แชร์

ที่ไหนวะเนี่ย

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-02 00:37:52

หนิงหนิง ไม่รู้ว่าเธอถูกพาตัวมาส่งที่โรงพยาบาลตอนไหน คงเป็นอาเยว่ที่พาเธอมา เพราะตอนนี้เธอเริ่มจะรู้สึกตัวแล้ว

“จะ เจ็บ” เธอพึมพำออกมาเบาๆ เสียงที่แหบเสียจนแทบจะไม่มีเสียงออกมาจากลำคอของเธอ

ตอนนี้เธออยากจะขอความช่วยเหลือจากใครสักคน เพราะเธอหิวน้ำ มือของหว่านหนิงเอื้อมคลำไปด้านข้างอย่างสะเปะสะปะ เพื่อหาปุ่มกดเรียกพยาบาล

หรือหากมีคนเฝ้าอยู่ภายในห้อง ย่อมต้องเห็นว่าเธอตอนนี้รู้สึกตัวแล้ว แต่ก็ไม่มีเสียงใดเกิดขึ้น ดวงตาที่ยังไม่อาจลืมได้เต็มที่ ก็ทำให้ไม่สะดวกที่จะทำสิ่งใด

หว่านหนิงค่อยๆ หยันตัวขึ้นเพื่อพิงหัวเตียง “อ๊ะ” มือทั้งสองข้างของเธอไม่ได้หัก ขาก็ไม่ได้หัก เพียงแค่ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวไปหมดเท่านั้น

สิ่งนี่ทำให้เธออดที่จะแปลกใจไม่ได้ แรงชนของรถที่เธอถูกชน เป็นไปไม่ได้หากจะไม่มีส่วนใดที่แตกหัก ถ้าจะบอกว่าเธอสมควรตายทันทีเลยก็ดูจะไม่เกินจริงนัก

“ฟื้นแล้วรึ” เสียงบุรุษหยานคาง เหมือนจะดื่มมาไม่น้อย ถามเธอขึ้นมา มือที่คว้านหาปุ่มกดกับโทรศัพท์ของหว่านหนิงหยุดชะงักทันที

“หือ” เพียงแค่เขาเดินเข้ามาใกล้เธอก็ต้องย่นจมูกทันที เพราะกลิ่นของแอลกอฮอล์ที่ออกมาจากตัวของเขาดูเหมือนจะไม่ใช่น้อยๆ เลย

“คุณเป็นคนที่ชนฉันใช่ไหม ดื่มมามากขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ถูกตำรวจจับห๊ะ” นางตำหนิออกมาอย่างไม่พอใจ แม้แต่ตาที่ยังลืมไม่ขึ้นเธอก็เชื่อว่าเธอต้องหันไปทางทิศที่เขายืนอยู่ถูกอย่างแน่นอน ก็กลิ่นเหล้าหึ่งแบบนี้

“เจ้าพูดบ้าอันใด” เสียงเย็นชาที่ดูจะไม่พอใจนางเอ่ยตำหนิเสียงดัง

“คุณพูดอะไร พูดเหมือนกับคนโบราณ ฉันไม่ตลกด้วยนะ ไปเรียกพยาบาลมาให้ฉันก่อน ฉันหิวน้ำ จะเข้าห้องน้ำด้วย” หว่านหนิงขยี้ตาของเธอ เพื่อให้มันลืมได้เสียที

หากต้องรอให้ตาบ้านี่ไปตามพยาบาลมาช่วยเธอ วันนี้เธอก็คงไม่ได้ดื่มน้ำ หรือเข้าห้องน้ำแน่

ภาพตรงหน้าของหว่านหนิงค่อยๆ ปรากฏให้เห็นเลือนราง ก่อนจะชัดเจนขึ้นช้าๆ

พอดวงตาของเธอปรับให้สู้แสงแดดที่ส่องเข้ามาได้แล้ว ภาพตรงหน้าก็ทำให้หว่านหนิงตกตะลึงนิ่งงันไปทันที

ทั้งสองมองจ้องกันไปมาอย่างไม่ลดละ กว่าที่หว่านหนิงจะรู้สึกตัว บุรุษตรงหน้าก็เดินเข้ามาจับหน้าผากเธอเสียแล้ว

