แชร์

บทที่ 9 หัวใจเต้นเหมือนเจอเจ้าของ

ผู้เขียน: Milady
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-25 19:41:18

“แต่ถึงยังไงก็เถอะ คราวหน้าคราวหลังก็รู้จักหน้าที่การงานตัวเองบ้าง”

ชายวัยกลางเมื่อนึกได้ก็หันมาติลูกชาย โตเท่าควายแต่ยังไม่รู้จักรับผิดชอบเวลา แต่มีหรือคนที่ถูกแม่ตามใจมาแต่เด็กอย่างเซบาสเตียนจะฟัง

"คราวหน้าก็คงต้องเป็นอันรบกวนท่านเบรย์อีกเช่นเคยน่ะสิครับ"

ถ้อยคำสุภาพถูกเอ่ยออกมา แต่มันช่างแตกต่างกับนํ้าเสียงและท่าทางที่โครตจะกวนเส้นประสาทผู้เป็นบิดา หากนี่ไม่ใช่กิจวัตรประจำวันที่ชายวัยกลางต้องเจอ ปากกาที่วางอยู่เบื้องหน้าคงได้ปริวไปโดนเบ้าหน้าลูกชายทันที

“เออ ช่างเถอะ พูดไปก็มีแต่เปลืองนํ้าลายกูเปล่า”

เบรย์เดนถอนหายใจเฮือกใหญ่ คงจะไปหวังเอาประโยชน์อะไรจากมันไม่ได้ พูดไปก็มีแต่จะเปลืองลมปากเปล่าๆ ความผิดเขาเองที่ปล่อยให้ภรรยาตามใจลูกชายจนเคยตัว แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ ก็คนมันรักมันบูชามันเชิ่ดชูเมียยิ่งกว่าเทพเจ้า

“ใช่มั้ยล่ะครับ ขนาดป๊ายังฟังแค่แม่เลย เพราะงั้นผมก็จะฟังแต่คำสั่งเมีย”

เซบาสเตียนยิ้มกริ่มกับคำตอบตัวเอง ภูมิใจเหลือเกินที่ได้โตขึ้นมากับความคิดแบบนี้ ทำเอาชายวัยกลางเถียงไม่ออกเลยมั้ยล่ะ ก็ที่ลูกพูดมีส่วนไหนบ้างที่ผิด ความจริงทั้งนั้น

“เอาเถอะ เห็นหน้าแกแล้วสมองฉันไม่เคยจะโล่ง ดอกไม้นี่แกก็เอาไปให้แม่แกเองแล้วกัน”

กล่าวเสร็จเบรย์เดนดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้พร้อมจัดคอเสื้อสูทด้วยท่าทางทรงเสน่ห์ ตัวเลขอายุไม่ได้ทำลายความเป็นเจ้าพ่อของเขาได้เลย

“ขอบคุณอย่างยิ่งที่สละเวลามาทำงานแทนผมด้วยนะครับ”

เซบาสเตียนยิ้มกรุ่มกริ่มยันนาทีสุดท้ายที่ฝีเท้ายาวก้าวผ่านประตูออกไปจนลับตา วันนี้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษจนแทบจะหุบยิ้มไม่ได้เลยจริงๆ นึกแล้วก็ไปนั่งทำงานหน่อยดีกว่า แล้วค่อยไปเยี่ยมแม่ก่อนที่ดอกไม้สวยๆ จะเหี่ยวเอาสะก่อน

“บอสจะไปไหนต่อรึเปล่าครับ”

รอยรีบเอ่ยถาม เมื่อเห็นเจ้านายเดินออกมาจากห้องทำงานท่าทางเหมือนทุกครั้งที่ทำงานเสร็จแล้วเตรียมพร้อมเลิกงาน

“ไปหาแม่”

ทันทีที่ตอบคำถามลูกน้องเสร็จก็เดินออกไปพร้อมช่อดอไม้สีขาวสะอาดตาที่ถืออยู่ในมือทันที

“ครับ”

รอยรู้หน้าที่ตัวเองดี เมื่อได้ยินคำตอบที่เปรียบเสมือนคำสั่งก็รีบเดินตามหลังเจ้านายออกไปต้อยๆ

