เซียวอี้เซียนที่ไม่รู้ว่าจ้าวเฉิงกำลังจะเล่นงานคิดครอบครองตนเอง นางนั่งนับเงินทั้งหมดของสกุลเซียวแยกแยะชัดเจนนางขายได้เก้าแสนตำลึง สินสอดเน่าๆ เหล่านั้นนางขายได้สี่แสนตำลึง เซียวอี้เซียนไปหาบิดาพูดคุยบางอย่างจนกระทั่งไม่นานเซียวหงก็ให้คนนำรถม้าออกจากจวน
"คุณหนู..คนสกุลหลิวมาหาบอกว่าต้องการให้พวกเราย้ายออกทันทีเจ้าค่ะ"
"ยังไม่ถึงเวลา เจ้าไปบอกพวกเขาว่าไปหาใต้เท้าฮั่วแห่งกรมปกครอง หากใต้เท้ามาไล่ข้าเองข้าจะออกทันที"
"เอ่อ...เจ้าค่ะ"
เสี่ยวฮวาออกมาแจ้งแก่คนด้านนอกตามคำกล่าวของคุณหนู หลิวต่งถึงกับเงื้อมือจะตบหน้าสาวใช้ตัวน้อย แต่ยังไม่ทันลงมือแส้เส้นยาวก็สะบัดใส่เขาจนล้มลง
"เป็นบุรุษรังแกสตรี คุณชายหลิวช่างเป็นสุภาพบุรุษยิ่งนัก"
"ลู่เสวียน...เรื่องของสกุลหลิวใครใช้ให้เจ้าแส่ไม่เข้าเรื่อง"
"อืม...หนิงอ๋องรับสั่งเอาไว้ คุณหนูเซียวต้องปลอดภัย หลิวต่งหรือว่าเจ้าอยากต่อกรกับเทพสงครามแห่งต้าฉินกันเล่า"
"หมายความว่าอย่างไร"
"ความหมายของข้า คนโง่เช่นเจ้ารู้ไปก็เท่านั้น อ้อ เรื่องที่สกุลหลิวฉ้อโกงชาวบ้าน โก่งราคาจำนองอยู่ๆ ก็มีคนไปร้องศาลปกครองกว่าห้าสิบราย ใต้เท้าฮั่วกำลังไปที่บ้านเจ้า มิกลับไปดูหน่อยหรือ ฮ่าๆๆ"
หลิวต่งรีบกลับจวนทันที เหตุใดมีคนไปร้องเรียนเยอะเพียงนี้ ตอนนี้พวกเขาไม่มีใจจะหาเรื่องสกุลเซียวอีกแล้ว ต้องกลับไปจัดการเรื่องที่จวนก่อน เมื่อมาถึงจวนก็เห็นเจ้าหน้าที่กรมปกครองอยู่เต็มจวน บิดาของเขา ท่านปู่กำลังถูกสอบสวน เรือนในถูกองครักษ์ของกรมปกครองขนสมุดบัญชีออกมา นี่มันอะไรกัน อยู่ๆชาวบ้านพวกนั้นเกิดอะไรขึ้นถึงลุกขึ้นต่อต้านสกุลหลิวกัน
ทางสกุลจ้าวเองตอนนี้จ้าวอันป๋อกลับมาบ้านอย่างหัวเสียเรียกหาหลานชายทันที จ้าวเฉิงมาหาท่านปู่ของเขา เมื่อมาถึงก็ถูกจ้าวอันป๋อถึงกับตบหน้าอย่างแรง
"ไอ้เด็กโง่..หน้าแก่ๆของข้าจะเอาไปไว้ที่ใด"
"ท่านปู่..ข้าขออภัยขอรับ แต่เรื่องราวทุกอย่างก็เพราะท่านปู่ใหญ่เมามิใช่หรือถึงไปรับปากเซียวหานว่าจะให้ข้าแต่งกับนาง"
"ขายสมบัติสกุลจ้าว นางขายมันราวกับเศษขยะไร้ค่า ได้ยินว่าสมบัติของนางกลับขายราคางามนัก นางเด็กนี่ฉลาดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน หรือที่ผ่านมานางฉลาดอยู่แล้ว แต่เป็นที่เจ้ามันโง่ถูกนางเด็กอสรพิษนี่หลอกมาตลอด ไสหัวไป"