“เฮ้ยย” เธอร้องอย่างตกใจ ทั้งถอยหลังไปจนชิดผนังที่อยู่ด้านใน

“เจ้าเป็นบ้าอันใดขึ้นมาอีกเล่า” เขามองหว่านหลินอย่างสงสัย

“คุณนั่นแหละเป็นใคร แล้วเข้ามาได้ไง ฉะ ฉัน ฉัน...” เธอมองสำรวจห้องที่เธออยู่ไปด้วย “ที่ไหนวะเนี่ย” เธอกรีดร้องออกมาอย่างเสียขวัญ พร้อมทั้งดึงทึ้งผมของตนเองไปด้วย

ห้องเก่าๆ ที่ผนังดำเหมือนขึ้นรา เตียงไม้ที่ทำขึ้นมาจากไม้ไผ่ดูไม่แข็งแรง ทั้งยังหมอนหนุนที่คงจะใช้ไม้ทั้งท่อนทำขึ้นมา ไหนจะผ้าห่มที่เหม็นอับจนอยากจะสะบัดทิ้งเสียตอนนี้

คนตรงหน้าก็แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าย้อนยุค เก่าเสียจนคิดว่าห่อด้วยผ้าเช็ดพื้นไว้ ไหนจะหนวดเคราที่รกรุงรังไม่ได้โกนออกให้เรียบร้อยจนดูไม่ออกว่าเขามีอายุเท่าไหร่

“พูดอันใดของเจ้า ข้าฟังไม่รู้เรื่อง หรือว่าตกเขาจนความจำเสื่อมไปเสียแล้ว” เขายิ้มเยาะมองสตรีตรงหน้า

หากนางไม่คิดจะหนีออกจากหมู่บ้าน นางจะตกเขาได้อย่างไร คงนึกเสียใจที่แต่งให้เขาจนอยากจะหนีกลับไปที่เมืองหลวง

“ตกเขา ฉันถูกรถชนไม่ใช่เหรอ” แววตาที่ทั้งสับสนทั้งหวาดกลัว ทำให้หลี่เฉียงแปลกใจไม่น้อย

ซูหว่านหนิง สตรีไร้ยางอาย นางไม่เคยหวาดกลัวสิ่งใดมาก่อน ในตอนแรกที่เขาเห็นว่านางฟื้นขึ้นมาคงได้อ้าปากด่าทอเขา ที่พานางกลับมาอยู่ในที่ที่ซอมซ่ออย่างแน่นอน

นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางคิดหนีกลับเมืองหลวง แต่ทุกครั้งนางก็ไปได้ไม่ไกลก็ถูกเขาตามกลับมาได้ ในเมื่อนางอยากแต่งให้เขาก็ต้องทนทุกข์ทรมานไปกับเขาด้วย

นางที่เป็นคนหลงใหลในชื่อเสียงเงินทอง ย่อมไม่อาจทนอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้ ที่นางยอมแต่งให้เขาก็เพราะหลี่เฉียงเป็นบุตรชายคนโตของคหบดีหาน พ่อค้าผู้มั่งคั่งในเมืองหลวง

หลี่เฉียงแม้จะเป็นบุตรชายคนโต ก็ไม่ได้มีความสำคัญมากนักในตระกูลทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะเขาทำตัวเอง ด้วยมารดาของเขาเสียตั้งแต่เขายังเล็ก บิดาจึงได้แต่งสุ่ยอวี้ ญาติผู้น้องของมารดาตนเข้ามาเป็นภรรยาเพื่อดูแลหลี่เฉียง

สุ่ยอวี้ในตอนแรกก็เลี้ยงหลี่เฉียงมาด้วยความรักเช่นบุตรของนาง ถึงอย่างไรเขาก็เป็นหลานชายของนางแท้ๆ แต่เมื่อนางมีบุตรชายของตนเอง ความรักที่มีให้เขาก็แปรเปลี่ยน

ต่อหน้าผู้เป็นสามีนางก็รักหลี่เฉียงราวกับบุตรที่นางคลอด แต่พอลับหลังสามีนางสอนหลี่เฉียงให้กลายเป็นคุณชายน้อยผู้ร้ายกาจ ไม่อยากเรียนนางก็ไม่ให้ไปเรียน อยากจะเที่ยวเล่นนางก็ล้วนแต่เห็นดีเห็นงามด้วย ชื่อเสียงของเขาไม่มีผู้ใดพูดถึงในทางที่ดี