ไม่นานรถคันหรูก็ถูกขับเคลื่อนเข้ามาจอดกลางสถานที่แห่งหนึ่ง เท้ายาวรีบก้าวลงจากรถแล้วเดินเข้าไป ภายในเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวกระจับกับต้นไม้ล้อมรอบจนสัมผัสได้ถึงความสงบ ทว่าท่ามกลางความสงบนั้นกลับได้รับถึงความวังเวงหดหู่ที่เกิดขึ้นภายในใจ สองฝีเท้าก้าวเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้ารูปปั้นหินอ่อนที่ตั้งไว้ไม่ไกลจากทางเดินเข้ามา ซึ่งคือสุสานของผู้เป็นมารดาเขา…

เซบาสเตียนนั่งคุกเข่าลงพรางมองรูปปั้นหินตรงหน้าด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ ทักทายมารดากับแววตาคู่ที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก

“แม่ครับ… ผมเอาดอกไม้ที่แม่ชอบมาให้นะครับ แล้วก็มีเรื่องมาเล่าให้แม่ฟังด้วย…”

ช่อดอกไม้สีขาวถูกวางลงเบาๆ ก่อนนํ้าเสียงแผ่วเบาจากอีกคนจะเปร่งขึ้นพร้อมเล่าเรื่องราวชีวิตให้คนที่จากไปฟัง

“แม่รู้มั้ยครับ… ว่าผมได้เจอกับผู้หญิงในแบบที่แม่อยากได้เป็นลูกสะใภ้มาตลอด เธอสวยทั้งกายแล้วก็จิตใจ แถมยังอ่อนโยนเหมือนแม่เลยครับ โดยเฉพาะรอยยิ้มที่สามารถเปลี่ยนโลกทั้งใบของคนๆหนึ่งได้…”

ชายหนุ่มเล่าไปก็ยิ้มไป เมื่อนึกถึงทีไร ภาพในหัวมันก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานของผู้หญิงคนนั้น หากเขาได้รับการตอบโต้จากมารดาบ้างโดยไม่ใช่แค่ต้องเป็นฝ่ายเล่าอย่างเดียวโดยได้รับคำตอบเป็นความเงียบ… มันจะดีขนาดไหนกันเชียว

“แต่น่าเสียดายนะครับ ที่แม่ไม่สามารถอยู่รอจนได้เห็นผมแต่งงานกับผู้หญิงในแบบที่แม่หมายปอง ไว้ผมจีบเธอติดเมื่อไหร่ ผมจะพาเธอมาหาแม่นะครับ…”

ดวงตาเริ่มแดงกํ่าคลอเบ้าด้วยนํ้าสีใสที่รินออกมาดื้อๆ ยิ่งพูดเสียงที่ลอดออกมาจากลำคนก็ยิ่งเบาลงเหมือนคนหมดเรี่ยวแรงลงเรื่อยๆ เขาเจ็บปวดเสมอกับการจากลาของมารดา แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแล้วก็ตาม

เคร๊ก!

ในเวลาเดียวกันที่เเซบาสเตียนก้มหน้าเศร้า ทว่าดูเหมือนแม่จะเป็นใจ ส่งกำลังใจมาให้เขาทันที เมื่อเงยหน้าหันมองตามเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาไกล้ ก็ต้องตาสว่างทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นวิเวียน หัวใจดวงใหญ่พองโตขึ้นมาทันที รีบดีดตัวลุกขึ้นทักทาย

“คุณวิ…”

คิ้วเข้มขมวดเข้ากันพร้อมแสดงสีหน้าสงสัย เมื่อในมือน้อยๆ กำลังถือช่อดอกไม้บริสุทธิ์อยู่สองช่อ เหมือนว่าจุดหมายที่มาที่นี่จะไม่ต่างกันกับเขาเลย

“อ้าวคุณบาส... พอดีว่าวิมาเยี่ยมพ่อกับแม่น่ะค่ะ”

วิเวียนยิ้มอ่อนในขณะที่ไขข้อสงสัยให้กับชายตรงหน้า สิ่งหนึ่งที่น่าทึ่งของผู้หญิงคนนั้นคือ เธอมักจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสดใสเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม นำพาคนรอบข้างอุ่นใจไปด้วยอย่างบอกไม่ถูก ต่างกับเขาที่เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่เก็บอารมณ์ความรู้สึกไม่เก่งเอาสะเลย พูดแล้วก็น่าอายจริงๆ

