Share

บทที่ 22 เช็ดน้ำลาย

last update Last Updated: 2025-06-14 07:01:38

“ข้าไม่เป็นไร มันหายแล้ว แต่มันไม่เหมือนเดิมแล้ว อย่างไรก็ยังต้องเป็นเช่นนี้เวลาอากาศหนาวมากๆ” เขาหลบตามองต่ำอธิบาย

“เช่นนั้นเพราะหนาวหรือถึงได้เจ็บ” นางถาม ลู่มู่เฉินพยักหน้า

หลี่เฟิ่งเซียนทำหน้าดุก่อนจะวิ่งไปที่เตียงดึงผ้าห่มมาห่อตัวเขาไว้

“แล้วเจ้าหนีมานอนที่พื้นเพื่ออันใดกัน ต่อไปห้ามทำเช่นนี้อีก หากข้าเมาก็ต้องเรียกข้าให้เอาผ้าห่มให้เจ้า เข้าใจหรือไม่” นางดุ

ลู่มู่เฉินพยักหน้ารับอีกครั้ง แต่ไม่กล้ามองนาง ไม่กล้าบอกนางว่ามือข้างนี้จะไม่หาย มันยังคงต้องเจ็บเช่นนี้ไปตลอดชีวิต แม้จะตัดทิ้งความรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่มีอยู่จริงก็ยังเกิดขึ้น เวลานี้ก็ยังรู้สึกเจ็บมาก แต่อย่างไรก็ต้องทนต่อไป เขาไม่ต้องการให้นางไม่สบายใจ

แต่ห่มผ้าให้เขาแล้วนางก็ไม่ยอมไปไหน ยังคงนั่งมองเขา ทั้งยังกระเถิบมาใกล้ขึ้นจ้องมองเขาไม่วางตา ลู่มู่เฉินได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าเอ่ยคำพูด แต่แล้วนางก็ยกมือขึ้นมาเช็ดบางอย่างที่ข้างแก้ม

“เจ้านอนน้ำลายไหลเปื้อนแก้มด้วย”

“!!..” เขาตกใจรีบก้มหน้าไม่ยอมให้นางเช็ดคราบน้ำลาย

“ชิ ทำเป็นเล่นตัว อย่างไรเจ้าก็แต่งกับข้าแล้ว เป็นหรือตายก็ต้องเป็นคนของข้า” หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกอารมณ์เสีย 

เมื่อคืนก็ไม่ยอมเข้าหอ ยามนี้ยังจะมาทำเป็นไม่ยินยอมให้นางถูกตัว นางจึงใช้สองมือจับแก้มของเขาบังคับให้เขาหันมา ก่อนจะเชยคางเขาและใช้แขนเสื้อเช็ดคราบน้ำลายที่แก้ม เช็ดเสร็จนางก็ลุกขึ้นหนีไปเลย ไม่สนใจเขาอีก 

ปล่อยให้ลู่มู่เฉินหัวใจใกล้จะหยุดเต้นตรงนั้นอย่างทำสิ่งใดไม่ได้ มีสตรีใดกันจะหาญกล้าเพียงนี้ นี่นางไม่รู้สึกตัวเลยหรือว่าเรื่องเช่นนี้ไม่สมควรเช็ดให้กัน นางควรจะรังเกียจไม่ใช่ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่ก็เพราะนางเป็นเช่นนี้ เขาจึงไม่รู้เลยว่าจะทำเช่นไร ได้แต่ปล่อยหัวใจอยู่ในมือของนาง ปล่อยให้นางบีบเล่น

หลี่เฟิ่งเซียนโมโหออกไปเรียกยู่ยี่ให้เตรียมน้ำให้นางล้างหน้าล้างปาก ยังคงโมโหจนเลยเวลาอาหารเช้า 