ทั้งเรื่องสุรา การพนันเข้าล้วนแต่ชื่นชอบทั้งหมด เพียงแต่ไม่เข้าหอคณิกาเท่านั้น เพียงสองสิ่งผู้เป็นบิดาก็เริ่มจะไม่พอใจเขามากแล้ว

นางสุ่ยซื่อยังจัดหาหว่านหนิงมาตบแต่งให้เขาด้วยตนเอง ในช่วงแรกนางทั้งอ่อนหวานและอ่อนโยน เพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้นความร้ายกาจของนางก็ปรากฏออกมาเรื่อย ๆ

หลี่เฉียงกับหว่านหนิงทะเลาะกันแทบจะทุกวัน เพียงแต่งงานกันยังไม่พ้นเดือน สุดท้ายเมื่ออยู่ในเรือนไม่มีความสุขเขาก็แทบจะกินนอนอยู่ที่หอพนันเลยทีเดียว

ความอดทนของคหบดีหานหมดลง เมื่อหอพนันนำใบทวงหนี้ก้อนใหญ่มาหาเขาถึงจวน ครั้งนี้เขาถึงจ่ายเงินถึงสองพันตำลึงทอง หากไม่จ่ายบุตรชายก็ต้องถูกตัดมือทิ้ง

“อาเฉียง พ่อจะยอมช่วยเจ้าครั้งสุดท้าย หากมีอีกครั้งเจ้าก็ไสหัวออกไปจากตระกูลหานได้เลย!!!” ครั้งนี้ดูเหมือนผู้เป็นบิดาจะได้พูดเล่นๆ เสียแล้ว หลี่เฉียงจำต้องยอมรับปากบิดาของตน

เขาเห็นแววตาของบิดาที่เสียใจกับสิ่งที่เขาทำ จึงคิดที่จะกลับเนื้อกลับตัว แต่ก็เพียงแค่ไม่กี่วัน เมื่อนางสุ่ยซื่อที่ต้องการให้เขาถูกขับออกจากตระกูลอยู่แล้วก็สร้างเรื่องให้หลี่เฉียงกับหว่านหนิงทะเลาะกัน

พอหลี่เฉียงขาดสติจากเรื่องที่หว่านหนิงนางชวนทะเลาะ สุ่ยซื่อก็เข้ามาทำทีว่าเข้าใจในตัวเขา มอบเงินให้เขาหนึ่งก้อน เพื่อให้ตนเองออกไปหาความสำราญด้านนอก

เขาคิดว่าเงินก้อนนี้หากจะได้หรือเสียก็จะขอไปอีกเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วอย่างไรเล่าเขาที่เสียจนมิอาจถอนตัวได้ก็กลายเป็นหนี้อีกครั้ง

ถึงแม้ครั้งนี้จะเพียงไม่กี่ร้อยตำลึงเงิน แต่ผู้เป็นบิดากลับไม่ให้โอกาสเขาอีกแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   ตอนจบ