“งั้น…. ผมขอไปเยี่ยมพวกท่านด้วยได้มั้ยครับ”

ชายหนุ่มไม่รอช้าที่จะคว้าโอกาสเข้าสู่ตัว

“ได้สิคะ”

วิเวียนตอบรับเสียงหวาน ก็แล้วมันมีเหตุผลอะไรที่จะไปไม่ได้ด้วยล่ะ สองคนเดินเคียงคู่กันออกไป หากไม่รู้คงนึกว่าคู่สามีภรรยานำดอกไม้มาเยี่ยมคนจากไปด้วยกัน แต่ใครจะรู้ล่ะ ว่าทุกอย่างเป็นความบังเอิญ หรืออาจจะถูกโชคชะตากำหนดไว้แล้วแต่แรก

“ผม… เสียใจด้วยนะครับ”

เวลานี้ทั้งคู่นั่งคุกเข่าอยู่ด้วยกันหน้ารูปปั้นหินที่ถูกตั้งติดกันเอาไว้เป็นคู่ เซบาสเตียนกล่าวเสียงเบา พร้อมหันมองหญิงข้างๆ ที่มองตรงไปยันสุสานคู่ของผู้ให้กำเนิด

“ขอบคุณนะคะ แต่วิไม่เป็นไรแล้วล่ะค่ะ พวกท่านจากวิไปตั้งแต่อายุเก้าขวบ… มันกลายเป็นความเคยชินไปแล้วล่ะค่ะ “

วิเวียนยิ้มอ่อน เธอเรียนรู้ที่จะเติบโตมาด้วยตัวเองตั้งแต่อายุยังไม่ก้าวเข้าสิบขวบ และเธอก็ภูมิใจกับมันอยู่เสมอ ที่สามารถเติบโตมาในทางที่ดีได้ เธอเลือกที่จะใจดีกับโลกใบนี้ แม้มันจะโหดร้ายกับเธอไปบ้างในบางครั้ง ความสดใสของเธอผลอยเรียกรอยยิ้มจากคนข้างๆมาด้วย เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่เต็มไปด้วยพลังบวกขนาดนี้มาก่อน เมื่อเทียบกับความยากลำบากที่วิเวียนเคยเจอมา เรื่องที่เขาท้อแท้อยู่ในทุกวันนี้มันเทียบไม่ได้เลยสักนิด แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ยังคงไม่เคยขาดรอยยิ้มที่มาจากก้นบึ้งในหัวใจ ทำให้หัวใจดวงใหญ่เต้นตุบตับยิ่งกว่าเดิม เหมือนมันต้องการจะบ่งบอกว่าเจอเจ้าของเข้าให้แล้วจริงๆ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Obsessed มาเฟียผู้เชิ่ดชูเมียดั่งเทพธิดา   Special END

    กรี๊ดดดดด!! “ที่รัก..ฮึกก อดทนอีกนิดนะครับทูลหัว” “เบ่งอีกนิดเดียวนะคะคุณแม่” “ฮึกกก อร๊ายยย!” ภายในห้องคลอดที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวายและเสียงกรี๊ดร้องของคนบนเตียง ผู้เป็นสามีเองมองดูภรรยาแล้วเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน หากเป็นไปได้เขาอยากจะเป็นคนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นด้วยซํ้า มือหนาคอยเช็ดเหงื่อจับมือและคอยลูบหัวทุยให้กำลังใจเธออยู่ไกล้ๆไม่ยอมห่าง เพียงเห็นความทรมานของเธอเขาไม่คิดอยากจะมีลูกอีกเลยด้วยซํ้า กรี๊ดดดด! อุแว้ อุแว้! เสียงกรี๊ดเฮือกสุดท้ายดังขึ้นก่อนจะดับลงและมีเสียงเด็กน้อยดังก้องขึ้นเรียกรอยยิ้มของคนทั้งห้องรวมถึงคนที่คอยรอลุ้นอยู่หน้าห้องก็ตาม “เก่งมากเลยที่รัก… เก่งมากครับ…“ มือหนายังคงคอยลูบหัวทุยเบาๆไม่หยุด ก้มหน้าจุ๊บเหม่งเธอเบาๆก่อนผู้เป็นแม่จะหมดสติไปทั้งรอยยิ้มและคราบนํ้าตาที่เปียกชุ่มสองพวงแก้ม . . . . . ”หลานรักของปู่~” “เจ้าจิ๋วของลุงงง” “เจ้าจิ๋วของหนูต่างหาก!” เสียงเกรี้ยวกราดถกเถียงกันดังแว่วเข้ามาในหูคนที่หลับไหลอยู่บนเตียง ก่อนเปลือกตาที่หนักอื้อจะค่อยๆลืมขึ้นมองภาพตรงหน้า ซึ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มของทั้งป๊า ซาร่าและโอท