‘ข้าหลี่เฟิ่งเซียน คุณหนูใหญ่ของจวนแม่ทัพหลี่ ไล่ตามเกี้ยวชายรูปงามมาทั้งชีวิต ยามนี้ได้แต่งกับชายอัปลักษณ์คนหนึ่งยังต้องไล่ตามเกี้ยวเขาอีกหรือ สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมกับข้าเสียจริง’ นางนั่งอยู่นอกระเบียงไม้ แอบต่อว่าสวรรค์ในใจ สีหน้าบ่งบอกว่า อย่ามายุ่งกับข้า

“เจ้าเอาเข้าไปให้นางสิ ข้ากลัว” หยวนหยวนพูดกับลู่มู่เฉิน

“ข้าก็กลัว” เขาตอบเรียบๆ

“เจ้าเป็นสามีของนางแล้ว ถึงกลัวก็ยังต้องเอาไปให้” หยวนหยวนโมโห 

เมื่อคืนลู่มู่เฉินคนโง่จะต้องทำให้คุณหนูใหญ่ไม่พึงใจแน่ๆ นางถึงได้หน้างอมากเพียงนี้ หยวนหยวนนึกแล้วก็ให้สงสารหลี่เฟิ่งเซียน เป็นถึงคุณหนูคนเดียวตระกูลหลี่ แต่กลับได้แต่กับคนที่ทั้งโง่ทั้งอัปลักษณ์ เรื่องในห้องหอก็คงไม่เคยกับหญิงใดทั้งไม่มีผู้สอน ลู่มู่เฉินถึงได้ทำให้คุณหนูใหญ่อารมณ์เสียเช่นนี้ เฮ้อ สงสัยนางคงต้องแอบช่วยพวกเขาเสียหน่อย

ลู่มู่เฉินจำต้องยกโจ๊กอุ่นๆไปให้หลี่เฟิ่งเซียน เขาเดินไปใกล้ นางรู้ว่าเป็นเขาก็หลบหน้าหันไปทางอื่น

“กินอาหารเสียหน่อย อีกครู่พวกเราต้องเข้าไปคารวะท่านแม่ทัพอยู่ หากเขาเห็นเจ้ายังไม่ได้กินอะไร เขาจะเป็นห่วงได้” ลู่มู่เฉินพูด

“ฮึ่ม..เจ้าเป็นห่วงว่าท่านพ่อจะเป็นห่วงข้า หรือเป็นห่วงว่าเขาจะถลกหนังหัวของเจ้าเพราะทำให้ข้าอารมณ์ไม่ดี” นางถามโกรธๆ

“ข้าเป็นห่วงว่าเจ้าจะหิว” เขาตอบเบามาก แต่นางยังได้ยิน หัวใจของนางค่อยๆอุ่นขึ้น แม้ความโกรธจะมลายไปแล้ว แต่นางยังไว้ท่า

“ข้าอยากกินซาลาเปาไส้หมู” นางพูดเอาแต่ใจ

“ข้ายกโจ๊กมาแล้ว เช้าๆทานของอุ่นๆจะดีต่อท้องของเจ้ามากกว่า” เขาไม่ได้ตามใจนาง แต่หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกว่าเขาช่างเอาอกเอาใจนาง เป็นห่วงนางยิ่งนัก นางจึงทำเป็นย่นจมูกและรับถ้วยโจ๊กมาตักเข้าปาก

“ค่อยๆ มันร้อน” เขาเตือนเบาๆอยู่ข้างๆ

หยวนหยวนมองทั้งคู่ด้วยความสงสาร อีกคนก็โง่เขลาปรนนิบัติภรรยาไม่เป็น อีกคนก็หลงผู้ชายจนไม่รู้จักรักศักดิ์ศรีของตัวเอง

หลังจากที่พวกเขาไปพบท่านแม่ทัพเพื่อคารวะพ่อแม่ แม่ทัพหลี่กลับออกคำสั่งให้พวกเขาเก็บข้าวของกลับเมืองหลวงทันที พร้อมกับมอบหนังสือขอบคุณท่านหมอหลวงอิ่นที่ช่วยรักษาลูกเขยให้เขา ความในใจที่ลู่มู่เฉินต้องการจะพูดกับแม่ทัพก็ถูกตัดบท ไม่มีกระทั่งเวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ของคู่บ่าวสาว 

