Share

แผนลับ

last update Last Updated: 2025-06-14 17:26:04

ในวันรุ่งขึ้น องค์จักรพรรดิได้เรียกประชุมเหล่าขุนนางผู้ใหญ่และแม่ทัพนายกอง เพื่อปรึกษาหารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เหม่ยหลินและหลี่เฟยหลงได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการประชุมด้วย เพื่อรับทราบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

"ข้าไม่ยอมส่งตัวท่านแม่เจียงไปเด็ดขาด!" แม่ทัพใหญ่ผู้แข็งแกร่งกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน "ให้พวกเขามา! เราพร้อมที่จะรบ!"

แต่ท่านราชครูจ้าวกลับมีความเห็นที่แตกต่างออกไป "การรบไม่ใช่ทางออกเสมอไป ท่านแม่ทัพใหญ่ หากเราหลีกเลี่ยงสงครามได้ ก็ควรจะหลีกเลี่ยง"

"แล้วท่านราชครูจะให้เราทำอย่างไร! ส่งตัวเชฟหลวงผู้ล้ำค่าของเราไปให้ศัตรูอย่างนั้นรึ!" แม่ทัพใหญ่ไม่พอใจ

ในขณะที่การโต้เถียงดำเนินไปอย่างดุเดือด องค์จักรพรรดิก็ทรงยกพระหัตถ์ขึ้น เพื่อให้ทุกคนเงียบเสียง

"ข้าได้ตัดสินใจแล้ว" องค์จักรพรรดิมีราชโองการด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ข้าจะส่งตัวท่านแม่เจียงไปยังแคว้นเยว่... แต่มีข้อแม้!"

คำประกาศขององค์จักรพรรดิทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึง เหม่ยหลินเองก็รู้สึกประหลาดใจไม่แพ้กัน

"ฝ่าบาท!" ท่านราชครูจ้าวอุทานด้วยความตกใจ

"ฟังข้าให้จบก่อน" องค์จักรพรรดิรับสั่ง "ข้าจะส่งท่านแม่เจียงไป... แต่เธอจะไปในฐานะ "ทูตแห่งอาหาร" ไม่ใช่เชลยศึกหรือผู้รักษา! เธอจะต้องไปปรุงอาหารให้องค์จักรพรรดิเยว่ และหากองค์จักรพรรดิเยว่ทรงมีพระพลานามัยดีขึ้น... พวกเขาจะต้องเซ็นสัญญาไม่รุกรานเราเป็นเวลาสิบปี! และที่สำคัญที่สุด... ท่านแม่เจียงจะไปพร้อมกับหลี่เฟยหลง และจะได้รับความคุ้มครองจากกองกำลังพิเศษของเรา! และหากพวกเขากล้าทำอันตรายแม้แต่น้อย... ข้าจะส่งกองทัพทั้งหมดไปบดขยี้แคว้นเยว่ให้ราบเป็นหน้ากลอง!"

แผนการขององค์จักรพรรดิเป็นการเดิมพันที่สูงลิ่ว แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่พระองค์มีต่อเหม่ยหลินอย่างหาที่สุดมิได้

"ฝ่าบาท... หม่อมฉันเกรงว่า..." เหม่ยหลินพยายามทัดทาน

"ไม่ต้องห่วงท่านแม่เจียง" องค์จักรพรรดิรับสั่ง "ข้าเชื่อในความสามารถของท่าน และข้าก็เชื่อว่าท่านจะสามารถนำพาสันติภาพมาสู่แผ่นดินนี้ได้! นี่คือบททดสอบครั้งสำคัญของท่าน! ท่านกล้าที่จะรับมันหรือไม่!"

เหม่ยหลินมองไปที่หลี่เฟยหลงที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาพยักหน้าให้เธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น เหม่ยหลินถอนหายใจลึกๆ และตัดสินใจที่จะยอมรับบททดสอบนี้

"เพคะฝ่าบาท! หม่อมฉันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด! และจะนำพาสันติภาพกลับมาให้แคว้นของเราให้ได้เพคะ!" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

การเดินทางสู่ดินแดนศัตรู

การเดินทางสู่แคว้นเยว่เป็นการผจญภัยครั้งใหม่ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เหม่ยหลิน หลี่เฟยหลง และกองกำลังพิเศษขององค์จักรพรรดิ ประกอบด้วยองครักษ์ฝีมือดีที่ถูกคัดเลือกมาเป็นอย่างดี นำโดยหัวหน้าหมา ผู้ซึ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพพิเศษในภารกิจนี้

