แชร์

แสงนำทาง

ผู้เขียน: Jes/JinMingZin/Quendaya
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-12 13:28:24

บ้านคงจะกลายเป็นบ้านที่เงียบผิดปกติจากทุกวัน ถ้าหากโทรทัศน์ที่ปราศจากคนดูเครื่องนี้ไม่ได้ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ เจ้าชาร์ลีถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวอีกแล้ว และตอนนี้เขากำลังนั่งสร้างสรรค์ศิลปะแนวใหม่บนผนังบ้านที่คาเลบเพิ่งทาสีขาวไปเมื่อเดือนก่อน ชาร์ลีอาจคิดว่ากำแพงโล่งเกินไป เขาจึงวาดลายใหม่เพื่อความสมบูรณ์ ซึ่งรูปที่เขาวาดนั้นดูเหมือนกับยีราฟที่มีขาเป็นงู บนโต๊ะอาหารมีไอศกรีมของป๊อปปี้ เจลาโต้ จำนวนหกควอทซ์ถูกวางทิ้งละลายไว้อยู่ เมื่อคาเลบเดินเข้าไปใกล้จึงเห็นว่ารสเชอร์เบทหมดเกลี้ยงกล่องแล้ว ส่วนรสช็อกโกแลตมิ้นต์สี่ที่ รวมถึงรสช็อกโกแลตคาราเมลมาคาเดเมียยังเหลืออยู่เต็มและกำลังแข่งกันละลายเป็นน้ำ ในห้องครัว หม้อต้มบนเตาเดือดปุด ๆ จนเกือบจะไหม้ ชาร์ลีวิ่งมาหาพวกเขาทันทีที่เบียนน่าปิดประตู คราบไอศกรีมเชอร์เบทยังติดอยู่ที่แก้มและริมฝีปาก

“ทำไมทิ้งน้องไว้คนเดียวอีกแล้ว” เขาพูดกับตัวเอง เจ้าชาร์ลีวิ่งเล่นเกี่ยวพันรอบขาผู้เป็นพ่ออย่างอารมณ์ดี

“ไอศกรีมละลายแล้วนะที่รัก” เบียนน่าเก็บไอศกรีมเข้าตู้เย็นและเดินไปปิดเตาอย่างใจเย็น

ชาร์ลียังคงเล่นกับพ่อ ปากพูดเจื้อยแจ้วว่า “วันนี้เจสซี่กับอเล็กซ์พาผมไปเที่ยวห้าง เราทานพิซซ่าที่ร้านคุณบินอคคิโน่ แล้วก็พาผมไปเล่นที่สวนสาธารณะ ผมเจอโอลลี่กับเคย์ซี่ด้วย พวกเราเลยเล่นด้วยกันคับ” เสียงของเขาบ่งบอกว่าวันนี้เป็นวันดีของชาร์ลีจริง ๆ “อเล็กซ์ซื้อไอศกรีมมาด้วย มันจะเป็นวันที่ดีที่สุดของผมเลย ถ้าอเล็กซ์ไม่เศร้าแบบนั้น”

ชาร์ลียังเล่าต่อ เข้าชี้นิ้วสั้น ๆ ไปที่ดวงตาตัวเอง “ตาอเล็กซ์แดงก่ำเลยคับ แถมยังแทบไม่พูดไม่จากับใครเลย”

คาเลบและเบียนน่ามองหน้ากัน พวกเขาสัมผัสได้ถึงเรื่องไม่ดีบางอย่าง

 “แล้วพี่ ๆ อยู่ไหนล่ะ เจ้าลิงน้อย”

เด็กน้อยยิ้มแล้วชี้ไปยังห้องนอนของพี่สาวทั้งสอง “พอพวกเรากลับมาถึงบ้าน อเล็กซ์ก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง ผมได้ยินเจสซี่กับไบรซ์คุยกันว่ามันแปลกที่อเล็กซ์เอาแต่เก็บตัวเงียบแบบนี้ แต่เธอบอกว่ามีฝุ่นเข้าตาก็เลยร้องไห้ ผมคิดว่าพี่คงเอามันไม่ออก เจสซี่กับไบรซ์เลยไปช่วยดูให้”