    หลังจากงานเลี้ยงราชสมภพของฮ่องเต้ ก็ยังไม่มีคณะทูตคนใดที่คิดจะเดินกลับ ด้วยต้องการตัวของคนที่ทำชุดฉลองพระองค์ของฮ่องเต้และฮองเฮากลับแคว้นของตนไปด้วยความวุ่นวายด้านนอกนางมิได้รับรู้ ด้วยมีสัตว์เทพทั้งสี่ที่คอยจัดการพวกที่ลักลอบเข้ามาในจวนอยู่ตลอด บางคนเกือบจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ เพื่อต้องการเข้ามาชิงตัวหว่านหนิงนางกลับไปที่แคว้นของพวกเขาด้วยตอนนี้ทั่วถึงเมืองหลวงจึงได้รู้ว่าจวนตระกูลหลี่มิใช่สถานที่ ที่ผู้ใดจะเข้าไปวุ่นวายได้ง่ายๆ หากมีปัญญาที่จะเข้าไปก็ต้องลองดูว่าจะมีโอกาสได้กลับออกมาอีกหรือไม่ตัวองค์ชายสามจึงได้รู้ว่าเสือที่กุ้ยเฟยพูดถึงมิได้ไม่มีอยู่จริง มันมีอยู่ที่จวนตระกูลหลี่ เพราะเสี่ยวหู่เผยตัวตนของมันเข้าเสียแล้วหากวันใดที่จวนตระกูลหลี่เปิดประตูจวนทิ้งไว้ ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาก็จะพบเสือโคร่งตัวใหญ่เดินอยู่ภายในจวนที่เสี่ยวหู่มันทำเช่นนี้เพื่อจัดการมิให้ผู้ใดเข้ามากวนนายหญิงยามที่นางตั้งครรภ์ใกล้คลอด ก่อนหน้านี้ที่มันเผยตัว ด้วยแคว้นต้าซ่งส่งคนมาลอบลักพาตัวหว่านหนิงคนขององค์ชายสามที่คุ้มกันห่างๆ อยู่รอบจวนเข้ามาช่วยเหลือไม่ทัน พอไปแจ้งองค์ชายสามก็เห็นเสี่ยวหู่กำลังตะปบใบห

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   ข้าตั้งครรภ์แฝดรึ

    ตระกูลซูเมื่อรู้ว่าหว่านหนิงนางกลับมาถึงเมืองหลวงก็รีบมาพบนางทันที พอได้เห็นว่านางไม่มีอันใดให้เป็นห่วง ทั้งยังไม่มีอาการแพ้ท้องให้ได้เห็น ต่างก็พากันกลับออกไป ปล่อยให้นางได้พักผ่อนฉลองพระองค์ที่หว่านหนิงนางทำขึ้นถวาย เป็นที่พอพระทัยของฮ่องเต้ยิ่งนัก จนประทานรางวัลมาให้นางถึงสองคันรถม้า ทั้งยังมีป้ายเชิดชูฝีมือปักผ้าของนางประทานมาให้อีกด้วยป้ายพระราชทานนี้ถูกติดไว้อยู่ที่หน้าจวน เคียงข้างป้ายจวนตระกูลหลี่อย่างยิ่งใหญ่ ราคาผ้าปักกั้นฉากสามผืนก่อนหน้านี้ที่นางทำขึ้น ถูกทาบทามขอซื้อสูงถึงผืนละห้าพันตำลึงทอง แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่คิดจะขายออกไป ด้วยอยากจะเก็บไว้ให้บุตรหลานและอวดสายตาของผู้อื่นเสียมากกว่าเพราะการตั้งครรภ์ของนาง หว่านหนิงนางจึงไม่ได้ถูกผู้ใดรบกวนขอให้ปักผ้าให้อีก มีเพียงผืนที่นางรับบอกจ้าวซื่อ และชุดของตู้ลู่จื้อที่นางรับปากไว้แล้วเท่านั้นที่นางทำให้ของทั้งสองสิ่งต่างก็มอบให้พวกเขาก่อนที่นางจะเดินทางกลับเมืองหลวงแล้ว ตอนนี้นางจึงว่างงานเอาแต่กินนอนอยู่เพียงภายในจวนเท่านั้นเรื่องที่น่าแปลกอีกเรื่องเห็นจะเป็นต้นหม่อนที่โตวันโตคืนจนบ่าวในจวนต่างตกตะลึงทุกวัน ยิ่งได้เห็นเหล่าผี