หลังจากนั้นอีกไม่ถึงครึ่งวันทุกอย่างก็พร้อมสำหรับเดินทางไกล ราวกับทุกอย่างถูกเตรียมการไว้แล้ว รอเพียงทั้งคู่แต่งงานกราบไหว้ฟ้าดิน ครั้งนี้แม่ทัพหลี่ไม่ปล่อยให้หลี่เฟิ่งเซียนเดินทางลำพัง เขาเตรียมมือดีของเขาทั้งหมดห้านายคอยคุ้มกัน มีจ้าวเหลียงเป็นผู้นำ มีรถม้าอีกสามคันขนสัมภาระ และอีกหนึ่งคันสำหรับคู่รัก

ลู่มู่เฉินยืนมองรถม้าด้วยความรู้สึกหนักหน่วง ตกลงแล้วหลี่เฟิ่งเซียนไปทำความผิดอันใดมา เหตุใดท่านแม่ทัพจึงลงโทษนางหนักเช่นนี้ สตรีนางหนึ่งได้แต่งกับชายอัปลักษณ์เช่นเขา ป่านนี้นางคงรู้สึกคล้ายท้องฟ้าใกล้ถล่มใส่นาง 

เมื่อเช้าที่นางอารมณ์ไม่ดีใช่เพราะโกรธเคืองเขาที่ไม่ยอมปฏิเสธงานแต่งหรือไม่ มิน่านางถึงได้ดื่มสุรามากมายก่อนเข้าหอ นางคงแบกความไม่สบายใจเอาไว้เต็มอก 

ลู่มู่เฉินหันไปมองหลี่เฟิ่งเซียนที่กำลังทะเลาะกับหยวนหยวน เขารู้สึกหนักใจ หากนางยังโกรธเคืองเขาเช่นนี้ เขาควรถามเรื่องสาเหตุของการแต่งงานหรือไม่ ดูท่าแล้วแม่ทัพหลี่คงไม่คิดจะให้คำตอบเขา 

‘เอาไว้ค่อยหลอกถามจากนางแล้วกัน ถึงเวลานั้น เมื่อไปถึงเมืองหลวงฉางอัน ข้าค่อยหาทางให้นางมอบใบหย่า’ ลู่มู่เฉินคิด

ทั้งหมดขึ้นรถม้ากลับเมืองหลวง ลู่มู่เฉิน หลี่เฟิ่งเซียนและหยวนหยวนนั่งในรถม้าด้วยกัน หยวนหยวนเอาแต่บ่นคุณหนูใหญ่ที่บังคับให้นางเดินทางมาด้วย เดิมนางคิดว่าหากคุณหนูใหญ่กลับเมืองหลวงแล้ว ในที่สุดนางก็ไม่ต้องทรมานกับความเอาแต่ใจของหลี่เฟิ่งเซียน 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 55 เข้าหอครั้งละสามสี่คน