“ที่รักคะ” เบียนน่าจับไหล่สามี “ฉันไปดูลูกดีกว่า คุณดูแลชาร์ลีนะคะ” เธอว่า คาเลบพยักหน้า แม้เขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอเล็กซิสกันแน่ แต่เมื่อภรรยาสั่ง เขาก็ต้องทำตาม ทว่าเมื่อเบียนน่าไปถึงหน้าประตู เจสซี่กับไบรซ์เดินออกมาพอดี

“เกิดอะไรขึ้นกับน้อง” เบียนน่าซัก

“พวกเขาเลิกกันแล้ว ก็อเล็กซ์กับไอ้โง่เดวี่...โทษครับแม่ ก็...น้องบอกว่าเจอเขากำลังนอน...หมายถึง อยู่กับจูน” พี่ชายคนโตเป็นคนเล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกพ่อแม่ฟังอย่างรวบรัด เจสซี่ยังเสริมอีกว่า “อเล็กซ์ต้องการเวลาส่วนตัว โธ่ แม่ครับ! อย่ามองผมแบบนั้นได้ไหม! อเล็กซ์ขอเอง ใช่ว่าผมพูดเองซะหน่อย!”

“เดวี่ทำอะไรอเล็กซ์เหรอคับ” เจ้าชาร์ลีถาม ตากลมจ้องพวกคนโตกว่าคุยกัน “ผมไม่เข้าใจที่เจสซี่พูด”

คาเลบส่งสายตาไปที่เจสซี่ ลูกคนโตถอนหายใจแล้วอุ้มเจ้าชาร์ลีออกไป “ยังไม่ใช่เวลาสมควรที่นายจะรู้เรื่องพวกนี้นะ ไอ้ลิงแคระ”

“แต่ผมอยากรู้เรื่องด้ววววววย” เสียงสะท้อนของชาร์ลีดังจนหายลับไป

พอคาเลบหันมาขอความเห็นจากไบรซ์ ลูกสาวคนนี้ตอบด้วยการยักไหล่ใส่พ่อแม่ทีนึงแล้วทำไม่รู้ไม่ชี้เดินเข้าห้องครัวไปเลย

“ให้มันได้อย่างงี้สิ แต่ละคน!”

พวกคาเลบและเบียนน่าไม่สามารถปล่อยให้อเล็กซิสทำตามใจชอบได้หรอก เวลานี้เด็กสาวต้องการกำลังใจและพลังใจจากพวกเขาต่างหาก

เบียนน่าไม่รอช้า เธอเปิดประตูเข้าไปในห้องเลย คาเลบรีบตามเข้าไป เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเดวี่กับจูนถึงทำให้ลูกสาวของเขาเสียใจ โดยเฉพาะจูนที่เป็นเพื่อนสนิทของอเล็กซิส เขาเห็นเด็กคนนี้มาตั้งแต่เล็ก จูนอาจไม่ใช่เด็กพูดเก่งเจ๊าะแจ๊ะ แต่ก็สามารถเข้ากับอเล็กซิสได้เป็นอย่างดี แถมหน้าตาของทั้งสองยังมีคล้ายกันจนเหมือนกับฝาแฝดที่น่ารัก ทั้งสองคบหาเป็นเพื่อนกันมานาน เที่ยว คุย ทำทุกอย่างด้วยกัน พอโตขึ้น จูนยิ่งสวยสะพรั่ง ส่วนอเล็กซิสก็สวยน่ารัก เหมือนเหล่าดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานอย่างสดใสด้วยกันทั้งคู่ จูนอาจจะกลายเป็นดาราใหญ่เหมือนแม่ของเธอในวันหนึ่งก็ได้ แล้วทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้

แล้วยังเจ้าเดวี่อีกคน เด็กหนุ่มที่คาเลบเคยรู้จักเป็นคนขี้อายและสุภาพ ในฐานะผู้ชายด้วยกัน คาเลบมองออกว่าความรู้สึกที่เขามีให้กับอเล็กซิสนั้นแท้จริง ทำไมตอนนั้นเขาถึงตาบอดอย่างนั้นนะ ในฐานะที่ตัวเองเป็นผู้ใหญ่และพ่อของลูก เขาควรจะปกป้องลูกสาวได้มากกว่านี้หรือเปล่า

คาเลบไม่คิดว่าตัวเองจะเห็นอเล็กซิสนั่งร้องไห้คร่ำครวญเป็นวรรคเป็นเวร ซึ่งเขาก็คิดถูก ลูกสาวของพวกเขานั่งอยู่คนเดียวในมุมมืดหลังเตียงนอน เขาและเบียนน่ารุดเข้าไปหา เห็นว่า