จ้าวอันป๋อกำมือแน่น หน้าตาของเขาไม่เหลือหลอถูกสตรีวัยเพิ่งจะพ้นปักปิ่นเล่นงานจนไม่เหลือ ดูท่าพรุ่งนี้เขาควรไปเยือนจวนเซียวสักหน่อย ในเมื่อเป็นพวกเขาที่ทวงสัญญาแต่แรก
เช่นนั้นสินสอดที่รับไปแล้ว พวกมันขายออกไปไม่ได้ส่งคืน งั้นก็เท่ากับนางยังต้องแต่งเข้าสกุลจ้าว หึ เขาในฐานะผู้อาวุโสจะต้อนรับหลานสะใภ้เช่นนางอย่างดีเชียว แต่จ้าวอันป๋อก็ไม่รู้เลยว่าเซียวอี้เซียนรู้ถึงจิตใจคับแคบของเขาได้ดีกว่าตัวเขาเองเสียอีก
หลิวเย่วที่เดิมทีจะมาหาจ้าวเฉิงต้องล่าถอย ผู้นำตระกูลโกรธเกรี้ยวถึงเพียงนี้ เรื่องที่นางกับเขาพลอดรักร่วมรักกันที่อารามเต๋าลือไปจนหยุดไม่อยู่แล้ว ตอนนี้ท่านย่าของนางกระอักเลือดออกมาจนสลบไปยังไม่ฟื้นเลย เป็นเพราะนางแพศยานั่นคนเดียว
จ้าวเฉิงเดินมาหานางก่อนจะข่มอารมณ์ เมื่อก่อนนี้เขายอมรับว่าหลิวเย่วนางงามมากนักในสายตาเขา แต่หลังจากได้เห็นจางอี้เซียนวันนี้ หลิวเย่วนับว่าห่างไกลกับคำว่างามล่มเมืองมากนัก
"เย่วเอ๋อร์..พรุ่งนี้ข้าจะรับอี้เซียนมาเป็นเมียรองบอกให้เจ้ารู้ไว้ก่อน"
"ท่านว่าอะไรนะ แต่งข้ามายังไม่ทันกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมก็จะรับเมียรอง จ้าวเฉิงท่านยังมีจิตสำนึกอยู่หรือไม่"
"นางเป็นคู่หมั้นข้าแต่แรกอยู่แล้ว เอาล่ะอย่างไรเจ้าก็เป็นเมียเอก จะอิจฉาเมียรองไปทำไมกัน"
"กรี๊ด สารเลวจ้าวเฉิงเจ้ามันสารเลว เซียวอี้เซียนข้าไม่เอาเจ้าไว้แน่ๆ ออกไป!!ไสหัวไปให้หมด"
จ้าวเฉิงเอ่ยเสร็จก็เดินจากไป หลิวเย่วกรี๊ดตามหลังอาละวาดทุบตีบ่าวไพร่ ขว้างปาข้าวของในใจอาฆาตเซียวอี้เซียนจนแน่นอก
"ดูเหมือนพี่สะใภ้จะเดาถูกนะพี่ใหญ่...นางถึงได้ให้ท่านเสนอแก่ฝ่าบาทถึงสามรอบเรื่องไปสำรวจภูมิทัศน์ต้าฉิน อ้างว่าเพื่อให้รัชทายาทได้รู้จักแผ่นดินตนเองก็เป็นนางที่แนะนำให้ท่านกราบทูลแก่ฝ่าบาท"เสียงดังมาจากคนที่เพิ่งเดินลงมาจากด้านบ้าน ลู่เสวียนเดินเข้ามาด้วยอาภรณ์ที่สะอาดไร้รอยเปื้อนแต่อย่างใด หวังจิ่วคอหด ขนลุกตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาอยู่ข้างนอกมิใช่หรือ เหตุใดลงมาจากข้างบนได้กัน ว่ากันว่าคุณชายลู่ฆ่าคนเสร็จก็จะเปลี่ยนอาภรณ์ใหม่ทันทีเพราะเป็นคนรักสะอาด