    “ข้าเป็นผู้ชายเหตุใดจะมองไม่ออกว่าเขาหวั่นไหวกับท่านแทบแย่ แต่พยายามเก็บอาการ ข้าไม่รู้ว่าท่านกับเขาผิดใจอันใดกัน แต่ลองพูดคุยกับเขาตรงๆ เขาย่อมต้องเข้าใจท่านอยู่แล้ว” จ้าวเหลียงให้คำแนะนำหลี่เฟิ่งเซียนหัวใจระส่ำไม่เป็นจังหวะ นางทำเรื่องเลวร้ายไปมากมายเช่นนั้น ยังจะมีเรื่องเข้าใจผิดอันใดอีก แต่หากเป็นดั่งที่จ้าวเหลียงพูดจริง นางควรทำเช่นไรดี อยากลองพูดคุยจริงจังกับเขาสักครั้ง แต่ก็กลัวว่าหากเขาตอบว่าชื่นชอบหญิงในชุดขาวผู้นั้น นางควรทำอย่างไร แต่หากเขาชอบนางอย่างที่จ้าวเหลียงพูดจริงๆ และนางปล่อยไปเช่นนี้ ดีแล้วแน่หรือ“ข้าต้องไปก่อนนะ” พูดแล้วหลี่เฟิ่งเซียนก็เดินออกจากห้องพักของจ้าวเหลียงทันที อยากรีบไปหาสามีของตัวเองเพื่อพูดคุยให้รู้เรื่องนางไปรอเขาที่หน้าประตูจวน เพียงไม่นานก็เห็นรถม้ากำลังใกล้เข้ามา นางรอจนกระทั่งรถม้าจอด เขาเปิดประตูออกมา นางคล้ายว่าไม่ได้เห็นเขามาหลายวันมาก คิดถึงเขาจนอยากวิ่งเข้าไปกอด แต่นางไม่กล้าหลี่เฟิ่งเซียนพบว่าเขากำลังมองมาที่นางเช่นกัน คล้ายว่าเขาจะขมวดคิ้วและทำหน้าโกรธ จู่ๆ นางก็กลัวที่จะเข้าไปหาเขา จึงเลือกที่จะหนีออกมาอย่างรวดเร็วลู่มู่เฉินรู้สึกเจ็

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 54 เมา

    หลี่เฟิ่งเซียนเดินออกไปจากห้องนานแล้ว แต่เขายังคงนั่งมองมือซ้ายของเขา เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่วันนั้นตัดสินใจหักมือข้างนั้น คิดอีกที หากเขาไม่ทำเช่นนั้นคงไม่สามารถรอดมามีความสุขเช่นนี้ได้ แต่ความสุขเช่นนี้ดีแน่แล้วหรือ เขาคิดกลับไปกลับมาอยู่เช่นนั้นทั้งคืน บ่าวชายที่มาช่วยเขาเช็ดตัว เขาก็จำหน้าไม่ได้หลังจากเรื่องวันนั้น หลี่เฟิ่งเซียนก็หลบหน้าเขา แต่มีหยวนหยวนส่งน้ำแกงปลาและน้ำแกงไก่มาให้เขาทุกเช้า เขาเองแม้จะเริ่มคิดถึงนางมากแต่ไม่กล้าไปหานางที่ห้อง เพราะความอับอายที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องถูกจู่โจมอย่างสิ้นท่า ไร้การต่อต้านแม้นางจะพูดว่านางเป็นคนผิด แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ หากวันนั้นเขาไม่ยินยอมจริงๆ นางตัวเล็กเพียงนั้นจะถึงขั้นขืนใจเขาได้หรือ เขาประเมินความต้องการของเขาผิดไป ไม่นึกว่าจะต้องการนางมากถึงขั้นขาดสติ ปล่อยให้เรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้นต่อมาลู่มู่เฉินยังได้ยินพ่อบ้านพูดว่านายหญิงผู้เฒ่าร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะจู่ๆ หลี่เฟิ่งเซียนก็กลับไปเที่ยวหอเข่อซินอีกแล้ว ท่านพ่อบ้านขอให้เขาช่วยพูดกับคุณหนูใหญ่ว่าไม่ควรไปเที่ยวสถานที่เช่นนั้นอีกเพราะนางแต่งงานแล้วแต่เมื่อเขาเดินไปถึงหน้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 53 ตื่นตะลึง (NC)