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   บุตรข้าเป็นตัวนำโชค

    ต่อไปนี้นางก็จะมีช่องเก็บของส่วนตัวเสียที ของมีค่าทั้งหมดหว่านหนิงนางนำมาใส่ลงไปด้านใน และผูกเก็บไว้ที่ข้างเอวของนางอย่างหวงแหน ยิ่งทำให้คอของเสี่ยวหู่ตั้งตรงมากกว่าเดิมเซียงเซียงกลับมาถึงเรือนก็นำผ้าหลายพับมามอบให้หว่านหนิง โดยผ้าทั้งหมดที่นางมอบให้ในครั้งนี้ เพื่อทำชุดและผ้าอ้อมให้บุตรของหว่านหนิงเท่านั้นส่วนเหมยลี่นางนำสุราแสงจันทร์ ที่ถูกนำออกมาแอบแสงจันทร์ในวันพระจันทร์เต็มดวงถึงหนึ่งร้อยครั้งด้วยกัน“นายหญิงสุราไหนี้ ท่านไว้ดื่มหลังจากที่ท่านคลอดบุตรแล้ว จะช่วยให้พลังหยินหยางในร่างกายท่านสมดุลเร็วขึ้น”หว่านหนิงนางมองสัตว์เทพทุกตัวของนางอย่างซาบซึ้ง ดวงตาของนางมีน้ำตาเอ่อคลอออกมา“ข้าไม่รู้จะขอบใจพวกเจ้าเช่นไร เพียงแค่มีพวกเจ้าอยู่ข้างกายจ้า ข้าก็นึกขอบคุณสวรรค์มาแล้ว” นางร่ำไห้ออกมาจนได้เสี่ยวหู่ซุกเข้าไปในอ้อมกอดของหว่านหนิงนางทันที ส่วนทั้งสามต่างเข้ามาคลอเคลียอยู่ที่แก้มของนางหลี่เฉียงที่เข้ามาเห็นภาพนี้พอดี ก็ยิ้มมองทั้งหมดอย่างภูมิใจ เรื่องดีที่สุดในชีวิตของเขาก็คงเห็นจะเป็นเรื่องนี้ที่มีหว่านหนิงและสัตว์เทพที่คอยช่วยเหลือ“ท่านพี่ ท่านดูนี่” หว่านหนิงนางนำของทั้งหมดออ

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   ก็ไว้ท้องต่อไป

    นับตั้งแต่ออกเดินทางจากเมืองหลวง ตัวหว่านหนิงนางก็แทบจะไม่ได้ปักผ้าสักเท่าไหร่ นางเอาแต่นอนพักอยู่ภายในรถม้า พอเข้าพักที่โรงเตี๊ยมนางก็เอาแต่นอน“นายท่าน นายหญิงกำลังตั้งครรภ์เจ้าค่ะ” ฮวาเตี๋ยนางร้องบอกหลี่เฉียง เมื่อนางลองบินเข้าไปใกล้ท้องของหว่านหนิงเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่นางคิดถูกต้อง“จะ เจ้า...เจ้าว่าอย่างไรนะ” หลี่เฉียงร้องออกมาอย่างตกใจจนเสี่ยวชิงที่เพิ่งนำม้าไปเก็บด้านหลังเรือน ต้องเดินเข้ามาดูว่าเกิดเรื่องใดขึ้น เขาก็เห็นเพียงนายท่านพูดคุยอยู่กับความว่างเปล่าเท่านั้น โดยมีเสี่ยวหู่ยืนอยู่ด้านข้าง จะบอกว่าคุยกับแมวก็ดูจะประหลาดเกินไป“ข้าบอกว่า นายหญิงตั้งครรภ์เจ้าค่ะ ท่านควรไปเชิญหมอมาตรวจให้นางอีกครั้งเพื่อความ...อ้าว” ฮวาเตี๋ยนางยังพูดไม่จบหลี่เฉียงก็วิ่งเข้าไปในหมู่บ้านเสียแล้วโดยหลงลืมไปเลยว่ามีเสี่ยวชิงอยู่ จะใช้ให้เสี่ยวชิงไปตามก็ย่อมได้ พอออกจากเรือนก็พบป้าตู้ที่นางกำลังจะเดินมาดูว่าผู้ใดมาที่เรือนของหว่านหนิง“อ้าว อาเฉียงเจ้ากลับมาเมื่อใด แล้วอาหนิงเล่า” นางดึงรั้งหลี่เฉียงที่กำลังเร่งฝีเท้าเข้าไปในหมู่บ้านไว้“เพิ่งกลับมาขอรับ ท่านป้าข้าจะรีบไปตามหมอ ขอตัวก่อนขอรั