อเล็กซิสกำลังนั่งจ้องมองรูปภาพของตัวเองกับจูนในวัยเด็กจนถึงปัจจุบัน ท่าทางเศร้าสร้อยแต่ยังคงสงบนิ่งปราศจากอาการสะอึกสะอื้นได้อย่างน่าอัศจรรย์

ลูกสาวของเขาไม่ได้ร้องไห้หรือคร่ำครวญให้กับความรักและมิตรภาพที่สูญเสียไป แต่กระนั้น ดวงตาของเธอยังมีน้ำตาคลอเบ้าอยู่ เบียนน่านั่งลงข้างเด็กสาว ส่วนคาเลบนั่งเผชิญหน้ากับลูก ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาปลอบเจ้าตัวน้อยคงเมื่อห้าปีก่อน เมื่อพวกเขาสูญเสียเจ้าแบล็กกี้ สุนัขฮัสกี้วัยสิบสองปีไปอย่างไม่มีวันกลับ

“สีหน้าของลูกดูเศร้ามากเหลือเกิน ร้องไห้ออกมาเถอะนะคนดี ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา พรุ่งนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง อย่าเก็บมันไว้เลยนะจ๊ะ” เบียนน่าบอกกับเด็กสาว

“หนูไม่เป็นไร หนูร้องไห้ไปเยอะแล้ว ดูตาหนูสิคะ พ่อและแม่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หนูขอเวลาแค่...สองสามวัน แค่สองสามวันเท่านั้น...หนูจะกลับมาเป็นลูกสาวคนเดิมของพ่อและแม่นะคะ” เธอยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่แสนเศร้า มันไม่ใช่เรื่องปกติหรือธรรมชาติของอเล็กซิสที่จะกลายเป็นคนเศร้าซึมแบบนี้ คาเลบรักรอยยิ้มของลูกสาว มันเป็นรอยยิ้มที่สวยและสดใสราวกับเธอเป็นคนนำพาความสุขมาให้กับผู้ที่เห็น แต่ตอนนี้อเล็กซิสกลับจมอยู่กับความเศร้า

ทุกอย่างดูเหมือนว่าจะดำเนินไปได้ด้วยดีสำหรับตัวอเล็กซิส ทั้งการเรียน เพื่อนฝูง คนรัก และอาชีพการงาน เหมือนกับกราฟที่กำลังพุ่งไปสู่จุดสูงสุดแล้วจู่ ๆ หักดิ่งตกลงมา แต่ชีวิตก็แบบนี้ พายุมักเข้ามาในวันที่ดูเหมือนคลื่นลมสงบ วันต่อมา กว่าจะรู้ตัวอีกที ฝนก็ตกหนักเสียแล้ว

“ลูกของพ่อเข้มแข็งเสมอ เขาไม่ใช่คนที่ใช่ และถ้าลูกอยากจะร้องไห้ หรือพูดระบายมันออกมา ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร มันเป็นปกตินะลูก” คาเลบไม่ใช่แค่ปลอบ แต่ยังลูบหัวเธอเบา ๆ เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะปลอบโยนลูกสาว อเล็กซิสมีนิสัยบางอย่างที่ตรงข้ามกับเจสซี่อยู่บ้าง แม้เธอจะร่าเริงกว่าไบรซ์ แต่ก็มีส่วนคล้ายพ่อของเธอ เพราะคาเลบมักเก็บความรู้สึกทุกอย่างไว้กับตัว อเล็กซิสก็เป็นเหมือนกัน และเขารู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องดีที่จะเก็บความเศร้าไว้แบบนี้

อเล็กซิสรับฟังคำพูดของพ่อ ดังนั้นเธอจึงเริ่มระบายความอัดอั้นออกมา “หนูไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาทำกับหนูแบบนี้ หนูไม่เข้าใจจูนเลย เธอโทษว่าหนูทิ้งเธอ เธอโทษว่าพวกเราชอบเอโลดี้

มากกว่าเธอ หนูคิดว่าพวกเราเป็นเพื่อนรักกัน ทำไมเธอถึงเกลียดหนูขนาดนี้ และเดวี่อีกคน เขาบอกว่าเขารักหนู...มาก”

คู่รักหนุ่มสาว น้อยคนนักที่จะสามารถไปถึงฝั่งฝัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Undisclosure    เพื่อนหายไป