ตลอดการเดินทาง พวกเขาเผชิญหน้ากับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่หนาวเหน็บกว่าแคว้นของพวกเขามาก เส้นทางที่ขรุขระและเต็มไปด้วยโจรป่า แต่ด้วยความสามารถในการนำทางของหัวหน้าหมา และฝีมือการต่อสู้ของหลี่เฟยหลงและเหล่าทหารองครักษ์ พวกเขาก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นไปได้

เมื่อเดินทางถึงชายแดนแคว้นเยว่ พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับจากกองกำลังทหารของแคว้นเยว่ที่เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ บรรยากาศตึงเครียดและเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ

"พวกเรามารับท่านแม่เจียงไปเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิเยว่!" แม่ทัพของแคว้นเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงห้าวหาญ

เหม่ยหลินรู้สึกได้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและดูถูกจากทหารของแคว้นเยว่ พวกเขาคงไม่คิดว่าสตรีธรรมดาๆ อย่างเธอจะสามารถทำอะไรได้

ในราชสำนักแคว้นเยว่: บททดสอบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

วังหลวงของแคว้นเยว่มีความโอ่อ่าไม่แพ้กัน แต่บรรยากาศกลับดูเยือกเย็นและเคร่งขรึมกว่ามาก เหม่ยหลิน หลี่เฟยหลง และหัวหน้าหมา ถูกนำตัวไปยังห้องโถงใหญ่ ซึ่งองค์จักรพรรดิเยว่ประทับอยู่บนบัลลังก์ทองคำ

องค์จักรพรรดิเยว่เป็นชายวัยกลางคน รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาของพระองค์ฉายแววเฉลียวฉลาดและเต็มไปด้วยอำนาจ แต่พระพักตร์ของพระองค์กลับดูซีดเซียวและอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด บ่งบอกว่าทรงประชวรหนักจริงตามที่ราชทูตกล่าวอ้าง

"คารวะฝ่าบาท" เหม่ยหลินกล่าวพลางก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม

"เจ้าคือแม่เจียงอย่างนั้นรึ?" องค์จักรพรรดิเยว่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แต่แฝงไปด้วยความกังขา "ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว เจ้าก็เป็นเพียงสตรีธรรมดาๆ คนหนึ่ง ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะมีความสามารถในการรักษาอาการประชวรของข้าได้"

คำพูดขององค์จักรพรรดิเยว่เป็นการดูถูกอย่างชัดเจน แต่เหม่ยหลินก็ไม่ได้แสดงท่าทีโกรธเคือง เธอรู้ว่าเธอต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน

"หม่อมฉันไม่ได้เป็นหมอเพคะฝ่าบาท" เหม่ยหลินตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่หนักแน่น "แต่หม่อมฉันมีความรู้เรื่องอาหารและสมุนไพรบางอย่าง ที่อาจจะช่วยบรรเทาพระอาการของฝ่าบาทได้เพคะ"

องค์จักรพรรดิเยว่ทรงหัวเราะในลำคอ "หึ! งั้นข้าจะให้โอกาสเจ้า! จงปรุง 'ซุปแห่งชีวิตอมตะ' ของเจ้ามาให้ข้าได้ลิ้มลอง! แต่มีข้อแม้..."

พระองค์ทรงหยุดคำพูดไว้ชั่วขณะ ก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เจ้าจะต้องปรุงซุปนั้นด้วย วัตถุดิบจากป่าต้องห้ามของเรา! และหากซุปที่เจ้าปรุงไม่สามารถทำให้ข้าพอใจได้...เจ้าจะต้องถูกประหารชีวิต! และข้าจะบุกยึดแคว้นของเจ้า!"

คำกล่าวขององค์จักรพรรดิเยว่ทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึง ป่าต้องห้าม ของแคว้นเยว่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสถานที่อันตรายที่สุด เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายที่ไม่เคยพบเห็น และสมุนไพรบางชนิดก็มีพิษร้ายแรง การจะเข้าไปในป่าแห่งนั้นและหาวัตถุดิบที่เหมาะสมมาปรุงอาหารนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

"ฝ่าบาท! นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้วนะขอรับ!" หลี่เฟยหลงอุทานด้วยความโกรธ

"หุบปาก!" แม่ทัพของแคว้นเยว่ตะคอก "เจ้าไม่มีสิทธิ์พูดในที่ประชุมนี้!"