    หลี่เฟิ่งเซียนหันไปมองแท่งหยกที่นางกำไม่มิดนั้น กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ตัดสินใจยกก้นขึ้นและจับท่อนหยกร้อนของเขาถูไปมา ยามนี้ผลท้อของนางเต็มไปด้วยน้ำแห่งความสุขแล้ว‘เพียงลูบคลำเจ้านี่ ข้าก็สามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้แล้วหรือ’ นางสงสัย จำได้อาหงบอกว่าเช่นนี้นางจะเจ็บน้อยลงลู่มู่เฉินรู้ทันทีว่านางคิดจะทำอะไร ถึงเขาจะอยากให้นางทำ และต้องการมากเพียงใด แต่มโนสำนึกของเขาและความตั้งใจของเขายังคงทำให้เขามีแรงจะดึงสติกลับมาได้“อย่า อย่าทำเช่นนี้” เขาขอร้องอย่างร้อนรน“เจ้าไม่อยากเสียใจภายหลังหรอกนะ เชื่อข้าเถิด เฟิ่งเอ๋อร์” เขาอ้อนวอนนาง แต่หลี่เฟิ่งเซียนใช้มือข้างหนึ่งยันเขาไว้ บังคับไม่ให้เขาลุกขึ้นหนีไปไหน มืออีกข้างของนางก็จับแท่งหยกร้อนนั่นถูไปมาที่ร่องกลีบดอกไม้ของนาง ก่อนที่นางจะออกแรงดันตัวเองลงไป หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกได้ถึงความดุดันของท่อนหยางร้อนลวกของเขาที่กำลังดุนดันเข้าไปในร่องกลีบดอกท้อ“พอแล้ว ขอร้อง อย่าทำเช่นนี้ อย่า” เสียงต่ำแหบพร่าของเขาขอร้องให้นางหยุด ในขณะที่อีกใจหนึ่งของเขากำลังรอให้นางดันตัวลงมากอดรัดเอ็นอุ่นนั้นไว้ เพียงแค่นางถูไถโลมเล้าเคล้าคลึงไปมา ความนุ่มลื่

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 52 ข้าจะเบามือ (NC)

    เขาพลิกตัวอยากจะกระโดดหนีลงไปด้านล่าง แต่เพียงแค่เขาเอียงตัวนางก็ใช้เท้าเล็กๆของนางเหยียบลงมาที่ไหล่ของเขา ดันให้เขาพลิกตัวประชันหน้ากับนางตรงๆ เขาอยากมีแรงมากกว่านี้เพื่อดันเท้านั้นให้หลุด น่าเสียดายที่วันนี้เขาอ่อนแอมากกว่าทุกที เขายังได้รับบาดเจ็บจากการทดลองยาอยู่ และภาพภรรยาตัวเปลือยเปล่า งดงามจนเขาตกตะลึง ลืมว่าต้องหนีสองมือถูกมัดไว้พ่ายหลัง ยิ่งดันให้ช่วงสะโพกแอ่นขึ้น ท่อนหยกร้อนของเขาชูชันแสดงตัวอย่างกับต้องการบอกให้นางรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร มันชูชันสูงใหญ่ดั่งเสาค้ำสวรรค์ก็ไม่ปาน หลี่เฟิ่งเซียนตาโต จ้องมองหัวใจสั่นไหว ลู่มู่เฉินงอขาและพยายามหนีบเจ้านั่นเอาไว้ แต่ยามนี้มันขยายใหญ่จนปิดไม่มิด ภาพที่นางอ้าขาเหยียบไหล่เขาเอาไว้ แม้งดงามจนเขาถอนสายตาไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในฐานะบุรุษผู้หนึ่ง อย่างไรเขาก็ไม่อาจรับตัวเองได้ เขาอ้าปากเพื่อหายใจ หลับตาแน่นเพื่อลดทอนความอับอายในใจหลี่เฟิ่งเซียนมองดูเจ้าสิ่งนั้นแล้วตกใจไม่น้อย ในใจนางนึกถึงตอนเขาป่วยและนางเช็ดตัวให้เขา มันยังเล็กมากเท่านิ้วเท้าหัวแม่โป้ง แต่ยามนี้มันชูชันจนแทบจะใหญ่เท่าข้อมือของนาง! หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มหายใจไม

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 51 จู่โจมร้อยแผน (NC)

