แชร์

เก็บท่านหมอกลับวัง

ผู้เขียน: Ai Chi Tudou
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-23 07:01:01

เช้าวันถัดมา จ้าวหลินอ้ายตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองอยู่ในห้องบรรทมเพียงผู้เดียว ดวงตากลมมองไปรอบห้องไม่เห็นเฉินซีหมิงจึงเรียกนางกำนัลที่เฝ้าอยู่นอกห้องเข้ามาซักถาม

“ราชครูเฉินไปไหน” 

“ไปดูเจ้าหน้าที่ซ่อมแซมตำหนักเล็กทางด้านหน้าเพคะ”

นางกำนัลตอบพลางช่วยกันทำความสะอาดเรือนร่างของจ้าวหลินอ้ายและเปลี่ยนชุดให้นางใหม่

            หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จ้าวหลินอ้ายก็ออกมาเดินเล่นที่บ่อน้ำพุร้อน เมื่อวานมัวแต่เล่นสนุกกับเฉินซีหมิงจึงไม่ได้สนใจบรรยากาศโดยรอบเท่าใดนัก ตอนนี้มีเวลาว่างจึงต้องการชื่นชมทิวทัศน์ให้เต็มที่

            “หืม ด้านนี้มีประตูเล็ก ไปไหนกันนะ”

สตรีเอื้อมมือเรียวไปเปิดประตู จากนั้นจึงเดินออกไปโดยไม่ได้เรียกนางกำนัลหรือองครักษ์ให้ติดตาม

ทางเดินนี้แม้จะค่อนข้างแคบแต่สะอาดสะอ้าน สองข้างทางปลูกต้นกุ้ยฮัวที่ส่งกลิ่นหอมทั่วบริเวณ

สตรีเดินตามทางไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลินจนลืมดูพื้นผิวถนนเบื้องหน้า เท้าเรียวก้าวไม่ทันระวังจึงข้อเท้าพลิกล้มลงบนพื้น

“โอ้ย”

จ้าวหลินอ้ายร้องพร้อมกับยกมือกุมข้อเท้า นางพยายามลุกขึ้นแต่ก็รู้สึกเจ็บจนลุกไม่ไหว

นั่งกุมข้อเท้าของตนสักพัก ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินใกล้เข้ามา จ้าวหลินอ้ายไม่รอช้า ร้องเรียกผู้ที่เดินทางผ่านทันที

“นั่นใคร มาช่วยข้าที”

สิ้นเสียงของนางไม่กี่ลมหายใจ ดวงตากลมโตก็มองเห็นบุรุษใบหน้าหวานร่างสูงเดินมาทางตน

‘หืม หล่อน่ารัก’

เพียงแค่เห็นก็ทำให้สตรีใจเต้นรัวขึ้นมาทันใด

“แม่นางเป็นอะไรหรือ”

เขาถามด้วยน้ำเสียงฟังออกถึงความห่วงใย

“ข้าข้อเท้าแพลง เจ็บมาก”

จ้าวหลินอ้ายส่งเสียงหวานตอบเขา

‘ทำไมฉันต้องดัดเสียงนะ สงสัยหล่อถูกสเปค’

สตรีคิดในใจเมื่อได้ยินเสียงที่ออกจากปากตนเองเป็นเสียงสองเสียงสาม

บุรุษรีบคุกเข่าแล้วดูข้อเท้านาง เขาหยิบห่อยาสมุนไพรที่พกติดตัวมาจากนั้นก็เทน้ำจากกระบอกน้ำผสมก่อนจะพอกเข้าที่บริเวณข้อเท้านั้น

“ข้าทายาให้แล้ว เจ้าลุกไหวหรือไม่”

จ้าวหลินอ้ายลองลุกขึ้น แต่ก็เซเข้าไปในอ้อมแขนของบุรุษ

“ข้าเดินไม่ไหว ลงน้ำหนักที่เท้าไม่ได้”

“เช่นนั้นข้าคงต้องขอโทษแม่นางแล้ว”

มือแกร่งที่จับบริเวณไหล่ของสตรีเปลี่ยนมาเป็นอุ้มนางให้อยู่ในอ้อมแขน

“ข้าต้องไปส่งแม่นางที่ไหนหรือ”

บุรุษใบหน้าหล่อหวานถามด้วยความสงสัย

สตรีที่ถูกอุ้มตอนนี้แนบใบหน้าซุกลงที่หน้าอกแกร่ง นางเผลอตัวสูดดมกลิ่นกายเขา

‘กลิ่นสมุนไพร หอมดีจัง’