เหม่ยหลินยกมือขึ้นห้ามหลี่เฟยหลง เธอรู้ว่าการโต้เถียงตอนนี้มีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

"หม่อมฉันยอมรับข้อแม้เพคะฝ่าบาท" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เธอเงยหน้าขึ้นมององค์จักรพรรดิเยว่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "แต่หม่อมฉันขออนุญาตนำบุตรชายและหัวหน้าหมาไปเป็นผู้ช่วยในการหาวัตถุดิบด้วยเพคะ"

องค์จักรพรรดิเยว่ทรงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า "ได้! ข้าจะอนุญาต! แต่หากพวกเจ้าคิดจะเล่นตุกติก...เจ้าจะต้องเจอดีแน่!"

ภัยร้ายในป่าต้องห้ามและแสงสว่างที่คาดไม่ถึง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   พลังงานลึกลับ

    หลายเดือนหลังจากการเอาชนะภัยแล้งและความร่วมมือกับเผ่าหินทมิฬ ความสงบสุขก็กลับมาสู่แคว้นอีกครั้ง เหม่ยหลินยังคงทำหน้าที่เชฟหลวงและครูสอนทำอาหารอย่างไม่ย่อท้อ แต่ในใจของเธอ เธอรู้ว่าความสงบสุขนี้เป็นเพียงช่วงเวลาที่ยืมมาจากโชคชะตาเท่านั้น พลังงานลึกลับ ที่คุณหมอชลธีกล่าวถึง เริ่มแสดงอาการที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆพลังงานที่ปั่นป่วนและอาการผิดปกติของธรรมชาติในคืนหนึ่งที่เงียบสงบ เหม่ยหลินกำลังนั่งสมาธิอยู่ในสวนหลวงเพื่อฝึกจิตให้สงบตามที่คุณหมอชลธีแนะนำ ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังงานประหลาดที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย คลื่นพลังงานนั้นทำให้เธอรู้สึกวิงเวียนศีรษะ และได้ยินเสียงกระซิบที่เธอไม่เข้าใจ ความรู้สึกนี้คล้ายกับความรู้สึกในวันที่เธอเดินทางข้ามมิติมายังโลกนี้!เธอรีบไปยังที่พักของคุณหมอชลธีทันที และพบว่าเขากำลังยืนอยู่หน้าต่างด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด"คุณหมอชลธี! คุณรู้สึกไหมคะ!?" เหม่ยหลินถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก"ครับ...ผมรู้สึก" คุณหมอชลธีตอบ "มันไม่ใช่แค่ในร่างกายเราแล้วนะครับคุณเหม่ยหลิน...แต่ผมรู้สึกว่ามันกำลังปั่นป่วน มิติ นี้อยู่"อาการผิดปกติเริ่มปรากฏขึ้นทั่วแคว้น สัตว์เลี้ยง

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   มิตรภาพกลางทะเลทราย

    การเผชิญหน้าระหว่างสองอารยธรรมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ได้ถูกตัดสินด้วยเงื่อนไขที่แปลกประหลาดที่สุด นั่นคือ "อาหาร" เหม่ยหลินไม่รู้สึกหวาดหวั่นเลยแม้แต่น้อย เธอมองไปยังไป๋เฟิงและคุณหมอชลธีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ส่วนหัวหน้าหินทมิฬและพรรคพวกของเขาก็จ้องมองเธอด้วยความสงสัยระคนดูถูก"ท่านหัวหน้าหินทมิฬ" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงบ "ก่อนที่ข้าจะเริ่มทำอาหาร ข้าอยากจะขอให้ท่านแสดงน้ำใจแก่พวกข้าเสียก่อน โปรดนำน้ำมาให้พวกข้าสักเล็กน้อยเพื่อใช้ในการปรุงอาหาร และถ้าท่านอนุญาต...ข้าอยากจะขอให้พวกท่านช่วยนำทางพวกเราไปหาวัตถุดิบบางอย่างในพื้นที่ของท่านเพคะ"หัวหน้าหินทมิฬหัวเราะในลำคอ "เจ้ากล้าขอของจากข้าอย่างนั้นรึ! ก็ได้! แต่ถ้าเจ้าปรุงอาหารให้ข้าไม่พอใจ...เจ้าจะต้องถูกโยนลงไปในทะเลทรายที่ร้อนระอุจนกลายเป็นอาหารของสัตว์ร้าย!"เขาสั่งลูกน้องให้นำน้ำมาให้เหม่ยหลินเพียงน้อยนิด และให้ชายหนุ่มคนหนึ่งนำทางเธอไปหาวัตถุดิบ เหม่ยหลินรับน้ำมาด้วยรอยยิ้ม แล้วเดินนำไป๋เฟิงและคุณหมอชลธีออกไปพร้อมกับผู้ช่วยจากเผ่าหินทมิฬการล่าวัตถุดิบในแดนทุรกันดารการเดินทางไปหาวัตถุดิบในดินแดนของเผ่าหินทมิ