    เปล่า ไมเคิลแน่ใจว่าอเล็กซ์ไม่ได้รู้สึกแบบเขา อีกฝ่ายเข้าใจไปอีกอย่าง ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากจะพูดกับอเล็กซิสเดี๋ยวนี้ บางที...มันอาจเป็นพลังของเธอ แต่ทำไมอเล็กซ์ไม่รู้สึก หรือเพราะเขายังไม่ได้สู้ เขายังไม่ได้ใช้พลัง แล้วพลังของอเล็กซิสเป็นแบบไหนกันแน่ เพิ่มพลังให้คนอื่นงั้นหรือ หรือปลดล็อกให้อีกฝ่ายรู้จักใช้พลังของตัวเอง“บรรยากาศไม่ดี” อาคุสะพูดขึ้น“กลับไปดูพวกเทสซ่าก่อนกันเถอะ” อเล็กซิสตบไหล่แฟนหนุ่มสองสามทีเพื่อให้เขาออกไปจากตัว “ถ้าพวกมันแห่ไปที่นั่น ทุกคนแย่แน่” ทั้งหมดพยักหน้า เด็กสาวกำลังจะขยับเท้าก็หันมาไมเคิล “ไว้อธิบายว่าเมื่อกี้นายทำอะไร” เธอยกมือตีหน้าผากตัวเองแต่ก่อนจะไปไหนได้ ทั้งหมดได้ยินเสียงกรีดร้อง...*****เทสซ่าไม่เคยยินดีเท่านี้มาก่อนที่ได้เจอพวกบลูในเวลานี้ เธอผล็อยหลับไปเมื่อไรไม่รู้ แต่เมื่อรู้สึกตัวอีกที ก็มีมนุษย์รูปร่างคล้ายหุ่นยนต์สองตนตรงเข้ามา ทีแรกเธอคิดว่าพวกเขาต้องการจะสังหารฝ่ายต่อต้าน แต่ไม่ใช่แค่นั้น พวกเขามาเพื่อลักพาตัวโคดี้เด็กหนุ่มผมบลอนด์ยังนอน

  • Undisclosure    สัมผัสพิเศษ

    “หาเองสิวะ” เขาตะโกน ทว่าไม่ทันระวังเพราะมันดาปาอาวุธกลับมา เมื่อหันหน้ากลับไปก็เห็นรอยเท้าเต็มหน้ากระแทกเข้าที่หน้า ร่างของเขากระเด็นกระแทกกำแพงตึก ไมเคิลส่ายหัว มึนไปมันหมด อเล็กซิสวิ่งเข้ามาช่วยพยุงตัวขึ้น“พวกมันไม่บอก อย่าเสียเวลา” เขาได้ยินดังนั้นคิ้วขมวดกันทันที เดี๋ยว... กลายเป็นว่าพวกเขาทั้งหมดจำต้องรั้งพวกมันให้สู้กับตัวเอง ไม่อย่างนั้นพวกเทสซ่าแย่แน่ เขาไม่รู้ว่ามีกลุ่มอื่นตามหาโคดี้อีกหรือไม่ และถ้าเป็นแบบนั้นก็ยิ่งไม่สามารถปล่อยให้พวกมันไป พอเห็นเขายืนได้ อเล็กซิสตัดสินใจค่อย ๆ เดินตรงไป มือยังยิงปืนไม่หยุด “เก็บไฟแช็ก” เธอสั่งเขา “ห้ามทำมันหายเด็ดขาด”“อย่าไป” เขาร้อง แต่เธอไม่ฟัง อเล็กซิสหยิบดาบของไมเคิลขึ้นมาอีกข้างแล้วโถมตัวใส่มันแล้วไมเคิลเห็นดังนั้นรีบตะครุบไฟแช็กแล้วจุดมันขึ้น“อเล็กซิส” เขาร้องเมื่อเห็นเธอบ้าบิ่นจะสู้กับมันตัวต่อตัว พลันร่างเธอก็กระเด็นล้มไปทางเรมีที่กำลังรับมือกับอีกตัวคู่กับอาคุสะ อเล็กซ์สบถอะไรบางอย่าง แล้วจัด