“เจ้าเป็นคนเก็บสมุนไพรหรือ”

นางไม่ได้ตอบที่เขาถาม แต่ถามสิ่งที่สงสัยกลับ

บุรุษได้ฟังก็หัวเราะจนเห็นลักยิ้มบนแก้มทั้งสองข้าง

“จะว่าใช่ก็ใช่ แต่ถ้าบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว ข้าเป็นหมอน่ะ”

จ้าวหลินอ้ายมองเขาด้วยแววตาเคลิบเคลิ้ม

“หมอหรือ ดีมาก” 

ชาติที่แล้วเจอหมอหนุ่มงานดี ชาตินี้ที่เจอก็งานดีไม่แพ้กัน

นางคิดในใจ นิ้วเรียวชี้ไปยังทางที่ตนเดินมา

“ข้าเดินมาจากทิศทางนั้น”

นัยน์ตาคมของบุรุษมองตามปลายนิ้วของหญิงสาว

“ทางนั้นคือตำหนักฮัวซานนี่”

“ใช่”

มือเรียวโอบกอดเอวของอีกฝ่ายราวกับกลัวว่าตนเองจะหลุดจากมือแกร่งจนร่วงลงพื้น

“เอ่อ ข้าไปส่งแม่นางแค่หน้าประตูได้หรือไม่ ข้าเข้าไปในเขตตำหนักคงไม่เหมาะสม”

“เข้าไปข้างในได้ ทหารไม่ว่าหรอก”

สตรีบอกเสียงหวานอีกครั้ง

            “เจ้า เอ่อ ท่านหมอมีนามว่าอะไรหรือ”

นางถามชื่อของเขาก่อนจะถึงจุดหมายปลายทาง

            “ข้ามีนามว่าหลี่เสิน แม่นางล่ะ”

“เรียกข้าว่าอ้ายเอ๋อร์ก็ได้”

จ้าวหลินอ้ายบอกเขาเพียงเท่านี้ เพราะเกรงว่าหากบอกชื่อเต็มเดี๋ยวเขาจะรู้ฐานะของตนจนไม่กล้าอุ้มต่อ

“อ้ายเอ๋อร์ ชื่อเพราะดีนะ”

เขาเอ่ยชม ขายาวก้าวเดินไม่นานก็ถึงประตูเล็กข้างตำหนัก

เมื่อก้าวเข้ามาในบริเวณตำหนัก สายตาของบุรุษสตรีก็เห็นองครักษ์และนางกำนัลกำลังตามหาใครสักคน เมื่อพวกเขาหันหน้ามาที่ประตูก็พบกับสายตาของจ้าวหลินอ้ายที่จ้องพวกเขา

เห็นดังนั้นก็รู้ดีว่าพวกเขาควรปิดปากเงียบไม่พูดอะไรออกมา

“เข้าไปส่งข้าข้างในเถอะ”

จ้าวหลินอ้ายบอกหลี่เสินที่กำลังยืนงุนงงอยู่หน้าประตู

บุรุษลังเลเล็กน้อย นางจึงพูดซ้ำ

“ไม่เป็นอะไร ไปส่งข้าข้างในได้”

หลี่เสินพยักหน้า เขาเดินอุ้มสตรีไปตามทางที่บอก มีนางกำนัลและทหารองครักษ์เดินตามหลังเงียบๆ อย่างรู้งาน

เข้ามาภายในตำหนักก็เห็นเฉินซีหมิงยืนรออยู่ด้านใน

“ฝ่าบาท”

เฉินซีหมิงรีบพูด ดวงตาดอกท้อมองบุรุษที่อุ้มนางก่อนจะส่งเสียงด้วยความแปลกใจ

“หลี่เสิน”

“อ้าว ท่านพี่ซีหมิง”

บุรุษทักทายกันน้ำเสียงดีใจ

“เอ่อ”

จ้าวหลินอ้ายเริ่มกระอักกระอ่วน เกิดมาชาติที่แล้วก็ไม่เคยมีแฟน พอชาตินี้พาชายหนุ่มอีกคนมาเจอคนของตัวเองจึงวางตัวไม่ถูก 

นี่หรือคือความรู้สึกของรถไฟชนกัน

นางนิ่งเงียบครู่หนึ่งก่อนพูด

“พาข้าไปนั่งก่อนเถอะ”