หยางเทียนหลงภูมิใจในตัวเซียวอี้เซียนเอ่ยออกอย่างภูมิใจ"เมียข้านางฉลาดนัก แต่คนกลับคิดว่านางเป็นเพียงสตรีที่ต้องอาศัยบุรุษถึงสามารถอยู่ได้""แล้วคนที่คิดเช่นนี้ตอนนี้ถูกปรับไม่ได้รับเบี้ยหวัดสามปี อีกทั้งยังถูกลดจากอำมาตย์ช้ายไปเป็นรองเจ้ากรมพิธีการ ทั้งจวนจ้าวถูกองครักษ์หลวงควบคุม ช่างน่าขันยิ่งนักฮ่าๆๆๆ"ลู่เสวียนหัวเราะไม่เก็บอาการแต่อย่างใด ยามที่อยู่นอกเมืองหลวงเขาก็คือน้องรอง ส่วนหลิวหย่งก็คือน้องสามเป็นพี่น้องบุญธรรมกับหยางเทียนหลง เมื่อพี่ใหญ่มีความสุขเหตุใดพวกเขาจะไม่แสดงความยินดีออกมากันเล่า "ฮ่าๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ คนต้
ในห้องพักทุกคนเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้ หยางเทียนหลงนอนอยู่บนเตียงด้านนอกลู่เสียนที่ปลอมเป็นคนขับรถม้ายืนเฝ้าอยู่ด้านล่างขอโรงเตี๊ยมคนของแคว้นเหลียงเริ่มที่จะลงมือ โรงเตี๊ยมยามนี้เงียบวังเวงแม้แต่เสียงยุงบินผ่านยังไม่มี ลู่เสวียนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก่อนจะลืมตาทำท่าทีงัวเงียแล้วเอ่ยกับองครักษ์ที่เฝ้ายาม"นี่ๆๆ พี่ชายข้าจะไปนอนที่รถม้านะ""อ้อ..อืม"ลู่เสวียนเดินออกไปด้านนอกเมื่อออกมาได้ก็แอบไปด้านหลังแล้วดีตัวไปยังยอดไม้เพื่อดูความเคลื่อนไหว ชายชุดดำกว่าร้อยคนกำลังมา แปลว่าพวกมันเหมาโรงเตี๊ยมทุกโรงที่เป็นทางผ่านเพื่อรอจัดการรัชทายาท หากวันนี้เป็นตัวจริงเสด็จมาคงลำบากแน่นอนชายฉกรรจ์ชุดดำกว่าร้อยคนเคลื่อนมายังโรงเตี๊ยม เมื่อมาถึงก็ปิดล้อม ส่วนนักฆ่าอีกกลุ่มที่ซ่อนตัวอยู่ในโรงเตี๊ยมที่พักก่อนหน้าสามห้องก็เปิดประตูห้องออกมาทันทีที่ได้รับสัญญาณ ทุกคนสวมชุดนักรบของเผ่าเหลียง องครักษ์ของหยางเทียนหลงที่อยู่ในห้องต่างก็พยักหน้า หวังจิ่ว อารองขององค์ชายใหญ่เดินมายังด้านในโรงเตี๊ยม ก่อนจะเอ่ยถาม"มีคนออกไปข้างนอกหนึ่งคนกลับเข้ามาหรือยัง""เป็นค
