอนจีบกันแรกๆเป็นแน่ “ที่รักค่อยๆกินนะครับ เคี้ยวให้ละเอียดๆ“ เขาเหมือนพ่อที่คอยดูแลลูกสาวห้าขว
“ทำไมยังไม่กลับ…” คนรอก็ลุกรอนั่งรอยืนรอเดินรอวนอยู่แบบนั้นทั้งวันจนฟ้าเริ่มมืดก็ยิ่งใจคอไม่ดีเมื่อภรรยายังไม่ยอมกลับมาสักที หากจะไปตามก็กลัวเธอจะโกรธยิ่งกว่าเก่า แกร๊ก… เสียงประตูเปิดเหมือนหัวใจที่กระวนกระวายเมื่อครู่เลือนหายทันทีที่เห็นหน้าวิเวียน เซบาสเตียนรีบอมยิ้มแป้นเดินแจ้นเข้าไปรับคนที่เดินเข้ามา “ที่รัก“ ”เอ่อ… ที่รักเหนื่อยมั้ยครับ มานั่งก่อน“ รอยยิ้มดีใจกลายเป็นยิ้มเจื่อนทันทีเมื่อเห็นสายตานิ่งเรียบที่มองมาไม่เปลี่ยนสักที ”เดี๋ยวผมไปเอานํ้ามาให้นะ ที่รักนั่งรอก่อนนะครับ“ พูดแล้วรีบเดินแจ้นเข้าไปเอานํ้าในครัวดั่งว่ารีบร้อนกลัวเมียคอแห้งยังไงอย่างนั้น ส่วนวิเวียนนั้นได้แต่มองตามเงียบๆ เธอหนักใจอยู่ใช่เล่นกับสิ่งที่ตัดสินใจกำลังจะทำ ไม่ใช่เพื่อแก้แค้นหรือยังโกรธ แต่เพียงเพราะอยากจะมั่นใจเท่านั้น… “นํ้าครับ” แก้วนํ้าใสถูกยื่นให้กับคนบนโซฟา หญิงสาวรับมันมาอย่างว่าง่ายทว่าแทนที่เธอจะดื่มสักหน่อย กลับวางมันลงบนโต๊ะ คนมองก็เกิดน้อยใจก้มหน้างุดพร้อมรอยยิ้มที่หายไป “ฉันยังไม่หิวน่ะ” แต่พอได้ยินเสียงหวานของเธอเท่านั้นแหละ รีบเงยหน้ากลับมามองภรรยาตัวน้อยพร้อ
(สำหรับเมนูอาหารนี้นะคะ เราจะมาเริ่มจากการต้มนํ้าให้เดือดก่อน…) เสียงคริปทำอาหารในยูทูปดังแว่วออกมาจากโทรศัพท์มือถือของเซบาสเตียนที่ยืนตั้งหน้าตั้งตาทำตามอยู่ในครัว เป็นเวลาสามวันที่เขาหาข้ออ้างสารพัดมาต่อรองกับภรรยาเพื่ออยู่กับเธอต่อเพื่อดำเนินภารกิจง้อเมีย แล้วเช้านี้ชายหนุ่มก็วุ่นอยู่ในครัวคนเดียว ไม่รู้ว่านิ้วโดนมีดไปกี่ครั้ง เลือดซึมกี่ที่ เขาตั้งใจทำตามคลิปที่สอนจนเวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมง “ที่รักต้องชอบแน่ๆ” รอยยิ้มอิ่มใจปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อ เขายืนชื่นชมชามข้าวต้มฝีมือตัวเองที่ทำออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิตสีหน้าภูมิใจ หากเธอเห็นต้องชอบแน่ๆ เพราะวิเวียนชอบกินข้าวต้มหมูสับมาก ”เอ๊ะ.. แต่ว่าเหมือนลืมบางอย่าง“ เซบาสเตียนขมวดคิ้วเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ ลืมอะไรไม่ลืม แต่เขาลืมทำข้าวต้มเผื่อตัวเอง!! “แต่ช่างเถอะ ที่รักอิ่มก็พอ” ชายหนุ่มหันกลับมาสนใจชามข้าวต้มตรงหน้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอิ่มใจ ก่อนจะยกไปวางบนโต๊ะ เป็นเวลาที่วิเวียนเดินออกมาจากห้องนอนพอดี “ที่รัก ผมทำข้ามต้มที่คุณชอบไว้ให้ กำลังร้อนๆเลย” เสียงทุ้มรีบเอ่ยเรียกภรรยาด้วยความตื่นเต้นอย่างลืมตัว ลืมไปว่