“อ่อ ได้”

หลี่เสินพยักหน้า เขาอุ้มร่างบางของสตรีไปนั่งยังเก้าอี้ตัวที่ใกล้

“เอ่อ เมื่อครู่พี่ซีหมิงเรียกแม่นางอ้ายเอ๋อร์ว่าฝ่าบาทหรือ”

เฉินซีหมิงเหลือบมองสตรีที่นั่งก้มหน้า ริมฝีปากบางยกยิ้มเข้าใจเจตนาของนาง

“ใช่ อ้ายเอ๋อร์ก็คือจ้าวหลินอ้าย จักรพรรดินีของแคว้น”

หลี่เสินได้ยินเข่าทรุดลงทันใด เขานั่งหมอบตรงหน้าของจ้าวหลินอ้าย

“กระหม่อมไม่ทราบว่าเป็นฝ่าบาท กระหม่อมสมควรตาย”

สตรีมองท่าทางของเขาด้วยความพอใจ มือเรียวประคองเขาให้ลุกขึ้น

“ข้าจะเอาชีวิตเจ้าทำไม ให้เจ้าเข้ามาอยู่ในวังกับข้าดีกว่า”

ดวงตากลมโตมองบุรุษอย่างเอ็นดู ก่อนเงยหน้ามองที่เฉินซีหมิง

“กระหม่อมรู้จักหลี่เสินมานานแล้ว เขาเป็นคนดี ชาติตระกูลดี มีความรู้ทางการแพทย์มาก เขาเป็นหลานของหมอเทวดาหลี่ซือ”

เฉินซีหมิงรีบบอกประวัติทันใด

“หลานของท่านหมอเทวดา หากข้าให้เขาอยู่ในวัง ท่านหมอจะโกรธหรือไม่”

จ้าวหลินอ้ายยกมือเรียวขึ้นมาจับคางตน น้ำเสียงเจือความกังวล

เฉินซีหมิงมองหลี่เสิน เขาอมยิ้มเล็กน้อย

“หลี่เสิน ถ้าเจ้าเข้ามาเป็นนายสนมในวัง ท่านปู่ของเจ้าจะโกรธหรือไม่”

บุรุษหน้าหวานได้ฟังมีสีหน้าตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

“เป็นสนมหรือ สนมของฝ่าบาท”

เขามองสตรีตรงหน้า สายตาเหลือบมองรูปร่างอวบอัดของนางก็แอบกลืนน้ำลาย

“ท่านปู่และท่านพ่อของกระหม่อมคงไม่ว่าอะไร แต่กระหม่อมคงไม่เหมาะสมกับฝ่าบาท”

“เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมข้าเป็นคนตัดสินเอง”

จ้าวหลินอ้ายพูดทันทีที่เขาพูดจบ

“เจ้าเข้าวังมาช่วยเฉินซีหมิงด้วย เขามีงานเยอะ แบ่งเวลามาดูแลข้าตลอดไม่ได้อยู่แล้ว”

เฉินซีหมิงพยักหน้าเห็นด้วย

“ข้าเองก็ต้องทำงานให้ราชสำนัก เรื่องในวังคงดูแลไม่ทั่วถึง เจ้าเข้ามาเป็นหมอหลวงในวัง ช่วยข้าดูแลฝ่าบาทดูแลวังหลังดีกว่า”

เขาเงียบไปเล็กน้อยก่อนพูดต่อ

“ข้าคิดว่าสองคนยังน้อยไปเลย”

จ้าวหลินอ้ายหันมองเขาอย่างรวดเร็ว

“หยุดพูด เจ้าคนเดียวข้าก็เหนื่อยแล้ว สองคนคงจะถึงขีดจำกัดของข้า ข้าไม่อยากหามาเพิ่ม”

เฉินซีหมิงหยุดปิดปากทันใด ใบหน้าหล่อเหลาแดงระเรื่อจนเห็นได้ชัด หลี่เสินที่ฟังอยู่ตอนแรกก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่จ้าวหลินอ้ายพูด แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเฉินซีหมิงเข้าก็เข้าใจความหมาย

“ฝ่าบาทยังอยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ มากกว่าสองคนก็ยังได้พะย่ะค่ะ” 

คำพูดนี้ทำให้จ้าวหลินอ้ายเขินอายขึ้นมา นางรีบโบกมือไล่บุรุษรูปงามสองคนที่อยู่ในห้อง