  • Undisclosure    โคดี้อยู่ไหน

    เฒ่าทรอยนอนฟุบลงกับพื้นจนหน้าคลุกไปกับหิมะสกปรกบนพื้น ไม่มีใครคิดช่วยให้เขาลุกขึ้นมา และถ้าใครทำแบบนั้น ไมเคิลจะเป็นคนกระชากคอออกมาเอง เด็กหนุ่มยืนพักหอบหายใจ กว่าจะพาทรอยออกมาได้ยากลำบาก หุ่นยนต์ถูกตั้งโปรแกรมให้กำจัดใครก็ตามที่อยู่ในสถานะเจ้าพนักงานของทอยซิตี้ ก่อนหน้านี้ เขาขอให้ฟีบี้รีเซตพวกมันใหม่เป็นหน่วยทหารแทน แต่เพราะเธอยืมพลังมาจากโคดี้ ประสิทธิภาพของมันไม่แน่ไม่นอน เมื่อเซตได้ตัวหนึ่งก็ต้องเซตตัวอื่น เธอไม่สามารถทำได้ทีเดียว พอทำงานซ้ำไปซ้ำมา หญิงสาวก็เริ่มหมดความอดทน ฟีบี้บอกว่าเธอไม่ได้ทำหน้าที่ปกป้องชีวิตเจ้าหน้าที่ แต่เพื่อสานงานของโคดี้และเพื่อปกป้องพวกเราทุกคนต่างหาก ศูนย์กลางของทอยซิตี้คือ เดอะ วาล และถ้าหากเจาะเข้าไปยังศูนย์บัญชาการได้ พวกทหารจะแพ้ราบคาบ นั่นคือสิ่งที่เธอบอก แต่ไมเคิลเข้าใจว่ามันคือการคาดเดามากกว่า และเขาก็รู้ว่าเธอไม่ได้คิดขึ้นเอง แต่มันมาจากลูไมเคิลเดินตรงไปแล้วดึงคอเสื้อทรอยขึ้นมาอีก คราวนี้เขาลากเข้าไปในตึกของเมลิสซ่า ที่พักเก่าของตนกับเรมี ตอนนี้แทบไม่มีใครอยู่ในตึกแล้ว ประชากรในเดอะ วาลบางส่วนที่ไม่อยากต่อสู้ก็อพยพไปยังเขตอื่น เนื่อง

  • Undisclosure    ในเงามืด

    ขณะนั้นริงโก้ตัดสินใจอุ้มเอมอนขึ้นมาคนเดียว เพียซจึงอุ้มเดสซิเรตามมา เบลินดาเห็นพวกเขาเดินตรงมาก็ลุกขึ้น เธอส่งขวดน้ำดื่มให้อย่างรู้งาน ระหว่างนั้นเพียซก็เล่าว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังจากประตูเปิด พวกเขาก็บุกเข้าไปข้างในเพื่อหาตัวเอมอนกับเดสซิเร ทั้งสองถูกจับสวมกุญแจมือ อาวุธโดนยึดหมด แต่เดสซิเรและเอมอนก็ทำให้กำลังพลภายในนั้นปั่นป่วนไปมาก พวกเขาเจอศพทหารหลายราย คงเป็นฝีมือของทั้งสอง ตอนไปถึง หญิงสาวยังพอมีสติจึงเล่าว่า ทั้งคู่พยายามหาห้องควบคุม แต่ภายในมีระบบเชื่อมต่อกับชุดสูทที่เอมอนสวม เพียงย่างก้าวไปในส่วนที่เป็นสำนักงาน หน้ากากจึงถูกปลดออกอัตโนมัติ ทั้งสองจึงต้องสู้และพยายามจะออกมา ทว่าก็สู้จำนวนคนและอาวุธไม่ได้ จากนั้นจึงถูกจับทรมาน อาจเป็นโชคดีในโชคร้ายของเดสซิเรที่ไม่มีแผนอะไรอยู่แล้ว บวกกับพลังพิเศษที่ทำให้พวกนั้นไม่อาจสัมผัสหรือเข้าใกล้ได้มากนัก ส่วนเอมอนนั้นแย่หน่อยเพราะพอรู้แผนของลูคร่าว ๆ แต่ไม่ได้ปริปากออกไปเลย ดังนั้นเขาจึงโดนซ้อมหนักที่สุด“แล้ว...ทำไมพวกเธอมานั่งอยู่ตรงนี้” โอลิแวนถาม “พวกอเล็กซิสล่ะ ฉันได้ยินกว่าทั้งกลุ่มเข้าไปในเขตเธอไม่ใช่หร