หวงเหวินเทียนส่งมารดาเข้านอน เมื่อเรียบร้อยคนของรัชทายาทก็มารายงานเรื่องราว รัชทายาทตัวปลอมนั้นกำลังเดินทางกลับเมืองหลวง และคืนนี้จะมีการลงมืออีกครั้งจากฝ่ายตรงข้าม ครั้งนี้เขาจะรวบให้หมด หยางต่งเจ้ารอก่อนเถอะผ่านคืนนี้ไปข้าจะรับซิ่วเอ๋อร์กลับจวนอย่างเอิกเกริก ให้เจ้าได้รู้ว่าที่ผ่านมาเจ้าและมารดาของเจ้ากลับสกุลหวังไม่เคยควบคุมนางและใครได้เลย และเมื่อเจ้ารับรู้ว่าที่จริงแล้วนางเป็นคนของใคร ข้าจะให้เจ้ากระอักเลือดจนยกดาบไม่ขึ้นเชียวล่ะโรงเตี้ยมพเนจรยามอิ๋นรถม้าที่กำลังทะยานควบขี่มายังโรงเตี้ยม กระทั่งมาถึงคนขับรถม้าจึงไปเคาะเรียก ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆเสียงเคาะประตูหลายครั้งทำให้เสี่ยวเอ้อที่งัวเงียๆจากการที่แอบงีบหลับก็ลืมตาขึ้นมา เมื่อตอนบ่ายมีคนมาเหมาโรงเตี้ยมที่ผ่านทางนี้จนหมด มีเพียงโรงเตี้ยมของเขาที่ไม่มีใครมาขอเหมา แขกก็น้อยได้มาเพิ่มอีกคนเถ้าแก่คงมีเงินจ่ายเงินเดือนของเขา จากนั้นเสี่ยวเอ้อก็เดินไปเปิดประตูเพื่อต้อนรับคนที่มาพัก"มาแล้ว มาแล้ว เสี่ยวเอ้อเดินขยี้ตารัวๆก่อนจะตะโกนตอบกลับไป เมื่อเปิดประตูก็เห็นบุรุษสิบกว่าคน มีรถม้าคันใหญ่ เขาจึงถามออกไป"
ในเมืองหลวงตอนนี้กำลังมีการเฝ้าระวังคนของแคว้นเหลียงกับคนขององค์ชายใหญ่ จ้าวอันถูกปล่อยออกมาแล้ว ฮ่องเต้ลงโทษงดรับเบี้ยหวัดสามปี อีกทั้งลดขั้นจากอำมาตย์ฝ่ายซ้ายไปเป็นรองเจ้ากรมพิธีการ จ้าวอันป๋อเองก็แทบจะกระอักเลือด จวนถูกองครักษ์ควบคุมไปไหนไม่ได้ ตอนนี้ในห้องลับของจวน คนของแคว้นเหลียงกำลังนั่งหน้าดำคล้ำเจรจากับจ้าวอันและจ้าวอันป๋ออยู่"ตกลงอาวุธ..พวกท่านจะส่งมอบเมื่อใด""ทางเราถูกยึดไปหมด นายกองหม่าท่านรออีกสักนิดเถอะ""เสนาจ้าว แคว้นเหลียงของเราคงไม่รอแล้ว ข้าจะพากำลังเข้าเมืองหลวง พวกท่านก็เตรียมเปิดประตูเมืองรอด้วยเล่า"จ้าวอันป๋อกำมือแน่น หากไม่มีอาวุธต่อให้พวกเขามาได้ก็ใช่ว่าจะชนะ แต่ทางแคว้นเหลียงไม่เจรจาต่อ พวกเขานัดวันบุกเมืองหลวงเรียบร้อยก็กลับไป ส่วนองครักษ์ของวังหลวงแสร้งไม่รับรู้ว่าสกุลจ้าวมีคนแปลกหน้าเข้าออก พวกเขานำผักมาส่งทุกๆวันแต่ต้าฉินเป็นดินแดนแห่งการเพาะปลูก พื้นที่มิได้หนาวเย็นเช่นแคว้นเหลียง แต่สามคนนี้กลับใบหน้ากร้านลมจนเห็นชัด เหมือนกับคนที่อยู่กับอากาศหนาวมาตลอดชีวิตองครักษ์นายหนึ่งถึงเวลาเปลี่ยนเวรกับคนใหม่ เมื่ออกเวรก็ตรงไปตำหนัก