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   ภัยแร้ง

    บรรยากาศระหว่างคนทั้งสามตึงเครียดราวกับสายธนูที่ถูกน้าวสุดแรง ไป๋เฟิงมองเหม่ยหลินและคุณหมอชลธีสลับไปมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม เหม่ยหลินรู้สึกเหมือนถูกบีบรัดด้วยความลับที่ปกปิดมานานหลายปี เธอรู้ว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในครั้งนี้ได้อีกต่อไป"ไป๋เฟิง" เหม่ยหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเธอสั่นเครือแต่แฝงด้วยความเด็ดเดี่ยว "ข้าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ท่านฟัง แต่ท่านต้องให้สัญญากับข้าว่า ท่านจะไม่ตัดสินข้า และจะเชื่อในสิ่งที่ข้าพูด"ไป๋เฟิงพยักหน้าอย่างช้าๆ "ข้าให้สัญญาขอรับ"เหม่ยหลินจึงเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่วันที่เธอเป็นเชฟในโรงพยาบาลในโลกที่เธอจากมา เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่ทำให้เธอหลุดข้ามมิติมายังโลกนี้ การได้พบกับครอบครัวของเจียงเหวิน และการใช้ความรู้จากโลกเดิมเพื่อเอาชีวิตรอดและสร้างชีวิตใหม่ เธอไม่ได้ละเว้นแม้แต่เรื่องราวที่เธอเคยบอกไปแล้วอย่างเรื่องการทำอาหารจากวัตถุดิบประหลาด หรือเรื่องราวของโลกที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าไปไกลกว่าโลกนี้มากไป๋เฟิงฟังอย่างเงียบสงบ สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนจากความสงสัยเป็นความเข้าใจและตกตะลึง ในขณะที่คุณหมอชลธีก็เสริมข้อมูลบางอย่างที่เหม่ยห

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   กองโจรกับการหลับมา

    หลายปีผ่านไปนับตั้งแต่เหตุการณ์โจรสลัดหมาป่าทมิฬ ทุกมุมของแคว้นได้ฟื้นคืนชีวิตชีวาอย่างเต็มที่ภายใต้การนำอันชาญฉลาดของเหม่ยหลินและองค์จักรพรรดิ ตระกูลหลี่ได้กลายเป็นตระกูลที่มีเกียรติยศสูงสุดในแผ่นดิน หลี่เฟยหลงก้าวขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ผู้แข็งแกร่งและซื่อสัตย์ ชิวลี่ฮวาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านพืชพรรณและศิลปะในวัง ส่วนหลี่เฟยหานก็เติบโตเป็นข้าราชการหนุ่มผู้ซื่อตรงและเปี่ยมด้วยความสามารถ หลี่เฟยหยาง น้องสุดท้องก็เป็นหนุ่มน้อยผู้ร่าเริง มีสติปัญญา และมักจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนในวังเสมอมิตรภาพระหว่างแคว้นของเหม่ยหลินกับแคว้นเยว่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า ไป๋เฟิงยังคงเป็นราชทูตผู้ทรงอิทธิพล และมักจะเดินทางมาเยี่ยมเยียนเหม่ยหลินและครอบครัวอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเหม่ยหลินนั้นลึกซึ้งเกินกว่าคำว่ามิตร และเป็นที่รับรู้กันในหมู่คนใกล้ชิดว่าไป๋เฟิงมีใจให้กับเชฟหลวงผู้นี้อย่างสุดซึ้ง แต่ความแตกต่างของสถานะและแคว้นทำให้เรื่องนี้ยังคงเป็นเพียงความรู้สึกที่งดงามในใจเท่านั้นแม้ทุกสิ่งจะดูสมบูรณ์แบบ แต่บางครั้ง เงาจากอดีต ก็มักจะคืบคลานกลับมาทักทาย โดยเฉพาะอดีตที่เ