“ที่รัก…ฮึกก.. ผม——“ ”ไม่ต้องพูดแล้ว ฮึกก.. ไปโรงพยาบาล“ คนตัวเล็กโน้มตัวลงพยุงเขาลุกขึ้นจากพื้นทั้งนํ้าตา เสียงสะอื้นเบาๆสองคนประสานกันราวกับบทเพลงแห่งความเจ็บปวดที่ไม่มีใครได้ยิน “มีอะไรก็ค่อยๆคุยกันล่ะโยม“ ส่วนหลวงตาที่ยืนมองอยู่เงียบๆก็พอจะเข้าใจถึงสถานการณ์บ้างแล้วจึงกล่าวตักเตือนไปในทางที่ดีแล้วก้าวจากไป “ฮึกก..ที่รักหายโกรธผมแล้วใช่มั้ย” แววตาเขาที่มองเธอเต็มไปด้วยความหวัง เสียงที่ถามก็สั่นเครือเฝ้ารอคำตอบจากเธอ “บอกว่าอย่าเพิ่งพูดไง” “ครับ.. ฮึกก ผมจะฟังที่รัก” หญิงสาวเม้มปากแน่น เวลานี้เขาเหมือนเด็กที่กลัวแม่จะจากไปจึงยอมเชื่อฟังทุกคำพูด ภายในอกเกิดรู้สึกผิดที่แอบตำหนิเขาไปนิดๆ . . . . . “รบกวนคนไข้นอนลงก่อนนะครับ หมอต้องทำการฆ่าเชื้อให้ก่อน ดูแล้วน่าจะติดเชื้อแรงเลยล่ะครับ มีทั้งหินทั้งทรายเต็มไปหมด” เซบาสเตียนยอมนอนราบลงกับเตียงคนไข้ พื้นที่ที่เขาไม่ชอบที่สุด เงยหน้ามองวิเวียนที่ยืนดูอยู่ข้างเตียงตาแป๋วจนอีกคนต้องหลุบตาหนี “ที่รัก…” แต่แล้วเขาก็ยื่นมือไปจับชายเชื้อเธอเบาๆด้วยเสียงเรียกที่แผ่วเบาดั่งว่าเด็กน้อยที่กำลังอยากร้องขออะไรสักอ
“ไปเลยค่ะ” เสียงสั่นสะท้านเอ่ยบอกคนขับแท็กซี่ สองมือกำกันแน่นหวังให้หัวใจที่เริ่มอ่อนระทวยไม่พังทะลายลงง่ายๆ วิเวียนหลับตาลงเพื่อปิดกั้นตัวเองจากภาพในกระจกที่สะท้อนถึงเงาของเขาที่กำลังวิ่งตามรถเธอด้วยเท้าเปล่า “อย่าทิ้งผม.. ฮึกก” เขาตะโกนตามหลังเธอซํ้าๆจนแรงเสียงแทบเลือนหายกลับเข้าไปในหลอดคอ เซบาสเตียนวิ่งตามหลังออกมาด้วยเท้าเปล่าไม่สนเศษหินเศษทรายที่ทะลุผิวเนื้อ เลือดไหลซึมออกมาเป็นทางยาว ทว่าเขายังวิ่ง… วิ่งด้วยหัวใจที่ปวดร้าวยิ่งกว่าเท้าที่กำลังฉีกขาด “ฮึกก… ที่รักอย่าไป ฮึกกก“ เซบาสเตียนแทบจะทรุดอยู่กลางทาง แต่หัวใจกลับสู้ไม่ยอมลดละความพยายาม เขาจะมานั่งร้องไห้อยู่กลางถนนแบบนี้ไม่ได้ เมื่อนึกขึ้นได้ก็รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายที่มีทั้งใจแล้วลุกขึ้นโบกแท็กซี่รีบตามหลังเธอไปอย่างไม่ยอมถอย รถแท็กซี่คันสีฟ้าที่นำหน้าอีกคนเข้ามาจอดเทียบท่าหน้าบ้านวิเวียนก่อนจะมีอีกคนที่ตามหลังเข้ามาไม่นานหลังจากนั้น วิเวียนรีบเดินเข้าบ้านในขณะที่มีเขาตามหลังมาด้วยเสียงเรียกเบาแผ่วสิ้นเรี่ยวแรง ”ที่รัก… ได้โปรดฮึกกก“ เท้าที่เจ็บแสบจนเดินได้ไม่ถนัด แต่เขาก็ยังดึงดันเดินตามเธอมาจนถึงเส้นทา