  • Undisclosure    คลำหาทาง

    ไมเคิลสบตากับเรมี อีกครั้งที่พวกเขาไม่เข้าใจว่าพวกเธอวางแผนอะไรกัน“ฉันต้องการคำอธิบาย ตั้งแต่เช้า พวกเราวุ่นจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ยังไม่นับเรื่องที่พวกเธอทำโดยไม่บอกก่อน”ฟีบี้กลอกตา เธอไม่ได้มีท่าทีสำนึกหรืออ่อนข้อลงแบบเทสซ่า แต่กลับยักไหล่ไม่สนใจ แม้บุคลิกหญิงสาวจะเป็นแบบนี้ และปกติก็ไม่มีใครถือสา (ยกเว้นเทสซ่า) แต่เวลานี้ เขาอดฉุนไม่ได้“ทำไมฉันต้องบอกพวกนายด้วย โต ๆ กันแล้ว อีกอย่างก็ใช่ว่าฉันจะรู้ก่อนหน้าอะไรนักหนา ถ้าไม่ใช่เพราะโคดี้ ฉันก็อาจจะนั่งทำหน้าโง่เหมือนพวกนายนี่แหละ” อาคุสะทำเสียงจุ๊ ๆ แล้วส่ายหน้าเป็นเชิงห้ามปรามเรื่องคำพูด เธอยักคอไปมาอย่างกวนประสาท “เฮ้อ เอาเป็นว่าตอนนี้โคดี้ต้องพัก ส่วนฉันก็ยืมพลังเขามาใช้ จะพยายามเปิดไอ้ประตูยักษ์นั่น” พูดจบก็ถูมือ“ฟีบี้...” อเล็กซิสพูดขึ้น “ฉันเดินผ่านศูนย์อนามัย...เห็นศพพยาบาลเต็มไปหมด ยังไม่รวมเจ้าหน้าที่คนอื่นที่ไม่ใช่ทหารอีก...”หญิงสาวเงียบไปเมื่อเจอคำถามนี้ เทสซ่าก็เม้มปากแน่น เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นทั้งสองมองหน้ากันอย่างเข้า

  • Undisclosure    มุ่งหน้า

    11:45 PM หน้าประตูเขตเครสเตอร์ - เดอะ วาลกระแสไฟฟ้าแผ่กระจายเป็นวงกว้าง มันส่งแรงต้านผลักก้อนคอนกรีตชิ้นโตหล่นกลับลงมบนพื้นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ไมเคิลทึ่งที่โคดี้สามารถป้อนชุดคำสั่งพิลึกพิลั่นให้กับหุ่นพิฆาต หรืออันที่จริงคือ ใครจะคิดว่าเขาจะป้อนคำสั่งแบบนั้นในเวลารีบเร่งเช่นนี้ ทุกครึ่งชั่วโมงจะมีหุ่นสองสามตัวเดินกลับมาปาก้อนหินหนักขึ้นไป กำแพงกั้นเขตแน่นหนาจนแม้แต่พวกมันข้ามไปไม่ได้ จึงใช้วิธีนี้เช็กดูว่าระบบรักษาความปลอดภัยของทอยซิตี้สั่นคลอนแล้วหรือยัง จะว่าเป็นเพราะระบบถูกออกแบบมาดีก็ว่าได้ ถ้าหากไม่ใช้เพราะโคดี้มีพลังพิเศษ ไมเคิลไม่เห็นหนทางเลยว่าพวกเขาจะออกไปได้ ต่อให้เครสเตอร์และนอร์ธพังทลายเพียงใด มันก็ยังไม่ลามไปถึงอีกฝั่งที่ถือว่าเป็นศูนย์กลาง และเมื่อนั้น ถ้าหากพวกเขาจะล้างศัตรู ก็อาจปล่อยระเบิดลงมาลูกเดียว แบบที่เคยเกือบล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปเมื่อหลายพันปีก่อนยุคก่อนหายนะ...พี่สาวฝาแฝดเคยเล่าให้เขาฟังเข้าเที่ยงคืนกว่าแล้วหรือ เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น อเล็กซิสจะกินอะไรแล้วหรือยัง เขานั่งนับวันแล้วเหงื่อตก พวกเขาทำปฏิทินเช็กความถี่ว่าอะวีซีจะออกฤ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status