  • Obsessed มาเฟียผู้เชิ่ดชูเมียดั่งเทพธิดา   บทที่ 58 กลับบ้านเรากัน ตอนจบ

    “ที่รักตื่นพอดีเลย มาครับ ผมพาไปล้างหน้า” เซบาสเตียนเมื่อเดินเข้ามาในห้องก็กล่าวประโยคพาคนเพิ่งตื่นมึนงงอยู่บนเตียง ”วิทำเองได้ค่ะ ก็แค่ล้างหน้าเอง ทำไมต้องพาไป“ “ไม่ได้สิครับ เกิดที่รักลื่นแล้วคงตัวไม่อยู่ทำยังไง ให้ผมเฝ้าดีกว่า” ไม่พูดเปล่า เขารีบเดินแจ้นเข้ามาสอดมือเข้าไต้ขาเธอก่อนจะอุ้มพาเข้าห้องนํ้า จนคนที่ยังมึนๆจากการตื่นปฏิเสธไม่ทัน “เสร็จแล้วไปกินข้าวนะครับ ผมทำกับข้าวไว้เยอะเลย ผมไปเสริจกูเกิ้ลมาแล้วเค้าบอกว่าแต่ละอย่างดีต่อคนท้องมากๆ พอกินข้าวเสร็จแล้วเราไปฝากครรภ์กันนะครับ” วิเวียนที่ยืนแปรงฟันได้แต่ตั้งหูฟังเขาที่ยืนรออยู่ด้านหลังไปด้วย เขายืนรอเธออยู่แบบนั้นไม่ไปไหนจนเสร็จธุระแล้วลงมากินข้าว บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารอ่อนๆสารพัดที่เตรียมไว้เพื่อเธอโดยเฉพาะ จนวิเวียนต้องเงยหน้าถาม “แล้วคุณไม่กินหรอคะ” “ผมยังไม่หิวหรอก ที่รักกินให้อิ่มๆนะครับ เดี๋ยวผมกินต่อจากที่รักก็ได้” วิเวียนเงียบ ก้มหน้าตักข้าวเข้าปาก เพราะขืนมองหน้าแพรวพราวเขาต่อคงได้กลับไปเขินเหมือนตอนจีบกันแรกๆเป็นแน่ “ที่รักค่อยๆกินนะครับ เคี้ยวให้ละเอียดๆ“ เขาเหมือนพ่อที่คอยดูแลลูกสาวห้าขว