    แต่ครั้งเข้าไปในห้องของตัวเองและเห็นพวกรูปต่างๆ ที่อาหงวาดขึ้นเพื่อการเรียนรู้เหล่านั้น ในใจนางเกิดความรู้สึกหึงหวงอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมเข้าหอกับนาง เพราะหญิงแพศยานั่น!!...พวกเขาไปถึงไหนกันแล้ว!! มิน่าเขาถึงได้เชี่ยวชาญมาก เพียงจูบก็ทำให้นางสามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้ เขาอาจจะเคยทำกับผู้อื่นมาก่อน เขาถึงทำเช่นนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญ นางยอมไม่ได้ นางต้องรีบรวบหัวรวบหางเขา!! ทนรอให้เขายินยอมด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว!!หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปถึงหน้าห้องของเขา เห็นว่าด้านในยังมีแสงไฟอยู่ นางผลักประตูเข้าไปไม่บอกกล่าวไม่เคาะประตู“เจ้า เจ้าเข้ามาได้อย่างไร” ลู่มู่เฉินเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขากำลังใส่เสื้อผ้า นางก็ผลีผลามเข้ามา เขาตกใจ รีบร้อนใส่เสื้อให้เรียบร้อย แต่เชือกผูกเอวอยู่บนโต๊ะ เขายืนอยู่ใกล้เตียงนอน จึงทำได้เพียงใช้มือจับสาบเสื้อคลุมตัวยาวเอาไว้หลี่เฟิ่งเซียนเห็นว่าเขายังแต่งตัวไม่เรียบร้อย แผนในใจของนางผุดขึ้นมาเป็นร้อยแผน คำพูดของอาหงดังก้องอยู่ในหู‘หากเจ้าทำให้เขาภูมิใจมากพอ เขาจะเอ็นดูเจ้ามากขึ้น’นางหันไปปิดประตูลงกลอน ยังเดินไปปิดหน้าต่างที่เขาแง้มเอาไว้รับลมด้วย“เจ้า เจ้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 50 ภรรยาผู้อื่นยืนอยู่ตรงนี้

    เรื่องราวในคืนนั้น ความหอมหวานที่เขากอดกกนาง รสจูบ ความนุ่มนิ่มนุ่มนวล ทุกอย่างทำให้เขาไม่กล้าเดินไปที่เตียงนั่น แม้บนเตียงนั้นจะเปลี่ยนผ้าปูผ้าห่มใหม่ทั้งหมดแล้วก็ตาม เขายังคงรู้สึกว่ากลิ่นหอมหวานจากตัวนางยังคงติดอยู่ที่จมูก'ตัวเจ้าหอมมาก' คำพูดของหลี่เฟิ่งเซียนลอยมา นางเคยพูดชมเขาเช่นนั้นหลายครั้งแล้ว เขาไม่แน่ใจว่านางได้กลิ่นอันใดทั้งที่บนตัวเขามีแต่กลิ่นยา เขาเองก็อยากจะบอกกับนางว่า 'ตัวเจ้าหอมน่ากินมาก' เพราะบนตัวของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้ผสมกลิ่นบางอย่างคล้ายหนิวหน่าย[1] ต้มผสมน้ำผึ้ง เป็นอาหารของชาวอิ่นตู้ที่เขาเคยได้ลิ้มลองเมื่อครั้งยังท่องเที่ยวไปทั่ว มันอร่อยและหอมติดจมูก ดังนั้นเมื่อเขาได้กลิ่นนี้จากตัวนาง เขาจึงรู้สึกน้ำลายสอ อยากจะกลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่า เสียดายก็แต่เขาพูดออกไปเช่นนั้นไม่ได้ ในที่สุดลู่มู่เฉินก็ดึงผ้าห่มจากเตียงและลงไปนอนบนพื้นแทน เขาไม่รังเกียจที่จะนอนบนพื้นเพราะเขาเคยนอนในที่ที่ลำบากมากกว่านี้ พื้นแข็งๆที่ทำจากไม้ขัดมันอย่างดี ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของเขาลู่มู่เฉินนอนหลับด้วยความยากเย็นเพราะมัวแต่คิดถึงนาง ในขณะที่หลี่เฟิ่งเซียนแทบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status