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   โจร

    ความรุ่งเรืองของแคว้นที่ฟื้นคืนชีพจากวิกฤตภัยธรรมชาติ เป็นดั่งแสงสว่างที่ดึงดูดสายตาจากทุกทิศทุกทาง ชื่อเสียงของ "ซุปแห่งชีวิตอมตะ" และความอุดมสมบูรณ์ที่กลับคืนมาอย่างรวดเร็วภายใต้การนำของ เชฟหลวงเหม่ยหลิน ไม่ได้สร้างความชื่นชมยินดีไปทั่วทุกสารทิศเสมอไป ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป ความโลภ กำลังเริ่มคืบคลานเข้าปกคลุมจิตใจของผู้คนบางกลุ่ม เสียงกระซิบของความมั่งคั่งและแผนการร้ายจากแดนเถื่อน ทางทิศตะวันออกไกลโพ้นจากแคว้นที่กำลังฟื้นฟู มีกลุ่มโจรขนาดใหญ่ที่เรียกตัวเองว่า "หมาป่าทมิฬ" อาศัยอยู่ พวกมันเป็นที่หวาดกลัวของผู้คนในแถบนั้น ด้วยความโหดเหี้ยม ป่าเถื่อน และความสามารถในการปล้นสะดมอย่างรวดเร็วราวกับฝูงหมาป่าที่หิวโหย หัวหน้ากลุ่ม คือชายร่างยักษ์ผู้มีใบหน้าดุร้ายและรอยแผลเป็นพาดผ่านดวงตา "ไคเฟิง" เขาได้ยินข่าวลือเรื่องความมั่งคั่งของแคว้นที่ฟื้นคืนชีพ รวมถึงเรื่องอาหารวิเศษที่ทำให้ผู้คนมีพละกำลังและสุขภาพดี "พวกแกได้ยินข่าวลือเรื่องแคว้นทางตะวันตกนั่นรึไม่!" ไคเฟิงคำรามเสียงดังในค่ายโจรที่เต็มไปด้วยกองไฟและเสียงเอะอะโวยวาย "มันว่ากันว่าแคว้นนั้นมีอาหารวิเศษที่ทำให้คนไม่เจ็บไม่ป่วย!

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   การฟื้นฟู

    เสียงโห่ร้องยินดีดังกึกก้องไปทั่วลานประลอง เมื่อขันทีหลงและผู้นำพรรคอัคคีทมิฬถูกคุมตัวออกไป ภาพของประชาชนที่ดื่มด่ำ "ซุปแห่งแสงตะวัน" และฟื้นคืนพลังขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ ได้สยบทุกความแคลงใจ ทุกเสียงกระซิบกระซาบของความไม่พอใจมลายหายไปสิ้น แทนที่ด้วยประกายแห่งความหวังและความเชื่อมั่นที่กลับคืนมาองค์จักรพรรดิทรงเดินลงจากบัลลังก์ มาประทับยืนข้างเหม่ยหลิน พระหัตถ์ของพระองค์วางลงบนบ่าของเธอด้วยความเมตตาและภาคภูมิใจ"ประชาชนของข้า!" องค์จักรพรรดิรับสั่งด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยพลัง "วันนี้! พวกเจ้าได้เห็นแล้วถึงความจริงใจของวังหลวง! พวกเจ้าได้ลิ้มรสแล้วถึงความเมตตาของสวรรค์! และพวกเจ้าได้ประจักษ์แล้วถึงพลังแห่งความสามัคคี! เราจะร่วมกันฟื้นฟูแคว้นของเราให้กลับมารุ่งเรืองยิ่งกว่าเดิม!"เสียงกู่ก้อง "ทรงพระเจริญ!" ดังกึกก้องไปทั่วทั้งลานประลอง ประชาชนต่างคุกเข่าลงด้วยความเคารพและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแผนฟื้นฟูแผ่นดิน: เมล็ดพันธุ์แห่งความหวังหลังเหตุการณ์จลาจล องค์จักรพรรดิได้เรียกประชุมเหล่าขุนนางและผู้เชี่ยวชาญทุกสาขา เพื่อวางแผนฟื้นฟูแคว้นครั้งใหญ่ เหม่ยหลิน ไป๋เฟิง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status