“ข้าอยากอยู่คนเดียว พวกเจ้าสองคนออกไปก่อนเลย”

มีอย่างที่ไหนบุรุษสตรีพูดเรื่องใต้สะดือกันกลางวันแสกๆ

“ฝ่าบาท เช่นนั้นข้าไปพบท่านหมอเทวดาหลี่ซือกับหลี่เสินก่อนนะพะย่ะค่ะ”

ซีหมิงบอกจ้าวหลินอ้าย เขาส่งสายตาให้หลี่เสินตามตนออกจากห้องด้วยความว่องไว

จ้าวหลินอ้ายมองบุรุษที่ออกจากห้อง นางเดินกระเผลกไปที่เตียง มือจับที่ข้อเท้าของตนเองสีหน้าประหลาดใจ

“แทบไม่เจ็บแล้ว สมกับเป็นหลานของหมอเทวดาจริงๆ” 

ร่างบางล้มลงนอนบนเตียงแล้วกลิ้งไปมาก่อนพูดพึมพำกับตนเอง

“คิดไม่ถึงว่าชาตินี้จะมีสามีหลายคน จ้าวหลินอ้าย เจ้าทำบุญมาด้วยอะไรกันนะ”

ริมฝีปากอวบอิ่มพูดพลางหัวเราะร่า

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   พระโอรสพระธิดา

    ห้าปีผ่านไปเสียงของเด็กชายสามคนดังขึ้นที่สวนหินในเขตพระราชฐาน“พวกเจ้าอย่ารบกวนข้า ข้ากำลังอ่านตำราอยู่ไม่เห็นหรือ”จ้าวซีหนานตัวน้อยดุเด็กชายอีกสองคน“ได้ ข้าก็จะดูยาสมุนไพร อย่ามาชวนข้าไปเล่นละกัน”จ้าวโหย่วเต๋อขยับริมฝีปากที่มีลักยิ้มตอบ“พวกเจ้าสองคนช่างน่ารำคาญ ข้าไปซ้อมวรยุทธดีกว่า ไม่สนใจพวกเจ้าแล้ว”จ้าวสืออิ้งสะบัดหน้าใส่เด็กชายทั้งสองที่พูดก่อนหน้า เขาถือกระบี่เล่มเล็กแล้วหันหลังเดินไปยังลานกว้างเพื่อฝึกเพลงยุทธที่ตนชื่นชอบ“เหอะ พวกเจ้าต่างก็มีบุตรชายเป็นของตนเองแล้ว ไหนล่ะบุตรของข้า”จ้าวหลินอ้ายนั่งเก้าอี้โยกมองดูเด็กน้อยทั้งสามพลางหลุบตามองสามีทุกคน“ฝ่าบาทรู้ได้อย่างไรว่าเป็นบุตรของพวกกระหม่อม”โม่เถี่ยอมยิ้มปั้นหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เพียะมือเรียวตีแขนผู้พูดทันใด“ยังมีหน้ามาพูดอีก ดูหน้าตาพวกเขาแต่ละคนสิ นิสัยก็ด้วย ถอดแบบพวกเจ้ามาไม่มีผิดเพี้ยน”เฉินซีหมิงกลั้นขำแล้วเอ่ยขึ้น&

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   คืนเข้าหอ

    “ข้าจะแต่งตั้งพวกเจ้าสามคนเป็นสนมก่อน แล้วค่อยแต่งตั้งฮองเฮาทีหลัง อ่อ ไม่ต้องคิดแย่งตำแหน่งกัน ข้าแต่งตั้งตามลำดับก่อนหลัง ราชครูเฉินรอขึ้นเป็นฮองเฮา ส่วนพวกเจ้าอีกสองคนก็เป็นหวงกุ้ยเฟย”จ้าวหลินอ้ายพูดกับบุรุษทั้งสามของตนในคืนก่อนแต่งงานบุรุษทั้งสามคนพยักหน้าและตอบตกลงอย่างง่ายดาย พวกเขาไม่คิดต้องการตำแหน่งเพื่อสร้างอำนาจในวังหลัง แค่ปฏิบัติหน้าที่ของตนก็เหนื่อยมากพอแล้วและตอนนี้เมื่อต้องเป็นสวามีขององค์จักรพรรดินี พวกเขาจึงมีหน้าที่เพิ่ม คือรีบทำให้พระจักรพรรดินีทรงพระครรภ์ให้เร็วที่สุดสามคนร่วมมือกัน ราชวงศ์ย่อมต้องมีสมาชิกเพิ่มขึ้นแน่นอน ........วันพิธีอภิเษกสมรสงานอภิเษกสมรสของจักรพรรดินีที่รับสนมชายเข้าวังพร้อมกันสามคน และองค์หญิงสามกับรองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรนั้นยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์ของแคว้น ราษฎรต่างพากันมาร่วมเฉลิมฉลองตามท้องถนน มีการโปรยดอกไม้บนถนนแทบทุกสายนอกจากผู้คนจะพูดถึงความยิ่งใหญ่ของง