  • Obsessed มาเฟียผู้เชิ่ดชูเมียดั่งเทพธิดา   บทที่ 57 กอดที่โหยหา

    “ทำไมยังไม่กลับ…” คนรอก็ลุกรอนั่งรอยืนรอเดินรอวนอยู่แบบนั้นทั้งวันจนฟ้าเริ่มมืดก็ยิ่งใจคอไม่ดีเมื่อภรรยายังไม่ยอมกลับมาสักที หากจะไปตามก็กลัวเธอจะโกรธยิ่งกว่าเก่า แกร๊ก… เสียงประตูเปิดเหมือนหัวใจที่กระวนกระวายเมื่อครู่เลือนหายทันทีที่เห็นหน้าวิเวียน เซบาสเตียนรีบอมยิ้มแป้นเดินแจ้นเข้าไปรับคนที่เดินเข้ามา “ที่รัก“ ”เอ่อ… ที่รักเหนื่อยมั้ยครับ มานั่งก่อน“ รอยยิ้มดีใจกลายเป็นยิ้มเจื่อนทันทีเมื่อเห็นสายตานิ่งเรียบที่มองมาไม่เปลี่ยนสักที ”เดี๋ยวผมไปเอานํ้ามาให้นะ ที่รักนั่งรอก่อนนะครับ“ พูดแล้วรีบเดินแจ้นเข้าไปเอานํ้าในครัวดั่งว่ารีบร้อนกลัวเมียคอแห้งยังไงอย่างนั้น ส่วนวิเวียนนั้นได้แต่มองตามเงียบๆ เธอหนักใจอยู่ใช่เล่นกับสิ่งที่ตัดสินใจกำลังจะทำ ไม่ใช่เพื่อแก้แค้นหรือยังโกรธ แต่เพียงเพราะอยากจะมั่นใจเท่านั้น… “นํ้าครับ” แก้วนํ้าใสถูกยื่นให้กับคนบนโซฟา หญิงสาวรับมันมาอย่างว่าง่ายทว่าแทนที่เธอจะดื่มสักหน่อย กลับวางมันลงบนโต๊ะ คนมองก็เกิดน้อยใจก้มหน้างุดพร้อมรอยยิ้มที่หายไป “ฉันยังไม่หิวน่ะ” แต่พอได้ยินเสียงหวานของเธอเท่านั้นแหละ รีบเงยหน้ากลับมามองภรรยาตัวน้อยพร้อ

  • Obsessed มาเฟียผู้เชิ่ดชูเมียดั่งเทพธิดา   บทที่ 56 เรื่องที่ไม่คาดคิด

    (สำหรับเมนูอาหารนี้นะคะ เราจะมาเริ่มจากการต้มนํ้าให้เดือดก่อน…) เสียงคริปทำอาหารในยูทูปดังแว่วออกมาจากโทรศัพท์มือถือของเซบาสเตียนที่ยืนตั้งหน้าตั้งตาทำตามอยู่ในครัว เป็นเวลาสามวันที่เขาหาข้ออ้างสารพัดมาต่อรองกับภรรยาเพื่ออยู่กับเธอต่อเพื่อดำเนินภารกิจง้อเมีย แล้วเช้านี้ชายหนุ่มก็วุ่นอยู่ในครัวคนเดียว ไม่รู้ว่านิ้วโดนมีดไปกี่ครั้ง เลือดซึมกี่ที่ เขาตั้งใจทำตามคลิปที่สอนจนเวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมง “ที่รักต้องชอบแน่ๆ” รอยยิ้มอิ่มใจปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อ เขายืนชื่นชมชามข้าวต้มฝีมือตัวเองที่ทำออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิตสีหน้าภูมิใจ หากเธอเห็นต้องชอบแน่ๆ เพราะวิเวียนชอบกินข้าวต้มหมูสับมาก ”เอ๊ะ.. แต่ว่าเหมือนลืมบางอย่าง“ เซบาสเตียนขมวดคิ้วเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ ลืมอะไรไม่ลืม แต่เขาลืมทำข้าวต้มเผื่อตัวเอง!! “แต่ช่างเถอะ ที่รักอิ่มก็พอ” ชายหนุ่มหันกลับมาสนใจชามข้าวต้มตรงหน้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอิ่มใจ ก่อนจะยกไปวางบนโต๊ะ เป็นเวลาที่วิเวียนเดินออกมาจากห้องนอนพอดี “ที่รัก ผมทำข้ามต้มที่คุณชอบไว้ให้ กำลังร้อนๆเลย” เสียงทุ้มรีบเอ่ยเรียกภรรยาด้วยความตื่นเต้นอย่างลืมตัว ลืมไปว่