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   มีเสือเข้ามา

    ยิ่งรู้ว่าหลี่เฉียงกับหว่านหนิงจะเดินทางกลับซานตง องค์ชายสามก็เสด็จมาพูดคุยเรื่องนี้ที่จวนตระกูลซูด้วยพระองค์เอง ยิ่งทำให้ผู้พบเห็นต่างตกตะลึงและยิ่งอยากจะสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขามากกว่าเดิม“หากเจ้ากลับไปแล้วเปิ่นหวางจะหาสุราดื่มได้อย่างไร” ทุกวันนี้ก็แทบจะจิบวันละอึกอยู่แล้ว หากทั้งสองมิเดินทางกลับมาเมืองหลวงอีก มิต้องส่งคนไปรับสุราที่เมืองซานตงหรอกรึ“กระหม่อมเพียงกลับไปจัดการเรื่องที่เมืองซานตงและจะย้ายมาอยู่ที่เมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ” เรื่องนี้หลี่เฉียงพูดคุยกับหว่านหนิงนางแล้วหว่านหนิงนางก็อยากจะอยู่ใกล้บิดามารดา ตอนนี้ทั้งสองก็ให้พ่อบ้านเร่งหน้าจวนหลังใหม่ให้ทั้งคู่แล้ว เพราะหากยังอยู่ที่เรือนตระกูลซู หลี่เฉียงจะถูกผู้อื่นมองว่าเป็นเขยแต่งเข้า เรื่องนี้ไม่ดีสำหรับตัวเขาเลยสักนิดความจริงที่องค์ชายสามมาในวันนี้ก็อยากจะถามเรื่องที่เกิดขึ้นภายในวังเมื่อสองวันก่อนด้วย แต่เขาคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ จึงไม่ได้เอ่ยถามออกมาสองวันก่อนที่ตำหนักของกุ้ยเฟยเกิดเรื่องขึ้น เสียงกรีดร้องในยามค่ำคืนที่ดังไปทั่ววังหลัง ทำให้เกิดความโกลาหลอยู่ไม่น้อย ตอนที่ทหารเข้าไปภายในตำหนักก็ไม่พบสิ่งใดที่ผิดแปลก

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   เหมยลี่ทำดีมาก

    กุ้ยเฟยยิ้มหวานมองฮองเฮาที่เดินเข้ามาอย่างรู้งาน ดวงตาของนางไม่ต่างจากฮองเฮาที่มองจ้องกันไปมาอย่างแข็งกร้าว“พี่สาว วันนี้ท่านลำบากเดินมาหาข้าถึงตำหนักได้เลยรึ” กุ้ยเฟยลุกขึ้นทำความเคารพก่อนจะยกที่นั่งประธานให้ฮองเฮาไปนั่งแทนตน“หึหึ เปิ่นกงเห็นว่ามีเรื่องน่าสนุกที่ตำหนักของเจ้า จึงได้เดินมาร่วมชมด้วย อ๊ะ...ฮูหยินหลี่เจ้ามาทำอันใดที่นี่” กุ้ยเฟยกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย การแสดงของฮองเฮาช่างน่าขันนัก“กุ้ยเฟยต้องการให้หม่อมฉันทำฉลองพระองค์ถวายสักสองสามชุด มิใช่ว่าหม่อมฉันจะไม่เต็มใจทำให้ เพียงแต่จำต้องเดินทางกลับไปซานตงก่อนเพคะ” หว่านหนิงได้ทีนางก็เอ่ยฟ้องเรื่องราวออกมาจนหมด“หึหึ ฮูหยินหลี่เจ้ามิต้องกังวลใจ น้องสาวข้านางรอได้ จริงหรือไม่” ฮองเฮาหันไปถามกุ้ยเฟย“จริงเพคะ” นางกัดฟันพูดออกมา ผู้ใดจะกล้าบอกว่าไม่จริงเล่า ยิ่งตอนนี้ฮองเฮาและบุตรของพระองค์กำลังได้รับความโปรดปรานอย่างหาที่สุดมิได้หากกุ้ยเฟยหาเรื่องฮองเฮาในยามนี้ไม่เท่ากับว่าโง่เขลาเกินไปหรอกรึ“เห็นหรือไม่ น้องสาวข้าช่างรู้ความนัก เจ้ากลับไปเตรียมตัวเถิด ไว้เดินทางเข้าเมืองหลวงเมื่อใด ค่อยเข้ามาพบกุ้ยเฟยก็ยังมิสาย”หว่านหนิงทำค

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status