เสียงของสตรีผู้หนึ่งดังมาจากด้านหลัง จางลี่เฟยและเซียวอี้เซียนกับฉีฮุ่ยหมินหันไปพร้อมกัน สตรีในชุดทหารเดินเข้ามาหร้อมกับเอ่ยกับจางลี่เฟย ด้านหลังนางมีเด็กสาวอีกคนวัยน่าจะสิบเจ็ดสิบแปดเดินตามหลงมา หลานซิ่วเอ๋อร์รีบวิ่งไปเกาะแขนนางทันทีก่อนจะเอ่ย"พี่ใหญ่ท่านมาแล้ว ไหนท่านบอกว่าอีกหลายวันไงเจ้าคะ""ทำไม ไม่อยากให้พี่กลับมาเช่นนั้นหรือ""ไอ้โย่ว เปล่าสักหน่อยข้าคิดท่านมากจริงๆนะเจ้าคะ คิดถึงน่ะ คิดถึง ชายแดนมีอะไรน่าอยู่กัน ท่านชอบตัดหัวศัตรูมากกว่าคิดถึงน้องสาวอย่างข้าหรือ แม่ทัพฮวน สามปีมานี่ข้าคิดถึงท่านแทบบ้า"หลานซิ่วเอ๋อร์อ้อนพี่สาวทันที หลานฮวนลูบศีรษะหลานซิ่วเอ๋อร์ด้วยกิริยาอ่อนโยน บรรยากาศอบอุ่น จากนั้นก็หันไปหาเซียวอี้เซียนและฉีฮุ่ยหมิ่นก่อนจะคำนับ"หม่อมฉันหลานฮวนถวายพระพรไท่จื่อเฟย ถวายพระพรพระยาชาเซียวเพคะ""คุณหนูใหญ่ ไม่เจอท่านสามปีดูงามสง่าขึ้นมากนัก ว่าแต่ท่านเอ่อ..."ฉีฮุ่ยหมิ่นเอ่ยกับหลานฮวน ส่วนเซียวอี้เซียนนอกจากวิ่งตามจ้าวเฉิงก็มิได้รู้จักคุณหนูจวนอื่นแต่อย่างใดจึงพยักหน้ารับเท่านั้น หลานฮวนหันไปหาน้องสาวก่อนจะเอ่ย"ไม่เจอสามปี ซิ่วเอ๋อร์ข
เซียวอี้เซียนยามนี้ยืนสงบนิ่งอยู่ ด้านหน้าเป็นเนินดินที่นางนำเสื้อผ้าของเวียวอร้เซียนคนเดิมมาฝังเอาไว้ ป้ายหลุมศพแกะสลักจากหินอ่อน เขียนว่า สถานที่พักผ่อนของเซียวอี้เซียนผู้เป็นที่รัก มารดาและท่านย่าของนางกลับไปแล้วหลังจากเซ่นไหว้เรียบร้อย เซียวอี้เซียยืนสงบนิ่ง นางปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดไปแล้วดูเหมือนเซียวอี้เซียนคนนั้นคงยอมจากไปแล้ว เสี่ยวฮวามองไปยังร่างบางก็อดสงสัยไม่ได้ พระชายานึกอย่างไรจึงสร้างหลุมศพตนเอง ฉีฮุ่ยหมิ่นเดินมาแตะไหล่บางก่อนจะเอ่ย"เซี่ยนเซี่ยน สบายใจหรือยัง""เพคะหม่อมฉันรู้สึกดีเหมือนได้เกิดใหม่จริงๆ ว่าแต่พี่ฮุ่ยหมิ่นได้ยินว่าคนๆนั้นบาดเจ็บไม่น้อย"ฉีฮุ่ยหมิ่นถอนหายใจก่อนจะพยักหน้า คนๆนั้นที่เซียวอี้เซียนกล่าวถึงก็คือคนที่ปลอมเป็นหยางเฟยหยางไปตรวจงานที่เมืองตงซาน เขาถูกลอบสังหารถึงสามครั้ง คนของสกุลหวังคงร้อนใจแล้ว ทั้งสี่คนเดินมาจนถึงด้านหลังของอารามก็พบกับคนๆหนึ่ง เซี่ยวอี้เซียนไม่อยากเสียเวลาจึงพากันเดินหนี เสี่ยวฮวากับซีซีเองก็เดินตามเจ้านายของตน กระทั่งเสียงของสาวใช้คนหนึ่งดังขึ้น"บังอาจ...เห็นพระสนมแล้วเหตุใดไม่เคารพ เด็กๆจับพวก