  • Obsessed มาเฟียผู้เชิ่ดชูเมียดั่งเทพธิดา   บทที่ 55 เมียไม่ให้อภัย

    “ที่รัก…ฮึกก.. ผม——“ ”ไม่ต้องพูดแล้ว ฮึกก.. ไปโรงพยาบาล“ คนตัวเล็กโน้มตัวลงพยุงเขาลุกขึ้นจากพื้นทั้งนํ้าตา เสียงสะอื้นเบาๆสองคนประสานกันราวกับบทเพลงแห่งความเจ็บปวดที่ไม่มีใครได้ยิน “มีอะไรก็ค่อยๆคุยกันล่ะโยม“ ส่วนหลวงตาที่ยืนมองอยู่เงียบๆก็พอจะเข้าใจถึงสถานการณ์บ้างแล้วจึงกล่าวตักเตือนไปในทางที่ดีแล้วก้าวจากไป “ฮึกก..ที่รักหายโกรธผมแล้วใช่มั้ย” แววตาเขาที่มองเธอเต็มไปด้วยความหวัง เสียงที่ถามก็สั่นเครือเฝ้ารอคำตอบจากเธอ “บอกว่าอย่าเพิ่งพูดไง” “ครับ.. ฮึกก ผมจะฟังที่รัก” หญิงสาวเม้มปากแน่น เวลานี้เขาเหมือนเด็กที่กลัวแม่จะจากไปจึงยอมเชื่อฟังทุกคำพูด ภายในอกเกิดรู้สึกผิดที่แอบตำหนิเขาไปนิดๆ . . . . . “รบกวนคนไข้นอนลงก่อนนะครับ หมอต้องทำการฆ่าเชื้อให้ก่อน ดูแล้วน่าจะติดเชื้อแรงเลยล่ะครับ มีทั้งหินทั้งทรายเต็มไปหมด” เซบาสเตียนยอมนอนราบลงกับเตียงคนไข้ พื้นที่ที่เขาไม่ชอบที่สุด เงยหน้ามองวิเวียนที่ยืนดูอยู่ข้างเตียงตาแป๋วจนอีกคนต้องหลุบตาหนี “ที่รัก…” แต่แล้วเขาก็ยื่นมือไปจับชายเชื้อเธอเบาๆด้วยเสียงเรียกที่แผ่วเบาดั่งว่าเด็กน้อยที่กำลังอยากร้องขออะไรสักอ

  • Obsessed มาเฟียผู้เชิ่ดชูเมียดั่งเทพธิดา   บทที่ 54 ขอแค่คุณหายโกรธผมจะทำทุกอย่าง

    “ไปเลยค่ะ” เสียงสั่นสะท้านเอ่ยบอกคนขับแท็กซี่ สองมือกำกันแน่นหวังให้หัวใจที่เริ่มอ่อนระทวยไม่พังทะลายลงง่ายๆ วิเวียนหลับตาลงเพื่อปิดกั้นตัวเองจากภาพในกระจกที่สะท้อนถึงเงาของเขาที่กำลังวิ่งตามรถเธอด้วยเท้าเปล่า “อย่าทิ้งผม.. ฮึกก” เขาตะโกนตามหลังเธอซํ้าๆจนแรงเสียงแทบเลือนหายกลับเข้าไปในหลอดคอ เซบาสเตียนวิ่งตามหลังออกมาด้วยเท้าเปล่าไม่สนเศษหินเศษทรายที่ทะลุผิวเนื้อ เลือดไหลซึมออกมาเป็นทางยาว ทว่าเขายังวิ่ง… วิ่งด้วยหัวใจที่ปวดร้าวยิ่งกว่าเท้าที่กำลังฉีกขาด “ฮึกก… ที่รักอย่าไป ฮึกกก“ เซบาสเตียนแทบจะทรุดอยู่กลางทาง แต่หัวใจกลับสู้ไม่ยอมลดละความพยายาม เขาจะมานั่งร้องไห้อยู่กลางถนนแบบนี้ไม่ได้ เมื่อนึกขึ้นได้ก็รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายที่มีทั้งใจแล้วลุกขึ้นโบกแท็กซี่รีบตามหลังเธอไปอย่างไม่ยอมถอย รถแท็กซี่คันสีฟ้าที่นำหน้าอีกคนเข้ามาจอดเทียบท่าหน้าบ้านวิเวียนก่อนจะมีอีกคนที่ตามหลังเข้ามาไม่นานหลังจากนั้น วิเวียนรีบเดินเข้าบ้านในขณะที่มีเขาตามหลังมาด้วยเสียงเรียกเบาแผ่วสิ้นเรี่ยวแรง ”ที่รัก… ได้โปรดฮึกกก“ เท้าที่เจ็บแสบจนเดินได้ไม่ถนัด แต่เขาก็ยังดึงดันเดินตามเธอมาจนถึงเส้นทา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status