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   สามีนอกสมรส

    จ้าวหลินอ้ายสมองขาวโพลน ส่วนล่างเสียวและคับแน่นมาก นางไม่เคยถูกอุ้มตัวลอยแล้วกระแทกใส่มาก่อน เมื่อเจอท่านี้กับกระบองใหญ่ยักษ์ทำให้สติเตลิด ร้องครางด้วยความเสียวจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างถ้าบอกว่าเฉินซีหมิงนุ่มนวลอ่อนโยน ส่วนหลี่เสินดุดันแล้ว โม่เถี่ยต้องกล่าวได้ว่าดุยิ่งกว่ามากสะโพกของนางถูกจับกระแทกเข้าออก หน้าอกสองเต้ากระเพื่อมขึ้นลงแรงๆ จนยอดถันแข็งชูชัน แม่โม่เถี่ยไม่ได้เล้าโลมแต่ก็ทำให้ทั้งร่างรู้สึกเสียวซ่านแน่นจุกไปในเวลาเดียวกันปัก ปัก ปัก ปักเสียงเนื้อกระทบกันดังไปถึงเรืออีกลำ ทำให้เรืออีกลำไม่ยอมน้อยหน้า ส่งเสียงดังแข่งในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อจ้าวหลินอ้ายร้องเสียงดังเพราะถึงฝั่งฝัน โม่เถี่ยก็อุ้มนางเช่นเดิม แต่จับนางหันหน้าออก ให้แผ่นหลังของนางชนกับหน้าอกของเขาแทนเขาเดินไปจับนางตอกกระแทกไปจนถึงหน้ากระจกสำริดบานใหญ่ ให้เขาและหญิงสาวเห็นภาพเสียวนี้ไปพร้อมกันจ้าวหลินอ้ายมองเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง เต้านมใหญ่สองลูกเด้งขึ้นลงตามแรง ด้านล่างเห็นกระบองของบุรุษมุดเข้าออกร่องรักตนเป็นจังหวะถี่ๆ ทำให้หญิงสาวหายใจไม่ทั่วท้อง โพรงหวา

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   แม่ทัพเสนอตัว

    วังหลวงจ้าวหลินอ้ายออกว่าราชการที่ท้องพระโรงอีกครั้งหลังจากไปแปรพระราชฐานอยู่หลายวัน“ฝ่าบาท แม่ทัพโม่เถี่ยรบชนะแคว้นเย่ทำให้เราได้รับชัยกลับมาพะย่ะค่ะ”เสนาบดีหลัวทูลบอกนาง“ดีมาก ยอดเยี่ยม”สตรีกล่าว นางมองดูแม่ทัพหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ประเมินด้วยสายตาคร่าวๆ แม่ทัพโม่ผู้นี้สูงกว่าเฉินซีหมิงประมาณสองคืบ แต่ความล่ำกลับมากกว่าเป็นสามเท่า‘หุ่นแม่ทัพต้องใหญ่อย่างนี้สินะ’นางคิดในใจก่อนพูดออกมา“ท่านแม่ทัพโม่นำชัยมาสู่แคว้น ท่านต้องการสิ่งใดเป็นรางวัลสามารถบอกกับข้าได้โดยไม่จำเป็นต้องลังเลใจ”โม่เถี่ยเงยหน้ามองจักรพรรดินีผู้เลอโฉมแล้วปรายสายตามองเฉินซีหมิงก่อนยกมือทั้งสองขึ้นมาประสานกัน“กระหม่อมได้ยินมาว่าฝ่าบาทรับราชครูเฉินกับท่านหมอ หลี่เป็นนายสนมในวัง กระหม่อมอยากขอเป็นสนมของพระองค์อีกคนพะย่ะค่ะ”จ้าวหลินอ้ายได้ยินก็นิ่งเงียบไปชั่วครู่‘นี่ข้างามขนาดนี้เลยหรือเนี่ย ชาติก่อนก็หน้าตาแบบนี้แต่โสด ชาตินี้กลับมีแต่คนยินยอมมาเป็นสามี’

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   ติดใจ

    หลิวกวนแช่มังกรยักษ์ของตนให้โพรงรักของจ้าวม่านอวิ๋นตอดรัดอยู่สักพัก เมื่อแรงตอดเบาลงเขาก็เริ่มขยับเอวเข้าออกให้มังกรตัวใหญ่ครูดกับผนังนุ่มไปมา“อ้า”เขาร้องครางอย่างลืมตัว ความรู้สึกดีแบบนี้เขาก็เพิ่งเคยลองครั้งแรกมิน่าที่เหล่าบุรุษหลงใหลสตรีก็เพราะรู้สึกเช่นนี้เองเขาจับขาขาวของจ้าวม่านอวิ๋นให้แยกออกจากกันมากขึ้น ส่วนตัวเขาคุกเข่าแทงมังกรให้ผลุบเข้าออกตามจังหวะที่ตนพอใจดวงตาคมมองก้อนเนื้อสองก้อนที่กระเด้งยั่วยวนแล้วจึงมองมังกรของตัวเองเคลื่อนเข้าออกโพรงหวาน ในใจเต็มไปด้วยความฮึกเหิมเมื่อได้ยินเสียงครางและเห็นใบหน้าเหยเกของจ้าวม่านอวิ๋น เขาก็ยิ่งเพิ่มแรงกระแทกเพื่อให้นางเสียวมากขึ้นและร้องดังขึ้นยิ่งนางเสียวและเสร็จมากครั้งเท่าไหร่เขาก็รู้สึกดีมากเท่านั้นเวลาผ่านไปหลายชั่วยาม บุรุษสตรียังคงกระแทกท่อนล่างใส่กันไม่มีท่าทีว่าจะหยุดพัก“ถึงพร้อมกันนะ”หลิวกวนพูดข้างหูของจ้าวม่านอวิ๋น หญิงสาวพยักหน้าดวงตาเคลิบเคลิ้มบุรุษขยับเอวสอบตอกมังกรของตนเข้าโพรงนุ่มอีกครั้ง เสียงร้องสุขส

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   ข้าไม่ได้ไร้น้ำยา

    “ที่นี่ก็สวยดีอยู่หรอก แต่ว่าทำไมเสด็จพี่ต้องให้ข้ามาพักที่นี่ตั้งหนึ่งเดือนด้วยล่ะ”จ้าวม่านอวิ๋นบ่นกับนางกำนัลของตัวเอง“มีแต่ภูเขา ต้นไม้ ดอกไม้ น้ำตก ข้าเห็นทุกวันย่อมเบื่อเป็นธรรมดา”“หม่อมฉันได้ยินมาว่าภูเขาด้านบนมีถ้ำด้วยนะเพคะ”นางกำนัลรีบพูดสิ่งที่ตนเองรู้มา“ถ้ำหรือ” จ้าวม่านอวิ๋นทวนคำ “ถ้ำธรรมดาหรือไม่”“เห็นว่าภายในมีสิ่งก่อสร้างด้วยเพคะ น่าจะฮ่องเต้องค์ก่อนๆ สร้างไว้”“งั้นหรือ เช่นนั้นข้าก็ควรไปดูสินะ”สตรีลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ แล้วเรียกนางกำนัลให้ตามไปด้วยไม่กี่คน........ถ้ำชิงฮู่ถ้ำขนาดใหญ่ที่บริเวณปากถ้ำเหมือนกับถ้ำตามธรรมชาติโดยทั่วไป แต่เมื่อเดินเข้าไปตามเส้นทางเดินประมาณครึ่งชั่วยามก็จะเจอตำหนักภายในนั้น บริเวณโดยรอบตำหนักปูด้วยหินอ่อนอย่างดี มีสระน้ำขนาดเล็กอยู่ด้านข้างจ้าวม่านอวิ๋นมาถึงปากถ้ำ เมื่อสอบถามทหารที่เฝ้าด้านหน้าจึงเดินเข้าไปภายในถ้ำเพียงสองคนกับนางกำนัลที่สนิท ส่วนคนอื่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status